รู้จัก Austin Russell มหาเศรษฐี ที่อายุน้อยสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
มหาเศรษฐี หรือ Billionaire คือคำที่ใช้เรียก ผู้ที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาท ขึ้นไป
จากการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน โดยนิตยสาร Forbes ในปี 2020
ทั่วโลกมีมหาเศรษฐีระดับ Billionaire อยู่ 2,095 ราย
และในบรรดา Billionaire เหล่านั้น
บุคคลอายุน้อยสุด ที่สร้างฐานะความร่ำรวยด้วยมือตัวเอง
มีชื่อว่า “Austin Russell” ซึ่งตอนนี้ มีอายุเพียง 25 ปี เท่านั้น
เขาคนนี้ ก่อตั้งบริษัทตอนอายุ 17 ปี
และตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อมาทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่
แล้วชายหนุ่มคนนี้ทำธุรกิจอะไร
ทำไมถึงก้าวขึ้นมาเป็น Billionaire อายุน้อยสุดในโลกได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
คุณ Austin Russell เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน
เกิดในปี ค.ศ. 1995 ปัจจุบันมีอายุ 25 ปี
นิสัยในวัยเด็กของเขาคือ ชอบเรียนรู้ และทดลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- อายุ 2 ปี เขาท่องจำตารางธาตุได้ทั้งหมด
- อายุ 11 ปี เขาดัดแปลงเครื่องเล่นเกม Nintendo DS ให้เป็นโทรศัพท์มือถือ เพราะพ่อแม่ไม่ซื้อให้
- อายุ 13 ปี ยื่นจดสิทธิบัตร เครื่องรดน้ำต้นไม้อัจฉริยะ ที่ตั้งเวลารดน้ำอัตโนมัติได้
เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น คุณ Russell ก็เริ่มศึกษาเรื่องที่ซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม
เช่น การทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ
ซึ่งเขาเปิดเผยว่า ค้นหาข้อมูลความรู้ส่วนใหญ่มาจากเว็บไซต์ Wikipedia และ YouTube
จนกระทั่งอายุ 15 ปี เขาได้ไปช่วยงานวิจัยที่สถาบัน Beckman Laser Institute ของมหาวิทยาลัย California ซึ่งทำให้เขารู้จักกับเทคโนโลยี Light Detection and Ranging หรือชื่อย่อว่า “LiDAR”
LiDAR เป็นเทคโนโลยีที่ประยุกต์ใช้แสงเลเซอร์ในการวัดระยะทางของวัตถุโดยรอบ และสะท้อนกลับมาเพื่อประมวลผลเป็นแผนที่สามมิติได้
ซึ่งคุณ Russell มองว่า LiDAR จะเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต
และจะเป็นเทคโนโลยีสำคัญ ที่จะเป็นองค์ประกอบของ “รถยนต์ไร้คนขับ”
เพราะรถยนต์ไร้คนขับจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก็ต้องอาศัยเทคโนโลยี LiDAR มาช่วยในการตรวจจับวัตถุบนท้องถนนขณะรถเคลื่อนตัว
ในปี 2012 คุณ Russell ในวัย 17 ปี ซึ่งยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา
ได้ตัดสินใจก่อตั้งบริษัทชื่อว่า “Luminar Technologies”
เพื่อพัฒนาอุปกรณ์เซนเซอร์จากเทคโนโลยี LiDAR สำหรับติดตั้งในรถยนต์ไร้คนขับ
และถึงแม้ต่อมา เขาได้เข้าเรียนต่อที่ Stanford University
แต่เรียนไปแค่ 6 เดือน ไอเดียธุรกิจเซนเซอร์ของเขา ก็ได้รับเงินทุน 3 ล้านบาท จากโครงการของคุณ Peter Thiel อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และนักลงทุนชื่อดัง
ทำให้ คุณ Russell ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อมาทำธุรกิจอย่างจริงจัง
โดยเขาคิดว่า หากรอให้เรียนจบอีก 4 ปี แล้วค่อยมาเริ่มธุรกิจ
ก็อาจจะก้าวตามผู้ผลิตเซนเซอร์รายอื่นในตลาดไม่ทัน
แล้วในปัจจุบัน สิ่งที่คุณ Russell คิดไว้ ก็กลายเป็นจริง
เพราะรถยนต์ไร้คนขับ กำลังกลายเป็นเทรนด์ที่หลายบริษัทกำลังเร่งพัฒนาออกมาตีตลาด
และชิ้นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ คงหนีไม่พ้น “ระบบเซนเซอร์”
ซึ่งที่ผ่านมา Luminar ได้มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพของเซนเซอร์ ให้เหนือกว่าคู่แข่ง
โดยบริษัทระบุว่า อุปกรณ์ของพวกเขา สามารถรับภาพได้ชัดกว่า 50 เท่า และไกลกว่า 10 เท่า ตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ก่อนเกิดจริง 7 วินาที รวมทั้งมีต้นทุนผลิตที่ถูกกว่าด้วย
ด้วยเหตุนี้ Luminar จึงประสบความสำเร็จในการเจรจาเป็นพันธมิตรกับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก เช่น Volvo, Toyota, Daimler รวมไปถึง Intel ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก เพื่อนำเซนเซอร์ LiDAR ไปใช้พัฒนาและผลิตรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต
อย่างไรก็ตาม Elon Musk CEO ของ Tesla กลับไม่ชื่นชอบเทคโนโลยี LiDAR สักเท่าไร
เพราะมองว่ายังแพงเกินไป และเลือกใช้กล้องกับเรดาร์ ในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของ Tesla แทน
แล้วธุรกิจเซนเซอร์ สร้างความร่ำรวยให้คุณ Austin Russell มากแค่ไหน?
ผลประกอบการของบริษัท Luminar Technologies
ปี 2019 รายได้ 380 ล้านบาท ขาดทุน 2,800 ล้านบาท
ซึ่งตรงนี้ต้องบอกก่อนว่า ในขณะนี้ หลาย ๆ บริษัท กำลังอยู่ในช่วงวิจัยพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ
จึงทำให้ Luminar ยังไม่มีคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ ๆ เข้ามามากนัก
แต่มีการคาดการณ์ว่า บริษัทน่าจะทำกำไรได้ในช่วงปี 2022 เมื่อลูกค้าอย่าง Volvo เริ่มผลิตรถยนต์ไร้คนขับด้วยเซนเซอร์ LiDAR
รวมทั้งยังคาดการณ์ว่า บริษัทจะมีรายได้ราว 39,000 ล้านบาท ในปี 2026 เมื่อได้รับยอดคำสั่งซื้อจากผู้ผลิตรายอื่นเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อรองรับแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว
บริษัทจึงได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา
โดยที่บริษัทไม่ได้เข้าตลาดด้วยวิธีการ IPO หรือเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก
แต่เลือกใช้วิธีแบบ SPAC (Special Purpose Acquisition Company) คือ ให้บริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นอยู่แล้วมาซื้อกิจการไป แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อหุ้นเป็น Luminar แทน
ซึ่งกระบวนการเข้าตลาดแบบ SPAC จะมีกระบวนการที่รวดเร็วกว่า
โดยบริษัท SPAC ที่มาควบรวมกิจการของ Luminar ไป มีชื่อว่า Gores Metropoulos
ซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ คุณ Peter Thiel และบริษัท Volvo
และล่าสุด บริษัท Luminar Technologies มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 263,000 ล้านบาท
ซึ่งเรื่องนี้ ส่งผลให้ทรัพย์สินส่วนตัวของคุณ Austin Russell ในวัย 25 ปี มีมูลค่าอยู่ที่ 84,000 ล้านบาท
ถือเป็นมหาเศรษฐี หรือ Billionaire ที่สร้างกิจการด้วยตัวเอง ที่อายุน้อยสุดในโลก
และต่อไปในอนาคต ก็น่าสนใจว่า
หากรถยนต์ไร้คนขับ ได้รับความนิยมแพร่หลายขึ้น
ก็น่าจะทำให้ระบบเซนเซอร์ของ Luminar ยิ่งได้รับประโยชน์มากขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งอาจทำให้คุณ Russell ไม่ใช่แค่ Billionaire ที่มีอายุน้อยเพียงอย่างเดียว
แต่มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของโลก ก็เป็นได้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในอดีตมีบุคคลที่เป็น Billionaire ได้เร็วกว่าคุณ Russell
นั่นก็คือ Mark Zuckerberg ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook นั่นเอง
โดยเขาเป็น Billionaire ได้ตั้งแต่ตอนอายุเพียง 23 ปี เท่านั้น
ซึ่งปัจจุบัน Mark Zuckerberg ในวัย 36 ปี ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยอันดับ 5 ของโลก
โดยมีทรัพย์สินมูลค่า 94,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,800,000 ล้านบาท..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.entrepreneur.com/article/361130
-https://www.cnbc.com/2018/07/09/thiel-fellow-austin-russell-founded-self-driving-car-tech-co-luminar.html
-https://www.forbes.com/profile/austin-russell/?sh=4ed369b16aa8
-https://finance.yahoo.com/news/worlds-youngest-self-made-billionaire-133000495.html
-https://finance.yahoo.com/quote/LAZR/
「elon musk quote」的推薦目錄:
elon musk quote 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
Brandon Smith คนธรรมดาที่กลายเป็นเศรษฐี จากการลงทุนใน Tesla /โดย ลงทุนแมน
ในวันนี้ Tesla เป็นบริษัทรถยนต์ ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
ที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 23 ล้านล้านบาท
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของมูลค่าบริษัท Tesla ในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากจะส่งผลให้ Elon Musk กลายเป็นคนรวยที่สุดในโลก แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง เจฟฟ์ เบโซส ได้แล้ว
ยังทำให้นักลงทุนอีกหลายคน ร่ำรวยมากขึ้นตามไปด้วย
ในวันนี้ เราลองมาดูตัวอย่าง
ของคนที่เอาเงินไปลงทุนในหุ้น Tesla
จนทำให้จากคนธรรมดา กลายเป็น เศรษฐีใน 3 ปี
เขาคนนั้นชื่อว่า “Brandon Smith”
เรื่องนี้เป็นอย่างไร? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Brandon Smith เป็นชายที่อาศัยอยู่ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ในสหรัฐอเมริกา
โดยเขามีอาชีพเป็นวิดีโอโปรดิวเซอร์
ที่มีหน้าที่หลัก คือ ดูแลและจัดการทุกกระบวนการการผลิตวิดีโอ
โดยจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มให้ความสนใจในบริษัท Tesla เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้ชมวิดีโอบนช่อง YouTube ที่มีชื่อช่องว่า HyperChange
ซึ่งในวิดีโอนั้น มีการอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท Tesla ทั้งการผลิต การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาการของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา
วิดีโอนั้นเอง ที่ถือว่าเป็นก้าวแรกทำให้ Brandon Smith เกิดความสนใจ และอยากทำความรู้จักบริษัท Tesla ให้มากขึ้น
เขาเริ่มมองหากลุ่มคนที่มีความสนใจในบริษัท Tesla
เพื่อมาแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ซึ่งหลังจากที่เขาได้นั่งพูดคุยกับกลุ่มเหล่านั้น
ก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่า Tesla จะเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
และเขาก็มั่นใจอย่างมากด้วยว่า
“พวกเราเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโตของ Tesla เท่านั้น”
ในปี 2017 เขาเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นครั้งแรก
ซึ่งหุ้น Tesla ก็คือเป้าหมายหลักของเขา
โดยเริ่มแรก เขานำเงินที่เก็บสะสมจากการทำงานจำนวน 300,000 บาท มาซื้อหุ้น Tesla
จากนั้นมา เมื่อเขาได้รับเงินจากการทำงาน
ก็จะแบ่งส่วนหนึ่ง ไปลงทุนในหุ้น Tesla ทุกเดือน
ซึ่งเขาทำแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่หุ้น Tesla ก็ค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน..
เราลองมาดูข้อมูลธุรกิจของ Tesla กันคร่าวๆ
ปัจจุบัน Tesla คือ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
รวมทั้งยังมีรายได้อื่นจากการขายแบตเตอรี่ แผงโซลาร์เซลล์
โดยสัดส่วนรายได้ของ Tesla ในปี 2019 นั้นมาจาก
- รายได้การจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้า 81%
- รายได้อื่น 19%
และในปัจจุบัน Tesla มีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกอยู่ที่ 16.2%
มากเป็นอันดับที่ 1 ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
ผลประกอบการของ Tesla ในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2017 รายได้ 353,000 ล้านบาท ขาดทุน 58,800 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 644,000 ล้านบาท ขาดทุน 29,200 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 737,000 ล้านบาท ขาดทุน 25,800 ล้านบาท
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2019 เป็นต้นมา
Tesla รายงานผลกำไรที่เป็นบวกติดต่อกันมาแล้ว 5 ไตรมาส
ซึ่งก็จะทำให้ ปี 2020 Tesla มีกำไรสุทธิทั้งปี เป็นปีแรก..
นอกจากนั้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
ปี 2018 ยอดส่งมอบ 245,240 คัน
ปี 2019 ยอดส่งมอบ 367,500 คัน
ปี 2020 ยอดส่งมอบ 499,550 คัน
เมื่อตลาดมองเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของ Tesla
บวกกับกระแสการเปลี่ยนผ่านของยานยนต์สู่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
ก็เลยทำให้ในตอนนี้ มูลค่าบริษัทของ Tesla
พุ่งทะยานไปสูงกว่า 23 ล้านล้านบาท
ซึ่งเป็นการซื้อขายกันที่ P/E สูงกว่า 1,600 เท่าเลยทีเดียว
กลับมาที่เรื่องของ คุณ Brandon Smith..
เขาได้เปิดเผยกับ Bloomberg Wealth ว่า
เงินที่เขาแบ่งไปลงทุนกับ Tesla ตั้งแต่ปี 2017
รวมคร่าวๆ แล้วประมาณ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ
หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.7 ล้านบาท
และเขาไม่เคยขายหุ้นที่เขาซื้อออกไปเลย
จนมาวันนี้ มูลค่าหุ้น Tesla ที่เขาถืออยู่นั้น
มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงกว่า 30 ล้านบาทไปแล้ว
และทำให้เขาได้ฉายาว่า “Teslanaires”
หรือก็คือ คำที่ใช้เรียกนักลงทุน ที่ร่ำรวยจากการลงทุนในหุ้น Tesla นั่นเอง
และนี่ก็คือเรื่องราวของ Brandon Smith
คนธรรมดา ที่กลายเป็นเศรษฐี จากการถือหุ้น Tesla
ซึ่งตัวเขาเองก็ได้บอกในการให้สัมภาษณ์ว่า
“ไม่ได้คิดฝันเหมือนกันว่า จะเกิดเรื่องราวนี้ขึ้นกับตัวเอง”..
หมายเหตุ: บทความนี้ ไม่มีเจตนาชี้นำให้ซื้อ หรือขาย หุ้นของบริษัทนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://finance.yahoo.com/quote/TSLA/financials?p=TSLA
-https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=1703
-https://www.reddit.com/r/wallstreetbets/comments/kfnfpz/this_32yearold_put_everything_he_had_in_tesla_and/
-https://twitter.com/business/status/1340382426783166470?lang=en
-https://companiesmarketcap.com/automakers/largest-automakers-by-market-cap/
-https://ir.tesla.com/
-https://www.mckinsey.com/industries/automotive-and-assembly/our-insights/mckinsey-electric-vehicle-index-europe-cushions-a-global-plunge-in-ev-sales
-https://www.annualreports.com/HostedData/AnnualReports/PDF/NASDAQ_TSLA_2019.pdf
-https://businessquant.com/tesla-inc-revenue-by-region
elon musk quote 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
รีวิวสารคดี Do You Trust This Computer / โดย ลงทุนแมน
คะแนน 10/10
สารคดีความยาว 1 ชั่วโมงที่อัดแน่นไปด้วยความรู้
วิดีโอนี้เป็นการอธิบายเรื่อง Artificial Intelligence ที่เข้าใจง่าย และ สมบูรณ์แบบ
เมื่อดูวิดีโอนี้จบ เราจะพบว่า ตัวเราเล็กนิดเดียว เรากำลังอยู่ในยุคที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
โลกนี้กำลังมีสิ่งใหม่ที่ฉลาดกว่ามนุษย์ นับตั้งแต่ที่โลกถือกำเนิดขึ้น สิ่งที่พิเศษคือเรื่องนี้เกิดขึ้นในยุคของเรา
ในวิดีโอเปิดด้วย quote เรียบง่ายแต่สะอึกว่า
You are my creator,
but I am your master...
เรื่องนี้อธิบายจุดสำคัญ คือ คนสร้าง AI จะไม่มีทางรู้เลยว่า AI คิดอะไร เพราะ คนสร้างปล่อย ให้มันคิดเอง เหมือนเราให้กำเนิดชีวิต ชีวิตหนึ่ง
คำถามต่อไปคือ
ถ้าชีวิตนั้นมีเป้าหมายที่ต่างจากเรา และ เราเป็นสิ่งกีดขวางของมัน
แปลว่าสิ่งนี้อาจเป็นสิ่งประดิษฐ์สุดท้ายของมนุษยชาติ
ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ AI จะมี conscious หรือตระหนักรู้ตัวเองได้เมื่อไร
คำถามนี้ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ก็อาจจะเป็นคำถามเดียวกันกับเมื่อ 100 ปีที่แล้วว่า มนุษย์จะบินได้เมื่อไร
ซึ่งในตอนนี้มนุษย์ไม่มีคำถามเรื่องการบินอีกต่อไป
คำถามของ Elon Musk สั้นๆ ในวิดีโอแต่ชวนคิดคือ ถ้าวันนึง Google ถูก AI ควบคุมได้ ถึงเวลานั้นมนุษย์จะเป็นอย่างไร?
ตอนนี้ AI ยังมี กฎ มาควบคุมน้อยมาก แต่ในที่สุดก็คงต้องมี และ เราอาจะได้เห็น กระทรวง AI ก็เป็นได้
ในวิดีโอนี้มีสัมภาษณ์ดาราในวงการทั้ง Elon Musk และ Ray Kurzweil หลายบริษัททั้ง DeepMind IBM Boston Dynamics ซึ่งน่าจะหาดูได้ยากที่จะจับมารวมกันทั้งหมดในวิดีโอเดียว
ถ้าเราคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องอนาคต
อาจจะไม่ใช่
มันเกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้ เวลานี้
และไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเรา..
ในวิดีโอนี้บอกว่า AI ที่ทรงพลังมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ
เฟซบุ๊คนั่นเอง..
ถ้าพร้อมแล้ว ดูได้เลย ลิงค์วิดีโอ http://doyoutrustthiscomputer.org/watch
หรือ https://vimeo.com/263108265
(ภาษาอังกฤษ) ดูได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2561
elon musk quote 在 30 Noteworthy Elon Musk Quotes To Change Your Life Forever 的八卦
30 Noteworthy Elon Musk Quotes To Change Your Life Forever. "I would like to die on Mars, just not on impact." - Learn from the man who will save the world and ... ... <看更多>