อิสรภาพการเงิน “ลวงตา”
ราวปี 2551 ผมมีอิสรภาพการเงินจากรายได้ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ เงินปันผลจากบริษัทที่ปรึกษาโรงงานอุตสาหกรรม และบริษัทฝึกอบรม ที่ผมก่อตั้งขึ้นในช่วงเวลานั้น
ทุกอย่างเป็นไปตามตำรา “พ่อรวยสอนลูก” ของโรเบิร์ต คิโยซากิ ที่ว่า “ถ้าเรามีรายได้จากทรัพย์สิน หรือ Passive Income มากกว่ารายจ่ายรวมต่อเดือน เราก็จะมีอิสรภาพทางการเงิน หรือ Financial Freedom”
เอาเขาจริงการมีอิสรภาพการเงิน ผลลัพธ์สุดท้ายของมัน ก็คือ การมีอิสระทาง “เวลา” นั่นแหละ เราสามารถจัดสรรเวลาของเราได้มากขึ้น โดยมีทรัพย์สินเป็นเครื่องทุ่นแรงในการหาเงิน ไม่ต้องทำงานทุกวัน (แต่ไม่ทำงานเลยไม่มีจริงหรอกนะครับ) ก็มีเงินใช้จ่ายเพียงพอในแต่ละเดือน
ในช่วงเวลานั้นชีวิตผมมีใช้จ่ายไม่มากครับ แค่เดือนละ 30,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น ดังนั้น การมีรายได้จากทรัพย์สินร่วมๆ 50,000 บาทต่อเดือนในช่วงเวลานั้น จึงทำให้มีอิสระได้ตามที่ตำราว่าไว้ได้ไม่ยาก
คิดว่าพอมี Passive Income แล้ว จะประสบความสำเร็จในชีวิต พอมีเข้าจริงแล้ว ไม่ใช่อย่างที่คิดเลยครับ ...
หลังเริ่มมีรายได้พอเลี้ยงตัว แบบพอที่จะพักจากทำงานได้บ้าง ผมเริ่มมีชีวิตที่ไร้สาระมากขึ้น เพราะคิดเอาเองว่า คนมีอิสระทางเวลา ก็ควรใช้มันให้เต็มที่
ผมเริ่มตื่นสาย ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ไปยืนรอห้างสรรพสินค้าเปิด ในอดีตเคยนึกสงสัยว่า คนเขาทำไมต้องไปรอห้างเปิดด้วยว่ะ ไม่มีอะไรทำกันเหรอ สุดท้ายผมได้ไปยืนรอกับเขาเหมือนกัน
พอห้างเปิดก็เดินเข้าไปซื้อของ เหมือนต้องการชดเชยส่วนที่ขาด ประมาณว่าแต่ก่อนไม่ค่อยมี เมื่อพอมีเงินก็ซื้อ ทั้งๆ ที่ชีวิตก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้มากขนาดนั้น
โทรหาเพื่อนๆ เขาก็ทำงานกันหมด แรกๆ คิดว่าเท่ห์ดี เพราะในขณะที่คนอื่นกำลังทำงาน เรากลับชิลๆ เดินเข้าร้านหนังสือ จิบกาแฟอะไรไปเรื่อยๆ
พอมีอิสรภาพแล้วเสาร์อาทิตย์ไม่เที่ยวนะครับ ไปเที่ยววันธรรมดา เพราะมันแสดงถึงอิสรภาพได้ดีกว่า สุดท้ายพบความจริงว่า เที่ยววันธรรมดามีข้อเสียที่หลายร้านค้าไม่ค่อยเปิด เพราะเขาเปิดแล้วไม่คุ้ม ไม่เหมือนวันเสาร์อาทิตย์ กลายเป็นร้านอร่อยร้านดัง ไม่ค่อยได้กินไปซะอย่างนั้น
นอกจากนี้ยังมีการพยายามใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา ด้วยการหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ไปนั่งทำงานริมชายหาด ตามแบบที่โฆษณาคนมีอิสรภาพเขาทำกัน
ปรากฎว่า “แสบตาฉิบหาย” เอาจริงๆ ทำไม่ได้นะครับ มึงทำคอมอยู่บ้านดีกว่า เป็นเรื่องตอแหลครับ ทำไม่ได้จริง (555)
ใช้ชีวิตแบบนี้อยู่เกือบครึ่งปี รู้สึกชีวิตไร้แก่นสารมาก เลยเริ่มกลับมาคิดหยิบจับทำอะไรกับเขาบ้าง
ในปีนั้นผมเริ่มทำงานอาสาสมัคร ทำงานการกุศลมากขึ้น รวมถึงกลับมาบริหารธุรกิจของตัวเองอย่างจริงจังอีกครั้ง แล้วก็กลับมาเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองอีกครั้ง จนได้เข้าใจ่า แก่นชีวิตของคนเรา ไม่ใช่แค่เรื่องการมีเงินให้มากพอใช้จ่ายในชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่มันคือ ความรู้สึก “มีคุณค่า” หรือการได้ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นด้วย
ปี 2551 เลยเป็นปีแต่แห่งการฉีกตำราการเงินที่ยึดถือปฏิบัติมาตลอดหลายปี ที่แต่ก่อนเคยหายใจเข้าออกเป็น Passive Income เริ่มกลับมามองคนทำงานประจำ คนทำงานฟรีแลนซ์ หรือกลุ่มคนที่สร้างรายได้แบบ Active Income เสียใหม่
ว่าการที่คนเราทำงานเพื่อเงินนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายสักหน่อย ตรงกันข้ามเขาก็มี “คุณค่า” หรือทำประโยชน์ต่อผู้อื่นในแบบของเขา ถ้ารายได้ที่เขาหาได้เพียงพอดูแลตัวเอง ที่เหลือมันก็คือ การบริหารจัดการเงินให้เข้าที่เข้าทางเท่านั้นเอง
ในเรื่องของอิสระทางเวลา บางทีหลายคนอาจไปตีกรอบเองว่า เวลา 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น คือ การถูกกักขัง กักขังหรือเปล่า ผมว่ามันอยู่ที่การใช้เวลา 9 to 5 ของเราเองนั่นแหละครับ
เพราะเอาจริงๆ ถ้าคนทำงานประจำ หรือทำงานฟรีแลนซ์ อยากมีเวลาในชีวิต ก็ใช่ว่าจะจัดสรรเวลาไม่ได้ เพียงแต่ส่วนใหญ่ชอบทำตัวให้ยุ่งเอง จนจัดสรรเวลาอะไรไม่ได้มากกว่า
หลังจากเข้าใจชีวิตมากขึ้น ชีวิตผมเหมือนเข้าสู่ Matrix ใหม่ (เด็กรุ่นใหม่เคยดูกันมั้ย 555)
มอง Active Income หรือ รายได้จากการทำงาน เป็นการสร้าง “คุณค่า” ให้ตัวเอง แม้จะต้องทำงานแลก แต่ก็รู้สึกดีกับตัวเอง ที่ได้ลงมือทำงาน ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ทำงานด้วย และร่วมสร้างความสำเร็จและความภูมิใจไปด้วยกัน
ส่วน Passive Income หรือ รายได้จากทรัพย์สิน ก็เป็น “เครื่องทุ่นแรง” ทำให้เราได้พัก ได้หยุดได้บ้าง ในเวลาที่ต้องการ และจะว่าไป รายได้จากทรัพย์สินบางช่องทาง ก็สร้าง “คุณค่า” ให้กับเราได้เหมือนกัน อย่างเช่น บริษัทที่ปรึกษาของผม ไม่ได้แค่สร้างรายได้จากการทำงานของลูกน้องผมเท่านั้น แต่ในภาพรวมมันสร้างประโยชน์และพัฒนาวงการอุตสาหกรรมของไทยไปได้ด้วยเหมือนกัน
ที่ดีแล้วชีวิตเราควรมีทั้งสองอย่าง คือ ทั้ง Active และ Passive Income มีผสมผสานกันไว้เป็นเรื่องที่ดี รวมกันเรียกว่าเป็น “Multi-Income Stream” หรือการมีรายได้จากหลากหลายช่องทาง
วันที่ยังมีแรงมีกำลัง ก็สนุกกับ Active Income สร้างรายได้ ไปพร้อมกันกับการสร้างคุณค่า (แล้วทยอยสร้าง Passive Income ไประหว่างทาง)
วันไหนอ่อนแรง อยากพัก ก็มีเครื่องทุ่นแรง อย่าง Passive Income สร้างรายได้เลี้ยงชีวิตในวันที่เราพักจากการทำงานได้
สุดท้ายมันเหมือนกับเมื่อได้ผ่านทุกอย่างจึงเข้าใจ ... อิสรภาพทางการเงินที่หลายคนตามหา อาจไม่ได้วัดกันที่ “ตัวเงิน” แต่วัดกันที่ “ความคิด”
ความคิดที่อิสระจากเงิน ...
แน่นอนว่ายังไงชีวิตคนเราก็จำเป็นที่จะต้องมีเงินเพื่อให้เพียงพอกับการใช้จ่าย แต่เมื่อรายได้เพียงพอกับการใช้จ่าย (ไม่ว่าจะเป็น Active หรือ Passive) หลังจากนั้นมันอยู่ที่แต่ละคนจะจัด “สมดุลชีวิต” จาก “เวลา” ของแต่ละคนอย่างไร
ขอให้ทุกคนเริ่มต้นมองเห็นอิสรภาพทางการเงินในแบบของตัวเองครับ
#โค้ชหนุ่ม
04-01-2021
#Day5 #MoneyDiary #อิสรภาพการเงินลวงตา
同時也有67部Youtube影片,追蹤數超過87萬的網紅Paul Pattarapon พอล ภัทรพล,也在其Youtube影片中提到,EP. นี้ผมจะมาคุยเรื่อง passive income กับ active income ว่าแตกต่างกันอย่างไร ? แล้วแต่ละอย่างมีความหมายว่าอย่างไร ? ผมจะมาอธิบายให้ฟังกันครับ ช่องทาง...
「active passive」的推薦目錄:
- 關於active passive 在 Money Coach Facebook
- 關於active passive 在 Capt.Benz Facebook
- 關於active passive 在 Money Coach Facebook
- 關於active passive 在 Paul Pattarapon พอล ภัทรพล Youtube
- 關於active passive 在 Paul Pattarapon พอล ภัทรพล Youtube
- 關於active passive 在 CarDebuts Youtube
- 關於active passive 在 English SOS [文法篇]: 被動語態(Passive voice) 是什麼? 的評價
active passive 在 Capt.Benz Facebook 八卦
Ep.97 - “ความเห็น VS ความจริง ”
.
การเรียนรู้อะไรก็แล้วแต่
ความมุ่งหมายของเราคือ transformation
ไม่ใช่แค่ information
.
เรียนรู้อะไรก็ตามต้องลงมือทำ
ถ้าเรียนรู้อะไรไปแล้วไม่ลงมือทำ
ความรู้นั้นมันแค่ข้อมูล
แต่มันไม่ใช่ความจริง
.
กาลามสูตร 10
คุณจะเรียนรู้จากใคร
คุณจะฟังจากใครมาก็แล้วแต่
แม้ว่าเขาเป็นอาจารย์
แม้ว่าเขาเป็นพ่อแม่
แม้ว่าเขาเป็นพระพุทธเจ้า
ท้ายที่สุดแล้วคุณจะรู้ว่าความรู้นั้น
ใช่ หรือ ไม่ใช่ ได้ หรือ ไม่ได้
ต้องลงมือทำ
.
ความรู้เนี่ย
มันคือข้อมูล
มันคือ information
แต่มันไม่ใช่ความจริง
ความรู้กับความจริงเนี่ย
ไม่เหมือนกันความจริงมันจะเกิดขึ้น
หลังจากที่เราเอาความรู้มา
ปฏิบัติแล้วเท่านั้น
.
ความรู้ของคนนึง
อาจจะใช้ได้กับอีกคนนึง
ความรู้ของอีกคนนึงอาจจะใช้ไม่ได้
กับอีกคนนึงก็ได้
.
ทั้งนี้ทั้งนั้นความรู้มันเป็นแค่ครึ่งนึง
แต่อีกครึ่งนึงมันคือตัวเรา
เพราะฉะนั้นแล้ว
เรียนรู้อะไรมาเรียนไปเถอะ
เรียนรู้ให้เยอะยิ่งเยอะยิ่งดี
.
แต่อย่าลืมเด็ดขาด
เอากรวยตัวสำคัญที่สุด
ที่จะทำให้เราเนี่ย
ประสบความสำเร็จได้
ในความรู้นั้น ๆ
คือการลงมือทำเท่านั้นเอง
.
ปริยัติ ก็คือความรู้
ต้องเอาไปปฏิบัติ
ปฏิบัติก็คือการลงมือทำ
ถึงจะปฏิเวธ
ปฏิเวธก็คือ การรู้แจ้งแทงตลอด
รู้ว่าใช้ได้ รู้ว่าเวิร์คกับเรา
หรือไม่เวิร์คกับเรา
.
มีคนออกมาพูดเยอะแยะมากมาย
ทั้งในออนไลน์ ทั้งอ่านหนังสือ
ฟังเยอะ ฟังได้
แต่ต้องปฏิบัติด้วย
.
ถ้าคุณไม่ปฏิบัติ
คุณไปฟังใครแทบเป็นแทบตายยังไง
มันก็ไม่ได้เกิดผลลัพธ์อะไร
การเรียนรู้มีสองแบบ
แบบแรกคือ Passive Learning
แบบที่สองก็คือ Active Learning
.
Passive Learning ก็คือ
เรารับอย่างเดียว
รับมาแต่ไม่ได้ลงมือปฏิบัติอะไร
ไม่ได้ลงมือทำอะไร
ความรู้นั้นมันก็ใช้ไม่ได้มันก็เป็นแค่ information
.
การเรียนรู้อะไรก็แล้วแต่
ความมุ่งหมายของมัน
คือ transformation
ไม่ใช่แค่ information
มันต้องมีการเปลี่ยนแปลง
เกิดขึ้นจากความรู้นั้นครับ
.
เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
เราต้องทำให้
ความรู้ที่เราได้รับมาเนี่ย
เป็น Active Learning
.
เริ่มต้นง่าย ๆ จากการได้ใช้ความรู้นั้นจริง ๆ
ในการถามตอบกัน ในการพูดคุยกัน
เนี่ยแบบนี้ เรานั่งคุยกันแบบนี้
discuss กันแบบนี้
เรารู้ความรู้อะไรมาเอามา discuss กัน
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้แบบ
Active Learning
.
มันจะดีขึ้นไปอีกก็คือ
ได้ลงมือทำตามความรู้นั้นจริง ๆ
ดีขึ้นไปอีกลองเล่นเกม
เล่นแบบจำลองอะไรบางอย่าง
.
แต่ดีที่สุดเลย
ของการเรียนรู้อะไรมาก็แล้วแต่
“ลงมือปฏิบัติตาม”
เพื่อพิสูจน์ เพื่อทดสอบ
และดียิ่งไปขึ้นกว่าดีอีกคือ
ปฏิบัติจนสามารถสอนคนได้
นี่คือคุณได้รู้ในเรื่องนั้น
แบบจริงจริงแล้ว
.
ระบบการศึกษาเนี่ย
บางครั้งบางทีมันเน้น Passive Learning เกินไป
คนในไหนไหวตัวทันก็ให้เด็กเรียนรู้
แบบ Active Learning
.
เหมือนกับที่ฟินแลนด์
เขาให้เด็กเรียนรู้
แบบ Active Learning
ลองไปศึกษาดูตั้งแต่อนุบาลเลย
เด็กนี่แบบเล่นจริงเจ็บจริง
แล้วก็เรียนรู้จริง ๆ
เด็ก 9 ขวบปลูกผัก ปลูกพืช
เลื่อยไม้ได้แล้ว
.
ประเด็นคือไม่ใช่ว่าออนไลน์แล้ว
มัน Active Learning ไม่ได้
มันอยู่ที่ว่าคุณออกแบบหลักสูตรยังไง
เพราะท้ายที่สุดแล้วก่อนที่จะไปปฏิบัติอะไร
มันต้องรู้ข้อมูลชุดนึงมาก่อนอยู่ดี
.
ออนไลน์เป็นแค่อุปกรณ์นึงเครื่องมือนึง
ในการทำให้คนเนี่ยได้รับความรู้
แต่ถ้าสอนออนไลน์
คุณต้องมีบริบทอะไรบางอย่าง
เพื่อให้เขารับรู้ข้อมูลในออนไลน์
แล้วก็เอาไปลงมือปฏิบัติตาม
.
ในคอร์สออนไลน์ของพี่เนี่ย
พี่สร้างการเรียนรู้
แบบ Active Learning อยู่แล้ว
ก็คือให้เขาได้ Live เลย
เรียนรู้อะไรมาปุ๊บ
ไปลองทำเลย
ไปลงมือจริงจังอย่างนั้นเลย
.
ออกแบบได้ ออกแบบเลย
เรียนรู้ที่จะเป็น Facilitator
ไม่ใช่แค่ Teacher
เรียนรู้ที่จะเป็นคนที่ออกแบบการเรียนรู้
ไม่ใช่แค่เอาข้อมูลไปให้ผู้เรียน
.
ปัญหาที่มันเกิดขึ้น
ทุกวันนี้ก็เพราะเสพรับแต่ข้อมูล
แต่ไม่เคยพิสูจน์ว่า
ข้อมูลนั้นมันจริงหรือเปล่า
.
คนบางคนเนี่ยยังเรียกเราว่าไลฟ์โค้ชอยู่เลย
ทั้ง ๆ ที่เราก็บอกแล้วว่าเราไม่ใช่ไลฟ์โค้ช
แล้วไลฟ์โค้ชจริง ๆมันไม่ใช่แบบเราเลย
.
ไลฟ์โค้ชเนี่ยเขาคือ
กลุ่มอาชีพอีกอาชีพนึงเลย
ซึ่งเขาฝึกฝนเขาอะไรมา
พอมีดราม่าปุ๊บ
ไลฟ์โค้ชเดือดร้อนเลย
.
คือทุกวันนี้ที่สงสัยยังสงสัยอยู่เลยว่า
ไอ้คำว่าไลฟ์โค้ชในโลกทัศน์ของคนที่พูดคำนี้
ด้วยความคิด negative เนี่ย
มันไลฟ์ สะกดยังไงวะ
L - I - F - E
หรือ L - I - V - E
ถ้า L - I - V - E เนี่ยคือ
livecoach แบบว่า ออกมาทำ facebook live
อย่างนั้นคนที่ออกมาทำคลิป
ออกมา live เป็น livecoach หมดเลย
.
ไลฟ์ มันต้องเป็น life แบบชีวิต
ซึ่งอันนี้มันเป็นอาชีพมันเป็นวิชาชีพ
ที่จะต้องสอบไม่ใช่แบบอยู่ดี ๆ
อัดคลิปขึ้นมาแล้วเป็นไลฟ์โค้ชเลย
.
ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน
เพราะว่าหลาย ๆ คน
เข้าใจอย่างนั้นไปแล้ว
ก็ปล่อยเขาไป
.
สิ่งที่เราเห็นตรงนี้ปุ๊บ
เราเห็นเรายิ่งเข้าใจไงว่า
อ๋อ…คนเนี่ย
เขาแสดงความคิดเห็นอะไร
หรือพูดอะไรตาม information
ตามข้อมูลที่เขามีน้อยมากที่จะพูด
ตามความเป็นจริง
.
น้อยมากที่จะเคยทดสอบอะไร
ไปรู้จักจริง ๆ
คนบอกว่าไลฟ์โค้ช
อย่างนี้ไลฟ์โค้ช อย่างนู้นไลฟ์โค้ช
อย่างนั้นไลฟ์โค้ช
ออกมาพูดปุ๊บใครออกมาไลฟ์ปุ๊บ
บอกเป็นไลฟ์โค้ช
.
สื่อต่าง ๆ ก็เหมือนกัน
เวลาเห็นคนพูดอะไร ก็เรียกเค้าว่าไลฟ์โค้ช
ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว
ไลฟ์โค้ชมันไม่ใช่ความหมายอย่างนั้นไง
มันไม่ใช่แค่ความหมายแค่นี้ไง
พาหุสัจจัญจะ ไม่ใช่บอกว่า พาหุสุตตันตะ
สุตตันตะคือฟังเยอะ ๆ
.
แต่ถ้าบอกว่าพาหุสัจจัญจะ
พาหุสัจจัญจะคือ
หาความจริงเยอะ ๆ
ไม่ใช่คุณเรียนอย่างเดียว
แต่คุณเรียนแล้วลงมือทำด้วย
มันถึงจะเกิดสิ่งที่เกิดตามมาก็คือ
สิปปัญจะคือ รู้ศิลปะ
รู้เทคนิค รู้กลยุทธ์ รู้วิธีการ
ในการลงมือทำสิ่งต่าง ๆ
ในการเอาความรู้ มาใช้ให้เกิดประโยชน์
มันควบคู่กัน
.
รู้ศาสตร์ แล้วก็ต้องรู้ศิลป์
คือทุกวันนี้หาได้น้อยนัก
คนที่จะเอาความจริงมาพูดกัน
คนเราแสดงความคิดเห็น
แสดงได้แค่ข้อมูลที่ตัวเองมี
แค่นั้น
.
ถ้าเขามีข้อมูลแค่นี้ แน่นอน
เขาแสดงได้แค่นี้
ไลฟ์โค้ชเป็นอย่างนี้
อย่างนี้เป็นความโลภ
อย่างนี้เป็นอะไรอย่างนี้
บ้าบอคอแตก
.
รู้ข้อมูลอะไรก็รู้ไปเถอะ
แต่ว่าคุณจะชัดเจนในข้อมูลนั้นได้
คุณต้องเอาข้อมูลนั้น
มาลงมือทำก่อน
.
คุณไม่มีทางที่จะว่ายน้ำเก่งได้
ด้วยการอ่านหนังสือว่ายน้ำ
เป็นร้อยเป็นพันเล่ม
คุณจะว่ายน้ำเก่งได้ต่อเมื่อ
คุณกระโดดลงไปในสระ
ฉันใดฉันนั้น
#ผู้กองเบนซ์
.
ปล. เรียนรู้ แล้วต้องลงมือทำ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz
active passive 在 Money Coach Facebook 八卦
DAY 41: เป็นพนักงานประจำก็มั่งคั่งได้ ถ้าบริหารเงินเป็น
ถึงยุคสมัยนี้ ดูเหมือนหลายคนเริ่มดูแคลน "งานประจำ" กันมากขึ้นทุกที ทั้งๆที่ในมุมมองของผม งานประจำเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างในชีวิตจริง หลังออกจากรั้วมหาวิทยาลัย
ปัจจัยหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเรื่อง "รายได้" ที่หลายคนเชื่อกันว่า การทำงานประจำให้รายได้น้อย และอาจทำให้เรามั่งคั่งร่ำรวยไม่ได้ หรือถ้าได้ก็ช้า
จากประสบการณ์ของตัวเอง ผมเชื่อว่า ถ้าคนเราเจอสิ่งที่รักในงานประจำอยู่บ้าง คุณก็สามารถทำมันไปพร้อมๆกันกับสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้เหมือนกัน ถ้าคุณ ...
1) ทำเงินให้มีเหลือได้ทุกเดือน ... จะออมก่อนใช้ ใช้ก่อนออม อะไรก็ได้ สัก 10% กำลังดี (ถ้าได้ถึง 20% ยิ่งสวย) ... มีโบนัสหรือคอมมิชชันเมื่อไหร่ กันไว้ครึ่งหนึ่ง (50%) เพื่อลงทุนเสมอ
2) ลงทุนใน "เวลา" (ที่คุณเชื่อว่ามีเหลืออยู่น้อยนิด) ให้กับ
2.1 "ความรู้" ในการลงทุน อ่านหนังสือ ตำรา ฟัง podcast ดู Youtube สัมมนาดีดี พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
2.2 "เครือข่าย" หรือกลุ่มคนที่คิดสร้างเนื้อสร้างตัว (ไม่คบคนพาล) สร้างสภาพแวดล้อมดีๆ สังคมของคนก้าวหน้าให้อยู่รอบตัว
2.3 "โอกาส" ... รู้จักเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พบผู้คนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ แนวคิดใหม่ อยู่เสมอ
3) แบ่งเงินเล็กๆ น้อยๆ ลงในแผนเกษียณรวย
ใช้เงินเล็กน้อย สะสมลงกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ถ้าคุณเป็นข้าราชการ) หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กรณีพนักงานบริษัทเอกชน) เรียนรู้วิธีการเลือกแผนลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและโอกาส
ถ้ายังมีเงินเหลือเอาไปลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม วางแผนให้ชัดเจน และลงมือทำต่อเนื่องให้มั่นใจว่า เกษียณเรามีเงินใช้แน่ๆ (ชาตินี้รวยหรือเปล่าไม่รู้ แต่แกกูต้องมีเงินใช้ กูต้องไม่จน)
4) สร้างทรัพย์สินด้วยเพื่อการ "เกษียณเร็วขึ้น"
ทำงานประจำก็ลงทุนในธุรกิจได้ ทั้งทางตรง (สร้างธุรกิจนอกเวลางาน) หรือทางอ้อม (ลงทุนในหุ้น) หรืออาจเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ สร้างทรัพย์สินทางปัญญา หรือสินทรัพย์ดิจิตอล อะไรก็ได้
สำคัญสำหรับข้อ 4) นี้ก็คือ อย่าลืมข้อ 2) เรียนรู้ก่อนลงทุน
จำไว้ High Understanding, High Return.
พนักงานประจำหลายคนที่ผมรู้จัก แม้จะมีกระแสเงินสดจากทรัพย์สิน (Passive Income) มากกว่ารายได้จากงานประจำ แต่พวกเขาก็ยังเลือกทำงานที่เขารักต่อไป ทั้งนี้เพราะเขาเรียนรู้ว่า ความมั่งคั่งทางการเงิน ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับเขาได้
เขาบอกกับผมว่า “Passive Income ช่วยผ่อนแรงและลดความกังวลทางการเงิน ส่วน Active Income ทำให้รู้สึกชีวิตมีค่า”
ทำอาชีพอะไรก็รวยได้ มีอิสรภาพทางการเงินได้ ขึ้นอยู่กับว่า คุณวางแผนชีวิต (Life Plan) ไว้อย่างไร และตั้งใจกับชีวิตมากแค่ไหน
ถ้ามีลู่ทาง การทำธุรกิจก็มีโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้เร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงให้ต้องบริการจัดการ ถ้าไหว ถ้าทำได้ ก็ลุยเลย เช่นเดียวกันกับการเป็นนักลงทุน ถ้ารู้และเข้าใจบวกกับเงินทุกพร้อม ก็ไม่มีปัญหา หรือจะทำพร้อมกันหลายอย่างสร้างรายได้พร้อมกันจากหลายทาง ก็ยิ่งดี
ถ้าวันนี้คุณยังโทษงานประจำ ว่าทำให้คุณไม่รวย หรือไม่มีอิสรภาพการเงิน ลองถามตัวเองดีดีสิครับว่า
"งาน" คือ ตัวปิดกั้นอิสรภาพทางการเงินของคุณ หรือ "ความคิด" ของคุณนั่นแหละ ที่ปิดกั้นอิสรภาพของตัวเอง และโอกาสในการร่ำรวยของตัวเอง
ค้นพบคำตอบเมื่อไหร่ ก็เริ่มนับหนึ่งความมั่งคั่งได้ครับ
#โค้ชหนุ่ม
active passive 在 Paul Pattarapon พอล ภัทรพล Youtube 的評價
EP. นี้ผมจะมาคุยเรื่อง passive income กับ active income ว่าแตกต่างกันอย่างไร ?
แล้วแต่ละอย่างมีความหมายว่าอย่างไร ? ผมจะมาอธิบายให้ฟังกันครับ
ช่องทางการติดต่อ :
Instargram : https://www.instagram.com/paulpattarapon/
Facebook : https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCunVACpk7PRWB1tz1VrhrrA
สนใจติดต่อโฆษณา และทำวีดีโอ Youtube
โทร : 02-048-5705-9
Email : [email protected]
Powered by CastingAsia
#PaulPattarapon #พอลภัทรพล #ลงทุน #ฝากเงิน #ตลาดหลักทรัพย์ #หุ้น #เกษียณ #วางแผนการเงิน #อิสระภาพทางการเงิน #จิตวิทยา #ทฤษฏีคิดบวก #positivethinking
#ช่องพอล #ทัศนคติบวก
active passive 在 Paul Pattarapon พอล ภัทรพล Youtube 的評價
วิธีการเพิ่มรายได้อีกช่องทางหนึ่งคุณหรือใครก็ทำได้นั่นก็คือ การหาอาชีพเสริมครับ ซึ่ง EP.นี้ผมจะมายกตัวอย่าง
อาชีพเสริม 5 อาชีพ ว่าเป็นอะไรบ้าง และรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ไปติดตามรับชมในคลิปพร้อมกันได้เลยครับ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้กดติดตาม
สามารถเข้าไปได้ที่ YouTube Channel : Paul Pattarapon พอล ภัทรพล
Link: https://www.youtube.com/channel/UCunVACpk7PRWB1tz1VrhrrA
ช่องทางการติดตาม
Facebook : https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial
Instagram : https://www.instagram.com/paulpattarapon
Website : https://www.paulpattarapon.com
สนใจติดต่อโฆษณา และทำวีดีโอ YouTube
โทร : 02-048-5705-9
Email : [email protected]
Powered by CastingAsia
#MoneyMatters #PaulPattarapon #พอลภัทรพล #อาชีพเสริม
active passive 在 CarDebuts Youtube 的評價
เปิดตัว ราคา รีวิว The new Toyota Yaris Cross Hatchback 2019 - 2020 โตโยต้า ยาริส ครอสส์ แฮทช์แบ็ค เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ใหม่
หลังจากที่ได้เปิดตัว Yaris Ativ ใหม่ ไปเมื่อวันก่อน Toyota ประเทศไทย ส่งดาบ 2 มากระตุ้นตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ด้วย Yaris Hatchback ใหม่ ที่มาพร้อมขุมพลังเบนซินใหม่ ความจุ 1.2 ลิตร พร้อมชุดแต่ง Cross ที่มีการปรับช่วงล่าง ยกสูงขึ้นอีก 30 มิลลิเมตร ในราคาชุดแต่ง ที่ 35,000 บาท
Toyota Yaris Hatchback ใหม่ ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ aerodynamics ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำ พร้อมหลังคา catamaran ลดการปะทะของแรงลม ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ และ LED Light Guiding ไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า ส่วนไฟท้าย เป็นแบบ LED Light Guiding กระจกมองข้างสีดำเงา พร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน ขนาด 15 นิ้ว มือเปิดประตูด้านนอกแบบโครเมี่ยม พร้อมระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry และเสาอากาศแบบครีบฉลาม
ห้องโดยสารภายใน มาพร้อมเบาะหนังสีดำสไตล์สปอร์ต มาตรวัดเรืองแสงแบบ optitron หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะแบบจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS หุ้มหนัง พร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ หัวเกียร์หุ้มหนัง ตกแต่งสีดำเปียโนแบล็ค ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ Push Start ระบบความบันเทิงเต็มรูปแบบ ด้วยเครื่องเสียงพร้อมหน้าจอสัมผัส รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมลำโพงรอบทิศทาง 6 ตำแหน่ง และสะดวกสบายกว่า ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
นอกจากนั้น ยังมีกล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง แผงควบคุมกระจกไฟฟ้า กระจกไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบฝั่งผู้ขับขี่ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ พร้อมที่ปิด เบาะนั่งด้านหลัง ปรับและพับแยกอิสระ แบบ 60-40 ช่องเก็บของฝั่งผู้ขับขี่ ลิ้นชักเก็บของฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า
Toyota Yaris hatchback ใหม่ ยังมาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ Dual VVT-iE 4 สูบ DOHC ปรับแต่งใหม่ ให้แรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้น พร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม shift lock และฟังก์ชัน S Mode ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ อัตราเร่งที่ดีขึ้น มั่นใจทุกการเร่งแซง ให้ความสนุกในการขับขี่มากยิ่งขึ้น (Fun-To-Drive) โดยมีกำลังสูงสุด ที่ 92 แรงม้า PS ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ลดการปล่อยไอเสียและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และผ่านการรับรองมาตรฐานมลพิษ EURO 5 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ถึง 23.3 กม./ลิตร พร้อมระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ Stop & Start System ที่ตัดการทำงานชั่วขณะ และจะสตาร์ตขึ้นมาใหม่โดยอัตโนมัติ เมื่อแตะคันเร่ง ช่วยประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น และขณะที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน เครื่องปรับอากาศ จะยังคงส่งลมเย็นออกมาอย่างต่อเนื่อง
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ McPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบ torsion beam และคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ในด้านระบบความปลอดภัย Toyota Yaris hatchback ใหม่ จะมาพร้อมระบบ active safety ซึ่งได้แก่
1. ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
2. ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ป้องกันรถไหล ในจังหวะออกตัวบนทางลาดชัน
3. กล้องมองหลัง ปลอดภัย มั่นใจยิ่งขึ้น
4. กุญแจป้องกัน การโจรกรรม Immobilizer พร้อมระบบป้องกันการปลอมแปลง ทำให้ไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ เมื่อรหัสกุญแจและเครื่องยนต์ ไม่ตรงกัน
5. ระบบไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow-me-Home ไฟนำทาง หลังจากลงจากรถ เพิ่มความสะดวกและปลอดภัย
ระบบ passive safety ประกอบด้วย
1. ถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง เพิ่มความปลอดภัย ด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านด้านข้าง และเข่าของผู้ขับขี่
2. โครงสร้างนิรภัย GOA โครงสร้างที่ดูดซับแรงกระแทกจากการชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แข็งแกร่ง ปลอดภัย มาตรฐานระดับโลก
Toyota Yaris hatchback ใหม่ ยังมาพร้อมชุดแต่ง Cross กับภาพลักษณ์ในสไตล์รถครอสโอเวอร์ หรือ SUV ขนาดเล็ก ที่มีการยกสูง 30 มิลลิเมตร ด้วยชุดสปริง และโช้คอัพยกสูงหน้า-หลัง เพิ่มความสปอร์ตด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง พร้อมชุดตกแต่งขอบประตูรถ สเกิร์ตหลัง พร้อมสัญลักษณ์ Cross ท้ายรถ หลังคาเคลือบฟิล์มดำสไตล์สปอร์ต ในราคา 35,000 บาท
Toyota Yaris hatchback ใหม่ มีให้เลือก 7 สี ดังนี้ สีแดง Red Mica Metallic สีเทา Gray Metallic สีเงิน Silver Metallic สีขาว Super White สีดำ Attitude Black Mica สีส้ม Orange Metallic และสีเขียว Citrus Mica Metallic ใน 3 รุ่นย่อยดังนี้
รุ่น High เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท
รุ่น Mid เกียร์อัตโนมัติ ราคา 589,000 บาท
รุ่น Entry เกียร์อัตโนมัติ ราคา 539,000 บาท
active passive 在 English SOS [文法篇]: 被動語態(Passive voice) 是什麼? 的八卦
What is the Passive Voice? Many Hongkongers accidentally ... How to Use Active & Passive Voice to Improve Your Grammar. Interactive English. ... <看更多>