ค่ายมวยบัญชาเมฆ ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่บัวขาวจะเริ่มซ้อมพรุ่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่นี้ เราจะเรียกชื่อที่ตั้งนี้ว่า * Buakaw Village * บัวขาว วิลเลจ *
และเราจะเริ่มสร้าง ค่ายมวย แบบจำลอง จาก
“ค่ายมวยบัญชาเมฆ สุรินทร์” ซึ่งเป็นค่ายมวย ของบัวขาวตั้งขึ้นครั้งแรก เเละนำป้ายค่ายมวยที่เเรกของจริงมาที่นี่ด้วย และเหตุผลที่ เรียกที่ตั้ง นี้ว่า Buakaw Village เพราะ จะไม่มีแค่ค่ายมวยเท่านั้น จะมี สิ่งอื่นๆ อีกมากมายให้รอติดตาม 🙏 เราจะ ทำหน้าที่ของตนให้พัฒนายิ่งขึ้นไป เพื่อชื่อเสียงของมวยไทย และประเทศไทย
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過137萬的網紅555INFINITY,也在其Youtube影片中提到,Xiaomi ผลิตตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ!!! ของทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน Xiaomi คิดค้น พัฒนา และประดิษฐ์ออกมาได้ตอบโจทย์คนทุ...
「แบบจำลอง」的推薦目錄:
- 關於แบบจำลอง 在 Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) Facebook
- 關於แบบจำลอง 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook
- 關於แบบจำลอง 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook
- 關於แบบจำลอง 在 555INFINITY Youtube
- 關於แบบจำลอง 在 Wizard1st Youtube
- 關於แบบจำลอง 在 5 ม.ค. 65 | การสร้างแบบจำลองชั้นบรรยากาศ (1) - YouTube 的評價
- 關於แบบจำลอง 在 EP 22 | วิทยาศาสตร์/แบบจำลองทางวิทยาศาสตร์และทักษะการสร้าง ... 的評價
แบบจำลอง 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 八卦
หากเราจะลดฝุ่นโดยการใช้น้ำฉีด หรือเครื่องกรองยักษ์ สามารถทำได้หรือไม่?
ทุกวันนี้ปัญหาอย่างหนึ่งที่คนไทยทั้งประเทศคอยจับตาดู ก็คือปัญหาของฝุ่นโดยเฉพาะ PM2.5 ที่สามารถเป็นต้นเหตุของโรคในระบบทางเดินหายใจได้ในระยะยาว
ภาพนี้เป็นภาพเปรียบเทียบวิสัยทัศน์ที่เห็น ในวันต่างๆ โดยภาพทั้งหมดนี้นั้นเป็นภาพที่ได้มาจากกล้องโดยตรง ไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ ทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าภาพของวันนี้ (3 ก.พ. 2563) หรือภาพล่างทั้งสอง มีปัญหาฝุ่นละอองในระดับที่สูงอย่างเห็นได้ชัด
แต่นอกไปจากการใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองส่วนบุคคลแล้ว เราพอที่จะมีวิธีแก้ปัญหาในระยะสั้น ที่ไม่ต้องหวังพึ่งลมฟ้าอากาศ ในบทความนี้เราจะมาลองทำการประมาณทางวิทยาศาสตร์อย่างง่ายๆ ว่า เราจะต้องใช้ทรัพยากรมากแค่ไหนในการกำจัดฝุ่นในระยะสั้น
วิธีกำจัดฝุ่นในระยะสั้นที่เสนอกันนั้น ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันสองวิธี นั่นก็คือ การเอาน้ำฉีด และใช้เครื่องกรองอากาศ
#แบบจำลอง
เราสามารถประมาณค่าการกรองของวิธีทั้งสองได้ โดยคิดเอาง่ายๆ ว่าวิธีการกรองนั้นจะต้องเห็นปริมาตรของอากาศ แล้วก็เอาฝุ่นส่วนหนึ่งออกไปจากมวลอากาศนี้
เช่น สมมติว่าเครื่องกรองเครื่องหนึ่งดูดอากาศเข้าไปในอัตรา 1 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง และสามารถกรองฝุ่นออกไปได้ 75% ของที่ดูดเข้าไปทั้งหมด หากในห้องหนึ่งมีค่า pm2.5 เท่ากับ 100 ไมโครกรัมต่อลบ.ม. เราก็จะได้ว่าเครื่องนี้จะสามารถกำจัดฝุ่นออกไปจากอากาศได้ 75 ไมโครกรัม ทุกๆ หนึ่งชม.
แต่หากเราจะคิดให้ง่ายกว่านั้น ก็คือ สมมติว่าเรามีห้องๆ หนึ่ง ที่มีปริมาตร 1 ลบ.ม. หากเราต้องการใช้เครื่องกรองที่มีประสิทธิภาพกรองฝุ่น 75% และต้องการที่จะกำจัดฝุ่น 75% ออกไปจากห้อง เราจะพบว่าไม่ว่าในห้องนั้นจะมีค่า pm2.5 เท่าใด เครื่องกรองนั้นก็จะต้องดูดอากาศเข้าไปอย่างน้อย 1 ลบ.ม. จึงจะสามารถลด pm2.5 ไปได้ 75%
ส่วนในกรณีของการฉีดน้ำนั้น แท้จริงแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันแต่อย่างใด โดยเราสามารถพิจารณาหยดน้ำให้เป็นทรงกลมที่ตกลงจากที่สูง หยดน้ำแต่ละหยดจะกวาดผ่านปริมาตรของอากาศไปค่าหนึ่ง นั่นก็คือเราสามารถคำนวนได้ว่าน้ำของเราจะ "เห็น" ปริมาตรของอากาศเป็นปริมาณเท่าใด จากนั้นหยดแต่ละหยดก็จะมี "ประสิทธิภาพ" ในการดูดฝุ่นเข้าไปไว้ในหยดน้ำ ซึ่งหากเราสมมติหยดน้ำแต่ละหยดนั้นสามารถดูดฝุ่นละอองไปได้เพียงแค่ 75% ของที่กวาดผ่าน เราก็จะพบว่าหากเราจะใช้การฉีดน้ำชะเอาฝุ่นออกไป 75% ของห้องขนาด 1 ลบ.ม. การคำนวณก็จะไม่แตกต่างอะไรกับในตอนก่อนหน้านี้ นั่นก็คือหยดน้ำจะต้อง "เห็น" ปริมาตรอากาศทั้งสิ้น 1 ลบ.ม. ไม่ต่างกัน
#อากาศในกทม
ลำดับถัดไป เราจะต้องทราบว่าปริมาณของอากาศที่เราต้องการจะทำการ "บำบัด" มีปริมาณเท่าใด สมมติว่าเราสนใจที่จะเพียงแค่ลดปริมาณของฝุ่นละอองในกทม. ลงไปครึ่งหนึ่ง
- กรุงเทพมหานครมีพื้นที่ 1,568 ตารางกิโลเมตร
- สมมติให้ทั้งกทม.มีฝุ่นปกคลุมอยู่สูงถึงความสูงของ mixing layer ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพอากาศ เอาง่ายๆ ว่าขึ้นไปบนดอยอินทนนท์ที่ความสูง 2,500 เมตรก็ยังเจอ แต่เอาแบบ conservative หน่อยๆ ช่วงที่อากาศกดมากๆ ก็สมมติเอาแค่ 100 เมตรก็แล้วกัน
- ปริมาตรของอากาศหนา 100 เมตร ทั่วพื้นที่กทม. คิดเป็นปริมาตรอากาศที่มีฝุ่นทั้งสิ้น 1.568E+11 ลบ.ม. ที่เราต้องบำบัด
#เครื่องกรองอากาศ
เครื่องกรองอากาศที่ใช้ตามบ้านทั่วๆ ไปนั้นมีอัตราการผลิตอากาศประมาณ 300 ลบ.ม./ชั่วโมง[1] มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ (CADR) ประมาณ 60%[2] นั่นหมายความว่าหากเราต้องการใช้เครื่องฟอกอากาศตามบ้านเพียงเครื่องเดียวในการฟอกอากาศทั้งกทม. นั้น เราจะต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 250,000 ปีในการฟอกอากาศ กว่าที่จะกำจัด PM2.5 ลงได้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งนานเกินกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นและลดลงของ PM2.5 ในธรรมชาติเป็นอย่างมาก
ในทางกลับกันหากเราต้องการที่จะลด PM2.5 ลงครึ่งหนึ่งทั่วกทม. โดยใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมง เราจะต้องใช้เครื่องฟอกอากาศตามบ้านทั้งสิ้น 90 ล้านเครื่อง
ถ้าเราสมมติให้ใช้เครื่องฟอกอากาศที่เป็นอุตสาหกรรมหน่อย สมมติให้มีความเร็วลมเท่ากับความเร็วพัดลมเบอร์สามทั่วๆ ไปที่ประมาณ 20 กม./ชั่วโมง เราพบว่าเราจะต้องใช้พัดลมที่มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 1.36 ตารางกิโลเมตร หากสมมติว่าเราใช้พัดลมขนาดยักษ์รัศมี 1 เมตร เราจะต้องใช้พัดลมทั้งสิ้นกว่า 400,000 ตัว จึงจะสามารถบำบัด PM2.5 ไปครึ่งหนึ่งของเฉพาะในพื้นที่กทม.ได้
#เครื่องฉีดน้ำ
สำหรับการฉีดน้ำนั้น ปริมาตรที่หยดน้ำจะกวาดผ่านชั้นบรรยากาศต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรของน้ำ จะขึ้นอยู่กับขนาดของหยดน้ำ โดยยิ่งหยดน้ำที่มีขนาดเล็กก็จะยิ่งมีพื้นที่เยอะ และยิ่งปล่อยให้ตกจากที่สูงก็จะมีปริมาตรอากาศที่มากขึ้น
หยดน้ำหนึ่งหยดที่มีขนาดรัศมี 1 มม. ที่ตกจากที่สูง 10 เมตร จะผ่านปริมาตรอากาศทั้งสิ้น 3.14E-5 ลบ.ม. คิดเป็นปริมาตรอากาศต่อน้ำหนึ่งลิตรทั้งสิ้น 7.5 ลบ.ม.
ในส่วนของประสิทธิภาพของหยดน้ำในการดูด PM2.5 นั้น แท้จริงแล้วขนาดของอนุภาคที่เล็กกว่าหยดน้ำมากนั้น จะเบี่ยงไปรอบๆ หยดน้ำ (คล้ายกับเวลาเราพยายามจะวักน้ำเอาเศษฝุ่นออกจากโอ่ง) จึงมีประสิทธิภาพที่ต่ำมากๆ และขึ้นอยู่กับขนาดของหยดน้ำ บวกกับการเติมสารลดแรงตึงผิวลงไปในน้ำก็อาจช่วยให้ดูดฝุ่นได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็นับว่าน้อยมากอยู่ดี เราคิดแบบ conservative มากๆ แล้วเอาตัวเลขง่ายๆ ปัดไปสัก 10% แล้วกัน
นั่นหมายความว่า หากเราต้องการที่จะใช้น้ำลด pm2.5 ไปครึ่งหนึ่งของทั่วทั้งกทม. โดยการโปรยหยดน้ำขนาด 1 มม. จากที่สูง 10 เมตร เราจะต้องใช้น้ำทั้งสิ้น 5.2E11 ลิตร หรือห้าเท่าของน้ำที่สามารถกักเอาไว้ในเขื่อนภูมิพลทั้งหมด[4]
ซึ่งทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพียงการประมาณอย่างหยาบๆ เพียงแค่ในกรุงเทพมหานครเพียงเท่านั้น หากเราต้องการลดปัญหา PM2.5 ในวงกว้างกว่านี้ ในความเป็นจริงแล้วอากาศจากบริเวณอื่นนั้นก็จะพัดมาทับถมกันเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา และเครื่องกรองหรือหยดน้ำนั้นเป็นเพียงการลดฝุ่นในบริเวณใกล้เคียงเพียงเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงการที่ปริมาตรของอากาศเดิมอาจจะถูกนำกลับมาบำบัดซ้ำ ทำให้ประสิทธิภาพจริงนั้นจะต้องลดลงไปอีกมาก
#การแก้ปัญหาระยะสั้นvsระยะยาว
จะเห็นได้ว่า ไม่มีวิธีแก้ระยะสั้นใดๆ ที่สามารถทำได้จริงในเวลาอันสั้น วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องจึงควรเป็นการมุ่งเน้นที่การลดการเกิด PM2.5 ในอนาคตในระยะยาว
หน้าที่นี่ไม่ใช่หน้าที่ที่ประชาชนคนใดสามารถทำได้เพียงลำพัง แต่จำเป็นต้องอาศัยการร่วมมือกันในระดับวงกว้าง อันดับแรกเราจึงควรจะมี task force เฉพาะกิจเพื่อทำการศึกษาแหล่งที่มีของ PM2.5 ว่ามาจากภาคส่วนใด เป็นปริมาณเท่าใดกันแน่ และลำดับถัดไปเราจึงควรมุ่งเน้นการหาวิธีการลดการปล่อยฝุ่นในแบบที่ยั่งยืน และสร้างแรงจูงใจในทางเศรษฐกิจจากทุกฝ่าย เช่น ภาครัฐอาจสามารถสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ที่สามารถเผาอ้อยและชีวมวลทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าการเผาในทุ่งนา รับซื้อด้วยเงิน subsidy ที่ได้จากการเพิ่มภาษีในยานพาหนะที่ปล่อยฝุ่นมากเป็นพิเศษ สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ลดภาษารถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ในอีกแง่หนึ่งเราอาจจะสนับสนุนงานวิจัยทางด้าน atmospheric science ทั้งการติดตามพยากรณ์สภาพฝุ่น ให้ความรู้ประชาชนที่ถูกต้อง ฯลฯ
ระหว่างนี้ สิ่งเดียวที่ประชาชนทำได้ก็คือการลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการลดพฤติกรรม outdoor ในช่วงเสี่ยง การใส่หน้ากาก ระวังตัวเอง และรอให้ลมฟ้าอากาศบรรเทา PM2.5 ไปโดยธรรมชาติ
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ถึงแม้ว่าปัญหานี้เราจะเริ่มแก้กันในวันนี้ เราคงจะต้องเจอปัญหานี้กันไปทุกปีอีกเป็นสิบปีเป็นอย่างน้อย คำถามก็คือ ในวันนี้เราเริ่มแก้กันแล้วหรือยัง
อ้างอิง:
[1] https://www.jd.co.th/product/air-purifier_3914127.html…
[2] https://smartairfilters.com/…/…/cadr-different-from-airflow/
[3] https://www.amazon.com/…/R28QUN109…/ref=cm_cr_arp_d_rvw_ttl…
[4] https://en.wikipedia.org/wiki/Bhumibol_Dam
แบบจำลอง 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 八卦
หากเราจะลดฝุ่นโดยการใช้น้ำฉีด หรือเครื่องกรองยักษ์ สามารถทำได้หรือไม่?
ทุกวันนี้ปัญหาอย่างหนึ่งที่คนไทยทั้งประเทศคอยจับตาดู ก็คือปัญหาของฝุ่นโดยเฉพาะ PM2.5 ที่สามารถเป็นต้นเหตุของโรคในระบบทางเดินหายใจได้ในระยะยาว
ภาพนี้เป็นภาพเปรียบเทียบวิสัยทัศน์ที่เห็น ในวันต่างๆ โดยภาพทั้งหมดนี้นั้นเป็นภาพที่ได้มาจากกล้องโดยตรง ไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ ทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าภาพของวันนี้ (3 ก.พ. 2563) หรือภาพล่างทั้งสอง มีปัญหาฝุ่นละอองในระดับที่สูงอย่างเห็นได้ชัด
แต่นอกไปจากการใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองส่วนบุคคลแล้ว เราพอที่จะมีวิธีแก้ปัญหาในระยะสั้น ที่ไม่ต้องหวังพึ่งลมฟ้าอากาศ ในบทความนี้เราจะมาลองทำการประมาณทางวิทยาศาสตร์อย่างง่ายๆ ว่า เราจะต้องใช้ทรัพยากรมากแค่ไหนในการกำจัดฝุ่นในระยะสั้น
วิธีกำจัดฝุ่นในระยะสั้นที่เสนอกันนั้น ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันสองวิธี นั่นก็คือ การเอาน้ำฉีด และใช้เครื่องกรองอากาศ
#แบบจำลอง
เราสามารถประมาณค่าการกรองของวิธีทั้งสองได้ โดยคิดเอาง่ายๆ ว่าวิธีการกรองนั้นจะต้องเห็นปริมาตรของอากาศ แล้วก็เอาฝุ่นส่วนหนึ่งออกไปจากมวลอากาศนี้
เช่น สมมติว่าเครื่องกรองเครื่องหนึ่งดูดอากาศเข้าไปในอัตรา 1 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง และสามารถกรองฝุ่นออกไปได้ 75% ของที่ดูดเข้าไปทั้งหมด หากในห้องหนึ่งมีค่า pm2.5 เท่ากับ 100 ไมโครกรัมต่อลบ.ม. เราก็จะได้ว่าเครื่องนี้จะสามารถกำจัดฝุ่นออกไปจากอากาศได้ 75 ไมโครกรัม ทุกๆ หนึ่งชม.
แต่หากเราจะคิดให้ง่ายกว่านั้น ก็คือ สมมติว่าเรามีห้องๆ หนึ่ง ที่มีปริมาตร 1 ลบ.ม. หากเราต้องการใช้เครื่องกรองที่มีประสิทธิภาพกรองฝุ่น 75% และต้องการที่จะกำจัดฝุ่น 75% ออกไปจากห้อง เราจะพบว่าไม่ว่าในห้องนั้นจะมีค่า pm2.5 เท่าใด เครื่องกรองนั้นก็จะต้องดูดอากาศเข้าไปอย่างน้อย 1 ลบ.ม. จึงจะสามารถลด pm2.5 ไปได้ 75%
ส่วนในกรณีของการฉีดน้ำนั้น แท้จริงแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันแต่อย่างใด โดยเราสามารถพิจารณาหยดน้ำให้เป็นทรงกลมที่ตกลงจากที่สูง หยดน้ำแต่ละหยดจะกวาดผ่านปริมาตรของอากาศไปค่าหนึ่ง นั่นก็คือเราสามารถคำนวนได้ว่าน้ำของเราจะ "เห็น" ปริมาตรของอากาศเป็นปริมาณเท่าใด จากนั้นหยดแต่ละหยดก็จะมี "ประสิทธิภาพ" ในการดูดฝุ่นเข้าไปไว้ในหยดน้ำ ซึ่งหากเราสมมติหยดน้ำแต่ละหยดนั้นสามารถดูดฝุ่นละอองไปได้เพียงแค่ 75% ของที่กวาดผ่าน เราก็จะพบว่าหากเราจะใช้การฉีดน้ำชะเอาฝุ่นออกไป 75% ของห้องขนาด 1 ลบ.ม. การคำนวณก็จะไม่แตกต่างอะไรกับในตอนก่อนหน้านี้ นั่นก็คือหยดน้ำจะต้อง "เห็น" ปริมาตรอากาศทั้งสิ้น 1 ลบ.ม. ไม่ต่างกัน
#อากาศในกทม
ลำดับถัดไป เราจะต้องทราบว่าปริมาณของอากาศที่เราต้องการจะทำการ "บำบัด" มีปริมาณเท่าใด สมมติว่าเราสนใจที่จะเพียงแค่ลดปริมาณของฝุ่นละอองในกทม. ลงไปครึ่งหนึ่ง
- กรุงเทพมหานครมีพื้นที่ 1,568 ตารางกิโลเมตร
- สมมติให้ทั้งกทม.มีฝุ่นปกคลุมอยู่สูงถึงความสูงของ mixing layer ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพอากาศ เอาง่ายๆ ว่าขึ้นไปบนดอยอินทนนท์ที่ความสูง 2,500 เมตรก็ยังเจอ แต่เอาแบบ conservative หน่อยๆ ช่วงที่อากาศกดมากๆ ก็สมมติเอาแค่ 100 เมตรก็แล้วกัน
- ปริมาตรของอากาศหนา 100 เมตร ทั่วพื้นที่กทม. คิดเป็นปริมาตรอากาศที่มีฝุ่นทั้งสิ้น 1.568E+11 ลบ.ม. ที่เราต้องบำบัด
#เครื่องกรองอากาศ
เครื่องกรองอากาศที่ใช้ตามบ้านทั่วๆ ไปนั้นมีอัตราการผลิตอากาศประมาณ 300 ลบ.ม./ชั่วโมง[1] มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ (CADR) ประมาณ 60%[2] นั่นหมายความว่าหากเราต้องการใช้เครื่องฟอกอากาศตามบ้านเพียงเครื่องเดียวในการฟอกอากาศทั้งกทม. นั้น เราจะต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 250,000 ปีในการฟอกอากาศ กว่าที่จะกำจัด PM2.5 ลงได้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งนานเกินกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นและลดลงของ PM2.5 ในธรรมชาติเป็นอย่างมาก
ในทางกลับกันหากเราต้องการที่จะลด PM2.5 ลงครึ่งหนึ่งทั่วกทม. โดยใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมง เราจะต้องใช้เครื่องฟอกอากาศตามบ้านทั้งสิ้น 90 ล้านเครื่อง
ถ้าเราสมมติให้ใช้เครื่องฟอกอากาศที่เป็นอุตสาหกรรมหน่อย สมมติให้มีความเร็วลมเท่ากับความเร็วพัดลมเบอร์สามทั่วๆ ไปที่ประมาณ 20 กม./ชั่วโมง เราพบว่าเราจะต้องใช้พัดลมที่มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 1.36 ตารางกิโลเมตร หากสมมติว่าเราใช้พัดลมขนาดยักษ์รัศมี 1 เมตร เราจะต้องใช้พัดลมทั้งสิ้นกว่า 400,000 ตัว จึงจะสามารถบำบัด PM2.5 ไปครึ่งหนึ่งของเฉพาะในพื้นที่กทม.ได้
#เครื่องฉีดน้ำ
สำหรับการฉีดน้ำนั้น ปริมาตรที่หยดน้ำจะกวาดผ่านชั้นบรรยากาศต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรของน้ำ จะขึ้นอยู่กับขนาดของหยดน้ำ โดยยิ่งหยดน้ำที่มีขนาดเล็กก็จะยิ่งมีพื้นที่เยอะ และยิ่งปล่อยให้ตกจากที่สูงก็จะมีปริมาตรอากาศที่มากขึ้น
หยดน้ำหนึ่งหยดที่มีขนาดรัศมี 1 มม. ที่ตกจากที่สูง 10 เมตร จะผ่านปริมาตรอากาศทั้งสิ้น 3.14E-5 ลบ.ม. คิดเป็นปริมาตรอากาศต่อน้ำหนึ่งลิตรทั้งสิ้น 7.5 ลบ.ม.
ในส่วนของประสิทธิภาพของหยดน้ำในการดูด PM2.5 นั้น แท้จริงแล้วขนาดของอนุภาคที่เล็กกว่าหยดน้ำมากนั้น จะเบี่ยงไปรอบๆ หยดน้ำ (คล้ายกับเวลาเราพยายามจะวักน้ำเอาเศษฝุ่นออกจากโอ่ง) จึงมีประสิทธิภาพที่ต่ำมากๆ และขึ้นอยู่กับขนาดของหยดน้ำ บวกกับการเติมสารลดแรงตึงผิวลงไปในน้ำก็อาจช่วยให้ดูดฝุ่นได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็นับว่าน้อยมากอยู่ดี เราคิดแบบ conservative มากๆ แล้วเอาตัวเลขง่ายๆ ปัดไปสัก 10% แล้วกัน
นั่นหมายความว่า หากเราต้องการที่จะใช้น้ำลด pm2.5 ไปครึ่งหนึ่งของทั่วทั้งกทม. โดยการโปรยหยดน้ำขนาด 1 มม. จากที่สูง 10 เมตร เราจะต้องใช้น้ำทั้งสิ้น 5.2E11 ลิตร หรือห้าเท่าของน้ำที่สามารถกักเอาไว้ในเขื่อนภูมิพลทั้งหมด[4]
ซึ่งทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพียงการประมาณอย่างหยาบๆ เพียงแค่ในกรุงเทพมหานครเพียงเท่านั้น หากเราต้องการลดปัญหา PM2.5 ในวงกว้างกว่านี้ ในความเป็นจริงแล้วอากาศจากบริเวณอื่นนั้นก็จะพัดมาทับถมกันเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา และเครื่องกรองหรือหยดน้ำนั้นเป็นเพียงการลดฝุ่นในบริเวณใกล้เคียงเพียงเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงการที่ปริมาตรของอากาศเดิมอาจจะถูกนำกลับมาบำบัดซ้ำ ทำให้ประสิทธิภาพจริงนั้นจะต้องลดลงไปอีกมาก
#การแก้ปัญหาระยะสั้นvsระยะยาว
จะเห็นได้ว่า ไม่มีวิธีแก้ระยะสั้นใดๆ ที่สามารถทำได้จริงในเวลาอันสั้น วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องจึงควรเป็นการมุ่งเน้นที่การลดการเกิด PM2.5 ในอนาคตในระยะยาว
หน้าที่นี่ไม่ใช่หน้าที่ที่ประชาชนคนใดสามารถทำได้เพียงลำพัง แต่จำเป็นต้องอาศัยการร่วมมือกันในระดับวงกว้าง อันดับแรกเราจึงควรจะมี task force เฉพาะกิจเพื่อทำการศึกษาแหล่งที่มีของ PM2.5 ว่ามาจากภาคส่วนใด เป็นปริมาณเท่าใดกันแน่ และลำดับถัดไปเราจึงควรมุ่งเน้นการหาวิธีการลดการปล่อยฝุ่นในแบบที่ยั่งยืน และสร้างแรงจูงใจในทางเศรษฐกิจจากทุกฝ่าย เช่น ภาครัฐอาจสามารถสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ที่สามารถเผาอ้อยและชีวมวลทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าการเผาในทุ่งนา รับซื้อด้วยเงิน subsidy ที่ได้จากการเพิ่มภาษีในยานพาหนะที่ปล่อยฝุ่นมากเป็นพิเศษ สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ลดภาษารถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ในอีกแง่หนึ่งเราอาจจะสนับสนุนงานวิจัยทางด้าน atmospheric science ทั้งการติดตามพยากรณ์สภาพฝุ่น ให้ความรู้ประชาชนที่ถูกต้อง ฯลฯ
ระหว่างนี้ สิ่งเดียวที่ประชาชนทำได้ก็คือการลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการลดพฤติกรรม outdoor ในช่วงเสี่ยง การใส่หน้ากาก ระวังตัวเอง และรอให้ลมฟ้าอากาศบรรเทา PM2.5 ไปโดยธรรมชาติ
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ถึงแม้ว่าปัญหานี้เราจะเริ่มแก้กันในวันนี้ เราคงจะต้องเจอปัญหานี้กันไปทุกปีอีกเป็นสิบปีเป็นอย่างน้อย คำถามก็คือ ในวันนี้เราเริ่มแก้กันแล้วหรือยัง
อ้างอิง:
[1] https://www.jd.co.th/product/air-purifier_3914127.html?gclid=CjwKCAiAg9rxBRADEiwAxKDTupvh4u-IVdR2luEt91nSCvf8wlqtksaYntdYIDNePoTexiSVxZTAHxoCiWgQAvD_BwE
[2] https://smartairfilters.com/en/blog/cadr-different-from-airflow/
[3] https://www.amazon.com/gp/customer-reviews/R28QUN109BD5AW/ref=cm_cr_arp_d_rvw_ttl?ie=UTF8&ASIN=B00002ND67
[4] https://en.wikipedia.org/wiki/Bhumibol_Dam
แบบจำลอง 在 555INFINITY Youtube 的評價
Xiaomi ผลิตตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ!!!
ของทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน Xiaomi คิดค้น พัฒนา และประดิษฐ์ออกมาได้ตอบโจทย์คนทุกคนจริงๆ วีดีโอนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปดู 5 ของใช้สุดล้ำสมัยที่ Xiaomi ผลิตออกมา ขอบอกเลย แต่ละชิ้น ว้าว ว้าว ว้าวววว กันเลยทีเดียว!
ปล. Xiaomi อ่านออกเสียงว่า เสียวหมี่ นะครับ มีอธิบายในวีดีโอ
????????????
#เพื่อนซี้ตัวแสบ #xiaomi #gadget
#รีวิวของเจ๋งๆ #นวัตกรรม #ล้ำสมัย #รถยนต์ #มอไซต์
#อุปกรณ์ #5ของใช้สุดเจ๋ง #สมาร์ทโฟน
♡ Facebook: https://www.facebook.com/zeejhk
♣ Fanpage: https://www.facebook.com/555infinity/
♤ Instagram: https://www.instagram.com/555_infinity/
♦ สำหรับส่งIntro : [email protected]
♧ ร้านขายของเล่นของผม: https://goo.gl/CMkYT
***
☞ ติดต่องาน : [email protected]
แบบจำลอง 在 Wizard1st Youtube 的評價
กด ? Like! เป็นกำลังใจกันได้ ?และอย่าลืมกดกระดิ่ง ? เพื่อรับแจ้งเตือนคลิปใหม่ด้วย! ?คลิปใหม่มาทุกวัน
? ของเก่า ๆ ก็มีให้ดู
? รวมมายคราฟ ► https://goo.gl/ZHkTJv
? มายคราฟลักกี้บล็อก ► https://goo.gl/YVMEs9
? มายคราฟมินิเกม ► https://goo.gl/MEgE6n
? มายคราฟสร้างของ ► https://goo.gl/qKpQjo
? Vlog ► https://goo.gl/UQtovB
? เกมอื่น ► https://goo.gl/dVN9yr
? อื่น ๆ ที่ไม่เข้าพวก ► https://goo.gl/zYp8HR
? พันธมิตรพวกเรา ?
? SFTV ► https://goo.gl/mQSdyq
? 12Time ► https://goo.gl/erbfcC
? vvfwave kung ► https://goo.gl/qpTzmy
? Ducky_P ► https://goo.gl/itrch9
? Kra Prow ► https://goo.gl/vKoVJA
? Saiber Gamer ► https://goo.gl/du5MUB
? Woplastnightv ► https://goo.gl/BqXYMB
? Ployiing Ploy ► https://goo.gl/5bABmf
? 072 Striker ► https://goo.gl/QcLYkp
? SunlightSparkz ► https://goo.gl/LWj3S7
? HBX ► https://goo.gl/9myWjB
? SteveKung ► https://goo.gl/DpbDV9
? truefaster ► https://goo.gl/nq53EZ
? Social Media ติดตามคลิปใหม่ และเรื่องบ่นได้เหมือนกัน
? Twitter ► http://www.twitter.com/wizard1st
? Facebook ► http://fb.me/wizard1st
? Twitch ► http://www.twitch.tv/wizard1st
? Official Supporter
ACER Thailand - https://www.acer.com/th/
Link Computer - https://www.facebook.com/linkcompt/
? Business and Advertisement
E-mail - [email protected]
แบบจำลอง 在 EP 22 | วิทยาศาสตร์/แบบจำลองทางวิทยาศาสตร์และทักษะการสร้าง ... 的八卦
EP 22 | วิทยาศาสตร์/ แบบจำลอง ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการสร้าง แบบจำลอง ตอนที่ 2. 9.9K views · 2 years ago ...more ... ... <看更多>
แบบจำลอง 在 5 ม.ค. 65 | การสร้างแบบจำลองชั้นบรรยากาศ (1) - YouTube 的八卦
DLTV ม.1 วิทยาศาสตร์ | 5 ม.ค. 65 | การสร้าง แบบจำลอง ชั้นบรรยากาศ (1) | เรียนออนไลน์ ย้อนหลัง. 1.6K views · 1 year ago ...more ... ... <看更多>