กรณีศึกษา Pantone ผู้สร้างระบบ ให้กับเฉดสี /โดย ลงทุนแมน
การอธิบายเฉดสีด้วยคำพูดนั้น ยากที่จะสื่อสารให้เข้าใจตรงกันได้
เพราะคนแต่ละคนก็รับรู้สีจากคำพูดได้ไม่เหมือนกัน
ทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสี
จึงมีภาษาสี ที่ใช้สื่อสารได้เข้าใจตรงกัน
โดยหนึ่งในระบบสีที่ได้รับความนิยมสูงก็คือ “Pantone”
แล้วเรื่องราวของ Pantone ที่กว่าจะมาเป็นภาษาสากลของสีนั้นเป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1950s ซึ่งนับเป็นยุคทองของนิตยสาร
ที่เมืองนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คู่พี่น้อง Mervin และ Jesse Levine
ได้ก่อตั้งบริษัทเกี่ยวกับงานพิมพ์ ที่ชื่อว่า “M&J Levine”
ในปี 1956 Lawrence Herbert ที่เพิ่งเรียนจบด้านชีววิทยาและเคมี
แต่ด้วยความที่เขามีความสนใจเรื่องสิ่งพิมพ์มานานแล้ว
Herbert จึงได้มาสมัครเป็นพนักงานพาร์ตไทม์ที่บริษัทแห่งนี้
งานประจำวันของเขาก็คือ การดูแลคลังสีและการผสมสี
ทั้งสีแบบผงและสีหมึกสำหรับงานพิมพ์
Herbert ค้นพบว่าการสื่อสารเรื่องสีเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำงาน
กว่าเขาจะผสมสีให้ได้ตรงกับแบบที่ได้รับคำสั่งมา ก็ต้องลองผสมสีแล้วทิ้งอยู่หลายรอบ
กว่าจะพิมพ์งานออกมาให้ตรงกับแบบที่ต้องการ ก็ต้องพิมพ์แล้วทิ้งแล้วแก้ใหม่อยู่หลายครั้ง
Herbert จึงใช้ความรู้ทางเคมีที่เรียนมา นำมาใช้กับเรื่องสี
โดยเริ่มจากสร้างระบบและมาตรฐานสีให้กับคลังสีของบริษัท
เพื่อให้การสื่อสารเรื่องสีทำได้ง่ายขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนของสี
ที่ต้องทิ้งจากการต้องลองผิดลองถูกหลายครั้งอีกด้วย
หลังจากทำงานไปได้ 6 ปี กลับกลายเป็นว่า
ฝ่ายงานพิมพ์และหมึกที่พนักงานพาร์ตไทม์คนนี้ดูแล
กลับเป็นแผนกที่ทำกำไรให้บริษัท ขณะที่ฝ่ายอื่นยังมีผลขาดทุน
ในปี 1962 Herbert ได้ขอซื้อกิจการต่อจากคู่พี่น้อง Levine
และเปลี่ยนชื่อเป็น “Pantone” แบบในปัจจุบัน
ซึ่งชื่อนี้ก็มาจากคำว่า Pan ที่แปลว่าทั้งหมด และ Tone ที่หมายถึงสี
หนึ่งปีให้หลัง Pantone ได้ให้กำเนิด “Pantone Matching System” หรือ “PMS” ซึ่งเป็นระบบสีเพื่อใช้สื่อสารกันได้แบบสากล
โดยการตั้งชื่อและระบุรหัส ที่เป็นตัวเลขเฉพาะของแต่ละเฉดสี เพื่อใช้ระบุถึงสีสีหนึ่งได้ทันที
โดยเริ่มแรกมีอยู่ 500 สี และเพิ่มขึ้นมาจนมีมากกว่า 3,000 สีในปัจจุบัน
ซึ่งก่อนหน้าที่จะมี Pantone ระบบสีมาตรฐานที่งานพิมพ์ใช้กันมาอย่างยาวนาน
คือระบบ Cyan, Magenta, Yellow, Key หรือ CMYK ซึ่งเป็นการผสมสีมาจากสีพื้นฐาน 4 สี
แม้ว่าระบบดังกล่าวจะใช้งานได้ดีและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
แต่ระบบสี CMYK มีจุดอ่อนอยู่ที่ เฉดสีไม่ค่อยเสถียร
เช่น สีของงานที่พิมพ์ออกมาจริงเพี้ยนไปจากสีที่ออกแบบไว้ในคอมพิวเตอร์
Pantone จึงเข้ามาช่วยเติมเต็มจุดอ่อนของสี CMYK
เพราะผู้สั่งพิมพ์งาน สามารถระบุรหัสสี Pantone ที่ต้องการกับทางโรงพิมพ์
โรงพิมพ์ก็สามารถผสมสีตามรหัส Pantone ที่ต้องการขึ้นมาได้เลย
อย่างไรก็ตาม วิธีการแบบนี้ก็จะมีต้นทุนที่สูงกว่าการพิมพ์ด้วยระบบสี CMYK
จึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการความแม่นยำของเฉดสีสูง และเป็นงานพิมพ์ที่ใช้จำนวนสีไม่มากจนเกินไป
ซึ่งระบบสีของ Pantone ก็ผสมออกมาได้หลากหลายกว่า จึงครอบคลุมสีที่ได้จากระบบ CMYK ด้วย
และยังสามารถแปลงไปเป็นรหัสของระบบสีอื่น อย่างเช่น RGB, HTML และ CMYK ได้อีกด้วย
ระบบสี PMS จะเหมาะกับงานจำพวกกราฟิก แพ็กเกจจิง สื่อดิจิทัล และงานสกรีน
ในปี 1988 Pantone จึงเพิ่มระบบสีที่เหมาะกับงานจำพวกสิ่งทอและเสื้อผ้า
การออกแบบตกแต่งภายใน หนัง สีทาบ้าน ไปจนถึงเครื่องสำอาง
โดยใช้ชื่อว่า “Pantone Fashion, Home + Interiors System” หรือ “FHI”
ความนิยมของ Pantone ได้เข้าไปอยู่ในทุกอุตสาหกรรมที่มีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง
ด้วยความที่ Pantone เป็นระบบสีที่มีมาตรฐานและสามารถนำมาสื่อสารให้เข้าใจตรงกันได้ทันทีด้วยรหัสที่เป็นสากล
ตัวอย่างเช่น สตูดิโอในนิวยอร์กได้ออกแบบและจะสั่งพิมพ์งานที่โตเกียว
เพียงระบุว่าใช้สี Pantone 550 C ก็จะเข้าใจได้ตรงกันทันที
ซึ่งถ้าอธิบายด้วยคำพูดว่าต้องการสีฟ้า ๆ เขียว ๆ อมเทา คงไม่มีทางนึกถึงสีเฉดเดียวกันได้
นอกจากความสะดวกในการสื่อสารแล้ว
ระบบสีของ Pantone ยังทำให้สีของผลิตภัณฑ์จริง
ตรงกับสีที่ออกแบบโดยไม่ผิดเพี้ยน และในทุกครั้งที่ผลิต จะให้สีที่เหมือนเดิมเป๊ะ
มาถึงตรงนี้ ทุกคนคงสงสัยว่า
แล้วธุรกิจอย่าง Pantone มีรายได้มาจากอะไรบ้าง ?
อย่างแรกก็คือการขาย Pantone Guide หรือสมุดรวมแถบเทียบเฉดสี
ซึ่งจะมีหลายรูปแบบ อย่างเช่น Fan Deck สมุดทรงแคบและยาวที่คลี่ออกมาได้คล้ายกับพัด
Color Bridge Guide Set สมุดใช้เทียบรหัสสี Pantone กับระบบสีอื่น เช่น RGB, HTML และ CMYK
อย่างที่สองก็คือค่า License จากซอฟต์แวร์โปรแกรมหลากหลายรูปแบบ
ที่ให้บริการกับบริษัทที่เลือกใช้ระบบสีของ Pantone
ซึ่งรวมถึงบริษัทขนาดใหญ่อย่าง Adobe, Microsoft, Xerox และ Canon
อย่างที่สามก็คือค่าบริการให้คำปรึกษาเรื่องการใช้สีแก่บริษัทต่าง ๆ
รวมถึงบริการคิดค้นสีใหม่ เพื่อสร้างสีที่เป็นอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์
อย่างเช่น สีส้มของ Hermès, สีฟ้าของ Tiffany & Co. และสีเหลืองของ Minions
ซึ่ง Pantone ได้ก่อตั้ง Pantone Color Institute มาเพื่อให้บริการด้านนี้โดยเฉพาะ
และองค์กรแห่งนี้ ยังรับหน้าที่ประกาศ “Pantone Color of the Year”
ที่เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2000 เพื่อนำเสนอสีที่จะเป็นเทรนด์หลักของปีนั้น และสีนั้นก็มักกลายมาเป็นสีที่มีอิทธิพลต่อวงการออกแบบไปทั่วโลก
ด้วยความที่ Pantone ไม่ได้เพียงช่วยสร้างอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์อื่น แต่ยังมีอัตลักษณ์เองด้วย
Pantone จึงสามารถขายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์อย่างพวกแก้ว ขวดน้ำ สมุดโน้ต เคสสมาร์ตโฟน ที่เป็นลายตามรูปแบบของแถบสี Pantone ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ Pantone ยังมีโอกาสได้ร่วมออกสินค้าคอลเลกชันพิเศษกับแบรนด์ชื่อดังมากมาย
อย่างเช่น เครื่องสำอาง Sephora, รองเท้า Nike, สมาร์ตโฟน OPPO และรถยนต์ KIA
ปัจจุบัน บริษัท Pantone ได้เข้าไปเป็นบริษัทในเครือของ Danaher
บริษัทโฮลดิงขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเริ่มมาจากการที่บริษัท X-Rite เข้าซื้อกิจการ Pantone ในปี 2007
ด้วยมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ก่อนที่ปี 2012 Danaher ได้เข้ามาซื้อกิจการ X-Rite อีกที
ถึงแม้ Pantone จะยังเป็นบริษัทเอกชนที่ไม่มีการเปิดเผยงบการเงินต่อสาธารณะ
แต่ก็มีการประเมินว่า Pantone มีรายได้ต่อปีโดยเฉลี่ยมากกว่าพันล้านบาท
เรื่องราวของ Pantone ก็ทำให้คิดได้ว่า “สี” ซึ่งเป็นสิ่งที่เราใช้กันได้ทั่วไป
ไม่ได้มีใครเป็นเจ้าของ แต่ผู้ที่ตั้งชื่อให้กับเฉดสีเหล่านั้น และพัฒนาให้กลายเป็นระบบสากล
ก็สามารถสร้างมันเป็นธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาลระดับพันล้านต่อปี เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.thefashionlaw.com/the-business-of-being-pantone/
-https://www.fastcompany.com/3050240/how-pantone-became-the-definitive-language-of-color
-https://www.referenceforbusiness.com/history2/63/Pantone-Inc.html
-https://bettermarketing.pub/how-pantone-saved-the-world-65708585d573
-https://en.wikipedia.org/wiki/Pantone
-https://www.pantone.com/hk/en/
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過531的網紅Humans Offshore Podcast離島人,也在其Youtube影片中提到,★Show note | https://humansoffshore.com/shownotes/ep132/ 🩺 四處漂流游牧生活 X 勇闖醫療的商管人 這週離島人邀請到四處漂流游牧生活: 巫怡萱Yvonne。Yvonne畢業於台大財金,在台灣累積工作經驗後去倫敦商學院(London Bu...
danaher 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ผู้สนับสนุน..
เกษียณอายุไปกับธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับโลก B-GLOBALRMF
หากเราเป็นหนึ่งคนที่กำลังมองหากองทุน RMF
เพื่อนำไปเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษี และ กำลังสนใจในธุรกิจต่างประเทศ
กองทุนหุ้นโกลบอลเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ B-GLOBALRMF
น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ของเรา
แล้ว B-GLOBALRMF มีรายละเอียดอะไรบ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
B-GLOBALRMF เป็นกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Wellington Global Opportunities Equity Fund เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของทรัพย์สินสุทธิ (NAV) โดยสินทรัพย์ที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคาร และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การลงทุนของ Wellington Global Opportunities Equity Fund
ซึ่งนโยบายของกองทุนนี้จะลงทุนในธุรกิจคุณภาพทั่วโลกโดยกระจายการลงทุนไปยัง
หุ้นสามัญในสหรัฐอเมริกา 65.8%
หุ้นสามัญในยุโรป 17.3%
หุ้นสามัญในประเทศกำลังพัฒนา 9.0%
หุ้นสามัญในประเทศญี่ปุ่น 6.8%
และ อื่นๆ อีก 1.1%
นอกจากนี้ นโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญรายตัวก็เป็นทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ และบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงซึ่งครอบคลุมในกลุ่มธุรกิจ
เรามาดูทรัพย์สินที่กองทุนถือมากสุด 5 อันดับแรก
ในกองทุน Wellington Global Opportunities Equity Fund
หุ้นสามัญ บริษัท JPMorgan Chase & Co 2.9%
ทำธุรกิจแบงก์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุ้นสามัญ บริษัท Facebook 2.4%
ทำธุรกิจเทคโนโลยี ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุ้นสามัญ บริษัท UnitedHealth Group 2.0%
ทำธุรกิจเครื่องมือและบริการด้านสุขภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุ้นสามัญ บริษัท Danaher Corp 1.9%
ทำธุรกิจเครื่องมือและบริการด้านสุขภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุ้นสามัญ บริษัท Tencent Holdings Ltd 1.8%
ทำธุรกิจเทคโนโลยี ประเทศจีน
เรามาดูผลการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562
3 เดือน
B-GLOBALRMF 4.71%
เกณฑ์มาตรฐาน 6.19%
6 เดือน
B-GLOBALRMF 6.14%
เกณฑ์มาตรฐาน 7.13%
ตั้งแต่ต้นปี
B-GLOBALRMF 15.43%
เกณฑ์มาตรฐาน 14.17%
1 ปี
B-GLOBALRMF 5.56% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน 4.51% ต่อปี
3 ปี
B-GLOBALRMF 4.56% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน 5.97% ต่อปี
ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน
B-GLOBALRMF 2.86% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน 5.15% ต่อปี
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า Wellington Global Opportunities Equity Fund กระจายการลงทุนอยู่ทั่วทุกมุมโลก และคัดสรรธุรกิจที่มีศักยภาพแข็งแกร่ง ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
หากใครกำลังมองหากองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพสำหรับการเกษียณอายุในอนาคต และสนใจการลงทุนในธุรกิจระดับโลก
B-GLOBALRMF ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับเรา..
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง
และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
danaher 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ผู้สนับสนุน..
เกษียณอายุไปกับธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับโลก B-GLOBALRMF
หากเราเป็นหนึ่งคนที่กำลังมองหากองทุน RMF
เพื่อนำไปเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษี และ กำลังสนใจในธุรกิจต่างประเทศ
กองทุนหุ้นโกลบอลเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ B-GLOBALRMF
น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ของเรา
แล้ว B-GLOBALRMF มีรายละเอียดอะไรบ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
B-GLOBALRMF เป็นกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Wellington Global Opportunities Equity Fund เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของทรัพย์สินสุทธิ (NAV) โดยสินทรัพย์ที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคาร และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การลงทุนของ Wellington Global Opportunities Equity Fund
ซึ่งนโยบายของกองทุนนี้จะลงทุนในธุรกิจคุณภาพทั่วโลกโดยกระจายการลงทุนไปยัง
หุ้นสามัญในสหรัฐอเมริกา 65.8%
หุ้นสามัญในยุโรป 17.3%
หุ้นสามัญในประเทศกำลังพัฒนา 9.0%
หุ้นสามัญในประเทศญี่ปุ่น 6.8%
และ อื่นๆ อีก 1.1%
นอกจากนี้ นโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญรายตัวก็เป็นทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ และบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงซึ่งครอบคลุมในกลุ่มธุรกิจ
เรามาดูทรัพย์สินที่กองทุนถือมากสุด 5 อันดับแรก
ในกองทุน Wellington Global Opportunities Equity Fund
หุ้นสามัญ บริษัท JPMorgan Chase & Co 2.9%
ทำธุรกิจแบงก์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุ้นสามัญ บริษัท Facebook 2.4%
ทำธุรกิจเทคโนโลยี ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุ้นสามัญ บริษัท UnitedHealth Group 2.0%
ทำธุรกิจเครื่องมือและบริการด้านสุขภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุ้นสามัญ บริษัท Danaher Corp 1.9%
ทำธุรกิจเครื่องมือและบริการด้านสุขภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุ้นสามัญ บริษัท Tencent Holdings Ltd 1.8%
ทำธุรกิจเทคโนโลยี ประเทศจีน
เรามาดูผลการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562
3 เดือน
B-GLOBALRMF 4.71%
เกณฑ์มาตรฐาน 6.19%
6 เดือน
B-GLOBALRMF 6.14%
เกณฑ์มาตรฐาน 7.13%
ตั้งแต่ต้นปี
B-GLOBALRMF 15.43%
เกณฑ์มาตรฐาน 14.17%
1 ปี
B-GLOBALRMF 5.56% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน 4.51% ต่อปี
3 ปี
B-GLOBALRMF 4.56% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน 5.97% ต่อปี
ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน
B-GLOBALRMF 2.86% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน 5.15% ต่อปี
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า Wellington Global Opportunities Equity Fund กระจายการลงทุนอยู่ทั่วทุกมุมโลก และคัดสรรธุรกิจที่มีศักยภาพแข็งแกร่ง ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
หากใครกำลังมองหากองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพสำหรับการเกษียณอายุในอนาคต และสนใจการลงทุนในธุรกิจระดับโลก
B-GLOBALRMF ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับเรา..
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง
และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
danaher 在 Humans Offshore Podcast離島人 Youtube 的評價
★Show note | https://humansoffshore.com/shownotes/ep132/
🩺 四處漂流游牧生活 X 勇闖醫療的商管人
這週離島人邀請到四處漂流游牧生活: 巫怡萱Yvonne。Yvonne畢業於台大財金,在台灣累積工作經驗後去倫敦商學院(London Business School)攻讀MBA。Yvonne 於英國畢業後,輾轉在法國、瑞典、丹麥找到自己的立足之地,持續利用自身經驗與能力在熱愛的醫療產業負責業務開發、新產品開發和制定行銷策略。
歡迎大家來聽聽Yvonne如何適應歐洲不同國家的職場文化,以及在這些年在歐洲累積的生活經歷。
-----
Ep132 - 四處漂流遊牧生活:巫怡萱
#Radiometer #全球產品經理 #MBA #醫療檢驗 #Danaher
0:00 Intro
6:09 決定攻讀海外MBA的契機
9:32 離奇法國求職之旅
15:30 轉職到瑞典
19:43 喜愛醫療產業
23:35 醫療檢驗相關產業
35:47 醫療檢驗的眉眉角角
46:11 最喜歡法國、英國、瑞典和丹麥哪個國家的氛圍
58:03 回台計畫
-----
★更多詳細資訊,請參考Show note | http://bit.ly/hop_shownotes
★支持離島人 | http://bit.ly/hop_support
danaher 在 Danaher Corporation - YouTube 的八卦
We're about action. Danaher is proud to be one of 270+ companies committing to improve diversity and inclusion in the workplace. This supports our associates ... ... <看更多>