#อนุพันธ์ระดับโลกเทรดเองโดยตรงได้นะรู้ยัง
ปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงข้อมูลการลงทุนทั่วโลกได้ทุกที่ทุกเวลา บางคนอาจอยากลองเทรดโปรดักส์ต่างประเทศบ้างพวก ทองคำ น้ำมัน ค่าเงินฯลฯ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง ทำให้เราไม่สามารถเทรดสินค้าเหล่านั้นโดยตรงได้ ถ้าอยากลงทุนต้องลงทุนแบบอ้อมโลก
เช่น ถ้าเม่าศรีอยากเก็งกำไรน้ำมันดิบ เม่าศรีก็ต้องไปซื้อกองทุนรวม ก.(นามสมมติ)ที่มีนโยบายลงทุนในน้ำมันดิบ และกองทุนรวม ก. ก็จะนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมในต่างประเทศที่ชื่อ A(นามสมมติ) อีกต่อหนึ่ง และกองทุนรวม A จะนำเงินไปลงทุนในสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าที่ตลาด NYMEX ให้ นี่แค่อ่านก็เหนื่อยแล้ว สรุปคือเม่าศรีต้องผ่านตัวกลาง 2 ชั้น และเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มมาอีก 2 ต่อ แถมนโยบายการลงทุนอาจจะไม่ถูกใจเม่าศรีอีก จะเก็งกำไรขาลงก็ทำไม่ได้
ถ้าเขียนเป็นแผนภาพความซับซ้อน ก็จะประมาณนี้
เม่าศรี-> กองทุนรวม ก.->กองทุนรวมต่างประเทศ A -> NYMEX
ทำให้มีผู้หาประโยชน์จากข้อจำกัดนี้ จัดตั้งโบรกเกอร์เถื่อนที่ไม่ได้รับการรับรองจากทางการ รวมไปถึงการชักชวนให้ลงทุนในต่างประเทศสไตล์แชร์ลูกโซ่ ที่พอรวบรวมเงินได้ระดับหนึ่งก็ปิดหนีไป โดนหลอกกันไม่เว้นแต่ละวันแต่ก็ยังมีเกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ
แต่อัพเดทล่าสุด!! เม่าศรีและนักลงทุนรายย่อย สามารถเทรดน้ำมันดิบผ่านตลาด NYMEX ได้เองแล้วนะ จะ Short จะ Long ก็จัดได้เองตามสะดวก เทรดเองได้ตรงๆตามแผนภาพนี้เลย
เม่าศรี ->NYMEX
และไม่ใช่แค่น้ำมันดิบ ยังเทรดได้ทั้งทองคำ ค่าเงิน อัตราดอกเบี้ย Index ฯลฯ เรียกได้ว่าเทรดสินค้าใน CME Group ได้ทั้งหมดเลยแหละ!
จังหวะนี้อาจมีคนสงสัย CME Group คือใคร ?
หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อ CME Group แต่ความจริง CME Group เป็นตลาดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอารมณ์เดียวกับ TFEX ตลาดอนุพันธ์ของไทยนั่นแหละ แต่ปริมาณการซื้อขายต่อวันมากกว่ากันประมาณ 44 เท่า*(เทียบจากปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนสิงหาคม)
CME Group เป็นเจ้าของตลาดย่อยที่มีสินค้าที่หลากหลายและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก พูดไปจะต้องร้อง อ๋อ!เพราะเวลาฟังข่าวเศรษฐกิจเขาจะนำมาอ้างอิงเป็นประจำอย่างตลาดน้ำมัน NYMEX, ตลาดทองคำ COMEX รวมไปถึงการซื้อขายเงินสกุลต่างๆ FX, ดัชนีตลาดหุ้นอย่าง S&P 500 Index ฯลฯ พวกนี้คืออยู่ใน CME Group ทั้งนั้น
พูดง่ายๆ ว่าถ้าเปิดพอร์ตเทรดใน CME Group ได้ ก็สามารถเทรดสินค้าอนุพันธ์ได้เกินครึ่งโลกแล้ว
ซึ่งการเริ่มต้นเทรดในตลาด CME Group ใช้เงินไม่มากอย่างที่คิด เช่นสัญญา Micro E-mini Dow Jones Futures ที่ใช้เงินเริ่มต้นเพียง $800 หรือประมาณ 25,000 บาท ก็ทดลองเปิดประสบการณ์การลงทุนในตลาดอนุพันธ์ระดับโลกโดยตรงได้แล้ว
ผู้ที่สนใจลงทุนและรับความเสี่ยงได้สูงสามารถเปิดพอร์ตเพื่อเทรดอนุพันธ์ใน CME Group ได้โดยผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนรายแรกและรายเดียวในไทย #MTSGold หรือที่รู้จักกันดีในนาม #แม่ทองสุก ที่ได้รับใบอนุญาตจากทาง กลต. และแบงก์ชาติ นักลงทุนจึงสามารถเทรดได้อย่างปลอดภัยโอนเงินเข้าไปก็ไม่ระแวงต้องกลัวโดนปิดเว็บไซต์หนี เพราะลำพังแค่เทรดอนุพันธ์ต่างประเทศก็เสี่ยงสูงอยู่แล้ว อย่าไปเพิ่มความเสี่ยงกับโบรกเถื่อนเลย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและเปิดพอร์ตกับ MTSGold Group คลิกเลย
https://landing.mtsgoldfutures.co.th/
#MTSGold #แม่ทองสุก #CME #ทองคำ #ออมทอง #เทรดต่างประเทศ #ออมทองกับแม่ทองสุก #COMEX #NYMEX #Forex #Dowjones #SP500 #Nasdaq
同時也有21部Youtube影片,追蹤數超過31萬的網紅Spark Liang 张开亮,也在其Youtube影片中提到,【科技股暴跌是泡沫破裂?還是合理調整?投資者應該如何應對?】 就在剛踏入9月的時候 特斯拉(Tesla)在一個星期內 大幅下跌了33.7% 這一跌可真的不得了 因為特斯拉的股價大跌 間接影響了整個美國股市的情緒 導致其他的科技股也跟著下跌 而納斯達克指數「NASDAQ」在上個星期更是下跌了10% ...
「nasdaq index」的推薦目錄:
nasdaq index 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
กรณีศึกษา เมื่อเงินดอลลาร์สหรัฐ กำลังอ่อนค่าลง /โดย ลงทุนแมน
ในช่วงที่ผ่านมาเงินดอลลาร์สหรัฐ เริ่มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง
ทำไมเงินดอลลาร์สหรัฐจึงกลับมาอ่อนค่า
แล้วมันส่งผลกระทบอย่างไร
ลงทุนแมนจะมาวิเคราะห์ให้ฟัง
╔═══════════╗
สัมผัสเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากสตาร์ตอัปไทย Blockdit
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า เงินดอลลาร์สหรัฐ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากแค่ไหน
รู้ไหมว่า ปัจจุบัน ทุนสำรองระหว่างประเทศของทุกประเทศทั่วโลกนั้นประกอบไปด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีสัดส่วนสูงกว่า 60%
ดังนั้นเราจึงบอกได้ว่า เงินดอลลาร์สหรัฐยังมีความสำคัญต่อทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางในแต่ละประเทศ
ขณะที่ในด้านการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น กว่า 87% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ
2 เรื่องทำให้เราบอกได้ว่า เงินดอลลาร์สหรัฐจะยังคงเป็นเงินสกุลหลักของโลกอยู่ในปัจจุบัน และน่าจะเป็นต่อไปอีกในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเงินสกุลหลักที่เป็นที่ต้องการของโลก แต่มูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
ที่น่าสนใจคือ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐกลับลดลงมาเรื่อยๆ หรือพูดง่ายๆ ว่า เงินดอลลาร์สหรัฐกำลังอ่อนค่า
หนึ่งในตัวชี้วัดที่นักการเงินและนักเศรษฐศาสตร์นิยมใช้ในการวัดการอ่อนค่าหรือแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ คือ US Dollar Index โดยจะนำเงินดอลลาร์สหรัฐ มาเทียบกับเงินสกุลหลักของโลกเช่น เงินยูโร เงินเยน เงินปอนด์ เงินดอลลาร์แคนาดา เงินโครนาสวีเดน เงินฟรังก์สวิส
ถ้า US Dollar Index มีค่าลดลงแสดงว่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักของโลก
ถ้า US Dollar Index มีค่าเพิ่มขึ้นแสดงว่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักของโลก
รู้ไหมว่า ในช่วงเดือนมีนาคม 2563 US Dollar Index เคยขึ้นไปสูงสุดถึง 102.82 ก่อนที่จะลดลงมาเหลือ 93.39 ในปัจจุบันเท่านั้น นั่นหมายว่า เพียงระยะเวลาไม่กี่เดือน เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงไปแล้วกว่า 9%
แล้วเรื่องนี้มันเกิดจากสาเหตุอะไร?
ให้เราลองนึกภาพว่าเงินนั้นเหมือนสินค้าชนิดหนึ่ง
โดยธรรมชาติแล้ว ถ้าสินค้าไหนมีปริมาณมากกว่าความต้องการ มูลค่าของมัน ก็มักจะลดลง ตามหลัก Demand & Supply
ซึ่งปริมาณของเงินก็อยู่ในข่ายนี้เช่นกัน..
การระบาดของ Covid-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่ามูลค่า GDP ของสหรัฐฯ จะลดลงกว่า 8% หรือคิดเป็นมูลค่าถึง 53 ล้านล้านบาท ซึ่งมูลค่านี้มากกว่า GDP ของประเทศไทยถึง 3 เท่า
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จึงออกมาประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยไม่จำกัดวงเงิน และไม่จำกัดเวลา ซึ่งเป็นมาตรการทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคและธุรกิจที่ขาดสภาพคล่องจากผลกระทบของ Covid-19
รวมไปถึงการแจกเงินเยียวยาให้กับประชาชนของภาครัฐในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ ก็ทำให้ประชาชนมีเงินในมือมากขึ้น ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะได้รับเงินมากกว่าช่วงที่ทำงานเสียอีก
เรื่องนี้ส่งผลทำให้ปริมาณเงินในระบบ (Money Supply) ของสหรัฐอเมริกานั้นปรับเพิ่มขึ้น
ซึ่งปริมาณเงินที่ว่านี้ มีตั้งแต่เหรียญ ธนบัตร เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ และเงินฝากประจำ ที่อยู่ในมือของประชาชนและภาคธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่ง
เดือนมีนาคม 2563 ปริมาณเงินในระบบของสหรัฐอเมริกาเท่ากับ 496 ล้านล้านบาท
เดือนมิถุนายน 2563 ปริมาณเงินในระบบของสหรัฐอเมริกาเท่ากับ 570 ล้านล้านบาท
ในระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นถึง 74 ล้านล้านบาท ทั้งๆ ที่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การที่ปริมาณเงินในระบบของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นด้วยจำนวนเท่านี้ ปกติจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี
ปริมาณเงินในระบบที่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง จึงทำให้นักลงทุนที่ถือเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งก็เปรียบเสมือนสินทรัพย์ชนิดหนึ่ง ต้องขายเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นราคาของสินทรัพย์หลายชนิดนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น หุ้นหรือทองคำ
ลองมาดูตัวอย่างของสินทรัพย์บางอย่างที่ปรับเพิ่มขึ้น ในช่วงที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง นับแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศใช้มาตรการ QE ในรอบนี้
ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพิ่มสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อทรอยออนซ์
ผลตอบแทนของทองคำเพิ่มขึ้น 36% นับจากต้นปี
ตลาดหุ้นสหรัฐอย่าง Nasdaq ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ปิดสูงกว่า 11,000 จุด
ผลตอบแทนของตลาดหุ้น Nasdaq เพิ่มขึ้น 23% นับจากต้นปี
จากเดิมที่คนคิดว่า Cash is King ในช่วงเวลาวิกฤติ
แต่เมื่อเห็นเป็นอย่างนี้แล้ว
นักลงทุนอเมริกัน อาจมองว่า Cash is Trash ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
สัมผัสเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากสตาร์ตอัปไทย Blockdit
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reserve_currency
-https://fxssi.com/top-5-most-traded-currencies-in-the-world
-https://en.wikipedia.org/wiki/U.S._Dollar_Index
-https://www.imf.org/en/Publications/WEO/Issues/2020/06/24/WEOUpdateJune2020
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://tradingeconomics.com/united-states/money-supply-m2
-https://www.investopedia.com/terms/q/quantitative-easing.asp
-https://markets.businessinsider.com/commodities/gold-price
nasdaq index 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
รู้จัก Reflation หนึ่งในปัจจัย ที่ทำให้ราคาสินทรัพย์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น / โดย ลงทุนแมน
การระบาดของโควิด 19 ตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้
สร้างความบอบช้ำอย่างหนักต่อเศรษฐกิจโลกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
แต่หลายคนคงแปลกใจว่า เศรษฐกิจไม่ดีแต่ทำไม ราคาสินทรัพย์หลายอย่างทั่วโลกกลับพุ่งสูงขึ้นทำลายสถิติกันเป็นว่าเล่น
ถ้าลองมาดูราคาและดัชนีเหล่านี้ เทียบกับช่วงต้นปี 2019
- ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นประมาณ 23%
- ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้นประมาณ 47%
- ราคาทองคำ เพิ่มขึ้นประมาณ 18%
- ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นประมาณ 400%
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ เราสามารถหยิบเอาปรากฏการณ์ “Reflation” ขึ้นมาใช้อธิบายได้
Reflation คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับการเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์หลายอย่างนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ง่ายๆ แค่เปิด Radars Point ทุกครั้งก่อนช้อป
ดาวน์โหลดที่นี่ > https://radarspoint.page.link/longtunman
╚═══════════╝
ปกติแล้ว ถ้าเศรษฐกิจกำลังขยายตัว
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เกิดการเพิ่มขึ้นของระดับราคาสินค้า
หรือที่เรียกว่า การเกิดภาวะเงินเฟ้อ (Inflation)
แต่เมื่อเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ อย่างเช่นวิกฤติโควิด 19 ในตอนนี้
ที่ทำให้ต่างคนต่างไม่กล้าใช้เงินเหมือนเดิม
สิ่งที่เราเห็นกันคือ ผู้คนเริ่มระมัดระวังเรื่องการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
หรือภาคธุรกิจไม่กล้าลงทุน เพราะต้องการถือเงินสดเอาไว้
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ตามมาด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ลดต่ำลง
จนบางครั้งเงินเฟ้ออาจติดลบ หรือที่เรียกว่าเกิดภาวะเงินฝืด (Deflation)
ซึ่งจะฉุดให้เศรษฐกิจโลกไม่เติบโต หรือเติบโตได้ช้าลง
เมื่อเกิดภาวะเช่นนี้ หน้าที่ของธนาคารกลางทั่วโลก
คือต้องออกมาตรการกระตุ้น เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และกลับมาเติบโตต่อไปได้
โดยสิ่งที่ธนาคารกลางทำได้ก็คือ
1. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจ
2. ทำการอัดฉีดเงินมหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ หรือที่เรียกว่า การทำ Quantitative Easing (QE)
ช่วงที่ผ่านมา เราได้เห็นธนาคารกลางทั่วโลก
ต่างลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจนเข้าใกล้ระดับ 0%
เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจ
และลดผลตอบแทนเงินฝาก เพื่อกระตุ้นให้คนนำเงินไปใช้กันให้มากขึ้น
ที่สำคัญที่สุดคือการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ
หรือที่เรียกว่า การทำ Quantitative Easing (QE)
ที่ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังทำกันอย่างหนัก
ลองมาดูการทำ QE ของธนาคารกลาง 4 รายใหญ่ของโลกในช่วงระหว่างปี 2020
ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19
ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ทำ QE เพิ่มขึ้น 93 ล้านล้านบาท
ธนาคารกลางยุโรปทำ QE เพิ่มขึ้น 87 ล้านล้านบาท
ธนาคารกลางญี่ปุ่นทำ QE เพิ่มขึ้น 39 ล้านล้านบาท
ธนาคารกลางอังกฤษทำ QE เพิ่มขึ้น 9 ล้านล้านบาท
โดยวิธีการดังกล่าว ธนาคารกลางจะเข้าไปซื้อตราสารหนี้ทั้งของภาครัฐและเอกชน
แล้วหน่วยงานเหล่านั้น ก็จะนำเงินไปกระตุ้นภาคเศรษฐกิจจริงต่อไป
เพื่อหวังให้เกิดการผลิตเพิ่มขึ้น และการจ้างงานเพิ่มขึ้น ในระบบเศรษฐกิจ
การกระทำทั้งหมดที่ว่ามานี้
ก็เพื่อเร่งให้เศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อกลับเข้าไปสู่เส้นทางการเติบโตระยะยาว
ซึ่งการที่อัตราเงินเฟ้อกลับมาเพิ่มขึ้น
เพราะการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนัก
เพื่อหวังให้เศรษฐกิจกลับสู่การเติบโตในระยะยาวแบบนี้
ก็คือความหมายของการเกิด “Reflation” นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่า เงินที่อัดฉีดทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ในภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) เพราะเงินจำนวนไม่น้อยกลับไหลเข้าไปยังสินทรัพย์ทั่วโลกมากขึ้น
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า การอัดฉีดเงินเข้าระบบจำนวนมาก
ทำให้ค่าของเงินสกุลนั้นอ่อนค่าลง
อย่างเช่นกรณีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีการทำ QE ในปริมาณมหาศาล
เมื่อรวมกับ การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการทางการคลัง
ด้วยการอัดฉีดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19
จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงไปอย่างมาก จากต้นปี 2019 เมื่อไปเทียบกับเงินสกุลเงินสำคัญต่างๆ ของโลก
ประเด็นก็คือ ในปัจจุบันมีคนถือเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่จำนวนมาก
เพราะดอลลาร์สหรัฐถือเป็นเงินสกุลหลักของโลก
ซึ่งการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักลงทุนที่ถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ เสมือนกำลังถือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่อง
พอเรื่องเป็นแบบนี้ นักลงทุนจึงต้องมองหาสินทรัพย์อื่น
ที่จะเอาเงินไปลงทุน เพื่อชดเชยกับการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นอ่อนค่าลง
ซึ่งสินทรัพย์อื่นที่ว่านั้น ก็อย่างเช่น หุ้น, ทองคำ หรือแม้กระทั่ง Bitcoin
ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้สินทรัพย์เหล่านี้ มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง
- ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นประมาณ 23%
- ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้นประมาณ 47%
- ราคาทองคำ เพิ่มขึ้นประมาณ 18%
- ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นประมาณ 400%
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้
แม้จะเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์เหล่านี้ปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง
แต่คำถามสำคัญคือ การปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เหล่านั้น
มาจากปัจจัยพื้นฐาน หรือผลประกอบการที่แท้จริงมากแค่ไหน
หรือว่าจริงๆ แล้ว มันเกิดจากสภาพคล่องที่ล้นตลาดจากการอัดฉีดเงินเข้าระบบ
เพราะถ้าวันหนึ่ง ที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
รัฐบาลหลายประเทศจะต้องลดการใช้จ่ายเงินลง
และธนาคารกลางหลายประเทศก็จะต้องหยุดการอัดฉีดเงินเข้าระบบ
เมื่อเวลานั้นมาถึง ก็น่าติดตามเหมือนกันว่า
ในตอนนั้น ราคาสินทรัพย์เหล่านี้
จะยังสามารถปรับตัวสูงขึ้นเหมือนช่วงที่ผ่านมา ได้หรือไม่ ? ..
╔═══════════╗
ง่ายๆ แค่เปิด Radars Point ทุกครั้งก่อนช้อป Lazada, Shopee, JD Central ฯลฯ เพื่อรับ Point คืน ให้คุณเลือกลงทุนแผนลงทุนหุ้นทั้งในและต่างประเทศ
.
สำหรับแฟนเพจลงทุนแมนและเป็นผู้ใช้ใหม่ Radars Point เพียงกรอกโค้ดลับ LTM8 รับฟรี 8 Point นำไปเริ่มต้นลงทุนได้ฟรีเลย!
.
ดาวน์โหลดที่นี่ > https://radarspoint.page.link/longtunman
รายละเอียดเพิ่มเติม > https://blog.radarspoint.com/radars-point
.
#RadarsPoint
#ลงทุนง่ายๆไม่ต้องใช้เงิน
╚═══════════╝
References
-https://www.businesstoday.co/opinions/24/09/2020/50801/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reflation
-https://www.atlanticcouncil.org/blogs/econographics/global-qe-tracker/
-https://www.investing.com/currencies/us-dollar-index
-https://www.upmyinterest.com/fund?tick=Bitcoin
-https://th.tradingview.com/symbols/BTCUSD/
nasdaq index 在 Spark Liang 张开亮 Youtube 的評價
【科技股暴跌是泡沫破裂?還是合理調整?投資者應該如何應對?】
就在剛踏入9月的時候
特斯拉(Tesla)在一個星期內
大幅下跌了33.7%
這一跌可真的不得了
因為特斯拉的股價大跌
間接影響了整個美國股市的情緒
導致其他的科技股也跟著下跌
而納斯達克指數「NASDAQ」在上個星期更是下跌了10%
眼看科技股的狀況這麼不穩定
很多人開始擔心
這會不會是科技股泡沫破裂呢?
或者只是股價的合理調整呢?
近期的納斯達克指數這麼不樂觀
難道美股真的要進入進入熊市了嗎?
已經買入科技股的投資者們
是不是很擔心呢?
想知道科技股的前景會是如何?
應該繼續持有?
還是把科技股給賣了?
那就快點點擊影片吧!
我會一一為你們分析!
影片概括:
0:00 Start
0:19 為什麼科技股會暴跌?
2:43 現在的科技股的價格只是虛高, 而不是泡沫?
7:09 科技股的下跌,身為投資者的我們應該怎麼樣應對?
9:02 股市會不會再次的進入熊市這件事情?
9:56 總結
.
獲取我的獨家理財貼士
http://bit.ly/get-spark-financial-tips
.
【免費】股票投資工作坊 - 從0開始學股票
http://bit.ly/join-free-webinar-now
.
🔥點擊連結瞭解更多詳情或購買🔥
https://valueinmind.co/zh/sparks/
.
我們需要人才
我們需要你
向我們展現你不可多得的能力與實力
數不盡的各種公司福利就等你
點擊鏈接提交求職申請:https://valueinmind.co/join-us/
.
🔥【Etoro】Spark 投資組合和表現 🔥
http://bit.ly/31FPXEz
.
全世界都可以用
eToro申请链接
简体
https://bit.ly/2ZWRd7G
繁體
https://bit.ly/2FYWip0
英文
https://bit.ly/35UmNXH
.
免責聲明:
高波動性投資產品,您的交易存在風險。過往表現不能作為將來業績指標。
視頻中談及的內容僅作為教學目的,而非是一種投資建議。
.
👇更多相關影片👇
突襲錢包大調查!Spark的錢包竟然有...
https://bit.ly/3hUfLEs
.
炒股群騙局,幫你賺錢?醒醒吧!
https://bit.ly/3mE7MPw
.
現在買REITs最好賺?3招教你怎麼買REITs
https://bit.ly/3iD3ypb
.
⚡ Spark 的 Facebook 很熱閙
http://bit.ly/2X3Cgwr
.
⚡Spark 的 YouTube 很多教學
http://bit.ly/2KMqMvR
.
⚡Spark 的 Instagram 很多八卦
http://bit.ly/31YMLon
.
⚡理财交流站
http://bit.ly/finspark-group
.
⚡美股交易交流区
http://bit.ly/finspark-foreign-stocks
#科技股 #technology stock #特斯拉分析
nasdaq index 在 我要做富翁 Youtube 的評價
甚麼是窩輪?
窩輪其實是認股證的一種,就是市場形容為高風險的「刀仔鋸大樹」的衍生產品,我們又可以透過認購證還是認沽證買升買跌,Long或put,或者是牛或熊之分,所以有人說窩輪亦可用於對沖之用。看似好好的工具,背後故事是否如此?首先我們可以了解一下輪商發行的認股證的程序:
輪商發行的認股證,需要在背後買回相關資產,如股票、指數等,去支持其後行動及對沖,輪商會發行一些股份(即認股證),於港交所掛牌交易及市場散戶"享用",這衍生出來而且虛擬及無直接持有公司認股證的產品就是窩輪。簡單來說,實際以實物交易的只有是輪商,不是我們。
但由於窩輪是衍生出來的產品,通常都有十分高的槓桿,這可以參考每隻窩輪的換股比率及引伸波幅等數據,越大代表資產槓桿越大。
那甚麼是到期日呢?Jack剛大學畢業,沒有本錢,想「刀仔鋸大樹」,聽聞窩輪成本低槓桿大、易翻本就投身學習炒窩輪,但一直都未能獲利。首先,窩輪到期日時,資產將會被收回,價格會變零,而窩輪有時間值消耗,一日蝕一點 、多日蝕多點。而到期日太短,窩輪價格會變得特別波動,對窩輪來說很容易只有蝕錢的份,「無仇報」。
引伸波幅?行使價?
引伸波幅過高時,即使背後資產沒有變動甚至增值,窩輪都有機會錄得虧損;過低時,窩輪價格減小。過低的窩輪對沖值,如相關系數一樣,遠接近0愈和資產走勢不相干。另外就是行使價,根據窩輪和背後資產價格關係,可以將窩輪分為價內、價外及平價三類。如果是認購證窩輪,當背後資產價格低於認股證行使價,則是價外;如果高於,就是價內;如果一樣,則是平價,認沽證情況相反。而價內風險一般被價外低,因為價內窩輪具有一定的內在價值,而價外窩輪內在價值為零。Jack作出總結,窩輪的價格原來由資產價格變動、引伸波幅、及距離到期日所影響。
Francis理解過後,決定小心處理以上問題,做足功課準備,目標一樣要「刀仔鋸大樹」,但結果都一樣未能成功。主要是輪商的潛在利益衝突,因為輪商就是窩輪的發行人,卻同時間身為價格、流通量和數據的提供者,背後亦可以透過買賣資產或正股獲利,有利益衝突。所以,有人會認為輪商與散戶對賭,情況像一場足球賽,球證旁證全是對手的自己人,當然自己人亦可公正無私,但若不公正,亦無人知道,怎可能確認這將會是公平的賽事?輪商可以人為控制街貨量和實際槓桿,以及剛才提到影響窩輪價格的引伸波幅,再加上時間值的損耗,令到這已經是一場出師有名的足球賽。
這主要不是策略問題,亦不是準備功夫問題,而是工具的問題,及公平與否的問題,這些都可以於比賽前知道。其實看好可以直接買入股票或受惠的資產類別。看淡可以買入期指期權、看淡ETF或對沖基金。勝輸必須出於計算,若輸的原因是人為,那麼自己的投資技巧永遠不可能增長。
撰文:施宏毅
════════════════════
?財務自由不是夢!把握機會免費體驗?
施傅【10年財務自由】1小時簡介+工作坊
立即試看:https://www.gregorysy.com/
════════════════════
❓有效 極速 儲存千萬❓
【零至千萬加速器】1小時簡介+工作坊
免費試看:https://edu.money-tab.com/pages/accelerator
════════════════════
茶敘50 《ALL or NOTHING》
立即購票:https://edu.money-tab.com/pages/teatalk-50-online
所有課程/活動一覽: https://money-tab.info/activity
施傅新書「量化交易」手冊
網上即買: https://www.money-tab.info/2020-book-purchase
✓ APP下載: http://onelink.to/mtapp
✓ 升級版: https://money-tab.com/membership
❖訂閱【富翁電視MTTV】頻道:
https://bit.ly/35dJW4Y
❖訂閱【我要做富翁】頻道:
https://bit.ly/35LOy2J
❖讚好Facebook專頁:
https://facebook.com/203349819681082
❖追蹤Instagram專頁:
https://www.instagram.com/money_tab/
nasdaq index 在 楊世光在金錢爆 Youtube 的評價
3/5起,股軒金錢爆完整版只在愛股軒學習終端機頂盒與微信【愛股軒掌握財金】公眾號播出。
機頂盒相關訊息請洽愛股軒官方
http://www.iguxuan.com/
請訂閱『股軒金錢爆』官方YouTube。
每晚九點,楊世光的『股軒金錢爆』在Youtube準時上架。
每晚八點,楊世光的『股軒金錢爆』在愛股軒準時上架。
http://www.iguxuan.com/index.php/teacher/index/id/39.html
敬请訂閱關注。謝謝。
nasdaq index 在 What is the NASDAQ Index and How Can You Trade it? 的八卦
Trade with zero comissions, no transaction fees and the tightest spreads on our app here:iOS: http://https://bit.ly/capitalcom-ios Android: ... ... <看更多>