สุกี้ที่คนไทยกินๆกัน มันมีทั้งแบบ สุกี้หม้อไฟแบบจีน และสุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่น ซึ่งที่มาที่ไป และวิธีกินแตกต่างกัน อย่างพวก สุกี้ mk โคคา เท็กซัส บลาๆ พวกนี้จะได้รับอิทธิพลมาจาก สุกี้หม้อไฟ ที่มีรากฐานมาจาก กู่ต่งเกิน ซึ่งเป็นน้ำซุปโบราณของจีนที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง ซึ่งหลังจากนั้นก็แพร่หลายไปตามภูมิภาคต่างๆของจีนแล้วพัฒนาเป็นสุกี้เฉพาะตัวของแต่ละถิ่น เช่น สุกี้กวางตุ้ง สุกี้เสฉวน ไหหลำ บลาๆ
ส่วนของบ้านเราที่กินกันตามสุกี้ mk โคคา เท็กซัสพวกนั้น เข้าใจว่า มาจาก สุกี้แต้จิ๋ว หรือไม่ก็สุกี้กวางตุ้ง โดยจะเน้น เนื้อสัตว์และผักหลากหลายชนิด ตามด้วย น้ำจิ้มที่ใช้เต้าหู้ยี้เป็นส่วนผสม พวกนี้ก็กินซุปได้ (ถ้าไม่ใส่เครื่องปรุงให้มันเค็มมากนักน่ะนะ)
ส่วนสุกี้แบบ ชาบู เช่น ร้านโมโมะพาราไดส์ โนบุ อะไรประมาณนี้ จะเป็นสุกี้สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งประวัติแตกต่างออกไปจากสุกี้หม้อไฟ คือในสมัยเอโดะ ชาวนาที่ญี่ปุ่นยุคนั้นยังใช้จอบเป็นอุปกรณ์นึงในการทำอาหาร ไม่ว่าจะหั่นเนื้อหั่นผัก หั่นปลา เต้าหู้ ทำให้เกิดเมนูสุกี้ยากี้ โดยเป็นการรวมของคำว่า suki (鋤) ที่แปลว่า จอบ กับ yaki (焼き) ที่แปลว่าย่าง คือใช้จอบย่างอาหารกิน โดยหลักๆสุกี้แบบนี้จะใช้น้ำซูปที่มีรสเข้มข้นมากๆมาต้มเนื้อสัตว์หรือผัก หรือ เอาผักและเนื้อไปต้มจนสุกก่อน แล้วค่อยเอามาผัดปรุงรสในหม้อก่อนกินอีกที โดยจะแบ่งเป็น สุกี้แบบคันโต กับแบบคันไซ
ซึ่งก็ตามที่อธิบายไป ในสุกี้ชนิดนี้ ตัวน้ำซุปมีหน้าที่ปรุงรสให้เนื้อ ไม่ได้มีไว้ซด แตกต่างจากสุกี้หม้อไฟ ที่พื้นฐานมาจาก ซุปโบราณที่เสริมเครื่องใส่เนื้อใส่ผักเข้าไปทีหลัง
ดังนั้นถ้าไปกินสุกี้แบบญี่ปุ่น ก็ลวกเนื้อในซุปแล้วจิ้มซอสจิ้มไข่กินนะครับ ไม่ต้องซดน้ำซุปในหม้อ เขาไม่ได้เอาไว้ให้ซดกินแบบซุปครับ มันก็เหมือนเครื่องปรุงไว้ปรุงรสเนื้อนั่นแหละ ถ้าซดๆไปเป็นห่วงสุขภาพไตนะครับ
