ขอบคุณจริง ๆ บทวิจารณ์อันนรี้ เหมือนมานั่งในใจเราเลย
GAY OK BANGKOK SEASON 2 (2017, ทิชากร ภูเขาทอง) (5/5)
“ความมหัศจรรย์ที่สุดของซีรีส์เรื่องนี้คือ มันสามารถทำให้เรา “กลัว” แต่ก็พร้อมจะ “เสี่ยง” ไปกับ “ความรัก” ได้ในเวลาเดียวกัน”
.
.
คำว่า “กลัว” ในที่นี้ ไม่ใช่การขยาดต่อความรัก หรือเลือกที่จะต่อต้านแต่อย่างใด แต่มันเป็นความกลัวที่มีต่อ “ความรู้สึก” ของตัวเอง กับสถานการณ์ความรักในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่มีคำว่า “ถูก/ผิด” แบบที่สามารถตัดสินได้ในทันที สิ่งที่อยู่เหนือความถูกผิดทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับทุกคนในเรื่องนี้ มันมี “เหตุผล” รองรับในระดับที่เราไม่สามารถไปตัดสินพวกเขาได้จริงๆ มันจะมีตัวละครที่เราอยากจะเกลียดแทบตาย แต่พอถึงจุดหนึ่ง เราก็จะรู้สึกว่า “เกลียดไม่ลง” หรือบางตัวละครที่เราเอาใจช่วยแทบตาย ก็ยังมีบางมุมที่อยากให้โดนเทไปจะได้จบๆ แต่ก็นั่นล่ะ.. มันเลยเป็น “เสน่ห์” อย่างที่สุดของซีรีส์ ที่ทุกตัวละครเป็น “สีเทา” ไม่มีใครดีไปกว่าใคร เพราะทุกคนมันคือ “มนุษย์” จริงๆ
.
.
เท่าที่นึกออกในตอนนี้ ก็แทบจะไม่มีหนัง หรือซีรีส์เรื่องไหน เล่าประเด็น “เกย์” ได้ “จริง” และ “กลม” เท่านี้ ด้วยความที่ “บริบท” ของซีรีส์มันคือ Bangkok (อย่าง Moonlight มันจริงในความรู้สึก แต่บริบทก็ยังไกลเราอยู่) หลายๆ โมเมนต์ ของหลายๆ คน เราก็เคยเห็น สัมผัส และเรียนรู้มันมาแล้วทั้งนั้น อาจจะมีบางเคสที่ไกลตัวเราไปหน่อย แต่สิ่งที่ทุกคู่มีเหมือนกันก็คือ การถ่ายทอดความรักของเกย์แบบ “มนุษย์” ปกติ ไม่ได้มีเส้นแบ่งว่าเกย์แตกต่างจากชายหญิงอย่างไร เพราะ “ความรัก” คือ “ความรู้สึกสากล” ที่มนุษย์ทุกคนมีส่วนร่วมไม่มากก็น้อย
.
.
ถ้าให้เลือกตัวละครที่รู้สึก “ใช่” ที่สุด ก็ยังคงเป็น “ปอม” อยู่ดี เขาคือตัวแทนของเกย์ที่มีกรอบบางอย่างเกี่ยวกับ “ความรัก” อย่างแรกคือ “ศีลธรรม” ที่ทุกอย่างมันมี “ความถูกต้อง” นำหน้า “ความรู้สึก” อยู่หนึ่งก้าวเสมอ (ถือคติ “ผัวเดียวเมียเดียว”) และ “ความเพ้อฝัน” แบบตุ๊ดยูนิคอร์นของปอม คือสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในคนประเภทนี้จริงๆ เวลาคนประเภทนี้มีความรัก ก็จะวาดฝันไว้ต่างๆ นานา และพอผิดหวังขึ้นมา ก็เหมือนวิมานที่วาดไว้พังทลาย แต่ก็พยายามจะประคับประคองให้มันกลับมาเป็นวิมานเหมือนเดิมให้ได้ มันก็จะมีบางมุมที่เรารำคาญปอม แต่ก็อดจะเอาใจช่วยไม่ได้อยู่ดี เพราะมันเหมือนเรามาก เหมือนจนรู้สึกว่า “เออ...คนแบบนี้ไม่ได้มีแค่เราคนเดียวนะ” และในตอนจบของซีรีส์ ที่เหมือนว่าความรักของปอมกับพี่หนึ่งจะกลับมาดี แต่เราเชื่อว่า “ปัญหา” ที่เกิดขึ้น มันได้ทิ้ง “บาดแผล” ให้กับพี่หนึ่งจนยากจะลบออก แต่สำหรับปอม เขาก็พร้อมจะ “ลบ” และ “เริ่มต้นใหม่” ได้ทุกเมื่อ เฮ่อ.. ถ้าซีซั่นสามมี ปอมจะต้องดราม่าปาน ธนพรมากแน่ๆ
.
.
ซีซั่นนี้ทำให้เราเข้าใจ “อาร์ม” มากขึ้น หลังจากที่เราแปะป้ายกับตัวละครนี้ไปแล้วว่า “เกลียด” เราไม่เคยเข้าใจกับระบบความคิดของอาร์มเลย แต่ซีซั่นนี้ก็ทำให้เราเห็นว่า “อาร์ม” คือหนึ่งในตัวละครที่ “น่าเห็นใจ” มากที่สุด “การงาน” ที่เหมือนจะไปได้สวย ก็ต้องมาถูกเพื่อนร่วมงานเหยียบหัว “ครอบครัว” ก็เกิดการสูญเสียคนที่เขารักมากที่สุดไปอีก พอมาเรื่อง “ความรัก” ก็วนลูปอยู่ที่จุดเดิม คือเริ่มต้นจาก “ความคลุมเคลือ” และลงเอยที่ “ความไม่ชัดเจน” ภายนอกของอาร์มดู “ไม่แคร์” แต่ความจริงคือโคตรจะแคร์กับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตกับ “ราม” จะเป็นยังไง แต่สิ่งที่ชัดเจนแบบไม่คลุมเคลือสำหรับเขาก็คือ “เพื่อน” ก่อนหน้านี้ เราจะรู้สึกว่าอาร์มกับปอมมันมีความครึ่งๆ กลางๆ จะรักก็ไม่ใช่ จะเกลียดก็ไม่เชิง จนเมื่อถึงตอนที่อาร์มออกโรงเรื่องพี่หนึ่ง รวมถึงการพูดตั่งต่าง เราก็รู้แล้วล่ะว่า สองคนนี้มันรักกันจริงๆ เป็นความรักแบบที่เพื่อนควรจะมีให้กันอย่างแท้จริง
.
.
ซีซั่นแรกเราเห็นใจ “พี่อ๊อฟ” และเกลียด “บิ๊ก” แต่พอมาซีซั่นนี้ เราไม่ค่อยเข้าใจพี่อ๊อฟเท่าไหร่ และยิ่งการเข้ามาของ “พี่เชษฐ์” มันยิ่งทำให้เราสับสนเข้าไปใหญ่ เราคงห่างไกลความสัมพันธ์แบบนี้ เพราะเราเชื่อไม่ลงกับความสัมพันธ์แบบ “เราสองสามคน “ เราแค่รู้สึกว่า ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน พอมีคนที่สามเข้ามา มันก็ไม่ใช่ความรักแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มันเหมือนจะเป็น “การหาทางออก” ให้กับความสัมพันธ์ที่พังลงแบบกู่ไม่กลับ แต่ด้วยความผูกพันก็ยังไม่สามารถสลัดทิ้งอีกคนไปได้ เลยทำให้ “บิ๊ก” กลายเป็นตัวละครที่เราค่อนข้างจะเห็นใจ และไม่เหลือความเกลียดอีกต่อไป ด้วยความที่ช่วงวัยของเขาคือ “การค้นหาชีวิต” ไม่ว่าจะเป็น “การงาน” ที่ยังไม่มีเป็นหลักแหล่ง หรือจะเป็น “ความรัก” ก็ยังหลงอยู่ในความสนุก แต่พอถึงจุดที่เขาเริ่มรู้สึกว่า “กำลังสูญเสีย..” อันนั้นล่ะ คือสวิตช์ที่ผลักให้เขาเติบโตขึ้น แต่จะไปในทิศทางไหน ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป
.
.
ส่วนความสัมพันธ์ของ “นัท” กับ “คามิน” เหมือนเป็นสื่อการเรียนการสอนเรื่อง “HIV” เหมือนกัน ถ้าสังคมเราเพิ่งฉุกคิดกับเรื่องนี้จาก Hormones เราว่าเรื่องนี้คือการขยี้ความเชื่อผิดๆ ให้ออกมาเป็น “รูปธรรม” มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ร่วมกันอย่างคนปกติ การรู้จักรับมือ และป้องกันเมื่ออยู่ในจุดที่เสี่ยง หรือจะเป็นสายตาที่สังคมมองกับเรื่องนี้ในแบบผิดๆ อีก ทุกอย่างถูกถ่ายทอดอย่างถูกที่ถูกเวลา และเป็นการเปลี่ยนความคิดตรงนั้นได้เยอะมาก นอกจากนั้นแล้ว ประเด็นของ “นัท” ยังมีเรื่องของ “น้องชาย” เข้ามา เป็นเหมือนกระจกสะท้อนภาพของนัทในวัยรุ่น การพยายามทำหน้าที่ของความเป็นพี่ชายให้ดีที่สุด และการวางแผนอนาคตของ “ตัวเอง” ร่วมกับคนรัก ในการทำธุรกิจในแบบที่คน 30+ คงจะเริ่มคิดกัน ซึ่งทุกอย่างที่เหมือนจะไปได้สวย อาจจะต้องสั่นคลอนเพราะ “การลงทุน“ ก็อย่างที่คามินบอกนั่นล่ะ “เรื่องเงิน...มันควรจะชัดเจน” และเราคิดว่านัทคงรู้สึกว่านั่นคือ “ความไม่ไว้ใจ” ที่กำลังก่อตัวขึ้น
.
.
ต้องขอบคุณที่ซีรีส์เพิ่มมิติของ “สตางค์” ที่เหมือนจะเป็นตัวละครสร้างสีสันให้กับเรื่องเฉยๆ ให้มีเลือดเนื้อ และเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง ที่สามารถมีความรักได้เหมือนกับคนอื่น อย่างช่วงแรก เราค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับความเคว้งคว้างของตัวละครนี้แบบสุดๆ มันเหงามากกว่าคนโสดที่ไม่เคยหลอกตัวเองเป็นร้อยเท่าเลยนะ แต่สุดท้ายแล้ว หนังก็เติมความหวานให้กับความขมของซีรีส์ ด้วยการเข้ามาของ “พี่ปูน” ที่เราภาวนาให้เป็น “รักครั้งแรก” ที่ดีของสตางค์ หรือจะเป็น “นุ้ย” อาจจะไม่ได้มีบทจนเป็นประเด็นหลักของเรื่อง แต่ปัญหารักๆ เลิกๆ ก็คงเป็นความคลาสสิคที่เราเห็นได้บ่อยๆ จากคนใกล้ตัว ซึ่งการมีอยู่ของตัวละครนี้ ทำให้ภาพรวมของซีรีส์ไม่แฟนตาซี (แบบมีแต่เกย์ทั้งเรื่อง) เพราะในสังคมจริงๆ ผู้หญิงบุคลิกแบบนี้แหละ เหมาะที่สุดในการเป็น “เพื่อนสาว” ของพวกเรา
.
.
สิ่งที่ดีมากของซีรีส์เรื่องนี้คือ “การแสดง” รวมถึงการวางคาแรคเตอร์ให้ออกมาในลักษณะนี้ มัน “สมจริง” เป็นการแสดงที่ดูไม่ใช่การแสดง ซึ่งอันนี้คือ Case Study ของนักทำหนัง หรือซีรีส์ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เราไม่รู้ว่า ผกก. ใช้ศาสตร์อะไรในการบรีฟนักแสดง เพราะมันเรียลกว่า “หม่อมน้อย” หรือ “ครูเงาะ” ซะอีก ทุกอย่างมันพอดีมาก ดราม่าอย่างมนุษย์ คอมเมดี้แบบที่เห็นในวงเหล้า หรือโรแมนติคในแบบที่หลายๆ คน คงจะเคยสัมผัส นอกจาก ผกก. จะเก่งแล้ว นักแสดงทุกคนก็เก่งไม่แพ้กัน ไม่มีใครที่รู้สึกว่า “เด้ง” หรือ “ดรอป” มันดีสมมาตรฐานทุกคน และสามารถทำให้เรารู้สึกไปพร้อมๆ กับพวกเขาได้ เท่านี้ก็ประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงแล้ว
.
.
จะไม่ชมเรื่องการเลือก “เพลง” ก็คงไม่ได้อีก เพราะมันแทบจะเป็น “หัวใจ” ของเรื่องไปแล้ว และแต่ละเพลงก็เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ในการฟังเพลงของเราด้วย แบบบางเพลงไปหลบอยู่ที่ไหนมา ความหมายมันดีซะจนคิดว่า เพิ่งแต่งสดๆ เพื่อให้เข้ากับซีรีส์ไปเลยก็มี รวมถึง “การถ่ายภาพ” ที่มีความเป็น “ภาพยนตร์” สูงมาก หลายซีนสวย และมีความหมายในตัวเอง แบบที่ไม่ต้องมานั่งอธิบายอะไรเลย สื่อสารอารมณ์ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะซีนบนดาดฟ้าที่ “อาร์มคุยกับบิ๊ก” สองตัวละครที่เราเคยเกลียด พอมาอยู่ในซีนนี้ มันกลายเป็นว่า “เห็นใจ” และพร้อมจะเอาใจช่วยพวกเขาให้กับ “อนาคต” ที่เราไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะเป็นยังไง
.
.
ต้องขอบคุณ GAY OK BANGKOK SEASON 2 ที่เปิด “มุมมอง” ให้กับเราในหลายๆ เรื่อง ทำให้เรา “เข้าใจ” กับสิ่งที่เรียกว่า “ความรู้สึก” ได้มากขึ้น และยิ่งความรู้สึกนั้นคือ “ความรัก” มันย่อมไม่มี “ขาวหรือดำ” แต่มันคือ “สีเทา” ที่ทุกคนพร้อมจะสวมบทเป็น “ตัวอิจฉา” หรือ “นางเอก” ได้ทุกเมื่อ และทุกครั้งที่ดูซีรีส์ก็ต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง เราคงไม่สามารถตัดสินอะไรแทนใครได้ แต่ถ้าใครกำลัง “สับสน” และ “ไม่เข้าใจ” กับความสัมพันธ์ หรือความรู็สึกที่เกิดขึ้น การได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ คือการทลายกำแพงของ “ความไม่เข้าใจ” ได้ดีมากๆ เรื่องหนึ่งเลยล่ะ
By @BenjatimButton
「เพลง เราสองสามคน」的推薦目錄:
- 關於เพลง เราสองสามคน 在 Trasher , Bangkok Facebook
- 關於เพลง เราสองสามคน 在 เรา สองสาม คน (Ost.ภาพยนตร์เรา สองสาม คน) - อัสนี โชติกุล 的評價
- 關於เพลง เราสองสามคน 在 เราสองสามคน (เพลงประกอบภาพยนตร์... - YouTube 的評價
- 關於เพลง เราสองสามคน 在 เราสองสามคน - อัสนี & วสันต์ โชติกุล (Drum Playthrough) - YouTube 的評價
- 關於เพลง เราสองสามคน 在 MV เราสองสามคน (ใช่เธอจริงๆ)- อัสนี & วสันต์ [Unofficial MV] 的評價
- 關於เพลง เราสองสามคน 在 Trailer เราสองสามคน (OFFICIAL) - YouTube - Pinterest 的評價
- 關於เพลง เราสองสามคน 在 Trailer เราสองสามคน (OFFICIAL) - YouTube - Pinterest 的評價
เพลง เราสองสามคน 在 เราสองสามคน (เพลงประกอบภาพยนตร์... - YouTube 的八卦
![影片讀取中](/images/youtube.png)
Provided to YouTube by GMM Grammy Public Company Limited เราสองสามคน ( เพลง ประกอบภาพยนตร์ เราสองสามคน ) · อัสนี & วสันต์อัสนี & วสันต์ (New ... ... <看更多>
เพลง เราสองสามคน 在 เราสองสามคน - อัสนี & วสันต์ โชติกุล (Drum Playthrough) - YouTube 的八卦
![影片讀取中](/images/youtube.png)
... วสันต์ โชติกุล เพลง ประกอบภาพยนตร์ เราสองสามคน (2553)ตลอดระยะเวลา 25 ปีในวงการ เพลง นอกจากการทำ เพลง กับวงตัวเองและรับเชิญไปอัดเสียงให้กับศ. ... <看更多>
เพลง เราสองสามคน 在 เรา สองสาม คน (Ost.ภาพยนตร์เรา สองสาม คน) - อัสนี โชติกุล 的八卦
Digital Download : *123 1017833 3iTunes Download : https://goo.gl/zrbxqVKKBOX : http://kkbox.fm/6c1D89 เพลง : เรา สองสาม คน (ภาพยนตร์เรา ... ... <看更多>