Jaylen Bledsoe เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ลูกครึ่งแอฟริกัน-อเมริกัน ตำแหน่งประธานบริษัท Bledsoe Collective ซึ่งเป็นบริษัทนวัตกรรมเกี่ยวกับสื่อและการสื่อสารหลากหลายแขนง ประกอบไปด้วยหลายบริษัทย่อย ทั้ง Flare Partners – บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดไอทีและการจัดการดำเนินงาน รวมไปถึงการเป็นที่ปรึกษาสำหรับ Fortune 500s , Disrupt Group – บริษัทด้านการลงทุนและการจัดการความบันเทิง , BledsoeSquared – กองทุนเพื่อการลงทุน B2C และ Jaylen D. Bledsoe Productions
.
อายุ 11 ปี เขาเริ่มเรียนรู้วิธีการเขียนโค้ดด้วยตัวเอง
อายุ 12 ปี เขาเริ่มต้นธุรกิจด้วยตนเอง
อายุ 14 ปี เขาจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 150 คน
อายุ 17 ปี เขากลายเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีมูลค่ากว่า 3.5 ล้านเหรียญฯ!
เขาทำได้อย่างไรกัน?
.
ชีวิตในวัยเด็กของเขาเติบโตมาแบบเด็กที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบมากเท่าไหร่ เกิดมาครอบครัวที่พ่อแม่เป็นวัยรุ่น ก่อนที่แม่ของเขาจะต้องเลี้ยงเขาให้เติบโตมาด้วยตัวคนเดียวหลังจากพ่อได้ทิ้งเขาไปตั้งแต่เด็ก โดนเหยียดเรื่องสีผิวเนื่องจากเป็นคนผิวดำที่โตมาในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ที่เลื่องชื่อเรื่องการเหยียดผิว แต่เขาก็เป็นคนที่น่าทึ่งมาตั้งแต่เด็ก โดยผลงานที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดก็คือการสร้างโปรแกรมเทคโนลียีตั้งแต่สมัครเขาเรียนอยู่ชั้นมัธยมของโรงเรียนเซนต์หลุยส์
.
ในวัย 11-12 ขวบ เด็กส่วนใหญ่คงสนุกสนานอยู่กับการเล่นฟุตบอลหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่สนุกสนาน แต่สำหรับ Jaylen เขาเริ่มศึกษาวิธีการออกแบบเว็บไซต์ด้วยตัวเองจากหนังสือ แล้วเริ่มเปิดบริษัทที่ปรึกษาด้านไอทีและการออกแบบเว็บไซต์ภายใน 1 ปีต่อมาด้วยเงินเก็บ 100 เหรียญ และพนักงานเพียง 2 คน ก่อนจะขยับขึ้นเป็น 150 คนในเวลาอันรวดเร็ว ต่อมาบริษัทของเขาได้ขยายบริการเพิ่มขึ้นเป็นการถ่ายวิดีโอและการถ่ายภาพ เครื่องมือการค้นหา การบันทึกเสียง การซ่อมคอมพิวเตอร์ รวมถึงให้คำปรึกษาด้านไอทีต่างๆ
.
หลังจากนั้นไม่กี่ปีความอัจฉริยะทางเทคโนโลยีของเขาก็พุ่งขึ้นเป็น 3.5 ล้านเหรียญ!! หรือประมาณ 105 ล้านบาท โดยที่ภายในปี 2015 เขาได้เริ่มก่อตั้ง Flare Digital Agency ซึ่งเป็นเอเจนซี่ที่ให้คำปรึกษาอย่างเต็มรูปแบบ มุ่งเน้นกลยุทธ์ที่สร้างการเติบโต โดยมีคนดังรวมถึงบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 และเขาสามารถสร้างรายได้กว่า 175 ล้านเหรียญให้กับสตีฟฮาร์วีย์และจอร์แดนสตาร์กหลังจากมาใช้บริการกับเขา
.
Jaylen บอกว่าเขามีหลักการง่ายๆ 4 ข้อที่เอาไว้เป็นหลักในการใช้ชีวิตก็คือ
1. ฝันและคิดให้ใหญ่
2. กำหนดอนาคตด้วยตัวคุณเอง
3. ทำชีวิตของคุณให้สมบูรณ์แบบ
4. อย่ามัวมองหาแต่ข้อผิดพลาด
.
ในปัจจุบันนี้เขาถูกยอมรับให้เป็น 1 ใน 100 ของผู้ทรงอิทธิพลชาวแอฟริกัน-อเมริกันในโลก จาก Ebony Magazine, 25 บริษัทที่เติบโตได้เร็วที่สุดในเซนส์หลุยและวารสารธุรกิจ 40 under 40 มากไปกว่านั้นเขายังได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำมากมาย เช่น AT&T, Ford Motor Company, Stanford, MIT, Walt Disney World รวมไปถึง ทำเนียบขาว ในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในการให้บริการคำปรึกษา
.
การเติบโตมาในสังคมที่โดนดูถูกและเหยียดสีผิวนั้นเป็นความทรงจำที่เลวร้ายสำหรับเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถก้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นด้วยความสำเร็จที่แสดงให้ผู้คนได้เห็น สำหรับใครที่กำลังท้อแท้ในการทำธุรกิจก็สามารถนำเอาเรื่องราวนี้ ไปเป็นแรงบันดาลใจเพื่อจะสามารถก้าวข้ามผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้เช่นเดียวกับ Jaylen Bledsoe
.
ที่มา : https://face2faceafrica.com/article/at-17-this-tech-prodigy-became-ceo-of-a-3-5-million-global-enterprise
https://www.nbcnews.com/feature/college-game-plan/millionaire-18-robotics-scholar-teaches-students-power-technology-n675031
https://jaylenbledsoe.com/
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#billionaire #เศรษฐีอายุน้อย #business #ธุรกิจ #เทคโนโลยี
fortune 500 在 Fortune 500: Companies That Made the Biggest Leaps I Fortune 的八卦
Tesla, along with tech companies Adobe and Netflix, made big moves up the 2018 Fortune 500 list.Subscribe ... ... <看更多>