‘We’re just getting started’ — Novogratz says bitcoin value only a fraction of global wealth
นักลงทุนระดับโลกชี้ “Bitcoin” ยังแค่เสี้ยวความมั่งคั่ง!!
By Kevin Stankiewicz
Mike Novogratz มหาเศรษฐีบิตคอยน์ กล่าวว่า อุตสาหกรรม cryptocurrency นั้น ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เนื่องจากเขาคาดการณ์ว่า ความมั่งคั่งที่สร้างขึ้นมา จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ซึ่ง “ปัจจุบันความมั่งคั่งของ cryptocurrency อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่ถึง 1% ของความมั่งคั่งทั้งหมด”
Novogratz กล่าวว่า “ถ้าคุณไม่คิดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อาจเป็น 2% ถึง 3% แสดงว่าคุณไม่สนใจแนวโน้มของอนาคต” โดยความมั่งคั่งทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Credit Suisse ในเดือนตุลาคม
ซึ่ง Market cap ของ Cryptocurrencies ยังน้อยกว่า 2 trillion ตามข้อมูลของ CoinMarketCap Bitcoin มีการซื้อขายสูงกว่า $ 63,000 ต่อเหรียญ ซึ่งคุมครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาด crypto
จาก “ปริมาณการเติบโตที่เราเห็นนั้นสูงมาก ซึ่งตอนนี้เพิ่งเริ่มต้น” นี่เป็นคำกล่าวของ Novogratz ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของGalaxy Digital เป็นบริษัทให้บริการทางการเงิน และได้ขอจัดตั้งกองทุน Bitcoin ETF กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไป
การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลยังเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน ที่เริ่มต้นจากการเงินกระแสหลักตามรายงานของMeltem Demirors หัวหน้าเจ้าหน้าที่กลยุทธ์ของ CoinShares
โดย Novogratz กล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉัน Bitcoin ได้สร้างความมั่งคั่งมากมายให้กับผู้ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินแบบดั้งเดิม”
และกล่าวเพิ่มเติมว่า “อย่าพลาด!! นี่เป็นเหมือนช่วงเวลาของ Netscape สำหรับสกุลเงินดิจิทัล จำไว้ว่า Netscape ในปี 1995 สี่ปีก่อนที่เราคลั่งไคล้อย่างบ้าคลั่ง ซึ่งเป็นสัญญาณการเริ่มต้นของยุคอินเทอร์เน็ต ”
รวมทั้ง ทิ้งท้ายว่า “นี่เป็นวันสำคัญสำหรับโลกของคริปโต เพราะนี่คือ asset class และเป็น asset class ที่จะอยู่ต่อไป”
-------------------------------
สำหรับนักลงทุนที่ สนใจ ข้อมูลการลงทุนเชิงลึก
จากบทวิเคราะห์ระดับโลก รวมหลักแสนต่อปี
สามารถ สมัครเข้าดูได้ที่ห้องเรียนวงในครับ
สนใจ คอมเม้นใต้บทความได้เลย
--------------------------------
แอดปลา
market cap crypto 在 KIM Property Live Facebook 八卦
เหตุผลที่คุณต้องจับตาให้ดี บิตคอยน์จะไปต่อได้อีกไกล สรุปบทสัมภาษณ์คุณหนึ่ง ปรมินทร์ อินโสม
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาของบิตคอยน์ขึ้นจากประมาณ $11,000 มาอยู่แถว ๆ $13,000 หรือกว่า 18%ถึงแม้ว่าจะเป็นการขึ้นอย่างรุนแรงจะไม่ใช่เรื่องแปลกของบิตคอยน์ แต่การขึ้นในรอบนี้นั้นได้รับการจับตามองจากนักลงทุนหลายคน
เนื่องจากเป็นการขึ้นพร้อมกับข่าวที่บริษัทใหญ่ ๆ ได้แก่ Square และ MicroStrategy Incorporated เข้าลงทุนในบิตคอยน์และอีกข่าวสำคัญคือ Paypal ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งรายใหญ่รับฝากเหรียญบิตคอยน์
มันน่าสนใจยังไง? ก่อนหน้านี้บิตคอยน์ถูกตั้งคำถามเรื่องความน่าเชื่อถือมาตลอด โดยหลายคนปรามาสว่ามันเป็นแค่เงินปลอม ๆ จับต้องไม่ได้ มีแต่รายเล็ก ๆ เท่านั้นแหละที่จะสนใจ ส่วนรายใหญ่ ๆ เขาไม่ลงมายุ่งด้วยหรอก เพราะเขารู้ว่ายังไงมันก็จะหายไป
แต่ข่าวที่ออกมานั้นทำให้เกิดคำถามว่า ตอนนี้รายใหญ่จะยอมรับบิตคอยน์แล้วใช่ไหม? ผมจึงรีบเรียกคุณหนึ่ง ปรมินทร์ อินโสม CEO ของ Satang มาตอบคำถามเหล่านี้ทันที ตามที่เพื่อน ๆ เห็นในคลิปนั่นแหละครับ แต่ด้วยความว่าคลิปอาจจะยาวเกินไปสำหรับเพื่อน ๆ บางคนที่ถนัดอ่านมากกว่า วันนี้ผมเลยสรุปคำตอบของคุณหนึ่งในแต่ละประเด็นมาให้ครับ
คำถาม : บิตคอยน์ขึ้นรอบนี้คุณหนึ่งคิดว่าขึ้นจริง ๆ หรือขึ้นหลอก ๆ แล้วถ้าขึ้นจริง จะขึ้นไปได้ถึงเท่าไหร่?
ตอบ : ถ้ามองตามเหตุผลตอนนี้ คุณหนึ่งคิดว่าขึ้นจริงและจะขึ้นต่อไปถึง $19,000 ในระยะยาวได้สบาย ๆ ส่วนบทวิเคราะห์ของสำนักต่าง ๆ ที่ให้เป้าราคาสูงกว่านี้นั้นก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ แต่ก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเสริมอีก
สำหรับเหตุผลในตอนนี้ที่คุณหนึ่งพูดถึงมี 3 ข้อดังนี้ครับ
1. การที่บริษัทใหญ่ ๆ เข้ามาลงทุนใน Cryptocurrency นั่นหมายความว่าตอนนี้ Cryptocurrency ได้รับการยอมรับว่าเป็นสินทรัพย์ในวงกว้างแล้ว
2. การที่ Paypal เปิดให้บริการรับฝากบิตคอยน์ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ Paypal ต่อต้านบิตคอยน์มาตลอด นั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้บิตคอยน์มีสภาพคล่องมากขึ้นและใกล้เคียงความเป็น currency มากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยในประเด็นนี้ คุณหนึ่งขยายความว่าที่ตอนนี้คุณยังโอนบิตคอยน์ผ่าน Paypal ไม่ได้นั้นเป็นเพราะยังติดที่กฎหมายของประเทศต่าง ๆ ซึ่งการทำแบบนี้นั้นมันจะเป็นการกระตุ้นและกดดันแบงค์ของแต่ละประเทศว่า ถ้าคุณไม่ยอมรับบิตคอยน์ คุณก็อาจเสียลูกค้าได้
3. นโยบายการอัดฉีดเงินของประเทศต่าง ๆ นั้นเป็นการเพิ่มปริมาณเงินในระบบ ทำให้สินทรัพย์ที่มีปริมาณจำกัดอย่างบิตคอยน์มีแนวโน้มราคาสูงขึ้นตามกฎอุปสงค์อุปทาน
.
คำถาม : บิตคอยน์เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล เพราะฉะนั้นการซื้อบิตคอยน์นั้นเป็นการต่อต้านรัฐบาลหรือไม่?
คำตอบ : ใช่หรือไม่อยู่ที่มุมมอง เพราะโดยเริ่มแรกนั้นบิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อต่อต้านการทำ QE ของธนาคารกลางสหรัฐ เพราะฉะนั้นถ้ามองในมุมของบุคคลทั่วไปแล้วความคิดที่ว่า “ซื้อบิตคอยน์เพื่อต่อต้านรัฐบาล” ก็ไม่ผิดอะไร แต่นักลงทุนไม่ได้มองแบบนั้น พวกเขามองแค่ว่าบิตคอยน์เป็นทรัพย์สินชนิดหนึ่งและลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงเท่านั้น
.
คำถาม : บิตคอยน์ VS ทองคำ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นทองคำมากกว่า แต่ทำไมคนที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีถึงเชื่อมั่นว่าบิตคอยน์มากกว่า คุณหนึ่งคิดยังไง?
คำตอบ : คุณหนึ่งมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของการเปลี่ยนผ่านทางความเชื่อที่มันต้องใช้เวลา โดยคุณหนึ่งยกตัวอย่างเรื่องการใช้แอพพลิเคชั่นสั่งอาหารว่าคนที่ไม่เคยใช้ก็จะมองว่ามันยุ่งยากไม่สะดวก เพราะเขาทำไม่เป็น แต่เมื่อเขาได้เรียนรู้วิธีใช้และได้ลองใช้สักพัก เขาก็จะรู้ว่ามันสะดวกกว่าจริง ๆ
บิตคอยน์ก็เช่นเดียวกันตอนนี้มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดูเข้าใจยากเมื่อเทียบกับทองคำ ทำให้คนที่ไม่เชื่อยังไงก็ไม่เชื่อ แต่แนวโน้มตอนนี้ที่บิตคอยน์ได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจทำให้มีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้คนเหล่านั้นต้องใช้บิตคอยน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วในวันนั้นเขาก็จะได้เรียนรู้วิธีใช้งานและได้เข้าใจว่ามันดีกว่าทองคำอย่างไร
และคุณหนึ่งได้แก้ไขความเข้าใจผิดประเด็นนี้ด้วยว่า “ความจริงแล้วคนรุ่นใหม่หรือคนในวงการเทคฯ นั้นไม่ได้เลือกข้างว่าจะเชื่อทองคำ 100% หรือบิตคอยน์ 100%” เพียงแค่คนเหล่านี้ยอมรับความเป็นสินทรัพย์ของบิตคอยน์เท่านั้น ส่วนจะลงทุนเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับการจัดพอร์ตของแต่ละคน ถ้าใครจะซื้อทั้งทองคำและบิตคอยน์ก็ไม่ได้ผิดอะไร
.
คำถาม : ถ้า stablecoin เช่น Libra, Digital Yuan ที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ใช้งานอย่างแพร่หลาย จะทำให้ Cryptocurrency สกุลอื่น ๆ เช่น บิตคอยน์ ราคาตกไหม?
คำตอบ : ถ้าเป็นแบบนั้น Cryptocurrency จะได้รับผลกระทบแน่นอน โดยเฉพาะเหรียญที่ตั้งใจออกมาเพื่อเป็นเงิน (money) จริง ๆ จะอยู่ยาก
แต่ในส่วนของบิตคอยน์นั้นจะยังมีค่าอยู่ได้ไม่หายไปไหน เพราะมันจะมีตำแหน่งเป็นทองคำดิจิตอล
.
คำถาม : การเลือกตั้งสหรัฐมีผลต่อราคาบิตคอยน์ไหม?
คำตอบ : ตอนนี้ยังไม่เห็นนโยบายของทรัมป์และไบเดนที่จะส่งผลต่อ Cryptocurrency โดยตรง แต่ว่าถ้ามีแคนดิเดตคนไหนออกตัวว่าจะผลักดันการใช้ Digital currency ก็จะมีผลต่อราคาบิตคอยน์แน่นอน
.
คำถาม : ในอนาคตบิตคอยน์มีโอกาสจะโดนแฮค จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Quantum Computing ได้ไหม?
คำตอบ : เป็นไปได้ แต่คุณหนึ่งอยากให้พิจารณาเรื่องไทม์ไลน์ประกอบด้วย โดยมองภาพว่าขณะที่ซอฟต์แวร์อื่น ๆ กำลังพัฒนา ซอฟต์แวร์ของบิตคอยน์ก็พัฒนาเช่นเดียวกัน ซึ่งเทคโนโลยีอนาคตอาจจะสามารถแฮคระบบของบิตคอยน์ในปัจจุบันได้ แต่ในตอนนั้นระบบของบิตคอยน์ก็จะพัฒนาไปเรียบร้อยแล้ว
เช่น คุณอาจจะบอกว่า iPhone ปลอดภัยเพราะระบบ IOS ถูกแฮคยาก ซึ่งความจริงแล้วตอนนี้การแฮค IOS เวอร์ชันเก่า ๆ อาจจะเป็นเรื่องง่ายก็ได้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะตอนนี้ทุกคนเลิกใช้แล้ว
.
คำถาม : ถ้า CBDC (Central Bank Digital Currency) มา แล้ว ZCOIN จะเป็นอย่างไร?
คำตอบ : คำถามนี้ค่อนข้างส่วนตัวนิดนึง แต่คุณหนึ่งก็ตอบว่าทาง ZCOIN ได้วางแผนไว้แล้วว่าถ้า CBDC ถูกใช้งานขึ้นมาจริง ๆ แล้ว ZCOIN จะเข้าไปรวมกับระบบกลาง โดยผู้ใช้งานอาจใช้ CBDC เป็นหลัก แต่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็ให้มาเก็บเป็น ZCOIN
.
คำถาม : มีโอกาสที่เหรียญคริปโตอื่น ๆ จะมีมูลค่าตลาด (Market Cap.) แซงบิตคอยน์ไหม?
คำตอบ : คุณหนึ่งคิดว่าเป็นไปได้ยาก แต่ถ้ามีตัวที่จะแซงจริง ๆ ก็คือ USDT เพราะมันผูกอยู่กับดอลลาร์ที่สามารถผลิตออกมาได้อีกไม่จำกัด ตามการพิมพ์เงินของ Fed
.
คำถาม : บิตคอยน์ควรลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวดี?
คำตอบ : ได้ทั้งสั้นและยาวขึ้นกับกลยุทธ์การลงทุนของแต่ละคน
.
คำถาม : มีบางองค์กรที่รับฝาก Cryptocurrency แล้วให้ผลตอบแทนสูงถึง 6-11% ต่อปี ซึ่งฟังดูเว่อร์มาก ๆ ขอถามตรง ๆ เลยว่ามันเชื่อถือได้ไหม? โกงหรือเปล่า?
คำตอบ : คุณหนึ่งบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้แปลกครับ มันเป็นไปได้ สำหรับผลตอบแทนเท่านี้ (6-11%ต่อปี) เพราะตลาด Crypto ยังไม่ได้เติบโตมากเท่าตลาด Forex มันจึงมีช่องว่างของกฎหมายบางอย่าง ที่ทำให้สามารถรับฝากเหรียญในเรทนี้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เสี่ยงเลย ถ้าคุณจะลงทุนก็ต้องศึกษาให้ดี
.
สรุปสิ่งที่ผมเห็นตอนนี้คือตลาด Cryptocurrency กำลังมีการเติบโตที่ดี แม้ว่ามันจะยังคลุมเครือ ไม่ชัดเจน แต่เมื่อผมได้คุยกับหลาย ๆ คนที่อยู่ในวงการเทคโนโลยีแล้วก็พบว่าพวกเขาดูตื่นเต้นนัยน์ตาเป็นประกายทุกครั้งที่ได้คุยคริปโต ซึ่งสีหน้าจะต่างจากเวลาคุยเรื่องเศรษฐกิจทั่วไปที่มีแต่เรื่องน่ากังวลโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ อยู่ ผมคิดว่า Cryptocurrency เป็นหนึ่งเรื่องที่น่าศึกษามากครับ
ผมไม่ได้หมายความว่าอยากเชิญชวนให้ไปเพื่อน ๆ มาซื้อเหรียญคริปโตนะครับ สุดท้ายคุณอาจจะไม่ได้เป็นเจ้าของเหรียญคริปโตเลยก็ได้ แต่ความรู้ของคุณอาจเป็นสะพานในการช่วยให้ธุรกิจในยุคก่อน ๆ สามารถปรับตัวในโลกอนาคตได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีความรู้โอกาสจะเป็นของคุณ
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ใช้วิจารญาณในการอ่านด้วยนะครับ ถ้าเพื่อน ๆ มีคำถามเกี่ยวกับคริปโตอื่น ๆ อีก คอมเมนท์มาเลยนะครับ หากมีประเด็นไหนน่าสนใจ ผมจะเก็บไปถามคุณหนึ่งแล้วเอามาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังอีกแน่นอนครับ
.
แอดปุง
market cap crypto 在 Facebook 八卦
ETH's trading volume grew much faster than BTC’s in first half of 2021
Trading Volume ครึ่งปีแรก ETH พุ่งแซง! BTC หวัง Defi กำลังมา!!
By MARTIN YOUNG
crypto asset ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ที่มีรากฐานจาก Bitcoin มีปริมาณการซื้อขาย เติบโตในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
โดยปริมาณการซื้อขายของ Ethereum เติบโตเร็วกว่า Bitcoin ในช่วงครึ่งแรก ตามรายงานจาก Coinbase บริษัทแลกเปลี่ยน crypto ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา
จากรายงานของ Coinbase Institutional H1 2021 ยอมรับว่า ช่วงครึ่งแรกของปีนี้เป็นช่วงที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์สำหรับ crypto โดยมีการทำ all-time highs ซึ่งได้การยอมรับจากผู้ใช้ และความเคลื่อนไหวในการซื้อขาย
จากข้อมูลการแลกเปลี่ยน 20 แห่งทั่วโลก โดยรายงานเปิดเผยว่า ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin สูงถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว เพิ่มขึ้น 489% จาก 356 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว
และปริมาณการซื้อขายทั้งหมดของ Ethereum สูงถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์
แต่การเติบโตนั้นเร็วกว่ามาก โดยเพิ่มขึ้น 1,461% จาก 92 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 ซึ่งทาง Coinbase ตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่อัตราการซื้อขายของ Ethereum สูงกว่า Bitcoin
จาก Research ยังวัดมูลค่า market cap ของ crypto ทั้งหมด เริ่มต้นปีที่ 769 พันล้านดอลลาร์ สูงสุดที่ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม และจบด้วยที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิ 86% ต่อปีจนถึงปัจจุบัน
โดยสังเกตว่า กำไรจำนวนมากของ BTC เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2020 และ Q1 2021 ก่อนที่ราคาของสินทรัพย์ crypto จะลดลงในไตรมาสที่ 2 ในปี 2021 โดยปัจจุบันมีการซื้อขายลดลง 38.8% จากจุด all-time highของวันที่ 13 เมษายนที่ 65,899 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน Ethereum มีกำไรส่วนใหญ่ในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ราคาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพื่อทำ all-time high ที่ $4,357 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ราคากลับลดลงถึง 47.4% ในปัจจุบัน
crypto asset ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เพิ่มขึ้น 895% ในช่วง 12 เดือนและ 210% ในช่วง 6 เดือน ทาง Coinbase ได้ระบุปัจจัยหลายประการ
รวมถึงการใช้งานที่เพิ่มขึ้นใน DeFi ที่นักลงทุนมีมุมมองบวกกับ optimism ใน transition ของ proof-of-stake (สัดส่วนการถือหุ้น) และ Layer 2 Scaling Solutionในการปรับขนาดของ Network
สำหรับนักลงทุนที่ สนใจ ข้อมูลการลงทุนเชิงลึก
จากบทวิเคราะห์ระดับโลก รวมหลักแสนต่อปี
สามารถ สมัครเข้าดูได้ที่ห้องเรียนวงในครับ
สนใจ คอมเม้นใต้บทความได้เลย
--------------------------------
แอดปลา
market cap crypto 在 Why is Market cap important in crypto ? - YouTube 的八卦
Market capitalisation indicates a mathematical technique for determining the value of a cryptocurrency. It is an indicator of the dominance ... ... <看更多>