linkedin music的八卦，YOUTUBE和Yahoo名人娛樂都在討論

กรณีศึกษา ดีลซื้อกิจการ ครั้งใหญ่สุดของ Apple /โดย ลงทุนแมน
หากเราพูดถึงดีลการซื้อกิจการระดับแสนล้าน ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในโลก

Microsoft ซื้อแพลตฟอร์มจัดหางาน LinkedIn 8.3 แสนล้านบาท
Facebook ซื้อแอปพลิเคชันแช็ต WhatsApp 6.1 แสนล้านบาท
Amazon ซื้อค้าปลีกรายใหญ่ Whole Foods Market 4.4 แสนล้านบาท
Google ซื้อกิจการ Motorola Mobility 4.0 แสนล้านบาท

ดีลธุรกิจระดับแสนล้านที่กล่าวมา ล้วนกลายเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มบริษัทเทคโนโลยี
ให้มีประสิทธิภาพและมีบริการที่ครอบคลุมขึ้น

แต่ในรายชื่อที่ว่ามานี้ ยังไม่มีชื่อของ Apple บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
ที่มีมูลค่าบริษัท 71.2 ล้านล้านบาท นั่นก็เพราะว่ากิจการที่บริษัท
ซื้อเข้ามาแพงที่สุดกลับมีมูลค่าไม่แพงมากนัก

โดยบริษัทที่ว่านั้น Apple ได้เข้าซื้อกิจการไปตั้งแต่ปี 2014 หรือราว 7 ปีก่อน
ด้วยมูลค่าเพียง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 9.5 หมื่นล้านบาท
แล้วบริษัทแห่งนั้น คือบริษัทอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
การเข้าซื้อกิจการที่มีมูลค่าสูงสุดของ Apple คือ บริษัทผลิตหูฟังที่มีชื่อว่า “Beats Electronics”

Beats Electronics เป็นบริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องเสียง
โดยผลิตภัณฑ์หลัก คือหูฟังและลำโพง
ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจอยู่ภายใต้บริษัท Apple เป็นที่เรียบร้อย

Beats หรือ Beats by Dr. Dre มีที่มาจากแรปเปอร์ชาวอเมริกัน Andre Romelle Young
ที่ในปี 2006 เขากับ Jimmy Iovine ผู้บริหารค่ายเพลงชื่อดัง
ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Beats Electronics

โดยต้องการเป็นผู้ผลิตหูฟังระดับพรีเมียมและได้ทำการเปิดตัว หูฟัง อันแรกในปี 2008

แต่เส้นทางกลับไม่ง่ายอย่างที่พวกเขาคิด
แม้สินค้าจะมีคุณภาพดี แต่ด้วยความที่คนยังไม่รู้จักแบรนด์
และราคาที่แพงถึง 10,500 บาท หูฟังรุ่นแรกที่ผลิตออกมาจึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก

จุดเริ่มต้นของ Beats เริ่มขึ้นจากการที่บริษัททำการตลาดผ่านแบรนด์หรือศิลปินที่มีชื่อเสียง

- ในช่วงปี 2009 Beats เปิดตัวหูฟัง Heartbeats โดยมี Lady Gaga ร่วมออกแบบและเป็นพรีเซนเตอร์ โดยเป็นหูฟังแบบ In-ear ที่เน้นความเป็นแฟชั่น

- ปลายปี 2009 ร่วมมือกับ HP โดย HP ทำการเปิดตัว Envy 15 โน้ตบุ๊กที่มาพร้อมกับระบบเสียงจาก Beats ซึ่งเป็นรุ่น Limited Edition โดยปุ่ม “B” ถูกเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์โลโก Beats

- ปี 2012 ได้ร่วมมือกับ Chrysler ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา เปิดตัวรถยนต์รุ่น 300S ซึ่งมีระบบเสียงจาก Beats

- ปี 2012 เช่นเดียวกัน ได้ทำการแจกหูฟังให้กับนักกีฬาทีมชาติอังกฤษ ในการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงลอนดอน เพื่อให้มีภาพของนักกีฬากำลังใส่หูฟังของ Beats ที่ถูกถ่ายทอดไปทั่วโลก

หลังจากการทำการตลาดอย่างหนัก ทำให้คนเริ่มรู้จักแบรนด์ Beats และเป็นที่ยอมรับมากขึ้น
จนในปี 2012 ส่วนแบ่งการตลาดของ Beats ในตลาดหูฟังระดับพรีเมียมสูงถึง 64%

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของ Beats เกิดขึ้นเมื่อปี 2012 คือการเข้าซื้อกิจการ MOG ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลง โดยมีสาเหตุการเข้าซื้อก็เพราะว่าทางบริษัทสามารถนำองค์ความรู้ของ MOG เพื่อมาพัฒนาเป็นของตัวเอง

และแล้วต้นปี 2014 “Beats Music” ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ซึ่งหลังจากเปิดตัวได้ 3 เดือน มีผู้ใช้งานสูงถึง 110,000 ราย

ณ จุดนี้เองที่ไปเข้าตา Apple
เนื่องจากในตอนนั้น iTunes ของ Apple ไม่สามารถสู้กับทาง Spotify ได้เลย
Beats Music จึงเป็นเหมือนคำตอบที่ Apple กำลังตามหา

ในปีเดียวกันนั้นเอง Apple จึงตัดสินใจซื้อกิจการ Beats Electronics ทั้งหมดด้วยมูลค่า 9.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเข้าซื้อกิจการที่มูลค่ามากที่สุดของ Apple ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว

คำถามที่ตามมาก็คือ Apple ซื้อ Beats ไป ได้อะไรกลับมาบ้าง ?

เหตุผลที่ Apple ตัดสินใจลงทุนด้วยจำนวนเงินขนาดนี้
ทาง Eddy Cue รองประธานอาวุโสด้านอินเทอร์เน็ตและการบริการของ Apple
ได้ให้เหตุผลแบ่งเป็น 2 ข้อหลัก ๆ ออกเป็น

1. ความสามารถของ Dr. Dre และ Jimmy Iovine

Beats Electronics เกิดขึ้นจากการรวมตัวของ Dr. Dre และ Jimmy Iovine
ซึ่งคนหนึ่งเป็นนักร้องแรปเปอร์ที่ประสบความสำเร็จ อีกคนมีประสบการณ์ด้านดนตรี

ทั้งสองมีความเข้าใจโลกของเพลง เข้าใจว่าผู้คนต้องการฟังอะไร ฟังอย่างไร และฟังในรูปแบบไหน
จึงไม่แปลกใจเลยที่บริษัทเติบโตและมีรายได้สูงถึง 37,692 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 8 ปี

การที่ได้ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับดนตรีเข้ามาร่วมทีม
จะทำให้ธุรกิจใหม่ของ Apple มีความเข้าใจและเลือกที่จะพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น

2. ผลิตภัณฑ์และองค์ความรู้ของ Beats

- แบรนด์หูฟัง Beats ที่มีฐานลูกค้าอยู่ในกลุ่มระดับพรีเมียม
ซึ่งระดับนี้ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Apple

- Beats Music คืออีกตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Apple ตัดสินใจในครั้งนี้
เพราะต้องการองค์ความรู้เพื่อนำมาพัฒนาสตรีมมิงของตัวเอง
ซึ่งปัจจุบันพัฒนามาเป็น “Apple Music” นั่นเอง

นอกเหนือจากเหตุผลที่ทางรองประธานอาวุโสได้ให้เหตุผลไว้
อีกเรื่องที่ Apple ได้จาก Beats ก็น่าจะเป็นเทคโนโลยีในการพัฒนาหูฟัง
ที่ทางบริษัทได้รุกเข้าสู่ตลาดหูฟังอย่างเต็มตัวครั้งแรกในปี 2016 กับ AirPods
หลังจากการเข้าซื้อกิจการเพียง 2 ปี

ก่อนที่จะปล่อยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็น AirPods หรือ AirPods Max
รวมถึงล่าสุด ที่มีการนำแบรนด์ Beats ไปพัฒนาสินค้ากลุ่ม True Wireless เพิ่มเติม

ปัจจุบัน Apple กลายมาเป็นบริษัทที่แม้จะไม่ได้เป็นบริษัทผู้ผลิตหูฟัง
แต่มีส่วนแบ่งการตลาดหูฟังประเภท True Wireless สูงที่สุดในโลก
โดยในปี 2020 Apple มีส่วนแบ่งในธุรกิจดังกล่าวมากถึง 31%

จากตรงนี้ ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Beats เองได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญ
ที่ทำให้ Apple ประสบความสำเร็จในผลิตภัณฑ์กลุ่มหูฟังรวมถึงการพัฒนาบริการสตรีมมิง

แม้ว่ามูลค่ากิจการที่ Apple จ่ายให้กับ Beats เหมือนว่าจะน้อยกว่า
เมื่อเทียบกับการเข้าซื้อกิจการของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อื่นพอสมควร

แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าแล้ว Beats ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในดีลการเข้าซื้อกิจการที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้ดีลไหนในโลก เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Beats_Electronics
-https://en.wikipedia.org/wiki/Beats_Music
-https://www.forbes.com/sites/zackomalleygreenburg/2018/03/08/dr-dres-3-billion-monster-the-secret-history-of-beats-3-kings-book-excerpt/?sh=37bf6d4c258d
-https://www.macthai.com/2014/05/27/history-of-beats-electronics-before-apple-acquisition/
-https://www.latimes.com/business/technology/la-fi-tn-apple-beats-brief-history-20140528-story.html
-https://medium.com/macoclock/why-did-apple-buy-beats-for-3-2-billion-92d3a5cab764
-https://www.reuters.com/article/idUS71812687520120321
-https://www.automotiverhythms.com/chrysler-a-beats-by-dr-dre-partner/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Jimmy_Iovine
-https://www.ukessays.com/essays/marketing/beats-by-dre-marketing-analysis-7363.php
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_mergers_and_acquisitions_by_Apple
-https://www.statista.com/statistics/325991/beats-music/

4 Tech Company รวมนักซื้อกิจการต่อยอดธุรกิจ (ฝั่งอเมริกา)
จากข่าวฮิตประเด็นร้อนล่าสุดที่ Microsoft จะเข้าซื้อกิจการแอปพลิเคชั่น Tiktok เพื่อต่อยอดธุรกิจของ Microsoft ถึงแม้จะไม่ใช่ธุรกิจที่ตัวเองเชี่ยวชาญ แต่ถือว่าเป็นเรื่องปกติในโลกของธุรกิจเพราะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัท จากการขยายฐานลูกค้า การผลิตสินค้าและบริการใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์หลักของบริษัท การตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยบริการที่ครบครัน การกำจัดคู่แข่งที่อาจมีการแย่งฐานลูกค้าในอนาคต
.
ประเด็นดังกล่าวทำให้เราได้รวบรวมเอาการซื้อกิจการของ 4 บริษัทใหญ่ Tech Company ทางฝากฝั่งอเมริกา ว่าได้มีการซื้อกิจการมามากน้อยแค่ไหน โดยจะนับเพียงกิจการ รวมถึงการซื้อโดเมนเนม ที่มีผู้จดทะเบียนไว้แล้วมาต่อยอดให้กับธุรกิจตัวเองเท่านั้น
.
1. Microsoft
เริ่มกันด้วยเจ้าของประเด็นร้อนที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันในขณะนี้ ที่ผ่านมา Microsoft ได้ซื้อกิจการมากถึง 242 บริษัท ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลวเช่นกัน โดยบริษัทที่คนไทยรู้จักดีก็คือ Skype ด้วยยอด 263,585 ล้านบาท, LinkedIn แพลตฟอร์มที่เป็นเหมือน resume online ถือเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดของ Microsoft เพราะจบดีลการซื้อขายไปถึง 812,462 ล้านบาท
.
2. Apple
นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท Apple ก็ถือเป็นอีกยอดนักซื้อกิจการเช่นกัน เพราะได้ช้อปไปแล้วทั้งสิ้น 116 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทไอทีที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีต่างๆ โดยบริษัทที่ทราบกันดีว่าถูก Apple ซื้อไปแล้วก็คือ บริษัท Beats Electronics ผู้ผลิตหูฟังคุณภาพและ Music Streaming ที่โด่งดังไปทั่วโลก มูลค่าทั้งสิ้น 93,030 ล้านบาท เป็นการใช้เงินสูงสุดของบริษัท Apple เพื่อนำมาพัฒนาบริการ iTunes และคุณภาพเสียงของผลิตภัณฑ์ในเครือ Apple นั่นเอง
.
3. Google
Google จริงๆ แล้วมีบริษัทแม่อย่าง Alphabet ที่เรียกได้ว่าเป็นนักช้อปตัวยงบริษัทอีกหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาได้มีการซื้อกิจการเข้ามาอยู่ในมือถึง 236 บริษัท ที่เรารู้จักกันดีก็คือ Youtube ที่สร้างรายได้จาก Youtube Ads ในครึ่งปีแรก 2563 มากถึง 243,428.5 ล้านบาท, Fitbit ปิดดีลการซื้อไปด้วยยอด 65,121 ล้านบาท
.
4. Facebook
แม้จะเป็นธุรกิจที่อายุน้อยแต่ Facebook ก็ซื้อธุรกิจมาแล้วกว่า 86 บริษัทด้วยกัน โดยดีลใหญ่ที่สุดก็คงเป็น แอปพลิเคชั่นแชทอย่าง Whatsapp ด้วยมูลค่าสูงถึง 676,018 ล้านบาท และแอปพลิเคชั่นสุดฮิตที่ทุกคนต้องมีติดมือถืออย่าง Instagram ได้ได้เซไปซบอก Facebook ด้วยมูลค่าซื้อ 31,010 ล้านบาท
.
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Teach Company เจ้าใหญ่ในฝั่งอเมริกา ทำให้เราเห็นได้ว่าทุกธุรกิจล้วนมีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ของโลกที่เปลี่ยนไป สุดท้ายนี้มาเอาใจช่วยกันว่า Microsoft จะสามารถปิดดีลการซื้อขาย Tiktok ให้เสร็จสิ้นก่อนกำหนดเส้นตายจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้หรือไม่ หรือจะมีม้ามืดจากบริษัทไหนมาช่วงชิงดีลนี้ไปได้ ก็ต้องรอติดตามชมกันต่อไป
.
ที่มา : https://marketeeronline.co/archives/180276
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#Microsoft #Tiktok #Business

#天下專欄 #月租之王Spotify成功掛牌帶來什麼啟發

Spotify 日前登陸紐約證交所，正式空降地表市值最高的音樂公司。

但這家音樂公司不賣音樂，而是靠著向用戶收取每月 150 到 500 元的月租費作為主要收入來源，在全球超過 7,100 萬活躍訂戶的貢獻下，每年營業額已達 1,170 億台幣，佔全球音樂產值超過四分之一。

Spotify 的成功，證明了網路帶來的不僅是通路的轉變，更是商業模式的重新發明。其中，訂閱服務尤其是近年來一股大勢力，顛覆各式各樣垂直，除了 Spotify，還有影劇的 Netflix、雲端儲存的 Dropbox、電商的 Amazon Prime，到求職求才的 LinkedIn Premium、圖片編輯軟體的 Adobe Creative Cloud，乃至於密碼儲存服務 1Password、大眾媒體 NYTimes.com、分眾媒體 Economist.com、Stratechery、The Information、學程式的 Mimo，都是靠每月自動扣繳服務費來賺取經常性營收。

在我看來，這股趨勢背後，至少有以下三個重點值得大家思考：

一、#網路原生族群已具消費力 ─ 出生於 1980 後的數位原住民，許多已經來到 30-40 歲年紀，開始有多餘的可支配所得，時間則隨著成家立業而越顯珍貴，因此，越來越多人不願消磨光陰在免費、非法的管道，寧可花錢買方便、買舒適、買體驗品質。也因此，網路從 20 年前非法下載充斥、沒人願意花錢買音樂，到如今全球有近 1.4 億、佔全體上網人口近 4% 的用戶，願意每月付費訂閱 Spotify、Apple Music 等歌曲串流服務。往前走，隨著網路原生用戶的年齡增長，付費訂閱服務的意願應該只會更高。

二、#服務內涵的無止境競爭 ─ 傳統以買賣為主的商業模式，買方往往受制於交易、溝通現場的競爭，必須更專注在讓客人買單，因此把力氣都花在商品的包裝、廣宣上，因而犧牲了對內涵、售後服務的重視。現在，當訂閱吃掉越來越多垂直，主要課題變成增加顧客的留存率，那麼競爭將會轉移到內容與服務上。

三、#不只大者恆大 ─ 與廣告支持的商業模式，必須依賴大量用戶基礎與日新月異的廣告技術不同的是，訂閱服務往往不需要昂貴的基礎建設，且在全球只要有數百、數千訂戶就能開始獲利。換言之，我們幾乎可以預期，除了 Spotify、Netflix 等千萬戶等級的大型服務，全球將有無數中小企業，乃至於個人，依靠經營小型訂閱服務來獲利，讓網路進入一個遍地開花、更健康的商業生態。

#SaaS #ParadigmShift

What are 7 things poor people do that the rich don’t? In this video, Dan Lok reveals some of the beliefs and habits that could be keeping you poor. Watch this video to find out what they are.

Enjoyed this video? Click here to discover what really separates the rich from the poor and the middle class: https://www.youtube.com/watch?v=RrUfXZPaxGE&index=34&list=PLEmTTOfet46OWsrbWGPnPW8mvDtjge_6-

★☆★BONUS FOR A LIMITED TIME★☆★
You can download Dan Lok's best-selling book F.U. Money for FREE:
http://www.fumoneybook.com

★☆★ SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ★☆★
https://www.youtube.com/user/vanentrepreneurgroup?sub_confirmation=1

Check out these Top Trending Playlist:
1.) How to Sell High Ticket Products & Services: https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46PlgDZSSo-gxM8ahZ9RtNQE

2.) The Art of High Ticket Sales - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46NufVkPfYhpUJAD1OBoQEEd

3.) Millionaire Mindset - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46O591glMGzRMoHaIJB-bQiq

Dan Lok, a.k.a. The King of High-Ticket Sales is one of the highest-paid and most respected consultants in the luxury and “high-ticket” space.

Dan is the creator of High-Ticket Millions Methodology™, the world's most advanced system for getting high-end clients and commanding high fees with no resistance.

Dan works exclusively with coaches, consultants, thought leaders and other service professionals who want a more sustainable, leveraged lifestyle and business through High-Ticket programs and Equity Income.

Dan is one of the rare keynote speakers and business consultants that actually owns a portfolio of highly profitable business ventures.

Not only he is a two times TEDx opening speaker, he's also an international best-selling author of over 12 books and the host of Shoulders of Titans show.

Dan's availability is extremely limited. As such, he's very selective and he is expensive (although it will be FAR less expensive than staying where you are).

Many of his clients are seeing a positive return on their investments in days, not months.

But if you think your business might benefit from one-on-one interaction with Dan, visit http://danlok.com

Music: Salvation by Ghostrifter Official
Soundcloud: https://soundcloud.com/ghostrifter-official
Facebook: https://www.facebook.com/GhostrifterOfficial
YouTube: https://www.youtube.com/c/GhostrifterOfficial
Instagram: https://www.instagram.com/ghostrifterofficial

★☆★ WANT TO OWN DAN'S BOOKS? ★☆★
http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002BLXW1K

★☆★ NEED SOLID ADVICE? ★☆★

Request a call with Dan:
https://clarity.fm/danlok


★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★

Blog: http://www.danlok.com/blog/
Podcast: http://www.shouldersoftitans.com/
Twitter: https://twitter.com/danthemanlok
Instagram: https://www.instagram.com/danlok/
YouTube: https://www.youtube.com/user/vanentrepreneurgroup
Linkedin: https://www.linkedin.com/in/danlok
Amazon: http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002BLXW1K

This video is about 7 Things Poor People Do That The Rich Don't
https://youtu.be/bTxOjLt30Ok
https://youtu.be/bTxOjLt30Ok

THÀNH CÔNG LÀ SỰ TRƯỞNG THÀNH TỪ VẤP NGÃ
Tác giả Đặng Hoàng Giang có đề cập trong cuốn Thiện, Ác và Smartphone rằng ở trong thế giới lý tưởng theo hình dung của ông có những nghi lễ tẩy rửa tội lỗi. Đó là cách chúng ta hoan nghênh đón chào những con người vấp ngã trở về với cộng đồng và có cơ hội đứng lên tử tế. Team Dustin On The Go cũng mang tâm niệm đó khi mò vào inbox (gửi thư) Facebook Page của Ngô Minh Hiếu (Hieupc) để gợi mở một cuộc trò chuyện tại Bar Stories.

Hieupc khi 15 tuổi đã là một hacker tại Việt Nam, sau đó bị tuyên án 40 năm tù vì đánh cắp số an sinh xã hội của 200 triệu người Mỹ. Sau thời gian cải tạo tốt, anh được ân xá xuống còn 7 năm tù, và đã kịp tiếp thu thêm kiến thức về huấn luyện kĩ năng điều tra tội phạm trong quá trình lĩnh án. Năm 2020, anh trở về Việt Nam vào thời điểm không gian mạng đã tràn ngập những tội phạm lừa đảo có hệ thống.

Hieupc làm cho ê kíp Dustin On The Go bất ngờ khi thành thật công khai về quá khứ tội lỗi của mình trên ứng dụng LinkedIn – một mạng xã hội dành cho người tìm việc làm – rằng anh từng là tội phạm công nghệ đã lĩnh án. Điều tuyệt vời hơn, hiện nay Hieupc đang là nhân viên an ninh mạng của Trung tâm giám sát an toàn không gian mạng quốc gia. Ngoài ra anh còn đang thực hiện hai dự án cộng đồng để hỗ trợ chống lừa đảo trên mạng dành cho tất cả mọi người, kể cả trẻ em: Chongluadao.vn và Cyberkid.vn

Bar Stories luôn mong muốn tôn vinh những cá nhân không giới hạn trong lĩnh vực giải trí nghệ thuật, mà còn là những con người có đóng góp và ảnh hưởng tích cực cho xã hội. Sự thành công không chỉ nằm ở con số, danh hiệu hay sở hữu được bao nhiêu vật chất, mà còn là biết đứng lên, nhận lỗi, sửa sai và thành thật với bản thân. Sự trưởng thành sau vấp ngã cũng là một thành công mà chúng ta nên hoan nghênh và chúc mừng.

HOÀN LƯƠNG NHỜ TÌNH YÊU THƯƠNG CỦA GIA ĐÌNH
Khi nói về cảm xúc khi nhận bản án 40 năm tù, Hieupc chia sẻ: "Giống như là rớt xuống địa ngục trần gian, em muốn thắt cổ tự tử". Thế nhưng chính bởi tình yêu thương của gia đình, đặc biệt là bố mẹ, cùng với những người bạn bè mà anh vượt qua được suy nghĩ định từ bỏ cuộc sống. Anh muốn dặn bản thân khi còn trẻ rằng: “Biết ai lợi dụng mình và biết ai yêu thương mình” để có thể có một tương lai tránh xa các cám dỗ và không bị sa lầy.

KHI HIEUTHUHAI CHẠM TRÁN “HIẾU THỨ NHẤT” – HIEUPC
Cuộc hội ngộ bất ngờ của một nhân vật cùng tên nhưng khác số phận, đang được yêu thích trong cộng đồng yêu nhạc hiphop, Trần Minh Hiếu (HIEUTHUHAI), cùng với Hieupc đã diễn ra trong không khí sôi động của trò chơi Liều Ăn Nhiều – khi chúng ta cùng với các nhân vật nhẩm lại những món ăn được gói bằng lá quen thuộc hay những cây cầu của Sài Gòn cho đến những màn ấp úng cực đáng yêu của HIEUTHUHAI.

Không những chơi game rất nhiệt tình, HIEUTHUHAI còn hào phóng đem đến liên khúc Chơi & Cua, và ca khúc mới nhất thực hiện cùng tổ đội GERDNANG (với sự tham gia trình diễn của HURRYKNG) trong chuyên mục Bar Live.

Xin chân thành cảm ơn sự hợp tác của các đối tác đã đồng hành cùng chúng tôi trong cuộc trò chuyện đặc biệt có một không hai này:
The Macallan – Single Malt Scotch Whisky
Error:102 – số 226 Đề Thám, Quận 1
Maybe
InQ
----------------------------------------
Công thức cocktails:
SPICE WHISKTY
1 quả xí muội đỏ
5ml nước xí muội cam thảo
Dầm nhẹ
15ml nước cốt gừng
15ml nước tắc ép
25ml đường
50ml The Macallan Double Cask 12
Lắc với đá
Trang trí gừng tươi, cam thảo, tắc, xí muội
----------------------------------------
CREDITS:
Sáng Tạo – Creative | Richard Vũ
Sản Xuất - Production | Dustin Phúc Nguyễn
Kể Chuyện - Host | Dustin Phúc Nguyễn
Biên Tập – Scriptwriting |Minh Thư
Quay Phim - Cinematography |1987 Team, Trí Trương
Nghệ Thuật – Art | Minh Nguyễn
Hậu Kì – Postproduction | Bảo Bình
Hoà Âm – Music Mix| Michael Choi
Hậu Kì Âm Thanh – Audio Mix | InQ International
Thiết Kế Logo – Logo Design | Simon D Phan
Nhiếp Ảnh – Photography | Tuấn Trần, Harry Vũ
Phối Trang Phục- Stylist | Sid Chung
Trang Phục (Host) – Outfit | AAH MIDNIGHT
Phụ Đề và Biên Dịch – Subtittles | betasubberteam@gmail.com
----------------------------------------­--------------------------------
Dustin On The Go chính thức bắt đầu từ tháng 4 năm 2017 sẽ là ngôi nhà mới của VJ Dustin trên Youtube với các chương trình talk show vui nhộn, phóng khoáng, và hiện đại cùng với nhiều nghệ sĩ nổi tiếng. Hãy luôn cùng đồng hành với Dustin trong mọi chặng đường nhé!
----------------------------------------­--------------------------------
Facebook ► https://www.facebook.com/dustinphuc.nguyen
Fanpage ► https://www.facebook.com/DustinOnTheGo/
Instagram ► https://www.instagram.com/dustinphucnguyen/
----------------------------------------­--------------------------------
VUI LÒNG KHÔNG ĐĂNG TẢI LẠI (RE-UP) LÊN KÊNH CỦA BẠN. CHÚNG TÔI LÀ YOUTUBE PARTNER NÊN KHI PHÁT HIỆN RE-UP SẼ BỊ REPORT KHIẾN KÊNH BẠN CÓ THỂ BỊ XOÁ HOẶC HẠN CHẾ CHỨC NĂNG.

10 ứng dụng hữu ích mà mình sử dụng nhiều nhất hàng ngày. Xem hết video để coi xem mỗi cái có tính năng gì hay ho và mình sử dụng như thế nào để có một ngày hiệu quả nhé.

Note: MacBook chạy hệ điều hành MacOS nhé, Sun nói nhầm thành IOS. Xin lỗi mn nhìu

Giúp Sun làm phụ đề cho video tại đây nhé: https://bitly.vn/9siv

Cách để có một ngày hiệu quả: https://youtu.be/nAlULEY9jE0

M E N T I O N E D:

1| Clock
2| Spotify
3| Foodie/ Ulike
4| Medium
5| Pinterest
6| Evernote
7| Instagram/Facebook/Youtube/Linkedin
8| P.C (Period Calendar)
9| Money Lover
10| Calm

F O L L O W M E
» Website: https://sunhuyn.wixsite.com/sunhuyn
» Instagram: https://www.instagram.com/sunhuyn/
» Fanpage: https://www.facebook.com/sunhuynvlog/

For business inquiries:
» Email: sunhuynblog@gmail.com

Music by Epidemic Sound

---------------------------------------------
» Camera: Canon G7X mark ii https://shorten.asia/NbjBpyn8
» Edit: Adobe premiere pro CC 2017
---------------------------------------------
❤ Sunhuyn
Hello! I'm Sunhuyn, a lifestyle blogger from Vietnam.
Sunhuyn is a blog about personal growth + lifestyle design, where I share knowledge and inspiration about creating your dream life.
✨ Don't be the same, be better✨

#sunhuyn #motngayhieuqua

© Copyright by Sunhuyn. Do not Reup