สรุปเส้นทาง เว็บเบราว์เซอร์ จาก Netscape สู่ Google Chrome /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงการท่องโลกอินเทอร์เน็ต สิ่งที่เป็นเหมือนประตูบานแรกที่ทุกคนต้องเดินผ่าน ก็คือ “เว็บเบราว์เซอร์”
รู้ไหมว่า ความสำคัญของเว็บเบราว์เซอร์นั้น ได้นำไปสู่การต่อสู้เพื่อแย่งชิงฐานผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างดุเดือด ซึ่งเหตุการณ์ก็ยืดเยื้อมานานเกือบ 30 ปี และพลิกผันอยู่หลายครั้ง จนทำให้ผู้ชนะในศึกแรก ๆ กลับกลายเป็นผู้แพ้ในท้ายที่สุด
สงครามระหว่างผู้ให้บริการเว็บเบราว์เซอร์ มีเรื่องราวเป็นอย่างไร
แล้วตอนจบ ใครเป็นผู้ชนะ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของมหากาพย์ ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1993
เว็บเบราว์เซอร์หลายเจ้า ถูกคิดค้นขึ้นและนำมาใช้กันแพร่หลาย และถือเป็นประตูบานสำคัญ ที่ทำให้มนุษย์ได้รู้จักกับโลกออนไลน์
ในขณะนั้น เว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมมากสุด คือ “Mosaic” ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์การประยุกต์ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา
ต่อมา ก็มีหลายบริษัทขอซื้อลิขสิทธิ์ของ Mosaic ไปสร้างเป็นเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเอง โดยหนึ่งในนั้น คือ บริษัท Netscape Communications Corporation ของคุณ Marc Andreessen ซึ่งปัจจุบันเป็นนักลงทุนชื่อดังของวงการ Venture Capital
เว็บเบราว์เซอร์ของ Netscape มีชื่อว่า “Netscape Navigator” ซึ่งได้รับความนิยมในทันที เพราะใช้งานง่าย และแสดงผลการค้นหาได้ดีกว่าเจ้าอื่น ทำให้บริษัทยึดครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 80% ในช่วงปี 1995
ความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ Netscape สามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ แม้เพิ่งก่อตั้งมาเพียงปีเดียว และยังถือเป็นการ IPO ที่มีมูลค่าสูงสุดของตลาดในเวลานั้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต ก็ดึงดูดให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง “Microsoft” เข้ามาสู่ธุรกิจเว็บเบราว์เซอร์ จนเกิดเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า “สงครามเว็บเบราว์เซอร์ครั้งที่ 1”
หลังจาก Netscape เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ 15 วัน บริษัท Microsoft ก็เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ ชื่อว่า “Internet Explorer”
เนื่องด้วย Microsoft เป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ที่มีเงินทุนจากการขายซอฟต์แวร์ จึงทำให้สามารถทุ่มทรัพยากรเพื่อพัฒนา Internet Explorer จนมีฟีเชอร์ก้าวตาม Netscape ทัน ภายในเวลาไม่นาน
และในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสงคราม เมื่อ Microsoft ตัดสินใจผูกโปรแกรม Internet Explorer ไว้เป็นเว็บเบราว์เซอร์เริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ Windows แบบฟรี ๆ
หมายความว่า คนที่ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ไปใช้ จะกดเข้า Internet Explorer ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปดาวน์โหลดหรือหาซื้อเว็บเบราว์เซอร์ใหม่
ซึ่งขณะนั้น Windows ครองส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์กว่า 90% ส่งผลให้การใช้งาน Internet Explorer เพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก
จนในปี 2002 Netscape Navigator ก็มีส่วนแบ่งตลาดน้อยมาก
จากข้อมูลของ TheCounter.com
Internet Explorer ส่วนแบ่งตลาด 93.9%
Netscape Navigator ส่วนแบ่งตลาด 2.3%
บทสรุปของสงครามเว็บเบราว์เซอร์ครั้งที่ 1 ผลปรากฏว่า Microsoft เป็นผู้ชนะอย่างเด็ดขาด..
ส่วนผลการดำเนินงานของ Netscape ก็ถดถอยลง และตัดสินใจขายกิจการให้กับบริษัท America Online ในปี 1998 ก่อนที่จะหยุดให้บริการเว็บเบราว์เซอร์ ในเวลาต่อมา
ถึงแม้การต่อสู้ศึกนี้จบลงแล้ว แต่สงครามในสนามรบเว็บเบราว์เซอร์ ยังไม่ปิดฉากลงง่าย ๆ
พอไร้คู่แข่ง ดูเหมือนว่า Microsoft จะตายใจ และแทบไม่ได้พัฒนา Internet Explorer ต่อสักเท่าไร หลักฐานที่ชัดเจนคือ ระหว่างปี 2001-2006 มีการอัปเดตเบราว์เซอร์แค่เวอร์ชันเดียวเท่านั้น
แต่ความประมาทและความตายใจของ Microsoft นี่เอง ที่กลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ ที่ทำให้เกิด “สงครามเว็บเบราว์เซอร์ ครั้งที่ 2”
เพราะหลังจาก Netscape พ่ายแพ้ พวกเขาก็ได้เปิดเผยข้อมูลโคดทิ้งไว้ ซึ่งต่อมา องค์กร Mozilla Foundation ได้นำเอาไปพัฒนาเป็นเว็บเบราว์เซอร์ตัวใหม่ ที่ชื่อว่า Mozilla Firefox หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “Firefox”
Firefox ได้มุ่งเน้นพัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ที่เริ่มเบื่อหน่ายกับประสิทธิภาพการทำงานของ Internet Explorer
จึงทำให้ Firefox สามารถแสดงผลของเว็บไซต์รุ่นใหม่ได้ดีกว่า รวมทั้งเพิ่มฟีเชอร์ลูกเล่นให้กับเบราว์เซอร์อีกมากมาย ส่งผลให้คนเริ่มสนใจลองดาวน์โหลด Firefox ไปใช้งานแทน Internet Explorer
ส่วนแบ่งตลาดเว็บเบราว์เซอร์ ในปี 2009 จากข้อมูลของ StatCounter
Internet Explorer ส่วนแบ่งตลาด 60.1%
Firefox ส่วนแบ่งตลาด 30.5%
จะเห็นได้ว่า Firefox แย่งชิงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไปจาก Internet Explorer พอสมควร ถึงขนาดที่หลายฝ่ายมองว่าอาจถึงขั้นแซงขึ้นเป็นเจ้าตลาด
แต่มันก็ไม่ทันได้เกิดขึ้น..
เพราะสงครามครั้งนี้ ยังมีตัวละครอื่นเข้าร่วมวงต่อสู้อีก
ซึ่งตัวละครใหม่ที่ว่า นั่นก็คือ “Google”
Google เป็นเจ้าตลาดเซิร์ชเอนจิน และมีผลิตภัณฑ์ออนไลน์อื่น ๆ มากมาย ซึ่งมีความต้องการจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศบริษัทเพิ่มเติม จึงได้พัฒนาและเปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ ชื่อว่า “Google Chrome” ขึ้นมา และเริ่มเปิดให้ใช้งานในปี 2008
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต จะสามารถใช้บริการทุกอย่างของ Google ผ่านเบราว์เซอร์ Google Chrome ได้อย่างสะดวกสบายและครบวงจรในที่เดียว
รวมทั้ง Google ยังมีความพร้อมด้านทรัพยากรและเงินทุน ที่สนับสนุนให้ทีมงานมีการอัปเดตฟีเชอร์ใหม่ ๆ ของเบราว์เซอร์ อยู่ตลอดเวลา จนรายอื่นเริ่มขยับตามได้ยาก
ด้วยเหตุนี้ ฐานผู้ใช้งาน Google Chrome จึงเติบโตแบบก้าวกระโดด และแซงหน้าขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
นอกจากนั้น ในยุคสมาร์ตโฟน ผู้เล่นอีกรายหนึ่งที่มาแรง คือ “Apple”
ในช่วงหลัง พฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต เปลี่ยนไปอยู่บนสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตมากขึ้น ซึ่ง Apple ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ส่งผลให้เว็บเบราว์เซอร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS ของตัวเครื่อง อย่าง “Safari” ถูกเปิดใช้งานเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง จนสามารถก้าวขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 ตั้งแต่ช่วงปี 2015
แล้วในปัจจุบัน สถานการณ์ของสงครามนี้ เป็นอย่างไร ?
ส่วนแบ่งตลาดเว็บเบราว์เซอร์ เดือนพฤษภาคม ปี 2021 จากข้อมูลของ StatCounter
- Google Chrome ส่วนแบ่งตลาด 64.8%
- Safari ส่วนแบ่งตลาด 18.4%
- Firefox ส่วนแบ่งตลาด 3.3%
- Internet Explorer ส่วนแบ่งตลาด 0.6%
เราคงพอสรุปได้ว่า Google Chrome คือผู้คว้าชัยชนะ ของสงครามเว็บเบราว์เซอร์ ในตอนนี้
ในขณะที่ ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตอย่าง Internet Explorer ได้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันไปแล้ว ซึ่งทำให้ Microsoft เตรียมยกเลิกโปรแกรมในเดือนมิถุนายน ปี 2022 และมุ่งพัฒนาเบราว์เซอร์รุ่นใหม่ ชื่อว่า “Microsoft Edge” ขึ้นมาแทน
นี่คงเป็นแง่คิดที่ดีว่า การเป็นผู้ชนะนั้นยากแล้ว แต่การรักษาตำแหน่งผู้ชนะอาจเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า
เพราะเมื่อไรที่เราหยุดพัฒนา ก็อาจพลิกมาเป็นผู้แพ้ในสักวัน จนไม่มีโอกาสแก้ตัวใหม่ ก็เป็นได้..
ปิดท้ายด้วยประเด็นที่หลายคนอาจสงสัยว่า
Google Chrome กับ Safari ที่ดูเหมือนเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกันที่สุดในตอนนี้ ความจริงแล้วเขาทั้งสอง เป็นพันธมิตรกันในบางส่วน
เพราะในทุก ๆ ปี Google ตกลงยอมจ่ายเงินมหาศาลให้กับ Apple เพื่อขอให้ Google เป็นเว็บไซต์ค้นหาเริ่มต้นบนเบราว์เซอร์ Safari
โดยในปี 2021 คาดว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 4.9 แสนล้านบาท
ถ้าถามถึงเหตุผล ก็คงเป็นเพราะ Google ให้ความสำคัญกับการครองส่วนแบ่งตลาดเซิร์ชเอนจินมากกว่า เรื่องเบราว์เซอร์ เพราะตัวสร้างรายได้ให้ Google จะอยู่ที่เซิร์ชเอนจินเป็นหลัก
Google อยากได้แทรฟฟิกการค้นหาข้อมูลเบราว์เซอร์ Safari เพื่อปิดประตูไม่ให้ผู้เล่นรายอื่น เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดเซิร์ชเอนจินไป ถึงแม้จะรู้ว่า ทำให้มีคนใช้งาน Safari เพิ่มมากขึ้นก็ตาม
ส่วนฝั่ง Apple คงเลือกรับเงินดีกว่า เพราะอย่างไร คนส่วนใหญ่ก็จะเข้า Safari แล้วไปค้นหาใน Google อยู่ดี
ซึ่งอาจพอตีความได้ว่า ตอนนี้ทั้งคู่เลือกที่จะอยู่ร่วมกันบนโลกออนไลน์ แบบเป็นพันธมิตรกัน มากกว่าทำสงคราม แล้วต้องมีใครสักคนบาดเจ็บหนัก..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://acodez.in/browser-wars/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Browser_wars
-https://en.wikipedia.org/wiki/Usage_share_of_web_browsers
-https://gs.statcounter.com/browser-market-share#monthly-201201-202105
-https://www.reuters.com/technology/microsoft-unplug-internet-explorer-it-seeks-edge-browser-war-2021-05-20/
-https://9to5mac.com/2021/08/25/analysts-google-to-pay-apple-15-billion-to-remain-default-safari-search-engine-in-2021/
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
「browser market share」的推薦目錄:
- 關於browser market share 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於browser market share 在 DroidSans Facebook
- 關於browser market share 在 GamingDose Facebook
- 關於browser market share 在 Bryan Wee Youtube
- 關於browser market share 在 Travel Thirsty Youtube
- 關於browser market share 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube
- 關於browser market share 在 Browser Market Share Worldwide (2009/2020) - YouTube 的評價
- 關於browser market share 在 TOP 10 Internet Browser Market Share Worldwide 2009-2019 的評價
browser market share 在 DroidSans Facebook 八卦
ใช้เบราว์เซอร์อะไรกันอยู่คะ ? 💖😍💕เห็นช่วงนี้คนแนะนำให้ใช้ Microsoft Edge กันเยอะ แล้วเพื่อนๆใช้อะไร หรือ อันไหนดี มาเม้นต์คุยกันหน่อยย ~ 🤟
.
รายชื่อ 10 อันดับเว็บเบราว์เซอร์ที่มีผู้ใช้งานเยอะที่สุดในปี 2020
แน่นอนว่าที่ 1 ก็คือ Google Chrome✨ ที่นิยมใช้กันอย่างถ้วนหน้า ได้ไปถึง 69.18% ส่วนอีก 9 อันดับก็ได้กันไปคนละไม่ถึง 10% เรียกว่าทิ้งไม่เห็นฝุ่น ห่างจากที่ 1 เกือบ 10 เท่าเล้ยยย
.
1. Google Chrome – 69.18%
2. Microsoft Edge – 7.76%
3. Firefox – 7.25%
4. Internet Explorer 11 – 5.18%
5. Safari – 3.94%
6. Sogou Explorer – 1.89%
7. QQ – 1.78%
8. Opera – 1.06%
9. Yandex – 0.95%
10. UC Browser – 0.36%
.
ส่วนตัวเรานั้นก็กำลังลองใช้ Microsoft Edge อยู่ถูกใจไม่น้อยเลยนะ ~~
ข้อมูลเพิ่มเติม
🏹 https://droidsans.com/google-chrome-tops-web-browser-market-share-edge-comes-second/
browser market share 在 GamingDose Facebook 八卦
มูลค่าของวงการ Esports ประเทศจีน เติบโตอย่างก้าวกระโดด คิดเป็นกว่า 54% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้านผู้นำตลาดเกมตกเป็นของเกม Mobile platform ที่ทำรายได้มากกว่า PC ถึง 3 เท่า
.
โดยข้อมูลนี้ได้รับการเปิดเผยในงาน China Digital Entertainment Expo & Conference (ChinaJoy) ที่จัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้เมื่อไม่นานมานี้ จากการศึกษามูลค่าอุตสาหกรรมเกมในประเทศจีน ตั้งแต่เดือน ม.ค. - มิ.ย. 2020 ที่ผ่านมา
.
ข้อมูลระบุว่า วงการ Esports ของจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้เกี่ยวข้องกับการแข่งขันกว่า 484 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีแล้ว 9.94% และทำรายได้ในระยะเวลาเพียงหกเดือนกว่า 71.9 พันล้านหยวน หรือราว 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ (3 แสนล้านบาท) คิดเป็นการเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2019 ถึง 54.7%
.
ซึ่งข้อมูลดังกล่าว ได้รับการยืนยันจาก Yibo Zhang หนึ่งในสมาชิกของ China Culture Management Association และผู้อำนวยการสำนักพิมพ์ People Esports ว่าเป็นความจริง 100% และได้รับการยืนยันจากหนังสือพิมพ์ People’s Daily ซึ่งเป็นสื่อพิมพ์ของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย
.
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมเกมของจีนมีผู้ใช้งานกว่า 660 ล้านคนและสร้างรายได้มากถึง 139 พันล้านหยวน (2 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ) เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 โดยมี "เกมมือถือ" ครองส่วนแบ่งตลาดใหญ่ของประเทศ โดยทำรายได้ไปกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็น 75.04% ของรายได้ทั้งหมด
.
ในขณะที่เกม PC มีส่วนแบ่งเพียง 20.18% และที่เหลืออีกเล็กน้อยเป็นของ Browser based games ที่ครองไป 2.87% จะเห็นได้ว่ารายงานนี้ ไม่ได้พูดถึงรายได้จากทางฝั่ง Console แต่อย่างใด
.
ขณะเดียวกัน จีนก็ยังมีประเภทเกมที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ นั่นก็คือ Cloud gaming โดยมีการลงทุนก้อนใหญ่เพื่อปรับปรุงระบบเก็บข้อมูลและสัญญาณ 5G อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วง 2 ไตรมาสแรกที่ผ่านมา Cloud gaming ของจีนก็ทำรายได้ไปถึง 400 ล้านหยวน (57.5 ล้านดอลลาร์ฯ) เพิ่มขึ้นกว่า 79% เทียบกับปี 2019 ที่ผ่านมา
.
Esports กำลังเป็นหน้าใหม่ไฟของวงการบัญเทิงโลก เพราะในช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาด การแข่งขันแบบอิเล็กทรอนิกส์ก็เข้ามาเติมเต็มความต้องการของผู้ชมได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจนสิ้นสุดปี 2020 มูลค่าของวงการ Esports จะเติบโตได้มากแค่ไหนท่ามกลางโอกาสที่เป็นใจนี้
.
ที่มา https://pandaily.com/china-reports-over-10-billion-esports…/
.
#gamingdose #ข่าวเกม #Esports #China
The value of Chinese Esports industry has grown to 54 % more than the same time of last year. The game market leader is 3 times more than PC.
.
This information has been revealed in China Digital Entertainment Expo & Conference (ChinaJoy) recently held in Shanghai from a recent education of gaming industry in China since high school. July. - Mi. The past year 2020
.
China's esports industry has grown rapidly with 484 million contestants, 9.94 % increase in year-over-year income in just six months, over 71.9 billion yuan or around 1.03 billion. Dollar (3 billion baht) is thought to increase from the same period of 2019 to 54.7 %
.
Such information is confirmed by Yibo Zhang, one of the members of the China Culture Management Association and Director of People Esports publishers is 100 % true and confirmed by People's Daily newspaper which is the largest state print media. In the country too
.
China's game industry currently has over 660 million users and earning up to 139 billion yuan (2 billion dollars), 22 % compared to the same period of 2019 by There is a ′′ mobile game ′′ to rule the country's big market share. Earning over 1.5 billion dollars. It is 75.04 % of total income.
.
While PC game has a share of 20.18 % and a few more to Browser based games, 2.87 % can see that this report doesn't mention Console income at all.
.
Meanwhile, China has a newcoming game type. Cloud gaming with huge investment to improve 5 G storage system and signals continuously. In the first 2 quarters, China's Cloud gaming proceeds to 400 Million Yuan (57.5 million dollars) has risen to 79 % compared to 2019
.
Esports are becoming a new face of the world's burning industry because during COVID-19 is going viral, the electronic competition is fulfilling the audience's needs very well. It has to be followed until the end of 2020 How much can the value of Esports grow in the midst of this opportunity?
.
Source https://pandaily.com/china-reports-over-10-billion-esports-games-profit-in-first-half-of-2020-grows-54-7-yoy/
.
#gamingdose #ข่าวเกม #Esports #ChinaTranslated
browser market share 在 Bryan Wee Youtube 的評價
browser market share 在 Travel Thirsty Youtube 的評價
browser market share 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube 的評價
browser market share 在 TOP 10 Internet Browser Market Share Worldwide 2009-2019 的八卦
Nov 4, 2019 - This video shows TOP 10 Internet Browser Market Share Worldwide 2009-2019 My name is Hamza and i am a big fan of data Visualization so i make ... ... <看更多>
browser market share 在 Browser Market Share Worldwide (2009/2020) - YouTube 的八卦
... <看更多>