Sean Parker อดีตแฮกเกอร์ ผู้เคยเป็นประธานบริษัท Facebook /โดย ลงทุนแมน
หากใครที่เคยรับชมภาพยนตร์ “The Social Network”
ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบริษัท Facebook
รวมถึงผู้ก่อตั้งวัยหนุ่มที่ชื่อว่า Mark Zuckerberg
คงไม่มีทางลืมตัวละครหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Sean Parker อย่างแน่นอน
ชายที่มีความยียวนกวนใจ แต่ก็แฝงไปด้วยความเฉลียวฉลาด
ซึ่งเขาคนนี้ เป็นคนที่ไม่ว่าจะพูดอะไร Mark Zuckerberg ก็เห็นดีเห็นงามไปหมด
ถึงขนาดที่ยกตำแหน่งประธานบริษัท Facebook ให้กับ Parker ไปเลย
แม้ว่าในช่วงเวลานั้นเขาจะมีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น
ซึ่งถ้าหากดูประวัติของ Sean Parker อย่างละเอียด
ก็คงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชายคนนี้ถึงสามารถจูงใจ
และมีอิทธิพลต่อ Mark Zuckerberg อย่างมาก
แล้วประวัติของ Sean Parker น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Sean Parker เกิดที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1979
เมื่ออายุได้ 7 ขวบ พ่อของเขาทำให้เขาได้รู้จักอีกโลกหนึ่งนั่นคือ โลกของคอมพิวเตอร์
โดยพ่อของเขาได้สอนวิธีเขียนโปรแกรมบนเจ้าคอมพิวเตอร์รุ่น Atari 800
ตั้งแต่นั้นมา Sean Parker ก็ได้หลงรักและสามารถเขียนโคดเป็นตั้งแต่เด็ก
จากทักษะและความชอบสิ่งนี้ ส่งผลให้ชีวิตของ Sean Parker เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
เริ่มตั้งแต่ในช่วง 15 ปี Sean Parker ได้สร้างวีรกรรมที่โด่งดัง จน FBI ต้องสืบและตามจับ
โดยสิ่งที่เขาทำคือการแฮกฐานระบบข้อมูลของมหาวิทยาลัยและบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก
จริง ๆ แล้ว เขามักจะแฮกข้อมูลเป็นงานอดิเรกเพราะไม่มีใครตามจับได้
แต่ในที่สุดเขาก็ถูก FBI จับได้ ขณะที่กำลังแฮกข้อมูลบริษัทอื่นอยู่
และเหตุผลที่เขาโดน FBI ตามตัวจนพบ
ก็เพราะว่าพ่อของเขาเข้ามายึดคีย์บอร์ดไว้ เนื่องจากเห็นว่าลูกของตนเล่นคอมพิวเตอร์มากจนเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถออกจากระบบได้ทันเวลา จึงส่งผลให้ FBI ตามสืบได้
แต่เนื่องจาก Sean Parker มีอายุเพียง 15 ปี
โทษที่เขาได้รับจึงเป็นเพียง การบำเพ็ญประโยชน์ให้กับชุมชนเท่านั้น
จากเรื่องนี้แม้สุดท้าย Sean Parker จะโดนจับได้
แต่ก็ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงในวงการนี้มากขึ้น
ทำให้เขาได้รู้จักกับชาวแฮกเกอร์วัยเดียวกันที่ชื่อว่า “Shawn Fanning”
ซึ่งคนนี้เองเป็นคนที่กำลังจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของเขา
ด้วยนิสัยใจคอและความชอบที่เหมือนกัน จึงทำให้ทั้งสองตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน
โดยไอเดียธุรกิจแรกที่พวกเขาคิดคือ Crosswalk ที่จะเข้ามาช่วยป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์
แต่เนื่องจากทั้งคู่ยังมีประสบการณ์ที่น้อย จึงยังไม่สามารถผลักดันให้กลายเป็นธุรกิจจริงได้
ทั้งสองจึงตกลงแยกย้ายกันไปฝึกทักษะและหาประสบการณ์เพิ่มเติม
เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้กลับมาร่วมทำธุรกิจกันอีก
ปีต่อมาเมื่อ Sean Parker อายุ 16 ปี เขาก็ได้ทำโปรแกรมที่รวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ในยุคแรก ๆ ขึ้นมาสำเร็จ ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลงานวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์แห่งรัฐเวอร์จิเนีย
และเป็นที่ถูกอกถูกใจของหน่วยงาน CIA เป็นอย่างมาก ถึงขนาดต้องการจ้างเขาเข้ามาทำงาน
แต่ Sean Parker ก็ได้ปฏิเสธเพราะตนสนใจเรื่องธุรกิจมากกว่า
จึงทำให้เขาเลือกทำงานกับเหล่าบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ
เช่น FreeLoader และ UUNet บริษัทผู้บุกเบิกการให้บริการทางอินเทอร์เน็ต
ในปีสุดท้ายของการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลาย เขาสามารถสร้างเงินได้ถึง 2.5 ล้านบาท
ซึ่งเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้พ่อแม่ของเขาปล่อยให้เขาเลือกที่จะไม่เรียนมหาวิทยาลัยต่อ
ช่วงเวลานี้เองที่ Shawn Fanning เพื่อนแฮกเกอร์คนสนิทของเขาก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
และเขาก็ได้เล่าถึงโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมา ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ไฟล์เพลงบนโลกอินเทอร์เน็ตได้
Sean Parker เห็นว่าโปรแกรมนี้สามารถต่อยอดไปได้อีกไกล
จึงเกลี้ยกล่อมเพื่อนของเขาให้นำมาสร้างเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง
ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ต่อยอดโปรแกรมดังกล่าวกลายมาเป็น “Napster”
แพลตฟอร์มที่ให้ผู้คนสามารถแชร์และดาวน์โหลดเพลงด้วยกัน
Napster ได้สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมวงการเพลงอย่างมาก
ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตเพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้คนส่วนใหญ่หันมาดาวน์โหลดเพลง
บนโลกอินเทอร์เน็ตแทนการซื้อเพลงแบบออฟไลน์ อย่างเช่น แผ่นเสียงและซีดี
เรื่องดังกล่าว เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนยุคหลังเปลี่ยนพฤติกรรมมาฟังเพลงบนโลกออนไลน์
และ Napster ยังสร้างสถิติผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มมากที่สุด มีจำนวนถึง 80 ล้านคนเลยทีเดียว
แต่ด้วยความที่ผู้คนนำเพลงมาแจกผ่านแพลตฟอร์มแบบนี้
ถือเป็นสิ่งที่ผิดลิขสิทธิ์และค่ายเพลงเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล
จึงทำให้สุดท้าย Napster ถูกฟ้องร้องและต้องปิดตัวลงไป
แต่รู้หรือไม่ว่า จากกระแสที่มาแรงของ Napster ทำให้เกิดบริการหนึ่งในเวลาต่อมา
นั่นก็คือ iTunes ของ Apple เพราะ Steve Jobs เห็นแล้วว่าพฤติกรรมของผู้คนกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ซื้อแบบแผ่นเสียง แต่ตอนนี้กลับมาดาวน์โหลดผ่านโลกออนไลน์
เขาจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ ในการเข้าไปผูกมิตรกับค่ายเพลง
เพื่อที่ตนจะสามารถนำเพลงมาวางขายบน iTunes ได้อย่างถูกต้อง
และอย่างที่รู้กัน iTunes ก็ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
เรื่องนี้เองทำให้ Sean Parker ไม่พอใจอย่างมาก
แต่ตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงตัดสินใจคิดหาธุรกิจตัวใหม่ขึ้นมา
โดยใช้ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากธุรกิจที่แล้ว
ทั้งเรื่องการเงิน กฎหมายธุรกิจต่าง ๆ และความเป็นผู้ประกอบการ
และแล้วก็ได้เกิดธุรกิจใหม่ที่มีชื่อว่า “Plaxo” ซึ่งเป็นบริการที่มาช่วยเหลือสำหรับขยายกลุ่มผู้ใช้งานบนเครือข่ายสังคมออนไลน์และบริการนี้เองมีส่วนช่วยให้ LinkedIn และ Facebook ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
เมื่อธุรกิจเริ่มดำเนินไปได้ดี Sean Parker กลับละเลยการทำงาน
ทำให้สุดท้ายเขาก็โดนเพื่อน ๆ ที่ร่วมก่อตั้งกันมาไล่ออกในที่สุด
และแล้วในช่วงหลังจากนี้เอง ที่เขาได้รู้จักกับเว็บไซต์
ที่ในช่วงนั้นกำลังเป็นกระแสที่ชื่อว่า “Facebook”
เขาทดลองเล่น พบว่าโซเชียลมีเดียตัวนี้ทำให้ตนเองติดมาก
จึงรีบหาช่องทางติดต่อกับ Mark Zuckerberg เพื่อมาพูดคุยสานความสัมพันธ์กัน
ซึ่ง Mark Zuckerberg ก็ตอบตกลงเพราะนับถือ Sean Parker เป็นดั่งไอดอลอยู่แล้ว
จากวีรกรรมแฮกฐานข้อมูล และการก่อตั้งบริษัทสุดเจ๋งอย่าง Napster
ในช่วงเวลานั้น Facebook ยังให้บริการเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น
แต่ Sean Parker คิดว่า Facebook มีศักยภาพมากกว่านั้น
จึงแนะนำให้ Mark Zuckerberg ขยายฐานผู้ใช้งาน
และเขาก็เป็นคนแนะแนวทางให้ด้วยว่า
Facebook ยังไม่ต้องเร่งรีบหารายได้ ให้เพิ่มจำนวนผู้ใช้งานก่อน
เพราะถ้าหากหารายได้จะเกิดข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน
เช่น โฆษณาอาจจะอยู่รกเต็มบนเว็บไซต์ จนผู้ใช้งานหนีไปใช้ของคู่แข่งรายอื่น
นอกจากคำแนะนำแล้ว Sean Parker ก็ได้เข้ามาช่วย Facebook ตั้งแต่เรื่องการเจรจาขอเงินทุน
ทั้งจาก Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และ Accel Partners บริษัทร่วมลงทุน
เพราะแม้ว่าช่วงนั้น Facebook จะไปได้ดี มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น
แต่ก็ไม่มีใครร่วมลงทุนด้วย เนื่องจากไม่เห็นโอกาสทางธุรกิจ
แต่ Sean Parker กลับสามารถดึงดูดนักลงทุน
ด้วยวิสัยทัศน์ที่วาดไว้ให้กับ Facebook
จึงทำให้บริษัทสามารถคงอยู่รอดต่อไปได้
เริ่มตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ของ Facebook ช่วงแรก
ที่เน้นตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานก่อนหารายได้
การผลักดันฟังก์ชันของ Facebook ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถลงรูปได้ นอกจากข้อความ
รวมถึงปุ่มแชร์ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้อัปโหลดบทความข่าว วิดีโอ และเนื้อหาของบุคคลที่สาม
แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ Sean Parker ทำให้กับ Facebook คือ
การวางโครงสร้างองค์กรที่ทำให้ Mark Zuckerberg สามารถควบคุมบริษัท
ได้อย่างสมบูรณ์และถาวร โดยเขาใช้ประสบการณ์อันเจ็บปวดที่เคยได้รับจาก Plaxo
ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ จึงทำให้ Mark Zuckerberg
แต่งตั้ง Sean Parker เป็นประธานของบริษัท
แต่สุดท้ายเขาก็ถูกไล่ออกจากบริษัทอีกครั้ง หลังถูกจับได้ว่าเสพโคเคนในงานปาร์ตี..
แม้ว่าจะออกจาก Facebook ไปแล้ว
แต่ Sean Parker ยังคงให้คำแนะนำ Mark Zuckerberg
เกี่ยวกับกลยุทธ์และสรรหาผู้บริหารระดับสูงอย่าง Chamath Palihapitiya
หลังจากออกจาก Facebook เขาก็ไปเป็นหุ้นส่วนของ Founders Fund
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในธุรกิจ Startup โดยมีผู้ก่อตั้งคือ Peter Thiel
เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายปี แต่ Sean Parker ก็ยังไม่หยุดคิดถึง Napster
แพลตฟอร์มสุดรักที่ตนสร้างขึ้น เขาจึงค้นหาบริษัทที่มีอุดมการณ์เช่นเดียวกัน
และแล้วก็ไปเจอกับสตรีมมิงที่ชื่อว่า Spotify
แม้ว่าเขาจะอยากลงทุนในบริษัทแห่งนี้มากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถลงทุนได้
เนื่องจาก Spotify ได้รับเงินเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Sean Parker จึงหาทางสนับสนุนทางอื่น หนึ่งในนั้นก็คือการโปรโมต Spotify ผ่าน Facebook
เพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มสตรีมมิงจากยุโรปตัวนี้ เข้ามาตีตลาดเพลงในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนั้นมี iTunes เป็นคู่แข่งหลัก รวมถึงเขาก็ยังได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง Spotify และค่ายเพลงอย่าง Warner และ Universal อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่ทำให้เขาชนะใจคณะกรรมการของบริษัท Spotify
จนได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนในที่สุด
ด้วยความที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและธุรกิจ รวมถึงหลงใหลในความท้าทายตลอดเวลา
ทำให้ชีวิตหลังจากนั้น Sean Parker ก็ยังเป็นทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนอยู่เรื่อยมา
โดยปัจจุบัน เขามีมูลค่าทรัพย์สินที่ 90,000 ล้านบาท
และนี่ก็คือเส้นทางชีวิตของ Sean Parker อดีตแฮกเกอร์ และเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังความสำเร็จของ Facebook ที่ตอนนี้เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่ 6 ของโลกไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/sean-parker-life-career-napster-facebook-billionaire-pictures-2020-3#parker-is-also-a-philanthropist-and-a-friend-described-him-to-vanity-fair-as-one-of-the-most-generous-people-i-know-in-2015-he-donated-600-million-to-launch-the-parker-foundation-which-focuses-on-funding-programs-in-life-sciences-global-public-health-and-civic-engagement-20
-https://www.forbes.com/sites/stevenbertoni/2019/12/23/best-stories-of-the-decade-sean-parker-agent-of-disruption/?sh=6aa467237a01
-https://www.biography.com/business-figure/sean-parker
-https://www.forbes.com/profile/sean-parker/?sh=5c3413014b73
-https://www.rollingstone.com/culture/culture-news/itunes-10th-anniversary-how-steve-jobs-turned-the-industry-upside-down-68985/
-https://startuptalky.com/sean-parker-story/
同時也有2582部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅ヤバイTシャツ屋さん - 「ハッピーウェディング前ソング」Music Video,也在其Youtube影片中提到,3ピースバンド”ヤバイTシャツ屋さん”の 5th single「パイナップルせんぱい」の 1曲目「ハッピーウェディング前ソング」のMusic Video。 ※ノリで入籍させるMV 監督:寿司くん 「ハッピーウェディング前ソング」は 2018年1月10日(水)にリリースの 2nd FULL ALBU...
「universal twitter」的推薦目錄:
- 關於universal twitter 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於universal twitter 在 Cổ Động Facebook
- 關於universal twitter 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於universal twitter 在 ヤバイTシャツ屋さん - 「ハッピーウェディング前ソング」Music Video Youtube
- 關於universal twitter 在 ヤバイTシャツ屋さん - 「あつまれ!パーティーピーポー」Music Video[メジャー版] Youtube
- 關於universal twitter 在 Violette Wautier Youtube
universal twitter 在 Cổ Động Facebook 八卦
Rạng sáng ngày 17/9 (theo giờ Việt Nam), sự việc đang khiến cả mạng xã hội Twitter toàn cầu chấn động và nhận được hàng triệu lượt theo dõi hiện tại chính là clip tiểu tiện lên cúp Grammy cùng hàng trăm dòng tweet của Kanye West trên Twitter.
Thậm chí, clip kéo dài 8 giây của Kanye đã hút tới 1 triệu lượt view chỉ sau 15 phút chia sẻ. Dân tình đã đếm được ông xã Kim Kardashian đã "khủng bố" Twitter với 168 dòng tweet trong suốt 5 tiếng đồng hồ ròng rã. Đây được coi là động thái khó hiểu bất ổn đến mức gây sốc của nam rapper thị phi nhất Hollywood.
Sự việc gây tranh cãi bắt nguồn từ việc Kanye tức tối viết trên Twitter rằng anh đã hoàn toàn mất quyền sở hữu các tác phẩm âm nhạc của mình, kèm theo tuyên bố sẽ ngừng sản xuất bài mới cho đến khi kết thúc hợp đồng với 2 hãng đĩa là Universal và Sony.
Kanye còn nói rằng ngành công nghiệp âm nhạc và liên đoàn bóng rổ Mỹ NBA chỉ là những kẻ nô lệ. Kanye cho biết, anh không chỉ có 1 hợp đồng với Universal mà có tới tận 10 hợp đồng khác nhau. Nam rapper "spam" Twitter bằng ảnh chụp hàng chục trang hợp đồng đã ký của mình với Universal. Việc tung văn bản hợp đồng công khai như thế này có thể khiến Kanye West gặp vấn đề lớn về pháp lý.
Kanye tweet những tràng dài với tâm lý kích động: "Các con tôi là người sở hữu những tác phẩm của tôi. Con tôi chứ không phải con anh", "Chúng tôi dành cả cuộc đời mình để cống hiến cho nền âm nhạc, để rồi các con phải đi làm thuê ở những công ty khác", "Tôi là người duy nhất có tiếng nói ở đây bởi tôi kiếm được cả tỷ đô ngoài ngành âm nhạc này. Chẳng có nghệ sĩ nào kiếm được số tiền nếu như làm nhạc đâu. Tôi sẽ thay đổi tất cả",...
Thời gian qua, Kanye West vướng hàng loạt scandal ầm ĩ. Từ việc anh quyết định tranh cử chức Tổng thống Mỹ cho đến phát ngôn gây sốc tiết lộ Kim Kardashian từng có ý định phá thai và ngoại tình trong quá khứ,... Vì những bê bối này, mối quan hệ của Kanye và Kim rạn nứt. Cả hai đã ly thân suốt nhiều tháng, thậm chí còn có ý định ly hôn. Kim từng bị paparazzi bắt gặp khóc nức nở khi cãi nhau với Kanye West trên xe. Nam ca sĩ khiến công chúng ngán ngẩm, còn Kim tiết lộ Kanye đã phải đi điều trị tâm thần. Sau dòng tweet lôi cả Kim vào lần này, công chúng đoán rằng mối quan hệ của 2 vợ chồng có thể xuất hiện thêm vết rạn nứt.
Khoảng 1 giờ rạng sáng nay, Kanye vẫn không có dấu hiệu ngừng chia sẻ tweet trên Twitter. Chủ nhân bản hit Stronger thậm chí còn đăng đích danh số điện thoại của Biên tập viên tạp chí Forbes - Randall Forbes không rõ lý do, gọi anh này với ngôn từ mang tính phân biệt chủng tộc. Hành động này đã khiến các netizen quá khích "nã" điện thoại của Randall Forbes. Việc công bố thông tin riêng tư này có thể khiến Kanye vướng vào kiện tụng. Tuy nhiên sau 10 phút, dòng tweet này tạm thời bị gỡ xuống và bị gửi về đội kiểm duyệt thông tin của Twitter để xem xét tính chất nhạy cảm.
Kanye West tuyên bố sẽ không dừng lại trong cuộc chiến giành lại bản quyền tác phẩm âm nhạc này.
...
Theo Twitter, Forbes
universal twitter 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
สหรัฐอเมริกา กำลังสูญเสีย Soft Power /โดย ลงทุนแมน
ปี 2015 สหรัฐอเมริกามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 77 ล้านคน
สร้างรายได้เข้าประเทศ 8,000,000 ล้านบาท
ซึ่งเพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วง 5 ปีก่อนหน้านี้
ปี 2019 สหรัฐอเมริกามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 79 ล้านคน
สร้างรายได้เข้าประเทศ 8,200,000 ล้านบาท
แทบไม่แตกต่างจากเดิมสักเท่าไร
มันเกิดอะไรขึ้นกับเสน่ห์ดึงดูดของสหรัฐอเมริกา?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นมหาอำนาจของโลกที่มีความแข็งแกร่งแทบทุกด้าน
ในเรื่องเศรษฐกิจ GDP มีขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่า 690,000,000 ล้านบาท คิดเป็น 25% ของเศรษฐกิจโลก
ในเรื่องการทหาร มีงบประมาณป้องกันประเทศ 23,000,000 ล้านบาท สูงกว่าอันดับ 2 อย่างจีนถึง 3 เท่า และประเทศนี้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ 6,185 ลูก เป็นรองเพียงแค่รัสเซีย
แต่นอกเหนือจากพละกำลังในเชิง Hard Power แล้ว
สหรัฐอเมริกายังมีอิทธิพลต่อประเทศอื่นๆ ในแง่ของสังคมและวัฒนธรรม หรือ “Soft Power” เป็นอย่างมาก
ด้านธุรกิจ มีบริษัทชั้นนำมากมาย เช่น Microsoft, Apple, Google, Amazon, Facebook, McDonald’s, Nike รวมถึงสตาร์ตอัปจากซิลิคอนแวลลีย์ และบริษัทการเงินย่านวอลสตรีต
ด้านวงการบันเทิง มี Hollywood ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และค่ายหนังชื่อดัง เช่น Disney, Universal, Netflix
ด้านกีฬา มีการแข่งขันที่ได้รับความนิยมสูง เช่น บาสเกตบอล NBA หรืออเมริกันฟุตบอล NFL
ด้านการศึกษา มีมหาวิทยาลัย 6 แห่ง ติดอยู่ใน 10 อันดับสถาบันการศึกษาดีที่สุด เช่น Stanford, MIT, Princeton, Harvard
นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งทางธรรมชาติ เช่น แกรนด์แคนยอน, อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน
หรือสถาปัตยกรรม เช่น เทพีเสรีภาพ, สะพานโกลเดนเกต
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ได้ดึงดูดให้ชาวต่างชาติหลงใหลในแบรนด์ของสหรัฐอเมริกาโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะต้องแปลกใจ ถ้าบอกว่า
ฐานอำนาจ Soft Power ดังกล่าว กำลังเดินทางมาถึงจุดอิ่มตัว
จากการจัดอันดับ Soft Power โดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญการเมืองระหว่างประเทศ ปรากฏว่ามุมมองต่อสถานะของสหรัฐอเมริกานั้น กลับตกลงมาพอสมควร
ปี 2016 อยู่อันดับ 1
ปี 2019 อยู่อันดับ 5
ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยว และรายได้เข้าประเทศ ที่แทบไม่เติบโตเลยในช่วง 5 ปีหลัง
แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ Soft Power ของสหรัฐอเมริกา มีอิทธิพลต่อชาวโลกน้อยลง?
หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ นโยบายและบทบาทในเวทีโลก ที่เปลี่ยนแปลงไปหลายๆ เรื่อง
นับตั้งแต่ดอนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาใช้นโยบายแบบ America First ที่มุ่งเน้นปกป้องผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก และบางครั้งก็มีการตอบโต้คู่ขัดแย้งอย่างแข็งกร้าว
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ กรณีสงครามการค้ากับประเทศจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าคนสำคัญ และมีประชาชนเดินทางมาเที่ยวสหรัฐอเมริกาปีละ 3 ล้านคน
โดยตั้งแต่กลางปี 2018 สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 11,500,000 ล้านบาท และในภายหลัง ได้นำไปสู่การกีดกันเทคโนโลยีและแบรนด์สินค้าฝ่ายตรงข้าม
เรื่องต่อมาคือ การถอนตัวจากข้อตกลงเรื่องปัญหาโลกร้อน
เมื่อปี 2015 นานาชาติได้ลงนามข้อตกลงร่วมกันที่กรุงปารีส เพื่อลดใช้เชื้อเพลิงที่ทำลายชั้นบรรยากาศ เช่น น้ำมัน, ถ่านหิน
อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาเลือกที่จะลงทุนในธุรกิจน้ำมันมากขึ้น เพราะเพิ่งค้นพบแหล่งในชั้นหินดินดานปริมาณมาก ซึ่งจะส่งเสริมการจ้างงาน
แต่ในทางกลับกัน ก็สร้างความกังวลถึงมลพิษทางอากาศของประเทศในอนาคต
อีกเรื่องที่สหรัฐอเมริกาถอนตัวคือ ข้อตกลงนิวเคลียร์กับประเทศอิหร่าน รวมทั้งประกาศคว่ำบาตรเพิ่มเติมด้วย
เนื่องจากเชื่อว่ามีส่วนสนับสนุนการก่อการร้าย จนเกิดเป็นปฏิบัติการลอบสังหารผู้นำระดับสูงของอิหร่าน และมีการโจมตีตอบโต้กัน เมื่อตอนต้นปี 2020
หากวันข้างหน้า มีการปะทะกันรุนแรงขึ้นอีก ก็น่าจะสร้างความไม่สบายใจต่อความปลอดภัยของชีวิตคนทั้งโลก ไม่ใช่แค่ในสองประเทศเท่านั้น
และล่าสุด สหรัฐอเมริกากำลังเจอบททดสอบครั้งใหญ่ ที่มาในรูปแบบของโรคระบาด
ศูนย์กลางการระบาดของ COVID-19 มีจุดเริ่มต้นมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ก่อนลุกลามไปหลายประเทศในยุโรป และปัจจุบันย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2020 ประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อ 1.4 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 8 หมื่นราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงสุดในโลก
ทำให้รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความล่าช้าในการเตรียมตัวรับมือ อีกทั้งยังเกิดปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และมีความพยายามกล่าวโทษจีนว่าเป็นต้นเหตุของโรคระบาดอยู่หลายครั้ง
จากกรณีสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 สหรัฐอเมริกาจึงสูญเสียความน่าเชื่อถือไปมาก
นี่คงเป็นบทเรียนที่ดีว่า
Soft Power นั้นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่แพ้ Hard Power
เพราะมันสามารถโน้มน้าวให้คนมาอยู่ข้างเราได้ โดยไม่ต้องใช้เงินหรือกำลังบังคับ
แต่ต้องพึงระวังเอาไว้เสมอด้วยว่า
ถึงแม้เราจะสั่งสมเครดิตความน่าเชื่อมาเป็นเวลานานหลายปี
มันก็มีโอกาสหายไปได้ง่ายๆ ในชั่วพริบตา
และถ้าถามว่า ตอนนี้ผู้คนทั่วโลกยังมองว่าสหรัฐอเมริกามี Soft Power ที่แข็งแกร่งหรือไม่
คำตอบที่ได้ ก็อาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.cnbc.com/2020/02/25/the-us-is-the-worlds-top-soft-power-but-trump-has-damaged-its-reputation.html
-https://www.wired.com/story/china-flexes-soft-power-covid-diplomacy/
-https://softpower30.com/country/united-states/
-https://www.ceicdata.com/en/indicator/united-states/tourism-revenue
-https://www.ceicdata.com/en/indicator/united-states/visitor-arrivals
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_military_expenditures
-https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/2020/world-ranking
-https://www.bbc.com/news/business-45899310
universal twitter 在 ヤバイTシャツ屋さん - 「ハッピーウェディング前ソング」Music Video Youtube 的評價
3ピースバンド”ヤバイTシャツ屋さん”の
5th single「パイナップルせんぱい」の
1曲目「ハッピーウェディング前ソング」のMusic Video。
※ノリで入籍させるMV
監督:寿司くん
「ハッピーウェディング前ソング」は
2018年1月10日(水)にリリースの
2nd FULL ALBUM「Galaxy of the Tank-top」にも収録されます。
—2nd FULL ALBUM「Galaxy of the Tank-top」のご予約こちらから—
●Amazon https://goo.gl/SPrqMY
●TOWER RECORDS https://goo.gl/s6D5ct
●TSUTAYA https://goo.gl/ozz3sP
●HMV https://goo.gl/BdS5rk
Produce・Cinematographer・Edit:株式会社鬼
Assistant Camera:萩原 脩
Hair & Make-up:STORM(LINX)・只友謙也(LINX)
Cast:杉岡 詩織(FMG)・斎藤 直紀(FMG)
Stylist:梅田 一秀
Title design:MIRROR inc.
【5th single「パイナップルせんぱい」 2017.9.20(水) Release!!】
①初回盤(CD+DVD) UMCK-9922 ¥1,500(税抜) ※デジパック仕様
②通常盤(CDのみ) UMCK-5636 ¥1,100(税抜) ※デジパック仕様
―CD収録内容―
1.ハッピーウェディング前ソング
2.眠いオブザイヤー受賞
3.とりあえず噛む
4.ハッピーウェディング前ソング(岡崎体育 remix)
―初回盤DVD収録内容―
●ヤバイTシャツ屋さんのパイナップルツアー
※沖縄・ナゴパイナップルパークでオフを楽しむメンバーの姿を収録
【1st LIVE DVD「Tank-top of the DVD」 2017.9.20(水) Release!!】
●UMBK-1253 ¥3,241(税抜) ※デジパック仕様
※ミスって安くしすぎました。
2017年6月16日(金)「ヤバイTシャツ屋さん "どうぶつえんツアー" ツアー 2017 〜ワンマン〜 追加公演」@東京都・新木場 STUDIO COASTの模様を収録。
―収録曲―
オープニングドキュメンタリー「タンクトップ神誕生」
Tank-top of the world
寝んでもいける
メロコアバンドのアルバムの3曲目ぐらいによく収録されている感じの曲
-MC①-
L・O・V・E タオル
DQNの車のミラーのところによくぶら下がってる大麻の形したやつ
Don’t stop SNS
ZIKKA
-MC②-
ウェイウェイ大学生
天王寺に住んでる女の子
週10ですき家
喜志駅周辺なんもない
-MC③-
とりあえず噛む
反吐出る
流行りのバンドのボーカルの男みんな声高い
スプラッピ スプラッパ
無線LANばり便利
ネコ飼いたい
ヤバみ
-アンコールMC-
肩 have a good day
あつまれ!パーティーピーポー
<おもしろ特典映像>
おもしろライブ当日のおもしろメンバーのおもしろ様子
●OFFICIAL HP http://yabaitshirtsyasan.com/
●OFFICIAL Twitter @yabaT_official
universal twitter 在 ヤバイTシャツ屋さん - 「あつまれ!パーティーピーポー」Music Video[メジャー版] Youtube 的評價
3ピースバンド”ヤバイTシャツ屋さん”の1st FULL ALBUM 収録曲
「あつまれ!パーティーピーポー」、予算のかけ方を完全に間違えたミュージックビデオメジャー版です!※必ず最後までご覧下さい。
監督:寿司くん
●amazon https://www.amazon.co.jp/gp/product/B01M0LA6TQ/
●TOWER RECORDS http://tower.jp/item/4347863
●HMV http://www.hmv.co.jp/artist_%E3%83%A4%E3%83%90%E3%82%A4T%E3%82%B7%E3%83%A3%E3%83%84%E5%B1%8B%E3%81%95%E3%82%93_000000000657267/item_We-love-Tank-top-%E3%80%90%E5%88%9D%E5%9B%9E%E9%99%90%E5%AE%9A%E7%9B%A4%E3%80%91-CD-DVD_7315688
1st FULL ALBUM「We love Tank-top」
2016年11月2日(水)発売
・初回盤(CD+DVD)UMCK-9882¥3480(税抜)
・通常盤 (CD)UMCK-9883¥2480(税抜)
・881セット限定ヴィレッジヴァンガード盤(CD+DVD+タンクトップ)PROS-1906¥5480(税抜)
【CD】※初回盤・通常盤共通
01.We love Tank-top
02.Tank-top of the world
03.あつまれ!パーティーピーポー
04.無線LANばり便利
05.DQNの車のミラーのところによくぶら下がってる大麻の形したやつ
06.週10ですき家
07.ZIKKA
08.喜志駅周辺なんもない
09.ウェイウェイ大学生
10.天王寺に住んでる女の子
11.L・O・V・E タオル
12.流行りのバンドのボーカルの男みんな声高い
13.ネコ飼いたい
【DVD】※初回盤のみ
ヤバイTシャツ屋さん ワンマンライブ「まだ早い。(2016年8月12日@大阪・心斎橋BIGCAT)」ライブ映像収録DISC
・We love Tank-top
・Tank-top of the world
・メロコアバンドのアルバムの3曲目ぐらいによく収録されている感じの曲
-MC①-
・DQNの車のミラーのところによくぶら下がってる大麻の形したやつ
~フリップ説明~
・喜志駅周辺なんもない
・ウェイウェイ大学生
-MC②-
・スプラッピ スプラッパ
・あつまれ!パーティーピーポー
-アンコールMC-
・ネコ飼いたい
OFFICIAL HP http://yabaitshirtsyasan.com/
OFFICIAL Twitter @yabaT_official
---
universal twitter 在 Violette Wautier Youtube 的評價
เพลง : ก็แค่ไม่มีฉัน
ศิลปิน : วิโอเลต วอเทียร์ (Violette Wautier)
ฟังและดาวน์โหลดได้ที่ #iTunes #AppleMusic #Deezer #JOOX #Spotify #TrueIDMusic
https://umusicth.lnk.to/f3f-w
วิโอเลต วอเทียร์ (Violette Wautier)
Facebook : https://www.facebook.com/violettewaut...
Instagram : https://www.instagram.com/violettewau...
Twitter : https://twitter.com/violettewautier
YouTube : VioletteWautierVEVO
Universal Music Thailand
Facebook Page : https://www.facebook.com/universalmus...
Twitter : https://twitter.com/UMusicThai
Instagram: https://www.instagram.com/universalmu...
ติดต่องาน: 085-9184338 , 085-3388135 (นี)
Email: [email protected]
#Credits :
เนื้อร้อง : วิโอเลต วอเทียร์ , รังสรรค์ ปัญญาใจ , จักรพันธ์ บุณยะมัต
ทำนอง : วิโอเลต วอเทียร์
เรียบเรียง : วิชญ วัฒนศัพท์ , ณัฐดนัย ชูชาติ
Producer : วิชญ วัฒนศัพท์
Special Thanks : BILLBilly 01
Music Video by
Director : เกรียงไกร วชิรธรรมพร
Producer : วรรณภา แตงบุตร
Director of Photography : ภิไธย สมิตสุต
Production Design : มณฑล พงษ์ภาพ
Assistant of Director : ภัทรธิดา แก้วสุกใส (น้ำตาลทราย)
ขอบคุณสถานที่ ร้าน สโมบาร์ (Smobar)
#Lyrics :
ทำแบบนี้ ไม่ดี ไม่เอา ไม่ควร
โปรดกลับไปทบทวนให้เธอคิดดู
ทำแบบนี้ ทุกที ต้องการ อะไร
ตอบแบบไหนถึงถูก ถึงดี ถึงพอ
*หยุดคำถาม ฉันขอไม่ตอบได้ไหม
ห่างกันไว้ให้ฉันได้มีอากาศหายใจ
**โลกคงไม่แตก แค่เธอไม่มีฉัน
ฟ้าคงไม่แปลก แค่เราไม่พบกัน
ฉันคงไม่เปลี่ยน ตามที่เธอหวัง
ให้โลกยังคงส่วนตัวต่อไปอย่างนั้น
เกือบจะชูนิ้วนาง ให้เธอ คนดี
แต่เจอแบบนี้ ไม่เอา ฉันพอ ดีกว่า
อยู่กับเธอไม่ไหว คำถาม มากไป
จะไปไหน เมื่อไหร่ กับใคร ไม่บอก
*,**
หยุด หยุด หยุด หยุด หยุดคำถาม (ฉันขอไม่ตอบ)
หยุด หยุดคำถาม หยุด หยุดคำถาม (ฉันขอไม่ตอบ)
หยุด หยุดคำถาม หยุด หยุดคำถาม (ฉันขอไม่ตอบ)
ให้ฉันได้มีอากาศหายใจ........
**
#Violettewautier
#วิโอเลตวอเทียร์
#วิโอเลต
#วี
#ก็แค่ไม่มีฉัน
#ไม่เป็นไรเข้าใจ
#ไม่เป็นไร
#เข้าใจ