ย้อนรอย รายการทีวีจีนเลือกโลเคชั่นเกาะช้างถ่ายทำรายการ จุดกระแสเที่ยวทะเลไทย ส่วนสำคัญนำพาคนจีนรู้จักคนไทย-ประเทศไทยมากขึ้น
.
ตั้งแต่สมัยไปใช้ชีวิตที่จีนจนตอนนี้กลับมาอยู่ไทย อ้ายจงก็ยังคงติดนิสัยการไถมือถือดูนู่นนี่นั่นบนโลกโซเชียลจีนก่อนนอนหลับ ณ ขณะนี้ก็เช่นกัน ทำให้ทราบว่า 1 ในคำค้นหายอดฮิตบน Weibo โซเชียลจีน คือ 中餐厅 เนื่องจากรายการ 中餐厅 Chinese Restaurant อันโด่งดังของช่องสถานีโทรทัศน์หูหนาน ออกอากาศซีซั่นใหม่แล้ว
.
ทำให้อ้ายจงย้อนนึกถึงเมื่อปี 2560 เมื่อครั้งรายการ Chinese Restaurant ซีซั่นแรก มาถ่ายทำที่เกาะช้าง ประเทศไทย จนเป็นส่วนสำคัญทำให้คนจีนเที่ยวเกาะช้าง เที่ยวทะเลไทยมากขึ้น
.
โดยบอกเลยว่า ในตอนนั้นคนจีนรู้จักคนไทยและประเทศไทยมากขึ้นจากรายการนี้นี่แหล่ะ มีอยู่ครั้งหนึ่งอ้ายจงไปช้อปปิ้งที่ห้างแห่งหนึ่ง ก็คุยภาษาไทยกับเพื่อนที่ไปด้วย ปกติคนจีนก็ชอบมองและทำหน้าสงสัยอยู่แล้วว่าเราพูดภาษาอะไร เราเป็นคนที่ไหน โดยจำนวนไม่น้อยมักทายว่า เป็นคนไต้หวัน เนื่องจากหน้าดูมีเชื้อสายจีน และเขาบอกว่าสำเนียงเวลาพูดจีนคล้ายกับคนจีนทางใต้
.
แต่ในวันนั้น พนักงานคนจีน พูดขึ้นมาทันทีว่า "คุณเป็นคนไทยแน่เลย" ที่เขารู้ว่าเป็นคนไทย เขาบอกว่า บอกว่า "เพราะดูจากรายการ 中餐厅 " โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะดูตอนที่ ไมค์ พิรัชต์ ไปร่วมรายการ เพราะเทปนั้นคือดังมากๆเหมือนกันจนชื่อไมค์พิรัชต์ติดคำค้นหายอดฮิตในช่วงที่ออกอากาศ
.
จากประสบการณ์ คนจีนโดยมากที่ผมเจอมา หากแยกออกว่าใครคือคนไทย ภาษาที่พูดคือภาษาไทย จะมาจากชอบดูละครไทย หนังไทย แต่พอรายการ中餐厅 ที่ไปถ่ายทำ ณ เกาะช้าง ดังขึ้นมา คนจีนก็เลยรู้จักคนไทย ประเทศไทยมากขึ้น
.
รายการ 中餐厅 ปี 2560 นำดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ของจีน เช่น จ้าวเวย มาถ่ายรายการโดยเปิดร้านอาหารจีนที่เกาะช้างของไทย ได้รับความนิยมอย่างมากในจีน
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
จ้าวเวย 在 อ่านงบการเงินไม่ยาก Facebook 八卦
😱😱😱
#จ้าวเวย ดาราสาวผู้โด่งดังจากละคร #องค์หญิงกำมะลอ พลิกบทบาทสู่เจ้าแม่ #ตลาดหุ้น ใช้กลยุทธ์กุ้งฝอยตกปลากระพง #ปั่นหุ้น ทำแมงเม่าจีนติดดอยหุ้นเป็นฝูง จน กลต. #จีน ลงดาบสั่งปรับ 3 แสนหยวน ห้ามข้องแวะตลาดหลักทรัพย์ 5 ปี
จ้าวเวย #ซุปตาร์ ที่มีทรัพย์สินมากติดอันดับ 100 เศรษฐีนีแดนมังกรจากการจัดอันดับของ “หูรุ่น” บริษัทวิจัยด้านเศรษฐกิจของจีนในปี 2017 หวังสร้างประวัติศาสตร์เป็นดาราคนแรกที่เป็นเจ้าของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่เธอต้องฝันสลายเมื่อคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ของจีนระบุว่า วิธีการที่เธอใช้เข้าข่าย “ปั่นหุ้น” สร้างความเสียหายให้กับตลาดหุ้น
จ้าวเวยและสามีของเธอ คือ หวงโหย่วหลง ได้จัดตั้งบริษัทใช้ชื่อว่า “หลงเวย มีเดีย” ซึ่งมาจากชื่อของเธอและสามีนั่นเอง บริษัทของคู่สามีภรรยา #ดาราจีน คู่นี้มีทุนจดทะเบียนเพียงแค่ 2 ล้านหยวน และไม่เคยทำธุรกิจอะไรมาก่อน แต่กลับจุดพลุในตลาดหลักทรัพย์จีนด้วยการประกาศว่าจะซื้อหุ้น 30% ของบริษัท “วั่นเจีย เหวินฮว่า” 万家文化 ค่าย #บันเทิง ยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านหยวน ซึ่งหมายความว่าบริษัทของจ้าวเวยและสามีต้องใช้เงินมากกว่า 3,000 ล้านหยวนเพื่อซื้อ #หุ้น ครั้งนี้
**** กุ้งฝอยตกปลากระพง จับเสือมือเปล่า ****
การที่บริษัทเล็กๆ จะซื้อกิจการของยักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิงด้วยเงินก้อนโต ไม่ได้ทำให้บรรดา #แมงเม่า ในตลาดจีนเอะใจเลยว่า “เอาเงินมาจากไหน?” เพราะชื่อเสียงของของจ้าวเวย ทำให้แมงเม่าทั้งหลายแห่เข้าตุนหุ้นของ “วั่นเจีย เหวินฮว่า” จนราคาพุ่งไม่หยุด
ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้จับสัญญาณความผิดปกติได้จึงเรียกให้จ้าวเวยชี้แจงที่มาของเงินทุน จ้าวเวยได้ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า เงินที่เธอจะใช้ซื้อหุ้นมาจากเงินทุนส่วนตัว 60 ล้านหยวน, จากการกู้เงินของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในทิเบต 1,500 ล้านหยวน และจากเงินกู้บัตรเครดิตส่วนตัว1,500 ล้านหยวน ซึ่งหมายความว่าเธอใช้เงินส่วนตัวเพียงน้อยนิด แต่อาจหาญจะซื้อบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้นด้วยการเก็งกำไรถึง 50 เท่า
กลยุทธ์ของดาราสาวคือ ยอมขอเงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยสูงจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อกิจการพร้อมกับปั่นให้ราคาหุ้นสูงขึ้น หลังซื้อกิจการสำเร็จก็จะใช้หุ้นของบริษัทที่ซื้อมาเป็นหลักประกันเพื่อขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อมาใช้หนี้เงินกู้ก้อนแรกที่กู้มาซื้อกิจการ หลังจากนั้นจะทยอยทำกำไรขายหุ้นออก ทิ้งภาระหนี้ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ซื้อมา และบรรดาแมงเม่าที่ติดดอยซื้อหุ้นราคาสูง
การกระทำเช่นนี้เรียกกันว่า Leverage ซึ่งทางการจีนมีนโยบายปราบปราม เพราะมีความเสี่ยงสูงมาก และส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง
**** ดีลล้ม แมงเม่าจีนตายยกฝูง ****
คณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ของจีนต้องลงมาจัดการกับดีลครั้งนี้อย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่า ดาราสาวมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ในการซื้อกิจการครั้งนี้ และสุดท้าย “หวงโหย่วหลง” สามีของจ้าวเวยก็ยอมรับกับ กลต.จีนว่า “ไม่เคยคิดจะใช้เงินทุนส่วนตัวในการซื้อกิจการ!!!”
หลังข่าวแพร่ออกไป สถาบันการเงินที่ร่วมมือใน “กับดับตลาดหุ้น” ต่างถอนตัวไม่ยอมปล่อยเงินกู้ให้บริษัทของดาราสาวและสามี จน “หลงเวย มีเดีย” ต้องประกาศล้มดีลโดยอ้างว่า ไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ตามสัญญา
หลังดาราสาวประกาศถอนดีล ทำให้ราคาหุ้นของ “วั่นเจีย เหวินฮว่า” ดิ่งเหวต่อเนื่อง จากราคาที่เคยถูกปั่นขึ้นสูงถึง 25 หยวน เหลือแค่ 8.85 หยวน ลดลงมากกว่า 64%
ทางการจีนบัญชาให้สอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยระบุว่า ดาราสาวทำผิดกฎของตลาดหลักทรัพย์เรื่องการเปิดเผยข้อมูล โดยประกาศซื้อกิจการทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ เข้าข่ายล่อลวงนักลงทุนให้เข้าใจผิด หรือก็คือ “ปั่นหุ้น” พร้อมสั่งลงโทษปรับ 3 แสนหยวน และห้ามข้องแวะกับตลาดหลักทรัพย์ 5 ปี
ทางด้านนัก #ลงทุน ที่ย่อยยับกับดีลขายฝันครั้งนี้ก็รวมตัวกันฟ้องร้องดาราสาวและสามีต่อศาลเมืองหังโจว ที่หลอกลวงแมงเม่าจนเสียหายตายยกฝูง
**** เมื่อคอมมิวนิสต์ #เล่นหุ้น อยากรวยต้องเมืองจีน? ****
ในวันนี้ที่ธุรกิจของจีนบุกไปลงทุนทั่วโลก แน่นอนว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ “ควักกระเป๋า” ตัวเอง แต่ระดมทุนมาจากตลาดหุ้น โจวเสี่ยวชวน อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติจีน เคยออกปากเตือนว่า ธุรกิจจีนกำลังเติบโตด้วยการสร้างหนี้ บริษัทต่างๆ กู้หนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่า จนกระแสเงินสดเพียงพอแค่จ่ายดอกเบี้ยเท่านั้น ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยการเก็งกำไรและล่อลวงนักลงทุน จนอาจระเบิดเป็นวิกฤตได้ทุกเวลาเหมือนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ล้มเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2007
กรณีของจ้าวเวยเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งของตลาดหุ้นจีน ที่นักลงทุนทั่วโลกฝันหวานว่าให้ผลตอบแทนงดงาม แต่อาจลืมคิดไปว่ามี “องค์หญิงกำมะลอ” มากมายที่คอยจุดไฟล่อแมงเม่านักลงทุนจากทั่วโลกเช่นกัน.
จ้าวเวย 在 KIM Property Live Facebook 八卦
องค์หญิง กำมะลอ ไหมละครับ
ที่จริงในไทยก็มีนะ ปั่นหุ้นเนี่ยะ เเต่ไม่เห็นโดนอะไรเลย... งง
#จ้าวเวย ดาราสาวผู้โด่งดังจากละคร #องค์หญิงกำมะลอ พลิกบทบาทสู่เจ้าแม่ #ตลาดหุ้น ใช้กลยุทธ์กุ้งฝอยตกปลากระพง #ปั่นหุ้น ทำแมงเม่าจีนติดดอยหุ้นเป็นฝูง จน กลต. #จีน ลงดาบสั่งปรับ 3 แสนหยวน ห้ามข้องแวะตลาดหลักทรัพย์ 5 ปี
จ้าวเวย #ซุปตาร์ ที่มีทรัพย์สินมากติดอันดับ 100 เศรษฐีนีแดนมังกรจากการจัดอันดับของ “หูรุ่น” บริษัทวิจัยด้านเศรษฐกิจของจีนในปี 2017 หวังสร้างประวัติศาสตร์เป็นดาราคนแรกที่เป็นเจ้าของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่เธอต้องฝันสลายเมื่อคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ของจีนระบุว่า วิธีการที่เธอใช้เข้าข่าย “ปั่นหุ้น” สร้างความเสียหายให้กับตลาดหุ้น
จ้าวเวยและสามีของเธอ คือ หวงโหย่วหลง ได้จัดตั้งบริษัทใช้ชื่อว่า “หลงเวย มีเดีย” ซึ่งมาจากชื่อของเธอและสามีนั่นเอง บริษัทของคู่สามีภรรยา #ดาราจีน คู่นี้มีทุนจดทะเบียนเพียงแค่ 2 ล้านหยวน และไม่เคยทำธุรกิจอะไรมาก่อน แต่กลับจุดพลุในตลาดหลักทรัพย์จีนด้วยการประกาศว่าจะซื้อหุ้น 30% ของบริษัท “วั่นเจีย เหวินฮว่า” 万家文化 ค่าย #บันเทิง ยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านหยวน ซึ่งหมายความว่าบริษัทของจ้าวเวยและสามีต้องใช้เงินมากกว่า 3,000 ล้านหยวนเพื่อซื้อ #หุ้น ครั้งนี้
**** กุ้งฝอยตกปลากระพง จับเสือมือเปล่า ****
การที่บริษัทเล็กๆ จะซื้อกิจการของยักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิงด้วยเงินก้อนโต ไม่ได้ทำให้บรรดา #แมงเม่า ในตลาดจีนเอะใจเลยว่า “เอาเงินมาจากไหน?” เพราะชื่อเสียงของของจ้าวเวย ทำให้แมงเม่าทั้งหลายแห่เข้าตุนหุ้นของ “วั่นเจีย เหวินฮว่า” จนราคาพุ่งไม่หยุด
ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้จับสัญญาณความผิดปกติได้จึงเรียกให้จ้าวเวยชี้แจงที่มาของเงินทุน จ้าวเวยได้ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า เงินที่เธอจะใช้ซื้อหุ้นมาจากเงินทุนส่วนตัว 60 ล้านหยวน, จากการกู้เงินของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในทิเบต 1,500 ล้านหยวน และจากเงินกู้บัตรเครดิตส่วนตัว1,500 ล้านหยวน ซึ่งหมายความว่าเธอใช้เงินส่วนตัวเพียงน้อยนิด แต่อาจหาญจะซื้อบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้นด้วยการเก็งกำไรถึง 50 เท่า
กลยุทธ์ของดาราสาวคือ ยอมขอเงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยสูงจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อกิจการพร้อมกับปั่นให้ราคาหุ้นสูงขึ้น หลังซื้อกิจการสำเร็จก็จะใช้หุ้นของบริษัทที่ซื้อมาเป็นหลักประกันเพื่อขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อมาใช้หนี้เงินกู้ก้อนแรกที่กู้มาซื้อกิจการ หลังจากนั้นจะทยอยทำกำไรขายหุ้นออก ทิ้งภาระหนี้ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ซื้อมา และบรรดาแมงเม่าที่ติดดอยซื้อหุ้นราคาสูง
การกระทำเช่นนี้เรียกกันว่า Leverage ซึ่งทางการจีนมีนโยบายปราบปราม เพราะมีความเสี่ยงสูงมาก และส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง
**** ดีลล้ม แมงเม่าจีนตายยกฝูง ****
คณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ของจีนต้องลงมาจัดการกับดีลครั้งนี้อย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่า ดาราสาวมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ในการซื้อกิจการครั้งนี้ และสุดท้าย “หวงโหย่วหลง” สามีของจ้าวเวยก็ยอมรับกับ กลต.จีนว่า “ไม่เคยคิดจะใช้เงินทุนส่วนตัวในการซื้อกิจการ!!!”
หลังข่าวแพร่ออกไป สถาบันการเงินที่ร่วมมือใน “กับดับตลาดหุ้น” ต่างถอนตัวไม่ยอมปล่อยเงินกู้ให้บริษัทของดาราสาวและสามี จน “หลงเวย มีเดีย” ต้องประกาศล้มดีลโดยอ้างว่า ไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ตามสัญญา
หลังดาราสาวประกาศถอนดีล ทำให้ราคาหุ้นของ “วั่นเจีย เหวินฮว่า” ดิ่งเหวต่อเนื่อง จากราคาที่เคยถูกปั่นขึ้นสูงถึง 25 หยวน เหลือแค่ 8.85 หยวน ลดลงมากกว่า 64%
ทางการจีนบัญชาให้สอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยระบุว่า ดาราสาวทำผิดกฎของตลาดหลักทรัพย์เรื่องการเปิดเผยข้อมูล โดยประกาศซื้อกิจการทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ เข้าข่ายล่อลวงนักลงทุนให้เข้าใจผิด หรือก็คือ “ปั่นหุ้น” พร้อมสั่งลงโทษปรับ 3 แสนหยวน และห้ามข้องแวะกับตลาดหลักทรัพย์ 5 ปี
ทางด้านนัก #ลงทุน ที่ย่อยยับกับดีลขายฝันครั้งนี้ก็รวมตัวกันฟ้องร้องดาราสาวและสามีต่อศาลเมืองหังโจว ที่หลอกลวงแมงเม่าจนเสียหายตายยกฝูง
**** เมื่อคอมมิวนิสต์ #เล่นหุ้น อยากรวยต้องเมืองจีน? ****
ในวันนี้ที่ธุรกิจของจีนบุกไปลงทุนทั่วโลก แน่นอนว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ “ควักกระเป๋า” ตัวเอง แต่ระดมทุนมาจากตลาดหุ้น โจวเสี่ยวชวน อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติจีน เคยออกปากเตือนว่า ธุรกิจจีนกำลังเติบโตด้วยการสร้างหนี้ บริษัทต่างๆ กู้หนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่า จนกระแสเงินสดเพียงพอแค่จ่ายดอกเบี้ยเท่านั้น ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยการเก็งกำไรและล่อลวงนักลงทุน จนอาจระเบิดเป็นวิกฤตได้ทุกเวลาเหมือนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ล้มเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2007
กรณีของจ้าวเวยเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งของตลาดหุ้นจีน ที่นักลงทุนทั่วโลกฝันหวานว่าให้ผลตอบแทนงดงาม แต่อาจลืมคิดไปว่ามี “องค์หญิงกำมะลอ” มากมายที่คอยจุดไฟล่อแมงเม่านักลงทุนจากทั่วโลกเช่นกัน.
จ้าวเวย 在 รู้จัก "จ้าว เหว่ย" เจ้าพ่อคิงส์โรมัน | Highlight | EP.39 | จั๊ดง่าวข่าวไม่โง่ 的八卦
รู้จัก " จ้าว เหว่ย " เจ้าพ่ออาณาจักรคิงส์โรมัน ใกล้กับชายแดนไทย#สามเหลี่ยมทองคำ #จั๊ดง่าวข่าวไม่โง่ #ข่าวช่องวัน. "สำนัก... ... <看更多>