LIVE Goods For Fund ของแทนใจแลกเงินเธอ
มาร่วมบริจาคแลกของฝากแทนใจจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ของพิเศษๆทั้งนั้นและตอนท้ายมีประมูลหนังสือของมิ้นท์ พิมพ์ครั้งที่ 1 พร้อมลายเซ็นต์ด้วยนะคะ
***CF แล้วกดเข้าไปโอนเงินผ่าน Link ที่จะส่งให้ทาง Inbox นะคะ พร้อมแนบสลิปมาด้วยน้า ขอบคุณมากๆนะคะ
#GoodsForFundของแทนใจแลกเงินเธอ
#ทิ้งรัฐลงแม่น้ำ
#โปรเจคบางระจัน
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過134萬的網紅Point of View,也在其Youtube影片中提到,นิทรรศการมหาวชิราวุธราชบรรณาลัย ชั้น 7 สำนักงานวิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดให้ชมทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-17.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ ...
พิมพ์ครั้งที่1 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
สรุปเรื่อง มนุษย์ต่างดาว ฉบับสมบูรณ์ /โดย ลงทุนแมน
ภาพ UFO ที่เป็นข่าวใหญ่ และทางการสหรัฐฯ ยอมรับว่าเป็นภาพจริง แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นอะไร
ได้สร้างแรงกระเพื่อมอีกครั้งในสังคมว่า
“จริงๆ แล้ว ในจักรวาลนี้ เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาอยู่รายเดียวในโลกนี้ หรือไม่?”
ลงทุนแมนขอถามกลับคำเดียวว่า
อยากรู้จริงๆ ใช่มั้ย?
ถ้าอยากรู้ ขอเชิญดำดิ่งไปในเรื่องนี้ด้วยกัน
ตั้งสติดีๆ แล้วเชิญจินตนาการ
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เริ่มต้นจากภาพใหญ่ด้วยคำถามว่า ในจักรวาลนี้มีดาวอยู่ทั้งหมดกี่ดวง?
จาก Research Paper ต่างๆ มีการคาดการณ์ว่า ในจักรวาลของเรา จะมีดาวทั้งหมดประมาณ 1 ล้านล้านล้านล้านล้านล้านดวง (เลขศูนย์ 36 ตัว)
และในดาวเหล่านั้น น่าจะมีดาวที่คล้ายดวงอาทิตย์ของเราอยู่ประมาณ 500 ล้านล้านล้านดวง
มาถึงตรงนี้
ดูเหมือนจะมีโอกาสมากเหลือเกิน ที่จะมีดาวที่คล้ายโลกอยู่อย่างน้อยสัก 1 ดวง
แต่ทำไมจนถึงตอนนี้ เรายังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ทำไมเรื่องนี้ยังเป็นปริศนาสำหรับมนุษย์
การเกิดขึ้นของสิ่งมีชีวิต (ตามแบบฉบับของโลกเรา) จะต้องมีอุณหภูมิ บรรยากาศ แร่ธาตุ ที่เหมาะสม และใช้เวลาที่นานพอ ในการเกิดวิวัฒนาการ
ซึ่งหมายความว่า สิ่งมีชีวิตที่ครอบครองดาวนั้นต้องโชคดีมากๆ ที่จะอยู่รอดได้นานพอจนเกิดภูมิปัญญา และเกิดอารยธรรมขึ้นบนดาวดวงนั้น
ย้อนกลับมาดู TIMELINE ในการเกิดจักรวาล และโลกของเรา
13,800,000,000 ปีที่แล้ว “เกิดบิ๊กแบง”
นักฟิสิกส์ได้ยอมรับว่า จักรวาลของเรา มีจุดกำเนิดเมื่อ 13,800 ล้านปีก่อน ในตอนนั้นทั้งสสาร พลังงาน เวลา ได้ถือกำเนิดขึ้นจากจุดเล็กๆ ที่เรียกว่า บิ๊กแบง หลังจากนั้นสิ่งต่างๆ จึงขยายตัวออกมา และตอนนี้จักรวาลก็กำลังขยายตัวอยู่..
(จริงๆแล้ว ยังมีทฤษฎี Conformal Cyclic Cosmology อธิบายว่าก่อนหน้าบิ๊กแบงก็มีอีกจักรวาลก่อนหน้าไปเรื่อยๆ ซึ่งจะไม่พูดถึงในบทความนี้)
4,500,000,000 ปีที่แล้ว “โลกมนุษย์ได้ก่อตัวขึ้น”
โลกของเราได้เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุริยะเมื่อ 4,500 ล้านปีก่อน โดยโลกเกิดจากการบีบอัดตัวของฝุ่นและแก๊ส หลังจากนั้นอีก 100 ล้านปีก็มีมหาสมุทรเกิดขึ้น และหลังจากนั้นก็มีสิ่งชีวิตขนาดเล็กเกิดขึ้นบนโลก
580,000,000 ปีที่แล้ว “สิ่งมีชีวิตที่มีเส้นประสาทกำเนิดขึ้น” แมงกะพรุน เป็นสัตว์ตัวแรกบนโลกมนุษย์ที่มีเส้นประสาท
200,000 ปีที่แล้ว “Homo Sapiens กำเนิดขึ้น” แต่ Homo Sapiens ในยุคนั้นก็ไม่ได้ต่างจากสัตว์อื่นเท่าไร เพราะยังไม่ได้มีภูมิปัญญา
70,000 ปีที่แล้วเป็นจุดที่ Homo Sapiens เริ่มมีการตระหนักรู้ เริ่มรู้ว่าตัวเองคือใคร และอารยธรรมก็เริ่มก่อตัวขึ้นบนโลกหลังจากนั้น
สังเกตได้ว่า ช่วงเวลาที่ Homo Sapiens ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นช่วงเวลาสั้นมากเมื่อเทียบกับโลกและจักรวาลนี้เกิดขึ้นมา และก็โชคดีมากที่ครั้งหนึ่ง Homo Sapiens เคยรอดมาได้จากสภาวะที่หนาวเหน็บ ซึ่งในช่วงที่แย่สุด Homo Sapiens เคยเหลือเพียงไม่กี่หมื่นชีวิตบนโลกนี้
Homo Neanderthalensis ที่เคยใช้ชีวิตร่วมกับ Homo Sapiens ได้สูญพันธุ์ไป และถ้าครั้งนั้น Homo Sapiens โชคร้ายกว่านี้สักหน่อย อารยธรรมต่างๆ ของเราตอนนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น..
นั่นแปลว่าวิวัฒนาการแบบ Homo Sapiens มันอาจเกิดขึ้นได้ยากมาก
และใช้เวลานานกว่าจะเป็นภาพที่เราเห็นในปัจจุบัน
รู้ไหมว่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกวันนี้ทั้ง รถยนต์ ไฟฟ้า หรือแม้แต่น้ำอัดลม ก็เพิ่งเกิดขึ้นแค่ในช่วงสุดท้ายของประวัติศาสตร์ Homo Sapiens ทั้งหมด
ถ้าให้จุดวันที่ Homo Sapiens เกิดขึ้นเป็นเวลา 0.01 น. ของวันที่ 1 มกราคม
เราจะใช้ชีวิตล่าสัตว์หาของป่า 11 เดือนกว่า มาจนถึงวันที่ 13 ธันวาคม
เราจะเริ่มเปลี่ยนเป็นชาวนาในวันที่ 14 ธันวาคม
และจะเริ่มเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม ประมาณ 16.00 ของวันที่ 31 ธันวาคม
ส่วนช่วงเวลาที่เราเริ่มดื่มน้ำอัดลม เกิดขึ้นเมื่อ 10 วินาที ก่อน countdown
และ ช่วงเวลาที่เรารู้จักโซเชียลมีเดีย เป็นแค่จุดสุดท้ายก่อน countdown สิ้นปี
พูดง่ายๆ กระบวนการพัฒนาของอารยธรรมเป็นแบบ Exponential
ช่วงแรกจะต้วมเตี้ยมเชื่องช้า ถ้ามีอะไรมาขัดจังหวะมันก็พังทลายลง
แต่เมื่อมันจุดติดแล้ว ช่วงหลังๆ การพัฒนาจะเป็นแบบก้าวกระโดด แม้แต่สิ่งมีชีวิตเดียวกันก็คงตกใจ
ถ้าให้คนสมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อ 300 ปีที่แล้ว มาดูกรุงเทพมหานคร ตอนนี้ เขาคงคิดว่าเขากำลังฝันไป
แม้มนุษย์จะร่างคล้ายกัน เป็นสปีชีส์ Homo Sapiens เหมือนกัน แต่ถ้าเปรียบยุคนี้ กับยุค 300 ปีที่แล้ว การใช้ชีวิต เทคโนโลยี รูปแบบของสังคม จะต่างกันโดยสิ้นเชิง..
แล้วมนุษย์ต่างดาวล่ะ?
การใช้ชีวิต เทคโนโลยี รูปแบบของสังคมจะเหมือนหรือต่างกับเราอย่างไร?
ถ้าถามมนุษย์ ตามหลัก Maslow’s Hierarchy ทุกคนก็จะบอกว่าเป้าหมายชีวิตจะเริ่มจาก อาหาร น้ำ ที่อยู่อาศัย สุขภาพ ทรัพย์สินเงินทอง มิตรภาพ ได้รับการยอมรับ
แล้วมนุษย์ต่างดาวกินอาหาร กินน้ำเหมือนมนุษย์ไหม?
มนุษย์ต่างดาวเจ็บป่วยเหมือนมนุษย์ไหม?
ถ้าเอาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปใส่ในตัวมนุษย์ต่างดาวจะเป็นอย่างไร ความฉลาดล้ำลึก ร่างกายที่แข็งแกร่งของมัน จะสู้ไวรัสได้หรือไม่
แล้วมนุษย์ต่างดาวอยากดัง อยากมีอำนาจ อยากรวย เหมือนมนุษย์บ้างไหม
เป้าหมายในชีวิตของมนุษย์ต่างดาว จะเป็นอย่างไร?
คำถามที่น่าคิดต่อไปก็คือ เทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาว จะเรียงลำดับการค้นพบแบบมนุษย์ หรือต่างกันแค่ไหน เครื่องจักรไอน้ำ กระแสไฟฟ้า ทีวี อินเทอร์เน็ต เป็นลำดับการค้นพบที่ต้องเป็น Pattern แบบนี้ไปทุกดาวหรือไม่
มนุษย์ตอนนี้ให้ค่าของคน จากตัวเลขในบัญชีธนาคาร ว่าใครมีมากกว่ากัน
ประเทศที่เศรษฐกิจดีที่สุดคือ ประเทศที่มีตัวเลข GDP มากที่สุด
ใครมีชื่อเสียงมากสุด ก็คงวัดจากคนที่มี Follower ในสื่อโซเชียลมากที่สุด
แล้วมนุษย์ต่างดาว มีการวัด GDP แบบมนุษย์หรือไม่
มนุษย์ต่างดาวต้องสะสมยอด Follower บ้างไหม
แต่แน่นอนว่ามนุษย์ต่างดาว คงมีเป้าหมายในชีวิต
เพราะสิ่งมีชีวิตที่ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เฉื่อยแฉะ มันคงไม่สามารถมีเทคโนโลยีขั้นสูงได้
คำถามต่อไปคือ การมีเทคโนโลยีขั้นสูง มันจะสูงขนาดไหน?
ถ้าให้จัดกลุ่มอารยธรรมของสิ่งมีชีวิตตามเกณฑ์ของ The Kardashev Scale จะแบ่งตามความสามารถในการใช้พลังงานของสิ่งมีชีวิต
Type 1: สามารถใช้พลังงานทั้งหมดบนดาวที่เขาอยู่ ซึ่งตอนนี้มนุษย์โลกยังอยู่ในระดับที่ Type 0.73 ยังไม่ถึง Type 1
Type 2: ใช้พลังงานจากดวงอาทิตย์ของเขาได้ เช่น การสร้างวัตถุห่อหุ้มดวงอาทิตย์
Type 3: กลุ่มนี้จะเหนือชั้นสุดคือ ใช้พลังงานจากทั้งกาแล็กซีของเขาได้
อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าเราเจอ UFO เราก็น่าจะเจอสิ่งมีชีวิตประเภท Type 3 หรือประเภทฉลาดล้ำสุดๆ สามารถเดินทางข้ามกาแล็กซีได้
แต่ที่เรายังไม่เจอสิ่งมีชีวิตข้ามกาแล็กซีได้ก็อาจเป็นเพราะ สิ่งมีชีวิตเมื่อพัฒนาไปถึงจุดหนึ่งจะมีกำแพงบางอย่างที่ข้ามผ่านไปไม่ได้ เช่น การเดินทางที่เร็วกว่าแสง อายุขัยของสิ่งมีชีวิต การใช้ทรัพยากรหมดไม่ทันที่จะไปหาในดาวอื่น สิ่งแวดล้อมที่เสื่อมลง หรือการคุกคามจากอุกกาบาต
แต่คำถามก็คือ สมมติว่า UFO มีจริง สิ่งมีชีวิตชั้นสูงมีจริง ทำไมเขาจึงต้องคอยหลบซ่อนตัว ไม่ให้มนุษย์โลกเห็น? คำตอบที่พอจะเป็นไปได้ของเรื่องนี้ก็คือ
- สิ่งมีชีวิตอาจเคยเยือนโลกแล้วตั้งแต่ก่อนที่มนุษย์จะเกิดขึ้น (อย่าลืมว่าจักรวาลกำเนิดขึ้นมาแล้ว 13,800 ล้านปี แต่มนุษย์เพิ่งจะมีสติปัญญาพอจะบันทึกเหตุการณ์ได้ในช่วงไม่กี่พันปีหลังสุด)
- สิ่งมีชีวิตชั้นสูงส่วนใหญ่รู้ว่าไม่ควรโฆษณาบอกตำแหน่งตัวเองให้คนอื่นรู้ เพราะเขาก็ไม่แน่ใจในดาวดวงอื่น ถึงแม้เราจะไม่เป็นอันตรายกับเขาในตอนนี้ แต่เราอาจเป็นอันตรายในอนาคตก็ได้
- สิ่งมีชีวิตชั้นสูงรู้ว่าเราอยู่ที่นี่ และกำลังเฝ้ามองเราอยู่ แต่เราเป็นเขตอนุรักษ์ เหมือนเราเข้าอุทยานแล้วห้ามรบกวนสัตว์ป่า
- สิ่งมีชีวิตชั้นสูงอยู่รอบตัวเรา แต่เรายังไม่รู้ว่าเขาเป็นรูปแบบไหน เขาอาจจะไม่ได้มีรูปแบบที่จับต้องได้แบบมนุษย์ และเขาก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะมาเจอเรา เหมือนกับเราเป็นมดในป่า คนก็รู้ว่ามีมดอยู่ในป่า แต่คนก็ไม่ได้สนใจมดตัวนั้น
หรือสุดท้ายแล้ว
เราอาจเป็นส่วนหนึ่งในแบบจำลองของอีกโลกหนึ่งเพื่อดูว่าสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างไร
และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่ได้ถูกโปรแกรมเข้ามาในแบบจำลองนี้ ก็เท่านั้นเอง..
╔═══════════╗
ชอบสำนวนเขียนแบบนี้
และอยากรู้เรื่องประวัติศาสตร์โลก
ตั้งแต่โรคระบาดไปจนถึงการล่มสลายของอาณาจักรต่างๆ
หนังสือ เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 5
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงประวัติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1100 ไล่ยาวไปจนถึง ค.ศ.2019
สั่งซื้อได้ที่ (ซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
https://edition.cnn.com/2020/04/27/politics/pentagon-ufo-videos/index.html
https://www.longtunman.com/282
https://www.longtunman.com/2350
https://www.longtunman.com/9635
https://www.facebook.com/PrapasChol
https://branche.online/the-fermi-paradox-and-the-great-filter/
หนังสือเรื่องเล่าจากร่างกาย - นพ. ชัชพล เกียรติขจรธาดา
พิมพ์ครั้งที่1 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ธนาคาร กำลังเจอคลื่นซัด /โดย ลงทุนแมน
ข่าวใหญ่ของเมื่อวาน เรื่องแบงก์ชาติประกาศให้ทุกธนาคาร
งดการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งดซื้อหุ้นคืน
ในระหว่างจัดทำ “แผนบริหารจัดการระดับเงินกองทุน”
เรื่องนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า แบงก์ชาติกำลังกังวล กับผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้น
แล้วเรื่องนี้เราควรรู้อะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
โมเดลธุรกิจของธนาคาร ปกติแล้วจะมีการ LEVERAGE คือมีทุนของเจ้าของเพียงส่วนหนึ่ง และมีการใช้เงินคนอื่นมาทำธุรกิจอีกส่วนหนึ่ง
เงินคนอื่นในที่นี้ ก็คือ เงินฝากของคนทั่วไป
ส่วนการทำธุรกิจหลักของธนาคาร ก็คือ การปล่อยกู้ต่อให้ภาคธุรกิจหรือบุคคลทั่วไป ในดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ยกตัวอย่าง งบไตรมาส 1 ปี 2020
KBANK ส่วนของเจ้าของ 407,000 ล้านบาท มีเงินรับฝาก 2,202,000 ล้านบาท มีเงินให้สินเชื่อ 1,929,000 ล้านบาท
SCB ส่วนของเจ้าของ 407,000 ล้านบาท มีเงินรับฝาก 2,276,000 ล้านบาท มีเงินให้สินเชื่อ 1,989,000 ล้านบาท
ถ้าโลกนี้ดำเนินไปอย่างปกติ
ธนาคารก็จะได้ดอกเบี้ยที่มากเกินค่าใช้จ่าย ไหลลงมาเป็นกำไรให้ธนาคาร
ได้เงินต้นคืนจากผู้กู้ เมื่อครบกำหนดชำระ แล้วก็นำเงินนั้นไปปล่อยกู้ต่อ วนไปเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่าระหว่างนี้จะมีผู้กู้เบี้ยวหนี้บ้าง ไม่จ่ายดอกเบี้ยบ้าง
ก็เป็นเรื่องปกติที่ธนาคารได้ตั้งสำรอง และคาดการณ์ไว้แล้ว
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ในวันที่เกิดเรื่องแย่ๆ แบบโควิด-19
ทุกอย่างมันแย่พร้อมกันหมด
ต่อให้สำรองเงินไว้มากเท่าไร
มันก็ไม่แน่ใจเลยว่าจะเพียงพอหรือไม่
ยกตัวอย่างถ้าให้กรณีที่รุนแรงที่สุด ถ้าเงินให้สินเชื่อของธนาคารเป็นหนี้เสีย 30% ด้วยหนี้เสียระดับนี้ถ้ามูลค่าหลักประกันมีน้อย ก็อาจเพียงพอแล้วที่จะทำให้ส่วนเงินกองทุนของธนาคารหายไปจนหมด
และเมื่อเงินทุนธนาคารหายไปหมด มันก็จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบกับเงินรับฝากจากประชาชน
ซึ่งตอนนี้มันไม่มีใครรู้ว่าตัวเลขหนี้เสียจะเป็นเท่าไร
มันจะรุนแรงขนาดไหน
“สถาบันการเงินเป็นธุรกิจที่ดี จนกว่าจะถึงวันเจ๊ง”
คำพูดของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร อธิบายได้ดีถึงเรื่องนี้
นั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แบงก์ชาติออกมาให้ ทุกธนาคารทบทวนแผนเงินกองทุนใหม่
ให้ธนาคารตรวจสอบว่าลูกค้าที่ได้ขอกู้เงินไป เขาเป็นยังไง มีความเสี่ยงที่จะเป็นหนี้เสียหรือไม่
ลูกค้าที่เป็นร้านอาหาร เงินที่กู้ไปตกแต่งร้านอาหาร ยังมีคนเข้ามากินอยู่ไหม
ลูกค้าที่เป็นโรงแรม เงินที่กู้ไปสร้างโรงแรม มีคนเข้ามาพักบ้างไหม
ลูกค้าที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เงินที่กู้ไปสร้างคอนโดขาย มีลูกค้ามาซื้อคอนโดหรือไม่
แต่ถ้าให้มองความจริง
สิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อธนาคารไปตรวจสอบผู้กู้
มันก็รู้ๆกันอยู่ว่า ตอนนี้มันพังกันทั้งระบบ
ผู้กู้เองก็จะตอบว่า “เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน” ต้องรอเรื่องนี้ให้จบก่อนถึงจะรู้ว่า เขาจะจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นไหวหรือไม่
เมื่อธนาคารได้ทราบเรื่องแบบนี้ก็สองจิตสองใจ
ธุรกิจรายไหนจะตีว่า มีโอกาสกลับมาได้เป็นปกติ ผ่อนผันให้ไปก่อน
หรือ ธุรกิจรายไหนน่าจะแย่แน่ ไม่มีวันกลับมาได้แล้ว
ประเด็นต่อไปก็คือ แล้วเมื่อไรมันจะจบ
คำว่าจบมันก็ตีความได้ยากมาก ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ
เช่น ถามคำถามเดียวว่า ธุรกิจสายการบิน เมื่อไรจะจบ?
ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญปราดเปรื่องในเรื่องสายการบิน ก็ยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร
แล้วจะให้ธนาคารมาประเมิน ธนาคารก็ไม่รู้
ดังนั้น
ธนาคารไหนมีหลักการที่ Conservative มาก กำไรของธนาคารก็จะลดลงมาก อาจถึงขั้นขาดทุนหนัก
ส่วนธนาคารไหนมีหลักการ Conservative น้อย ก็อาจมีตัวเลขสวย แต่ข้างในเสี่ยงกว่า
บอกได้เลยว่า
กำไรที่แสดงในงบการเงินของแต่ละธนาคารที่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 ปีนี้ จะเอามาเทียบกันตรงๆไม่ได้
สิ่งที่เกิดขึ้นกับธนาคารตอนนี้จึงกลายเป็นดินแดนพิศวง ที่กำลังถูกคลื่นซัด
และก็เป็นที่มาว่า ทำไมตลาดยอมให้มูลค่าของธนาคาร เหลือเพียง 0.5 เท่าของมูลค่าตามบัญชี
เพราะนักลงทุนไม่รู้เลยว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในนั้น
อย่าว่าแต่นักลงทุนเลย
ธนาคาร ก็ไม่รู้ว่าเงินให้สินเชื่อเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร
อย่าว่าแต่ธนาคาร
ผู้ขอสินเชื่อเอง ก็ไม่รู้ว่ากิจการเขาจะเป็นอย่างไร
เพราะเหตุการณ์นี้
พวกเรา ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เหมือนกันทั้งหมด
และพวกเรา ก็น่าจะได้พบคำตอบ ไปพร้อมๆกัน เร็วๆนี้..
╔═══════════╗
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
พิมพ์ครั้งที่1 在 Point of View Youtube 的評價
นิทรรศการมหาวชิราวุธราชบรรณาลัย ชั้น 7 สำนักงานวิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดให้ชมทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-17.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 2562 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป อย่าลืมไปดูกันนะคะ #มหาวชิราวุธราชบรรณาลัย
หรือดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ จุฬาลงกรณ์ราชบรรณาลัย http://kingchulalongkorn.car.chula.ac.th/
- - - - - - - - - - - - - -
ติดต่องาน : chananyatechajaksemar@gmail.com (งานเท่านั้น)
ทางไปซื้อสติกเกอร์ line http://line.me/S/sticker/1193089 และ https://line.me/S/sticker/1530409
ทางไปซื้อ วรรณคดีไทยไดเจสต์ http://godaypoets.com/thaidigest
ติดตามคลิปอื่นๆ ที่ http://www.youtube.com/c/PointofView
ติดตามผลงานอื่นๆได้ที่
https://www.facebook.com/pointoofview/
twitter @pointoofview
หรือ
IG Point_of_view_th
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ฟัง นิทานไทย วรรณคดีไทย สนุกๆ https://www.youtube.com/playlist?list=PLfqt6BlTNYnWUtrSsqOEiTjxVsJH_WBJl
ฟังเรื่องเกี่ยวกับ รามเกียรติ์ รามายณะ https://www.youtube.com/playlist?list=PLfqt6BlTNYnXfrgoQ5GVLgbjpzgOWplHi
Help us caption & translate this video!
https://amara.org/v/C2tec/
