“เห็ด” เป็นเมนูยอดนิยมในช่วงเทศกาลกินเจ และคนทานมังสวิรัติ และยังถือว่าเป็นอาหารฟังก์ชันที่ตอบโจทย์สำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่รักสุขภาพ เนื่องจากเห็ดมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งยังมีสารประกอบที่มีคุณสมบัติทางยาช่วยให้เป็นผลดีต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น
.
- เห็ดทรัฟเฟิล >> มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน
- เห็ดหลินจือ >> ช่วยต้านโรคมะเร็ง และรักษาโรคในระบบต่าง ๆ เช่น ระบบทางเดินอาหาร
- เห็ดหูหนู >> รักษาโรคกระเพาะ ริดสีดวง ช่วยบำรุงหัวใจ ปอด กระเพาะอาหาร ตับ และเม็ดเลือดขาว
- เห็ดเข็มทอง >> รักษาโรคตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบเรื้อรัง และยับยั้งเซลล์มะเร็งที่เยื่อบุช่องท้อง
- เห็ดหอม >> ลดไขมันในเส้นเลือด ลดกรดในกระเพาะอาหาร เพิ่มภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็ง
- เห็ดนางฟ้า >> ช่วยปรับความดันโลหิต เพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย ลดการติดเชื้อและโรคในช่องปาก
- เห็ดฟาง >> บำรุงกำลัง เร่งการสมานแผล ลดความดันโลหิต แก้ชำใน และบำรุงตับ
.
โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ กก.ละ 20 – 300,000 บาท ซึ่ง “เห็ดทรัฟเฟิลขาวและดำ” ถือเป็นเห็ดที่แพงที่สุดในโลก มีราคาอยู่ที่ประมาณ 100,000-300,000 บาท เนื่องจากเป็นเห็ดที่หายาก ขึ้นอยู่ตามรากไม้ หรือชั้นใต้ดิน วิธีการเดียวที่จะหาเจอคือการใช้สัตว์ดมกลิ่น พบได้แค่ในอิตาลี ฝรั่งเศส และสเปนเท่านั้น
.
ในขณะเดียวกัน เห็ดหลายชนิดถือว่าเป็นเห็ดเศรษฐกิจ ที่หาได้ง่าย จำหน่ายง่าย และตลาดยังมีความต้องการสูง อีกทั้งเห็ดยังมีราคาคงที่ หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ทั้งในสถานการณ์ปกติ หรือแม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำก็ตาม ซึ่งต่างจากผลผลิตการเกษตรอื่นๆ ที่ราคามักเปลี่ยนแปลงไปตามความผันผวนของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ อาทิ ข้าว และยางพารา
.
อย่างไรก็ตาม แม้เห็ดจะมีสรรพคุณมากมาย แต่ก็ใช่ว่าเห็ดทุกชนิดจะสามารถทานได้หมด เพราะที่จริงแล้วเห็ดมีทั้งทานได้ และทานไม่ได้(เห็ดพิษ) เรามักเห็นหรือได้ยินข่าวว่ามีคนล้มป่วย เพราะการเก็บเห็ดในป่ามาทานนับครั้งไม่ถ้วน
.
เพื่อความปลอดภัย ทางที่ดีที่สุดควรเลือกเห็ดที่ถูกเพาะเลี้ยงในโรงเรือนมากกว่าเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติในป่า เนื่องจากเห็ดบางชนิดมีพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งถ้าทานในปริมาณมากอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งยังอาจผิดกฎหมายในฐานะผู้บุกรุก ถ้าพื้นที่บริเวณนั้น เป็นพื้นที่ในเขตอุทยาน หรือป่าสงวน แม้จะไม่ได้มีเจตนาไม่ดีก็ตาม
ที่มา : https://www.kasetprice.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94/20200701-20200716
http://fic.nfi.or.th/futurefood/novel_research_detail.php?id=14
https://th.openrice.com/th/bangkok/article/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2-a5486
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#เห็ด #เห็ดทรัฟเฟิล #Mushroom
futurefood 在 Future Food | The Menu of 2030 - YouTube 的八卦
As we struggle to feed our growing population, here is how the champions of technology are going to shape our food. : Gizmodo:"Eigh... ... <看更多>