ท้อแท้ สิ้นหวัง แตกหัก ฮ่องกง / โดย ลงทุนแมน
ทุกคนในฮ่องกงเวลานี้ ต่างจมอยู่กับความสิ้นหวัง..
ภาพบ้านเมืองที่พัฒนาแล้ว มีตึกสูงเรียงกัน
เปลี่ยนเป็นภาพผู้คนโกรธเคือง พร้อมทำลายสิ่งขวางกั้น
มองไปทางไหนก็ไม่เห็นทางออก ที่จะนำไปสู่ความสงบ
รู้หรือไม่ว่า ในตอนนี้ ฮ่องกง ได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย
คำว่า เศรษฐกิจถดถอย (Recession) แปลว่า
GDP หดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นไม่บ่อย และเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ในวันที่ทุกอย่างรุมเร้า
ในวันที่มองไม่เห็นทางออก
จุดเริ่มต้นของสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร
แล้วจุดสุดท้ายจะเป็นอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
บทความนี้ สนับสนุนโดย
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
ฮ่องกงเคยเป็นเมืองที่เป็นผู้นำของภูมิภาคเอเชียในทุกๆ ด้าน
ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว หรือแม้แต่ด้านบันเทิง
มังกรหยก หลิวเต๋อหัว เฉินหลง ถ้าย้อนกลับไป 20 ปีก่อน เราคนไทยน่าจะรู้จักกันทุกคนไม่แพ้ K-POP หรือ ดาราฮอลลีวูด ในสมัยนี้
จุดหมายการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของคนไทย
ถ้าถามคนสมัยก่อนว่า เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรก
เราจะไปที่ไหน?
คำตอบแรกคือ “ฮ่องกง”
แต่ในวันนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป
จนรู้ตัวอีกที
ฮ่องกงในวันนี้ อาจไม่ได้เป็นฮ่องกงคนเดิมที่เรารู้จัก
ฮ่องกงในวันนี้ มองไปทางไหนก็ไม่สดใสเหมือนเดิม
ฮ่องกงในวันนี้ เริ่มไม่ได้เป็นผู้นำเอเชียในทุกด้านเหมือนวันก่อน
แล้วที่ผ่านมาคนฮ่องกงเจออะไร
คนฮ่องกงเก่งน้อยลง
หรือ คนประเทศอื่นเก่งมากขึ้น
หรือ มันมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ที่ทำให้ฮ่องกงเดินทางมาถึงจุดนี้
จุดที่ทุกอย่างพร้อมจะพังทลายลง
เรามาหาความจริงกัน
ฮ่องกง คือเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดในโลก มี 1,300 ตึก ที่สูงมากกว่า 100 เมตร (100 เมตรคือประมาณ 30 ชั้น)
ฮ่องกง คือเมืองที่มีคนรวย 2 คน ติดอันดับรวยที่สุดในโลก 25 คนแรก โดยธุรกิจหลักของพวกเขาคือ อสังหาริมทรัพย์
ฮ่องกง คือเมืองที่มีราคาบ้านเพิ่ม 2 เท่าภายใน 5 ปี
และแพงอันดับ 2 ของโลก รองจากโมนาโก
ห้องขนาด 30 ตารางเมตรในฮ่องกง มีราคา 50 ล้านบาท
ด้วยราคาขนาดนี้สามารถซื้อบ้านหรูในประเทศไทยได้
ที่ผ่านมา ฮ่องกงดูเป็นที่สุดในโลกในทุกด้าน
แต่การเป็นที่สุด
ย่อมแลกมาด้วยสิ่งที่ทำให้ ฮ่องกง เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความแตกต่างระหว่างคนรวย กับ คนชั้นกลางมากที่สุดในโลก
ซึ่งสิ่งนั้นเรียกว่า ความเหลื่อมล้ำ..
จริงๆ แล้วความเหลื่อมล้ำเป็นแค่เชื้อเพลิงที่สะสม ถ้าไม่มีใครมาจุดไฟมันก็คงไม่เกิดอะไร
เชื้อเพลิงมันก็กองกันอยู่อย่างนั้น
แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง มีคนมาจุดชนวน ทุกอย่างก็จะกลายเป็นไฟ ลุกโชติช่วงแบบไม่ดับลงง่ายๆ
เหมือนภาพที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้
และชนวนที่สำคัญก็คือ ประเด็นการส่งผู้ร้ายข้ามแดน..
ใครจะไปคิดว่า ตัวจุดชนวนนี้คือ เรื่องฆาตกรรมของคนเพียงคนเดียว ที่เกิดขึ้นบนเกาะไต้หวัน..
ย้อนกลับไป 9 เดือนที่แล้ว
เดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 เมื่อคู่รักฮ่องกงคู่หนึ่งเดินทางไปเที่ยวไต้หวัน
แต่ฝ่ายชายกลับฆ่าฝ่ายหญิงที่ไต้หวัน และ เดินทางกลับมาที่ฮ่องกงโดยที่ไม่มีใครจับได้
ต่อมาผู้ชายถูกจับตัวได้ที่ฮ่องกง แต่ตำรวจฮ่องกงไม่สามารถตั้งข้อหาได้ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไต้หวัน
ขณะที่ทั้งฮ่องกงและไต้หวัน ไม่มีสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน จึงไม่สามารถส่งตัวคนผิดไปดำเนินคดีที่ไต้หวัน
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คณะผู้บริหารฮ่องกงจึงเสนอร่างกฎหมายเพื่อที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังไต้หวัน
แต่เรื่องนี้กลับกลายใหญ่โตขึ้น เพราะร่างกฎหมายนี้ ดันรวมไปถึงการส่งตัวผู้ทำผิดไปประเทศจีนด้วย
ซึ่งประเด็นนี้ทำให้ชาวฮ่องกงไม่พอใจ และออกมาชุมนุมประท้วงนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ทางคณะผู้บริหารฮ่องกงเองได้ยกเลิกสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปแล้ว แต่หลังจากนั้น ข้อเรียกร้องยกระดับเป็นการให้ แคร์รี หล่ำ ผู้ว่าฮ่องกง ลาออก เลยไปจนถึงการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย
แม้ว่าปัจจุบันฮ่องกงมีสิทธิในการปกครองตนเองอย่างอิสระ ซึ่งสามารถดำเนินนโยบายทางการเมือง เศรษฐกิจ และกฎหมายได้โดยตนเอง
แต่ในอนาคต ปี 2047 หรืออีก 28 ปี ข้างหน้า ฮ่องกงมีกำหนดส่งอำนาจการปกครองคืนให้จีน
ผู้คนที่ออกมาชุมนุมมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยหนุ่มสาว มาจากบุคคลหลากวิชาชีพ ตั้งแต่ นักศึกษา ครู นักกฎหมาย ไปจนถึงพนักงานในสายการบิน ซึ่งการประท้วงได้ยกระดับไปถึงการปิดสนามบิน การกีดขวางขนส่งมวลชน ไปจนถึงการทำลายร้านค้า อาคาร และทำร้ายผู้ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม
ส่วนผู้ที่ต่อต้านการชุมนุมก็มีเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอายุที่มากกว่า หรือเป็นนักธุรกิจ
ย้อนดูประวัติศาสตร์ฮ่องกง
ค.ศ. 1898 สงครามฝิ่นเป็นจุดเริ่มของเรื่องราวทั้งหมด
อังกฤษได้ครอบครองฮ่องกงจากจีนแบบเสรีนิยมเป็นเวลา 99 ปี ด้วยนโยบายการค้าเสรีทำให้ฮ่องกงกลายเป็นเมืองท่า ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเงินของโลก
ค.ศ. 1997 หรืออีก 99 ปีถัดมา อังกฤษได้ส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีน
รัฐบาลปักกิ่งได้ตกลงให้ปกครองฮ่องกงด้วยนโยบาย หนึ่งประเทศ สองระบบ ไปอีก 50 ปี เพื่อให้เศรษฐกิจ ธุรกิจ ดำเนินไปเหมือนเดิม ยกเว้นเรื่องการทหารและการต่างประเทศ ที่รัฐบาลปักกิ่งเป็นผู้ดูแล
เรามาดูความจริงที่เกิดขึ้นกัน
คนฮ่องกง 3.5 ล้านคนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ไม่ได้ออกเสียงเลือกตั้งผู้บริหารเขตฮ่องกง
โดยที่ผ่านมา ผู้บริหารเขตฮ่องกงมาจากการเลือกโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 1,200 คน ซึ่งถูกเลือกมาจากกลุ่มคนจำนวนน้อยที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นผู้แทนของนักธุรกิจและรัฐบาลปักกิ่ง และการแต่งตั้งผู้บริหารเขตฮ่องกงก็ต้องได้รับการเห็นชอบจากรัฐบาลปักกิ่ง
ปัจจุบัน ฮ่องกงเป็นตลาดทุนอันดับ 3 ของโลก มีมูลค่าตลาดรวมกันทั้งหมด 170 ล้านล้านบาท หรือใหญ่กว่าตลาดหลักทรัพย์ไทย 10 เท่า
แต่ภายใต้เศรษฐกิจที่ดูดี ราคาอสังหาริมทรัพย์ นโยบายที่ดินและสวัสดิการบ้านของรัฐบาลฮ่องกง เอื้อต่อนักธุรกิจ ทำให้ราคาที่พักสูงเกินที่คนฮ่องกงทั้งระดับล่างและระดับกลางจะซื้อได้ และนั่นทำให้คนฮ่องกงทั่วไปรู้สึกว่าตัวเขาเองใช้ชีวิตอยู่ลำบากในเมืองที่เขาเกิดมา
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีโอกาสจะลืมตาอ้าปากเป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว
หนึ่งประเทศ สองระบบ หรือทุนนิยมที่ฮ่องกงอยากได้ กลับกลายเป็นสิ่งที่เชิดชูคนรวย และทำร้ายคนชั้นกลางในฮ่องกง
ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ ราคาบ้านที่สูงเกินเอื้อม
ไปจนถึงความกลัวว่าจะถูกรัฐบาลริดรอนเสรีภาพที่เคยมี
เมื่อมองไปทางไหนก็รู้สึกท้อแท้ และ สิ้นหวัง
หนทางเดียวที่มีอยู่ของคนฮ่องกง ก็คือการชุมนุม การประท้วง จนกว่าทุกอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยขอให้มีการเลือกตั้งแบบ 1 คนต่อ 1 เสียง (Universal Suffrage)
แต่ยิ่งประท้วงมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการทำร้ายเศรษฐกิจของตัวเองมากขึ้นทุกที
ทั้งภาคการเงิน การท่องเที่ยว
ฮ่องกงกำลังจะสูญเสียอะไรไปบ้าง?
นอกจากการที่ฮ่องกงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการแล้ว
Morgan Stanley คาดการณ์ว่า GDP ของฮ่องกงในปี 2019 จะหดตัว 0.8%
การส่งออกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2019
ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 7%
ซึ่งเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบ 10 ปี
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนสิงหาคมลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฮ่องกงยังครองตำแหน่งศูนย์กลางการเงินอันดับ 1 ของเอเชีย
แต่ท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ตำแหน่งนี้กำลังถูกสั่นคลอนโดยสิงคโปร์ คู่แข่งที่ตามมาติดๆ ในอันดับ 2 และเซี่ยงไฮ้ซึ่งอยู่ในอันดับ 3
Goldman Sachs คาดการณ์ว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองของฮ่องกง
นักลงทุนอาจหอบเงินกว่า 120,000 ล้านบาท หนีไปลงทุนที่สิงคโปร์
ส่วน Bloomberg คาดการณ์ว่า มูลค่าหุ้นที่เข้ามาระดมทุนของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ มีแนวโน้มจะแซงหน้าตลาดหุ้นฮ่องกงในปีนี้
ยังไม่รวมห้างร้านหลายแห่งที่ต้องปิดตัวลง เพราะไม่สามารถขนส่งสินค้าเข้ามาในร้านได้
โรงแรมที่ซบเซาลงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง
ระบบขนส่งมวลชนที่เป็นอัมพาตจากการกีดขวางการจราจร
การประท้วงที่เพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการก่อการร้าย
ทั้งขว้างปาก้อนอิฐ ก่อสิ่งกีดขวางการจราจร
ทำร้ายผู้คนที่ไม่เห็นด้วย เผาทำลายอาคารสถานที่ต่างๆ
แต่อย่างไรก็ตาม
ฮ่องกงซึ่งไม่มีทั้งกองกำลังทหารและอาวุธเป็นของตัวเอง
ยิ่งการประท้วงเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นเท่าไหร่
ก็ยิ่งเพิ่มความชอบธรรมให้รัฐบาลฮ่องกงขอรับการสนับสนุนกองกำลังทหารจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยที่ความขัดแย้งระหว่างฮ่องกงและจีน ถือเป็นกิจการภายใน ซึ่งต่างชาติก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปแทรกแซง
นั่นหมายความว่า ในทางกฎหมาย “การแยกประเทศ” ของชาวฮ่องกง คือสิ่งที่เป็นไปได้ยากมาก..
แต่จนถึงวันนี้ จุดยืนของรัฐบาลจีนต่อการประท้วง ก็คือการปล่อยให้คนฮ่องกงแก้ปัญหานี้กันเอง
ฮ่องกงซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีความสำคัญ เป็นประตูสู่การลงทุนของจีนแผ่นดินใหญ่
ปี 1997 ฮ่องกงมีขนาดเศรษฐกิจคิดเป็น 18.4% ของ GDP ประเทศจีน
ปี 2018 ฮ่องกงมีขนาดเศรษฐกิจคิดเป็น 2.7% ของ GDP ประเทศจีน
ในวันนี้ เมืองใหญ่ต่างๆ ของจีน ต่างพัฒนาเศรษฐกิจจนมีขนาด GDP แซงหน้าฮ่องกงไปแล้ว
ทั้ง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น ส่วนกว่างโจว และเทียนจิน กำลังจะแซงหน้าในเร็วๆ นี้
ความสำคัญในทางเศรษฐกิจของฮ่องกงต่อประเทศจีน กำลังลดระดับลงเรื่อยๆ
น่าคิดว่า ยิ่งการประท้วงในฮ่องกงยืดเยื้อเท่าไหร่ สุดท้ายผู้ที่ได้รับความเสียหายก็คือคนฮ่องกงเอง
ในปี ค.ศ. 2047 หรืออีก 28 ปี ข้างหน้า เมื่อครบ 50 ปีของการปกครองแบบหนึ่งประเทศ สองระบบ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
- ฮ่องกงจะเป็นส่วนหนึ่งของ มณฑลกวางตุ้ง หนึ่งใน 23 มณฑลของจีน
- ดอลลาร์ฮ่องกง พาสปอร์ตฮ่องกง จะเป็นอดีต
- คนฮ่องกง 7.5 ล้านคน จะรวมเป็นส่วนหนึ่งของคนจีน 1,400 ล้านคน
แน่นอนว่าคนฮ่องกงที่ประท้วงไม่อยากให้เป็นแบบนั้น และไม่ว่าการประท้วงที่ยาวนานครั้งนี้จะมีจุดจบเช่นไร เรื่องนี้ทำให้นึกถึงสิ่งที่ เรย์ ดาลิโอ ผู้เขียนหนังสือ Principles ได้กล่าวไว้เมื่อไม่นานมานี้ว่า
“โลกกำลังบ้าคลั่ง และ ระบบกำลังพัง”
ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองเป็นผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันที่ใหญ่สุดในโลก และคุ้นเคยกับโลกทุนนิยม
แต่เขาบอกว่า ระบบทุนนิยม แบบเดิมซึ่งเราเชื่อกันว่า จะเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนมากในที่สุด
อาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป..
เพราะระบบกำลังให้รางวัลกับคนรวย และทิ้งห่างคนส่วนใหญ่ไปเรื่อยๆ ในขณะที่คนที่เหลือไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ระบบนี้จะไม่เสถียร ระบบนี้จะพังลงในที่สุด
และโลกนี้กำลังดำเนินเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเวลาอันใกล้
หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าทุนนิยมมันจะพังได้อย่างไร ในเมื่อเราคุ้นเคยกันมานาน
แต่ดูเหมือนว่ามันอาจได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว บนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งของโลกที่ชื่อว่า ฮ่องกง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.chinadailyhk.com/articles/76/215/81/1572262453599.html
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-11-07/singapore-shanghai-threaten-hong-kong-status-as-asia-finance-hub
-https://www.zyen.com/media/documents/GFCI_26_Report_v1.0.pdf
-https://www.reuters.com/article/us-hongkong-protests-markets-explainer/explainer-how-important-is-hong-kong-to-the-rest-of-china-idUSKCN1VP35H
-https://www.cnbc.com/2019/03/20/hong-kong-is-building-an-80-billion-artificial-island.html
-https://www.censtatd.gov.hk/hkstat/sub/gender/demographic/index.jsp
-https://www.heritage.org/index/
-https://www.scmp.com/comment/opinion/article/3021423/how-hong-kong-can-put-end-protest-chaos-its-about-economy-so-fix
-https://www.chinadailyhk.com/articles/213/102/126/1551884339370.html
-https://www.statista.com/statistics/960155/hong-kong-high-net-worth-individuals-by-wealth-group/
-https://www.isranews.org/thaireform/thaireform-talk-interview/79389-universal-suffragehk79389.html
-https://www.nytimes.com/2019/07/08/world/asia/hong-kong-protests-democracy.html
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-04-10/hong-kong-overtakes-japan-as-world-s-third-largest-stock-market
-https://en.wikipedia.org/wiki/2019_Hong_Kong_anti-extradition_bill_protests
-https://www.bloomberg.com/graphics/2019-hong-kong-protests-economic-impact/?srnd=premium-asia
-https://th.investing.com/indices/hang-sen-40
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_Hong_Kong
-https://en.wikipedia.org/wiki/Tourism_in_Hong_Kong
-https://www.ceicdata.com/en/indicator/hong-kong/tourism-revenue
-https://nypost.com/2019/08/14/alibaba-ipo-plan-at-risk-amid-massive-hong-kong-protests/
-https://tradingeconomics.com/hong-kong/gdp-growth-annual
-https://www.scmp.com/news/hong-kong/hong-kong-economy/article/3008578/hong-kongs-gdp-slows-05-cent-first-quarter-2019
-https://edition.cnn.com/2019/08/15/economy/hong-kong-economy-stimulus/index.html
-https://www.linkedin.com/pulse/world-has-gone-mad-system-broken-ray-dalio
同時也有19部Youtube影片,追蹤數超過120萬的網紅Phê Phim,也在其Youtube影片中提到,?? Sử dụng code MORTALKOMBAT để giảm giá ngay 20k cho mỗi đơn hàng tại https://cinegoodies.vn/bo-suu-tap-mortal-kombat ?? Xem thêm các sản phẩm khác t...
sub wiki 在 Trí Minh Lê Facebook 八卦
GRUNGE VIETS – OMG, WHAT THE HECK is this?
Không phải dissin’ hay gì – nhưng Grunge mà các bạn đang theo đuổi ở Việt Nam thực sự chỉ là một phần rất nhỏ, nhỏ, nhỏ, nhỏ thôi. Thực sự không phải từ mình mà ngay cả các bạn thích Grunge cũng đã có nhiều câu hỏi rằng “Anh ơi, có cách nào để follow Grunge sờ tai mà không phải mặc áo in hình band nhạc rock, quần jeans skinny phối cùng flannel và đi boots không anh?”. Quả vậy, có vẻ chúng ta đã hơi bị “bội thực” về một cái gọi là “Grunge ở Việt Nam”.
Nào – hãy tìm hiểu xem Grunge là gì nhé?
Theo Wiki và từ điển Oxford, Grunge /ɡrənj/ là một từ miêu tả sự bụi bặm mà có thể nói là bẩn – thô lỗ (Dirty/Dirt), một phong cách nhạc rock được sáng tác bởi raucous guitar sound and lazy vocal delivery ( Một thứ âm thanh khàn và giọng ca lười =)) ). Rộng hơn, Grunge là một thể loại nhạc rock và sub-culture xuất hiện vào những thập niên 80s, nở rộ ở Mỹ - đặc biệt là quê hương của nó, Seattle và ảnh hưởng xung quanh. Grunge là sự kết hợp giữa punk và metal trong rock. Vậy – Grunge không phải đơn thuần là 1 style thời trang, đó là âm nhạc, là phong cách sống và văn hóa.
(Vậy, grunge hiện nay hình như hơi sạch sẽ các bạn ạ. Đó là sự biến chuyển về văn hóa).
Grunge không phải là thời trang mà chúng ta thường nghĩ – thậm chí Grunge sơ khai còn không đi theo tiêu chuẩn của thời trang lúc đó nữa. Từ Seattle, những gã nhạc rock sống lang thang (Trước khi nổi tiếng) – khờ dại đi theo đam mê của mình. Một thành phố ngập tràn trong mưa, bùn lầy và giai cấp bình dân, những cửa hàng từ thiện rất nhiều. Và đó khởi đầu cho một từ “Thrift Shop” – Thrift shop là 1 cửa hàng dành cho mục đích từ thiện, không phải là chuyên bán đồ secondhand. Toàn bộ đồ ở đây là do những người không sử dụng đồ đó nữa, họ mang tới cửa hàng thrift/một là tặng, hai là bán với mức giá rẻ. Toàn bộ doanh thu thu được từ bán đồ, sau khi trừ các chi phí duy trì hoạt động của cửa hàng – sẽ dùng cho mục đích charity/từ thiện. Vậy là từ Thriftshop mà chúng ta sử dụng ngày nay cũng có phần lệch lạc.
Thrift và Grunge – có liên hệ mật thiết với nhau. Vì những gã thanh niên mê rock, ngủ vật vờ trên những chiếc sofa bỏ đi, không thể nào có tiền mà ăn mặc lả lướt được. Họ phải mua quần áo từ những tiệm thriftshop mình kể trên và mặc trên người. Dĩ nhiên, không phải món nào cũng lành lặn và cũng đúng size mà người ta chọn. À thế là những cái sự vá, thêu, DIY bắt đầu hình thành (Mà ngày nay chúng ta hay gọi là custom í) – những chiếc áo rách được thêu patch khéo léo, những chiếc quần oversize được crop lại, phụ kiện cũng tự tạo nên. Còn việc mặc rộng thùng thình – đó đã là chuyện quen thuộc. Neil Young, Kurt Cobain, Smashing Pumpkins, Soundgarden tất cả đều trải qua câu chuyện như thế. Khi họ thành công, tư tưởng sử dụng đồ và thời trang đó – đã ăn vào máu của họ và cũng là thứ để nhắc nhở về quá khứ nghèo khổ của mình, tượng trưng cho sự vùng lên của giai cấp lao động và bình dân và được công nhận bởi những gã bề trên. Bump! Grunge phát triển từ đó. Vậy Grunge không chỉ gói gọn trong những thứ mà các bạn đang mặc, Grunge nó là tất cả/ là mọi thứ mà các bạn có thể DIY được – vì thứ thời trang này, xuất phát từ những cửa hàng từ thiện.
Câu chuyện lại đi vào vòng tuần hoàn, khi Grunge cùng các nhạc rock trở nên nổi tiếng và thu hút mọi ánh nhìn của bao thanh niên thập niên 80-90s. Người ta muốn trở nên bụi bặm, ngầu như Kurt Cobain, người ta đổ xô đi tự custom đồ và tạo thành thứ gọi là “Thời trang Grunge”. Những gã nhà giàu cũng muốn theo xu hướng và khẳng định mình – nhưng họ không thể nào lại hạ giá mà tới các cửa hàng thrift được. Nhận thấy miếng bánh béo bở đó, các hãng thời trang vào cuộc với tinh thần “Lấy cảm hứng từ Grunge”. Bắt đầu là Marc Jacobs, sau này là hàng loạt các hãng như các bạn đã biết như Saint Laurent Paris, Off-white, FoG, A Mí Rì..
Nhưng đáng nói hơn đó là Marc Jacobs vì có lẽ ông là người tiên phong và được nhắc nhiều nhất khi mà mang cái sự bẩn và chắp vá của Grunge lên sàn diễn thời trang. Vào năm 1992, Marc Jacobs đang là làm việc cho thương hiệu đồng tên nổi tiếng Perry Ellis. Jacobs – 1 cậu chàng fashion designer trẻ măng lúc đó, 29 tuổi – đã đánh liều đưa Grunge, trộn tất cả mọi thứ lên sàn runway với tình yêu của Kurt Cobain, Courtney Love. Áo flannel, granny dresses (váy bà ngoại), Dr. Martens và những chiếc áo knit thêu hình đầu lâu/skull. Cũng vì liều mà ngay lập tức, Marc Jacobs đã bị Perry Ellis sa thải ngay sau đó vì đã phá hỏng hình tượng runway. Nhưng nó lại trở thành biểu tượng của Marc Jacobs và niềm cảm hứng của hàng loạt nhãn hàng thời trang sau này (Có cái tên của Alexander Mc Queen và Hedi Slimane..)
Grunge ngày nay đã mang vẻ “sạch sẽ hơn rất nhiều” so với ngày xưa. Nó phù thuộc vào tư duy và tinh thần của mỗi fashion designer. Cũng có nhiều người nhầm lẫn rằng Grunge là Flannel, nhưng không – flannel được Grunge trở thành làm thứ iconic, nhưng nó không đại diện cho Grunge. Nhưng xin nhắc lại Grunge không phải đơn thuần là thời trang, nó là phong cách sống và miêu tả của 1 thời kì khó khăn, bụi bặm và đậm chất bình dân từ thành phố Seattle hay nước Mỹ thập niên 80s – 90s.
sub wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
MediaTek ผู้มีบทบาทสำคัญ ในระบบ 5G แทนที่ Huawei /โดย ลงทุนแมน
ตั้งแต่ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา สั่งแบน Huawei ในปี 2019
และบริษัทอเมริกันถูกห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับ Huawei
เรื่องนี้ก็สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการ ชิปรับสัญญาณ 5G
จากเดิมที ที่ชิปตระกูล Kirin ของ Huawei เคยเป็นผู้เล่นคนสำคัญ
กลับต้องตกที่นั่งลำบาก เพราะโดนสหรัฐอเมริกาแบน
ซึ่งอานิสงส์จากเรื่องนี้ ก็ตกมาที่บริษัทออกแบบชิป 5G รายอื่น ๆ
หนึ่งในนั้นก็คือ “MediaTek”
MediaTek เป็นใคร ทำไมถึงก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ในวงการชิป 5G
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
MediaTek ก่อตั้งเมื่อปี 1997 ทำธุรกิจออกแบบ และจัดจำหน่ายชิปสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โดย MediaTek เป็นบริษัทลูกของ UMC (United Microelectronics Corporation) หนึ่งในบริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่ในไต้หวัน
เดิมที MediaTek มีหน้าที่หลักคือรับออกแบบชิป
และให้บริษัทแม่อย่าง UMC เป็นผู้ผลิตชิปที่ออกแบบ
โดยเริ่มจากการผลิตชิปควบคุมการทำงานของแผ่น CD, DVD, Blue-ray แล้วต่อมาจึงได้เริ่มหันเข้าสู่ธุรกิจผลิตชิปควบคุมการทำงานของทีวีดิจิทัล
จนในปี 2017 MediaTek เริ่มเข้าสู่ธุรกิจผลิตชิปสำหรับสมาร์ตโฟน
คือชิปตระกูล Helio เพื่อมาเจาะตลาดชิปสำหรับแบรนด์สมาร์ตโฟนต่าง ๆ นอกเหนือจากตลาดเจ้าเดิม อย่าง Snapdragon ของ Qualcomm และ Exynos ของ Samsung
จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ MediaTek กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในตลาดนี้
คือการเข้ารับตำแหน่งของ CEO คนปัจจุบัน ที่ชื่อว่าคุณ Rick Tsai
คุณ Rick Tsai อดีตเคยเป็น COO ของ TSMC บริษัทรับผลิตชิปรายสำคัญของโลกสัญชาติไต้หวัน
สิ่งแรกที่เขาทำหลังเข้ามารับตำแหน่งคือ
ลดการพึ่งพาบริษัทแม่อย่าง UMC ที่ก่อนหน้านี้ เป็นผู้ผลิตชิปรายหลักให้กับ MediaTek
เขามองว่า เทคโนโลยีและประสิทธิภาพในการผลิตชิปของ UMC ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับ TSMC ได้
คุณ Rick Tsai จึงหันไปเลือกใช้บริการ TSMC ให้เป็นผู้ผลิตชิปหลัก ให้กับ MediaTek แทน
อีกจุดเปลี่ยนสำคัญตามที่ได้เกริ่นไปตอนต้นเรื่องก็คือ การที่สหรัฐอเมริกาแบน Huawei
ซึ่งมาตรการที่ออกมา ส่งผลให้สมาร์ตโฟนของ Huawei มียอดขายที่ลดลง
จากเดิม Huawei ครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟน อันดับ 3 รองจาก iPhone และ Samsung
กลายเป็นว่า ต้องเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับแบรนด์สมาร์ตโฟนมาแรงจากจีนรายอื่น อย่างเช่น Xiaomi, Oppo, Vivo, Realme
ประเด็นก็คือ สมาร์ตโฟนแบรนด์ Xiaomi, Oppo, Vivo ใช้ชิปประมวลผล ที่ออกแบบโดย 3 บริษัทคือ MediaTek, Qualcomm และ Samsung ซึ่งครองส่วนแบ่งในตลาดชิปออกแบบ รวมกันกว่า 60%
MediaTek ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีสื่อสารของไต้หวัน
ที่ได้เข้าร่วมโครงการ Clean Network ของสหรัฐอเมริกา
ซึ่งโครงการ Clean Network คือโครงการที่ทางสหรัฐอเมริกาเคลมว่า ช่วยส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่ปลอดภัย ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้งาน
นอกจากนั้น MediaTek ยังเป็นบริษัทออกแบบชิปเจ้าแรก ๆ
ที่ร่วมมือกับ HiSilicon ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกแบบชิปของ Huawei ในการพัฒนาชิปสำหรับอุปกรณ์ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตในระบบ 5G ทำให้ MediaTek ได้องค์ความรู้ในเรื่องพัฒนาชิป 5G มาพัฒนาต่อ
การเข้าสู่ยุคของการสื่อสารระบบ 5G
ทำให้มีความต้องการที่จะเปลี่ยนมาใช้สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่มากขึ้น
ซึ่งจากจุดนี้ ก็เป็นตัวผลักดันให้เกิดการขายชิปสมาร์ตโฟน ตระกูล Dimensity ของ MediaTek สำหรับเป็นส่วนประกอบของสมาร์ตโฟน ตั้งแต่ระดับกลาง ไปจนถึงระดับสูง
ที่น่าสนใจคือ แบรนด์สมาร์ตโฟนสัญชาติจีนอย่าง Xiaomi, Oppo, Vivo ที่ส่วนใหญ่เลือกใช้ชิปของทั้ง MediaTek และ Qualcomm ก็กำลังมียอดขายเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้ยอดขายชิปของทั้ง MediaTek และ Qualcomm ขยายตัวตามไปด้วยเช่นกัน
ซึ่งทาง MediaTek มีข้อได้เปรียบในเรื่องราคาขายชิป กว่า Qualcomm อยู่เล็กน้อย
เพราะ MediaTek ขายชิประบบ 5G ในราคาไม่ถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีราคาถูกกว่า ชิปตระกูล Snapdragon ของ Qualcomm ที่กำหนดราคาอยู่ที่ประมาณ 120-140 ดอลลาร์สหรัฐ
เรื่องนี้ทำให้ไตรมาสแรกปี 2021 ที่ผ่านมา
MediaTek ทำยอดขายชิปสมาร์ตโฟนเบียดเอาชนะ Qualcomm ได้สำเร็จ
โดยจากข้อมูล Counterpoint Research
ไตรมาสแรก ปี 2021 MediaTek ครองส่วนแบ่งในตลาดส่งมอบชิปสมาร์ตโฟน 37% ตามด้วย Qualcomm 31%
อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ Qualcomm เลือก Samsung เป็นผู้ผลิตชิปให้
ส่วนทางด้าน MediaTek นั้นเลือก TSMC ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงกว่า เป็นผู้ผลิตชิปให้
เราจะเห็นได้ว่า การที่ MediaTek เปลี่ยนมาใช้บริการ TSMC ให้มาเป็นผู้ผลิตชิปรายหลักให้ จากเดิมที่ใช้บริการบริษัทแม่อย่าง UMC ถือเป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ MediaTek มีข้อได้เปรียบในเรื่องศักยภาพการแข่งขันในตลาดชิป 5G
ผลประกอบการ ย้อนหลัง 3 ปี ของ MediaTek
ปี 2018 รายได้ 238,057 ล้านบาท กำไร 23,632 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 280,281 ล้านบาท กำไร 26,219 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 366,708 ล้านบาท กำไร 46,577 ล้านบาท
โดยที่ปี 2020 รายได้และกำไรของ MediaTek เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ปัจจัยสำคัญก็เพราะ ยอดขายของบรรดาสมาร์ตโฟนอย่าง Xiaomi, Oppo, Vivo ที่เพิ่มสูงขึ้นมากมาแทนที่ Huawei ที่โดนทางสหรัฐอเมริกาแบน ซึ่งสมาร์ตโฟนแบรนด์เหล่านี้ ก็เป็นลูกค้าที่สั่งซื้อชิป รายสำคัญของ MediaTek
แต่ความท้าทายของผู้ออกแบบชิปอย่าง MediaTek และอีกหลาย ๆ รายในตอนนี้
ก็คงหนีไม่พ้น ความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้นมากจากทั่วโลก จนเกิดปัญหาชิปขาดแคลน
จนซัปพลายเออร์คนสำคัญของ MediaTek ในตอนนี้อย่าง TSMC ก็มีออร์เดอร์อยู่ล้นมือ จนผลิตกันไม่ทันแล้ว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://tips.thaiware.com/1449.html
-https://www.bnext.com.tw/article/60653/5g-stock-industry-cellphone-december
-https://news.sina.com.tw/article/20200104/33899734.html
-https://www.bnext.com.tw/article/62681/MediaTek-ap-soc-37-percent-predict
-https://www.gvm.com.tw/article/60781
-https://qooah.com/2021/04/22/dimensity-2000-will-be-released-at-the-end-of-the-year-and-may-be-the-worlds-first-4nm-process-processor/
-https://money.udn.com/money/story/5612/5336387
-https://www.moneydj.com/kmdj/wiki/wikiviewer.aspx?keyid=80b24902-5be8-4232-bfcd-d80a4db156a2
-https://corp.MediaTek.tw/news-events/press-releases/MediaTek-unveils-new-m80-5g-modem-with-support-for-mmwave-and-sub-6-ghz-5g-networks
sub wiki 在 Phê Phim Youtube 的評價
?? Sử dụng code MORTALKOMBAT để giảm giá ngay 20k cho mỗi đơn hàng tại https://cinegoodies.vn/bo-suu-tap-mortal-kombat
?? Xem thêm các sản phẩm khác tại https://cinegoodies.vn
MORTAL KOMBAT: Phân tích và Giải thích TRAILER
Đây không phải review phim hay tóm tắt phim!
Nguồn tham khảo: https://en.wikipedia.org/wiki/Mortal_Kombat

sub wiki 在 麥克韮啦 MikeGela Youtube 的評價
你了解柴犬可愛外表背後固執個性嗎? 想養柴犬有什麼注意事項呢? 讓我們用五分鐘介紹柴犬的大小事吧!
麥克韮啦 Facebook: https://www.facebook.com/MikeGelaOfficial/
麥克韮啦 Instagram: https://www.instagram.com/mike_gela/
--------------------------------------------------------
Photo credits:
Shiba Inu photo by Roberto Vasarri / Public
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Shiba_inu_taiki.jpg
Wolf photo / CC BY 3.0
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Wolf_on_alert.jpg
Boar photo by / Valentin Panzirsch / CC BY 3.0
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:20160208054949!Wildschein,_N%C3%A4he_Pulverstampftor_(cropped).jpg
Shiba vs red fox photo by
https://myfirstshiba.com/shiba-inu-red-fox/
Stubborn shiba inu photo by
https://myfirstshiba.com/shiba-inu-pros-and-cons/
Male vs Female Shiba photo by
https://myfirstshiba.com/male-vs-female-shiba-inu/
Shiba meets a mechanical bear photo by
http://inaridou.blogspot.com/2012/08/shibas-meet-mecahnical-bear.html
Bird photo by fir0002 | flagstaffotos.com.au / CC BY 3.0
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:House_sparrow04.jpg
Shiba Inu bitten photo by 9gag
https://www.instagram.com/p/BSblXJZDBKm/
Shiba Inu shedding photo by
https://www.boredpanda.com/human-trolls-his-shiba-inu-with-all-excess-hair-after-grooming-and-the-way-dogs-face-changes-is-hilarious/?utm_source=google&utm_medium=organic&utm_campaign=organic
Shiba Inu tearing paper photo by King Kenichi
https://insta-stalker.com/profile/kenichi_theshiba/
Shiba Inu shaking photo by Maja Dumat / CC BY 2.0
https://www.flickr.com/photos/blumenbiene/14074293563

sub wiki 在 Dương FG Youtube 的評價
Sub cho GVM: https://www.youtube.com/channel/UC9Y6F-eMKSXhk2FM89flTIg
---------------------------
Wiki: https://gvmluccamovies-va-duong-fg.fandom.com/vi/wiki/Wiki_GVMluccaMovies_v%C3%A0_D%C6%B0%C6%A1ng_FG
Chúc các bạn một tuần vui vẻ!
Discord: https://discord.gg/duongfg
Fanpage chính thức : https://www.facebook.com/Realduongfg
Follow mình trên:
Instagram: https://www.instagram.com/realduongfg/
Facebook: https://www.facebook.com/duong.hatung.5
Twitter: https://twitter.com/Duong_FG
