จากกระดาษทิชชู่แผ่นเดียว ทำให้เห็นน้ำใจคนอเมริกา
แต่เอาจริงๆ พวกคนแบบที่เขียนทิชชู่นี่แม่งมีทุกหนทุกแห่งจริงๆ
หนึ่งข้อความจากคนใจร้าย
ก่อเกิดพันข้อความจากคนใจดี
:
1- ร้านอาหารไทยชื่อ "Thai Thai Restaurant" ตั้งอยู่ที่เมืองลับบ็อค รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าของเป็นคนไทยที่มาตั้งรกรากอยู่ที่นี่และเปิดร้านมานานกว่า 30 ปีแล้ว
2- วันที่ 21 พ.ย. 62 มีลูกค้าคนหนึ่งมาทานมื้อกลางวันที่ร้าน ได้ยินเจ้าของร้านและพนักงานคุยกันเป็นภาษาไทยแล้วเกิดความไม่พอใจ
3- หลังทานเสร็จ ลูกค้าคนดังกล่าวได้เขียนข้อความลงบนกระดาษเช็ดปาก แล้วเอาไปวางไว้บนเคาน์เตอร์ ข้อความว่า...
.
“If you’re going to live in AMERICA learn to speak ENGLISH! or, go back to where you came from!”
.
(ถ้าอยากอยู่ "อเมริกา" ก็ต้องฝึกพูดภาษา "อังกฤษ" ไม่งั้นก็กลับบ้านเก่าไปซะ!)
4- “คุณรังสี” เจ้าของร้าน ได้นำข้อความดังกล่าวมาโพสต์ในเพจของร้านแล้วกล่าวขอโทษว่า...
“Someone left it at the counter at lunch today. Whoever you are, I apologize for that which I wasn’t born with.”
.
(มีคนทิ้งข้อความนี้ไว้บนเคาน์เตอร์ตอนมื้อกลางวัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม เราขออภัยด้วยที่เราไม่ได้เกิดมาพูดภาษาอังกฤษ)
5- โพสต์นี้กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว มีคนมาคอมเมนท์เพื่อให้กำลังใจร้านมากกว่า 2,400 ข้อความ
6- และที่น่าตื้นตันใจยิ่งคือ วันรุ่งขึ้นลูกค้าจำนวนมากพร้อมใจกันมาอุดหนุนร้านจนที่จอดรถเต็ม ลูกค้าต่อคิวยาวเหยียดจากเคาน์เตอร์ไปถึงประตู
7- พวกเขายอมรับว่า มาที่นี่เพราะทราบข่าวเรื่องข้อความที่ร้านได้รับเมื่อวาน จึงต้องการมาสนับสนุนและให้กำลังใจร้าน
8- หลังจากทานเสร็จ ลูกค้าหลายคนยังเขียนข้อความลงบนกระดาษแล้วทิ้งไว้ที่เคาน์เตอร์ เพื่อให้กำลังใจเจ้าของร้านและพนักงานอีกหลายข้อความ เช่น
- ไม่พูดภาษาอังกฤษก็ไม่มีปัญหา เราทุกคนรักพวกคุณ
- เรารักคุณ ขอบคุณนะที่มาเปิดร้านที่ลับบ็อค คุณทำให้ชุมชนของเราน่าอยู่ขึ้น
- ความหลากหลายทำให้ชุมชนเข้มแข็ง ขอบคุณที่มาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของเรา
9- เรื่องนี้กลายเป็นข่าวดังทั้งในโซเชียลมีเดีย หนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ มีนักข่าวไปสัมภาษณ์เจ้าของร้านและลูกค้าด้วย ทำให้มีคนรู้จักร้านอาหารไทยแห่งนี้มากขึ้น
:
จริงอยู่ที่โลกนี้มีคนใจร้าย
แต่ก็มีคนใจดีมากกว่า
#poetryofbitch
—————
Credit: ภาพจากเพจ Thai Thai Restaurant และ KLBK TV
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
「poetryofbitch」的推薦目錄:
poetryofbitch 在 2how Facebook 八卦
#ไวรัลวันนี้ มาจากญี่ปุ่นค่ะ
:
1- ในปี 2558 "มาอิ" (Mai Narushima) นักวาดการ์ตูนชาวญี่ปุ่น ไปพบลูกแมวตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ รอดูอยู่นานก็ไม่เห็นแม่หรือพี่น้องของมันอยู่แถวนั้น ถ้าปล่อยไว้ก็คงตาย จึงตัดสินใจเอามาเลี้ยงที่บ้าน ลูกชายของมาอิตั้งชื่อให้มันว่า "โคมะ" (Koma)
2- มาอิพาโคมะไปหาหมอ หมอบอกว่าโคมะยังเล็กมาก ยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำ อายุน่าจะราว ๆ 3 วันเท่านั้น มันอาจจะไม่รอดก็ได้ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
3- ครอบครัวของมาอิดูแลโคมะเป็นอย่างดี ทั้งทางร่างกายและจิตใจ พวกเขากลัวโคมะจะรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะไม่มีแม่คอยกกกอด จึงมองหาอะไรสักอย่างให้มาเป็นเพื่อนโคมะ เมื่อเห็นโมเดลอุลตร้าแมนของลูกชายความยาวเท่าตัวโคมะพอดี จึงยกให้เป็นเพื่อนของมัน
4- พวกเขาทำให้อุลตร้าแมนคอยอยู่เคียงข้างโคมะ เพื่อให้โคมะรู้สึกปลอดภัยเหมือนมีคนคอยปกป้องคุ้มครอง เมื่อโคมะลืมตาได้ มันก็เห็นอุลตร้าแมนผู้พิทักษ์อยู่ข้าง ๆ เสมอ
5- อุลตร้าแมนอยู่เคียงข้างโคมะมาตลอด ปีแล้วปีเล่า และร่วมฉลองวันเกิดของโคมะมาทุกปี จนปีนี้ (2563) โคมะจะอายุครบ 5 ปี ในเดือนกันยายนนี้แล้ว และแม้จะมีแมวตัวใหม่มาอยู่เป็นเพื่อนด้วยอีกตัว แต่โคมะก็ไม่เคยลืมอุลตร้าแมนผู้พิทักษ์ของมัน
:
#poetryofbitch
#ลํานําเดอะบิทช์
—————
ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @komagram2015
poetryofbitch 在 horrorclub.net Facebook 八卦
โคตรติ่ง
"หยางลี่จวน" ตำนานแห่งความติ่ง
ฝันร้ายของ "หลิวเต๋อหัว"
—————
⚫️ EP.1
ปฐมบทของความติ่ง
:
1- "หยางลี่จวน" (Yang Lijuan) เป็นหญิงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จากเมืองหลานโจว มณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
2- แม่ของหยางเป็นแม่บ้าน ส่วนพ่อเป็นครูโรงเรียนมัธยม แม้จะไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่อะไรที่หยางอยากได้ พ่อกับแม่ก็มักจะหามาให้จนได้เสมอ
3- หยางในช่วงวัยรุ่นเป็นแฟนคลับตัวยงของซูเปอร์สตาร์หนุ่มชาวฮ่องกง “หลิวเต๋อหัว” ซึ่งตอนนั้นเขาโด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วเอเชีย
4- ความคลั่งไคล้ที่มีต่อหลิวเต๋อหัวทำให้หยางมีความเชื่อว่า เธอกับหลิวนั้นมีวาสนาต่อกัน และถ้าเขาได้เจอเธอ เขาอาจจะรักเธอก็ได้
5- ในปี 2537 หยางในวัย 16 กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.ปลาย ได้ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนกลางคัน เพื่อมาทำความฝันของเธอเกี่ยวกับหลิวเต๋อหัวให้เป็นจริง
6- หยางซื้อหนังสือพิมพ์ทุกเล่มที่มีข่าวของเขา สะสมรูปภาพและอัลบั้มเพลงทุกอัลบั้ม วันทั้งวันเอาแต่นั่งดูผลงานของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และประกาศว่าจะไม่แต่งงานกับใครจนกว่าจะได้พบหลิวเต๋อหัว
7- ถ้าหลิวเต๋อหัวมีคอนเสิร์ตหรือมีตติ้งเมื่อไหร่ ไกลแค่ไหน บัตรแพงยังไง หยางจะต้องไปให้ได้ และเธอต้องซื้อบัตรแถวหน้าเท่านั้น ด้วยความหวังว่าหลิวจะได้มองเห็นเธอง่ายขึ้น
8- แต่การจะเดินทางไปฮ่องกงปีละหลายครั้งนั้น ย่อมมีค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อย ทำให้นานวันไปพ่อกับแม่ของเธอก็เริ่มกู้หนี้ยืมสิน และนำทรัพย์สินไปขาย เพื่อทำฝันของลูกสาวให้เป็นจริง
9- เคยมีนักข่าวไปสัมภาษณ์แม่ แม่เองก็เชื่อว่าลูกสาวกับหลิวเต๋อหัวมีวาสนาต่อกัน และเชื่อว่าหากหลิวได้เจอกับหยาง เขาอาจจะตกหลุมรักเธอก็ได้
—————
⚫️ EP.2
ได้พบหลิวเต๋อหัว
:
10- เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างนี้อยู่นานหลายปี จนหยางย่างเข้าวัย 20 ตอนปลาย เธอไม่มีงานทำ ไม่มีแฟน และไม่มีเพื่อน เพราะใช้เวลาทั้งหมดของชีวิตไปกับการติ่งหลิวเต๋อหัว
11- ในขณะเดียวกันพ่อก็เกษียณราชการและมีรายได้จากเงินบำนาญไม่มากนัก ทำให้สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวเริ่มย่ำแย่
12- ปี 2549 พ่อของหยางถึงกับต้องขายเลือด และประกาศขายไตเพื่อหาเงินให้หยางบินไปติดตามหลิวเต๋อหัวตามที่ต่าง ๆ
13- ครั้งหนึ่งหยางบินไปฮ่องกงและไปยืนรอหลิวเต๋อหัวที่หน้าบ้านอยู่เป็นวัน แต่หลิวไม่ยอมออกมาพบ ทำให้หยางเสียใจมาก ยิ่งทำให้พ่อกับแม่สงสารลูกสาวขึ้นไปอีก
14- มีนาคม 2550 แฟนคลับของหลิวเต๋อหัวในฮ่องกงได้จัดงานแฟนมีตติ้งเพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 46 ปีให้หลิวเต๋อหัว หยางหาตั๋วงานนี้ได้สำเร็จ เธอดีใจสุด ๆ นี่เป็นโอกาสทองที่เธอจะได้ใกล้ชิดเขา
15- แต่ตอนนั้นครอบครัวของหยางแทบไม่มีเงินเหลือแล้ว พ่อจึงตัดสินใจขายบ้าน เอาเงินมาเป็นค่าตั๋ว-ค่าที่พักให้หยาง โดยพ่อกับแม่ก็บินไปฮ่องกงกับเธอด้วย
16- ในงานนี้ หลิวเต๋อหัวจะมาฉลองวันเกิดกับแฟนคลับ ร้องเพลงและเล่นเกมกัน จากนั้นจะให้ทุกคนได้ถ่ายรูปคู่กับเขา ซึ่งสำหรับแฟน ๆ ทั่วไป เท่านี้ก็ถือว่าโคตรฟินแล้ว ... แต่ไม่ใช่สำหรับหยาง!
17- หยางได้ถ่ายรูปกับหลิวเต๋อหัวอย่างใกล้ชิด แต่เธอกลับไม่พอใจ เธอมองว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนทั้งคู่ต่างก็เห็นหน้าตาของกันและกันไม่ชัด
18- หยางอยากพูดคุยกับหลิวเป็นการส่วนตัว อยากแนะนำตัวให้เขารู้ว่าเธอเป็นใคร แล้วเมื่อนั้นเขาอาจจะอยากสานสัมพันธ์กับเธอต่อก็ได้
—————
⚫️ EP.3
การตายของพ่อ
:
19- เมื่อยังไม่ได้คุยกับหลิวเต๋อหัว หยางก็ไม่ยอมกลับจีน ในที่สุดพ่อของหยางก็ตัดสินใจใช้ "ไม้ตาย" ช่วยลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย
20- พ่อเขียนจดหมายถึงหลิวเต๋อหัว ความยาวถึง 12 หน้า กล่าวหาว่าเขาเป็นคนเลือดเย็น ไร้หัวใจ ทั้งที่ลูกสาวของพ่อทุ่มเทวัยสาวของเธอให้กับเขาเพียงคนเดียว
21- ในจดหมายยังพรรณนาถึงความรักที่หยางมีต่อหลิวเต๋อหัวว่า 13 ปีที่ผ่านมา หยางพูดคุยกับรูปของหลิวที่ติดอยู่บนผนังห้องทุกวัน ความฝันเดียวในชีวิตของเธอก็คือการได้เจอและพูดกับหลิวสักครั้ง
22- หลังเขียนจดหมายเสร็จ พ่อของหยางซึ่งตอนนั้นอายุ 68 ปี ก็กระโดดลงไปในทะเลซาลิสบูรีเพื่อฆ่าตัวตาย โดยหวังว่าการตายของเขาจะทำให้หลิวยอมมาพบหยาง
23- ข้อความบางส่วนในจดหมายยังกล่าวโทษหลิวเต๋อหัวด้วยว่า ความตายของเขาในครั้งนี้เป็นความผิดของหลิว เขาตายเพื่อประท้วงหลิว เพราะฉะนั้นหลิวต้องมาเจอหยางเพื่อไถ่โทษ
24- หลังการตายของพ่อ เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ทั้งในจีนและฮ่องกง หยางกับแม่ถือโอกาสนี้กดดันหลิวผ่านสื่อว่า...
.
1. หลิวต้องมาเคารพศพพ่อของเธอ
2. เขาต้องพบเธอเป็นการส่วนตัวอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
25- หยางยังกล่าวโทษหลิวเต๋อหัวด้วยว่า เขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อของเธอฆ่าตัวตาย ถ้าเขายอมมาพบเธอแต่แรก พ่อของเธอก็คงไม่ตาย
26- แถมหยางยังสาปแช่งหลิวเต๋อหัวผ่านสื่อมวลชนว่า ถ้าเขาไม่มาพบเธอ ขอให้เขาสำลักอาหารและเครื่องดื่มตาย
27- ฝ่ายหลิวเต๋อหัวก็แถลงผ่านผู้จัดการส่วนตัวว่า เขาจะไม่ไปพบหยางอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าเขาไป ก็อาจจะมีแฟนคลับคนอื่น ๆ ทำตามอีก
28- หลิวยังขอร้องสื่อว่าอย่าให้ความสำคัญกับหยาง เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง ขอให้หยางพาแม่กลับจีนไปใช้ชีวิตตามปกติ และไปพบจิตแพทย์เสีย
29- แต่หลิวเต๋อหัวไม่ใช่คนใจร้าย เมื่อพ่อของหยางเสียชีวิตลง เขาก็ส่งคนไปช่วยจัดการหลาย ๆ เรื่อง รวมทั้งจ่ายเงินก้อนโตให้หยางกับแม่เดินทางกลับจีนด้วย
30- แต่หยางกับแม่ก็ยังไม่พอใจ พวกเขาเรียกค่าเสียหาย 500,000 หยวน (ประมาณ 2.16 ล้านบาท) จากหลิว แต่ผู้จัดการของหลิวออกมาปฏิเสธว่าจะไม่มีการจ่ายเงินให้ใครทั้งนั้น
31- เมื่อเห็นว่าหลิวเต๋อหัวไม่ยอมมาพบเธอแน่นอนแล้ว หยางกับแม่ก็ยอมบินกลับจีนในที่สุด
32- ชีวิตของหยางและแม่ลำบากมากหลังจากนั้น เพราะบ้านก็ขายไปแล้ว จึงต้องเช่าห้องแคบ ๆ อยู่ กินแบบอด ๆ อยาก ๆ ไหนจะหนี้สินที่ก่อไว้อีก
** (หลายปีต่อมา หยางได้ออกมายอมรับว่าหลิวเต๋อหัวเคยใช้หนี้ให้ครอบครัวของเธอ)
—————
⚫️ EP.4
วัยสาวที่สูญไป
:
33- ในปี 2557 หยางในวัย 36 ได้ให้สัมภาษณ์สื่อเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ว่าหลังพ่อเสียชีวิต เธอได้อุทิศตัวมาทำงานให้กับองค์กรการกุศลแห่งหนึ่งในบ้านเกิด
34- หยางขอโทษพ่อทั้งน้ำตา และเตือนแฟนคลับคนอื่น ๆ ว่าอย่าทำอะไรที่สุดโต่งจนเกินไปเพียงเพื่อไล่ตามไอดอลในดวงใจ
35- นอกจากนี้เธอยังพูดถึงหลิวเต๋อหัวว่า "เขาไม่คู่ควรกับการที่ฉันยอมสูญเสียวัยสาวให้เลยจริง ๆ"
36- หยางเล่าว่าหลังการตายของพ่อ หลิวเต๋อหัวปฏิเสธที่จะมาเคารพศพ เธอจึงเผาทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเขาทิ้ง แล้วพยายามลืมทุกอย่าง
37- หลิวเต๋อหัวเองก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ไม่น้อย จนต้องไปพบจิตแพทย์ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่มีใครโทษหลิวเต๋อหัวเลย ทุกคนเข้าใจและมองว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว
—————
⚫️ EP. 5
วันที่เธอมูฟออน
:
38- ปัจจุบันหยางอายุ 41 ปีแล้ว หลังข่าวคราวเงียบหายไปนาน เธอก็ให้สัมภาษณ์รายการบันเทิง See You Later ทางช่องยูทูบ เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2562
39- หยางบอกว่าเธอเลิกคลั่งไคล้หลิวเต๋อหัวแล้ว แต่ความรู้สึกเศร้าเสียใจที่พ่อตายยังคงอยู่ และตอนนี้เธอทำงานหนักเพื่อให้แม่สบาย
40- ตอนนี้หยางทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในบ้านเกิด เธอเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่กับแม่ ทั้งสองมีชีวิตที่เรียบง่ายและมีความสุขตามอัตภาพ
41- การให้สัมภาษณ์ครั้งก่อนเมื่อปี 2557 หยางยังกล่าวโทษหลิวเต๋อหัวอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้เธอยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง และบอกว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่ทำแบบนั้น
42- หยางบอกว่าทุกปี เธอจะไปที่แม่น้ำเหลืองเพื่อสวดมนต์ให้พ่อ ปีที่แล้วเธอบอกพ่อผ่านแม่น้ำว่า...
.
“พ่อเสียสละหลายสิ่งหลายอย่างให้หนู แม่และหนูสบายดี หนูจะทำงานหนักและดูแลแม่ พ่อเป็นพ่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ได้โปรดอภัยให้ลูกคนนี้ด้วยนะคะ”
—————
#poetryofbitch
ขอความกรุณาไม่คัดลอกบทความก่อนได้รับอนุญาตนะคะ 🙏🏼