BREAKING: บิลล์ เกตส์ ไม่กลัวโควิด ซื้อหุ้นโรงแรม Four Seasons เพิ่มเป็น 71%
ล่าสุดมีข่าวว่า บิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Microsoft ได้เข้าซื้อกิจการกลุ่มโรงแรมหรู Four Seasons เพิ่มเป็น 71% หลังปิดดีลกับเจ้าชาย Alwaleed ราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย
บิลล์ เกตส์ ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดในกิจการโรงแรมหรู Four Seasons ผ่านดีลมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 72,089 ล้านบาท กับราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นดีลใหญ่ครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่มีการแบ่งสินทรัพย์กับ เมลินดา เกตส์ อดีตภรรยาไปเมื่อต้นปีนี้
โดยก่อนหน้านี้ บิลล์ เกตส์ เป็นเจ้าของ Four Seasons ร่วมกับ Alwaleed bin Talal เจ้าชายซาอุดีอาระเบีย ตั้งแต่ปี 2007
ซึ่งในตอนนี้ การลงทุนของ บิลล์ เกตส์ ผ่าน Cascade Investment บริษัทด้านการลงทุนของเขา ได้เข้าซื้อหุ้นครึ่งหนึ่งของเจ้าชาย Alwaleed
จากดีลนี้ ทำให้การถือหุ้นใน Four Seasons ของบิลล์ เกตส์ เพิ่มขึ้นเป็น 71%
และการขายหุ้นครั้งนี้เจ้าชาย Alwaleed ได้ขายผ่าน Kingdom Holdings ซึ่งคาดว่าจะได้รับกำไร 52,432 ล้านบาท
ซึ่งการขายหุ้นโรงแรม ของเจ้าชาย Alwaleed ถือเป็นการขายกิจการครั้งแรกนับตั้งแต่เขาได้รับการปล่อยตัว หลังจากถูกกักขังเป็นเวลานานในโรงแรม Riyadh Ritz-Carlton ในปี 2018 ข้อหาที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต ที่ดำเนินการโดยมกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman ของซาอุดีอาระเบียในขณะที่เขายึดอำนาจในประเทศ
ทั้งนี้ เงื่อนไขในการปล่อยตัวเจ้าชาย Alwaleed นั้นไม่ชัดเจนมากนัก ทั้งนี้บุคคลสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกคุมขังได้ถูกปล่อยตัวอย่างเงียบ ๆ ผ่านข้อตกลงในการชดใช้เงินก้อนใหญ่ในข้อหาสนับสนุนพฤติกรรมที่เห็นว่าเข้าข่ายทุจริต
ภายใน 1 เดือนหลังเจ้าชาย Alwaleed ได้รับการปล่อยตัว เขาก็ได้ขายธุรกิจของเขาออกไป เช่น โรงแรมและรีสอร์ต Mövenpick มูลค่า 18,660 ล้านบาท แต่เขายังคงเป็นนักลงทุนรายย่อยในเครือโรงแรม Four Seasons อยู่
ซึ่งในช่วงที่ บิลล์ เกตส์ และ เมลินดา เกตส์ ได้ออกมาประกาศว่าจะยุติชีวิตแต่งงานของทั้งคู่ ทำให้เกิดคำถามว่า ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 3.9 ล้านล้านบาทที่ บริษัท Cascade และมูลนิธิการกุศลของพวกเขาจะได้รับการจัดสรรอย่างไรบ้าง
หลังจากการประกาศหย่าร้าง ทาง Cascade ได้โอนหุ้นมูลค่า 196,615 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งหุ้น Coca-Cola หุ้น CN Rail บริษัทรถไฟยักษ์ใหญ่ของแคนาดา และ หุ้นบริษัท John Deere ให้กับเมลินดา เกตส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางการเงิน
หลายคนยังไม่รู้ว่า ไมเคิล ลาร์สัน ผู้บริหาร Cascade เป็นผู้ที่มีความสำคัญในการบริหารความมั่งคั่งของ บิลล์ เกตส์ และ เมลินดา เกตส์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ทั้งสองมุ่งความสนใจไปที่งานการกุศลเป็นหลักได้ นอกจากนี้ ลาร์สัน ยังบริหารจัดการเงินบริจาค 1.6 ล้านล้านบาท ของมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation
ที่น่าสนใจคือ
เมื่อเดือนเมษายน ปี 2020 ที่ผ่านมา บิลล์ เกตส์ เองได้ออกมาประกาศเตือน 4 ธุรกิจ ประกอบด้วย โรงแรม ร้านอาหาร ท่องเที่ยว และจัดอีเวนต์ ว่าอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รวมถึงชี้แนะวิธีจัดการของธุรกิจเหล่านี้ด้วย
แต่มาวันนี้ บิลล์ เกตส์ กลับเริ่มเข้ามาเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในกิจการโรงแรม ซึ่งอาจตีความได้ว่า บิลล์ เกตส์ มีมุมมองที่เปลี่ยนไปจากการพูดเมื่อปีก่อน ซึ่งเขาอาจเห็นโอกาสบางอย่าง จึงถือโอกาสเข้าลงทุนเพิ่มในกิจการโรงแรม Four Seasons ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์โรงแรมระดับ Super Luxury ในครั้งนี้..
References
-https://www.ft.com/content/3889fdcd-b151-4540-ae29-3a0f54216c1c
-https://www.ceochannels.com/bill-gates-warned-3-businesses-that-will-change-forever-after-covid-19/
同時也有825部Youtube影片,追蹤數超過102萬的網紅Che Chef,也在其Youtube影片中提到,รถไถติดหล่มจมโคลนหนักมาก ทำไงให้ขึ้นมาดูกัน Tractor stuck in the mud ติดตามคลิปหลากหลายได้ที่ https://www.youtube.com/channel/UCH_kbUYPTymO-BlBMsa1vgA...
john deere 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
สรุปประเด็นจากกองทุนบัวหลวง “กางกลยุทธ์ พิชิตหุ้นสหรัฐฯ”
BBLAM x ลงทุนแมน
ช่วงเวลาที่ผ่านมา คงไม่มีตลาดหุ้นไหนสามารถทำผลงานได้โดดเด่น อย่างตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
ที่ทำให้นักลงทุนสัมผัสได้ถึงความร้อนแรง จนเกิดคำถามว่า หลังจากนี้ โอกาสของหุ้นสหรัฐอเมริกาจะเป็นอย่างไร ?
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ลงทุนแมน ร่วมพูดคุยกับ 2 ผู้เชี่ยวชาญจากกองทุนบัวหลวง
คือ คุณพูนสิน เพ่งสมบูรณ์ AVP, Portfolio Solutions
และ คุณนวรัตน์ เจียมกิจรุ่ง SVP, Product Development
ถึงประเด็นสำคัญในการลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานี้
เรื่องราวสำคัญที่นักลงทุนควรรู้ จะมีอะไรบ้างนั้น ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟังเป็นข้อ ๆ แบบเข้าใจง่าย
1. ภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ?
ความร้อนแรงของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
- นโยบายการเงินการคลัง ที่สามารถส่งต่อไปยังภาคธุรกิจ และภาคการบริโภคได้จริง
- การกลับมาของภาคธุรกิจ ทั้งจากกลุ่มธุรกิจที่เติบโต และกลุ่มธุรกิจที่ฟื้นตัวจากปีก่อน
ประเด็นที่ต้องจับตาต่อจากนี้คือ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ช่วง Mid Cycle ซึ่งแปลว่า เราอาจจะไม่ได้เห็นการปรับตัวขึ้นแรง ๆ ของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเหมือนในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนจากนี้ไป จึงต้องมีการคัดเลือกหุ้นรายตัว รายกลุ่มอุตสาหกรรมให้มากขึ้น
2. ความน่าสนใจของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ตรงไหน ?
ย้อนกลับไปช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาพบปัญหาระหว่างทางมาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเป็น สงครามการค้ากับจีน หรือผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 ประกอบกับการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่เริ่มตั้งแต่ปี 2009 ก็ดูเหมือนจะจบรอบไปแล้วในปีที่ผ่านมา
ถ้าดูตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ปี 2020 ออกมา -30% แต่ที่น่าสนใจก็คือ สหรัฐอเมริกาฟื้นตัวกลับมาได้ค่อนข้างเร็ว โดยเห็นได้จาก GDP ไตรมาส 3 ปี 2020 ปรับตัวขึ้นกลายเป็น +33%
และถ้าหากสังเกตดัชนี S&P 500 ก็ยิ่งฟื้นตัวแรงไม่แพ้กัน
โดยใช้เวลาฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด 19 แค่ 1 เดือนเท่านั้น และก็ยังทำ New High ต่อเนื่อง อย่างในปี 2021 นี้ก็ +20% จากต้นปีอีกด้วย
ซึ่งต่างไปจากวิกฤติซับไพรม์ปี 2007 ที่ต้องใช้ระยะเวลาฟื้นตัวกว่า 18 เดือน แต่เมื่อฟื้นตัวกลับมาได้ ก็ไปต่อได้ดีเช่นกัน
ดังนั้น จุดที่น่าสนใจของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เมื่อสังเกตจาก 2 วิกฤติที่ผ่านมาก็คือ เมื่อสหรัฐอเมริกาประสบภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจแล้ว มักจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว และก็ดีกว่าเดิมเสมอ
3. แล้วจุดขับเคลื่อนสำคัญ ที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวได้เร็ว คืออะไร ?
ปัจจัยที่ 1 คือ อำนาจทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ผ่าน 2 เครื่องมือสำคัญ นั่นคือ
- นโยบายทางการเงิน ที่จะช่วยให้ตลาดการเงินของสหรัฐอเมริกายังคงดำเนินต่อไปได้ โดยการซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ ในตลาด เพื่อพยุงราคาไม่ให้ถูกเทขาย
เช่น พันธบัตรรัฐบาล, Mortgage-Backed Securities (ตราสารทางการเงินที่มัดรวมสินเชื่อบ้านเข้าด้วยกัน โดยมีสถาบันการเงินเป็นคนกลางจับคู่ระหว่างผู้กู้ยืมและนักลงทุน), หุ้นกู้ในกลุ่ม Fallen Angels ที่ถูกปรับลดระดับเครดิตต่ำกว่า BBB (Non-Investment Grade)
- นโยบายการคลัง ที่จะช่วยเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
เช่น การอัดฉีดเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปให้ชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการว่างงาน
เนื่องจากโครงสร้าง GDP สหรัฐอเมริกามาจากภาคการบริโภค 70%
ดังนั้น หากชาวอเมริกันกลับมาบริโภคได้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็จะกลับคืนมาด้วย
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ทั้ง 2 นโยบายที่ว่านี้ คงจะมีแต่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น ที่สามารถทำได้
หากเป็นประเทศอื่น ๆ เราคงเห็นปัญหาตามมาอีกมากมาย เช่น ประเทศไทยที่มีสัดส่วนการบริโภคแค่ 1 ใน 4 ถ้าหากเราอัดฉีดเม็ดเงินเช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาค่าเงินบาทอ่อนหรือปัญหาเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นแรง เป็นผลมาจากการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่มากเกินไป
โดยเหตุผลที่สหรัฐอเมริกาสามารถทำเช่นนี้ได้ เพราะความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกครองสัดส่วน 1 ใน 4 ของมูลค่า GDP โลก และเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ก็ยังเป็นเงินสกุลหลักของการค้าระหว่างประเทศ
ปัจจัยที่ 2 คือ โครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและหลากหลาย ส่งผลให้ภาพรวมฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
หากสังเกตดัชนี S&P 500 จะพบว่า Market Cap. ของกลุ่มเทคโนโลยี 27% สูงเป็นอันดับที่ 1 ถัดมาจะเป็นกลุ่ม Health Care 13% และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย 12% ล้วนเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต
ที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเราขึ้นเรื่อย ๆ เสมือนเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตคนเรา และหลากหลายกลุ่มเทคโนโลยีอนาคตอย่าง Innovation, FinTech, Digital Advertising ยังมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ การจ้างงาน และการแข่งขันในอนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ วิกฤติโควิด 19 ยังเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของสินค้าเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เช่น การช็อปปิงออนไลน์, การดูวิดีโอสตรีมมิงแทนการเข้าโรงภาพยนตร์
ขณะที่ภาคธุรกิจเอง ก็หันมาให้ความสนใจ Digital Advertising มากกว่าป้ายบิลบอร์ดเดิม ๆ ส่งผลให้ลดต้นทุน, ลดขั้นตอน Supply Chain ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ จึงทำให้เชื่อว่า หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกาจะยังเติบโตตามผลประกอบการต่อไปได้
4. หลังจากการฟื้นตัว ก้าวต่อไปคือการเข้าสู่ Mid Cycle ?
เมื่ออัตราการว่างงานลดลง ซึ่งคาดว่า 8-10 เดือนข้างหน้า ก็จะสามารถกลับเข้าสู่ระดับปกติก่อนเกิดวิกฤติโควิด 19 ได้ ขณะเดียวกัน Fed ก็เริ่มส่งสัญญาณถอนคันเร่งมาตรการกระตุ้น ด้านสวัสดิการว่างงานก็เริ่มลดลง สะท้อนได้ว่า สหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ช่วง Mid Cycle
ดังนั้น เราน่าจะไม่ได้เห็นสภาพคล่องท่วมตลาดเหมือนอย่างเคยอีกต่อไป
กลยุทธ์การลงทุนในช่วง Mid Cycle จึงต้องเลือกลงทุนหุ้น Growth เช่น หุ้นเทคโนโลยี
หรือลงทุนหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ ในโครงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังผลักดันอยู่ในขณะนี้ เช่น
- American Rescue Plan วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นสวัสดิการชดเชยการว่างงาน
- Infrastructure Bill วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ
- American Families Plan วงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมนุษย์
- American Jobs Plan วงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน, Health Care, อุตสาหกรรม EV, พลังงานสะอาด
- U.S. Innovation and Competition Act วงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแข่งขันกับจีน
หากโครงการเหล่านี้ได้รับการอนุมัติทั้งหมด จะกลายเป็นเม็ดเงินพัฒนาเศรษฐกิจที่เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ที่จะช่วยพัฒนาประเทศระยะยาว 5-10 ปี เลยทีเดียว
5. ตอนนี้ Master Fund ระดับโลก มองการลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาอย่างไร ?
หลังจากที่กองทุนบัวหลวงได้พูดคุยกับผู้จัดการกองทุน J.P. Morgan หนึ่งใน Master Fund ระดับโลก
พบว่า หากเป็นการลงทุนระยะกลาง J.P. Morgan กำลังพุ่งเป้าไปที่กลุ่มธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจหลังจากผ่านวิกฤติโควิด 19 เช่น
- กลุ่มธุรกิจ Reopening ที่เชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัว และได้รับประโยชน์จากความต้องการซื้อที่อัดอั้นมาจากวิกฤติโควิด 19 เช่น การจองโรงแรม, การเช่ารถ, ร้านอาหาร
- กลุ่ม Health Care ทั้งในแง่ของการรับมือกับโควิด 19, การพัฒนาวัคซีน, การวิจัยเชื้อกลายพันธุ์ และพฤติกรรมพร้อมจ่ายของคนเราเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จึงมองว่ากลุ่มยา และกลุ่ม Biotech ยังเติบโตได้ดี
- กลุ่มพลังงานสะอาด จากการผลักดันนโยบาย EU Green Deal ขณะที่ต้นทุนของพลังงานลม และพลังงานโซลาร์เซลล์ ที่ถูกลงมากเมื่อเทียบกับพลังงานดั้งเดิม รวมทั้งกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์กักเก็บพลังงานก็น่าสนใจ
ขณะเดียวกัน หากเป็นการลงทุนระยะยาว J.P. Morgan กำลังจับตากลุ่มธุรกิจที่สอดรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า
ซึ่งนอกจาก 3 กลุ่มข้างต้นแล้ว ก็ยังมีกลุ่มเครื่องจักรอัตโนมัติ หรือกลุ่ม Smart ต่าง ๆ เช่น Smart Home, Smart TV ที่กำลังเติบโตตามโลกอนาคต อีกด้วย
6. กลยุทธ์การลงทุนหุ้น Growth ในช่วงเวลานี้ ?
กลยุทธ์การวิเคราะห์ลงทุนหุ้น Growth ของ J.P. Morgan จะออกเป็น 2 รูปแบบ นั่นคือ
- รูปแบบ Bottom Up คือการวิเคราะห์หุ้นรายตัวเป็นหลัก
- รูปแบบ Micro Focus คือการวิเคราะห์ลงรายละเอียดเล็ก ๆ เพราะเชื่อว่าจุดเล็ก ๆ จะนำไปสู่ความแตกต่างจากบริษัทอื่นอย่างมีนัยสำคัญได้ เช่น Facebook ที่กำลังได้รับประโยชน์จากโฆษณาออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายคือ การค้นหาหุ้นสหรัฐอเมริกาที่กำลังเติบโตมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ภายใต้ 3 ลักษณะสำคัญคือ
- ธุรกิจที่มีผลต่อการบริโภค หรือการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป
- ธุรกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว มีกำไรที่แข็งแกร่ง
- ธุรกิจที่มีการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น (Momentum) ทิศทางเชิงบวก ดังนั้นต้องรู้จักทำใจให้นิ่งเพื่อรอจังหวะ Momentum ที่ดีได้
อีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่สำคัญก็คือ การปรับพอร์ตลงทุนอยู่เสมอ โดยจะลดน้ำหนักหุ้นที่มีราคาปรับตัวขึ้นมานานหลายปี และตลาดรับรู้ข่าวทั้งหมดแล้ว
เช่น กลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Microsoft, Apple ถูกลดสัดส่วนตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อนำเงินไปลงทุนหุ้นที่จะเป็น “Big Winner” ตัวต่อไป แต่ก็ไม่ได้ขายหมดทั้งพอร์ต เพราะยังมองว่าเป็นธุรกิจที่ดีระยะยาว
นอกจากนี้ ด้วยความเป็นกองทุนแบบ Active ของ J.P. Morgan ยังมองเห็น 2 กลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจคือ
- กลุ่มการเงิน โดยจะลงทุนทั้งสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และกลุ่ม Online Payment
- กลุ่มเทคโนโลยี 5G และ EV โดยที่มองลงลึกไปถึง “ทองแดง” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของกลุ่มเทคโนโลยี จึงเข้าไปลงทุนบริษัท Freeport-McMoRan หนึ่งในธุรกิจเหมืองแร่ทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก
7. ตัวอย่างธุรกิจที่เข้าข่ายหุ้น Growth ที่น่าสนใจ ?
ธุรกิจในกลุ่ม Digital Advertising เช่น Snap Inc. เจ้าของแอปพลิเคชัน Snapchat ที่มียอดผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีการขยายฐานผู้ใช้งานไปยังประเทศอินเดีย ทำให้มีโอกาสเติบโตในเรื่องของเม็ดเงินโฆษณาได้อีกมาก ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา รายได้ของ Snapchat ก็เติบโตเฉลี่ยปีละ 46%
ธุรกิจในกลุ่มต่อมาก็คือ Online Payment เช่น PayPal ที่ได้ประโยชน์จากการใช้ชีวิตในยุค New Normal และตอบโจทย์ในการชำระเงินยุคใหม่
ซึ่งจากผลการดำเนินงานในไตรมาสล่าสุด PayPal มีจำนวนบัญชี Active User เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่จำนวนธุรกรรมเติบโต 40% จากปีก่อนหน้า
ธุรกิจในกลุ่มสุดท้ายก็คือ ธุรกิจนอกกลุ่มเทคโนโลยี เช่น John Deere ผู้ผลิตและจำหน่ายรถแทรกเตอร์ อุปกรณ์การเกษตรที่นำเทคโนโลยีมาใช้กับการเกษตร ตอบโจทย์การเกษตรสมัยใหม่และเทรนด์ความยั่งยืน
หากสหรัฐอเมริกามีการเก็บภาษีจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก็จะเป็นประโยชน์โดยตรงกับ John Deere
ซึ่งหุ้น 3 ตัวนี้ ก็เป็นหุ้นที่ J.P. Morgan ลงทุนเป็น Top Holding อีกด้วย
8. ตอนนี้หุ้น Growth แพงไปหรือยัง ?
ในมุมมองของกองทุนบัวหลวง คิดว่าหุ้น Growth ยังไม่แพงเกินไป ถึงแม้ว่าจะผ่านช่วงสูงสุดไปแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสเติบโตได้อยู่
โดยหากมาดูในส่วนของค่ากลางของ P/E Ratio S&P 500 พบว่า อยู่ที่ 20 เท่า สะท้อนให้เห็นว่า ยังมีโอกาสที่เรายังสามารถหาหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตในราคาที่สมเหตุสมผลได้อยู่
และที่ผ่านมาดัชนี S&P 500 ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ P/E ทยอยปรับลดลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากกำไรของบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยในปี 2021 มีการคาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทใน S&P 500 จะโต 60% ในขณะที่ในปี 2022 S&P มีการคาดการณ์ว่ากำไรจะโตต่ออีก 15% จากปี 2021
จากตรงนี้ก็จะเห็นได้ว่า ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อยู่
9. ผลตอบแทนการลงทุน ด้วยกลยุทธ์แบบ J.P. Morgan เป็นอย่างไร ?
จากกลยุทธ์ Active Management ที่เน้น Micro Focus ทำให้กองทุน JPM US Growth ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา มีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดีมาอย่างต่อเนื่อง
หากเรามาดูผลการดำเนินงานของกองทุน JPM US Growth จะพบว่า ถ้าดูย้อนหลังไป 3 ปี เฉลี่ยต่อปีแล้ว ผลตอบแทนจะเท่ากับ 27% สูงกว่าเมื่อเทียบกับ Benchmark ที่เป็น Russell 1000 ที่เน้นเฉพาะหุ้นเติบโต ซึ่งถ้าย้อนหลัง 5 ปี ผลการดำเนินงานก็ดีกว่าเช่นกัน
เมื่อมาดูการจัดอันดับของ Morningstar พบว่ากองทุน JPM US Growth อยู่ใน First Quartile คือเป็นหนึ่งในกองทุนที่ทำผลการดำเนินงานได้ดีอยู่ในเกณฑ์ดีที่สุดในกลุ่มอีกด้วย
หากมาดูด้าน Valuation ของกองทุน JPM US Growth จะเห็นว่า กองทุนนี้มี P/E Ratio ที่ต่ำกว่า Benchmark แต่มีอัตราการเติบโตของกำไร (%EPS Growth) สูงกว่า Benchmark และ S&P 500
10. เราจะลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาในรูปแบบกองทุน ได้อย่างไร ?
กองทุน B-USALPHA เป็นกองทุน Feeder Fund ที่ลงทุนในกองทุนหลัก คือ JP Morgan US Growth Fund ไม่ต่ำกว่า 80%
ซึ่ง JP Morgan US Growth Fund เป็นกองทุนแนว Active Management เน้นลงทุนในหุ้นที่เติบโตสูงกว่าที่ตลาดมองไว้
และในส่วนที่เหลือผู้จัดการกองทุนของบัวหลวง ก็อาจลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาที่น่าสนใจเป็นรายตัว
ซึ่งน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีระยะยาวได้ เหมือนที่ทำกับ B-FUTURE และ B-CHINE-EQ
กองทุนนี้ ยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล เพราะปัจจุบันอยู่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ผู้ลงทุนส่วนใหญ่จึงหันมาหาสินทรัพย์เสี่ยง หรือหุ้น กันมากขึ้น การจ่ายเงินปันผลจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีเงินระหว่างทาง ไม่ต้องคอยดูจังหวะการขายทำกำไร และสามารถลงทุนได้นานขึ้น
11. สุดท้ายแล้ว แนวทางของกองทุน B-USALPHA จะช่วยบริหารพอร์ตการลงทุนภาพรวมของคุณได้อย่างไร ?
ในมุมมองการจัดพอร์ตลงทุน การกระจายสินทรัพย์เสี่ยงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ในมุมมองของกองทุนบัวหลวงคือ การจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง ทั้งในส่วนสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูง
ในส่วนสินทรัพย์เสี่ยงสูงที่เป็นหุ้นทั่วโลก ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การเอามาเป็นแกนหลักของพอร์ต (Core Port) กับเอาเป็นตัวเร่งในแต่ละธีม (Thematic) โดยส่วนที่เป็นแกนหลัก ควรที่จะให้มีการกระจายหลายประเทศ และหลายกลุ่มอุตสาหกรรม
แล้วควรลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาเท่าไร ? หากอ้างอิงจาก MSCI Index มีสัดส่วนบริษัทในสหรัฐอเมริกา กว่า 58% อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับความชอบ ความเสี่ยงที่รับได้ และความเข้าใจของแต่ละคนด้วย
เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ที่พัฒนาแล้ว มีผลการดำเนินงานดีที่สุดใน 10 ปีที่ผ่านมา คือปีละ 14% และมีความผันผวนต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
สรุปได้ว่า การลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นของต้องมีในพอร์ต และกลยุทธ์การลงทุนแบบ Active ในหุ้นเติบโต ย่อมมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดีด้วย นั่นเอง..
john deere 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
รัฐอิลลินอยส์ ประชากร 12 ล้านคน แต่มี GDP มากกว่าไทย /โดย ลงทุนแมน
ถ้าเราอยากกินแฮมเบอร์เกอร์จานด่วน หนึ่งในตัวเลือกที่อยู่ในหัวของเราคงหนีไม่พ้น
McDonald's ซึ่งเป็นเชนร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ถ้าเราอยากกินขนมคุกกี้สอดไส้ครีม เชื่อว่า Oreo ก็คงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของเรา
ที่มีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทุกแห่ง
หรือถ้าเราเดินทางโดยเครื่องบิน เราอาจพบว่าเครื่องบินของสายการบินที่เรานั่งอยู่นั้น
ถูกผลิตโดยบริษัท Boeing
รู้หรือไม่ว่า แบรนด์ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นล้วนเป็นบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์
ซึ่งเป็นรัฐที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของสหรัฐอเมริกา
เป็นที่ตั้งของเมืองชิคาโก เมืองใหญ่อันดับ 3 และศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญของทวีปอเมริกาเหนือ
รัฐอิลลินอยส์มี GDP สูงถึง 27 ล้านล้านบาท
ซึ่งใหญ่เป็น 1.6 เท่าของ GDP ประเทศไทย ทั้งที่มีประชากรน้อยกว่าไทย 5 เท่า
ถ้าสมมติให้รัฐอิลลินอยส์เป็นประเทศแล้ว
จะทำให้รัฐอิลลินอยส์ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 18 ของโลก
อะไรที่ทำให้รัฐที่มีประชากรเพียง 12 ล้านคน กลายเป็นรัฐที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าประเทศไทย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รัฐอิลลินอยส์ตั้งอยู่ภาคกลางของสหรัฐอเมริกา บนที่ราบใหญ่ หรือเกรตเพลนส์
ซึ่งเป็นเขตที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของทวีปอเมริกาเหนือ
ด้วยขนาดพื้นที่ราว 149,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับภาคอีสานของไทย
ที่มาของชื่อ “อิลลินอยส์” มาจากนักสำรวจและมิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นชาวยุโรปชาติแรกที่เข้ามายังดินแดนนี้ในแถบแม่น้ำอิลลินอยส์ โดยชื่อของดินแดนในแถบนี้มาจากการตั้งชื่อตามชนพื้นเมืองอิลลินีเวกที่อาศัยอยู่แถวนี้
จักรวรรดิฝรั่งเศสได้นำดินแดนแห่งนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอเมริกาเหนือของฝรั่งเศส
ซึ่งอาณานิคมแห่งนี้ยังรวมไปถึงดินแดนในรัฐควิเบกและดินแดนส่วนอื่น ๆ ของแคนาดาในปัจจุบัน
หลังจากนั้น เกิดสงครามแย่งชิงดินแดนในทวีปอเมริกาเหนือระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสและจักรวรรดิอังกฤษ และเป็นฝ่ายจักรวรรดิอังกฤษที่ได้รับชัยชนะในสงคราม ทำให้ดินแดนส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ตกเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมอังกฤษหรือในตอนนั้นเรียกว่าบริติชอเมริกา
ไม่นานก็เกิดสงครามระหว่างประชาชนในอาณานิคมกับเจ้าอาณานิคมอังกฤษ ผลจากสงครามทำให้บริติชอเมริกาได้รับเอกราชในปี 1776 และก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกาได้ในที่สุด
การเป็นประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ส่งผลให้มีดินแดนอื่น ๆ ทยอยรวมตัวกันเป็นรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ซึ่งดินแดนอิลลินอยส์ก็ได้เข้าไปเป็นรัฐที่ 21 ของสหรัฐอเมริกาในปี 1818
ด้วยความที่เป็นรัฐที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ ประกอบกับอุณหภูมิที่พอเหมาะแก่การทำการเกษตรและปศุสัตว์ รวมถึงการที่มีแหล่งน้ำที่พอเหมาะ จึงทำให้มีการทำการเกษตรกันตั้งแต่ก่อนจะเป็นรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยพืชผลที่สามารถเติบโตได้ดีในรัฐนี้ก็คือ ข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลี
แต่หลังจากที่ได้เป็นรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา สิ่งแรกที่คณะผู้บริหารรัฐทำก็คือ ก่อตั้งหน่วยงานการเกษตร Illinois Agricultural Association ในปี 1919 และภายหลังก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น The Illinois Department of Agriculture
โดยหน้าที่หลักของหน่วยงานนี้ก็คือ การกำหนดข้อบังคับ สนับสนุนด้านเงินทุน และให้ความรู้ต่าง ๆ ในการทำการเกษตรภายในรัฐ เช่น การให้ความรู้เรื่องปุ๋ยและน้ำ การปล่อยเงินกู้ให้กับเหล่าเกษตรกรในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ การกำหนดราคาผลผลิตทางการเกษตร ทั้งยังมีการช่วยเหลือและให้ความรู้ทางด้านการส่งออกผลผลิตไปยังต่างประเทศอีกด้วย
และยังมีการจัดงาน Illinois State Fair ในทุก ๆ ปี เพื่อที่จะโปรโมตสินค้าเกษตรที่ผลิตภายในรัฐอีกด้วย
ด้วยประโยชน์ทางด้านพื้นดิน น้ำ สภาพอากาศ และการสนับสนุนจากทางภาครัฐ
ส่งผลให้มีฟาร์มการเกษตรและปศุสัตว์ในรัฐอิลลินอยส์อยู่มากถึง 72,000 แห่ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นฟาร์มข้าวโพดและถั่วเหลือง
ซึ่งถ้ารวมพื้นที่ฟาร์มทั้งหมดในรัฐ จะมีขนาดพื้นที่ 100,000 ตารางกิโลเมตร
คิดเป็นขนาดพื้นที่ถึง 75% ของรัฐอิลลินอยส์
รัฐอิลลินอยส์เป็นรัฐที่สามารถผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะถั่วเหลือง
ซึ่งผลิตได้มากที่สุดในสหรัฐอเมริกาด้วยผลผลิตกว่า 16 ล้านตัน
และยังสามารถผลิตข้าวโพดได้มากถึง 64 ล้านตัน เป็นอันดับ 2 ของประเทศ
มูลค่าการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหมดที่ผลิตในรัฐอิลลินอยส์
จึงมีมูลค่าสูงถึง 257,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์มากที่สุด
Top 3 ของสหรัฐอเมริกา
ด้วยการเป็นศูนย์กลางเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศ รัฐอิลลินอยส์จึงเป็นแหล่งกำเนิด
และที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท John Deere หนึ่งในบริษัทรถแทรกเตอร์
และเครื่องจักรทางการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก..
นอกจากภาคการเกษตรแล้ว ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางประเทศ อีกหนึ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจของรัฐแห่งนี้ก็คือ “ภาคการขนส่ง”
ถ้าสินค้าที่ผลิตในรัฐตอนกลางของสหรัฐอเมริกาต้องการส่งออกไปยังยุโรป เอเชีย หรือภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก จำเป็นที่ต้องลำเลียงสินค้าเหล่านี้ผ่านทางรัฐอิลลินอยส์ ไม่ว่าจะเป็นทางถนนหรือทางรถไฟ
โดยอุตสาหกรรมหลักในรัฐตอนกลางที่ต้องลำเลียงผ่านรัฐอิลลินอยส์ เช่น
อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าจากรัฐมิชิแกนและรัฐวิสคอนซิน
ไปจนถึงผลิตผลทางการเกษตรจากรัฐมินนิโซตาและรัฐไอโอวา
ด้วยความที่รัฐอิลลินอยส์เป็นที่ตั้งของเมืองชิคาโก
หนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญในการขนส่งสินค้ามากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โดยชิคาโกเป็นเมืองทางผ่านและเป็นศูนย์กลางของการขนส่งทางรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางของผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า
นอกเหนือจากความสำคัญของการขนส่งทางรถไฟแล้ว ยังมีการขนส่งทางอากาศอีกด้วย
โดยสนามบิน O'Hare International Airport เป็นหนึ่งในสนามบินที่มีความคับคั่งมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและของโลก โดยในปี 2019 สนามบินแห่งนี้มีผู้โดยสารที่มาใช้บริการที่สนามบินกว่า 84 ล้านคน
รัฐอิลลินอยส์ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาคกลางของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
โดยเป็นที่ตั้งของ University of Chicago ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอันดับโดย
Top Universities ให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับที่ 9 ของโลก
โดยเป็นมหาวิทยาลัยที่เด่นเรื่องการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์
ซึ่งนั่นทำให้ University of Chicago เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ได้รางวัลโนเบลมากที่สุดในโลก
ด้วยรางวัลถึง 94 รายการ
ด้วยโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ ทั้งการขนส่งทางบก การขนส่งทางอากาศ และการมีสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลกที่ผลิตบุคลากรคุณภาพสูง อิลลินอยส์จึงสามารถดึงดูดบริษัทใหญ่ ๆ ให้เลือกตั้งสำนักงานในรัฐแห่งนี้..
ในปี 2020 นิตยสารฟอร์จูน จัดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก 500 บริษัท โดยมีถึง 37 บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์
โดยบริษัทระดับโลกที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ที่คนไทยคุ้นเคย เช่น
McDonald's เชนร้านอาหารจานด่วน มีมูลค่าบริษัท 5.4 ล้านล้านบาท
Boeing บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศยานและยุทโธปกรณ์ มีมูลค่าบริษัท 4.3 ล้านล้านบาท
John Deere บริษัทผู้ผลิตรถแทรกเตอร์และเครื่องจักรทางการเกษตร มีมูลค่าบริษัท 3.4 ล้านล้านบาท
Mondelēz International บริษัทผลิตขนมและอาหาร และเป็นเจ้าของแบรนด์ขนม Oreo
มีมูลค่าบริษัท 2.8 ล้านล้านบาท
CME Group ตลาดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าบริษัท 2.5 ล้านล้านบาท
Walgreens Boots Alliance เชนร้านขายยา เจ้าของร้าน Boots มีมูลค่าบริษัท 1.5 ล้านล้านบาท
การเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทระดับโลก และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย ทั้งภาคการเกษตร การขนส่ง อุตสาหกรรม และธุรกิจบริการต่าง ๆ จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐอิลลินอยส์ มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่มาก นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.statista.com/statistics/303696/us-fortune-500-companies-by-state/
-https://www.businessinsider.com/most-influential-cities-in-the-world-2018-5#8-chicago-illinois-14
-https://www2.illinois.gov/dnrhistoric/Research/Pages/Timeline.aspx
-https://www2.illinois.gov/sites/agr/About/Pages/History-of-The-Illinois-Department-Of-Agriculture.aspx
-https://www.cropprophet.com/soybean-production-by-state-top-11/
-https://www.cropprophet.com/us-corn-production-by-state/
-https://chicago.curbed.com/2017/9/21/16344608/transportation-chicago-railroad-cta-union-station-history
-https://www.ursaspace.com/blog/tracking-the-uss-busiest-freight-rail-hub
-https://www.uchicago.edu/about/accolades/nobel_laureates
john deere 在 Che Chef Youtube 的評價
รถไถติดหล่มจมโคลนหนักมาก ทำไงให้ขึ้นมาดูกัน Tractor stuck in the mud
ติดตามคลิปหลากหลายได้ที่ https://www.youtube.com/channel/UCH_kbUYPTymO-BlBMsa1vgA
อย่าลืมกดติดตาม /ขอบคุณที่กดติดตาม/Subscribe Thank You
john deere 在 ศิวะ ศรีแก้ว Youtube 的評價
คลิปนี้เป็นคลิปที่ไปถ่ายเขาใช้รถแม็คโคร ปรับปรุงพื้นที่ แต่ผลพลอยได้คือมีหนูอยู่ในนี้ด้วย ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่พื้นที่ของตานายเอง หรือต่อให้ตานายไปหรือไม่ไปถ่าย เขาก็ล้มต้นไม้อยู่ดีครับ ®โปรดใช้วิจารณาญานในการรับชม ขอบคุณครับ
ติดตามความเคลื่อนไหว ทาง facebook ได้ที่เพจ https://www.facebook.com/WILchannel
แวะมาทักทายกันได้ที่ LINE: shiva_srikeaw
ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่เข้ามารับชมและติดตามให้กำลังใจช่อง ศิวะ ศรีแก้ว ด้วยนะครับ
#Excavator, #รถแม็คโคร, #หนู,
ติดตามความสนุกกันที่นี้
Youtube ►►: http://www.youtube.com/user/sawatakung
Facebook ►►: https://www.facebook.com/WILchannel
Twitter ►►: https://twitter.com/WILchannel
Pinterest ►►: https://www.pinterest.com/wilchannel/
stuck tractors, 345CL, Caterpillar, Dozers, excavating, equipment, bulldozer, John Deere (Organization), fail, win, Epic, Out, Owned, Ownage, Caterpillar 345C L, Excavator, Jam, Lol, Fails, Epic Fail, excavator videos for children, excavators at work, excavator climbing a tower, excavator tricks, excavator accident, excavator for kids, excavator accidents caught on tape, excavator and dump truck, lowboy, lowboy trailer, john deere dozer
john deere 在 phan Quốc hải Youtube 的評價
chào các bạn và mọi người cùng xem hội máy cày máy xới yanmar 357A chạy trình viển cho các bạn và mọi người thưởng thức mọi người cùng xem nhé
john deere 在 強鹿實業- 維基百科,自由的百科全書 的相關結果
強鹿(John Deere)公司,在1837年由鐵匠約翰·迪爾(John Deere)創辦,是美國迪爾公司(英語:Deere & Company)生產農業、建築、森林機械設備和柴油引擎等使用的 ... ... <看更多>
john deere 在 Ultimate John Deere - 第 18 頁 - Google 圖書結果 的相關結果
the John Deere tractors that followed . 1919 : John Deere's first tractor design , the three - wheel AllWheel - Drive , designed by Deere's Joseph Dain ... ... <看更多>
john deere 在 John Deere US | Products & Services Information 的相關結果
Explore agricultural, construction, forestry machinery, technology, services and more on the official John Deere website. Find a dealer in your area or ... ... <看更多>