ในปี 2503 ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ คนหนึ่งที่ชื่อว่า นายจอห์น เอฟ เคนเนดี แสดงวิสัยทัศน์ในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ ด้วยแนวนโยบาย “เขตแดนใหม่” หรือ The New Frontier โดยการประกาศจะนำประเทศเอาชนะความยากจน ภัยสงคราม และ อุปสรรคต่าง ๆ ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ การเข้าสู่ยุคสำรวจอวกาศ จนถึงวันนี้ ในปี พ.ศ. 2562 ระยะเวลาผ่านมา 59 ปี อวกาศไม่ได้เป็นเพียงแค่เขตแดนของการแข่งขันเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ทางการเมืองอีกต่อไป รวมถึง อวกาศก็ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของประเทศมหาอำนาจเท่านั้น หากแต่ขอบเขตของอวกาศก้าวเข้ามาอย่างลึกซึ้งถึงชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอน ทำงาน จนกระทั่งเข้านอน จากดาวเทียมในอวกาศอันไกลโพ้นจนกระทั่งมาถึงเตียงนอนของเรา การสังเกตการณ์ทิศทางลมและการเคลื่อนที่ของกลุ่มเมฆทำให้เราสามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้ในการรับมือกับสภาพอากาศที่จะเกิดขึ้นในวันถัดไป จากโรงจอดรถของเรากระทั่งไปถึงห้องประชุม เราสามารถคาดการณ์การจราจรที่จะเกิดขึ้นและวางแผนในการเดินทางโดยการใช้ GPS ในมือของเราที่เชื่อมต่อไปถึงดาวเทียมในอวกาศ ในบ้านของเรา เราดูโทรทัศน์หรือหน้าจอมือถือจับจ้องการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกเพื่อหาโอกาสลงทุนจากการขึ้นลงของตลาดหลักทรัพย์ในโลกอันผันผวน
.
บทบาทของอวกาศแห่งศตวรรษที่ 21 แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่แล้ว ในศตวรรษนี้ ภาคเอกชนจากทั่วโลกได้เข้ามามีบทบาทอย่างสูงยิ่งในการขับเคลื่อนและขยายเขตแดนธุรกิจอวกาศ ปัจจัยทางธุรกิจได้เข้ามาแทนที่ปัจจัยทางการเมืองในการขยายเขตแดนในอวกาศของภาคส่วนต่าง ๆ ของหลายประเทศ ในสหรัฐ ฯ Richard Branson สามารถขายตั๋วของบริษัท Virgin Galactic ได้มากกว่า 600,000 ใบ ในการให้บริการขึ้นไปสัมผัสประสบการณ์อวกาศไม่ถึง 20 นาที ซึ่งเป็นการขายดีมากกว่าที่ Henry Ford เปิดตัวรถยนต์ฟอร์ด รุ่นที เป็นครั้งแรกในสหรัฐ ฯ ขณะที่ บริษัท SpaceX กลายเป็นเอกชนที่รับจ้างขนของไปอวกาศเป็นประจำ และ นาย Elon Musk ผู้ก่อตั้งประกาศจะต้องพิชิตดาวอังคารให้ได้ก่อนตนเองสิ้นอายุขัย ด้านนาย Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon และบริษัท Blue Origin ก็ให้บริการขนส่งวางดาวเทียมเข้าวงโคจรในทุก ๆ ขนาด
.
ในส่วนของประเทศไทย นอกจากบริษัทไทยคมที่ดำเนินธุรกิจด้านดาวเทียมมาเป็นเวลานานแล้ว ยังมีบริษัท มิว สเปซ ที่เข้ามาทำธุรกิจดาวเทียมและชุดอวกาศ เมื่อเดือนกรกฏาคม 2561 ด้วยความร่วมมือของจิสด้า บริษัท มิวสเปซ และ บริษัท Blue Origin ของ Jeff Bezos ประเทศไทยประสบความสำเร็จเป็นประเทศแรกของโลกในการนำทุเรียนตราช้างอวกาศขึ้นสู่วงโคจรโลกด้วยจรวด New Shepard ของบริษัท Blue Origin ซึ่งทะยานตัวออกจากพื้นโลกที่ฐานยิงในมลรัฐเวสท์เท็กซัส แม้แต่นักศึกษาจำนวน 10 คนของมหาวิทยาลัย Southern California ยังสามารถส่งจรวดระดับเยาวชนขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลกเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2562 ซึ่งความสำเร็จนี้คงจะทำให้ ดร. Wernher von Braun ดีใจเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็คงจะทำให้นาย Nikita Khrushchev ถึงกับหัวใจวาย หากว่าบุคคลทั้งสองยังคงมีชีวิตอยู่
.
ความเคลื่อนไหวของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชนหรือบุคคลทั่วไปเหล่านี้เป็นประจักษ์หลักฐานที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า เขตแดนอวกาศเป็นโอกาสของมวลมนุษยชาติทุกคนสมดังวิสัยทัศน์ที่ประธานาธิบดีเคนเนดีได้กล่าวไว้เมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วและโอกาสนี้กำลังขยายตัวและเติบโตมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ประเด็นสำคัญก็คือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในเขตแดนใหม่นี้ได้ ? คำตอบที่อยู่ในคำปราศรัยรับเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ คนที่ 35 ซึ่งชี้ว่า กุญแจไปสู่เขตแดนใหม่คือ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ ที่ในขณะนี้เราเรียกอย่างบูรณาการว่า STEM (Science, Technology, Engineering and Mathematics) ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนองค์ความรู้ของทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 นั่นเอง
.
จากหลักการและเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ โดยการปูพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจาก ดร. Wernher von Braun บิดาแห่งการลงจอดบนดวงจันทร์และผู้นำในการสร้างจรวด Saturn V และ การเป็นศูนย์ข้อมูลประชาชนของศูนย์การบินอวกาศมาร์แชลขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซา และ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์จรวดที่ใหญ่ที่สุดในโลกของสมิธโซเนียน จึงร่วมกับองค์กรพันธมิตรในประเทศไทยในการก่อตั้งทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย (Discover Thailand’s Astronauts Scholarship Program) เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยอายุระหว่าง 13-18 ปี ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม STEM เพื่อชิงทุนการศึกษาด้านการสำรวจอวกาศเบื้องต้น โดยผู้ที่ชนะทุนการศึกษาจะได้มาเรียนและฝึกปฏิบัติการด้านอวกาศที่ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ซึ่งนับว่าเป็นศูนย์ฝึกปฏิบัติการด้าน STEM ที่ดีที่สุดของโลก โดยผู้เรียนจะได้ลงมือปฏิบัติการเสมือนจริงในภาระกิจอวกาศ การขับยานอวกาศขึ้นไปยัง ISS ดวงจันทร์ หรือ ดาวอังคาร และ กลับมายัง Kennedy Space Center รวมถึง การออกแบบและยิงจรวด เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้เรียนจะได้รับแรงบันดาลใจจากศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จอย่างเช่น Elon Musk ผู้ก่อตั้ง SpaceX นาย Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งบริษัท Blue Origin นักบินอวกาศที่ปฏิบัติงานอยู่ในองค์กรอวกาศสำคัญ ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น NASA หรือ ESA และ วิศวกรที่ทำงานอยู่ในแขนงงานต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึง ที่ออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ Curiosity และ ยานอวกาศรุ่นถัดไปของสหรัฐ ฯ หรือ Space Launch System
.
ประวัติศาสตร์ชี้ชัดว่าอารยธรรมของมนุษย์ขับเคลื่อนด้วยการสำรวจและการค้นพบ โคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกาทำให้เกิดประเทศสหรัฐอเมริกาและการสร้างอารยธรรมเสรีนิยมประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ ในอนาคตอีกไม่ไกลนัก การสำรวจและค้นพบที่ยิ่งใหญ่ในอวกาศจะทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลที่ยิ่งใหญ่กว่าการค้นพบทวีปอเมริกา
.
ยุคอวกาศเริ่มต้นแล้วเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วและกำลังทวีความสำคัญขึ้นอย่างยิ่งยวดในการขับเคลื่อนอารยธรรมมนุษยชาติ คุณพร้อมหรือไม่สำหรับเขตแดนใหม่นี้? กุญแจในการเดินทางเข้าไปคือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานที่ฝึกสร้างกุญแจที่ดีที่สุดในโลกคือเรา และ ทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทยคือก้าวแรกในการเดินทางของคุณ!
จากใจจริง
กฤษณ์ คุนผลิน
ผู้แทนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ ประจำประเทศไทย
.
.
.
Message from the Representative of the U.S. Space & Rocket Center
.
The New Frontier for Explorers
.
Bangkok, Aug 29, 2019 – In 1960, Presidential hopeful John F. Kennedy envisioned America as the “New Frontier” for motivation to overcome poverty, war and social challenges. He challenged America to focus instead on advancement of science, technology and the entry into the era of space exploration. Fifty-nine years have passed, and in 2019 space is neither a frontier of competition between the two superpowers, nor is it reserved only for powerful states. Instead, this New Frontier has permeated human life from the time we wake-up until the time we go to bed. From the satellites far away in space to our living rooms, we see the direction of the wind and clouds that help us plan our days in advance of the coming weather. From our own garage to our meeting places, we see the traffic and plan the roads we want to take from the GPS in our hands that is linked to the satellites in space. From our home, we watch satellite television news that advises us on investing, from the ups, and downs, of Wall Street to a volatile world on the main streets.
.
Unlike the 20th Century, space of the 21st Century introduced private entities to the space industry. Driven by business, not political reasons, private companies from all over the world entered into this potentially lucrative frontier. In America, Richard Branson’s Virgin Galactic has sold over 600,000 tickets for a less than 20-minute low earth orbit space experience; it sells like Henry Ford offering his Model-T for the first time. SpaceX has become a frequent flyer into space with an aim to touch-down on the surface of Mars
within the lifetime of its founder, Elon Musk. Meanwhile, Amazon’s Jeff Bezos, the Blue Origin founder, launches his rockets with satellites providing launch capabilities of every size.
.
In Thailand, in addition to established Thaicom, we see Mu Space Corp entering in to the satellite and space suit business. On July 2018, with the cooperation of Thailand’s Gistda, Mu Space and Jeff Bezos’s Blue Origin, the world witnessed for the first time Space Elephant’s Space Durian. The first Thai Durian entered the globe’s orbit using the propulsion of the Blue Origin’s new Shepard and was launched from a pad in West Texas. Even a group of 10 college students at Southern California University successfully launched their own student rocket and surpassed the Karman Line on April 21, 2019. Wernher von Braun would be overjoyed, and Nikita Khrushchev would have a heart attack if they were still living.
.
These current movements of the states, private enterprises and people are vivid, undeniable evidence that the Space Frontier belongs to us all as it was envisioned by President Kennedy almost 60 years ago, and the opportunity is expanding quickly. The key question: how can we participate and be a part in this promising New Frontier? In his acceptance speech as the democratic nominee running for President, Kennedy pointed out that science and technology, or in today’s wording, “STEM,” are the keys to access the New
Frontier.
.
To encourage the industry and promise of living and working in space, the U.S. Space & Rocket Center was founded on science and technology laid down by Dr. Wernher von Braun, the American father of the moon landing. This Official Visitor Center for NASAMarshall Space Flight Center showcases the world’s largest rocket and spacecraft collection. A Smithsonian affiliate, the U.S. Space & Rocket Center has partnered with Thailand to offer
Discover Thailand’s Astronauts Scholarship Program. This challenge locates Thai youths,between 13-19 years old, and trains them at the Advanced Space Academy at the U.S. Space & Rocket Center in Huntsville, Alabama for one week. This introduction to the space exploration program is the world’s top space STEM curriculum, with one million graduates worldwide. The trainees are trained in simulated missions based on NASA astronaut training. They fire rockets they build, and visit the International Space Station, and even land spacecraft on the Moon and Mars. The trainees are inspired by successful alumni such as Jeff Bezos, Elon Musk and others who are now working as astronauts or engineers in many fields, including those designing and building Curiosity Rover and the next great American spacecraft, the Space Launch System.
.
History has shown us that human civilization is driven by exploration and discovery. The discovery of the American continent brought the United States into existence and created humanity’s largest liberal democratic civilization. In the future, history may tell us that a great discovery in space created a gigantic migration of people and commerce greater than the discovery of the American continent.
.
The space era began 60 years ago and it is increasingly important in driving our civilization forward. Are you ready for the New Frontier? The keys to access this frontier are science and technology. Space Camp® and Space Academy® are the best places on earth to train future space pioneers. Discover Thailand’s Astronauts Scholarship Program is your first step into this great journey!
With sincerity,
Krit Kunplin
Representative in Thailand
U.S. Space & Rocket Center
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過24萬的網紅dailycherie,也在其Youtube影片中提到,สวัสดีค่ะคุณผู้ชม เซรั่มตัวนี้เป็นตัวที่มีคุณผู้ชมหลายท่านอยากดูรีวิวกันนะคะ วันนี้เลยมาเล่าให้ฟังค่ะว่ามันมีการปรับสูตรให้ดีขึ้น หลังจากที่ไม่ได้ปรั...
「advance technology or advanced technology」的推薦目錄:
advance technology or advanced technology 在 Eric's English Lounge Facebook 八卦
[時事英文]「超前部署 」英文怎麼說?
由於最近這個詞出現的頻率很高,所以陸續有同學寫信問我「超前部署」的英文是不是「advanced deployment 」?
★★★★★★★★★★★★
1、「advanced」意味著在「程度/層次」(level)上是更高等的、更高級的,例如:
➣ an advanced English course
進階英語課程/高階英語課程/高級英語課程(相對於初、中級)
➣ advanced learners of English
進階英語學習者/高階英語學習者/高級英語學習者
➣ advanced physics
高等物理
★★★★★★★★★★★★
2、「advanced」也可以表示非常現代的、最新的(modern),例如:
➣ advanced weapon systems
先進武器系統
➣ advanced technology
先進技術/前瞻技術
➣ high levels of unemployment in advanced industrial societies
先進工業社會的高失業率
詳參:https://www.ldoceonline.com/dictionary/advanced
★★★★★★★★★★★★
3、若你想表達某事發生在其他事之前,則須用——「in advance (of something)」。例如:
➣ I should warn you in advance that I’m not a very good dancer.
我應該事先告訴你,我不是一位出色的舞者。
➣ Many thanks, in advance, for your help.
在此先感謝您的幫助。
➣ The Assembly passed legislation which required organizers of demonstrations to apply three days in advance for government approval.
議會通過了立法,要求示威的組織者提前三天申請政府批准。
詳參:https://www.ldoceonline.com/dictionary/advance
★★★★★★★★★★★★
4、在中文的語境裡,「超前部署」本為國軍術語,用於軍事上的部署與配置。因今年疫情而輾轉進入公眾視野,也成為公共衛生的防疫語彙。在英文裡,若想表達兵力上的預置,你可以說:
➣ the early deployment of troops
➣ deploy troops in advance (of something)
➣ deploy troops in preparation (of something)
➣ deploy troops ahead of something
「超前部署」見於國軍「主動防救」的災防思維,國軍採「超前部署、預置兵力、隨時防救」的作法,以因應重大天災對國家安全的威脅。詳參:https://bit.ly/2WuyIXb
★★★★★★★★★★★★
5、在英文裡,「advanced deployment」雖是慣用語,但多用於計算(computing)以及網路管理(network administration),其中涉及較高階的(higher-level)電腦或系統的安裝過程,以利於真實環境裡的高效作業。
詳參:https://bit.ly/3ctnd7T
https://bit.ly/3dGULQ5
若同學知道更多相關用法,歡迎在下方留言與我們分享,畢竟我不是資通專家XD
★★★★★★★★★★★★
6、可能有些文章會使用「advance deployment」來作為「超前部署」的英文用法,以表達對流行疫情所採取的準備措施。但在英文裡,這並不是常見的用法:
That decision did make inconveniences to passengers and losses to THSRC, but that measure in conjunction with Taiwan's “advance deployment” has indeed effectively reduced the risk of people being over-exposed in mass transportation.
詳參:https://yhoo.it/3dHexLq
★★★★★★★★★★★★
7、「超前部署」雖可置於防疫的語境中,但在英文裡並沒有一個全然相應的用法。而在中文與英文的脈絡下,其所關聯的語意也不盡相同。英語使用者通常會這麼說:
❖ 用法A: (early) preventive measures
“A contact-tracing app developed in Singapore as a preventive measure against the coronavirus.”
詳參《紐約時報》:https://nyti.ms/3bjfxDT
“For the general public, basic preventive measures include keeping a safe distance of 1 to 2 metres, washing hands with soap for 20 seconds or using a hand sanitiser, wearing a face mask if crowded situations cannot be avoided and not touching one’s eyes, nose, and mouth.”
詳參《路透社》:https://reut.rs/3fEMZrK
❖ 用法B:「something+prevention measures」也頗為常見
“Efforts are better spent boosting infection-prevention measures at hospitals.”
詳參《經濟學人》:https://econ.st/2YUoMYu
“Vice Premier Chen Chi-Mai shared Taiwan's deployment of big data in our epidemic-prevention measures with two professors visiting from Stanford, C. Jason Wang, director of the Center for Policy, Outcomes and Prevention, and health law scholar Michelle M. Mello.”
詳參中華民國外交部:https://bit.ly/3cnuRk6
★★★★★★★★★★★★
其他可以使用的相關片語:
➣ take protective measures
➣ implement preventive measures
➣ infection prevention and control
➣ early prevention and detection
➣ immediate government intervention
歡迎同學在下方留言,與我們分享更多用法!
★★★★★★★★★★★★
時事英文講義:https://bit.ly/2XmRYXc
時事英文大全:http://bit.ly/2WtAqop
如何使用「時事英文」:https://bit.ly/3a9rr38
#超前部署
#疫情英文
advance technology or advanced technology 在 鄺俊宇 Roy Kwong Facebook 八卦
感激Selina Kinyee Chau翻譯我的散文作品,讓香港及台灣以外的朋友都能看得明白,從中文走向英語,是我作品的大突破,感謝妳一字一句的用心翻譯:)
《WhatsApp and its USD0.99》
by Roy Kwong Translated by Selina Kinyee Chau
The WhatsApp software developer has informed its users to the app to be payable, triggering a fight between iPhone users and android users because iPhone users only pay USD0.99 once to enjoy life-long service but android users need to pay the same price every year.
Android users complain, “Why iPhone users only need to pay once but we need to pay every year?” iPhone users retort, “You didn’t say anything when we were being charged at the beginning. And now you are complaining.” So the two parties are stuck at whether the charge is unfair to Android users.
After the Two Ticks and Last seen on (Please refer to the previous article of the same writer), the WhatsApp started a fight again because of this USD0.99 issue. From between lovers to friends, now it has even extended to the whole user group of the two giant software developers. It should be named the Most Evil App of the Century.
The inconsistency of charging is of course WhatsApp’s fault. However, for those who can afford a smart phone that cost thousands dollars will be able to afford USD0.99 which is only the price of a can of coke, won’t they?
Some student users may complain, “I don’t have a credit card, I’m not able to pay at the App Store, WhatsApp are not considerate of us.” It is reasonable for users under 18 to complain if they don’t have a credit card. But if the charge is a disaster of WhatsApp, isn’t it just time for people to show their kindness? Friends who have a credit card can rescue others at this time, “I have a credit card. Let me pay it for you.”
Friends without a credit card will appreciate what you have done for them, although it is WhatsApp’s fault of the forbiddance of sending messages before the expiry date, reactivating the function for your friends by buying them a can of coke is meaningful, isn’t it? The USD0.99 of WhatsApp has created a chance to show your care to your friends, how nice as a social networking app!
Recall those days when we were still texting, it was actually not financial friendly at all. For the sake of keeping in touch with our friends, we were compelled to use the same service provider as theirs even its service was the worst in the world and we had to survived three times every day from losing connection just because to keep the text messages free of charge.
Still, the Two Ticks and Last seen on functions have created a lot of problem. But the invention of WhatsApp allows us to send messages for free, save us from paying for every text messages. It deserves to be granted a credit. And the simplified process by just clicking a few buttons to send pictures, videos and audios when we could only do so via email in the past. What’s more, WhatsApp had actually stated in the Terms and Conditions that charge may be applied after the first year.
So there have been so many complaints about WhatsApp being unfairness and has been given the name “a broken app” when it announced to charge? No one ever said something like that before the charging. After the charge applied, negative comments has swept over the Internet. Some suggested to use another communication app, Line, which is free of charge, and WhatsApp has become the public enemy. Despite the inconsistent charge, what’s wrong for WhatsApp to charge for using the app?
Have we become too comfortable enjoying free lunch without notice?
I still remember how hard I tried to save to buy a CD home and listened to it again and again when I was a kid. I had never been tired of it because it wasn’t easy. When there was a movie I liked, I saved hard to go to the cinema for it. If I didn’t have enough money, I bought the VCD when it was released. But VCDs were only available for movies not for TV shows. I had to start sitting in front of the TV before the show I liked started so that I wouldn’t miss any parts. And recorders became my good friend too. I really cherished the only-180-minute memory of every tape.
After I grew up, thanks to the advanced technology becomes able to store everything, the TV, computer, CD player, VCD player, game station and recorders, into ONE smart phone, only without the air conditioner. Want to listen to a song? Go to Youtube; want a movie? PPS, internet TV! A TV show? There are also apps you can watch live TV or play back. Want some games? From Angry Bird to Candy Crush, there are thousands of choices waiting for you.
However, The advance of technology has devalue our attitude towards making efforts. Because everything has become easy to get nowadays.
Have you noticed the songs nowadays are not as good as those in the past? That could be the problem of quality itself but more likely, it is because we have too many options. Now we just need to click a few buttons, thousands of search results will come out and we can listen to them right after. We are spoiled to be greedy unconditionally. We didn’t realize how long we hadn’t paid for a CD until the news of HMV’s bankruptcy spread out.
In the past we had to sit still and paid 100% attention to the movie to enjoy it, now we can just watch it from a few-inch-wide screen on a train. But the price is we keep being interrupted by the surrounding noise and people. When the character is saying something moving, we would just realize we’ve missed the stop and have to rush to get off. It may be free to watch a movie like this but I prefer paying to buy a ticket to go to the cinema.
We don’t need to worry about missing the best part of a TV show because our friends always share them on Facebook. We don’t need to watch every scene but you know what is going on in every story. But why is there still something missing? It turns out that we only keep the concentrated part of everything while the every well panned detail has been wasted. We don’t spend time building a connection with the characters in the story. However, if we don’t even spend time watching the the TV show by ourself, how can we feel the same way as the characters do, like we did in the past?
You don’t feel the pain losing something if you have never made any effort. It is just like we keep those old comics that we spent all our pocket money on even they are old and worn , but we are able to uninstall an app on our phone without a thought. Well, just take a couple seconds to download and we will own it again anytime.
While we are expecting making no effort, we are also destroying creativity. Creators lack of motivation. Creativity is worth nothing nowadays. People will search for replacement when one creativity starts to charge. This is not just about the USD0.99 of WhatsApp, it’s about our value on Give and Take.
Technology has changed our life, but we should never let it change our values.
We avoid Giving. But giving is vital for us to learn to cherish. Sometimes we get back more by giving than not giving, not just about money but also about love. Think about it, if we get what we want easily without paying any effort, comparing with that you devote yourself to a relationship while the other devotes to the relationship as much as you. Then none of you will give up on the relationship easily.
If you think WhatsApp is good, it deserves the USD0.99. Although I am still annoyed by the evil functions such as the Two Ticks and Last Seen on. WeChat is free but you have to pay your liberty of speech for it. One user once tried to send the name of Southern Weekly in Chinese, the system reminded him that “The message has involved sensitive words, please try again after making modification.” What’s wrong with the name of Southern Weekly? The even more ridiculous thing is, while I am writing this article, I get the news that WeChat now has tightened up the regulation that users have to use their real name, phone number when posting on the public forum and are even required to upload the photo of them with their ID card, like you have committed some serious crime.
To avoid paying USD0.99, you need to escape to somewhere that and be monitored. One day if you really encounter some sensitive issue, you will realize not paying actually pays more than paying. I believe most of readers are willing to pay for this USD0.99. We hope WhatsApp will open up more channels for payments.
Don’t let the wheels of Time make us forget the value of giving.
Writer for Yam Taiwan, Roy Kwong
http://goo.gl/aQD8B
advance technology or advanced technology 在 dailycherie Youtube 的評價
สวัสดีค่ะคุณผู้ชม
เซรั่มตัวนี้เป็นตัวที่มีคุณผู้ชมหลายท่านอยากดูรีวิวกันนะคะ วันนี้เลยมาเล่าให้ฟังค่ะว่ามันมีการปรับสูตรให้ดีขึ้น หลังจากที่ไม่ได้ปรับมา 7 ปี มี technology อะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกันค่ะ
✔ I N S T A G R A M
http://instagram.com/dailycherie
✔ T W I T T E R
http://twitter.com/#!/dailycherie
✔ F A C E B O O K
http://facebook.com/MomayPaplearnTV
✔ E M A I L
dailycherie@gmail.com
DISCLAIMER: This video was made in partnership and sponsored by ESTEE LAUDER THAILAND. However, the opinion towards the products is my own. I will always stay true to my own opinion and value my viewer’s trust in my recommendations as I refuse to partner up with brands or products that I dislike.