#ดูชนาธิปที่ซัปโปโรโดมต้องใช้เงินเท่าไร? โดย จอน
SAPPORO
//แอดมินJKL
กิน / เที่ยว / ฟุตบอล / ชนาธิป
#อยากดูชนาธิปที่ซัปโปโรโดมต้องใช้เงินเท่าไร?
เป็นคำถามที่ผมได้รับมาบ่อยมาก หลังจากที่ผมกับเพื่อนๆ เดินทางไปชมเกมที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เปิดบ้าน ณ สนามซัปโปโร โดม เอาชนะ วิสเซิ่ล โกเบ 2-1 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา
อะ เรามาว่ากันเลยว่า ต้องใช้ต้นทุนเท่าไร และต้องจัดการเรื่องใดกันบ้าง....
#ขั้นตอนเตรียมตัว
จากเมืองไทยไปฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น มีทั้งแบบบินตรง และแบบต่อเครื่อง ซึ่งครั้งนี้ ผมจองตั๋ว ไป-กลับ ของสายการบินไทย ราคาประมาณ 16,500 บาท โดยจองก่อนเดินทางราวๆ 3 เดือนครับ นอกจากสายการบินไทย ยังมีสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ที่มีเที่ยวบินตรง หรือหากใครสะดวกแบบต่อเครื่อง ก็ยังมีอีกหลายสายการบินให้เลือกตามงบประมาณที่ตั้งไว้
ขั้นต่อมา คือ การจอง JR Hokkaido Rail Pass สามารถใช้งานรถไฟ JR ได้ทั่วฮอกไกโด (ไม่รวมรถไฟชินคันเซน) ซึ่งเป็นรถไฟที่ใช้เดินทางจากสนามบินเพื่อเข้าเมือง หรือจากเมืองซัปโปโร ไปยังเมืองอื่นๆ โดย JR จะมีหลายประเภท ตามจำนวนวันให้เลือก ซึ่งทริปนี้เราเลือกใช้ JR Flexible 4 วัน (แบบไม่ต่อเนื่อง) ราคาประมาณ 6,300 บาท โดยซื้อได้จาก H.I.S ทุกสาขาในประเทศไทย หรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
หากคุณไม่เที่ยวต่างเมืองที่ไกลมากๆ ก็ไม่ต้องซื้อครับ ตรงส่วนนี้ก็ประหยัดไปได้
เรื่องซิมมือถือ ก็สามารถซื้อซิมได้เลยที่สนามบิน ราคาไม่แพงนัก ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ โดยทริปนี้ ผมเลือกใช้ซิม เจแปน ทราเวล ซิม ของ True Move H (จำนวน 6GB ราคา 399 บาท)
สุดท้ายที่ต้องเตรียมตัว คือ เรื่องตั๋วเข้าชมฟุตบอล ซึ่งสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ J league อย่างเป็นทางการ https://www.jleague.jp/en/ticket/ หรือเว็บไซต์หลักของสโมสร https://international.consadole-sapporo.jp/th/ticket ซึ่งรายละเอียดราคาตั๋วและโซนที่นั่งในสนาม สามารถเลือกได้ตามต้องการ โดยราคาตั๋วที่ผมดูนั้น คือ 5,000 เยน หรือประมาณ 1,600 บาทครับ
#ออกเดินทาง
พวกผมออกเดินทางกันช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 29 เมษายน และถึงตอนเช้าของวันที่ 30 เมษายน นะครับ ถึงสนามบินนิว ชิโตเสะ เมืองฮอกไกโดปุ๊ป ก็นั่งรถไฟ JR เดินทางต่อทันทีไปยังเมืองฮาโกดาเตะ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง
ตรงส่วนนี้นะครับ หากใครที่ต้องการประหยัด ต้องการโฟกัสที่ฟุตบอล และต้องการอยู่แค่เมืองซัปโปโร คุณก็สามารถตัดเมืองฮาโกดาเตะไปได้เลย เพราะคุณจะประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งค่ารถไฟ JR ประหยัดค่ากิน และประหยัดค่าที่พักด้วย
#Hakodate
ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองที่สวยมากครับ พวกผมอยู่ที่นั่นจำนวน 2 คืน เป็นช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานสะพรั่งพอดีด้วย โดยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของที่นี่ ก็มี ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku) หรือ ป้อมตราดาวห้าแฉก ซึ่งต้องซื้อตั๋วขึ้นไปชมจากด้านบนป้อม ราคา 900 เยนครับ
ที่เที่ยวต่อมา คือ ตลาดปลาอาไซจิ ฮาโกดาเตะ (Asaichi Morning Market Hakodate) ซึ่งพวกผมไปกินอาหารทะเลกันแบบอร่อยมาก ปูตัวใหญ่ เนื้อแน่นมาก และปิดท้ายที่ โกดังอิฐแดงคานาโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)
ค่าใช้จ่าย 2 คืน ที่ฮาโกดาเตะ ของผมนั้น รวมทุกอย่างทั้งค่าเดินทาง, ค่าที่พัก, ค่ากิน, ค่าดื่ม ฯลฯ ก็เฉียดๆ หมื่นบาทไทย หากรวมค่ารถไฟ JR ด้วย ก็เกินหมื่นแน่นอน ซึ่งถ้าใครอยากจะเซฟเงิน ตัดส่วนนี้ไปได้เลยนะครับ
#Sapporo
ผมเดินทางจากเมืองฮาโกดาเตะ สู่เมืองซัปโปโร ในวันที่ 2 พฤษภาคม นะครับ ใช้เวลาราวๆ 4 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยวิธีนั่งรถไฟ JR (ก็คือใช้บัตรที่ซื้อมาแต่แรกนั่นแหละครับ)
#การเดินทางในเมืองซัปโปโร
ส่วนใหญ่จะใช้ Subway มีทั้งหมด 3 สายหลัก
1. สายสีเขียว (Namboku Line)
2. สายสีส้ม (Tozai Line)
3. สายสีฟ้า (Toho Line)
ราคาตั๋ว Subway ก็มีหลายแบบนะครับ
1. ตั๋วแบบใช้ครั้งเดียว
ราคาตั๋วเริ่มต้นอยู่ที่ 200 เยน สำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว โดยไกลสุดอยู่ที่ประมาณ 320 เยน
2. ตั๋วแบบเหมา 1 วัน (ไม่จำกัดเที่ยว)
• ตั๋ว One-day pass นั่งได้ทุกสาย ราคา 830 เยน ในวันธรรมดา
• ตั๋ว Donichika (One day Card) นั่งได้ทุกสาย ราคา 520 เยน มีเฉพาะวันหยุดหรือเทศกาลวันหยุดยาว
ทริปที่ผมไปนี้ตรงกับช่วงวันหยุดยาวของประเทศญี่ปุ่น หรือ Golden Week พอดี เพราะฉะนั้นที่ตู้กดตั๋ว Subway จะมีตั๋ว One day Card ให้กดได้ในราคา 520 เยน ซึ่งถือว่าคุ้มมาก ถ้าหากเราเดินทางโดย Subway เป็นหลัก
#จอนนอนไหน
ผมพักที่เมืองซัปโปโร เป็นเวลา 5 คืนนะครับ คือคืนวันที่ 2-6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยนอนที่อพาร์ทเมนต์ที่ชื่อว่า Prince Heights (จองผ่านทาง Airbnb) ซึ่งนอนได้หลายคน มีทุกอย่างคล้ายๆ คอนโด หรือหอพักเล็กๆ แม้กระทั่งเครื่องซักผ้า, ไมโครเวฟ, ฮีตเตอร์, ไดร์เป่าผม, ตู้เย็น และ โทรทัศน์ ก็มีนะครับ อยู่นานก็ซักผ้าได้สบายๆ ครับ
Prince Heights อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า Toyohira Koen นะครับ โดยแหล่งท่องเที่ยวจะอยู่ที่สถานี Susukino ซึ่งห่างไปเพียงแค่ 2 สถานีเท่านั้น และห่างจากสนามฟุตบอลแค่ 3 สถานีรถไฟฟ้าด้วยกัน (บริเวณสถานี Susukino จะมีโรงแรมให้เลือกเยอะมาก และใกล้สถานที่ท่องเที่ยว แต่ราคาก็จะสูงตามไปด้วยครับ)
ราคาที่พักของพวกผมนั้น อยู่ที่ราวๆ 14,000 บาท ทั้งหมด 5 คืน นอนกัน 3 คนก็ตกคนละประมาณ 1 พันบาทต่อคืนต่อคนนะครับ
#สนามซ้อม MIYANOSAWA
วันที่ 3 พฤษภาคม ผมเดินทางไปดูการซ้อมของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ที่สนามซ้อมมิยาโนซาว่า ซึ่งการเดินทางไปสนามซ้อมก็ง่ายๆ ครับ กดตั๋ว Subway แบบ One Day Pass แล้วนั่งสายสีส้ม (Tozai Line) ลงที่สถานี Miyanosawa (สุดสาย) ทางออก 5 เลี้ยวขวา แล้วเดินไปประมาณ 700 เมตร สนามซ้อมจะติดกับโรงงานช็อคโกแลต ISHIYA
การซ้อมที่สนามซ้อม จะเปิดให้คุณชมฟรี โดยสามารถเช็คตารางการซ้อมได้จากเว็บไซต์ของสโมสรเลยนะครับ และเมื่อชมซ้อมเสร็จก็สามารถช็อปปิ้งได้ที่ช็อปของสโมสร หากท่านหิว ก็มีร้านอาหารวิวสุดจะดีที่ตั้งอยู่บนอัฒจันทร์ไว้คอยบริการในราคาที่ไม่แพง หากเทียบกับวิวทิวทัศน์ที่จะได้รับ
พออิ่มเอมกับสนามซ้อมแล้ว ก็เดินออกมาและข้ามฝั่งถนนข้างๆ ก็จะเจอกับ โรงงานช็อคโกแลต ISHIYA ที่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ฟรี (ไอศครีมอร่อยมาก แนะนำเลยครับ)
#SapporoDome
อะ มาถึงวันแข่งขันจริงละครับ วันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ สนามซัปโปโร โดม
การเดินทางก็ง่ายๆ ครับกดตั๋ว Subway แบบ One Day Pass เหมือนเคย แล้วเดินทางยาวมาถึงสุดสายสีน้ำเงินที่สถานี Fukuzumi ซึ่งควรจะเดินทางมาก่อนเวลาเตะราวๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้เติมเต็มช่วงเวลาดีๆ ของคุณ เนื่องจากมีอะไรให้ไขว่คว้าเยอะมากๆ เลยครับ
เดินให้ทั่ว เดินให้รอบ เดินแล้วเดินอีก ไม่รู้จะอธิบายยังไง ต้องไปสัมผัสเองครับ
#เที่ยวที่ไหนอีกดีในซัปโปโร
นอกจากสนามซ้อม และสนามแข่งขันจริงแล้ว ผมยังเหลือวันที่ 5-6 พฤษภาคม ไว้เที่ยวในตัวเมืองซัปโปโรอีก ซึ่งในเมืองซัปโปโรนั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำหลายแห่งนะครับ
1. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) สำหรับคนที่ชอบทานเนื้อ และเนื้อแกะ พร้อมกับจิบน้ำมีฟองไปด้วย
2. สวนโอโดริ (Odori Park) และ ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) แลนด์มาร์คที่คนชอบไปถ่ายรูปด้วยในเมืองซัปโปโร
3. สวนสาธารณะ (Maruyama Park) เป็นสวนสาธารณะที่บรรยากาศดีมากๆ ซึ่งมีทั้งสวนสาธารณะ, สวนสัตว์, ป่า และ ศาลเจ้าฮอกไกโด ที่มีตลาดเล็กๆ ขายของกินขายเด็กเล่นอยู่ด้วย
#ไปอิ่มที่โอตารุ
หากใครที่ยังเหลือเวลาและไม่ได้ซื้อตั๋วรถไฟ JR แบบเหมาหลายวัน แต่อยากออกไปเที่ยวนอกเมืองซัปโปโรบ้าง ก็ขอแนะนำเมืองโอตารุนะครับ นั่งรถไฟ JR เพียงแค่ประมาณ 40 นาทีเท่านั้น สามารถซื้อเป็นเที่ยวได้
ที่โอตารุ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวโดยใช้เวลาวันเดียวก็เที่ยวจนอิ่มได้
เริ่มจาก ตลาดโอตารุซังคาคุ (Otaru Sankaku Market) ตลาดอาหารทะเลของเมืองที่สามารถเดินจากสถานีรถไฟประมาณนาทีเดียว จากนั้นก็เดินไปต่อกันที่คลองโอตารุ ซึ่งจะมีที่ให้เดินเที่ยวเยอะเลยครับ
ต่อมา กระเถิบไปอีกนิดก็จะมี "อาซาริกาวะออนเซ็น" (Asarigawa Onsen) ที่เดินทางเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น ด้วยรถบัส โดยจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และการแช่ออนเซ็นรอคุณอยู่
#เบ็ดเสร็จเท่าไร
เอาเฉพาะของผมนะครับ จำนวน 9 วัน 7 คืนที่ฮอกไกโด
ค่าเครื่องบิน 16,500 บาท
ค่าที่พัก 7 คืน ประมาณ 7,000 บาท
ค่ารถไฟ JR (ข้ามเมือง + เดินทางจากสนามบิน) ประมาณ 6,300 บาท
กิน+เที่ยว+ดื่ม ประมาณ 15,000 บาท
ของฝาก (รวมเสื้อชนาธิป สรงกระสินธ์ เกรด Replica, เสื้อทีมชาติญี่ปุ่น, เสื้อเบสบอล และ ผ้าพันคอที่นำมาแจกในเพจจอน) ประมาณ 12,000 บาท
ค่าเดินทางภายในเมืองซัปโปโร เฉลี่ยวันละ 520 เยน (ไม่รวมแท็กซี่บางกรณ๊ที่ฝนตก) รวม 5 วันก็ราวๆ 2,500 เยน หรือประมาณ 900 บาท
ค่าตั๋วฟุตบอล ประมาณ 1,600 บาท
รวมๆ แล้วก็ประมาณ 60,000 บาท
#ถูกสุดเท่าไร
หลายคนตั้งคำถามว่า แล้วถ้าจะไปแบบประหยัดหน่อย สักกี่วันดี ผมคิดว่า 3-4 คืนก็กำลังเหมาะนะครับ ดูซ้อม 1 วัน ดูฟุตบอล 1 แมตช์ เที่ยวอีกราวๆ 2 วัน
ตัดค่ารถไฟ JR แบบเหมา
ตัดการใช้จ่ายที่ฮาโกดาเตะ
ตัดการกินดื่มเที่ยวกลางคืนแบบบ้าระห่ำ
ตัดจำนวนวันที่ต้องเสียเพิ่มไปกับการเช่าห้องพัก
ตัดการซื้อของฝากที่แต่ละท่านก็คงซื้อไม่เท่ากัน
บวกกับได้ไฟล์ทบินที่ถูกกว่านี้
และได้ห้องพักที่ถูกกว่านี้ (ช่วงที่ผมไป เป็นช่วงโกลเด้นวีคพอดี)
ผมคิดว่า ความเหมาะสมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 30,000-35,000 บาท อาจจะอยู่นะครับ
ลองดูครับ ไม่ลองก็ไม่รู้ ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วค่อยกลับมาใช้หนี้ให้กับประสบการณ์และรอยยิ้มเหล่านั้น เหมือนที่ผมทำอยู่ 555555
ขอบคุณที่อ่านการรีวิวครั้งนี้ของผม
มือใหม่หัดรีวิว
"จอนเอง"
25-05-2562
