เรื่องราวของ คนรวยสุดในเอเชีย / โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามถึงคนรวยสุดในเอเชีย
ทุกคนคงนึกถึงคนจีน
ไม่ว่าจะเป็น แจ็ก หม่า เจ้าของ Alibaba
หรือ โพนี่ หม่า เจ้าของ Tencent
คนรวยสุดในเอเชียตอนนี้ไม่ได้เป็นคนจีน
แต่เป็นคนอินเดีย
และไม่ได้ทำธุรกิจเทคโนโลยี
แต่เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมัน บริษัทโทรคมนาคม และบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในอินเดีย
หากเทียบกับธุรกิจในไทย เขาคนนี้จะเป็นเจ้าของบริษัท ปตท. เอไอเอส และเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งหมดรวมกัน
คนคนนี้ชื่อว่า Mukesh Ambani อ่านว่า มูเกช อัมบานี
อภิมหาเศรษฐีชาวอินเดียที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.8 ล้านล้านบาท
รวยกว่าเสี่ยธนินท์ บุคคลรวยสุดในประเทศไทย 3.4 เท่า
แถมเป็นชาวเอเชียคนเดียวที่รวยติด 1 ใน 10 ของโลก
แล้วเขาเป็นใคร มาจากไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ความมั่งคั่งของมูเกช อัมบานี เริ่มต้นมาจากรุ่นคุณพ่อของเขา
ธีรุไภย อัมบานี พ่อของมูเกช อพยพจากอินเดียไปทำงานเป็นเสมียนตั้งแต่อายุ 17 ปี
ที่บริษัทค้าขาย A. Besse & Co. ในประเทศเยเมนตั้งแต่สมัยที่ยังถูกอังกฤษยึดครองเป็นอาณานิคม
แม้ว่าเรื่องนี้ดูเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นที่ยากลำบาก
แต่มันกลับเป็นโอกาสของธีรุไภย อัมบานี ที่ซึ่งเขาได้รู้จักกับเครือข่ายธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศ
ทำให้ได้ดีลงานกับบริษัทมากมายที่ทำธุรกิจค้าขายสินค้าตั้งแต่น้ำตาล, เครื่องเทศ, สิ่งทอ รวมไปถึงน้ำมัน ในประเทศทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง รวมถึงเอเชีย
หลังจากสะสมประสบการณ์อยู่ 9 ปี
ธีรุไภย อัมบานี ตัดสินใจกลับมายังประเทศอินเดียเพื่อก่อตั้งกิจการของตัวเอง
ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียงปีเดียว เขาก็ได้ให้กำเนิดลูกชาย มูเกช อัมบานี
63 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครคิดว่ามูเกช อัมบานี
ลูกชายเสมียนที่กำลังจะอพยพกลับประเทศบ้านเกิด
กำลังจะสร้างอาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ และจะกลายมาเป็นคนรวยสุดในเอเชีย
คำถามคือ เขาเริ่มสร้างธุรกิจอะไรขึ้นมา?
ธีรุไภย อัมบานี เริ่มต้นทำธุรกิจจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์ และ ส่งออกเครื่องเทศ
โดยออฟฟิศแรกมีขนาด 33 ตารางเมตร มีโต๊ะกับเก้าอี้ 3 ตัว พร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่อง
จากประสบการณ์ที่เยเมน รวมกับคู่ค้าทางธุรกิจที่รู้จักกันดีจากต่างประเทศ
ทำให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกของธีรุไภย เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อรวมกับรัฐบาลประเทศอินเดียสมัยนั้นประกาศแผนพัฒนาอุตสาหกรรมระยะยาว
ทำให้ ธีรุไภย อัมบานี ปรับโครงสร้างธุรกิจกลายมาเป็นผู้ผลิตสิ่งทอ
ระหว่างที่พ่อกำลังวางรากฐาน
ด้านมูเกช อัมบานี คนลูก หลังจากเรียนจบปริญญาตรี
สาขาวิศวกรรมเคมีที่ University of Mumbai
ก็ได้สมัครเรียนต่อ MBA ที่ Stanford University ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องลาออกเพื่อมาช่วยธุรกิจคุณพ่อพร้อมๆ กับน้องชาย
เพราะธุรกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
แต่แล้วพ่อของมูเกช ก็ได้เสียชีวิตลงกะทันหันแบบไม่มีพินัยกรรม
เรื่องนี้ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไรแต่กลับทำให้พี่น้อง อัมบานี
ที่เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจพร้อมๆ กันกลับทะเลาะกันร้ายแรงถึงขนาดต้องขึ้นศาล
สุดท้ายจบลงด้วยการที่แม่ต้องมาระงับศึก และผลก็คือ มูเกช อัมบานี คนพี่ได้เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ของครอบครัว Reliance Industries
หลังจากนั้น มูเกช อัมบานี ก็ได้นำบริษัทแห่งนี้ ต่อยอดอุตสาหกรรมสิ่งทอไปยังอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นธุรกิจหลัก
นอกจากนี้ เขาก็ยังก่อตั้งธุรกิจเข้าไปแข่งขันในธุรกิจกลุ่มอื่น เช่น
Reliance Retail ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจค้าปลีกใหญ่สุดในอินเดีย
ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 10,901 สาขา และเปิดให้บริการกว่า 6,700 เมืองทั่วประเทศ
รวมถึง Reliance Jio Infocomm
ทำธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอินเดีย
ซึ่งปัจจุบันรองรับสมาชิกรายเดือนกว่า 307 ล้านคน
คิดเป็น 23% ของประชากรประเทศอินเดีย
แล้วปัจจุบัน Reliance Industries Limited ใหญ่ขนาดไหน?
ปี 2017 รายได้ 1.3 ล้านล้านบาท กำไร 1.3 แสนล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 1.7 ล้านล้านบาท กำไร 1.5 แสนล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 2.4 ล้านล้านบาท กำไร 1.7 แสนล้านบาท
โดยรายได้ทุกๆ 100 บาทของบริษัทมาจาก
ธุรกิจปิโตรเคมี 43 บาท
ธุรกิจโรงกลั่น 26 บาท
ธุรกิจเทเลคอม 18 บาท
ธุรกิจค้าปลีก 7 บาท
และอื่นๆ อีก 6 บาท
ปัจจุบัน Reliance Industries Limited มีบริษัทย่อย 269 บริษัท
พร้อมพนักงาน 194,056 คน และมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 4 ล้านล้านบาท
มูลค่าระดับนี้ถือเป็นบริษัทใหญ่สุดในประเทศอินเดีย
แซงหน้าบริษัท Tata Consultancy Services บริษัทที่ปรึกษาในเครือ Tata Group
มูเกช อัมบานี ถือหุ้นอยู่ในบริษัทแห่งนี้กว่า 42%
และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอื่นๆ ทำให้เขามีทรัพย์สินกว่า 1.8 ล้านล้านบาท
ซึ่งมากสุดในเอเชีย และมากเป็นอันดับ 10 ของโลก
ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีขนาดใหญ่โตขนาดนี้
แต่ Reliance Industries กลับยังมีมุมมองต่อธุรกิจดิจิทัลที่น่าสนใจ
ล่าสุดก็เพิ่งประกาศว่ากำลังจะก่อตั้งบริษัทเข้าสู่สมรภูมิ E-Commerce ในประเทศอินเดีย
ที่มีคู่แข่งคนสำคัญเป็นบริษัทค้าปลีกและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Walmart และ Amazon จากประเทศสหรัฐอเมริกา..
ด้วยทุนเดิมที่ครอบครองร้านค้าปลีกมหาศาลรวมกับจำนวนผู้ใช้งานบนธุรกิจเครือข่ายที่คิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรประเทศอินเดีย ก็น่าจะสร้างความกังวลให้กับบริษัทอเมริกันได้ไม่น้อย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า.. มูเกช อัมบานีและครอบครัวอาศัยอยู่ในที่พักชื่อว่า แอนทีเลีย ซึ่งเป็นตึกสูงระฟ้ากว่า 27 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 398,000 ตารางเมตร
ประกอบไปด้วยห้องบอลรูมสำหรับจัดเลี้ยง ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ โรงภาพยนตร์ 50 ที่นั่ง สวนแนวตั้ง สวนลอยฟ้า จุดจอดเฮลิคอปเตอร์ 3 จุด และที่จอดรถ 6 ชั้น
พร้อมกับพนักงานที่คอยดูแลบ้านอีก 600 คน
ตึกแห่งนี้ถูกออกแบบให้แต่ละชั้นมีความกว้างแตกต่างกันออกไป แถมยังสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ 8 แมกนิจูด และรองรับแรงระเบิดได้เป็นอย่างดี
รวมๆ แล้ว ที่พักแห่งนี้มีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่นับพระราชวังบักกิงแฮมของราชวงศ์อังกฤษ
ตึกแอนทีเลียของครอบครัวอัมบานี จะเป็นที่อยู่อาศัยที่แพงสุดในโลก เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
References
-https://www.dhirubhai.net/off-to-aden
-https://www.nytimes.com/…/busi…/worldbusiness/15ambani.html…
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/…
-https://www.ril.com/Financial-Statement-2018-19.aspx
-https://www.ril.com/…/Financial%20Presentation%20-%20Q4%20R…
-https://www.ril.com/ar2018-19/ril-annual-report-2019.pdf
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/…
-https://sudsapda.com/top-lists/135391.html
-https://www.indiatoday.in/…/ambani-antilia-inside-pics-1317…
同時也有6部Youtube影片,追蹤數超過68萬的網紅Ceemeagain,也在其Youtube影片中提到,วันนี้ซีพาไปอัพเดทนวัตกรรมหน้าจอจากงาน Infocomm SEA 2019 ที่มาจัดในไทยครั้งแรก ไปติดตามเทรนด์การใช้หน้าจอว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยเฉพาะ The Wall ทีวีจอ...
infocomm 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
เรื่องราวของ คนรวยสุดในเอเชีย / โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามถึงคนรวยสุดในเอเชีย
ทุกคนคงนึกถึงคนจีน
ไม่ว่าจะเป็น แจ็ก หม่า เจ้าของ Alibaba
หรือ โพนี่ หม่า เจ้าของ Tencent
คนรวยสุดในเอเชียตอนนี้ไม่ได้เป็นคนจีน
แต่เป็นคนอินเดีย
และไม่ได้ทำธุรกิจเทคโนโลยี
แต่เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมัน บริษัทโทรคมนาคม และบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในอินเดีย
หากเทียบกับธุรกิจในไทย เขาคนนี้จะเป็นเจ้าของบริษัท ปตท. เอไอเอส และเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งหมดรวมกัน
คนคนนี้ชื่อว่า Mukesh Ambani อ่านว่า มูเกช อัมบานี
อภิมหาเศรษฐีชาวอินเดียที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.8 ล้านล้านบาท
รวยกว่าเสี่ยธนินท์ บุคคลรวยสุดในประเทศไทย 3.4 เท่า
แถมเป็นชาวเอเชียคนเดียวที่รวยติด 1 ใน 10 ของโลก
แล้วเขาเป็นใคร มาจากไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ความมั่งคั่งของมูเกช อัมบานี เริ่มต้นมาจากรุ่นคุณพ่อของเขา
ธีรุไภย อัมบานี พ่อของมูเกช อพยพจากอินเดียไปทำงานเป็นเสมียนตั้งแต่อายุ 17 ปี
ที่บริษัทค้าขาย A. Besse & Co. ในประเทศเยเมนตั้งแต่สมัยที่ยังถูกอังกฤษยึดครองเป็นอาณานิคม
แม้ว่าเรื่องนี้ดูเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นที่ยากลำบาก
แต่มันกลับเป็นโอกาสของธีรุไภย อัมบานี ที่ซึ่งเขาได้รู้จักกับเครือข่ายธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศ
ทำให้ได้ดีลงานกับบริษัทมากมายที่ทำธุรกิจค้าขายสินค้าตั้งแต่น้ำตาล, เครื่องเทศ, สิ่งทอ รวมไปถึงน้ำมัน ในประเทศทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง รวมถึงเอเชีย
หลังจากสะสมประสบการณ์อยู่ 9 ปี
ธีรุไภย อัมบานี ตัดสินใจกลับมายังประเทศอินเดียเพื่อก่อตั้งกิจการของตัวเอง
ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียงปีเดียว เขาก็ได้ให้กำเนิดลูกชาย มูเกช อัมบานี
63 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครคิดว่ามูเกช อัมบานี
ลูกชายเสมียนที่กำลังจะอพยพกลับประเทศบ้านเกิด
กำลังจะสร้างอาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ และจะกลายมาเป็นคนรวยสุดในเอเชีย
คำถามคือ เขาเริ่มสร้างธุรกิจอะไรขึ้นมา?
ธีรุไภย อัมบานี เริ่มต้นทำธุรกิจจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์ และ ส่งออกเครื่องเทศ
โดยออฟฟิศแรกมีขนาด 33 ตารางเมตร มีโต๊ะกับเก้าอี้ 3 ตัว พร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่อง
จากประสบการณ์ที่เยเมน รวมกับคู่ค้าทางธุรกิจที่รู้จักกันดีจากต่างประเทศ
ทำให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกของธีรุไภย เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อรวมกับรัฐบาลประเทศอินเดียสมัยนั้นประกาศแผนพัฒนาอุตสาหกรรมระยะยาว
ทำให้ ธีรุไภย อัมบานี ปรับโครงสร้างธุรกิจกลายมาเป็นผู้ผลิตสิ่งทอ
ระหว่างที่พ่อกำลังวางรากฐาน
ด้านมูเกช อัมบานี คนลูก หลังจากเรียนจบปริญญาตรี
สาขาวิศวกรรมเคมีที่ University of Mumbai
ก็ได้สมัครเรียนต่อ MBA ที่ Stanford University ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องลาออกเพื่อมาช่วยธุรกิจคุณพ่อพร้อมๆ กับน้องชาย
เพราะธุรกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
แต่แล้วพ่อของมูเกช ก็ได้เสียชีวิตลงกะทันหันแบบไม่มีพินัยกรรม
เรื่องนี้ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไรแต่กลับทำให้พี่น้อง อัมบานี
ที่เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจพร้อมๆ กันกลับทะเลาะกันร้ายแรงถึงขนาดต้องขึ้นศาล
สุดท้ายจบลงด้วยการที่แม่ต้องมาระงับศึก และผลก็คือ มูเกช อัมบานี คนพี่ได้เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ของครอบครัว Reliance Industries
หลังจากนั้น มูเกช อัมบานี ก็ได้นำบริษัทแห่งนี้ ต่อยอดอุตสาหกรรมสิ่งทอไปยังอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นธุรกิจหลัก
นอกจากนี้ เขาก็ยังก่อตั้งธุรกิจเข้าไปแข่งขันในธุรกิจกลุ่มอื่น เช่น
Reliance Retail ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจค้าปลีกใหญ่สุดในอินเดีย
ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 10,901 สาขา และเปิดให้บริการกว่า 6,700 เมืองทั่วประเทศ
รวมถึง Reliance Jio Infocomm
ทำธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอินเดีย
ซึ่งปัจจุบันรองรับสมาชิกรายเดือนกว่า 307 ล้านคน
คิดเป็น 23% ของประชากรประเทศอินเดีย
แล้วปัจจุบัน Reliance Industries Limited ใหญ่ขนาดไหน?
ปี 2017 รายได้ 1.3 ล้านล้านบาท กำไร 1.3 แสนล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 1.7 ล้านล้านบาท กำไร 1.5 แสนล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 2.4 ล้านล้านบาท กำไร 1.7 แสนล้านบาท
โดยรายได้ทุกๆ 100 บาทของบริษัทมาจาก
ธุรกิจปิโตรเคมี 43 บาท
ธุรกิจโรงกลั่น 26 บาท
ธุรกิจเทเลคอม 18 บาท
ธุรกิจค้าปลีก 7 บาท
และอื่นๆ อีก 6 บาท
ปัจจุบัน Reliance Industries Limited มีบริษัทย่อย 269 บริษัท
พร้อมพนักงาน 194,056 คน และมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 4 ล้านล้านบาท
มูลค่าระดับนี้ถือเป็นบริษัทใหญ่สุดในประเทศอินเดีย
แซงหน้าบริษัท Tata Consultancy Services บริษัทที่ปรึกษาในเครือ Tata Group
มูเกช อัมบานี ถือหุ้นอยู่ในบริษัทแห่งนี้กว่า 42%
และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอื่นๆ ทำให้เขามีทรัพย์สินกว่า 1.8 ล้านล้านบาท
ซึ่งมากสุดในเอเชีย และมากเป็นอันดับ 10 ของโลก
ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีขนาดใหญ่โตขนาดนี้
แต่ Reliance Industries กลับยังมีมุมมองต่อธุรกิจดิจิทัลที่น่าสนใจ
ล่าสุดก็เพิ่งประกาศว่ากำลังจะก่อตั้งบริษัทเข้าสู่สมรภูมิ E-Commerce ในประเทศอินเดีย
ที่มีคู่แข่งคนสำคัญเป็นบริษัทค้าปลีกและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Walmart และ Amazon จากประเทศสหรัฐอเมริกา..
ด้วยทุนเดิมที่ครอบครองร้านค้าปลีกมหาศาลรวมกับจำนวนผู้ใช้งานบนธุรกิจเครือข่ายที่คิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรประเทศอินเดีย ก็น่าจะสร้างความกังวลให้กับบริษัทอเมริกันได้ไม่น้อย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า.. มูเกช อัมบานีและครอบครัวอาศัยอยู่ในที่พักชื่อว่า แอนทีเลีย ซึ่งเป็นตึกสูงระฟ้ากว่า 27 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 398,000 ตารางเมตร
ประกอบไปด้วยห้องบอลรูมสำหรับจัดเลี้ยง ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ โรงภาพยนตร์ 50 ที่นั่ง สวนแนวตั้ง สวนลอยฟ้า จุดจอดเฮลิคอปเตอร์ 3 จุด และที่จอดรถ 6 ชั้น
พร้อมกับพนักงานที่คอยดูแลบ้านอีก 600 คน
ตึกแห่งนี้ถูกออกแบบให้แต่ละชั้นมีความกว้างแตกต่างกันออกไป แถมยังสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ 8 แมกนิจูด และรองรับแรงระเบิดได้เป็นอย่างดี
รวมๆ แล้ว ที่พักแห่งนี้มีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่นับพระราชวังบักกิงแฮมของราชวงศ์อังกฤษ
ตึกแอนทีเลียของครอบครัวอัมบานี จะเป็นที่อยู่อาศัยที่แพงสุดในโลก เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
References
-https://www.dhirubhai.net/off-to-aden
-https://www.nytimes.com/2008/06/15/business/worldbusiness/15ambani.html?pagewanted=all
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/?list=rtb#4c1b8382214c
-https://www.ril.com/Financial-Statement-2018-19.aspx
-https://www.ril.com/getattachment/b9a51ff7-41b4-421c-bf35-c589cbc66eb6/Financial%20Presentation%20-%20Q4%20Results.aspx
-https://www.ril.com/ar2018-19/ril-annual-report-2019.pdf
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/?list=rtb#28053369214c
-https://sudsapda.com/top-lists/135391.html
-https://www.indiatoday.in/lifestyle/photo/ambani-antilia-inside-pics-1317117-2018-08-17
infocomm 在 游大東【鴻鵠志-影視筆記】 Facebook 八卦
【 港劇《二月廿九》揚威新加坡 】
游大東影視筆記IG👉🏻👉🏻instagram.com/yautaitung
今年3月曾經掀起追劇熱潮的ViuTV自製劇《二月廿九》揚威海外,入圍新加坡媒體發展局(Infocomm Media Development Authority,簡稱IMDA)主辦的「亞洲學院創意獎」(Asian Academy Creative Awards)的「最佳劇集」(Best Drama Series),由於每個國家和地區只有一套劇集成為候選作品,故此今次《二月廿九》名副其實是「港劇冠軍」,跟在海外獲獎沒有分別,難怪導演羅嘉駿(Steve),與飾演張麗紗(Yeesa)和「會長」余家聰的吳海昕(Sofiee)和劉俊謙得知消息後,既開心又感動。
Steve透過個人社交平台公布喜訊,直言要多謝台前幕後所有人,「冇呢班痴(黐)線佬製作團隊同埋超熱情觀眾,就成就唔到229,再次多謝大家。」憑這套劇集和電影《幻愛》人氣急升的劉俊謙同樣在社交平台發表感受:「恭喜《二月廿九》贏得Asian Academy Creative Awards香港最佳劇集,為我們整個團隊感到自豪。」吳海昕則透過WhatsApp回應,從聲音也聽得出她有多高興,「好開心,因為《二月廿九》之前觀眾口碑好好,當時都已經覺得係一個創舉,好心滿意足,而家仲要攞埋一個好實質嘅獎項(指入圍),台前幕後剛才都喺WhatsApp Group入面好興奮、好驕傲。」
其實今次與《二月廿九》一同爭奪「最佳劇集」終極大獎的,有不少都是人氣爆燈的連續劇,包括台灣的《誰是被害者》、韓國的《愛的迫降》、泰國的《Who are you》等等,所以Sofiee坦言今次入圍是「超額完成」:「可以同呢啲大製作並列喺同一個List嗰度,我真係好感恩,覺得行前咗一大步,要繼續努力。」不過相比之下,製作資源緊絀向來都是窒礙港劇發展的原因,所以Sofiee希望借今次揚威海外,寄語電視台和投資者要「鬆手」一點,「希望香港嘅電視製作可以有更多資源,等我哋愈拍愈好。」
至於其他有份角逐年底頒發終極大獎的香港電視製作,包括憑ViuTV劇集《理想國》入圍「最佳男主角」(Best Actor in a Leading Role)的黃秋生、入圍「最佳宣傳短片」(Best Promo or Trailer)的ViuTV中秋短片《中秋是:家的金繼師》(The Kintsugi of Broken Families/https://bit.ly/2FzfcTx) 、入圍「最佳資訊娛樂節目」(Best Infotainment Programme)的《寂寞是幫兇》。反觀「一哥」無綫電視則沒有任何提名。台劇方面,年初於亞洲掀起「許太太狂熱」的《想見你》則入圍「最佳劇本」(Best Original Screenplay),而失落於「金鐘獎」的《誰是被害者》則分別入圍「最佳劇集」、「最佳導演」、「最佳攝影」、「最佳女配角」(李沐);《鏡子森林》的柯叔元入圍「最佳男配角」,而《三春記》的夏靖庭則會與黃秋生一同爭奪視帝寶座,江沂宸則憑《舞出寂靜》力爭視后殊榮。
「亞洲學院創意獎」將於2020年12月舉行頒獎典禮公布各個獎項的得獎者。
足本入圍名單:https://bit.ly/2GW6C29
*********
【《二月廿九》系列報道 】
《二月廿九》點解叫Leap Day?http://bit.ly/2TYOKXO
演Fiona搶鏡 ── 李敏當初點入行?http://bit.ly/2IWpbAC
劉俊謙怎樣演余家聰?:http://bit.ly/2QmlGY7
大結局討論區:http://bit.ly/2IO1HgI
《講畀大東廳之二月廿九.下》:http://bit.ly/39UTLXd
《講畀大東廳之二月廿九.上》:http://bit.ly/2Lh4ljv
播出前三天終於剪起大結局:http://bit.ly/2W49QFY
點解要瞓身力撐《二月廿九》?:http://bit.ly/2VZg1uD
第五集評論 ── 因為慘所以好睇?:http://bit.ly/3cGnc0Y
神聖幾個學會成員簡介:http://bit.ly/2wnGuHM
兩分鐘導演版預告:http://bit.ly/3bT2aM3
第三集不斷出現「反修例運動」抗爭口號:http://bit.ly/2PQT5d9
(16102020)
#游大東 #游大東影視筆記 #二月廿九 #港劇 #VIUTV #劉俊謙 #吳海昕 #徐天佑 #羅嘉駿 #黃秋生 #寂寞是幫兇 #asianacademycreativeawards #singapore #想見你 #新加坡 #台灣 #許光漢 Pigture Creations Ltd. Sofiee Ng 吳海昕 劉俊謙 劉俊謙國際影迷會 Terrance' House 徐天佑 Chui Tien You Krince Mak 麥可怡
infocomm 在 Ceemeagain Youtube 的評價
วันนี้ซีพาไปอัพเดทนวัตกรรมหน้าจอจากงาน Infocomm SEA 2019 ที่มาจัดในไทยครั้งแรก ไปติดตามเทรนด์การใช้หน้าจอว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยเฉพาะ The Wall ทีวีจอยักษ์ถึง 292 นิ้ว
Please Subscribe:
http://Youtube.com/chatpawee
http://Facebook.com/chatpawee
http://Twitter.com/ceemeagain
http://Google.com/+ceemeagainchatpawee
ติดต่อโฆษณากับรายการ : Sociallab.co.ltd 091-819-7925
--------------------------------------------------

infocomm 在 โต ติงต๊อง Youtube 的評價
"โต ติงต๊อง" พาชมบูท P.AUDIO และ BOSE งาน infocomm 2019
---
ถ้าชอบสิ่งที่เรานำเสนอ กรุณาทำดังนี้
1. Share Video Blog ตอนนี้ออกไปให้มากที่สุด เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
2.Subscribe Youtube Channel "โต ติงต๊อง" สามารถ Search ใน Youtube ได้เลยย
3. Like Facebook Page ของเราเพื่อติดตาม Video Blog ที่จะออกทุก ๆ สองวันได้ที่ http://www.facebook.com/totingtongaudio
4. โทรหาเราได้ที่ 085-803-8791 หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ http://www.productionthai.com
---
ต้องการพัฒนาตัวเองในสายงานโปรดักชั่นไหมล่ะ? ถ้าใช่สามารถดูคอร์สสัมมนาของ “โต ติงต๊อง” ได้ที่ http://www.productionthai.com/คอร์สสัมมนา
---

infocomm 在 โต ติงต๊อง Youtube 的評價
พาชมบูทสินค้า FITNESS AUDIO และ AVID ณ งาน infocomm 2019
---
ถ้าชอบสิ่งที่เรานำเสนอ กรุณาทำดังนี้
1. Share Video Blog ตอนนี้ออกไปให้มากที่สุด เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
2.Subscribe Youtube Channel "โต ติงต๊อง" สามารถ Search ใน Youtube ได้เลยย
3. Like Facebook Page ของเราเพื่อติดตาม Video Blog ที่จะออกทุก ๆ สองวันได้ที่ http://www.facebook.com/totingtongaudio
4. โทรหาเราได้ที่ 085-803-8791 หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ http://www.productionthai.com
---
ต้องการพัฒนาตัวเองในสายงานโปรดักชั่นไหมล่ะ? ถ้าใช่สามารถดูคอร์สสัมมนาของ “โต ติงต๊อง” ได้ที่ http://www.productionthai.com/คอร์สสัมมนา
---

infocomm 在 Infocomm Clubs - YouTube 的八卦
... <看更多>