ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ดาวสภาตัวจริง เป็นคนหนุ่มอนาคตไกล ฉลาดมาก
.
ผมบอกตรงๆว่าไม่ดูประชุมสภาเลย รำคาญเพราะชอบคุยชอบเถียงเรื่องเดิมๆ ประท้วงกันแต่เรื่องไร้สาระ จนเมื่อวานได้เจอการอภิปรายของคุณ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถึงกับอุทานในใจ คนอะไร ฉลาดฉิบหาย พูดจาดีมากกก พูดเก่งมาก สะกดคนฟัง ไม่มีออกทะเล ไม่มีน้ำเน่า ทุกอย่างเต็มไปด้วยข้อมูล ฉะฉาน ไม่มีโพย รู้ปัญหาจริง ทุกอย่างเหมือนอยู่ในหัวหมด ทำการบ้านมาโคตรดี เลยอดที่จะไปหาข้อมูลไม่ได้ก็พบว่า
ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จบมัธยมจากนิวซีแลนด์ ปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี อินเตอร์เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทใบแรก การเมืองการปกครอง สาขาการบริหารภาครัฐ ที่ John F. Kennedy School of Government มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และปริญญาโทใบที่สอง การบริหารธุกิจที่ Sloan, Massachusetts Institute of Technology (MIT) สหรัฐอเมริกา (ข้อมูลจาก ไทยรัฐ) การศึกษา สถาบันนี่คือต้องเป็นคนรักเรียนมาก และมีใจที่อยากจะเข้ามาทำให้ประเทศดีขึ้นมากๆ แต่สิ่งที่เค้าสนใจในการแก้ไขปัญหาของชาติกลับเป็นเรื่องเกษตรกร ซึ่งน่าชื่นชมมาก
.
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บอกว่าเค้ามีโอกาสไปพักอยู่ที่สกลนคร ที่นั่นเกษตรกรมีที่ดินเป็นของตัวเอง ก็เลยทำเกษตรอินทรีย์ ไม่รีบร้อนไม่ต้องเร่งผลผลิตแบบเกษตรเคมี สามารถขายข้าวได้เกวียนละ 30,000 บาท ชาวนาชาวไร่ก็คนเฒ่าคนแก่ทั้งนั้น แถมยังผลิตพวกผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรออกมาขายได้ ไปๆมาๆ ลูกๆหลานๆไปเรียนจบจากกรุงเทพยังกลับมาทำไร่ทำนาเลย เพราะเรายได้เลี้ยงครอบครัวได้สบาย แต่นั่นมันมีเพียง 1% ของเกษตรกรทั้งประเทศ เค้าบอกว่ากระดุมเม็ดแรกของชาวนาไทยคือที่ดิน ที่ดินกว่า 90% ถูกถือครองโดยนายทุน ชาวนาจริงๆแทบจะไม่มีที่ดินเลย รัฐเอาที่ดินยกให้เอกชนทำเหมืองบ้างอะไรบ้าง เป็นไปได้ไหมที่จะกำหนดเขตพิเศษให้ชาวนาบ้าง กระดุมเม็ดที่สองที่ตามมาคือหนี้สิน ชาวนาไม่มีที่ดิน ไมีมีโฉนดก็เข้าถึงแหล่งเงินกู้ไม่ได้ เค้าบอกว่าคนมีที่ดินอย่างพวกเรา(หมายถึงสสในสภาหรือคนปกติ) เอาโฉนดไปกู้ธนาคารเสียดอกปีละ 6% แต่ชาวนาต้องกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 20% ต่อเดือน ก็เลยต้องเร่งทำผลผลิต การเร่งทำผลผลิตก็ต้องพึ่งสารเคมี ซึ่งทำให้ผลผลิตข้าวราคาตกต่ำแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อให้ได้เงินเร็วที่สุด พื้นที่เพาะปลูกของไทยมากเป็นอันดับสี่สิบกว่าของโลก แต่ประเทศไทยนำเข้าสารเคมีมากเป็นอันดับสี่ของโลก และนำเข้าจากประเทศจีน ในขณะที่ประเทศจีนมีนโยบายลดสารเคมีในการทำการเกษตร กระดุมเม็ดที่สี่คือการแปรรูป นวัตกรรม เมื่อเอากระดุมสามเม็ดแรกมาคิดก็จะพบว่า ต้นทุนสูง รายได้ต่ำ ไม่มีเงินออม เกษตรกรจะเอาปัญญาที่ไหนมาแปรรูปมาสร้างนวัตกรรมด้วยตัวเอง ไปจนถึงกระดุมเม็ดที่5 ที่พูดถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ฟาร์มสเตย์ ก็ต้องย้อนไปกระดุมเม็ดที่หนึ่งว่าเมื่อชาวนาไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง มันจะทำให้ก่อรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ยังไง
.
นอกจากนี้คุณพิธา ยังฝากประเด็นเรื่องกัญชาเสรีเอาไว้ให้คิดอีกด้วยว่า เค้าเห็นด้วยว่ามันมีคุณมากในแง่ของการแพทย์ แต่มันจะเสรีจริงหรือผูกขาดจากคนเพียงไม่กี่คนไปจนถึงกลไกราคา ซึ่งอนาคตมันอาจจะมีปัญหา
คนแบบนี้สิ สมควรเข้ามาอยู่ในสภา ตัดออกไปให้หมด จะพรรคอะไร หรือยังไง นี่คือคนคุณภาพ คนที่ฉลาด คนที่ควรมาทำงาน ควรมาเป็นผู้นำประเทศที่แท้จริง สส ในสภาควรจะมีแบบนี้เยอะๆ ดีกว่าพวกยกมือไปยกมือมา นี่ขอยกย่องคุณพิธาเอาไว้ ณ ที่นี้จริงๆ ครับ
mit technology 在 MIT Technology Review 的相關結果
MIT Technology Review ... Our mission is to bring about better-informed and more conscious decisions about technology through authoritative, influential, and ... ... <看更多>