lay off的八卦，Yahoo名人娛樂都在討論

บางบทเรียนสั้นๆ จากชีวิตสี่สิบปี
---
1. ถ้าพยายาม เราอาจเป็นอะไรได้หลายๆ อย่าง แต่เราไม่ต้องเป็นทุกอย่างก็ได้ เป็นในสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข
2. ทำสิ่งที่มีความสุขให้สุดฝีมือ จะมีคนได้รับความสุขจากสิ่งที่เราทำ สิ่งนั้นอาจเป็นอาหารอร่อย ดนตรีเพราะๆ รูปถ่ายสวยๆ หรือการงานทุกชนิด
3. ความรักในการงานเกิดจากความทุ่มเทใส่ใจลงไปในนั้น หากไม่ทุ่มเทก็ยากที่จะรักงานนั้น...
Continue ReadingSome short lessons from forty years of life.
---
1. If you try, we can be many things, but we don't have to be everything. Be what we do and be happy.
2. Make the best of the best. Someone will be happy by what we do. It may be delicious food, beautiful music, beautiful photos or all kinds of work.
3. Love in work is caused by devotion. If it is not dedicated, it's hard to love that job.
4. Some people love the job, so they are dedicated. Some people are dedicated, so they love anything. But the complete cycle must have these two things.
5. If you don't like anything, don't waste your time complaining. Fix it to be what you like. If you can't solve it, run away. Take time to spend
6. Separate what is worth wasting time. When separated and put your hands on the lost.
Haha. Don't go into the battleground of emotions. Someone gives a sword. Just smile and don't accept that sword.
8. Delicious food. Good for tongue. Food is not good for our heart. We don't eat every meal. The taste of life is a delicious meal. The reward. Bad meal is training.
9. Separate sincere people with unsincere people to prevent their disappointments.
10. sweet words are often not true, but I taste it because I want it to be true as they say.

...

Haha. Look at the mirror often, not for grooming. Remove marks, but to see your own marks clearly and don't look at yourself. That's just imagination.
Haha. Don't be so smart that you are not happy.
13. meatballs that you like. You should eat one when you are hungry. And if you want to keep it at the end, you can keep it all. If you won't have a favorite.
Haha. Don't be too big about everything. The best diet is to eat some snacks. Training yourself. The important thing is the day that I give up for yourself.
15. If doing something has a hundred points to reach eighty, you should be happy. Then the strength to do something else or be happy with not doing anything.
16. factories that don't have a flower garden. It's dry.
17. Coffee and Cookies. Turn your office into a more pleasant room.
18. Soft chairs. Lay back to read books. It's an investment that doesn't regret money.
19. as well with a good bed. It's expensive but I use it for another twenty years. I have power to sleep
20. Sleep when it's time to sleep in order to be alive.

...

21. Traveling should read the story of that place, history, faith, lifestyle will wake up the remains and brick into wisdom.
22. Take a long time with what you like or care about. It will give us some value. People too.
23. Many times. Good wisdom is caused by little ones, not the one who wrap himself with knowledge in the book and the face.
Haha. Don't be quick to believe those who read it, but haven't passed the experience.
Lol allow yourself to be lazy some days
26. Explore yourself. If you suffer, one day, it means that you want to start beyond the ability.
27. We don't want everything to be happy. We want happiness to be happy and happiness happens when there is only something.
28. Practice to accept things that are not like every day. This is the way of peace in the heart.
Haha. Whatever is old, I have changed. If you don't have anything. I have a lot of things
30. of the show is too much. It will become trash.

...

31. There should be items to use, not for show. You should be a life that you have used, not to
32. Intelligence is useful when making others better or happier lives.
33. Intelligence that brings suffering is one kind of stupidity.
34. Reduce criticism, make change.
35. Collaborate with people who think differently can often create new things.
Haha. We may be wrong -- always keep this in my heart.
37. in the sun. Apply sunglasses and sunglasses.
38. socks that you should leave.
39. Buy good shoes because it will make you look better.
40. Good stuff is not at the price, but it's up to the choice.

...

41. When parents are old, you can give up to them. Even if they understand that the world is flat, they can give up if they make
Haha. Smile. Our smile is the happiness of those who love me. They want to see me happy.
Haha. Don't be too much. Life will have less.
44. Read a good book for at least a month.
Haha. Laughing with friends once a month. More than that's better.
46. Take yourself out of a safe space to grow and back to hug for a break.
Haha. Run and go out to the sun. Don't live like the world is the air conditioning room.
Haha. Smile for myself and the barber. When I cut off.
Haha. Yes, I smile for my own heart in everything.
Haha. Tell yourself that I am not a god. I can be wrong. I can be stupid. Others can forgive yourself. Always forgive others. No one wants to be stupid. Want to be bad. Love and forgiveness is necessary forTranslated

เราจะผ่านเรื่องร้ายๆ ไปด้วยกัน ...

ปี 2563 กำลังจะผ่านไป โดยส่วนตัวผมมองว่าปีนี้เป็น “ปีแห่งความสูญหาย” เพราะกิจกรรมต่างๆ ในชีวิต รวมถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่คิดไว้ ตั้งใจจะทำ แทบไม่ได้ทำเลย เนื่องจากสภาพการณ์ไม่เอื้ออำนวย

ตอนต้นปีผมวางแผนจะทำโครงการอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลให้กับองค์กรทั่วประเทศ เพื่อจะได้นำเรื่องการจัดการเงินมาปฐมนิเทศน์ให้กับพนักงานใหม่กัน ตั้งใจทำตลอดทั้งปีควบคู่ไปกับโครงการอภินิหารความรู้การเงิน (ให้คำแนะนำให้การแก้ปัญหาหนี้) ที่ทำติดต่อกันมา 2 ปี วางแผนทุกอย่างไว้เสร็จสรรพ พอจะเริ่มเท่านั้นแหละ ล๊อคดาวน์! ไม่ได้ทำอะไรกันเลย

ตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นมา คำถามการเงินถาโถมเข้ามาทั้งทางแฟนเพจ อีเมล์ และไลน์ ชนิดตอบยังไงก็ไม่ทัน ไม่นับรวมองค์กรต่างๆ ที่เชิญบรรยายในหัวข้อยอดฮิต นั่นคือ “การบริหารจัดการเงินในช่วงโควิด” ที่ผมเองมักจะบอกทุกทีว่า เราต้องจัดการเงินให้ดีตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะช่วงโควิด

เหตุผลที่การลุกลามของโควิด ส่งผลกระทบกับการเงินอย่างหนักหน่วง ก็เพราะพิษภัยต่อสุขภาพ ทำให้เราทำกิจกรรมสำคัญทางเศรษฐกิจกันไม่ได้ พอล๊อคดาวน์ หลายองค์กรก็มีการปลดคน ลดคน ลดค่าแรง ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ รายได้ที่สูญหายไป ไม่ว่าจะเพียงบางส่วน (ลดเงินเดือน) หรือทั้งหมด (Lay off)

ประกอบกับก่อนหน้านี้ ประเทศไทยของเรามีตัวเลข “หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี”​ สูงขึ้นเรื่อยๆ เราก่อหนี้กันหนัก โดยไม่กังวลอะไร แถมหนี้ที่ก่อยังเป็นหนี้บริโภคเสียแยะ วันที่เรายังมีรายได้ การมีภาระหนี้ที่ต้องผ่อนทุกเดือน อาจไม่ได้ทำร้ายเรามากนัก เพราะต่อให้มีหนี้ก็ยังพอกัดฟันผ่อนไหว แต่พอรายได้หายไป เงินก็จะเริ่มไม่พอกินใช้ และส่งผลกระทบหนักหน่วง

ก่อนเกิดโควิด พนักงานในหลายองค์กรที่ผมไปบรรยาย เคยพูดติดตลก เห็นการจัดการเงินเป็นเรื่องไม่สำคัญ ก็ไม่เห็นต้องคิดอะไร เพราะยังไงสิ้นเดือนก็มีรายได้เข้ากระเป๋า แถมบางที่ยังมีค่าล่วงเวลา (OT) และมีคอมมิชชั่น เกือบเท่าๆ รายได้ ก็เลยสร้างภาระหนี้ไว้เกินเงินเดือนไปไกลมาก

“เงินเดือนเอาไว้ใช้หนี้ โอทีเอาไว้แดก” พวกเขาบอกกับผมอย่างนั้น

พอวันที่เกิดล๊อคดาวน์ทีนี้เลยเข้าใจ เพราะเมื่อไม่มีทั้งโอทีและคอมมิชชั่น แถมเงินเดือนยังมาถูกลดไปอีก ทีนี้เลยเหนื่อยเลย

ช่วงล๊อคดาวน์เป็นช่วงเวลาที่ผมทำงานหนักมาก ตอบคำถามทางอีเมล์ยังไงก็ไม่ทัน เลยตั้งใจไว้ว่าจะจัดรายการมันนีโค้ชพบประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ปีนี้จัดไป 76 EP)

ทุกครั้งที่จัดรายการจะมีคำถามกระหน่ำกันมาจากทุกสารทิศ ตอบกันแทบไม่ทัน โชคดีที่มีทีมลูกศิษย์มาช่วยตอบ ทำให้รายการนี้พอจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คนที่แวะมาทิ้งคำถามไว้ได้บ้าง

อย่างไรก็ดี เมื่อเป็นการสูญหายไปของรายได้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสมการทางการเงิน เพราะคนเราต้องมีรายได้ก่อน มันถึงจะมีตัดออม จัดสรรไว้ใช้จ่าย และมีเงินคงเหลือ แต่พอสารตั้งต้นหาย คราวนี้เลยไปไม่เป็นกันเลย

ที่น่าหนักใจที่สุดก็คือ หลายคำถามที่ถามเข้ามา เป็นคำถามที่ไม่สามารถหาทางออกได้ในระยะเวลาอันสั้น ชนิดที่โค้ชจ่ายยา แล้วจะรักษาอาการได้ในทันที แต่มักเป็นคำถามที่ต้องอาศัยความพยายามอย่างหนักหน่วงของเจ้าของปัญหา ชนิดที่อยู่เฉยๆ ไม่มีทางจะผ่านปัญหาไปได้ ต้องหาอะไรทำเพิ่ม สร้างรายได้เพิ่ม ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์ และที่แย่ก็คือ ใช่ว่าพยายามไปแล้ว โค้ชจะรับรองผลได้ว่า ถ้าทำแล้ว จะสามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้

สถานการณ์ที่ใครหลายคนเจอในปี 2563 เหมือนกันกับที่ผมเคยประสบในปี 2540 เลยครับ

คือ หนักหน่วง ยืดเยื้อ จนทำให้ตั้งหลักตั้งตัวขึ้นมาใหม่ได้ยาก ติดลบอยู่แล้วก็ต้องกู้เพิ่มไป เพราะรายได้หมุนเข้ามือไม่ทัน ต้องพยายามหาทางตัดวงจรเหล่านี้ออกจากชีวิตเพื่อเริ่มต้นใหม่ ซึ่งต้องบอกเลยว่าใช้เวลาอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

ดังนั้น หัวใจสำคัญที่จะพาเราผ่านพ้นวิกฤตในช่วงเวลาแบบนี้ไปได้ ไม่ใช่เรื่องของตรรกะ ความรู้ หรือความพยายาม แต่มันคือ “พลังใจที่แข็งแกร่ง” ที่มากพอจะทำให้เรายืนหยัดสู้กับปัญหาในระยะยาวได้

นอกเหนือไปจากความรู้การเงินที่ผมแนะนำให้กับทุกคนได้ เคล็ดลับที่พาชีวิตผมผ่านจุดเลวร้ายมาได้ ก็คือ สิ่งนี้จริงๆ ครับ

สิ่งหนึ่งที่ผมบอกกับพ่อแม่ และแฟน ในวันที่ครอบครัวล้มละลายจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ก็คือ “เราจะรอด เราจะมีชีวิตที่ดี” แม้วันนั้นจะมองไม่เห็นทาง แต่ผมไม่เคยหยุดคิดที่จะพาชีวิตพ้นจากปัญหา (บางครั้งพูดไป คนใกล้ตัวเองก็ยังไม่เชื่อ)

มีเป้าหมายไว้ไกลๆ พอให้ชีวิตได้ฝันได้หวัง ที่เหลือมองหาแค่ “ไฟส่องตีน” มีทางไหนให้ลองทำ ลองสู้ ลองดูทุกทาง ไม่คิดมาก ไม่เลือกเยอะ ถ้ามันไม่ผิดกฎหมาย ไม่ได้ทำร้ายใคร เล็กใหญ่แค่ไหน ลองทำดู

สอนพิเศษ ขายประกัน นำเข้าสินค้าจากจีนมาขาย งานฟรีแลนซ์ตามโรงงาน ธุรกิจเครือข่าย เปิดบริษัทที่ปรึกษา บริษัทฝึกอบรม ฯลฯ อะไรที่เห็นทางไป ไม่คิดมาก คว้าไว้หมด

สุดท้าย “โอกาสมากับผู้คน” ครับ ถ้าเราไม่หยิบจับทำอะไรเลย รับประกันว่าเราจะไม่ได้เจอคนที่จะพาเราไปต่อ จะไม่เจอไฟฉายกระบอกใหม่ที่ช่วยส่องทางเดินต่อให้กับเราต่อไปเรื่อยๆ

คนเรายังไม่ต้องผ่านพ้นปัญหาได้ทั้งหมดหรอก แค่รับรู้ได้ว่า “มันดีขึ้น” “แย่น้อยลง” “สบายขึ้นบ้าง” มันก็ช่วยเติมกำลังใจ เพิ่มแรงขับให้มากขึ้น เดินได้เร็วขึ้น หรือจะวิ่งก็ยังไหว

จากปี 2540 ที่เจอกับปัญหา 8 ปีต่อมาผมพ้นน้ำ และมีอิสรภาพการเงินในอีก 5 ปีถัดมา ทุกอย่างมันเร็วขึ้น เพราะสมองเราถูกพัฒนามาต่อเนื่อง ร่างกายเราพร้อมที่จะทำงานหนักต่อเนื่องได้โดยไม่เหนื่อย คอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์ที่เราสะสมไว้ตลอดทาง ช่วยให้เรามีเครื่องผ่อนแรงมากขึ้น ทำงานเท่าเดิม แต่ได้ผลลัพธ์มาก

และที่สำคัญ การตั้งใจทำอะไรในวงการใดวงการหนึ่งนานพอ สร้างและสั่งสมชื่อเสียงที่ดีไว้ต่อเนื่อง จะดึงดูดตัวช่วยจากทุกสารทิศ ทั้งโบก ทั้งพัด ทั้งสะบัด ทั้งเร่ง ให้เราวิ่งเข้าเส้นชัยเร็วขึ้น โดยไม่สนใจเลยว่า วันนี้คุณอยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นของคนทั่วไปมากแค่ไหน (วันที่ผมติดลบ ผมถือว่าตัวเองอยู่ต่ำกว่าจุดปล่อยตัวเสียด้วยซ้ำ)

ทั้งหมดเริ่มจากความรู้สึก “รักชีวิต”​ ตัวเองและคนรอบข้าง และสร้าง “พลังใจ” ให้ตัวเองสู้กับปัญหาได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ชนะ

สู้แล้วจะผ่านหรือเปล่า ผมตอบไม่ได้ แต่ถ้าไม่สู้ คุณไม่มีทางผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปแน่ๆ คนที่เคยสู้กับผมในปี 40 แล้วสุดท้ายปล่อยมือกันไป คือ หลักฐานที่ดีว่าคนที่ปล่อยชีวิตให้ว่ายตามวิกฤต โดยไม่คิดจะทวนกระแส ไม่มีอะไรดีขึ้นจริงๆ

ปีหน้า 2564 ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมจึงได้แต่ภาวนา ขอให้ทุกคนที่เจอกันผ่านในทุกช่องทาง รักชีวิตตัวเองและครอบครัวให้มากๆ เมื่อเจอปัญหาอย่าหมดหวัง เรียกพลังใจออกมาทุกครั้งที่อยากจะยอมแพ้ มีก๊อกสอง ก๊อกสาม สี่ ห้า ไม่มีวันหมด

แม้ปี 2563 จะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด แต่ถ้าคุณสู้ อีก 5 ปีจากนี้ คุณอาจจะได้เจอชีวิตการเงินที่ดี และเมื่อถึงวันนั้น คุณจะย้อนกลับมาขอบคุณปี 2563 ที่ทำให้คุณเปลี่ยนแปลง และช่วยดึงศักยภาพขั้นสูงสุดในชีวิตคุณออกมา และเมื่อถึงวันนั้น ชีวิตการเงินคุณจะไม่กลับมาตกต่ำอีกแล้ว เหมือนกับผมในปี 2563 นี้

ขอพลังใจจงสถิตอยู่กับคุณตลอดปี 2564
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ

โค้ชหนุ่ม
31-12-2020

#Day1 #MoneyCoachDiary #เราจะผ่านเรื่องร้ายไปด้วยกัน #TheMoneyCoachTH

Back from War. My kind of war?
.
Fighting against the resistance in my body and mind, that whispers to my head "why should I torture myself going to the battlefield (gym)?". I can lay at my comfortable couch instead of crushing those heavy @ss objects, ramping up my heart rate beyond comfort-zone, catching heavy breaths, tearing muscle fibres, and look like a barbaric meathead.
.
The result of going to this war? It breaks you hard without a doubt... It's painful, and it doesn't make you look fancy among your friends. That's why 90% of people would give up going to the battlefield within 16 weeks.
.
But when you fight it long enough, this war will give you such blessings more than anything else. Because Pain is a tough-love m#th3rfcUk3r that bless you when you endured it, it curses when you quit.
.
Wounded but not defeated!
.
PS. Nope. I did not fell off from a bike. I'm jk in my stories. This is just a make-up ;)
.
#ironmastery #rippeddaddy #fatburningmachine #jystyle

Hello my cutie angels!
This tutorial shows you how you can get big, mysterious arabic style eyes with makeup! Enjoy xoxo
__________________________________________________________
(灬╹ω╹灬) SUBSCRIBBLE FOR MORE VIDEOS! ♥
☆ New videos every Wednesday & Friday at Japan time 9pm!
FACEBOOK
→ https://www.facebook.com/Venus-Angelic-987977014610350/
SNAPCHAT
→ venusp
INSTAGRAM
→ @VENUS_ANGELIC
TWITTER
→ https://twitter.com/vnsnglc

SENPAI’S INSTAGRAM　(๑´ㅂ`๑)
→ @manasenpai
---------------
TUTORIAL
---------------
First apply white eyeshadow on your brow bone to highlight.
On a blush brush, apply peachy eyeshadow to give your eyes a nice warm tone. Use the same colour to accentuate your cheekbones.
Apply mustard yellow on the eyelids, followed by another layer of peach eyeshadow. Also add some yellow under your lower lash line.
With some red, colour a third of your eye lid and finish off with a small, winged stroke.
Blend the tree colours together. Notice how this colour combination now resembles the arabic sunset!
Also, warm colours are big helpers when it comes to making your eye colour pop!
But now it's time for some sun sparkles!
Generously dust a shimmery silver in the corner of your eyes in to the mustard yellow, all the way up to where the peach colour meets your brow bone.
From there on, continue with a shimmery brown. Of course, apply some under your eye too. Now you have a desert to your sunset!

Use black eyeshadow and a fine brush instead of liquid eye liner. We want to look mysterious, not serious! ;D
Follow your natural eye shape and end the line in a dramatic wing unto where your eyebrow finishes. Extend the black into the middle of your lash line and make it look all dusty!

Along the black line, I'm applying an adhesive white eye liner.
This white eye line rounds the shape of my eye opening them up a bit more since a certain amount of "black dust" around your eye can make you look sleepy instead of mysterious =___=
After all that, boost the highlighting power on your brow bone some more!

Eyes are so important in middle eastern culture. To sharpen your eye shape, colour your water line with a black makeup pencil.

Apply 2 or 3 layers of mascara on both upper and lower lashes.
Stick on dramatic eyelashes, right along the white eyeliner.

With wine red lip liner, draw along the shape of your lips, then blend a bit. Fill in with a rosy nude lipstick. Once again, blend.
Blush your cheeks with a classy auburn colour.

Finish this makeup with the right eyebrows. Make them thicker, longer, darker and more arched using a well sharpened eyebrow pencil.
We're almost done! Now we need to do our hair, arabic style!

Separate some of your front hair and tie a high ponytail on whatever side of your head you prefer.
Puff the ponytail with a comb, apply hairspray and roll up to a bun. Secure with bobby pins.
Do the same with your front hair, Backcomb, hairspray. Roll up and fix with bobby pins!

I will also put on some arabic accessories and a head scarf called hijab which I first fold into half, lay over my head and just wrap around like this.

NOW, we're finished!

I wish you all good luck and special greetings to my arabic fangelics!
See you soon in my next video!
--------------
CREDITS
--------------
Song Titles: "Ibn Al-Noor" and "Desert City"
Artist Name: Kevin MacLeod
Download Links: http://incompetech.com/music/royalty-free/mp3-royaltyfree/Ibn%20Al-Noor.mp3
http://incompetech.com/music/royalty-free/mp3-royaltyfree/Desert%20City.mp3

#ASMR #Japanese #Cheesecake #Rilakkuma #Souffle #Recipe #リラックマ
We made a tall, soft and smooth Japanese-style cheesecake. This took us 5 times to make correctly! But all 5 of the Moso Family members devoured up the 5 cheesecakes. It was a lot easier than we thought to eat them all up because of the light texture.
*Recipe* (One round mold, 15.5 cm diameter x 7 cm in height)
1. Coat a teflon-lined mold (or any type of mold that is made so that the mixture doesn't stick ) with unsalted butter.
Have the mold prepared with a oven sheet laid on the bottom.
2.Pour 80g of milk in a heat-resistant container and heat it up in the microwave until it is about 40℃
3. Add in 50g of unsalted butter and melt. Leave to sit.
4. Put 200g of room-temperature cream cheese
into a large bowl and mix until it is creamy.
5. Add in 5 egg yolks and stir.
6. Add in 55g of granulated sugar and stir.
7. Add in 3 and stir.
8. Squeeze lemon juice from one half of a lemon (one tablespoon of lemon juice)
9. Add 50 g of weak flour and 15g of corn starch while sifting and stir.　We recommend straining the mixture once if it is too clumpy. Leave to sit.
10. Add in 5 egg whites and 55 grams of granulated sugar.
Whip up into a firm meringue.
11. Add 1/3 of 10 into 9. Stir thoroughly.
12. Add another 1/3 and stir with a whisk as if you are scooping up the mixture.
13. Add all of the remaining 1/3. Switch to a rubber spatula and mix as if you are scooping the mixture up from the bottom. Stir softly but evenly.
14. Add 13 to 1.
Pour the mixture into the mold so that the top of it comes to a place near 1.5 cm below the top rim of the mold (this is to anticipate the bulging out of the cake after it is baked)
15. Lay a kitchen cloth onto a stainless container and put 14 on top.
16. Add more than 2.5 cm of boiling water into the container.
17. Put 16 into an oven preheated to 200 degrees and bake for 15 minutes.
18. Lower the temperature to 140℃ and bake for 45 minutes.
19. Leave for 30 minutes in the oven after the switch goes off.
Open the oven door slightly to cool for 30 minutes.
20. Take out from the mold.
21.Decorate however you want using powdered sugar that does not melt. (This time around, we used Rilakkuma and Korilakkuma stencils)
22. Done.

高さがあって、表面が割れてない、シュワシュワした日本式スフレチーズケーキに挑戦しました。
なかなか上手くいかなくて5回も作ってしまいました。
家族5人で全部食べました。軽い食感なので思ったよりも楽勝でした。
*レシピ*（直径 15.5✕高さ 7センチ 丸型 1個分）
１．テフロン加工（くっつかない加工のものならなんでも）の型に無塩バターを塗ります。底にオーブンシートを敷いて準備しておく。
２．耐熱容器に牛乳 80gを入れ電子レンジで40度くらいに温める。
３．２に無塩バター 50gを入れ溶す。置いておく。
４．大きめのボウルに室温にしておいたクリームチーズ 200gを入れクリーム状に混ぜる。
５．卵黄 5個分を加え混ぜる。
６．グラニュー糖 55gを加え混ぜる。
７．３も加え混ぜる。
８．レモン汁 半個分（大さじ1）を加え混ぜる。
９．薄力粉 50gとコーンスターチ 15gをフルイながら入れ、混ぜる。ダマが気になる時は、１回濾すとよい。おいとく。
１０．卵白 5個分にグラニュー糖 55gを加え、かたいメレンゲに泡立てる。
１１．９に１０を1/3加え、しっかり混ぜる。
１２．さらに1/3加え、泡立て器ですくうように間を通しながら混ぜ合わせる。
１３．残りの1/3を全部加え、ゴムベラに持ち替え、底からすくい上げるように混ぜ合わせる。やさしく、でも、まんべんなく混ぜる。
１４．１に１３を入れる。膨らみを見越して、型のフチから1.5センチほど下まで生地を流し入れる。
１５．バットなどに布巾などを敷き、１４をのせる。
１６．１５のバットに沸騰したお湯を2.5センチ以上入れる。
１７．200度に予熱したオーブンに16を入れ、15分焼く。
１８．温度を140度に下げ、さらに45分焼く。
１９．オーブンのスイッチが切れたら、庫内に置いたまま30分、さらにオーブンのドアを少し開けて30分冷ます。
２０．型から取り出す。
２１．なかない粉糖を使って、お好みのデコをしてもよい。（今回はリラックマ・コリラックマ のステンシル）
２２．でけた。

We bought some cute banana gummies. They were so cute that we were inspired me to make a tart that looks like the sign of a banana shop.
Remember- do not look for the mayonnaise flavor while eating the tart!

*Recipe* (16 cm round mold)

Bake the tart portion
The size of the tart will depend on what you want to place it on when it's done.
This time I am using a round mold that is 16 cm in diameter. I do not own a tart mold that is 16 cm in diameter so I made it with a round mold with a 16 cm diameter whose bottom cannot be detached.
1. Lay an oven sheet on the bottom so that the tart does not stick to the mold and is easy to take out at the end.
2. Sift a mixture of 110g of weak flour and 1/2 teaspoon of baking powder
3. Add 35g of sugar and stir.
4. Add 50g of mayonnaise and stir.
5. Add 13g of milk (A little less than 1 tablespoon) and stir. Bring the mixture together with your hands
6. Put the mixture in between oven sheets, then stretch the mixture out so that it is about 3 mm thick. If it's falling apart in your hands, add some strong flour. This help the mixture to come together
7. Put 6 into 1. Fill in any holes. Don't worry if the mixture is bumpy, it usually turns out smooth once you bake it. (Says the amateur MosoGourmet)
Make sure the sides high enough as you will be adding lots of filling later on. (None of the dough was left over)
8. Poke some holes into the bottom with a fork.
9. Cover with aluminum foil and put a heavy weight on top
10. Bake for 20 minutes in an oven preheated to 190 ℃. Take off the the aluminum foil. Lower the temperature to 170℃ and bake for an additional 10 minutes.
11. The tart is soft at first, so please make sure to cool before taking it out of the mold. After taking it out of the mold, leave it to cool some more.

Make the filling
Make the chocolate sauce.
12. Add 40 grams of chocolate and 15 g of milk in a heat-resistant bowl and heat in a 600w microwave for 30 seconds so that the chocolate melts.
13. Pour 12 in 11 and spread it out.

Make the custard cream.
14. Add 40 grams of granulated sugar and 7 grams of corn starch in a heat-resistant bowl and stir.
15. Pour 180 ml of milk into 14 and stir.
16. Add one egg yolk into 15 and stir.
17. Heat in 600 w microwave for 2 minutes.
18. Take out and stir.
19. Heat for an additional 1 minute and 15 seconds.
20. Stir.

21. Gently pour 20 into 13 (50 ml left over)
22. Lay the sliced banana pieces in 21. Sprinkle some lemon juice on the bananas so that they won't change color.
23. Top with whipped cream.
I added sugar to 100 ml of cream and whipped lightly. There was a little bit left over.
24. Put in fridge to cool.
25. Decorate the tart however you'd like, cut into pieces and serve.The crust is crispy on the bottom and soft on the side.
Our eldest son who is a tough critic when it comes to my tarts said, ”this is good!” while he ate it. Little did he know that there was mayonnaise in the tart. *Evil laugh*

かわいいバナナのグミを買いました。あまりにも かわいかったので、まるでバナナ屋さんの看板のような見た目のタルトにしてみました。ただ、それだけの動画です。お楽しみください。食べる時には、くれぐれもマヨネーズの味を探してはいけません。ご注意ください。

*レシピ*（16センチの丸型）

タルト台を焼く
載せたいものの大きさに合わせてタルトの大きさを決める。今回は16センチの丸型。我が家に16センチのタルト型がないので、16センチの底の取れない丸型で作ります。
１．焼きあがったタルトが取り出しやすいようにオーブンペーパーを敷いて型の準備をする。
２．薄力粉 110g、ベーキングパウダー 小さじ1/2を合わせてふるう。
３．砂糖 35gを入れ、混ぜる。
４．マヨネーズ 50gを入れ、混ぜる。
５．牛乳 13g（大さじ1弱）を入れ混ぜ、手でまとめる。
６．オーブンペーパーに挟んで、３ミリほどの厚さに伸ばす。強力粉で打ち粉をすると扱いやすい。
７．６を１に敷き込む。穴は継ぎ足して埋める。ボコボコでも意外にキレイに焼きあがる生地なので気にしない。←下手っぴな 妄想グルメがそうでした
フィリングをたっぷり詰めようとしているレシピなので壁を高めにつける。（生地は余りません）
８．底にフォークなどで穴を開け、ピケする。
９．アルミホイルを被せ、その上に重石をする。
１０．190度に予熱したオーブンで20分焼く。重石を取り除き、アルミホイルを掛け直し170度に下げて更に10分焼く。
１１．焼き上がりは柔らかいので、粗熱が取れてから型から取り出す。冷ましておく。

フィリングを作る
チョコレートソースを作る。
１２．耐熱ボウルにチョコレート 40gと牛乳 15gを入れ、600wの電子レンジで30秒加熱し、チョコレートを溶かす。
１３．１１に１２を流し入れ、全体に広げる。

カスタードクリームを作ります。
１４．耐熱容器にグラニュー糖40gとコーンスターチ 7g（大さじ 1）を加え、混ぜる。
１５．１４に牛乳 180mlを加え混ぜる。
１６．１５に卵黄 1個を加え混ぜる。
１７．600wの電子レンジに２分かける。
１８．一旦取り出し、かき混ぜる。
１９．さらに、電子レンジで1分15秒加熱する。
２０．かき混ぜる。

２１．２０を１３に静かに流し入れる。（50mlほど残りました）
２２．２１にバナナの輪切りを並べる。レモン汁少々をまぶしておくと変色しづらい。
２３．生クリームをのせる。100mlほどの生クリームに砂糖を加え、緩めに泡立てたものを使い、 少し余りました。
２４．冷蔵庫で冷やす。
２５．お好みのデコをし、切り分けていただく。底はサックリ、サイドはしっとりが楽しめるタルトです。タルトにうるさい長男に文句を言われながら「うん、これはうまいですね」とモコミチみたいに言い張り食べる。でも、マヨネーズが入ってるとは気づかれなかった。イッヒッヒ。