Search
(คลิป) เปิดตัวว่าที่ All-New Honda HR-V EV 2022-2023 โฉมใหม่หรือไม่? มันคือ SUV e:Prototype https://cardebuts.com/2021/04/the-all-new-honda-hr-v-vezel-ev-2022-2023-suv-eprototype-auto-shanghai-2021/
สรุปข้อมูล การเดินทางของคนไทย ในช่วงล็อกดาวน์ จาก Google Mobility Index /โดย ลงทุนแมน
ทุกคนคงสงสัยว่าในช่วงล็อกดาวน์ คนไทยไปแต่ละสถานที่น้อยลงเท่าไร แล้วมีสถานที่ไหน คนไทยไปมากขึ้นบ้าง ?
เราลองมาดูข้อมูลของ Google Mobility Index ที่ทาง Google เขาเก็บจากประวัติการเดินทางของคนไทยผู้มีบัญชี Google ว่าจะเป็นอย่างไร
ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย
กลุ่มค้าปลีกและสันทนาการ -23%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไป ร้านอาหาร คาเฟ่ ศูนย์การค้า สวนสนุก โรงภาพยนตร์ ของคนไทย
กลุ่มร้านขายของชำและร้านขายยา +12%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไป ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ของคนไทย
กลุ่มสวนสาธารณะ -40%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไป สวนสาธารณะ สวนน้ำ ชายหาด ของคนไทย
กลุ่มสถานีขนส่ง -60%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไป สถานีขนส่งมวลชน เช่น รถไฟฟ้า รถไฟ รถบัส ของคนไทย
กลุ่มสถานที่ทำงาน -25%
กลุ่มนี้หมายถึง การเดินทางไปสถานที่ทำงานของคนไทย
กลุ่มที่อยู่อาศัย +10
กลุ่มนี้หมายถึง การอาศัยในที่อยู่อาศัยของคนไทย
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า แต่ละสถานที่ได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกัน
เช่น กลุ่มสถานีขนส่งที่ต้องเจอผู้คนจำนวนมาก คนเดินทางไปน้อยลงมากถึง 60% แน่นอนว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งผู้คน น่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง เช่น รถไฟฟ้า BTS MRT รถไฟ รถเมล์ รถบัส หรือแม้กระทั่งสายการบิน
แต่ในขณะเดียวกัน การขนส่งที่น่าจะพุ่งขึ้นสวนทางกันก็คือ การขนส่งพัสดุ และการขนส่งอาหาร ที่ทุกคนใช้บริการกันมากขึ้น เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการเดินทางไปส่งพัสดุสินค้า หรือไปร้านอาหารด้วยตนเอง
กลุ่มต่อมาก็คือกลุ่มที่โดนรัฐบาลสั่งปิด เช่นศูนย์การค้าหรือโรงภาพยนตร์ แน่นอนว่าผู้คนจะไปน้อยลง รวมถึงร้านอาหารที่คนไปนั่งรับประทานในร้านไม่ได้ ดังนั้น คนที่จะเดินทางไปร้านอาหารก็จะมีแต่ คนที่ซื้อกลับบ้าน หรือ ไรเดอร์ส่งอาหาร โดยกลุ่มนี้คนไปน้อยลง 23%
กลุ่มสถานที่ทำงานก็เป็นอีกกลุ่มที่คนไปน้อยลง 25% เพราะ ออฟฟิศสำนักงานส่วนใหญ่มีนโยบาย Work From Home กันในช่วงล็อกดาวน์นี้
อย่างไรก็ตาม มีบางสถานที่กลับมีคนไทยไปมากขึ้น เช่น ร้านขายของชำที่ขายของจำเป็นในชีวิตประจำวัน และร้านขายยาที่คนให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ และการรักษาอาการเจ็บป่วยในช่วงนี้ ทำให้เดินทางไปมากขึ้น 12%
และสุดท้าย อีกหนึ่งสถานที่ที่คนไทยเดินทางไปในช่วงล็อกดาวน์กันมากขึ้น ไม่ใช่ที่ไหน แต่เป็นที่อยู่อาศัยของแต่ละคนนั่นเอง..
Reference:
https://www.gstatic.com/covid19/mobility/
Remarks:
ข้อมูลนี้คำนวณ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2021 โดยใช้จำนวนครั้ง และระยะเวลาในการไปสถานที่ต่าง ๆ เมื่อเทียบกับ เวลาฐานที่เป็นค่ามัธยฐานระหว่างวันที่ 3 มกราคม ถึง 6 กุมภาพันธ์ 2020 ซึ่งมาจากประวัติการเดินทางของผู้ใช้บัญชี Google
“ซีพี ออลล์” ประกาศเปิดแผนมุ่งสู่ “7 Go Green 2021” เตรียมมุ่งผลักดันการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหน้าร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ให้แล้วเสร็จ 100 สาขาภายในปีนี้! โดยจะมีให้บริการทั้งแบบ “ชาร์จเร็ว” ใน 30 นาที หรือแบบชาร์จช้าต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เพื่อรองรับเทรนด์พลังงานสะอาดที่ผู้บริโภคเริ่มหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Green Building ตามแนวทางนโยบาย 7 Go Green
.
โดยก่อนหน้านี้ บริษัทพลังงานอย่าง “เชลล์” ก็ได้จับมือกับ BMW เปิดตัว Shell Recharge จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในไทย ขณะเดียวกัน เจ้าใหญ่อย่าง ปตท. ก็มีแผนจะเปิดประมูลจัดหาอุปกรณ์ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ในปีนี้เพิ่มเป็น 100 แห่งทั่วประเทศเน้นหัวเมืองหลักในแต่ละจังหวัด
.
การติดตั้งและกระจายสถานีชาร์จรถไฟฟ้าให้แพร่หลายผ่านร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” จึงเป็นอีกหนึ่งอย่างที่หลายคนจับตามองว่า จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการรองรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ดีเลยทีเดียว เพราะร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น เป็นร้านสะดวกซื้อที่มีผู้คนแวะเวียนไปมากที่สุด ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย
.
ดังนั้น หากมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ใกล้บ้าน ก็น่าจะช่วยให้ผู้บริโภคเปิดใจใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นกว่าเดิม เพราะถึงแม้ผู้บริโภคจะเริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้มีจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเพราะยังเคยชินกับรถยนต์รูปแบบเดิม และอีกส่วนหนึ่งยังคงติดปัญหาเรื่องสถานีชาร์จไฟฟ้าที่หายาก ไม่ได้มีอยู่ทั่วไปเท่าปั๊มน้ำมัน จึงอาจไม่สะดวกต่อการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
.
นอกจากนี้ ซีพี ออลล์ ยังได้เปิดเผยถึงการวางแนวทางดำเนินงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้นโยบาย 7 Go Green ของปี 2564 ว่าต้องการให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่าน 4 ด้านหลักๆ ได้แก่ Green Building, Green Store, Green Logistic และ Green Living เพื่อลดและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปีนี้ ซึ่งวางเป้าไว้ที่ 128,426 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tC02e) หรือเปรียบเทียบการปลูกต้นไม้ยืนต้นจำนวน 347,648 ต้น จากปีก่อนที่สามารถลดและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปได้กว่า 120,031 ตัน เทียบกับการปลูกต้นไม้ยืนต้นจำนวน 332,681 ต้น
.
ขณะเดียวกันยังมีการออกแบบและบริหารจัดการร้านที่เน้น “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ลดใช้พลังงานต่าง ๆ เช่น เปลี่ยนเครื่องปรับอากาศเป็นประเภท Inverter , ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์, โครงการปรับปรุงระบบทำความเย็นของตู้แสดงสินค้า ชนิดไร้บานประตูเป็นแบบรวมศูนย์, โครงการ Knockdown Store นำวัสดุเปลือกอาคารกลับมาใช้ใหม่
.
เน้นการออกแบบ “บรรจุภัณฑ์” เพื่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลาสติแบบครั้งเดียวทิ้ง จัดให้มีถังแยกขยะในทุกสาขาของร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น และสำหรับการขนส่งและกระจายสินค้าก็จะเน้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย โดยการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศที่มีอยู่ทั้งหมด 20 แห่งใน 12 จังหวัด ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งล่าสุด ซีพี ออลล์ ก็กำลัง “ศึกษาพัฒนารถขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้า” เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้ในการขนส่งของบริษัทอีกด้วย
.
ที่มา : https://www.cpall.co.th/category/news
https://positioningmag.com/1325736#
https://www.infoquest.co.th/2021/74406
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#Business #CPALL #ซีพีออล์ #เซเว่นอีเลฟเว่น #7GoGreen #สถานีชาร์จรถไฟฟ้า #รถไฟฟ้า #พลังงานทดแทน #ก๊าซเรือนกระจก #สิ่งแวดล้อม
ในช่วงนี้ คงไม่มีแบรนด์รถยนต์ใด ที่มีการพูดถึงมากเท่ากับ Chevrolet ที่บริษัทแม่อย่าง General Motors หรือ GM เพิ่งประกาศยุติการดำเนินธุรกิจในเมืองไทย ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีอีกชื่อหนึ่ง ที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง ในฐานะผู้เข้ามาซื้อกิจการต่อจาก GM นั่นก็คือ Great Wall Motors ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่คนไทย ไม่คุ้นหูมาก่อนก็ว่าได้
ครั้งหนึ่ง เราเคยนำเสนอเรื่องราวของ Great Wall เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในฐานะค่ายรถยนต์สัญชาติจีน ที่กล้าออกมาประกาศว่า จะขึ้นมาเป็นค่ายรถยนต์อันดับ 3 ของโลก ที่มีส่วนแบ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันมากที่สุด พร้อมเผยถึงแผนงาน การขยายการครอบคลุมการผลิตและจำหน่าย ในตลาดสำคัญทั่วโลก ซึ่ง Great Wall ไม่ได้มีดี เพียงแต่พูดเท่านั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ การเข้าไปซื้อกิจการโรงงานผลิตรถยนต์ ในประเทศต่างๆ ทั้งรัสเซีย อินเดีย และล่าสุดก็คือ โรงงานผลิตรถยนต์ Chevrolet ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย
นั่นทำให้เกิดความน่าสนใจขึ้นว่า Great Wall มีแผนงานใดต่อไป กับตลาดเมืองไทย หลังจากที่เราได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ค่ายรถยนต์ที่มีความทะเยอทะยานมากที่สุดจากจีนรายนี้ น่าจะเลือกเปิดตลาดเมืองไทย ด้วยการเปิดตัวรถกระบะที่เป็น global model อย่าง Cannon หรือ P Series เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ของยอดขาย 3 ล้านคัน ภายในปี 2025 ซึ่งจริงๆแล้ว Great Wall ยังมีรถรุ่นอื่นๆที่น่าสนใจ และคาดว่าจะมีการเปิดตัวในเมืองไทย ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งในคลิปนี้ เราจะมานำเสนอว่า รถรุ่นใดของ Great Wall ที่จะมีโอกาสเปิดตลาดในเมืองไทยมากที่สุด จากรถยนต์ทั้งหมด 14 รุ่น ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน
แม้ว่า Great Wall ยังไม่เปิดเผยรุ่นรถยนต์ ที่จะทำตลาดในเมืองไทยในขณะนี้ แต่ก็มีการเปรยถึงประเภทรถยนต์ ที่จะทำตลาดในเมืองไทย ผ่านการให้สัมภาษณ์ หรือแถลงข่าวออกมาเป็นระยะ ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า Great Wall น่าจะมีการทำตลาดรถกระบะปิกอัพ ที่ค่อนข้างจะยืนพื้น ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน อันดับ 1 ของโลก อย่างไทย รถยนต์อีก 2 ประเภท ที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวด้วยก็คือ รถ SUV และรถไฟฟ้า ซึ่งรถยนต์ทั้ง 3 ประเภท เป็นรถยนต์ 3 ประเภทหลัก ที่ Great Wall มีจำหน่ายในปัจจุบัน
สวัสดีครับ พลังงานไฟฟ้า เป็นพลังงานทางเลือก ที่ผู้ผลิตรถทั่วโลก ต่างมุ่งเน้นมากในยุคนี้ แต่บางคนอาจคิดว่า มันบอบเบา พังง่าย ขับได้แค่เมือง ถ้าอย่างนั้นคุณคิดผิด วันนี้ เราจะพาคุณ ไปดู 5 สุดยอดรถพลังไฟฟ้า แบบโคตรลุย บุกตะลุยทุกเส้นทาง ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต !!!!
Top 5 Off-Road Electric Car in The Word 2021
Music
BEAUZ & Momo - Won't Look Back [NCS Release]
Rabid
Burnt
Vindicated
Maduk - Go Home [NCS Release]
รีวิว เจาะลึก The new ORA Good Cat 2021-2022 ออร่า กู๊ดแคท รถยนต์ไฟฟ้า 100% ฟีเจอร์ล้ำสมัย จ่อเขย่าตลาด City Car เมืองไทย
เปิดตัวบริษัทในไทยไปแล้ว อย่างเป็นทางการ สำหรับ Great Wall Motor ในชื่อนิติบุคคลว่า Haval Sales Thailand พร้อมเผยแผนการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ในเมืองไทยถึง 9 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยในปี 2021 เพียงปีเดียว Great Wall เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ถึง 4 รุ่นด้วยกัน โดยเป็นรถ suv 2 รุ่น รถยนต์ไฟฟ้าอีก 2 รุ่น ซึ่งในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ มีการเปิดเผยรุ่นที่จะทำตลาดก่อน 2 รุ่น คือ Haval H6 รถเอสยูวีรุ่นเรือธงของบริษัท และ ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้าโฉมใหม่ล่าสุด
วันนี้ เราขอพามาทำความรู้จัก ORA Good Cat ให้มากขึ้น ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้น หลังจากการเปิดตัว Haval H6 ไปแล้ว
ORA Good Cat เป็นรถยนต์สไตล์แฮทช์แบ็ค 5 ประตู ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า 100% ซึ่งถูกผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน มาพร้อมที่ดีไซน์ที่ราวกับว่า เป็นการผสมผสานระหว่างรถยนต์จากค่าย PORSCHE เข้ากับ Volkswagen Beetle Fiat 500 และ Mini มีมิติตัวถัง ที่ใหญ่กว่าทั้ง Toyota Yaris, Mazda2 และ Mitsubishi Mirage ที่จำหน่ายในเมืองไทยในทุกมิติ คือมีความยาว 4235 มม กว้าง 1825 มม และสูง 1,596 มม ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,650 มม ซึ่งถือว่ายาวกว่าคู่แข่งทั้ง 3 รุ่นอีกเช่นกัน ทำให้ตอบโจทย์ ในเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสารภายใน ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในคลาส จะเป็นรองในเรื่องความยาว ก็เฉพาะ Honda City hatchback ที่ยาวกว่า 110 มม แต่ Good Cat ก็ยังกว้างกว่า สูงกว่า และมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่า ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนรุ่นนี้ น่าจะยืน 1 ในเรื่องพื้นที่ใช้สอย ในบรรดารถยนต์ระดับเดียวกันก็ว่าได้
รถไฟฟ้า2021 在 อัพเดทรถไฟฟ้าเปิดตัว 2021!! ค่ายไหนจะเอาเทคโนโลยีอะไรมาแข่ง ... 的八卦
รถไฟฟ้า2021 #รถยนต์ไฟฟ้า #รถไฟฟ้านับวันกลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งแข่งกันดุเดือดมากขึ้น หลายๆค่ายไม่ว่าจะเป็น บริษัทไอทีที่ทำรถไฟฟ้าอย่าง Tesal ... ... <看更多>