ถ้าเราลงทุน กับปู่ Buffett ในปี 1965 วันนี้เราจะมีเงินเท่าไร ? /โดย ลงทุนแมน
“ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมคือ การเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นบริษัท Berkshire Hathaway”
วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของโลก เคยพูดประโยคนี้ไว้
ทั้ง ๆ ที่ในวันนี้หลายคนฝันอยากเป็นหุ้นส่วนของ Berkshire Hathaway
บริษัทที่หุ้นเพียง 1 หุ้น มีมูลค่าสูงเกือบ 12 ล้านบาท
แล้วทำไม วอร์เรน บัฟเฟตต์ จึงพูดแบบนั้น ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เกือบ 60 ปีที่แล้ว วอร์เรน บัฟเฟตต์ เริ่มเข้าซื้อหุ้นบริษัท Berkshire Hathaway ที่ในตอนนั้นเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมสิ่งทอ
ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยน Berkshire Hathaway จนกลายมาเป็น บริษัทที่เน้นการเข้าไปถือหุ้นเพื่อการลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) อย่างเต็มรูปแบบในปัจจุบัน
ช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 เป็นช่วงที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ เริ่มเข้าไปซื้อหุ้นของ Berkshire Hathaway จนสามารถควบคุมบริษัทได้
เพราะในตอนนั้น บัฟเฟตต์มองว่า
ราคาหุ้นของ Berkshire Hathaway ลดลงมาจนต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
เนื่องจากธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทกำลังเสื่อมถอย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บัฟเฟตต์เจอก็คือ
แม้จะซื้อหุ้นได้ในราคาที่ถูก แต่อุตสาหกรรมสิ่งทอหลังจากนั้นก็ไม่ค่อยเติบโตต่อไปแล้ว
และสถานะการเงินของบริษัทก็กำลังย่ำแย่
พอเรื่องเป็นแบบนี้ เขาจึงตัดสินใจค่อย ๆ ลดบทบาทของธุรกิจสิ่งทอลง
แล้วเริ่มนำ Berkshire Hathaway เข้าไปสู่ธุรกิจประกันภัย
ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เขามีเงินทุนไปลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ
ที่เป็นแบบนี้เนื่องจากธุรกิจประกันภัย จะมีเบี้ยประกันภัยที่รับมาจากลูกค้า แต่ยังไม่ต้องจ่ายค่าสินไหมจนกว่าผู้ให้เงินประกันจะเกิดอุบัติเหตุ หรือมีเหตุให้ต้องมาเคลมในอนาคต
ซึ่งเงินส่วนนี้ ถูกเรียกว่า “Float”
โดยหลังจากที่บริษัทกันเงินสำรองไว้สำหรับให้ผู้ทำประกันมาเคลมเรียบร้อยแล้ว
Float ในส่วนที่เหลือ ก็จะถูกนำไปลงทุนต่อเพื่อหาผลตอบแทน
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเวลาการลงทุนของบัฟเฟตต์
เขาก็พูดเสมอว่า มีหลายครั้งที่เขาตัดสินใจลงทุนผิดพลาด
ยกตัวอย่างเช่น
ในปี 2006 Berkshire Hathaway เริ่มเข้าซื้อหุ้นบริษัท Tesco
ธุรกิจค้าปลีกแบบไฮเปอร์มาร์เกตในประเทศอังกฤษ
แต่ผลประกอบการของ Tesco ที่ลดลง ประกอบกับปัญหาด้านระบบบัญชีของบริษัท ทำให้บัฟเฟตต์ ต้องขายหุ้นของ Tesco ออกไป พร้อมรับผลขาดทุนกว่า 13,000 ล้านบาท
ในปี 2008 บัฟเฟตต์ เข้าซื้อหุ้นบริษัท ConocoPhillips บริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา กว่า 210,000 ล้านบาท ในช่วงที่ราคาน้ำมันกำลังเพิ่มขึ้นไปกว่า 140 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
หลังจากนั้นไม่นาน ราคาน้ำมันตกต่ำลงอย่างหนัก
ทำให้มูลค่าการลงทุนในหุ้น ConocoPhillips ของเขา ลดลงจนเหลือ 132,000 ล้านบาท ในระยะเวลาไม่นาน
และที่สำคัญที่สุดคือ ในปี 2010 เขาก็ได้เปิดเผยว่า..
“ความผิดพลาดในการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตเขาคือ การเข้าไปซื้อหุ้น Berkshire Hathaway ในปี 1962”
เพราะถ้าในตอนนั้น เขานำเงินไปลงทุนในธุรกิจประกันภัยแต่แรก แทนที่จะเอาเงินไปจมอยู่กับ Berkshire Hathaway ที่ทำธุรกิจทอผ้า เขาก็ควรจะมีเงินเพิ่มจากผลตอบแทนทบต้น อีกไม่ต่ำกว่า 6 ล้านล้านบาท
แม้ว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะมีการตัดสินใจที่พลาดไปบ้างในบางครั้ง
แต่หากเทียบกับหลายครั้งที่เขาประสบความสำเร็จจากการเลือกหุ้นที่ยอดเยี่ยม
ก็ทำให้เขาสามารถสร้าง Berkshire Hathawayให้เป็นสุดยอดบริษัทด้านการลงทุนของโลกได้
โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในหุ้น Apple บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก ตั้งแต่ปี 2016
และยังคงถือหุ้น Apple มาจนถึงปัจจุบัน (แม้จะเพิ่งขายออกไปแล้วบ้างบางส่วนก็ตาม)
ซึ่งนับตั้งแต่ที่ บัฟเฟตต์ เข้าไปซื้อหุ้น Apple นั้น มูลค่าบริษัทของ Apple ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 213% จนสร้างผลตอบแทนให้ Berkshire Hathaway อย่างมาก
ปัจจุบัน Berkshire Hathaway ถือหุ้นอยู่ 49 ตัว
และ 31 ตัว จะจ่ายปันผลให้บัฟเฟตต์ในปี 2021 นี้รวมกันไม่ต่ำกว่า 114,000 ล้านบาท
แล้วตลอดระยะเวลา 56 ปี ตั้งแต่ปี 1965-2020
ผลตอบแทนของ Berkshire Hathaway เป็นอย่างไรบ้าง ?
ในช่วงเวลาดังกล่าว Berkshire Hathaway ทำผลตอบแทนชนะตลาดไปทั้งหมด 37 ปี และแพ้ตลาด 19 ปี
และเมื่อเทียบผลตอบแทนของ Berkshire Hathaway กับ ดัชนี S&P 500 (ดัชนีที่รวมหุ้นขนาดใหญ่ 500 ตัวในตลาดหุ้นสหรัฐฯ)
ผลตอบแทนของการลงทุนในดัชนี S&P 500 ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 10.2% ต่อปี
หมายความว่า ถ้าเราลงทุนซื้อกองทุนดัชนี S&P 500 ด้วยเงินจำนวน 1 ล้านบาท ในปี 1965 แล้วถือมาจนถึงวันนี้ มูลค่าเงินลงทุนเราจะเพิ่มขึ้นเป็น 230 ล้านบาท
ซึ่งก็ต้องถือว่า ยอดเยี่ยมสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น และได้ผลตอบแทนทบต้นในระยะยาวเท่านี้
แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ผลตอบแทนทบต้นต่อปีของ Berkshire Hathaway เท่ากับ 20.0%
หมายความว่า ถ้าเราลงทุนซื้อหุ้นของ Berkshire Hathaway ด้วยเงินจำนวน 1 ล้านบาท ในปี 1965 และถือมาจนถึงวันนี้ มูลค่าเงินลงทุนของเราจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 27,200 ล้านบาท
ซึ่งคิดเป็น 118 เท่า ของมูลค่าเงินลงทุน ในดัชนี S&P 500 เลยทีเดียว
และนั่นก็คงเพียงพอแล้ว ที่จะชดเชยกับช่วงเวลาที่เขาตัดสินใจลงทุนผิดพลาดไป..
ปัจจุบัน หุ้นของ Berkshire Hathaway หรือที่มีชื่อหุ้นว่า BRK
เป็นหุ้นที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
โดย 1 หุ้นของ BRK มีมูลค่าถึง “11.7 ล้านบาท”
และในตอนนี้มูลค่ากิจการของ Berkshire Hathaway ก็อยู่ที่ประมาณ 18 ล้านล้านบาท
ซึ่งมูลค่านี้ ใหญ่กว่า มูลค่าของตลาดหุ้นไทย และ GDP ของประเทศไทย เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.investorsfriend.com/why-warren-buffett-bought-berkshire-hathaway/
-https://www.berkshirehathaway.com/2020ar/2020ar.pdf
-https://www.theguardian.com/business/2015/mar/01/warren-buffett-admits-thumb-sucking-over-tesco-cost-him-444m#:~:text=Buffett%20admitted%20in%20October%20he,mistake%E2%80%9D%20by%20investing%20in%20Tesco.&text=He%20bought%20his%20first%20Tesco,the%20company%27s%20then%2Dmanagement%E2%80%9D.
-https://www.cnbc.com/2014/09/25/buffett-loses-big-on-tesco-share-dive.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Berkshire_Hathaway
-https://www.cnbc.com/2017/12/15/warren-buffetts-failures-15-investing-mistakes-he-regrets.html
-https://finance.yahoo.com/quote/BRK-A/
-https://www.cnbc.com/berkshire-hathaway-portfolio/
-https://www.nasdaq.com/articles/heres-how-much-dividend-income-warren-buffett-will-receive-in-2021-2021-01-21
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Youtube影片中提到,จาก Coupon สู่ Dividend ธีมการลงทุน ตอนดอกเบี้ยติดลบ ลงทุนแมน ลงทุนในความรู้ การลงทุนในความรู้ไม่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรกด Subscribe @ลงทุนแมน ...
apple dividend 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ทำไม บางบริษัทมีกำไร แต่ไม่ยอมจ่ายเงินปันผล /โดย ลงทุนแมน
สำหรับคนที่ลงทุนในหุ้น ผลตอบแทนจากการลงทุนจะมาจาก 2 ส่วน คือ
1. กำไรจากการขายหุ้น (Capital Gain) และ
2. เงินปันผล (Dividend)
ซึ่งโดยพื้นฐาน ทั้ง 2 ส่วนจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเรื่องของ กำไรของกิจการเป็นหลัก
เพราะโดยทั่วไปแล้ว ถ้าบริษัทมีกำไรเติบโตมาก
ราคาหุ้นก็จะปรับเพิ่มขึ้น รวมไปถึงจ่ายเงินปันผลมากขึ้น
แต่ประเด็นของบทความนี้ก็คือ มีบางบริษัท ที่แม้ว่าจะมีกำไรมาก แต่กลับเลือกที่จะไม่จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเลย
มีเหตุผลอะไรที่บางบริษัทแม้ว่าจะมีกำไรมหาศาล
แต่เลือกที่จะไม่จ่ายเงินปันผลออกมา
แล้วถ้าเราอยู่ในฐานะนักลงทุน เราควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่ไม่จ่ายเงินปันผลหรือไม่ ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า นักลงทุนบางส่วนที่ลงทุนในหุ้น หวังจะได้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุก ๆ ปี เพราะฉะนั้น นักลงทุนในกลุ่มนี้ จึงชอบมองหา บริษัทที่มีการประกาศจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น จึงอาจมีนักลงทุนจำนวนหนึ่ง
ที่มีกฎเหล็กเลยว่า จะไม่ลงทุนในบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผล
ในมุมของบริษัท หลัก ๆ แล้วจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ เมื่อในรอบปีบัญชีนั้น บริษัทมีกำไร และไม่มีผลขาดทุนสะสม
อย่างไรก็ตาม ก็มีบริษัทจำนวนไม่น้อย ที่เลือกไม่จ่ายเงินปันผล ทั้งที่บริษัทก็มีกำไร และไม่ได้ขาดทุนสะสม
ซึ่งก็มีเหตุผลที่ไม่จ่ายหลากหลายกรณี เช่น
กรณีแรก: บริษัทต้องการนำผลกำไรนั้น ไปลงทุนต่อ
การนำผลกำไรกลับไปลงทุนต่อ (Reinvesting Profits)
คือสิ่งที่หลายบริษัทเลือกทำ โดยเฉพาะถ้าบริษัทนั้น กำลังอยู่ในช่วงของการเติบโต ซึ่งต้องการทุ่มเงินลงทุนไปในโครงการต่าง ๆ
บางบริษัทเชื่อว่า การนำผลกำไรนั้นกลับไปลงทุนต่อ จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า การที่ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล
ซึ่ง Netflix ผู้ให้บริการสตรีมมิงวิดีโอรายใหญ่ของโลก ก็คือกรณีศึกษาที่ดีของเรื่องนี้
เราลองมาดูผลประกอบการของ Netflix ในช่วงปี 2018-2020
ปี 2018 รายได้ 521,000 ล้านบาท กำไร 40,000 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 666,000 ล้านบาท กำไร 62,000 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 833,000 ล้านบาท กำไร 92,000 ล้านบาท
รู้ไหมว่า สิ้นปี 2020 Netflix มีกำไรสะสมมากถึง 252,000 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมา บริษัทไม่เคยจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเลย
เนื่องจากบริษัทนำผลกำไรนั้นกลับไปลงทุนต่อในการผลิตคอนเทนต์ เช่น สร้างภาพยนตร์ สร้างแอนิเมชัน ซีรีส์ รวมไปถึงการจ่ายคืนหนี้ และซื้อหุ้นคืน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ถือหุ้นจะไม่ได้เงินปันผล แต่มูลค่าบริษัทของ Netflix ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 119,000 ล้านบาท เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 8.5 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน
หมายความว่า ถ้าเราลงทุนในหุ้น Netflix 1 ล้านบาท เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
มาวันนี้ เงิน 1 ล้านบาทนั้นของเรา จะกลายเป็น 71 ล้านบาท
และนั่นคงไม่ทำให้ผู้ถือหุ้น Netflix มีปัญหาอะไร แม้ว่าจะไม่เคยได้รับเงินปันผลเลยก็ตาม..
กรณีที่สอง: เก็บเงินสดไว้ซื้อกิจการเป้าหมาย
อีกหนึ่งบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นมานานแล้ว คือ Berkshire Hathaway ที่มีวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังระดับโลกเป็นผู้บริหารอยู่
รู้ไหมว่า ปัจจุบัน Berkshire Hathaway นั้นมีเงินสดอยู่ในบริษัทกว่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งการที่ Berkshire Hathaway เลือกถือเงินสดไว้มาก ๆ เหตุผลหนึ่งก็คือ เก็บเอาไว้ใช้ซื้อกิจการที่น่าสนใจ
ตัวอย่างกิจการที่ Berkshire Hathaway เข้าไปซื้อในอดีตที่ผ่านมา เช่น
ปี 2010 ซื้อหุ้น 100% ของบริษัท BNSF Railway ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟรายใหญ่ ที่มีเครือข่ายในทวีปอเมริกาเหนือ มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท
ปี 2013 ซื้อหุ้น 50% ใน The H. J. Heinz Company บริษัทแปรรูปอาหารและผลิตซอสมะเขือเทศ มูลค่ากว่า 410,000 ล้านบาท
แม้ว่าหลัง ๆ มา Berkshire Hathaway จะไม่ได้เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่ามาก ๆ เท่าในอดีต
แต่การที่บริษัทมีเงินสดอยู่มหาศาล ก็ทำให้บริษัทสามารถเข้าไปซื้อกิจการเป้าหมายได้ เมื่อไรก็ตามที่บริษัทต้องการ
กรณีที่สาม: ปัญหาทางการเงินของบริษัท
นอกเหนือจากการนำผลกำไรนั้นกลับไปลงทุนต่อ และเก็บเงินไว้เพื่อซื้อกิจการเป้าหมายแล้ว การที่บริษัทจะไม่จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอาจเกิดจากปัญหาทางการเงินของบริษัทเอง
บางบริษัทแม้ว่า จะมีกำไรในบางปี แต่ก็ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลออกมาได้ เนื่องจากบริษัทยังมีผลขาดทุนสะสมอยู่ ซึ่งตามกฎแล้ว บริษัทจะยังไม่สามารถที่จะจ่ายเงินปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้นได้
หรือแม้แต่กรณีที่บริษัทมีกำไรสะสม และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ แต่บริษัทก็อาจจะยังไม่จ่าย เนื่องจากสถานะการเงินที่ยังไม่แข็งแรง จึงเลือกที่จะเก็บเงินสดไว้ระดับหนึ่งก่อน
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็น่าจะพอได้ไอเดียแล้วว่า
ทำไมบางบริษัทที่มีกำไรแต่ไม่จ่ายเงินปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้น
เพราะว่าบริษัทเหล่านั้น ต้องการที่จะนำผลกำไรไปลงทุนต่อในธุรกิจตัวเอง ไปซื้อกิจการอื่น จ่ายคืนหนี้ ซื้อหุ้นคืน หรือแม้แต่เก็บเงินสดไว้ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน
ดังนั้น ก่อนที่เราจะปฏิเสธไม่ลงทุนในบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผล เราต้องดูให้ดีก่อนว่า ที่บริษัทไม่ยอมจ่ายเงินปันผลนั้น เพราะอะไร หรือมีแผนเอาเงินที่ไม่จ่ายออกมาเป็นปันผลนั้น ไปต่อยอดได้ดีแค่ไหน
ถ้ามองแล้วว่า ถึงแม้บริษัทจะไม่จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น
แต่มีการเอาเงินส่วนนั้น ไปต่อยอดสร้างอนาคตที่ดีให้กิจการ
หุ้นที่เราถืออยู่ ก็สามารถมีมูลค่าที่เติบโตเพิ่มขึ้น
จนทำให้สุดท้ายแล้ว เราในฐานะผู้ถือหุ้น ก็อาจได้ผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ซึ่งถ้าผู้ถือหุ้นอยากได้เงินสดมาใช้ ก็อาจแบ่งขายหุ้นออกมาได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.suredividend.com/why-companies-never-pay-dividends/
-https://www.set.or.th/th/regulations/simplified_regulations/files/20200914_Dividend.pdf
-https://ir.netflix.net/financials/financial-statements/default.aspx
-https://www.investopedia.com/ask/answers/12/why-do-some-companies-pay-a-dividend.asp
-https://www.wallstreetzen.com/stocks/us/nasdaq/nflx/dividends
-https://finance.yahoo.com/quote/NFLX/balance-sheet?p=NFLX
-https://www.investopedia.com/ask/answers/021615/why-doesnt-berkshire-hathaway-pay-dividend.asp
-https://kunaldesai.blog/berkshire-hathaway-acquisitions/
apple dividend 在 JC 財經觀點 Facebook 八卦
這兩天美股的行情其實蠻清淡的,基本上開盤與收盤的位置都差不多,也許是少了大公司財報公佈的激情,大漲或大跌的股票也少了很多。
指數雖還維持強勢,但是要再次挑戰突破前高也不容易,一起等待機會…
有些朋友還是想進場,老實說我真的覺得進場或出場,都是個人意志,沒有所謂的好或壞。
我自己也還是有在買賣,覺得好的股票如果在合理的價格,就先買一些,當手中有持股時,對於趨勢的變化也會比較敏感。
👉 不過,如果你還在尋找適合的投資標的,或許你可以參考這個
11月初,ProShares新發行了兩檔股息成長ETF,主要是以會股息貴族公司為投資組合:
1️⃣ ProShares S&P Technology Dividend Aristocrats ETF(TDV),主要持股34家股息穩定增長的科技公司,平均股息增長紀錄為13年。
一般我們對科技公司的認知,大多都認為還在高速增長的 公司是不會願意發放股息給股東,而是希望將賺來的錢進行再投資來尋求更高的獲利。不過,長期來說股息對於投資報酬的重要性是非常高的。
有發放股息的科技公司,大多已經擁有護城河,可以穩定賺取現金流的公司,例如Apple (AAPL)、Cisco Systems (CSCO)跟Oracle (ORCL)等
如果不想冒著投資單一個股的風險重壓一檔科技股,或許這也是不錯的選擇!(該ETF費用率為0.45%)
2️⃣ 另一檔新的ETF是ProShares Russell U.S. Dividend Growers (TMDV),主要投資在68檔Russell 3000指數中,過去35年股息穩定成長的好公司。
不過,這檔ETF與第一檔TDV較為不同的是,持股的產業比較分散,也有蠻多中小型公司可能是一般投資人沒聽過的公司。(該ETF費用率為0.35%)
上次在訂閱專欄中提到的5G ETF大家都很有興趣,有興趣的朋友可以參考之前的專欄文章 😊
這周的重點會放在「股息貴族ETF」。如果想要在不確定性較高的市場中找到其他更穩定的機會,我認為除了ProShares家族外,還有許多不錯的選擇❗️
👉 下面這張圖是在兩檔ETF中股息成長紀錄最長的幾家公司。
👉 思考一下,如果是你,你比較偏好哪一檔呢❓
apple dividend 在 ลงทุนแมน Youtube 的評價
จาก Coupon สู่ Dividend ธีมการลงทุน ตอนดอกเบี้ยติดลบ
ลงทุนแมน ลงทุนในความรู้
การลงทุนในความรู้ไม่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรกด Subscribe @ลงทุนแมน
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website -https://www.longtunman.com/
Blockdit - https://www.blockdit.com/longtunman
Facebook - http://facebook.com/longtunman
Twitter - http://twitter.com/longtunman
Instagram - http://instagram.com/longtunman
Line - http://page.line.me/longtunman
YouTube - https://www.youtube.com/longtunman
Spotify - http://open.spotify.com/show/4jz0qVn1...
Soundcloud - http://soundcloud.com/longtunman
Apple Podcasts - http://podcasts.apple.com/th/podcast/...
Clubhouse - @longtunman
#ลงทุนแมน #ห้องประชุมลงทุนแมน #ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง #BREAKTHROUGH #THEBRIEFCASE #longtunman #ลงทุนแมนORIGINALS #ลงทุนเกิร์ลTALK #ลงทุนเกิร์ล

apple dividend 在 Apple Inc. Common Stock (AAPL) Dividend History | Nasdaq 的相關結果
AAPL Dividend History · Ex-Dividend Date 11/05/2021 · Dividend Yield 0.53% · Annual Dividend $0.88 · P/E Ratio 29.14. ... <看更多>
apple dividend 在 AAPL: Dividend Date & History for Apple Inc. 的相關結果
AAPL's dividend yield, history, payout ratio, proprietary DARS™ rating & much more! Dividend.com: The #1 Source For Dividend Investing. ... <看更多>
apple dividend 在 Dividend History - Apple Investor Relations 的相關結果
Declared Record Payable Amount Type
October 28, 2021 November 8, 2021 November 11, 2021 $0.22 Regular Cash
July 27, 2021 August 9, 2021 August 12, 2021 $0.22 Regular Cash
April 28, 2021 May 10, 2021 May 13, 2021 $0.22 Regular Cash ... <看更多>