เงินเก็บ 1 ล้านแรก เจ้าปัญหา
วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผมอ่านทวิตเตอร์ เจอทวีตข้อความจากน้องคนหนึ่ง อายุ 27 ปี มีอาชีพเป็นนักกายภาพ น้องเล่าว่าเก็บเงินล้านแรกได้ ภายใน 5 ปี จากเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท และมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร
น้องเค้าทยอยเล่ารายละเอียดเป็น Thread ยาว 10 ชุดข้อความ และมี Thread หนึ่ง อ้างอิงถึงผมว่า
“พอจบมาทำงาน โชคดีที่ได้ที่ทำงานดี ก่อนได้เงินเดือนๆ แรก เขาให้ไปอบรมการเงินกับโค้ชหนุ่ม Money Coach (กราบขอบคุณที่ได้ไปฟัง ไม่งั้นคงไม่มีเราในวันนี้แน่)”
น้องเขาหยิบสิ่งที่ได้เรียนกับผมในวันนัั้น มาเป็นกฎเหล็กในการบริหารเงินของตัวเอง ดังนี้
- อย่าก่อหนี้จนกว่าจะอายุ 30 ปี
- ก่อนอายุ 30 ปี ทำงานเพื่อประสบการณ์ และหลังจากทำงานจนเชี่ยวชาญแล้ว ให้เริ่มต้นสร้างธุรกิจ
- ถ้าคิดจะเป็นหนี้ ต้องเป็นหนี้ที่สร้างกระแสเงินสดให้เพิ่มขึ้น
- ออมขั้นต่ำ 10% ของรายได้
- มีเงินสำรองฉุกเฉิน 6 เท่าของรายได้ต่อเดือน
แต่ที่ผมชอบมากกว่า คือ วิธีการเก็บเงิน 1 ล้านบาท น้องเขาเขียนสรุปไว้ดังนี้ครับ
1. อย่าน้อยใจว่าจน เพราะมันไม่ช่วยอะไร การใฝ่สูงไม่ใช่เรื่องแย่ ผลดีจะตกแก่เราเอง
2. อย่ารู้แต่เก็บไงยังไง ให้รู้วิธีหาเงินด้วย มันจะช้ามากถ้าเราพยายามเก็บเงินจากรายได้ที่น้อย ถ้าคุณหารายได้เพิ่มเพื่อเก็บออม มันจะทำให้คุณออมได้มากกว่า 10-20% แน่ๆ
3. หาเงินยังไงให้ได้เยอะๆ มี 2 วิธี
3.1 คิดให้ออกว่าตัวเรามีมูลค่าอะไรบ้าง
3.2 อย่าเกี่ยงงานเด็ดขาด งานไหนเงินน้อยช่วงแรง อาจจะกลายเป็น Connecting dot ต่อยอดไปสู่งานรายได้สูงก็ได้
4. รู้จักตัวเองให้มากๆ มันช่วยเรื่องการเก็บเงินได้มากจริงๆ คือ เราจะรู้ว่าเรามีความสุขกับสิ่งไหน เวลาเจอสิ่งยั่วยุ จะได้ไม่หลงเพลินเสียเงินไปกับมัน
5. กดดันและให้รางวัลกับตัวเองบ้าง วัยรุ่นเป็นวัยที่มีไฟนะ มีพลังมากมาย เราควรเคี่ยวกรำตัวเองให้หนัก เพราะตื่นนอนมาก็หายเหนื่อย เพื่อตอนแก่จะได้ขี้เกียจให้สมใจ ระหว่างทางที่เก็บเงินก็หล่อเลี้ยงหัวใจตัวเองไปด้วย เพราะศึกนี้ยาวนาน เดี๋ยวจะตายเสียก่อน
พอได้อ่านข้อความทั้งหมด เห็นว่าน่าสนใจ ผมก็เลยรีทวีตต่อ เพื่อให้คนได้อ่านเรื่องราวดีๆ ของน้องคนนี้
ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง น้องส่งข้อความมาทัก ดีใจที่ผมเอาเรื่องของเขาไปแชร์ เราจบการสนทนาด้วยการที่ผมอวยพรให้น้องเค้ารักษาวินัย และเก็บเงินล้านที่ 2 ได้เร็วๆ
คิดว่าเรื่องจะจบเท่านั้น แต่ไม่ใช่เลย ...
หลังจากนั้นมีคนหยิบข้อความของน้องเค้าไปรีทวีตซ้ำอีกร่วม 60,000 ครั้ง (ประมาณแชร์ในเฟซบุ๊ก) กดไลค์กันไปอีก 40,000 เศษ ผมเลยตามไปอ่านข้อความ
ส่ิงหนึ่งที่รู้สึกคือ ถ้าเป็นคนติดตามโค้ชหนุ่มอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเข้าไปแสดงความยินดี เพราะเหมือนจะเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องที่ได้ยินได้ฟังกันบ่อยอยู่แล้ว (ลูกศิษย์โค้ชอายุไม่ถึง 30 ปี สะสมเงินล้านได้เยอะแยะ)
แต่ก็มีอีกกลุ่มเบ้อเริ่มที่แสดงความคิดเห็นไปในทางลบ ซึ่งหลังจากจัดหมวดหมู่แล้ว แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ
1. ไม่เชื่อว่าคนเงินเดือน 15,000 จะเก็บเงินล้านได้
ประเด็นนี้น้องเค้าก็ออกมาอธิบายละเอียด เขาเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 ก็จริง แต่รับงานพิเศษดูแลทำกายภาพให้กับผู้ป่วยทางบ้าน ซึ่งได้รับค่าจ้างชั่วโมงละ 1,000 บาท คิดง่ายๆ ว่าสัปดาห์หนึ่งรับงานพิเศษ 6-8 ชั่วโมง ก็ตก 6,000-8,000 บาทต่อสัปดาห์ 24,000-32,000 บาทต่อเดือน มากกว่าเงินเดือนเสียด้วยซ้ำ (แต่ที่ยังทำงานประจำอยู่ เพราะมันคือแหล่งที่มาของงานพิเศษ)
แล้วถ้าทำหนึ่งปี จะมีรายได้เพิ่มจากส่วนนี้อย่างน้อยๆ 300,000 กว่าบาท แล้วน้องเค้าทำงานนี้มา 5 ปีแล้ว ตัวเลขก็ไม่เกินไปที่จะเก็บได้จริง
2. จะมีเงินล้านได้ ต้องลงทุน ทำงานเก็บเงินไม่มีทาง
อันนี้ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดมาก การทำงานสร้างรายได้ได้เร็วกว่าผลตอบแทนการลงทุนอีกนะครับ ยกตัวอย่าง ถ้าเรามีเงิน 10,000 เราเอาไปลงทุน ได้ผลตอบแทน 30% ต่อปี (ซึ่งสูงมากนะ) เราก็จะมีกำไรเท่ากับ 3,000 บาท
แต่กับอีกคนเอาเงินไปซื้อกระทะ ซื้อลูกชิ้นมาทอดขาย ทำน้ำจิ้มแซบๆ ขายไม่กี่วันก็ทำกำไร 3,000 บาทได้สบายๆ
3. หาข้ออ้างที่จะบอกว่า เราทำไม่ได้เหมือนเขา
กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่จะศึกษาเรื่องราวโดยละเอียด เพื่อหาข้ออ้างดีๆ ให้ตัวเองว่าทำไมเราเก็บเงินล้านไม่ได้ เช่น
- แค่อาชีพเรากับเค้าก็ต่างกันแล้ว อาชีพเราหารายได้เสริมไม่ได้
- ห้ามมีหนี้ก่อน 30 งั้นเหรอ! ผมจบมาก็มีหนี้ กยศ. แล้ว หมดสิทธิ์!
- รายได้กินใช้คนเดียวเลยหรือเปล่า ถ้าต้องให้พ่อแม่คงทำไม่ได้
- น่าจะต้องอยู่โรงพยาบาลดี ถึงได้ลูกค้ามีกำลัง
- ฯลฯ
สุดท้ายจากเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ กลายเป็นต้องมาตอบคำถามคนโน้นคนนี้เต็มไปหมด และที่หนักไปกว่านั้น ผมเองก็โดนหางเลขไปด้วย เพราะมีคนตั้งข้อสงสัยว่า “หรือนี่เป็นแผนโฆษณาคอร์สไอ้โค้ชของมัน เขียนมาเล่า มาอวยกัน เพื่อสุดท้ายจะได้ขายคอร์ส“ 555
ว่ากันตามจริง เวลาที่หยิบเรื่องราวลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จทางการเงินมาเล่าให้สาธารณะฟัง ผมจะบอกเสมอว่า มันไม่ใช่ผลงานของเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นความสามารถของเจ้าของเรื่องเองล้วนๆ ความสามารถที่ว่านั้นประกอบด้วย
1. ความสามารถในการประยุกต์ความรู้การเงินไปใช้ให้เหมาะกับตัวเอง: เพราะผมก็พูดก็สอนเหมือนกันทุกวันกับทุกคน สุดแท้แต่ว่าใครจะหยิบจับไปใช้กับตัวเองอย่างไร
2. วินัยในการลงมืออย่างต่อเนื่อง: ฟังว่า 5 ปีเก็บสะสมเงินได้ 1 ล้าน เราอาจจะรู้สึกว่าไม่นาน แต่ผมกล้าพูดเลยว่า เจ้าของเรื่องไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นแน่ๆ เพราะเงินในกระเป๋าต้องผ่านการตัดสินใจทุกวัน
3. ความพยายามที่จะต้องก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง: แม้ว่าจะมีงานชั่วโมงละ 1,000 บาทรออยู่ แต่ไม่มีหรอกที่จะไม่รู้สึกเหนื่อย รู้สึกขี้เกียจ แล้วอยากนอนดูซีรีย์อยู่บ้าน ดังนั้นต้องเคารพความพยายามของเจ้าของเรื่องด้วย
สิ้นวันน้องเขาส่งข้อความหาผมอีกครั้ง ขอโทษที่เรื่องราวกลายเป็นดรามาไป ผมตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไร ยังไงก็เงินเรา ใครเชื่อไม่เชื่อ ก็ไม่ได้ทำให้เรารวยขึ้นหรือจนลง”
ในโลกที่ MINDSET ทางการเงินไม่ตรงกัน เถียงกันไปก็ใช่ว่าจะเกิดประโยชน์ คนที่เคยทำ เคยสู้ เคยผ่าน ยอมเชื่ออย่างหนึ่ง ส่วนคนที่เอาแต่มอง แต่เล็ง คอยหาเหตุผลที่ตนทำไม่ได้ ก็ย่อมเชื่ออีกอย่างหนึ่ง
เถียงกันไปก็เสียเวลาครับ
โค้ชหนุ่ม
02-01-2021
#Day3 #MoneyCoachDiary #เงินเก็บ1ล้านเจ้าปัญหา
ปล. ตามทวิตเตอร์โค้ชหนุ่มทาง @moneycoach4thai นะครับ
Search
เงินเก็บ1ล้านเจ้าปัญหา 在 เก็บเงิน 1 ล้านบาทแรกยังไงดี? | #มันนีโค้ชพบประชาชน - YouTube 的八卦
อยากจะ เก็บเงิน 1 ล้าน บาทแรก มีวิธี เก็บ ยังไงและต้องทำยังไงบ้าง? #ไฮไลท์มันนีโค้ชพบประชาชน #TheMoneyCoachTH. ... <看更多>