ดูช่ออภิปรายนอกสภาเรื่อง 1mdb แล้ว น่าสนใจมาก
ขออ่านรายละเอียดย้อนหลังที่มาที่ไปของคดีนี่แปร้บ เพจนี้เขาสรุปไว้ตั้งแต่สี่ปีก่อน ละเอียดมาก เชิญพ่อแม่พี่น้องอ่านกันจะได้ไปดูที่เขาอภิปรายนอกสภากันต่อรู้เรื่อง เพราะรายละเอียดมันโคตรเยอะเลย
#สรุป 1MDB ภารกิจปล้นเงินรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ยักยอกกันไปได้ยังไง เอาไปทำอะไร ใครได้ไปบ้าง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ลีโอนาโด ดิคาปริโอ... ว่ากันใน #สรุปเดียว
1. คืองี้... ปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลก เพราะอัยการสูงสุดสหรัฐยื่นฟ้องคดียักยอกเงินกองทุน 1MDB ที่มีการคอรัปชั่นเชื่อมโยงไปถึงตัวนายกมาเลย์ ซึ่งมูลค่าความเสียหายยิ่งกว่า GT200 โรงพักฉาว รถดับเพลิง ห้องทำงานหรู นาฬิการัฐสภา และ ค่าโง่คลองด่าน ทั้งหมดรวมกันซะอีก โหดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
2. กองทุน 1MDB (1Malaysia Development Berhad) เนี่ยเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐบาลมาเลเซีย ก่อตั้งโดยนาย นาจิบ ราซัค ในปี 2008 ตอนที่ยังเป็นรองนายกฯ คล้ายๆ กับกองทุนเทมาเสกของสิงคโปร์ หน้าที่หลักคือเอาเงินไปลงทุนให้เกิดกำไรเข้าประเทศ เหมือนที่เทมาเสกไปลงทุนซื้อกิจการต่างๆ อย่างหุ้นชินคอร์ป ไรงี้
3. แนวคิดของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ หรือ Sovereign Wealth Fund (SWF) ก็คือ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเนี่ย ถ้ามีเยอะๆ แล้วเก็บไว้เฉยๆในคลังมันจะบูดเน่าซะเปล่าๆ แถมยังอาจจะส่งผลให้ค่าเงินของประเทศแข็งขึ้น แล้วเดี๋ยวการส่งออกจะลำบาก อย่ากระนั้นเลย แบ่งเงินทุนสำรองในคลังออกมาลงทุนในต่างประเทศดีกว่า ทั้งช่วยระบายปริมาณเงินต่างประเทศออกไป ทั้งช่วยพยุงค่าเงินของประเทศนั้นๆ ไม่ให้แข็งค่าเกินไป แถมยังเป็นการต่อยอดความมั่งคั่งของประเทศผ่านการลงทุนได้อีกด้วย
4. พอปี 2009 นาจิบ ราซัค ได้ขึ้นเป็นนายก โดยได้รับการหนุนจากมหาเธร์ ที่วางมือทางการเมืองไปแล้ว เพราะเป็นลูกหม้อพรรคอัมโน พรรครัฐบาลที่ครองอำนาจมายาวนาน นาจิบนี่ก็เป็นลูกชายอดีตนายกคนที่ 2 ของมาเลย์ อับดุล ราซัค แถมยังเป็นหลานอาของนายกคนที่ 3 เรียกว่าเป็นตระกูลการเมืองจัดๆ
5. ช่วงสมัยแรกนายนาจิบได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ไม่มีค่อยปัญหาอะไร แต่ตัวนายนาจิบเองก็ใช่ว่าจะใสสะอาดปราศจากมลทิน เพราะมีข่าวฉาวอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะกรณีพัวพันกับคดีฆาตกรรมล่ามสาวชาวมองโกลเลีย เพราะเธอเป็นเบาะแสโยงไปถึง กรณีซื้อเรือดำน้ำฝรั่งเศสและสเปน ในสมัยที่นาจิบยังเป็นแค่ รมต.กลาโหม และลือกันว่ามีเงินส่วนต่างจากดีลนี้กระจายไปเข้ากระเป๋าใครหลายคน แต่คนที่เป็นเบาะแสคดีนี้ดันถูกฆ่าตายซะก่อน แถมคนที่ฆ่าก็คือตำรวจที่เป็นบอดี้การ์ดของตัวนาจิบเอง แล้วคดีก็จบแบบตัดตอน ไปไม่ถึงตัวคนบงการ เป็นที่คาใจของสังคมยิ่งนัก
6. แต่แล้ววิบากกรรมหนักของนายนาจิบก็บังเกิด เมื่อมีคนสงสัยถึงการทำงานของกองทุน 1MDB ที่มันแปลกๆ เพราะดันขาดทุนเป็นหมื่นล้านเหรียญ นักข่าวสายสืบสวนก็เริ่มดมกลิ่นหาเบาะแส โดยเฉพาะ Clare Rewcastle Brown ซึ่งเป็นนักข่าวบีบีซี ที่มีชื่อเสียงด้านการแฉนักการเมืองคอรัปชั่นของมาเลเซียมานักต่อนัก จนตอนนี้เป็นที่หมายหัวห้ามเข้าประเทศมาเลเซียไปแล้ว
7. ความจริง Brown เกิดในครอบครัวอังกฤษที่มาทำงานในรัฐซาราวัค สมัยยังเป็นอาณานิคมอังกฤษอยู่ เธอเกิดบนเกาะบอร์เนียว แต่ตอนหลังย้ายตามครอบครัวกลับอังกฤษไป พอโตขึ้นได้เป็นนักข่าวเลยสนใจทำเรื่องอนุรักษ์ป่าในเกาะบอร์เนียว เลยได้ไฝว้กับนักการเมืองตัวเป้งๆ ของท้องถิ่นเป็นประจำ โดนขู่ฆ่าก็เคยมาแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าความจริงเธอเป็นน้องสะใภ้ของกอร์ดอน บราวน์ อดีตนายกอังกฤษด้วย เรียกว่าเส้นไม่ธรรมดา คนที่จะคุกคามเธอก็ทำไม่ง่ายนัก
8. Brown ตามดมกลิ่นเรื่องกองทุน 1MDB จนช่วงประมาณปลายปี 2013 ก็ได้พบกับแหล่งข่าวสำคัญคนหนึ่งคือ Xavier Justo ชาวสวิสเชื้อสายสเปน ที่เคยทำงานให้กับบริษัท PetroSaudi บริษัทที่ตั้งอยู่ที่ลอนดอน ทำธุรกิจด้านค้าน้ำมันและเป็นตัวแทนธุรกิจ ก่อตั้งโดยชาวซาอุฯ Tarek Obaid และเจ้าชายซาอุฯคนหนึ่ง ซึ่งบริษัทนี้มีการทำธุรกรรมต่างๆ ที่น่าสงสัยกับกองทุน 1MDB จำนวนมาก และ Justo ได้แอบก๊อปปี้อีเมล์จากเซิร์ฟเวอร์บริษัทออกมาก่อนจะลาออก
9. Justo เลยเสนอขายข้อมูลชุดนี้ให้ Brown ในราคา 2 ล้านเหรียญ เป็นข้อมูลอีเมล์กว่าสองแสนฉบับรวมกันกว่า 90GB พอ Brown เห็นตัวอย่างข้อมูลก็รู้ว่าพบขุมทรัพย์เข้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีเงินมากพอจะจ่ายได้ เลยไปคุยกับเจ้าของสื่อมาเลย์เจ้าหนึ่งคือ the Edge ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล ให้มาช่วยซื้อข้อมูลชุดนี้กัน เสร็จสรรพเลยได้ติดต่อเจรจาซื้อกันที่กรุงเทพฯ บ้านเรานี่เอง
10. พอได้ข้อมูลมา Brown ก็ใช้ทำรายงานแฉความฉ้อฉลกลโกงในการยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB โดยพุ่งเป้าไปที่ตัวนายนาจิบ ข้อกล่าวหาหลักคือ มีการโอนเงินไปให้บริษัท offshore แห่งหนึ่งที่ถูกตั้งชื่อให้เหมือนกับบริษัทของรัฐบาลอาบูดาบี แต่จริงๆเป็นบริษัทปลอมที่ตั้งในบริติช เวอร์จิน จากนั้นก็มีการโอนเงินจากบริษัทนี้ไปบริษัทตัวแทนอีกแห่ง แล้วค่อยโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบเองอีกที รวมกันแล้วถึง 700ล้านเหรียญ
11. พอรายงานนี้ออกมาเมื่อปีที่แล้ว คนมาเลย์ก็ออกมาประท้วงกันหนักมาก กระแสเสื้อเหลืองต้านรัฐบาลมากันเต็มถนนเลย แม้แต่มหาเธร์เองก็ออกมานั่งประท้วงกะเขาด้วย แต่นายนาจิบไม่ครั่นคร้าม จัดการแทรกแซงสื่อ สั่งปิด the Edge ที่ออกมาแฉ เปลี่ยนตัวทีมสอบสวนคดี
12. แล้วตอนต้นปีที่ผ่านมา ฝ่ายอัยการของมาเลย์ก็ออกมาสรุปว่า ไม่มีการทุจริตอะไรทั้งนั้นหรอกเธอ เงินนั่นเป็นการโอนให้ส่วนตัวจากสมาชิกราชวงศ์ซาอุฯ คนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยตัว ให้เป็นทุนในการหาเสียงตอนปี 2013 เป็นการให้ด้วยใจ ไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งไม่ถือว่าผิดกฎหมายมาเลย์ เพราะไม่ได้ห้ามนักการเมืองรับเงินบริจาค แถมรับได้ไม่จำกัดวงเงินด้วย (สบายไปเปล่า) และตอนหลังนายนาจิบก็ได้โอนคืนไปให้ส่วนหนึ่งแล้วไง เพราะงั้นไม่ถือว่ามีความผิดนะ ปิดคดี ...เว่.....วู่.....
13. แน่นอนว่าชาวโลกไม่ได้กินหญ้ากันทุกคน เลยไม่มีใครเชื่อว่าจะมีคนให้เงินของขวัญกันเยอะขนาดนั้น ฝ่ายสอบสวนของสหรัฐ สวิสฯ สิงคโปร์ และลักเซมเบิร์ก เลยร่วมกันสืบสวน ก็พบว่าจำนวนเงินที่ถูกยักยอกออกจากกองทุนรวมแล้วสูงกว่า 3.5 พันล้านเหรียญ (หรือมากกว่าแสนล้านบาทเอ๊ง...เป็นลมแป๊บ)
14. แต่เงินมันไม่ได้ไปก้อนเดียวตูมจบ แต่ใช้วิธีไซฟอน คือค่อยๆ กระจายผ่านหลายช่องทาง เช่นตั้งบริษัทร่วมทุนกับ PetroSaudi เพื่อลงทุนธุรกิจน้ำมัน เป็นเงิน 1 พันล้านเหรียญ แต่เอาจริงๆ ดันมีเงินบางส่วนเล็ดลอดไปเข้าบริษัท offshore ในสวิสฯ ที่ตั้งบังหน้าโดย Jho Low คนสนิทของนาจิบ และยังมีการการออกบอนด์ผ่าน โกลด์แมน แซคส์ อีก 1.4 พันล้านเหรียญ ส่วนอีก 1.3 พันล้านเหรียญโอนผ่านไปที่บริษัท offshore ในสวิส
15. คือพยายามทำให้เหมือนมีการลงทุนในบริษัทต่างๆ เพื่อสร้างผลกำไร แต่จริงๆ บริษัทบางส่วนถูกตั้งขึ้นหลอกๆ เพื่อใช้ถ่ายเทเงินออกไป ซึ่งพอเงินมันรั่วไหลไปตามช่องทางต่างๆ สุดท้ายมันก็ไหลต่อไปที่หลายบัญชีที่เชื่อมโยงถึงตัวนายนาจิบ ทั้งบัญชีส่วนตัว และบัญชีญาติสนิทมิตรสหาย โดยเฉพาะนาย Jho Low ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญในคดีที่อัยการสหรัฐสั่งฟ้องตอนนี้
16. นาย Jho Low ชาวมาเลย์เชื้อสายจีน ตอนนี้อายุแค่ 34 ปี แต่ก็เป็นคนสนิทของนายนาจิบ และครอบครัว เพราะเป็นเพื่อนซี้กับ Riza Aziz ลูกเลี้ยงของนายนาจิบ และ Low นี่เองที่เป็นคนดีลกับ PetroSaudi และบริษัทอื่นๆ เพื่อทำธุรกรรมกับกองทุน 1MDB ทั้งๆที่ตัวนาย Low เองไม่ได้มีตำแหน่งทางการอะไรในกองทุนนี้ หรือแม้แต่ในรัฐบาลมาเลย์ แต่ว่ากันว่าเวลามีการประชุมบอร์ดกองทุน Low ก็จะนั่งอยู่ด้วยตลอด ในฐานะตัวแทนของนาจิบอีกที
17. สื่ออเมริการายงานว่านาย Low นี่มีชีวิตหรูหราระดับเซเลปที่อเมริกา ชอบจัดปาร์ตี้สังสรรค์กับคนดังๆ อย่างลินด์เซย์ โลฮาน หรือปารีส ฮิลตัน ก็ได้ปาร์ตี้กันบ่อยๆ แถมยังเอาเงินที่ยักยอกไปซื้อเพนท์เฮาส์สุดหรูในเกาะแมนฮัตตัน ประมูลภาพวาดแวนโก๊ะ ซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว และอื่นๆ อีกเพียบ แล้ว Low ก็ยังเป็นคนคอย "เปย์" ให้กับภรรเมียของนายนาจิบ ตอนที่มาเที่ยวช้อปปิ้งที่อเมริกาอีกด้วย (ได้ข่าวว่าชอบซื้อเครื่องเพชรเป็นพิเศษ)
18. แต่ที่พี้คสุดคือเงินส่วนนึงถูกนาย Riza Aziz ลูกเลี้ยงนายนาจิบ เอาไปลงทุนสร้างหนังเรื่อง The Wolf of Wall Street ที่แสดงนำโดย ลีโอนาโด ดิคาปริโอ ซึ่งไอ้เรื่องนี้มันสร้างจากเรื่องจริงของ Jordan Belfort ที่เคยเป็นโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นในตลาดวอลล์สตรีท แล้วใช้กลโกงในการยักยอกเงินจากนักลงทุนในตลาดจนร่ำรวย (คือเอาเงินที่ยักยอกมา ไปสร้างหนังเรื่องการยักยอก มันจะย้อนแย้งไปมั้ย) แต่หนังมันก็ออกมาดีนะ แอดชอบดู โดยเฉพาะฉากในตำนานของพี่ลีโอยังติดตาตรึงใจจนทุกวันนี้ (เฮียได้ลูกโลกทองคำด้วยนะ เข้าชิงออสการ์ด้วย แต่ก็แห้ว)
19. อัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดียักยอกและฟอกเงิน พร้อมขออายัดทรัพย์สินต่างๆ ที่ซื้อมา ทั้งแมนชั่นหรู ภาพวาดศิลปะ รวมถึงลิขสิทธิ์และผลประโยชน์ต่างๆ ของหนัง The Wolf of Wall Street ด้วย (หวังว่าคงไม่ไปยึดรางวัลเฮียลีโอด้วยนะ) คดีนี้พุ่งเป้าที่นาย Jho Low และธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนอเมริกา ไม่ได้มีการระบุชื่อนาจิบตรงๆ แต่พาดพิงอ้อมๆว่า Malaysian Official 1 (เจ้าหน้าที่ชาวมาเลย์เซีย1)
#สรุป1 นาจิบและพรรคพวกถูกสงสัยว่าเอาเงินกองทุนของประเทศไปเข้ากระเป๋าตัวเอง ทั้งๆที่มันควรจะถูกเอาไปสร้างความมั่งคั่งให้คนมาเลย์ แต่ดันเอาไปใช้จ่ายกับชีวิตหรูๆ คูลๆ ที่ต่างประเทศ เรียกว่าใช้ชีวิตดีๆ จากภาษีประชาชน แถมบางส่วนก็เอามาใช้หาเสียงทางการเมืองเพื่อสืบต่ออำนาจด้วย
#สรุป2 ที่มาเลเซียตอนนี้รัฐบาลก็ยังพยายามคุมสื่ออยู่ ทำให้ไม่ค่อยมีสื่อไหนกล้าออกชื่อนาจิบตรงๆ เพราะปีที่แล้ว the Edge ที่ออกมาแฉก็โดนปิดไป ส่วนฝ่ายต้านรัฐบาลก็กำลังเล็งว่าจะมีการชุมนุมใหญ่กันในเร็ววันนี้ นำโดยกลุ่มนักศึกษา ใช้ชื่ออีเวนท์ว่า #TangkapMalaysianOfficial1 ก็รอดูกันต่อไป
#สรุป3 อันนี้แถม Xavier Justo ที่เป็นแหล่งข่าวสำคัญ ตอนหลังถูกบริษัท PetroSaudi แจ้งความจับข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์จากข้อมูลที่ขโมยบริษัทไป แล้วก็โดนจับที่ไทยนี่เอง โดนศาลไทยตัดสินว่าผิดจริง โทษจำคุก 3 ปี ตอนนี้ติดคุกอยู่คลองเปรม ซึ่งหลายคนคาดว่าแกจะได้เป็นพยานสำคัญในคดี 1MDB นี่แหละ
เวอร์จิน 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 八卦
จะเป็นอย่างไรหากเราสามารถเดินทางด้วยความเร็วกว่า 1,000 กิโลเมตร/ชั่วโมง? ล่าสุดเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป ได้ทดสอบแคปซูลส่งผู้โดยสารหรือที่เรียกว่า พ็อด (Pod) ซึ่งเป็นระบบขนส่งความเร็วสูงของไฮเปอร์ลูปที่มีผู้โดยสาร หรือ “มนุษย์” เดินทางไปในยานด้วยได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ตั้งเป้าเปิดให้บริการก่อนสิ้นทศวรรษนี้!
.
ไฮเปอร์ลูป คือ เทคโนโลยีการคมนาคมขนส่งแห่งอนาคตด้วยการเดินทางผ่านท่อสุญญากาศโดยมีพาหนะคือแคปซูลหรือที่เรียกว่า พ็อด ขับเคลื่อนด้วยแรงแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งจะยกตัวแคปซูลขึ้นอยู่บนอากาศแทนการใช้ล้อไปตามรางเหมือนรถไฟ ส่งผลให้สามารถเดินทางไปถึงยังจุดมุ่งหมายที่ต้องการได้ในระยะเวลาอันสั้นด้วยความเร็วสูงและไม่มีเสียงดังรบกวน ทั้งนี้การเคลื่อนที่ในสุญญากาศจะทำให้ไฮเปอร์ลูปสามารถทำความเร็วได้มากขึ้นเรื่อยๆ
.
ล่าสุดบริษัทเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป ได้ทำการทดลองการขนส่งแห่งอนาคตนี้ที่ทะเลทรายรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบรรทุกผู้โดยสาร 2 คน ผลการทดสอบวิ่งไปตามทางยาวระยะ 500 เมตร ใช้เวลาไปเพียง 15 วินาทีด้วยความเร็วสูงสุด 172 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนี่เป็นเพียงการทดสอบครั้งแรกที่มีมนุษย์โดยสารไปพร้อมกับยานได้สำเร็จ!
.
ก่อนหน้านี้มีการทดสอบมาแล้วมากกว่า 400 ครั้งเพียงแต่ยังไม่เคยมีผู้โดยสารนั่งไปในพ็อดด้วย ซึ่ง 2 คนที่ได้เข้าเป็นผู้โดยสารทดลองการเดินทางโดยไฮเปอร์ลูปครั้งนี้คือ จอช กีเกล ผู้บริหารโครงการเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป และซาร่า ลูเชียน ผู้อำนวยการดูแลประสบการณ์ของผู้โดยสาร การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นหลังจากพวกเขาทดสอบเสร็จไม่ได้มีอาการคลื่นไส้หรือเวียนหัวแต่อย่างใด อีกทั้งยังตะโกนออกมาตอนนั่งในยานว่า มันเจ๋งมาก!
.
ในอนาคตคาดการณ์ไว้ว่าหากอุโมงค์สามารถสร้างในระยะทางที่ยาวได้มากกว่านี้ การขนส่งด้วยไฮเปอร์ลูปจะสามารถบรรจุผู้โดยสารได้มากขึ้นแหละเดินทางด้วยความเร็วกว่า1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือเร็วกว่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าจะสามารถเดินทางได้เร็วกว่าเครื่องบินเจ็ทพาณิชย์ถึง 2 เท่า และเร็วกว่ารถไฟความเร็วสูงถึง 4 เท่า
.
นอกจากนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ยังได้รายงานว่า ในการทดสอบครั้งถัดไปทางบริษัทได้เลือกรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นศูนย์วิจัยและควบคุมคุณภาพไฮเปอร์ลูปมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะมีการตั้งรางทดสอบและพัฒนายานต่อไป โดยที่บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัยภายในปี ค.ศ. 2025 และสามารถให้บริการได้จริงภายในปี ค.ศ. 2030
.
ทุกวันนี้เทคโนโลยีเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะไม่ต้องมาทนหัวเสียกับการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพแล้วก็เป็นได้ ดังนั้นสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจทุกท่านก็อย่าหยุดที่จะพัฒนาตนเองและธุรกิจของคุณให้ทันกับกระแสโลกที่หมุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดด
รับชมคลิปทดสอบไฮเปอร์ลูปครั้งนี้ได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=xKvbSboQ5_g
.
ที่มา : https://www.bbc.com/thai/international-54870483
https://www.reuters.com/article/idUSL1N2HT004
https://www.voathai.com/a/virgin-hyperloop/5655432.html
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#Virgin #Hyperloop #เวอร์จิน #ไฮเปอร์ลูป #การขนส่งแห่งอนาคต
เวอร์จิน 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 八卦
"ไฮเปอร์ลูป ทดสอบวิ่งพร้อมผู้โดยสาร สำเร็จเป็นครั้งแรกครับ"
มีข่าวใหญ่ในวงการเทคโนโลยีการขนส่งและคมนาคม ที่บริษัท เวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป (Virgin Hyperloop) ประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบไฮเปอร์ลูป ที่มีผู้โดยสารด้วย เป็นครั้งแรก หลังจากที่ทดสอบแบบไม่มีผู้โดยสารมาแล้วกว่า 400 ครั้ง
ระบบไฮเปอร์ลูป ได้ประสบความสำเร็จในการขนส่งแคปซูลโดยสาร หรือที่เรียก "พ็อด" (pod) ด้วยความเร็วสูง วิ่งไปในอุโมงค์สุญญากาศ ในทะเลทราย นอกเมืองลาสเวกัส ที่รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้โดยสาร 2 คน ซึ่งเป็นระดับผู้บริหารของบริษัท คือ Josh Giegel จอช เกียเกล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี และ Sara Luchian ซารา ลุคยัน ผู้อำนวยการฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า
โดยเมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ (8 พ.ย.) แคปซูลพ็อดได้ทดลองวิ่งพร้อมผู้โดยสารทั้งสอง ไปตามทางวิ่งยาว 500 เมตร ในเวลาเพียง 15 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 172 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (107 ไมล์ ต่อชั่วโมง) โดยคุณซาร่า ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการเดินทางที่ราบรื่น และ ไม่รู้สึกเหมือนการนั่งรถไฟเหาะตีลังกาเลย ไม่ได้รู้สึกไม่สบายหรือคลื่นไส้แต่อย่างใด
ไฮเปอร์ลูป เป็นเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นจากแนวคิดของนาย Elon Musk อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Tesla เทสลา ต้้งแต่ปี ค.ศ. 2013 ซึ่งในช่วงแรกใครๆ ก็คิดว่าเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน เหมือนนิยายวิทยาศาสตร์
มัสก์ ตั้งเป้าว่าจะพัฒนาระบบนี้ให้มีความเร็วสูงสุดที่ 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อย่นระยะเวลาการเดินทางในอนาคต โดยเอาแนวคิดมาจากรถไฟความเร็วสูง แบบแม็กเลฟ maglev ที่ใช้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้ายกตัวรถไฟให้วิ่งลอยอยู่เหนือราง แทนการใช้ล้อ (สถิติโลกตอนนี้ เป็นแม็กเลฟของญี่ปุ่น ที่วิ่งได้เร็วสุด 601 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของแรงเสียดทานจากอากาศที่ต้านการเคลื่อนที่ เค้าจึงคิดที่จะใช้อุโมงค์สุญญากาศ เพื่อทำให้มันวิ่งได้เร็วมากขึ้น
ในทางทฤษฎีแล้ว เทคโนโลยีไฮเปอร์ลูปนี้ จะช่วยให้ผู้คนสามารถเดินทางระหว่างสนามบินฮีทโธรว์และสนามบินแกตวิค ในกรุงลอนดอน ซึ่งมีระยะทาง 72.42 กิโลเมตร (45 ไมล์) ได้ภายในเวลาเพียง 4 นาที / หรือเดินทางระหว่างนครดูไบกับกรุงอาบูดาบี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยใช้เวลาเพียง 12 นาที
ข้อมูลจาก https://www.bbc.com/thai/international-54870483
ภาพ จาก "Virgin Hyperloop Pegasus Media Kit" https://www.dropbox.com/sh/nm689gycztpn66n/AADgE6pJQeJtXcd6225sSulDa?dl=0