「無聲」這部描述特教學校集體性侵案的電影你們有看過嗎?有的話,應該會覺得可怕。
但,更可怕的是,其實電影已非常避重就輕。
影響我開始一步一腳印的去各個學校努力兒童性侵害防治的幾位老師,均來自於可以說是全國唯一真正處理校園申訴案件的機構:人本教育基金會。她們在校園奔走了30年,除了幫助許多受害孩童們伸張正義,很多重要的教育政策和法案在她們推動下也漸漸改善。
而無聲這部電影的真實案件「南聰案」,就是她們處理的許多校園性侵案件之一,也藉由此案讓教育部去積極推動「特殊教育學校性別培力及性平事件防治計畫」。
大部分的家長一定覺得校園是最安全的地方,包括我也是,但事實上,校園並不如我們想像的安全。
許多時候,在保護學校聲譽和保護學生之間,學校聲譽會是優先考量。
因此她們正在推動『全國機構內兒童受性侵調查』。要系統性的去檢視、並系統性的去預防我們的孩子在機構內受到性侵害。
之前撼動全球的在澳洲所進行的全國性侵調查報告,她們也將相關內容錄製成了PODCAST,除了談澳洲的報告,也談台灣的狀況,以及台灣可以怎麼做。
這個內容很重要!因為這個社會要聽見的不應該只是心痛的故事,而是我們大家可以從何處關心,從哪裡著手,讓犯罪的人,不要在體系中繼續被包庇。
從這些地方均可收聽「我人本我知道」:
SoundOn | https://sndn.link/hef
Spotify | https://reurl.cc/o9VDpv
iTunes | https://reurl.cc/Q7ZqXp
KKBox | https://reurl.cc/qm0KpR
ListenNote |https://reurl.cc/E21bYa
GooglePodcast |https://reurl.cc/4yrYNj
#我在恆春半島的日子
#兒童性侵害防治
#身體自主權
#蝴蝶朵朵
#種籽講師
#車城國小
#人本教育基金
同時也有1809部Youtube影片,追蹤數超過47萬的網紅Hapa 英会話,也在其Youtube影片中提到,今日の動画レッスンはちょっとした実験をしてみました。現地に住んでいるアメリカ人に「How are you?」と言うと、どのような返事をするのか抜打ちで試してみました。日本の多くの学校で教わる代表的な返事の仕方は、「I’m fine」や「I’m good」のようですが、実際にアメリカ人はそのような表現...
「itunes podcast」的推薦目錄:
itunes podcast 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
Sean Parker อดีตแฮกเกอร์ ผู้เคยเป็นประธานบริษัท Facebook /โดย ลงทุนแมน
หากใครที่เคยรับชมภาพยนตร์ “The Social Network”
ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบริษัท Facebook
รวมถึงผู้ก่อตั้งวัยหนุ่มที่ชื่อว่า Mark Zuckerberg
คงไม่มีทางลืมตัวละครหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Sean Parker อย่างแน่นอน
ชายที่มีความยียวนกวนใจ แต่ก็แฝงไปด้วยความเฉลียวฉลาด
ซึ่งเขาคนนี้ เป็นคนที่ไม่ว่าจะพูดอะไร Mark Zuckerberg ก็เห็นดีเห็นงามไปหมด
ถึงขนาดที่ยกตำแหน่งประธานบริษัท Facebook ให้กับ Parker ไปเลย
แม้ว่าในช่วงเวลานั้นเขาจะมีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น
ซึ่งถ้าหากดูประวัติของ Sean Parker อย่างละเอียด
ก็คงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชายคนนี้ถึงสามารถจูงใจ
และมีอิทธิพลต่อ Mark Zuckerberg อย่างมาก
แล้วประวัติของ Sean Parker น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Sean Parker เกิดที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1979
เมื่ออายุได้ 7 ขวบ พ่อของเขาทำให้เขาได้รู้จักอีกโลกหนึ่งนั่นคือ โลกของคอมพิวเตอร์
โดยพ่อของเขาได้สอนวิธีเขียนโปรแกรมบนเจ้าคอมพิวเตอร์รุ่น Atari 800
ตั้งแต่นั้นมา Sean Parker ก็ได้หลงรักและสามารถเขียนโคดเป็นตั้งแต่เด็ก
จากทักษะและความชอบสิ่งนี้ ส่งผลให้ชีวิตของ Sean Parker เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
เริ่มตั้งแต่ในช่วง 15 ปี Sean Parker ได้สร้างวีรกรรมที่โด่งดัง จน FBI ต้องสืบและตามจับ
โดยสิ่งที่เขาทำคือการแฮกฐานระบบข้อมูลของมหาวิทยาลัยและบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก
จริง ๆ แล้ว เขามักจะแฮกข้อมูลเป็นงานอดิเรกเพราะไม่มีใครตามจับได้
แต่ในที่สุดเขาก็ถูก FBI จับได้ ขณะที่กำลังแฮกข้อมูลบริษัทอื่นอยู่
และเหตุผลที่เขาโดน FBI ตามตัวจนพบ
ก็เพราะว่าพ่อของเขาเข้ามายึดคีย์บอร์ดไว้ เนื่องจากเห็นว่าลูกของตนเล่นคอมพิวเตอร์มากจนเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถออกจากระบบได้ทันเวลา จึงส่งผลให้ FBI ตามสืบได้
แต่เนื่องจาก Sean Parker มีอายุเพียง 15 ปี
โทษที่เขาได้รับจึงเป็นเพียง การบำเพ็ญประโยชน์ให้กับชุมชนเท่านั้น
จากเรื่องนี้แม้สุดท้าย Sean Parker จะโดนจับได้
แต่ก็ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงในวงการนี้มากขึ้น
ทำให้เขาได้รู้จักกับชาวแฮกเกอร์วัยเดียวกันที่ชื่อว่า “Shawn Fanning”
ซึ่งคนนี้เองเป็นคนที่กำลังจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของเขา
ด้วยนิสัยใจคอและความชอบที่เหมือนกัน จึงทำให้ทั้งสองตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน
โดยไอเดียธุรกิจแรกที่พวกเขาคิดคือ Crosswalk ที่จะเข้ามาช่วยป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์
แต่เนื่องจากทั้งคู่ยังมีประสบการณ์ที่น้อย จึงยังไม่สามารถผลักดันให้กลายเป็นธุรกิจจริงได้
ทั้งสองจึงตกลงแยกย้ายกันไปฝึกทักษะและหาประสบการณ์เพิ่มเติม
เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้กลับมาร่วมทำธุรกิจกันอีก
ปีต่อมาเมื่อ Sean Parker อายุ 16 ปี เขาก็ได้ทำโปรแกรมที่รวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ในยุคแรก ๆ ขึ้นมาสำเร็จ ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลงานวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์แห่งรัฐเวอร์จิเนีย
และเป็นที่ถูกอกถูกใจของหน่วยงาน CIA เป็นอย่างมาก ถึงขนาดต้องการจ้างเขาเข้ามาทำงาน
แต่ Sean Parker ก็ได้ปฏิเสธเพราะตนสนใจเรื่องธุรกิจมากกว่า
จึงทำให้เขาเลือกทำงานกับเหล่าบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ
เช่น FreeLoader และ UUNet บริษัทผู้บุกเบิกการให้บริการทางอินเทอร์เน็ต
ในปีสุดท้ายของการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลาย เขาสามารถสร้างเงินได้ถึง 2.5 ล้านบาท
ซึ่งเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้พ่อแม่ของเขาปล่อยให้เขาเลือกที่จะไม่เรียนมหาวิทยาลัยต่อ
ช่วงเวลานี้เองที่ Shawn Fanning เพื่อนแฮกเกอร์คนสนิทของเขาก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
และเขาก็ได้เล่าถึงโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมา ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ไฟล์เพลงบนโลกอินเทอร์เน็ตได้
Sean Parker เห็นว่าโปรแกรมนี้สามารถต่อยอดไปได้อีกไกล
จึงเกลี้ยกล่อมเพื่อนของเขาให้นำมาสร้างเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง
ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ต่อยอดโปรแกรมดังกล่าวกลายมาเป็น “Napster”
แพลตฟอร์มที่ให้ผู้คนสามารถแชร์และดาวน์โหลดเพลงด้วยกัน
Napster ได้สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมวงการเพลงอย่างมาก
ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตเพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้คนส่วนใหญ่หันมาดาวน์โหลดเพลง
บนโลกอินเทอร์เน็ตแทนการซื้อเพลงแบบออฟไลน์ อย่างเช่น แผ่นเสียงและซีดี
เรื่องดังกล่าว เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนยุคหลังเปลี่ยนพฤติกรรมมาฟังเพลงบนโลกออนไลน์
และ Napster ยังสร้างสถิติผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มมากที่สุด มีจำนวนถึง 80 ล้านคนเลยทีเดียว
แต่ด้วยความที่ผู้คนนำเพลงมาแจกผ่านแพลตฟอร์มแบบนี้
ถือเป็นสิ่งที่ผิดลิขสิทธิ์และค่ายเพลงเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล
จึงทำให้สุดท้าย Napster ถูกฟ้องร้องและต้องปิดตัวลงไป
แต่รู้หรือไม่ว่า จากกระแสที่มาแรงของ Napster ทำให้เกิดบริการหนึ่งในเวลาต่อมา
นั่นก็คือ iTunes ของ Apple เพราะ Steve Jobs เห็นแล้วว่าพฤติกรรมของผู้คนกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ซื้อแบบแผ่นเสียง แต่ตอนนี้กลับมาดาวน์โหลดผ่านโลกออนไลน์
เขาจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ ในการเข้าไปผูกมิตรกับค่ายเพลง
เพื่อที่ตนจะสามารถนำเพลงมาวางขายบน iTunes ได้อย่างถูกต้อง
และอย่างที่รู้กัน iTunes ก็ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
เรื่องนี้เองทำให้ Sean Parker ไม่พอใจอย่างมาก
แต่ตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงตัดสินใจคิดหาธุรกิจตัวใหม่ขึ้นมา
โดยใช้ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากธุรกิจที่แล้ว
ทั้งเรื่องการเงิน กฎหมายธุรกิจต่าง ๆ และความเป็นผู้ประกอบการ
และแล้วก็ได้เกิดธุรกิจใหม่ที่มีชื่อว่า “Plaxo” ซึ่งเป็นบริการที่มาช่วยเหลือสำหรับขยายกลุ่มผู้ใช้งานบนเครือข่ายสังคมออนไลน์และบริการนี้เองมีส่วนช่วยให้ LinkedIn และ Facebook ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
เมื่อธุรกิจเริ่มดำเนินไปได้ดี Sean Parker กลับละเลยการทำงาน
ทำให้สุดท้ายเขาก็โดนเพื่อน ๆ ที่ร่วมก่อตั้งกันมาไล่ออกในที่สุด
และแล้วในช่วงหลังจากนี้เอง ที่เขาได้รู้จักกับเว็บไซต์
ที่ในช่วงนั้นกำลังเป็นกระแสที่ชื่อว่า “Facebook”
เขาทดลองเล่น พบว่าโซเชียลมีเดียตัวนี้ทำให้ตนเองติดมาก
จึงรีบหาช่องทางติดต่อกับ Mark Zuckerberg เพื่อมาพูดคุยสานความสัมพันธ์กัน
ซึ่ง Mark Zuckerberg ก็ตอบตกลงเพราะนับถือ Sean Parker เป็นดั่งไอดอลอยู่แล้ว
จากวีรกรรมแฮกฐานข้อมูล และการก่อตั้งบริษัทสุดเจ๋งอย่าง Napster
ในช่วงเวลานั้น Facebook ยังให้บริการเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น
แต่ Sean Parker คิดว่า Facebook มีศักยภาพมากกว่านั้น
จึงแนะนำให้ Mark Zuckerberg ขยายฐานผู้ใช้งาน
และเขาก็เป็นคนแนะแนวทางให้ด้วยว่า
Facebook ยังไม่ต้องเร่งรีบหารายได้ ให้เพิ่มจำนวนผู้ใช้งานก่อน
เพราะถ้าหากหารายได้จะเกิดข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน
เช่น โฆษณาอาจจะอยู่รกเต็มบนเว็บไซต์ จนผู้ใช้งานหนีไปใช้ของคู่แข่งรายอื่น
นอกจากคำแนะนำแล้ว Sean Parker ก็ได้เข้ามาช่วย Facebook ตั้งแต่เรื่องการเจรจาขอเงินทุน
ทั้งจาก Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และ Accel Partners บริษัทร่วมลงทุน
เพราะแม้ว่าช่วงนั้น Facebook จะไปได้ดี มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น
แต่ก็ไม่มีใครร่วมลงทุนด้วย เนื่องจากไม่เห็นโอกาสทางธุรกิจ
แต่ Sean Parker กลับสามารถดึงดูดนักลงทุน
ด้วยวิสัยทัศน์ที่วาดไว้ให้กับ Facebook
จึงทำให้บริษัทสามารถคงอยู่รอดต่อไปได้
เริ่มตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ของ Facebook ช่วงแรก
ที่เน้นตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานก่อนหารายได้
การผลักดันฟังก์ชันของ Facebook ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถลงรูปได้ นอกจากข้อความ
รวมถึงปุ่มแชร์ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้อัปโหลดบทความข่าว วิดีโอ และเนื้อหาของบุคคลที่สาม
แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ Sean Parker ทำให้กับ Facebook คือ
การวางโครงสร้างองค์กรที่ทำให้ Mark Zuckerberg สามารถควบคุมบริษัท
ได้อย่างสมบูรณ์และถาวร โดยเขาใช้ประสบการณ์อันเจ็บปวดที่เคยได้รับจาก Plaxo
ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ จึงทำให้ Mark Zuckerberg
แต่งตั้ง Sean Parker เป็นประธานของบริษัท
แต่สุดท้ายเขาก็ถูกไล่ออกจากบริษัทอีกครั้ง หลังถูกจับได้ว่าเสพโคเคนในงานปาร์ตี..
แม้ว่าจะออกจาก Facebook ไปแล้ว
แต่ Sean Parker ยังคงให้คำแนะนำ Mark Zuckerberg
เกี่ยวกับกลยุทธ์และสรรหาผู้บริหารระดับสูงอย่าง Chamath Palihapitiya
หลังจากออกจาก Facebook เขาก็ไปเป็นหุ้นส่วนของ Founders Fund
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในธุรกิจ Startup โดยมีผู้ก่อตั้งคือ Peter Thiel
เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายปี แต่ Sean Parker ก็ยังไม่หยุดคิดถึง Napster
แพลตฟอร์มสุดรักที่ตนสร้างขึ้น เขาจึงค้นหาบริษัทที่มีอุดมการณ์เช่นเดียวกัน
และแล้วก็ไปเจอกับสตรีมมิงที่ชื่อว่า Spotify
แม้ว่าเขาจะอยากลงทุนในบริษัทแห่งนี้มากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถลงทุนได้
เนื่องจาก Spotify ได้รับเงินเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Sean Parker จึงหาทางสนับสนุนทางอื่น หนึ่งในนั้นก็คือการโปรโมต Spotify ผ่าน Facebook
เพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มสตรีมมิงจากยุโรปตัวนี้ เข้ามาตีตลาดเพลงในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนั้นมี iTunes เป็นคู่แข่งหลัก รวมถึงเขาก็ยังได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง Spotify และค่ายเพลงอย่าง Warner และ Universal อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่ทำให้เขาชนะใจคณะกรรมการของบริษัท Spotify
จนได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนในที่สุด
ด้วยความที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและธุรกิจ รวมถึงหลงใหลในความท้าทายตลอดเวลา
ทำให้ชีวิตหลังจากนั้น Sean Parker ก็ยังเป็นทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนอยู่เรื่อยมา
โดยปัจจุบัน เขามีมูลค่าทรัพย์สินที่ 90,000 ล้านบาท
และนี่ก็คือเส้นทางชีวิตของ Sean Parker อดีตแฮกเกอร์ และเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังความสำเร็จของ Facebook ที่ตอนนี้เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่ 6 ของโลกไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/sean-parker-life-career-napster-facebook-billionaire-pictures-2020-3#parker-is-also-a-philanthropist-and-a-friend-described-him-to-vanity-fair-as-one-of-the-most-generous-people-i-know-in-2015-he-donated-600-million-to-launch-the-parker-foundation-which-focuses-on-funding-programs-in-life-sciences-global-public-health-and-civic-engagement-20
-https://www.forbes.com/sites/stevenbertoni/2019/12/23/best-stories-of-the-decade-sean-parker-agent-of-disruption/?sh=6aa467237a01
-https://www.biography.com/business-figure/sean-parker
-https://www.forbes.com/profile/sean-parker/?sh=5c3413014b73
-https://www.rollingstone.com/culture/culture-news/itunes-10th-anniversary-how-steve-jobs-turned-the-industry-upside-down-68985/
-https://startuptalky.com/sean-parker-story/
itunes podcast 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ทำความรู้จัก บุคคลที่ขาย การ์ดโปเกมอน ได้ในราคา 14 ล้านบาท /โดย ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่าการ์ดโปเกมอนที่ประมูลขายได้ที่ราคา 14 ล้านบาท
เจ้าของการ์ดซื้อมาเท่าไร?
วันนี้ ลงทุนแมนได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณกฤช แก้วสุวรรณ หรือ คุณนุ คนไทยที่ได้เปิดประมูลขายการ์ดโปเกมอน “1995 Pokemon Japanese Topsun Charizard, Scarce Blue Back” ในราคาสูงถึง 14 ล้านบาท
รู้หรือไม่ว่า คุณนุ ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้โปเกมอนเลย
แต่คุณนุ มองเห็นอะไรในการ์ดโปเกมอนใบนี้?
แล้วโลกของการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกประเภทอย่าง “เทรดดิงการ์ด” มีลักษณะอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จากเทรนเนอร์ฟิตเนส ที่มีความหลงใหลกีฬา
คุณนุ หนุ่มชาวไทยอายุ 36 ปี ได้เลือกเดินตามความฝันตัวเอง
ด้วยการไปเรียน และทำงานต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
จากพื้นฐานความชื่นชอบในเรื่องกีฬาอยู่แล้ว ทำให้คุณนุ ได้เริ่มเข้าสู่วงการเทรดดิงการ์ด
เพราะมีโอกาสฟังคำแนะนำจาก Gary Vaynerchuk Influencer คนดังที่พูดถึง
เทรดดิงการ์ด ว่าเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง จึงทำให้เขารู้สึกสนใจ และเริ่มศึกษา
ด้วยคำถามที่ว่า ใครจะไปซื้อกระดาษแผ่นเล็กๆ และ คนจะซื้อไปทำอะไร?
พอศึกษาหาข้อมูลไปสักระยะแล้ว ก็ค้นพบว่า ในโลกของ เทรดดิงการ์ด แบ่งออกเป็น สปอร์ตการ์ด และ เกมการ์ด โดยกลุ่มคนที่มีความต้องการการ์ดเหล่านี้อยู่ 2 ประเภท
ประเภทแรก คือ กลุ่มนักสะสมการ์ด ที่มีความชื่นชอบในนักกีฬา หรือ ตัวการ์ตูน
ประเภทที่สอง คือ กลุ่มนักเก็งกำไร ที่เข้ามาซื้อการ์ดเหล่านี้
เพื่อหวังที่จะไปขายที่ราคาสูงขึ้นในอนาคต
คุณนุจัดตัวเองอยู่ในประเภทที่สอง คือ เขาเป็น “นักเก็งกำไร”
โดยช่วงที่ผ่านมาได้ศึกษา และมีโอกาสซื้อและขาย สปอร์ตการ์ดมาหลากหลายประเภท
เริ่มตั้งแต่การซื้อยกกล่อง และนำการ์ดหายากมาแยกขาย
แต่พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง เขาก็พบว่าการซื้อขายในลักษณะนี้มีความเสี่ยงสูง
เพราะเราจะไม่รู้เลยว่า จะมีโอกาสเจอการ์ดที่จะขายได้ราคาสูงในกล่องนั้นหรือไม่
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณนุ จึงเปลี่ยนสไตล์มาศึกษาว่าการ์ดแต่ละใบจะมีมูลค่าสูงได้
มาจากปัจจัยอะไร?
คุณนุได้เรียนรู้ว่า การ์ดจะมีมูลค่า จาก 2 ปัจจัย
1. ความหายาก และเป็นที่ต้องการของตัวละครในการ์ดเหล่านั้น
2. การเกรดการ์ด หรือ การให้คะแนนการ์ด ซึ่งจะถูกตรวจสอบและให้คะแนนโดยบริษัทที่ได้รับการยอมรับระดับโลก อย่าง บริษัท Beckett หรือ PSA ซึ่งเป็นการให้คะแนนด้านสภาพของการ์ดเป็นหลัก
พอเข้าใจแบบนี้ เลยเริ่มมองหาการ์ดที่จะมีปัจจัยสนับสนุนในการเปลี่ยนแปลงของราคา โดยไม่ปิดกั้นแค่เพียง สปอร์ตการ์ด แต่ยังเริ่มศึกษา การ์ดเกม โดยมองว่าตัวละครไหนในการ์ด ที่มีโอกาสที่จะเป็นที่ต้องการ เช่น นักกีฬาที่กำลังจะเริ่มดัง หรือ ตัวการ์ตูนที่บรรดาคนดังจะสนใจ และเริ่มซื้อการ์ดเหล่านี้มาเก็บไว้
อย่างตัวการ์ดโปเกมอน ที่คุณนุนำไปเปิดประมูลที่เว็บไซต์ goldinauctions.com และจบการประมูลไปกว่า 481,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตกเป็นเงินไทยประมาณ 14 ล้านบาท
คุณนุบอกว่าการ์ดใบนี้ซื้อมาที่ราคาประมาณ 20,000-30,000 บาท ถ้าคิดจากราคาที่ขายได้ คุณนุจะได้ผลตอบแทนจากการ์ดใบนี้ “700 เท่า จากราคาทุน ภายในเวลา 2 ปี”
คุณนุเล่าให้ฟังว่า การ์ดโปเกมอนใบนี้ ซื้อมาเก็บไว้นานแล้ว
โดยตัวการ์ตูนบนการ์ดใบนี้ คือ ตัวการ์ตูนมังกรลิซาร์ดอนที่อยู่ในการ์ตูนโปเกมอนที่โด่งดัง
พอเริ่มเห็นกระแสการ์ตูนโปเกมอนกลับมาโด่งดังอีกครั้ง
คุณนุเลยตัดสินใจส่งการ์ดโปเกมอน ที่มีอยู่ 39 ใบ
ไปทำการตรวจสอบคุณสมบัติ และเกรดการ์ด ที่บริษัท PSA
ซึ่งเป็นบริษัทที่รับประเมินคุณภาพของการ์ดผ่านการให้คะแนน มีคะแนนเต็มที่ 10 คะแนน
ผลปรากฏว่ามีเพียงแค่การ์ดมังกร โปเกมอน ใบเดียวที่ได้คะแนนเต็ม 10 คะแนน
เพราะแม้จะเป็นการ์ดที่มีอายุ 25 ปีแล้ว แต่มีสภาพสมบูรณ์
คุณนุ จึงรู้ทันทีว่าการ์ดใบนี้จะขายได้กำไรอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะขายได้กำไรเท่าไร เลยเลือกที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการ์ดโปเกมอนในโลกออนไลน์ เพื่อให้ทราบช่วงราคา และได้รับคำแนะนำว่าให้นำการ์ดนี้ไปเปิดประมูล จะได้ราคากว่าการประกาศขายเองในโลกออนไลน์
และก็เป็นตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำจริงๆ เพราะหลังจากจบการประมูล สปอร์ตการ์ด “Pokémon Japanese Topsun Charizard, Scarce Blue Back – PSA GEM MT 10 "1 of 1” ใบนี้ได้กลายเป็น การ์ดโปเกมอนที่ราคาสูงที่สุดในโลก อย่างที่ทุกคนได้เห็นกันนั่นเอง
เส้นทางการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอย่าง เทรดดิงการ์ด ยังมีความน่าสนใจอีกมาก
นอกจากการ์ดเกม การเลือกลงทุนในการ์ดประเภทอื่นๆ ยังมีอะไรอีกบ้าง
และคุณนุมีเทคนิคในการค้นหาการ์ดที่จะมีโอกาสขายได้ราคาสูงๆ ได้อย่างไร และนอกจากการลงทุนในการ์ด คุณนุยังมีการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ อะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง
ใครสนใจเรื่องที่คุณนุเล่าแบบเต็มๆ สามารถฟังกันต่อได้ใน ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง Podcast
Blockdit : https://www.blockdit.com/posts/6023b926eeae610ba8dbf50d
YouTube : https://www.youtube.com/watch?v=dg2Ho0smc9A
ไม่อยากพลาดความรู้ดีๆ ในรูปแบบ Podcast กดติดตามกันได้ทาง Spotify l SoundCloud l iTunes l Podbean l YouTube และ Blockdit พิมพ์ค้นหา “ลงทุนแมน”
itunes podcast 在 Hapa 英会話 Youtube 的評價
今日の動画レッスンはちょっとした実験をしてみました。現地に住んでいるアメリカ人に「How are you?」と言うと、どのような返事をするのか抜打ちで試してみました。日本の多くの学校で教わる代表的な返事の仕方は、「I’m fine」や「I’m good」のようですが、実際にアメリカ人はそのような表現を使っているのでしょうか?その真相は・・・実は私も予想していなかった、意外な結果でした。(笑)
動画で紹介されたスクリプトと解説はブログに掲載しています
→ https://hapaeikaiwa.com/?p=8070
──【仲間と一緒に実践で使える英語を身に付けよう!】─────────
HAPA英会話公式オンラインコミュニティ『Hapa Buddies』会員募集中
───────────────────────────────────
Hapa Buddiesは、英語学習に励んでいる皆さんが学んだ英語を使って楽しく交流できる会員制オンラインコミュニティです。
実践で使える英語が学べるだけでなく、実際に学んだフレーズや表現を使って自分の言葉でアウトプット練習ができるプラットフォームで、Buddies(仲間)と一緒にあなたも話せる英語を身に付けませんか?
【Hapa Buddiesの詳細はこちらから】
https://hapaeikaiwa.com/buddies
========================================
購読者3万人突破!無料メルマガ『1日1フレーズ!生英語』
========================================
通勤・通学前などのちょとした合間を利用して無理なく英語が学べるメルマガ『1日1フレーズ!生英語』を平日の毎朝6時に配信しています。ただ単にフレーズを紹介しているだけではなく、学んだフレーズが着実に身につけられるよう、音声を使った学習プロセスも組み込まれているので学習方法の心配も入りません!さらに、ポッドキャスト(下記)と併用することで、より効果的に学習できる構成になっています。
http://hapaeikaiwa.com/mailmagazine/
========================================
iTunesの「Best of 2014/2015」に2年連続選出!生の英語を楽しく学べる『Podcast』
========================================
台本なしにネイティブが話す、正真正銘リアルな英会話が録音された音声を聴きながら、超実践的な英語が学べるポッドキャストを毎週金曜日に配信中!会話で使われている表現の解説や、音声のスクリプト(字幕)も全て無料で公開しているので、リスニングに自信がない人でも問題なし!おかげさまで1000万ダウンロード突破!ネイティブの生の英語に触れ、より実践的な英語力を身につけたい方は是非!
http://hapaeikaiwa.com/podcast/
========================================
HAPA英会話ソーシャルメディア
========================================
◆ Facebook: http://www.facebook.com/HapaEikaiwa
◆ Twitter: http://www.twitter.com/hapaeikaiwa
◆ Instagram: https://instagram.com/hapaeikaiwa/
itunes podcast 在 Hapa 英会話 Youtube 的評價
ちょっとした違いなんですが、会話における「want to」の捉え方が、どうも日本人とネイティブとの間でギャップがあるようです。「Want to」=「〜したい」という固定概念を持ってしまうと、ネイティブとの日常会話で「あれ?」と腑に落ちないシチュエーションを多々経験することになるでしょう。今回は日本の方にあまり馴染みがないと思われる「want to」の使い方を紹介します。
動画で紹介されたスクリプトと解説はブログに掲載しています
→ https://hapaeikaiwa.com/?p=9854
========================================
購読者3万人突破!無料メルマガ『1日1フレーズ!生英語』
========================================
通勤・通学前などのちょとした合間を利用して無理なく英語が学べるメルマガ『1日1フレーズ!生英語』を平日の毎朝6時に配信しています。ただ単にフレーズを紹介しているだけではなく、学んだフレーズが着実に身につけられるよう、音声を使った学習プロセスも組み込まれているので学習方法の心配も入りません!さらに、ポッドキャスト(下記)と併用することで、より効果的に学習できる構成になっています。
http://hapaeikaiwa.com/mailmagazine/
========================================
iTunesの「Best of 2014/2015」に2年連続選出!生の英語を楽しく学べる『Podcast』
========================================
台本なしにネイティブが話す、正真正銘リアルな英会話が録音された音声を聴きながら、超実践的な英語が学べるポッドキャストを毎週金曜日に配信中!会話で使われている表現の解説や、音声のスクリプト(字幕)も全て無料で公開しているので、リスニングに自信がない人でも問題なし!おかげさまで1000万ダウンロード突破!ネイティブの生の英語に触れ、より実践的な英語力を身につけたい方は是非!
http://hapaeikaiwa.com/podcast/
========================================
HAPA英会話ソーシャルメディア
========================================
◆ Facebook: http://www.facebook.com/HapaEikaiwa
◆ Twitter: http://www.twitter.com/hapaeikaiwa
◆ Instagram: https://instagram.com/hapaeikaiwa/
itunes podcast 在 Hapa 英会話 Youtube 的評價
今回の動画では、ロサンゼルスにあるスターバックスで実際に英語で注文するシーンをご紹介します。英語で注文するのはややこしいので、海外のにスタバに行くのを躊躇してしまう人が多いようですが、実際はそんなことないですよ〜。ちょっとしたお決まりフレーズさえ覚えてしまえば、誰でも簡単に注文できます!
========================================
購読者3万人突破!無料メルマガ『1日1フレーズ!生英語』
========================================
通勤・通学前などのちょとした合間を利用して無理なく英語が学べるメルマガ『1日1フレーズ!生英語』を平日の毎朝6時に配信しています。ただ単にフレーズを紹介しているだけではなく、学んだフレーズが着実に身につけられるよう、音声を使った学習プロセスも組み込まれているので学習方法の心配も入りません!さらに、ポッドキャスト(下記)と併用することで、より効果的に学習できる構成になっています。
http://hapaeikaiwa.com/mailmagazine/
========================================
iTunesの「Best of 2014/2015」に2年連続選出!生の英語を楽しく学べる『Podcast』
========================================
台本なしにネイティブが話す、正真正銘リアルな英会話が録音された音声を聴きながら、超実践的な英語が学べるポッドキャストを毎週金曜日に配信中!会話で使われている表現の解説や、音声のスクリプト(字幕)も全て無料で公開しているので、リスニングに自信がない人でも問題なし!おかげさまで1000万ダウンロード突破!ネイティブの生の英語に触れ、より実践的な英語力を身につけたい方は是非!
http://hapaeikaiwa.com/podcast/
========================================
HAPA英会話ソーシャルメディア
========================================
◆ Facebook: http://www.facebook.com/HapaEikaiwa
◆ Twitter: http://www.twitter.com/hapaeikaiwa
◆ Instagram: https://instagram.com/hapaeikaiwa/
itunes podcast 在 iTunes: How To View & Copy Podcast RSS Feeds - YouTube 的八卦
Check out my gear on Kit: https://kit.co/mikemurphycoApple iTunes : How To View & Copy Podcast RSS FeedsThis tutorial will show you how to ... ... <看更多>