#รีบรีวิว Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี
การทดลองคลั่ง ของคนเป็น vs. คนตาย
รู้ไว้ก่อนดู: https://youtu.be/yDAyvaPhZ_E
"ผี = ?" เมื่ออยากรู้ต้องทดลอง! ถ้ามีอยู่จริง ต้องพิสูจน์! ต่อ-ธนภพ และ ไอซ์ พาริส รับบทเป็นกล้าและวี 2 แพทย์หนุ่มคู่หู ที่ไม่อาจสลัดความหมกมุ่น ในเรื่องของ “โลกหลังความตาย” คนหนึ่งฝังใจเชื่อเรื่องผีมาตั้งแต่เด็ก อีกคนเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น พวกเขาจึงจับมือร่วมกันเปิดโปรเจกต์ "ทดลองผี" เพื่อหาคำตอบว่าแท้จริงแล้ว ผีคืออะไรกันแน่ ? แล้วโลกหลังความตายมีอยู่จริงหรือไม่ ?
แค่ไอเดียของเรื่อง ที่ใช้ตัวเดินเรื่องหลักเป็นหมอ มาทำการทดลองพิสูจน์ผี ก็ว่าน่าสนใจแล้ว ยิ่งรวมเข้ากับการจับคู่กันระหว่างไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ ก็นับว่าเป็นประเด็นที่มีความสากล และช่วยกระตุ้นให้อยากดู Ghost Lab มากขึ้นไปอีก
แม้ประเด็นหลักจะพูดถึงเรื่องผี หรือการทดลองเพื่อทำให้เห็นผี แต่สำหรับคนที่กลัวผีก็ไม่ต้องห่วงเลยว่าคุณจะดูหนังเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะ Ghost Lab จะช่วยปรับความคิด และมุมมองที่มีต่อผีใหม่ และช่วยให้คุณสนุกไปกับความท้าทายของการทดลองมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย และเช่นเดียวกันตัวหนังก็มีความเป็นวิทยาศาสตร์สูงมาก ๆ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าหนังจะพูดเรื่องผีเป็นหลัก แต่มันจะเป็นมุมมองเรื่องผี แบบที่นักวิทยาศาสตร์มอง ซึ่งตัวหนังมีการเปรียบเทียบปรากฏการณ์การเจอผีให้เข้าใจง่าย และเห็นภาพอย่างชัดเจน
หลายครั้ง หนังมักจะพาคนดูให้คิดนำไปไกลและคาดเดาว่าตอนจบจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่ Ghost Lab กลับมีเซอร์ไพรส์ชวนอึ้งอยู่ตลอดเวลา หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นเกินกว่าที่จะคาดเดา และมันทำงานกับคนดูทุกครั้งเมื่อเรื่องราวมาถึงจุดเปลี่ยน
การแสดงของ ต่อ และ ไอซ์ ถ่ายทอดอารมณ์ต่าง ๆ ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วง 15 นาทีแรกที่ตัวละครเจอผีพร้อมกัน เผยให้เห็นความกระหายใคร่รู้ของตัวละคร ทั้งสองสามารถ่ายทอดผ่านสีหน้าออกมาได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันซีนดราม่าหรือซีนกลัวเอง ต่อ ก็ถ่ายทอดอารมณ์และสีหน้าออกมาได้ยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตามตัวหนังก็มีวิธีการทดลองที่สุดโต่งมาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันลักษณะ บุคลิก ความคิด และการเซ็ตติ้งตัวละครก็มีเหตุผลมากพอที่จะรองรับความสุดโต่งนี้ แม้ว่า "ผี" ที่มาร่วมทดลองในเรื่องจะมีความเอาแต่ใจจนดูไม่ค่อยสอดคล้องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าไหร่ แต่จากประสบการณ์ที่เคยฟังคนเล่าในห้อง #ไม่ใช่พี่ป๋อง ผีก็มักจะมีการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลคล้าย ๆ กับที่เวลามีคนเจอผีจริง ๆ แม้วิธีการทดลองจะสุดโต่งมากแค่ไหน แต่ตัวหนังเองก็พาคนดูย้อนกลับมาสำรวจและทบทวนตัวเอง ระวังทุกการกระทำ และทุกความคิดในการใช้ชีวิต เพื่อให้เห็นคุณค่าของชีวิตมากยิ่งขึ้น
นอกจากพาร์ทการทดลองผีแล้ว Ghost Lab ยังมีพาร์ทดราม่าที่หนักหน่วงไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็นปมเรื่องของคุณแม่ วี หรือปมความรักของ กล้า และ ใหม่ที่ทั้งชวนเศร้า เจ็บ และกระอั่กกระอ่วน
น่าเสียดายที่หนังมีหลาย ๆ ประเด็นทีไม่ได้ถูกหยิบมาเล่าต่อไม่ว่าจะเป็นปมแม่ของของ "วี" ที่ดูจะถูกใส่มาแบบขาด ๆ เกิน ๆ ไปซักนิด ตัวละครพยาบาลผู้หญิงที่แอบมองหมอวี หรือตัวละครน้องผู้หญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายก็ไม่ได้ถูกเล่าต่อ หรือแม้แต่วิธีการทดลองเอง หลาย ๆ อันดูมีความเป็นวิทยาศาสตร์มาก ๆ แต่พอถึงเวลาที่ตัวละครจะข้ามเส้นกลับเลือกวิธีที่ไม่วิทยาศาสตร์สักเท่าไหร่
หนังเต็มไปด้วยไอเดียและประเด็นที่น่าสนใจ แต่กลับถูกโยนทิ้งแล้วเข้าโค้ง U-Turn สู่ลูปเดิมของหนังสยองขวัญที่ดูกันมานับต่อนับความเป็นหนังวิทย์ไซไฟในครึ่งแรก ต้องแพ้ทางให้กับความเป็นหนังผีสอนใจ นำเราไปวนสู่ลูปเดิมของหนัง GDH ที่ไม่กล้าพาตัวละครไปสู่พื้นที่ดำมืดโดยสมบูรณ์ แม้จะเป็นผลงานที่ดูแล้วสุดบันเทิงตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เราก็แอบเสียดายที่หนังไม่ได้ปฏิวัติวงการหนังผีอย่างที่ตั้งตัวเอาไว้ในทีแรก.. จุดนี้คงต้องกับแต่ล่ะคนอยากให้ทุกคนลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง!
Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี
วันนี้ ที่ Netflix เท่านั้น
ป.ล. นี่คือหนังไทยเรื่องแรกที่มีการทำภาพแบบ Dolby Vision บ้านใครจอดีบอกเลยว่าห้ามพลาด สีสวยมาก และการมิกซ์เสียงถึงจะเป็น Dolby 5.1 ไม่ได้บียอนด์ไประดับ Atmos ก็ยังคงกระหึ่มและเต็มไปด้วยมิติลูกเล่นให้หลอนกันตลอดเรื่อง
#จดอ #JUSTดูIT #GhostLab #ฉีกกฎทดลองผี
#GhostLabNetflix #NetflixTH
Search