outsidetheroom的八卦，YOUTUBE和Yahoo名人娛樂都在討論

Winter in Hokkaido

Ep. 4.2 Blue Pond & Shirahige Waterfall

ต่อจาก Ep ที่แล้ว

สถานที่ท่องเที่ยวอีกโซนหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากเวลามาเที่ยวบิเอะ ก็คือ Blue pond และน้ำตก Shirahige อยู่ไม่ไกลจาก Shirogane Onsen ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองบิเอะ

โดยบ่อน้ำที่มีสีฟ้าแห่งนี้ ถูกขุดขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการป้องกันเมืองบิเอะจากการระเบิดของภูเขาไฟ Tokachi ซึ่งเคยปะทุครั้งล่าสุดในปี 1988
ส่วนสีฟ้าของน้ำนั้นเกิดจากสารอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ที่เจือปนอยู่ในน้ำ เมื่อกระทบกับแสงแดดในช่วงเวลาต่างๆ จะทำให้เห็นเป็นสีฟ้าสดใสมากยิ่งขึ้น

ธารน้ำสายนี้ยังเป็นสายเดียวกับที่น้ำตก Shirahige ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล (ใกล้กับ Shirogane Onsen) ลักษณะของสีน้ำก็จะเป็นแบบเดียวกัน

สำหรับในช่วงกลาง - ปลายฤดูหนาว (กลางธันวาคม - กุมภาพันธ์) น้ำในบ่อจะกลายเป็นน้ำแข็งขาวโพลน ทำให้ไม่สวยอย่างแรง 555+ แนะนำว่ากลางวันให้ไปเที่ยวที่อื่นก่อน แล้วค่อยมาในช่วงค่ำ
เพราะเค้าจะมีการจัด Winter illumination ให้ได้ชมกันในช่วงประมาณ 17.00 - 21.00 (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง)
เป็นการฉายไฟสีฟ้าเป็นจังหวะ ทำให้บ่อขาวโพลนกลายเป็นบ่อสีฟ้า หรูหราขึ้นมาในทันใด ^^

แต่ แต่ แต่ !!
ขอเตือนสำหรับใครที่คิดจะมาในช่วงฤดูหนาว
ความหนาวของที่นี่โหดกว่าโซนเมืองบิเอะเยอะ เพราะอยู่ใกล้กับภูเขาสูงและธารน้ำ ในภาพตอนที่ผมไปคือประมาณ -18 มือแข็งกันเลยทีเดียว ><

ในแต่ละฤดู ความสวยงามของ Blue Pond นั้นก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเอาเที่ยวสบาย มาในหน้าร้อนน่าจะตอบโจทย์ที่สุด (แต่คนก็จะเยอะมากเช่นเดียวกัน)
ส่วนตัวผมเอง เก็บมาได้แล้วสามฤดู คือ หน้าร้อน ใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาว ยังมีที่ขาดอยู่ก็คือ ตอนช่วงต้นฤดูหนาวที่หิมะเพิ่งตกและน้ำในบ่อยังไม่เป็นน้ำแข็ง อันนั้นอยากได้มว้ากก

ชีวิตเราต้องมีเป้าหมาย
เราจะได้กลับไปบ่อยๆไง ^^

พิกัด
Blue Pond : https://goo.gl/maps/4iiFJbciwYxNDPVx7
Shirahige Waterfall : https://goo.gl/maps/y4HVhCKUm8oMeCkXA

#Biei #Hokkaido #Outsidetheroom

Winter in Hokkaido

Ep. 7 Akan National Park

7.1 Lake Mashu

หนึ่งในสามทะเลสาบในอุทยานแห่งชาติ Akan ที่ในอดีตได้รับการกล่าวขานว่า "น้ำใสที่สุดในโลก (clearest lake in the world) ยืนยันได้จากการวัดค่าความใสของน้ำในปี ค.ศ. 1931 ได้ที่ 41.6 เมตร (น่าจะหมายถึงการมองลึกลงไปได้ถึง 41.6 เมตร O_O) โดยเฉือนเอาชนะทะเลสาบ Baikal ที่รัสเซีย ซึ่งวัดได้ 40.5 เมตร (แต่ปัจจุบันน่าจะเสียแชมป์ไปแล้ว)
ถ้ามาในวันที่อากาศดีและไม่มีลม จะเห็นน้ำใสราวกระจกเลยทีเดียวล่ะ

ทะเลสาบ Mashu เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ (Crater Lake) ที่เป็นทะเลสาบปิด ไม่มีทางน้ำไหลเข้าออก มีความลึกราวๆ 200 เมตร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ลึกอันดับ 5 ของประเทศญี่ปุ่น
รอบทะเลสาบถูกล้อมรอบด้วยกำแพงปากปล่องภูเขาไฟที่สูงถึง 300-400 เมตร และมีความชัน 45 องศา ทำให้ไม่สามารถลงไปเที่ยวชมบริเวณชายฝั่งของทะเลสาบได้
บริเวณใจกลางทะเลสาบ จะเห็นเกาะ Kamuishu ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กโผล่ขึ้นมาอีกด้วย

ไฮไลท์ของการมาเที่ยวทะเลสาบ Mashu ที่ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต ก็คือ การมาชมทะเลหมอกในยามเช้า ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
เนื่องจากความแตกต่างของอุณหภูมิบนพื้นผิวของทะเลสาบกับอุณหภูมิภายนอก ทำให้มักจะเกิดทะเลหมอกขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี (น่าเสียดาย แอดยังไม่เคยไปช่วงฤดูร้อนเลย TT)

นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของทะเลสาบแห่งนี้ได้ที่จุด Observation Point ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 จุด

Observation Point No.1 https://goo.gl/maps/qc7ZDHnCz9RWfBR58
Observation Point No.2
https://goo.gl/maps/YznW2xowRCt3ihdU9

จุดชมวิว No.1 & 2 อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบ
สามารถเดินทางมาจากเมือง Teshikaga หรือ Kushiro ได้ง่ายๆ มีรถบัสสาธารณะให้บริการ
โดยที่จุด No.1 นั้น จะมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ห้องน้ำ นอกจากนั้นยังมีที่จอดให้กับรถบัสขนาดใหญ่ ที่พาคณะทัวร์มาเที่ยวด้วย
จากจุด No.1 ยังสามารถเดิน Trekking ไปยังยอดเขา Mashu-Dake ได้ด้วยนะ (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

Observation Point No.3
https://goo.gl/maps/9L9BznzMPQpo5Luk9
จุดชมวิวที่อยู่ทางตะวันตกของทะเลสาบ มีลักษณะเป็นแท่นยื่นออกไปในทะเลสาบ มีที่จอดรถค่อนข้างเยอะ แต่ทางที่ขึ้นมาจาก Kawayu Onsen นั้นค่อนข้างคดเคี้ยว ทำให้ต้องปิดในช่วงฤดูหนาว
อย่างไรก็ตาม Observation Point No.3 นี้เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของทะเลสาบแห่งนี้เลยล่ะ

Uramashu Observatory
https://goo.gl/maps/zRBextaiv4mN7fnd9
จุดชมวิวที่อยู่ฝั่งตะวันออกของทะเลสาบ แม้จะได้ใกล้ชิดกับทะเลสาบมากขึ้น แต่ก็เป็นจุดที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ เพราะนอกจากจะอยู่ค่อนข้างไกลจากเมืองหลักแล้ว ยังไม่สามารถมองเห็นยอดเขา Mashu-dakeได้จากมุมนี้อีกด้วย

#outsidetheroom #Lakemashu #Teshikaga #Hokkaido

ยืนยันความสวยงามด้วยรูปปกของหนังสือ Japan Best of Seasons เลยนะจะบอกให้!

❄️ Winter in Chubu ❄️

Ep. 5️⃣.2️⃣ Shirakawa-go 🛖 Winter Light-Up
🗾 Gifu Prefecture

ถ้าพูดถึงเทศกาลฤดูหนาวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่อยู่บนเกาะฮอนชู (ไม่รวม Hokkaido) จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากเทศกาล Winter Light-up 🌌 ที่หมู่บ้าน Ogimachi ใน Shirakawa-go แห่งนี้

ภาพของหมู่บ้านโบราณท่ามกลางหิมะนั้นเป็นที่กล่าวขานกันถึงความงดงามราวกับหมู่บ้านในเทพนิยาย ซึ่งเมื่อปี 2014 แอดเองก็โดนภาพของเทศกาลนี้ "ตก"เข้าอย่างจัง ทำให้จากคนที่ชอบอยู่บ้าน นั่งอยู่หน้าคอม ต้องลุกออกมาซื้อกล้อง กระเสือกกระสนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อถ่ายภาพนี้สักครั้ง จนเป็นเหตุให้กลายเป็นนักท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบัน 🙋🏻‍♂️🙋🏻‍♂️

แฟนเพจเก่าแก่หลายคนน่าจะจำได้ถึงการรีวิวเที่ยว Shirakawa-go Light-up ของแอดใน Pantip.com เมื่อหลายปีที่แล้ว จนเป็นที่มาของหนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นเล่มแรก 📕📖 "Japan Best Destinations" ซึ่งภาพนั้นปรากฏอยู่บนปกด้านหลังของหนังสือ (ปัจจุบันเล่มนี้แทบหาไม่ได้แล้วครับ ไม่ใช่เพราะขายดี แค่ผลิตน้อย ฮ่าๆ 🤣🤣)

Link รีวิว Shirakawa-go Light-up 2014 ที่แอดเขียนไว้ เผื่อใครไม่เคยผ่านตา 👉 https://pantip.com/topic/31663896 ละเอียดยิบนะจะบอกให้ อิอิ 💁🏻‍♂️

โดยปกติแล้ว เทศกาล Light-up ของ Shirakawa-go จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ช่วงปลายเดือนมกราคม - กลางเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณ 6-7 วันแล้วแต่ปี (กำหนดการมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี)
ช่วงประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว เทศกาลนี้ยังไม่ได้แพร่หลาย แชร์กระจายแบบในปัจจุบัน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวยังไม่มาก (จำได้ว่ารีวิวเที่ยวช่วงไลท์อัพ หาได้ยากมากในช่วงนั้น)

ในปีที่แอดไป (2014) ทางหมู่บ้านยังไม่ได้เคร่งครัดเกี่ยวกับระบบการจัดการนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ ถ้าจำไม่ผิด มีเพียงแค่การไม่ให้รถส่วนบุคคลขับเข้าไป ใครที่อยากไปจำเป็นต้องนั่งรถบัสสาธารณะที่ได้รับอนุญาตหรือจองเอาไว้ล่วงหน้าเท่านั้น โดยสามารถจองทัวร์จากที่พัก / ผู้ให้บริการเฉพาะ ก็ได้เช่นกัน

แต่ในปีหลังๆ เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก การขึ้นไปถ่ายภาพบนจุดชมวิว Shiroyama 📸 ทางเดินขึ้นค่อนข้างลื่นและอันตราย พอจำนวนคนเยอะมีการเบียดเสียดกัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยๆ
ในช่วงปีหลังทางหมู่บ้านได้แก้ปัญหาโดยการปิดทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว และให้ใช้การโดยสารรถบัสขึ้นไปแทน ทำให้ต้องต่อคิวกันยาวมากๆ และด้านบนจุดชมวิวก็ไม่อนุญาตให้ใช้ขาตั้งกล้องอีกต่อไป 🙅🏻‍♂️❌

แอดกลับไปงานนี้อีกครั้งในปี 2017 และพบว่าจำนวนคนเยอะขึ้นมากๆๆๆ และระบบการจัดการก็เข้มงวดขึ้นแบบสุดๆ ใครที่อยากไปงานนี้เห็นทีจะต้องทำการเตรียมตัวจองล่วงหน้า 5-6 เดือนขึ้นไป และวางแผนการเที่ยวให้ดีนะครับ
ส่วนตัวแอดเองถือว่าโชคดีมากที่ได้ไปก่อนหน้านั้น เพราะภาพบนจุดชมวิวที่ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง ต้องบอกเลยว่าคุมให้คุณภาพดีลำบากมากๆ

ยังไงก็ขอให้ได้ไปเที่ยวชมงานเทศกาลสวยๆแบบนี้กันทุกคนนะครับ แล้วอย่าลืมเอาภาพสวยๆมาแชร์กันบ้าง
ขอให้มีความสุขกับหมู่บ้านในเทพนิยาย เหมือนที่แอดเคยมีความสุขมากๆในครั้งนั้นครับ 😇❣️

#outsidetheroom #Shirakawago #Lightup #Gifu