Deeply saddened by the passing of Mr Ngiam Tong Dow, a versatile and outstanding civil servant from our founding generation.
Tong Dow stood out among his peers for his intellect and empathy, and willingness to speak his mind. He served with distinction for over 40 years across various Ministries, and was appointed Singapore’s youngest Permanent Secretary at the age of 33.
I had the privilege of working closely with him at the Ministry of Trade & Industry when I was Minister of State and he was Permanent Secretary. As a young office holder, I benefited greatly from his considerable experience and sage advice. He served on the Economic Committee that I chaired in 1985, which recommended measures to help Singapore recover from our first major economic recession since independence. His inputs made a major difference to our report.
After Tong Dow formally retired in 1999, he continued to serve as Chairman of the CPF Board and the Housing & Development Board. Many of the schemes introduced during his tenure at HDB, including the Build-To-Order system and the Lift Upgrading Programme, have stood the test of time and are still continuing today.
My deepest condolences to Mrs Ngiam and the family. Tong Dow may have left us but his legacy will live on, and his contributions will touch the lives of many generations of Singaporeans to come. – LHL
(With Mr Ngiam Tong Dow at the Economic Committee Press Conference in 1986. / Ministry of Information and the Arts Collection, courtesy of National Archives of Singapore)
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過86萬的網紅Joseph Prince,也在其Youtube影片中提到,Child of God, when the world is going through a time of famine, you need not be afraid. This excerpt is from: Strong Encouragement In Times Of Famine ...
economic recession 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ท้อแท้ สิ้นหวัง แตกหัก ฮ่องกง / โดย ลงทุนแมน
ทุกคนในฮ่องกงเวลานี้ ต่างจมอยู่กับความสิ้นหวัง..
ภาพบ้านเมืองที่พัฒนาแล้ว มีตึกสูงเรียงกัน
เปลี่ยนเป็นภาพผู้คนโกรธเคือง พร้อมทำลายสิ่งขวางกั้น
มองไปทางไหนก็ไม่เห็นทางออก ที่จะนำไปสู่ความสงบ
รู้หรือไม่ว่า ในตอนนี้ ฮ่องกง ได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย
คำว่า เศรษฐกิจถดถอย (Recession) แปลว่า
GDP หดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นไม่บ่อย และเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ในวันที่ทุกอย่างรุมเร้า
ในวันที่มองไม่เห็นทางออก
จุดเริ่มต้นของสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร
แล้วจุดสุดท้ายจะเป็นอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
บทความนี้ สนับสนุนโดย
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
ฮ่องกงเคยเป็นเมืองที่เป็นผู้นำของภูมิภาคเอเชียในทุกๆ ด้าน
ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว หรือแม้แต่ด้านบันเทิง
มังกรหยก หลิวเต๋อหัว เฉินหลง ถ้าย้อนกลับไป 20 ปีก่อน เราคนไทยน่าจะรู้จักกันทุกคนไม่แพ้ K-POP หรือ ดาราฮอลลีวูด ในสมัยนี้
จุดหมายการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของคนไทย
ถ้าถามคนสมัยก่อนว่า เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรก
เราจะไปที่ไหน?
คำตอบแรกคือ “ฮ่องกง”
แต่ในวันนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป
จนรู้ตัวอีกที
ฮ่องกงในวันนี้ อาจไม่ได้เป็นฮ่องกงคนเดิมที่เรารู้จัก
ฮ่องกงในวันนี้ มองไปทางไหนก็ไม่สดใสเหมือนเดิม
ฮ่องกงในวันนี้ เริ่มไม่ได้เป็นผู้นำเอเชียในทุกด้านเหมือนวันก่อน
แล้วที่ผ่านมาคนฮ่องกงเจออะไร
คนฮ่องกงเก่งน้อยลง
หรือ คนประเทศอื่นเก่งมากขึ้น
หรือ มันมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ที่ทำให้ฮ่องกงเดินทางมาถึงจุดนี้
จุดที่ทุกอย่างพร้อมจะพังทลายลง
เรามาหาความจริงกัน
ฮ่องกง คือเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดในโลก มี 1,300 ตึก ที่สูงมากกว่า 100 เมตร (100 เมตรคือประมาณ 30 ชั้น)
ฮ่องกง คือเมืองที่มีคนรวย 2 คน ติดอันดับรวยที่สุดในโลก 25 คนแรก โดยธุรกิจหลักของพวกเขาคือ อสังหาริมทรัพย์
ฮ่องกง คือเมืองที่มีราคาบ้านเพิ่ม 2 เท่าภายใน 5 ปี
และแพงอันดับ 2 ของโลก รองจากโมนาโก
ห้องขนาด 30 ตารางเมตรในฮ่องกง มีราคา 50 ล้านบาท
ด้วยราคาขนาดนี้สามารถซื้อบ้านหรูในประเทศไทยได้
ที่ผ่านมา ฮ่องกงดูเป็นที่สุดในโลกในทุกด้าน
แต่การเป็นที่สุด
ย่อมแลกมาด้วยสิ่งที่ทำให้ ฮ่องกง เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความแตกต่างระหว่างคนรวย กับ คนชั้นกลางมากที่สุดในโลก
ซึ่งสิ่งนั้นเรียกว่า ความเหลื่อมล้ำ..
จริงๆ แล้วความเหลื่อมล้ำเป็นแค่เชื้อเพลิงที่สะสม ถ้าไม่มีใครมาจุดไฟมันก็คงไม่เกิดอะไร
เชื้อเพลิงมันก็กองกันอยู่อย่างนั้น
แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง มีคนมาจุดชนวน ทุกอย่างก็จะกลายเป็นไฟ ลุกโชติช่วงแบบไม่ดับลงง่ายๆ
เหมือนภาพที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้
และชนวนที่สำคัญก็คือ ประเด็นการส่งผู้ร้ายข้ามแดน..
ใครจะไปคิดว่า ตัวจุดชนวนนี้คือ เรื่องฆาตกรรมของคนเพียงคนเดียว ที่เกิดขึ้นบนเกาะไต้หวัน..
ย้อนกลับไป 9 เดือนที่แล้ว
เดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 เมื่อคู่รักฮ่องกงคู่หนึ่งเดินทางไปเที่ยวไต้หวัน
แต่ฝ่ายชายกลับฆ่าฝ่ายหญิงที่ไต้หวัน และ เดินทางกลับมาที่ฮ่องกงโดยที่ไม่มีใครจับได้
ต่อมาผู้ชายถูกจับตัวได้ที่ฮ่องกง แต่ตำรวจฮ่องกงไม่สามารถตั้งข้อหาได้ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไต้หวัน
ขณะที่ทั้งฮ่องกงและไต้หวัน ไม่มีสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน จึงไม่สามารถส่งตัวคนผิดไปดำเนินคดีที่ไต้หวัน
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คณะผู้บริหารฮ่องกงจึงเสนอร่างกฎหมายเพื่อที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังไต้หวัน
แต่เรื่องนี้กลับกลายใหญ่โตขึ้น เพราะร่างกฎหมายนี้ ดันรวมไปถึงการส่งตัวผู้ทำผิดไปประเทศจีนด้วย
ซึ่งประเด็นนี้ทำให้ชาวฮ่องกงไม่พอใจ และออกมาชุมนุมประท้วงนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ทางคณะผู้บริหารฮ่องกงเองได้ยกเลิกสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปแล้ว แต่หลังจากนั้น ข้อเรียกร้องยกระดับเป็นการให้ แคร์รี หล่ำ ผู้ว่าฮ่องกง ลาออก เลยไปจนถึงการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย
แม้ว่าปัจจุบันฮ่องกงมีสิทธิในการปกครองตนเองอย่างอิสระ ซึ่งสามารถดำเนินนโยบายทางการเมือง เศรษฐกิจ และกฎหมายได้โดยตนเอง
แต่ในอนาคต ปี 2047 หรืออีก 28 ปี ข้างหน้า ฮ่องกงมีกำหนดส่งอำนาจการปกครองคืนให้จีน
ผู้คนที่ออกมาชุมนุมมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยหนุ่มสาว มาจากบุคคลหลากวิชาชีพ ตั้งแต่ นักศึกษา ครู นักกฎหมาย ไปจนถึงพนักงานในสายการบิน ซึ่งการประท้วงได้ยกระดับไปถึงการปิดสนามบิน การกีดขวางขนส่งมวลชน ไปจนถึงการทำลายร้านค้า อาคาร และทำร้ายผู้ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม
ส่วนผู้ที่ต่อต้านการชุมนุมก็มีเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอายุที่มากกว่า หรือเป็นนักธุรกิจ
ย้อนดูประวัติศาสตร์ฮ่องกง
ค.ศ. 1898 สงครามฝิ่นเป็นจุดเริ่มของเรื่องราวทั้งหมด
อังกฤษได้ครอบครองฮ่องกงจากจีนแบบเสรีนิยมเป็นเวลา 99 ปี ด้วยนโยบายการค้าเสรีทำให้ฮ่องกงกลายเป็นเมืองท่า ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเงินของโลก
ค.ศ. 1997 หรืออีก 99 ปีถัดมา อังกฤษได้ส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีน
รัฐบาลปักกิ่งได้ตกลงให้ปกครองฮ่องกงด้วยนโยบาย หนึ่งประเทศ สองระบบ ไปอีก 50 ปี เพื่อให้เศรษฐกิจ ธุรกิจ ดำเนินไปเหมือนเดิม ยกเว้นเรื่องการทหารและการต่างประเทศ ที่รัฐบาลปักกิ่งเป็นผู้ดูแล
เรามาดูความจริงที่เกิดขึ้นกัน
คนฮ่องกง 3.5 ล้านคนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ไม่ได้ออกเสียงเลือกตั้งผู้บริหารเขตฮ่องกง
โดยที่ผ่านมา ผู้บริหารเขตฮ่องกงมาจากการเลือกโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 1,200 คน ซึ่งถูกเลือกมาจากกลุ่มคนจำนวนน้อยที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นผู้แทนของนักธุรกิจและรัฐบาลปักกิ่ง และการแต่งตั้งผู้บริหารเขตฮ่องกงก็ต้องได้รับการเห็นชอบจากรัฐบาลปักกิ่ง
ปัจจุบัน ฮ่องกงเป็นตลาดทุนอันดับ 3 ของโลก มีมูลค่าตลาดรวมกันทั้งหมด 170 ล้านล้านบาท หรือใหญ่กว่าตลาดหลักทรัพย์ไทย 10 เท่า
แต่ภายใต้เศรษฐกิจที่ดูดี ราคาอสังหาริมทรัพย์ นโยบายที่ดินและสวัสดิการบ้านของรัฐบาลฮ่องกง เอื้อต่อนักธุรกิจ ทำให้ราคาที่พักสูงเกินที่คนฮ่องกงทั้งระดับล่างและระดับกลางจะซื้อได้ และนั่นทำให้คนฮ่องกงทั่วไปรู้สึกว่าตัวเขาเองใช้ชีวิตอยู่ลำบากในเมืองที่เขาเกิดมา
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีโอกาสจะลืมตาอ้าปากเป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว
หนึ่งประเทศ สองระบบ หรือทุนนิยมที่ฮ่องกงอยากได้ กลับกลายเป็นสิ่งที่เชิดชูคนรวย และทำร้ายคนชั้นกลางในฮ่องกง
ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ ราคาบ้านที่สูงเกินเอื้อม
ไปจนถึงความกลัวว่าจะถูกรัฐบาลริดรอนเสรีภาพที่เคยมี
เมื่อมองไปทางไหนก็รู้สึกท้อแท้ และ สิ้นหวัง
หนทางเดียวที่มีอยู่ของคนฮ่องกง ก็คือการชุมนุม การประท้วง จนกว่าทุกอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยขอให้มีการเลือกตั้งแบบ 1 คนต่อ 1 เสียง (Universal Suffrage)
แต่ยิ่งประท้วงมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการทำร้ายเศรษฐกิจของตัวเองมากขึ้นทุกที
ทั้งภาคการเงิน การท่องเที่ยว
ฮ่องกงกำลังจะสูญเสียอะไรไปบ้าง?
นอกจากการที่ฮ่องกงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการแล้ว
Morgan Stanley คาดการณ์ว่า GDP ของฮ่องกงในปี 2019 จะหดตัว 0.8%
การส่งออกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2019
ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 7%
ซึ่งเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบ 10 ปี
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนสิงหาคมลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฮ่องกงยังครองตำแหน่งศูนย์กลางการเงินอันดับ 1 ของเอเชีย
แต่ท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ตำแหน่งนี้กำลังถูกสั่นคลอนโดยสิงคโปร์ คู่แข่งที่ตามมาติดๆ ในอันดับ 2 และเซี่ยงไฮ้ซึ่งอยู่ในอันดับ 3
Goldman Sachs คาดการณ์ว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองของฮ่องกง
นักลงทุนอาจหอบเงินกว่า 120,000 ล้านบาท หนีไปลงทุนที่สิงคโปร์
ส่วน Bloomberg คาดการณ์ว่า มูลค่าหุ้นที่เข้ามาระดมทุนของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ มีแนวโน้มจะแซงหน้าตลาดหุ้นฮ่องกงในปีนี้
ยังไม่รวมห้างร้านหลายแห่งที่ต้องปิดตัวลง เพราะไม่สามารถขนส่งสินค้าเข้ามาในร้านได้
โรงแรมที่ซบเซาลงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง
ระบบขนส่งมวลชนที่เป็นอัมพาตจากการกีดขวางการจราจร
การประท้วงที่เพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการก่อการร้าย
ทั้งขว้างปาก้อนอิฐ ก่อสิ่งกีดขวางการจราจร
ทำร้ายผู้คนที่ไม่เห็นด้วย เผาทำลายอาคารสถานที่ต่างๆ
แต่อย่างไรก็ตาม
ฮ่องกงซึ่งไม่มีทั้งกองกำลังทหารและอาวุธเป็นของตัวเอง
ยิ่งการประท้วงเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นเท่าไหร่
ก็ยิ่งเพิ่มความชอบธรรมให้รัฐบาลฮ่องกงขอรับการสนับสนุนกองกำลังทหารจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยที่ความขัดแย้งระหว่างฮ่องกงและจีน ถือเป็นกิจการภายใน ซึ่งต่างชาติก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปแทรกแซง
นั่นหมายความว่า ในทางกฎหมาย “การแยกประเทศ” ของชาวฮ่องกง คือสิ่งที่เป็นไปได้ยากมาก..
แต่จนถึงวันนี้ จุดยืนของรัฐบาลจีนต่อการประท้วง ก็คือการปล่อยให้คนฮ่องกงแก้ปัญหานี้กันเอง
ฮ่องกงซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีความสำคัญ เป็นประตูสู่การลงทุนของจีนแผ่นดินใหญ่
ปี 1997 ฮ่องกงมีขนาดเศรษฐกิจคิดเป็น 18.4% ของ GDP ประเทศจีน
ปี 2018 ฮ่องกงมีขนาดเศรษฐกิจคิดเป็น 2.7% ของ GDP ประเทศจีน
ในวันนี้ เมืองใหญ่ต่างๆ ของจีน ต่างพัฒนาเศรษฐกิจจนมีขนาด GDP แซงหน้าฮ่องกงไปแล้ว
ทั้ง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น ส่วนกว่างโจว และเทียนจิน กำลังจะแซงหน้าในเร็วๆ นี้
ความสำคัญในทางเศรษฐกิจของฮ่องกงต่อประเทศจีน กำลังลดระดับลงเรื่อยๆ
น่าคิดว่า ยิ่งการประท้วงในฮ่องกงยืดเยื้อเท่าไหร่ สุดท้ายผู้ที่ได้รับความเสียหายก็คือคนฮ่องกงเอง
ในปี ค.ศ. 2047 หรืออีก 28 ปี ข้างหน้า เมื่อครบ 50 ปีของการปกครองแบบหนึ่งประเทศ สองระบบ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
- ฮ่องกงจะเป็นส่วนหนึ่งของ มณฑลกวางตุ้ง หนึ่งใน 23 มณฑลของจีน
- ดอลลาร์ฮ่องกง พาสปอร์ตฮ่องกง จะเป็นอดีต
- คนฮ่องกง 7.5 ล้านคน จะรวมเป็นส่วนหนึ่งของคนจีน 1,400 ล้านคน
แน่นอนว่าคนฮ่องกงที่ประท้วงไม่อยากให้เป็นแบบนั้น และไม่ว่าการประท้วงที่ยาวนานครั้งนี้จะมีจุดจบเช่นไร เรื่องนี้ทำให้นึกถึงสิ่งที่ เรย์ ดาลิโอ ผู้เขียนหนังสือ Principles ได้กล่าวไว้เมื่อไม่นานมานี้ว่า
“โลกกำลังบ้าคลั่ง และ ระบบกำลังพัง”
ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองเป็นผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันที่ใหญ่สุดในโลก และคุ้นเคยกับโลกทุนนิยม
แต่เขาบอกว่า ระบบทุนนิยม แบบเดิมซึ่งเราเชื่อกันว่า จะเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนมากในที่สุด
อาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป..
เพราะระบบกำลังให้รางวัลกับคนรวย และทิ้งห่างคนส่วนใหญ่ไปเรื่อยๆ ในขณะที่คนที่เหลือไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ระบบนี้จะไม่เสถียร ระบบนี้จะพังลงในที่สุด
และโลกนี้กำลังดำเนินเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเวลาอันใกล้
หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าทุนนิยมมันจะพังได้อย่างไร ในเมื่อเราคุ้นเคยกันมานาน
แต่ดูเหมือนว่ามันอาจได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว บนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งของโลกที่ชื่อว่า ฮ่องกง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.chinadailyhk.com/articles/76/215/81/1572262453599.html
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-11-07/singapore-shanghai-threaten-hong-kong-status-as-asia-finance-hub
-https://www.zyen.com/media/documents/GFCI_26_Report_v1.0.pdf
-https://www.reuters.com/article/us-hongkong-protests-markets-explainer/explainer-how-important-is-hong-kong-to-the-rest-of-china-idUSKCN1VP35H
-https://www.cnbc.com/2019/03/20/hong-kong-is-building-an-80-billion-artificial-island.html
-https://www.censtatd.gov.hk/hkstat/sub/gender/demographic/index.jsp
-https://www.heritage.org/index/
-https://www.scmp.com/comment/opinion/article/3021423/how-hong-kong-can-put-end-protest-chaos-its-about-economy-so-fix
-https://www.chinadailyhk.com/articles/213/102/126/1551884339370.html
-https://www.statista.com/statistics/960155/hong-kong-high-net-worth-individuals-by-wealth-group/
-https://www.isranews.org/thaireform/thaireform-talk-interview/79389-universal-suffragehk79389.html
-https://www.nytimes.com/2019/07/08/world/asia/hong-kong-protests-democracy.html
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-04-10/hong-kong-overtakes-japan-as-world-s-third-largest-stock-market
-https://en.wikipedia.org/wiki/2019_Hong_Kong_anti-extradition_bill_protests
-https://www.bloomberg.com/graphics/2019-hong-kong-protests-economic-impact/?srnd=premium-asia
-https://th.investing.com/indices/hang-sen-40
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_Hong_Kong
-https://en.wikipedia.org/wiki/Tourism_in_Hong_Kong
-https://www.ceicdata.com/en/indicator/hong-kong/tourism-revenue
-https://nypost.com/2019/08/14/alibaba-ipo-plan-at-risk-amid-massive-hong-kong-protests/
-https://tradingeconomics.com/hong-kong/gdp-growth-annual
-https://www.scmp.com/news/hong-kong/hong-kong-economy/article/3008578/hong-kongs-gdp-slows-05-cent-first-quarter-2019
-https://edition.cnn.com/2019/08/15/economy/hong-kong-economy-stimulus/index.html
-https://www.linkedin.com/pulse/world-has-gone-mad-system-broken-ray-dalio
economic recession 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
สรุป ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่เคยเกิดขึ้นในไทยทั้งหมด /โดย ลงทุนแมน
เคยสงสัยไหมว่า นับตั้งแต่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 1997
ประเทศไทยเคยเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยกี่ครั้ง
วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ในทางเศรษฐศาสตร์นั้น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Economic Recession) คือ ภาวการณ์ที่การเติบโตของ GDP เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าติดลบติดต่อกันอย่างน้อย 2 ไตรมาส
ในปี 2019 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจประเทศไทย
ไตรมาสที่ 1/2019 GDP เติบโต 1%
ไตรมาสที่ 2/2019 GDP เติบโต 0.4%
ไตรมาสที่ 3/2019 GDP เติบโต 0.2%
ไตรมาสที่ 4/2019 GDP เติบโต -0.2%
พอตัวเลขออกมาแบบนี้ ก็หมายว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเข้าสู่ภาวะของการชะลอตัว ยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอย
อย่างไรก็ตาม
การระบาดของโควิด-19 ที่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการท่องเที่ยว จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ประเทศไทยอาจประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ถ้าให้ย้อนกลับไป
นับตั้งแต่ปี 1997 ประเทศไทยนั้นเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งกินเวลาไปทั้งหมด 10 ไตรมาส หรือประมาณ 2 ปีครึ่ง
1) ครั้งที่ 1 ในปี 1997 ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของไทยเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง
จุดเริ่มต้นมาจากการเปิดเสรีทางการเงินและการจัดตั้งกิจการวิเทศธนกิจไทย (BIBF) ทำให้ประเทศไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศได้สะดวก
ตอนนั้นการกู้เงินจากต่างประเทศได้รับความนิยม เพราะมีดอกเบี้ยถูกกว่าในประเทศ ภาคเอกชนจำนวนมาก จึงไปกู้เงินจากต่างประเทศมาลงทุน
อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนไม่น้อยกลับถูกนำไปเก็งกำไรในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์จนเกิดเป็นฟองสบู่
ช่วงปี 1996 การส่งออกของประเทศเริ่มชะลอตัวลง ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเริ่มขาดดุลมากเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสัญญาณการอ่อนค่าของเงินบาท
ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงต้องนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาซื้อเงินบาทเพื่อพยุงค่าเงิน แต่เมื่อทุนสำรองระหว่างประเทศเริ่มเหลือน้อยลงเรื่อยๆ
สุดท้ายธนาคารแห่งประเทศไทยจึงตัดสินใจปล่อยค่าเงินบาทลอยตัวจากระดับที่ 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเงินบาทนั้นเคยเพิ่มไปถึงระดับ 56 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
คนที่กู้เงินจากต่างประเทศจำนวนมากต้องล้มละลาย สถาบันการเงินหลายแห่งปิดกิจการ คนไทยจำนวนมากต้องตกงาน และวิกฤตนี้ยังกระจายไปอีกหลายประเทศในเอเชีย
ในตอนนั้น GDP ของประเทศไทยลดลงติดต่อกัน 4 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/1997 - ไตรมาสที่ 2/1998
2) ครั้งที่ 2 ในปี 2008 วิกฤตซับไพรม์ในสหรัฐอเมริกา
แม้ว่าวิกฤตดังกล่าวเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา แต่กลับมีผลกระทบไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของโลกโดยเฉพาะในยุโรป เพราะสถาบันการเงินในยุโรปหลายแห่งมีการลงทุนในตราสารที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อประเภทซับไพรม์ในสหรัฐอเมริกาจํานวนมาก
โดยผลของวิกฤตดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกานั้นชะลอตัว จนมีผลทำให้ความต้องการสินค้าจากไทยไปขายที่สหรัฐอเมริกา และความต้องการวัตถุดิบจากไทยที่นำไปผลิตและส่งออกยังสหรัฐอเมริกานั้นลดลงไปด้วย
ในตอนนั้น GDP ของประเทศไทยลดลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2008 - ไตรมาสที่ 1/2009
3) ครั้งที่ 3 ในปี 2013 การชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศในสหภาพยุโรป
สหภาพยุโรปมีอัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูงกว่า 10% จากผลกระทบของวิกฤตหนี้สาธารณะจำนวนมากของหลายประเทศอย่างกรีซ โปรตุเกส อิตาลี ไอร์แลนด์ และ สเปน ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2009 แต่ส่งผลกระทบต่อเนื่องหลายปีต่อมา
เมื่อรวมกับวิกฤตภัยแล้งของประเทศไทยที่กระทบหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ภาคการส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรมของไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ในตอนนั้น GDP ของประเทศไทยลดลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2013 - ไตรมาสที่ 2/2013
4) ครั้งที่ 4 ในปี 2013-2014 ความไม่สงบเรียบร้อยทางการเมือง
ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2013 มาจนถึงกลางปี 2014 โดยมีการชุมนุมและประท้วงต่อต้านรัฐบาล จนนำไปสู่การปิดกรุงเทพฯ หรือเรียกว่า Bangkok Shutdown ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้นำไปสู่การรัฐประหารโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ การท่องเที่ยว การลงทุน การค้าของประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงนั้น เพราะสถานที่สำคัญหลายแหล่งในกรุงเทพฯ ถูกใช้เป็นที่ชุมนุม
ในตอนนั้น GDP ของประเทศไทยลดลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2013 - ไตรมาสที่ 1/2014
โดยปกติแล้ว เมื่อเศรษฐกิจมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะเข้ามามีบทบาทด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากช่วงที่ประเทศเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
แต่การระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้อาจถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ เพราะอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทยก็กำลังอยู่ ณ จุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์เรียบร้อยแล้ว หรือพูดอีกอย่างก็คือ นโยบายการเงินของประเทศกำลังมีข้อจำกัดมากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต เพราะกระสุนเกือบหมดแล้ว
ซึ่งตอนนี้หลายคนก็ได้แต่หวังว่า นโยบายการคลัง (Fiscal Policy) ซึ่งเป็นการใช้จ่ายของภาครัฐ ต้องเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้นกว่านี้
เราก็ต้องมาตามดูกันต่อไปว่า ด้วยนโยบายการเงินที่มีอยู่ เมื่อรวมกับนโยบายการคลังของประเทศจะสามารถช่วยไม่ให้เศรษฐกิจของไทยเข้าสู่ภาวะถดถอยได้หรือไม่
ที่น่าสนใจคือ ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่กำลังเจอกับเรื่องนี้ แต่ประเทศทั่วโลกกำลังเจอความเสี่ยงที่เข้าสู่ภาวะถดถอยเหมือนกันหมด
และโดยปกติแล้วแต่ละประเทศจะดำเนินเข้าสู่ภาวะถดถอยต่างเวลากัน
แต่ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่ประเทศทั่วโลกมีเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยพร้อมกันทั้งหมด..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า ภาวะเศรษฐกิจที่รุนแรงและยาวนานกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็คือ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Economic Depression) ซึ่งจะกินเวลาหลายปี บางครั้งก็ใช้เวลากว่า 10 ปี กว่าที่เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่รุนแรงมากที่สุดก็คือ The Great Depression ซึ่งกินเวลาตั้งแต่ปี 1929-1941 มีจุดเริ่มต้นจากสหรัฐอเมริกา
โดยตั้งแต่ปี 1929-1933 มูลค่า GDP ของสหรัฐอเมริกาหายไปกว่า 33% อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสูงกว่า 25% ซึ่งนับเป็นอัตราการว่างงานที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
ธนาคารในสหรัฐอเมริกากว่า 11,000 แห่งต้องปิดตัวลง คนที่ฝากเงินไว้กับธนาคารเหล่านี้ต้องสูญเงินไปทั้งหมด ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ตกต่ำอย่างหนัก
คนอเมริกันกว่า 2 ล้านคน กลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย และ 60% ของประชากรอยู่ในฐานะยากจน
แม้วิกฤตจะเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกาในตอนนั้น
แต่ความรุนแรงนั้นกลับแพร่กระจายไปในหลายประเทศทั่วโลก
หนึ่งในนั้นรวมถึงประเทศไทยของเราด้วย
ทำให้ช่วงนั้น ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่องเช่นกัน
ถ้าเรื่องใหญ่สุดก็คือ ปี ค.ศ. 1932 หรือ ปี พ.ศ. 2475
เป็นปีที่ประเทศไทยเปลี่ยนการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย นั่นเอง..
อยากเข้าใจความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเรีบนรู้อดีต
หนังสือ เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 3
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงประวัติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1100 ไล่ยาวไปจนถึง ค.ศ.2019
ถ้าทางออนไลน์หมดแล้วก็คงต้องไปตามหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือ หรือ รอพิมพ์ในครั้งต่อไป
สั่งซื้อได้ที่ (ซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╔═══════════╗
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-http://www.nesdc.go.th/download/article/article_20200220160533.pdf
- https://www.bot.or.th/Thai/Statistics/EconomicAndFinancial/RealSector/Pages/Index.aspx
-https://www.investopedia.com/terms/r/recession.asp
-http://www.nesdc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=5176&filename=QGDP_report
-https://www.thebalance.com/recession-vs-depression-definition-causes-and-stats-3306048
-https://www.history.com/topics/great-depression/great-depression-history
-https://www.thebalance.com/the-great-depression-of-1929-3306033
-https://www.thebalance.com/unemployment-rate-by-year-3305506
-https://www.scbeic.com/th/detail/product/1431
-http://www.etatjournal.com/mobile/index.php/menu-read-tat/menu-2013/menu-2013-jan-mar/22-12556-euro
-https://www.youtube.com/watch?v=vMfD8gq7aSc
-https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/ArticleAndResearch/FAQ/FAQ_115.pdf
-http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~msompraw/Subprime%20paper_Revised.pdf
economic recession 在 Joseph Prince Youtube 的評價
Child of God, when the world is going through a time of famine, you need not be afraid.
This excerpt is from: Strong Encouragement In Times Of Famine (05 Jul 2020)
Get the full message:
Joseph Prince app - https://josephprince.app.link/ChWqnpkfV7
JosephPrince.com - https://bit.ly/3e548sq
You can have robust confidence in your heavenly Father’s promise to provide and care for you! In this encouraging message by Joseph Prince, discover truths that will help you:
• Have the unshakable assurance that your salvation is secure because of Jesus’ finished work.
• Experience protection when you learn to be rooted in your righteous identity in Christ.
• Receive provision in times of economic instability as you see God’s iron-clad promise to bless you.
• See all things work out for your good and be a testimony of God’s glory to those around you.
Beloved, don’t lose heart. Build your life upon His unwavering promise to bless you and begin to thrive in times of famine!
Subscribe for free official sermon notes at: http://josephprince.com/sermon-notes
Find us at:
https://www.facebook.com/JosephPrince
https://twitter.com/JosephPrince
https://instagram.com/JosephPrince
#josephprince #2020sermon #theblessing #famine
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/gaCTh0Z0qAw/hqdefault.jpg)
economic recession 在 Dan Lok Youtube 的評價
Affected By The Coronavirus? If So, The Crisis Triangle - 12 Ways To Grow Your Business During A Global Crisis - Is Exactly What You Need. Find Out If Your Business Truly Is Recession Proof Here: https://crisistriangle.danlok.link
No matter if you run a small business or a multi-million company, the crisis triangle will work for you. Watch the video to discover all 12 ways to grow your business during a global crisis. If you took away anything from this video, share it with a fellow business owner.
? SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ?
https://www.youtube.com/danlok?sub_confirmation=1
Check out these Top Trending Playlists -
1.) Boss In The Bentley - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46OWsrbWGPnPW8mvDtjge_6-
2.) Sales Tips That Get People To Buy - https://www.youtube.com/watch?v=E6Csz_hvXzw&list=PLEmTTOfet46PvAsPpWByNgUWZ5dLJd_I4
3.) Dan Lok’s Best Secrets - https://www.youtube.com/watch?v=FZNmFJUuTRs&list=PLEmTTOfet46N3NIYsBQ9wku8UBNhtT9QQ
Dan Lok has been viewed more than 1.7+ billion times across social media for his expertise on how to achieve financial confidence. And is the author of over a dozen international bestselling books.
Dan has also been featured on FOX Business News, MSNBC, CBC, FORBES, Inc, Entrepreneur, and Business Insider.
In addition to his social media presence, Dan Lok is the founder of the Dan Lok Organization, which includes more than two dozen companies - and is a venture capitalist currently evaluating acquisitions in markets such as education, new media, and software.
Some of his companies include Closers.com, Copywriters.com, High Ticket Closers, High Income Copywriters and a dozen of other brands.
And as chairman of DRAGON 100, the world’s most exclusive advisory board, Dan Lok also seeks to provide capital to minority founders and budding entrepreneurs.
Dan Lok trains as hard in the Dojo as he negotiates in the boardroom. And thus has earned himself the name; The Asian Dragon.
If you want the no b.s. way to master your financial destiny, then learn from Dan. Subscribe to his channel now.
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
YouTube: http://youtube.danlok.link
Dan Lok Blog: http://blog.danlok.link
Dan Lok Shop: https://shop.danlok.link
Facebook: http://facebook.danlok.link
Instagram: http://instagram.danlok.link
Linkedin: http://mylinkedin.danlok.link
Podcast: http://thedanlokshow.danlok.link
#DanLok #GrowYourBusiness #GlobalCrisis
Please understand that by watching Dan’s videos or enrolling in his programs does not mean you’ll get results close to what he’s been able to do (or do anything for that matter).
He’s been in business for over 20 years and his results are not typical.
Most people who watch his videos or enroll in his programs get the “how to” but never take action with the information. Dan is only sharing what has worked for him and his students.
Your results are dependent on many factors… including but not limited to your ability to work hard, commit yourself, and do whatever it takes.
Entering any business is going to involve a level of risk as well as massive commitment and action. If you're not willing to accept that, please DO NOT WATCH DAN’S VIDEOS OR SIGN UP FOR ONE OF HIS PROGRAMS.
This video is about Crisis Triangle - 12 Ways To Grow Your Business During A Global Crisis.
https://youtu.be/mksN-DfislQ
https://youtu.be/mksN-DfislQ
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/mksN-DfislQ/hqdefault.jpg)
economic recession 在 Dan Lok Youtube 的評價
How Do You Protect Yourself From An Economic Crash? Click This Link To Discover The #1 High Income Skill Dan Talked About In This Video That Is “Recession-Proof” And Will Secure You And Your Family During Bad Times: http://economiccrash.danlok.link
Multiple factors point towards an upcoming economic crash. Most people know this, but very few are aware of what they need to do to protect themselves and their families. That’s why in this video, Dan breaks down how you can survive during an economic crash. So watch this video now to discover how to protect yourself from an economic crash.
? SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ?
https://www.youtube.com/danlok?sub_confirmation=1
Check out these Top Trending Playlists -
1.) Boss In The Bentley - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46OWsrbWGPnPW8mvDtjge_6-
2.) Sales Tips That Get People To Buy - https://www.youtube.com/watch?v=E6Csz_hvXzw&list=PLEmTTOfet46PvAsPpWByNgUWZ5dLJd_I4
3.) Dan Lok’s Best Secrets - https://www.youtube.com/watch?v=FZNmFJUuTRs&list=PLEmTTOfet46N3NIYsBQ9wku8UBNhtT9QQ
Not long ago, Dan Lok was just a poor immigrant boy. He had nothing but a strong desire to get out of debt and make enough to provide for his single mom. With this strong desire, Dan quit his job as a grocery bagger. He dropped out of college. And he became an entrepreneur.
After 13 failed businesses, Dan finally became a self-made millionaire at age 27 and multi-millionaire by age 30.
Fast forward to today, Dan is now an official Forbes Book author with over 13 internationally best-selling books. He’s the founder and chairman of several multimillion dollar businesses. And outside of his business success, he is one of the most-watched, most quoted and most followed educators of our time. In total, his videos have been watched over 100-million times across his social media platforms. His emails are read by over 2,000,000 people every month.
If you want the no b.s. way to master your financial destiny, then learn from Dan. Subscribe to his channel now.
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
YouTube: http://youtube.danlok.link
Dan Lok Blog: http://blog.danlok.link
Facebook: http://facebook.danlok.link
Instagram: http://instagram.danlok.link
Linkedin: http://mylinkedin.danlok.link
Podcast: http://thedanlokshow.danlok.link
#DanLok #EconomicCrash #Economy
Please understand that by watching Dan’s videos or enrolling in his programs does not mean you’ll get results close to what he’s been able to do (or do anything for that matter).
He’s been in business for over 20 years and his results are not typical.
Most people who watch his videos or enroll in his programs get the “how to” but never take action with the information. Dan is only sharing what has worked for him and his students.
Your results are dependent on many factors… including but not limited to your ability to work hard, commit yourself, and do whatever it takes.
Entering any business is going to involve a level of risk as well as massive commitment and action. If you're not willing to accept that, please DO NOT WATCH DAN’S VIDEOS OR SIGN UP FOR ONE OF HIS PROGRAMS.
This video is about How To Protect Yourself From An Economic Crash
https://youtu.be/MGhzJnANVcg
https://youtu.be/MGhzJnANVcg
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/MGhzJnANVcg/hqdefault.jpg)
economic recession 在 Recession Definition - Investopedia 的相關結果
A recession is a period of declining economic performance across an entire economy that lasts for several months. · Businesses, investors, and government ... ... <看更多>
economic recession 在 What Is A Recession? – Forbes Advisor 的相關結果
Experts declare a recession when a nation's economy experiences negative gross domestic product (GDP), rising levels of unemployment, falling ... ... <看更多>
economic recession 在 Recession - Wikipedia 的相關結果
Put simply, a recession is the decline of economic activity, which means that the public has stopped buying products for a while which can cause the downfall of ... ... <看更多>