Introduced a girl for his brother first question was you have a car. พี่ชายแนะนำผู้หญิงให้น้องชาย คำถามแรก มีรถไหมมีบ้านไหม!
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過401萬的網紅ดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์,也在其Youtube影片中提到,Introduced a girl for his brother first question was you have a car. พี่ชายแนะนำผู้หญิงให้น้องชาย คำถามแรก มีรถไหมมีบ้านไหม!...
คำถามแรก 在 Capt.Benz Facebook 八卦
Ep.68 - เลิกบุหรี่ วิธีนี้
.
ขอ confirm นะ คนที่เลิกบุหรี่
เลิกกะทันหันได้
ไม่ตาย…
ยังไงก็ไม่ตาย ใจรึเปล่า?
แค่นั้นเอง
**********************************
เคยติดบุหรี่ปะ?
รู้มั้ยว่ามันเลิกยากมาก มันเลิกยากจริง ๆ
รู้มั้ยทำไมถึงเลิก?
พ่อตายเพราะบุหรี่ ก็เลยเลิก
.
แล้วตอนเลิกเนี่ย
ก่อนหน้านี้
บอกเลยว่า
บุหรี่ทุกมวนที่สูบ
มันอยากเลิกหมด
.
คนสูบบุหรี่น่าจะคิดอย่างนี้
อยากเลิกทุก ๆ มวนแหละ
ไม่มีใครอยากสูบบุหรี่ไปจนตาย
มันไม่เหตุให้เลิก
มันเลิกไม่ได้
.
แต่ถามว่าจริง ๆ แล้ว
สูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14
มาจนถึงอายุ 25 จิตที่แบบ
โห...คิดอยากจะเลิก
คิดว่าเยอะมั้ย?
.
มันโคตรเยอะเลย
แล้วก็ไปสรรหาวิธี
‘ทำยังไงให้เลิกบุหรี่ได้’
มีวิธีสารพัด
กินน้ำเยอะ ๆ
ต้องกินนู่นกินนี่กินนั่นแทน
ต้องออกกำลังกาย
ต้องหาอะไร ทำหมด เลิกไม่ได้
.
เพราะตื่นมามันก็อยากสูบแล้ว
แต่ทันทีที่พอรู้ว่าพ่อเสียเนี่ย
พ่อเสียเพราะบุหรี่
หัวใจวาย
พอหัวใจวายปุ๊บ
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
ตายเลย
.
ตอนเที่ยงน้าโทรมา
บอกว่าพ่อเข้าโรงบาล
พอบ่ายสองโทรมาอีกที
พ่อตายแล้วนะ
โอ้โห…เรานี่แบบ
อะไรวะ
ทำไมตายง่าย ๆ อย่างนี้วะ
มือซ้ายเนี่ยถือโทรศัพท์
มือขวาเนี่ย
ยังคีบบุหรี่อย่างนี้อยู่เลย
.
ตอนนั้นเข้าเวร
เป็นนายร้อยฝึกงานอยู่ที่
เป็นนายร้อยฝึกงาน
อยู่ที่โรงพักคลองตัน
แล้วรับโทรศัพท์อย่างนี้
ในสายบอก พ่อตาย
.
เราแบบ
มองบุหรี่
ไอ้เ-ี้ยนี่ มึงฆ่าพ่อกู
แล้วถามว่าอาการที่คนเขาบอกว่า
เลิกบุหรี่แล้วมันจะมีอาการอย่างนี้
คอแห้ง หงุดหงิด อะไรนู่นนี่นั่น
เป็นมั้ย? ไม่เป็นเลย
.
เพราะฉะนั้นวิธีการเลิกบุหรี่
ง่ายที่สุดคือสิ่งเดียวเท่านั้น
ตัดสินใจครับ
ตัดสินใจจะเลิกมันเลิกได้ทันที
ไม่ต้องรอให้พ่อตายก่อนแบบผมก็ได้
ตัดสินใจดิ
.
คนเรานะบางครั้งบางที
เวลาที่มันทำอะไรเพื่อตัวเอง
มันทำอะไรมันตัดสินใจไม่ได้
มันทำอะไรยิ่งใหญ่เพื่อตัวเองไม่ได้
แต่ถ้าทำเพื่อผู้อื่น
ทำเพื่อศาสนา ทำเพื่อบ้านเมือง
.
เคยเห็นมั้ย
คนที่เป็นช่างฝีมือทำงานฝีมือ
ทำเฉย ๆ ก็ คือสวยระดับนึง
แต่พอทำถวายพระ
พอทำถวายพระเจ้าแผ่นดิน
มีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าแค่ตัวเรา
เราจะทำสิ่งนั้นได้ดีกว่า
.
เหมือนกัน
ถ้าเราไม่สามารถที่จะใช้กำลังใจของตัวเองในการเลิกได้
ลองหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ
เช่น เลิกบุหรี่เพื่อพ่อ
เลิกบุหรี่เพื่อแม่ / เลิกบุหรี่เพื่อลูก / เลิกบุหรี่เพื่อแฟน
เลิกบุหรี่เพื่อแต่งงาน / เลิกบุหรี่เพื่ออะไรก็ว่าไป
ลองหาแรงจูงใจ ว่าเราทำเพื่อเขาคนนั้น
เราทำเพื่อสิ่งนั้นอันนี้จะทำให้เรา
สามารถที่จะตัดสินใจได้มากขึ้น ง่ายขึ้น
.
แล้วขอคอนเฟิร์ม
ขอย้ำเลยนะคนที่เลิกบุหรี่
เลิกกะทันหันได้ ไม่ตาย
ยังไงก็ไม่ตาย
ใจหรือเปล่าแค่นั้นเอง
.
มีใจรึเปล่าในการเลิกบุหรี่
ถ้ามีใจยังไงก็ไม่เป็นไร
.
อดโซเชียลยังยากกว่าเลิกบุหรี่เลย
ไม่รู้จะอดยังไงว่ะ
ยิ่งผมนี่ ทำมาหากินในโซเชียลด้วยเนี่ยอดไม่ได้
.
แต่ว่าเราสามารถที่จะบังคับ
ลูกตาของเราได้น
เราบังคับพฤติกรรมเราได้
ในโซเชียลไม่ให้ติดจนเกินไปนัก
สังคมแบบไหน
ที่มึงต้องสูบบุหรี่แล้วมึงต้องเข้าไป
มันเป็นสังคมแบบไหน?
.
ไม่ต้องโทษสังคม
มึงเป็นข้ออ้าง
เยอะแยะ
ตอนอยู่ใต้ตอนอยู่กับลูกน้อง
ไม่ได้สูบบุหรี่ทุกคน
.
มันเป็นเรื่องปัจเจก
ลูกน้องบางคนสูบบุหรี่
ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่จะเข้ากับเขาไม่ได้
มันก็เข้าได้หมดปกติ
.
ถ้าบอกว่าสูบบุหรี่กินเหล้า เพื่อเข้าสังคมเนี่ย
คำถามแรก
สังคมแบบไหนเขาคบกันด้วยบุหรี่เหรอ
เขาต้องแบบเขียนข้อความส่งกันด้วยบุหรี่
หรือว่าเขาต้องแบบว่าสูบบุหรี่ปุ๊บ
ทำสัญญาณควันส่งกัน
สูบบุหรี่เท่านั้นถึงจะเข้าสังคมแบบนั้นได้
มันไม่เกี่ยว
.
ข้ออ้างล้วน ๆ
ไม่เกี่ยวว่าคนสูบบุหรี่ดีหรือไม่ดี
มันเป็นเพียงแค่พฤติกรรมพฤติกรรมนึง
ที่ประโยชน์คืออะไรวะ?
มันเกิดโทษทั้งนั้นนะเว่ย
.
กินเหล้าสูบบุหรี่เนี่ยเกิดแต่โทษอย่างเดียว
อย่าพยายามเอาข้ออ้างว่าฉันต้องเข้าสังคม ๆ
มึงแค่หาข้ออ้างมาบดบังความอ่อนแอทางจิตใจของมึง
.
เนี่ยคนสูบบุหรี่จะเข้าใจเลยคำนี้
“เลิกบุหรี่แล้วมันจะหายใจได้สุดปอดมากขึ้น”
มันสุดปอดจริง ๆ
มีความสุข-ิบหายเลย
มีความสุข
สมัยก่อน
ตอนสูบบุหรี่นะแล้วนั่งสมาธิ
หายใจปุ๊บ
.
มันไอออกมา
แล้วไอออกมาแบบ
คือไอทรมาน
ไอแล้วมันมีกลิ่นน้ำมันดิน
กลิ่นทาร์ อะ ผสมออกมาด้วย
.
บางครั้งบางที
เสลด เชื่อมั้ย
ขากเสลดออกมาเสลดสีเทา
แล้วแบบเสลดนี่มันผ่านคอเรา
เราก็ได้รสชาติมัน
รสชาตินี่คือน้ำมันดินเลย
.
เหมือนกูแ-กดินน้ำมัน
ไปเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
เลิกไป 8 ปีเนี่ย
เอาจริง ๆ นะ
ทุกวันนี้ยังได้กลิ่นไอ้พวกนี้อยู่เลย
มันอยู่ตัว มันไม่ใช่ว่าหายไป
เพราะฉะนั้น รีบ ๆ เลิกซะ
ขนาด 8 ปีแล้วกูยังได้กลิ่น
อะไรพวกนี้ยังอยู่ในตัวอยู่เลย
เลิกเห๊อะ
**********************
มันไม่ใช่ความสุขมันคือความสบายอารมณ์
ถามว่าสุขมั้ย ไม่สุขหรอก
สบายอารมณ์แค่ชั่วแว๊บนึง
ที่หลอดเลือดสมองมันขยาย
มันเหมือนมีความสุข
จริง ๆ มันแค่ความสบายทางกาย
.
แล้วถามว่าความสบายตรงนั้น
เราสูบบุหรี่ 1 คน
เอาเนี่ยห้องนี้
ถ้าคนทั้ง 10 คน ในห้องอยู่เนี่ย
เราสูบบุหรี่แค่คนเดียว
คนในห้องมันอยู่ไม่ได้เลย
.
อย่างนี้มันเป็นกุศล หรืออกุศล?
.
อย่างนี้เป็นความดี หรือความไม่ดีล่ะ?
.
อย่างนี้ คุณกำลังทำร้ายคนอื่นหรือเปล่าล่ะ
เลิกบุหรี่ตัวเดียวเนี่ย สร้างบารมีเลยนะ ทานบารมีก็สร้าง
เราได้สร้างอากาศบริสุทธิ์กลับมาสู่ผู้คน
.
ศีลและบารมีก็สร้าง
เราไม่ได้เบียดเบียนใคร
เนกขัมมบารมีก็สร้าง
.
เราได้พิจารณาเห็นตามจริงแล้วว่า
สิ่งนี้มันเป็นทุกข์เป็นโทษ
ปัญญาบารมีก็สร้าง
.
คนไม่มีปัญญาเลิกบุหรี่ไม่ได้นะ
ไม่คิดที่จะเลิกบุหรี่
อุเบกขาบารมี ขันติบารมี วิริยะบารมี
ทุกบารมีเกิดหมดถ้าคุณเลิกบุหรี่ได้
.
อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล่น ๆ นะ นี่เรื่องสำคัญ
ไปธรรมะได้ไงวะ?
#ผู้กองเบนซ์
ปล. สังคมแบบไหน ที่ต้องสูบบุหรี่ ถึงจะเข้าได้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz
คำถามแรก 在 Facebook 八卦
เรื่องของอากง เมื่อเช้าครับ …
บันทึกเอาไว้
“อากง” วัย 77 ปี เสี่ยงติดโควิด หลังคนในบ้านตรวจเชิงรุกติดเชื้อ 4 คน แต่อากง เชื้อสายจีน ไร้บัตรประชาชน ไม่มีบัตรเข้าถึงสิทธิรักษาพยาบาล จนท.บอกตรวจโควิดให้ไม่ได้เพราะเป็นต่างด้าว ญาติพากลับมารักษาที่บ้าน ใช้วิธีต้มสมุนไพรให้สูดดม ตกดึก อาการทรุด หายใจแรงผิดปกติ ไม่มีถังออกซิเจน ออกไปซื้อ ไปยืมไม่ได้ติดเคอร์ฟิว วันรุ่งขึ้นสิ้นใจ คำพูดสุดท้ายบอกลูก ๆ “ทรมานจังเลย” ส่วนอาม่าติดโควิด นั่งเฝ้าศพไม่ห่าง เคยสัญญา “จะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า”
เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามี “อากง” วัย 77 ปี ทราบชื่อนายอาง้อ (สงวนนามสกุล) เชื้อชาติจีน ซึ่งมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่เด็ก และมีครอบครัวตั้งหลักปักฐานอยู่ในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน “อากง” ซึ่งมีอาการคล้ายติดเชื้อโควิด ก่อนจะเสียชีวิตในบ้านพัก ภายในซอยกำนันแม้น 13 แยก 9 เขตบางบอน กทม.
คนในบ้าน 4 คน ได้แก่ นางสมศรี “อาม่า” วัย 72 ปี ภรรยา (เชื้อชาติไทย), ลูกชายวฝวัย 44 ปี ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แล้ว 1 เข็ม , หลานสาววัย 20 ปี , หลานชายวัย 17 ปี ไปตรวจหาเชื้อพบว่าผลเป็นบวกทั้งหมด รวม 4 คน ได้เข้ารับการรักษาแล้วที่ฮอสพิเทล ย่านพระราม 2 ยกเว้น “อาม่า” ที่ไม่ได้เข้ารับการรักษา โดยครอบครัวไม่รู้ว่ารับเชื้อมาจากไหน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่คุยกับญาติ เล่าว่า ก่อนหน้านี้เห็นอาการคนในบ้าน ไอ เหนื่อยหอบเหมือนติดโควิด เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ตนจึงได้โทรไปที่สาธารณสุข เขตบางบอน เจ้าหน้าที่นัดคิวให้ไปตรวจวันที่ 7 ก.ค.ที่จุดตรวจเชิงรุกตลาดบางแคภิรมย์ โดยพากันไปตรวจทั้งหมด 5 คน รวมถึง “อากง” ที่อาการเริ่มแย่ก็เดินทางไปตรวจเชิงรุกหาเชื้อเช่นกัน
แต่กรณี “อากง” เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่สามารถตรวจให้คนต่างด้าว เนื่องจาก “อากง” มีสัญชาติและเชื้อชาติจีน ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่มีบัตรสุขภาพเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลอะไรเลย “อากง” ไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่ไหน เพราะถ้าไม่มีผลตรวจไปยืนยัน ก็ไม่มีที่ไหนรับรักษา
ญาติเล่าว่า วันนั้น อากงได้แต่นั่งหายใจรวยริน ญาติพยายามขอร้องให้ช่วยตรวจ แต่เจ้าหน้าที่ยันยันคำเดิมตรวจให้ไม่ได้เพราะเป็นต่างด้าว ตรวจให้เฉพาะคนไทยเท่านั้น ซึ่งได้ตรวจให้ อาม่า น้องเขย และหลาน ๆ เพราะเป็นคนไทย
ต่อมา วันที่ 10 ก.ค.ทุกคนทราบผลว่า ติดโควิดยกบ้าน
ยกเว้น “อากง” ซึ่งไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อและไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อหรือไม่ ญาติพาอากงกลับมานอนรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และมั่นใจว่าอากง ติดเชื้อแน่นอน
ระหว่างอยู่ที่บ้านนั้น “อากง” อาการทรุดลงเรื่อยๆ ขณะที่ “อาม่า” รักอากงมาก เป็นห่วงจนไม่ยอมอยู่ห่างอากง ไม่อยากทิ้งอากงไว้ลำพง เพราะเคยบอกกันไว้ว่าจะอยู่ไปด้วยกันจนแก่จนเฒ่า
“อาม่า” ที่จริงๆ ได้เตียงแล้ว บอกว่า ถ้าอากง ยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อและยังไม่ได้เข้ารับการรักษา อาม่าก็จะไม่ไป “อาม่า” บอกลูกและหลาน ๆ ที่ติดเชื้อให้ไปรักษาตัวก่อน อาม่าจะขออยู่ดูแลกับอากง จนกว่าอากง จะได้รับการรักษาแล้ว
ตอนนี้ “อาม่า” ไอหนักมาก เหนื่อย กินอะไรไม่ค่อยได้ ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น จนคาดว่าเชื้อน่าจะลงปอดแล้ว
ต่อมาวันที่ 12 ก.ค. อาการของ “อากง” เริ่มทรุดหนักลงอีก แต่ก็ยังพูดคุยกับลูกหลานได้บ้าง อากงเดินเข้าห้องน้ำได้แต่ต้องช่วยพยุงตัว ลูกชายและลูกสะใภ้ มาช่วยกันดูแลอากงกับอาม่า เป็นการดูแลกันเองตามมีตามเกิด ทั้งที่รู้ว่าเสี่ยงติดเชื้อ แต่ก็ต้องทำ เพราะยังพึ่งพาหน่วยงานไหนไม่ได้ ไม่มีใครอยากเข้ามาช่วย คงเพราะกล้วติดเชื้อ โดยช่วยกันป้อนข้าวป้อนน้ำ ต้มสมุนไพรให้สูดดมเพื่อช่วยบรรเทาอาการ
ญาติ ระบุว่า คืนวันที่ 12 ก.ค. อากง หายใจแรงผิดปกติ เป็นเหมือนเป็นสัญญาณอะไรบางอย่าง คิดว่าออกซิเจนในเลือดอาจจะขาด เพราะอากงไม่ได้ใส่สายออกซิเจน
ที่บ้านไม่มีเครื่องผลิตออกซิเจน และไม่มีถังออกซิเจน และไม่มีแม้แต่เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว แต่ “อากง” ยังพูดคุยรู้เรื่องทุกอย่าง ลูกชาย จะออกไปหาซื้อ หรือ ยืมถังออกซิเจน หรือจะขอให้ใครนำถังออกซิเจนมาให้ก็ไม่ได้เพราะติดเคอร์ฟิว ออกจากบ้านไม่ได้ ต้องจำใจปล่อยให้อากงนอนหายใจแรงทั้งคืนจนถึงตี 4 จนหมดเวลาเคอร์ฟิว ซึ่งกว่าจะถึง ตี 4 อาการ “อากง” ก็เหมือนจะไม่ไหวแล้ว
กระทั่งเช้าวันที่ 13 ก.ค. ลูกชายออกไปซื้อออกซิเจนแบบกระป๋องมาใช้ชั่วคราว เพราะหาถังออกซิเจนไม่ได้ ไม่รู้ว่าต้องไปติดต่อขอยืมกับใคร ตระเวนหาซื้อตามตลาดก็หมดเกลี้ยง สุดท้ายทำได้แค่นำออกซิเจนแบบกระป๋องมาประคองลมหายใจอากง ใช้ได้แป็บเดียวก็หมด
ลูก ๆ อยู่ห่าง ๆ ตะโกนถามอากงว่า “เป็นยังบ้าง ๆ กินยาหน่อยมั้ย สู้ ๆ นะใคร ๆ เขาก็หายกันได้ ไม่ถอดใจนะ ยังไงต้องหาย” อากง ตอบรับโดยการพยักหน้า
ถึงตอนนั้น ญาติ เตรียมรถจะพาอากง ไปโรงพยายบาล เพราะเห็นว่าอากง อาการแย่แล้ว ญาติ ๆ พยายามคิดว่าจะไปพูดกับโรงพยาบาลยังไงดี ถ้าบอกว่าอากงเสี่ยงติดเชื้อเพราะคนในบ้านติดโควิด ก็กลัวว่าโรงพยาบาลจะไม่รับรักษา ระหว่างนั้นเวลาประมาณ 11 โมง ลูกชายตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า ถอยรถมาจอดหน้าบ้าน กำลังจะอุ้มขึ้นรถ แต่ยังไม่ทันจะได้อุ้ม อากงน้ำตาไหล ตาลอยเห็นแต่ตาขาว
ลูก ๆ และลูกสะใภ้ รู้ว่าแก่ใจว่า “อากง” น่าจะไม่รอดแล้ว แม้จะยังหายใจอยู่ “อากง” หายใจแรงเฮือกสุดท้าย ขณะนั้นสิ่งที่ลูก ๆ ทำได้คือพูดร่ำลา
ไม่ถึง 5 นาที ลมหายใจจของ “อากง” ค่อย ๆ แผ่วเบาก่อนจะเสียชีวิตลงที่บ้านพัก ขณะที่ “อาม่า” เศร้าใจจนไม่ยอมพูดอะไร ได้แต่นั่งซึม
ญาติของอากง ระบุว่า “ตนเข้าใจว่าถ้าไปตรวจโรงพยาบาลไหน ที่นั้นต้องรับรักษา เราเข้าใจว่าทุกวันนี้คนไทยแทบไม่มีที่รักษา แต่ก็น่าจะมีโรงพยาบาลหลาย ๆ แห่ง ที่น่าจะมีเตียงว่าง ผู้ป่วยไม่ว่าเชื้อชาติอะไรก็สามารถไปรักษาได้ จะเสียเงินเราก็ยอม ตนโทรไปตามโรงพยาบาลต่าง ๆ คำถามแรก ๆ จะถามว่ามีประกันหรือเปล่า เราบอกไม่มี แต่พร้อมจะเสียเงิน ทางโรงพยาบาลตอบกลับทันทีว่าเตียงเต็ม อาจเป็นเพราะเราไม่เข้าสู่เงื่อนไขของโรงพยาบาล จึงทำให้ไม่มีเตียงรองรับ เชื่อว่าโรงพยาบาลคงล็อคเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยที่มีประกันหรือไม่ มันน่าจะมีระบบจัดการที่ดีกว่านี้ ”
นางเนตรนภา (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ลูกสะใภ้ของอากง (ยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อ) เป็นคนนอนเฝ้าอากงกับอาม่า เผยว่า ช่วงแรก ๆ อากง อาการยังไม่หนัก แต่ตกดึกวันที่ 12 ก.ค.อากงอาการทรุด เหนื่อย เริ่มไม่ไหว หายใจแรง จะออกไปหาถังออกซิเจนที่ไหนก็ไม่ได้เพราะติดเคอร์ฟิว จึงโทรบอกพี่เขย กับพี่สะใภ้ ซึ่งอยู่บ้านอีกหลัง ให้ไปหาซื้อถังออกซิเจนตอนเช้าวันรุ่งขึ้น
กลางดึกทุกคนออกจากบ้านไม่ได้ ได้แต่โทรถามไถ่อาการกันเป็นระยะจนถึงตี 4 หมดเวลาเคอร์ฟิว พี่เขยกับพี่สะใภ้จึงขี่รถมาดูอาการของอากง ตนเองพยายามตบหลังอากงให้รู้สึกตัว อากงพูดเสียงเบา ๆ ว่า “ไม่เป็นไร”
ลูกสะใภ้ บอกว่า ตอนเช้า ตนเปิดเพลงจีนให้อากงฟังเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย ต้มสมุนไพรให้สูดดม อบทั้งบ้านเพื่อให้กลิ่นช่วยบรรเทาอาการ จากนั้นเวลาประมาณ 08.00 น. อาการของอากง หนักขึ้น หายใจแรงขึ้นกว่าเดิม ตนพยายามบีบมือไว้ให้รู้สึกตัว อากงตัวเริ่มซีดอาการเริ่มไม่ดี พูดเสียงเบา ๆ ว่า “ทรมานจังเลย เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอมันเป็นอะไร”
ตนเห็นสภาพอากง รู้สึกสงสารแต่ใจสู้ ทั้งที่นอนหายใจแรง จากนั้นอากง ส่งเสียงเรียกหา “อาม่า” เหมือนพยายามจะถามว่า “อาม่าอยู่ไหน” และถามหา กวาดสายตาดูลูกหลานทุกคน
ตนบอกกับอากง ว่า “ทุกคนอยู่นี่ไม่เป็นอะไรนะอากง”
ประมาณ 9 โมง พี่สะใภ้นำออกซิเจนแบบกระเป๋ามาประคองอาการ “อากง” จับมือลูกชาย 2 คนที่นั่งอยู่ขอบเตียงไว้แน่น ขณะนั้นยังมีลมหายใจอยู่ ลูกชายคนโต พูดว่า “ป๊าอย่าเพิ่งไป ๆ”
ลูก ๆ ตัดสินใจพาไปโรงพยาบาล ระหว่างนำรถมาจอด อาการอากงไม่ไหวแล้ว จึงนั่งสวดมนต์ นำรองเท้า ถุงเท้า เสื้อผ้าชุดใหม่มาเปลี่ยนให้อากงตามธรรมเนียมจีน ลูก ๆ สั่งเสียบอก “อากงไปไหว้พระบนสวรรค์นะ” บอกให้แกไปสบาย
จากนั้นอากง หายใจเฮือกสุดท้าย ก่อนสิ้นใจตาย เห็นสภาพมันบีบหัวใจมาก ไม่คิดว่าจะไปไวขนาดนี้ และสะเทือนใจอาม่าอย่างมากเพราะทั้งคู่รักกันมาก
ลูกสะใภ้ บอกด้วยว่า ก่อนที่ทุกคนในบ้านไปตรวจเชิงรุกหาเชื้อที่ตลาดบางแคภิรมย์นั้น ตนได้พา อาม่า ไปขอตรวจที่ รพ.ตามสิทธิ์การรักษา แต่ทาง รพ.ไม่ยอมตรวจให้ ตนจึงบอกให้ช่วยวัดชีพจร เพราะอาม่าเป็นความดันโลหิตสูง พยาบาลบอกให้ไปหาโรงพยาบาลอื่นนะ
ตนจึงตอบกลับไปว่า “โรงพยาบาลตามสิทธิ์ยังไม่รักษา แล้วจะให้เราไปหาโรงพยาบาลไหน”
พยาบาลคนกล่าวบอก “นโยบายไม่เหมือนกัน นี่เป็นนโยบายของผู้ใหญ่” จนอาม่า บอกว่า “พอเถอะ เอาอาม่ากลับบ้าน อาม่าอยากนอนไม่ไหวแล้ว”
ตนจึงพาอาม่ากลับบ้าน ตนไม่เข้าใจว่าทำไมโรงพยาบาลไม่รับตรวจหาเชื้อให้ “ทำไมต้องแบ่งแยก ถ้าคนเขาไม่ป่วยจริง เขาไม่ไปหรอก”
อยากให้ทุกรพ.เตรียมความพร้อม เพราะจะต้องเจอสถานการณ์แบบนี้อีก “บางคนเขาต้องการรักษาพ่อแม่ เขาไม่บอกหรอกว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้พ่อแม่ได้รับสิทธิ์การรักษา”
อย่างเคสของอากง ถ้ามีออกซิเจน ก็อาจมีโอกาสรอด แต่เราไม่สามารถเคลื่อนย้ายอากง ได้ เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง และเรามีจิตสำนึกที่ไม่พาไปโรงพยาบาล แล้วไปบอกว่าแค่มึนหัว เราก็ทำไม่ได้ เพราะรู้ว่าบ้านเราเสี่ยง วันนี้เราสูญเสียแล้ว อยากสะท้อนถึงภาครัฐให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมความพร้อมให้ดี ผู้ป่วยวิกฤตเพียงเสี้ยววินาที คุณก็อาจช่วยเขาได้
ส่วนศพของอากง เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) เสียชีวิตตั้งแต่ 11 โมง ศพอยู่บนเตียงในบ้านทั้งวัน ญาติเปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเท อาม่า และลูก ๆ นั่งเฝ้าศพอยู่ในบ้าน ลูก ๆ และลูกสะใภ้ ช่วยกันทำอาหารใส่ถาดพร้อมน้ำดื่ม นม วางไว้หน้าบ้าน จุดธูปบอกอากงมาทานข้าว
กว่าเจ้าหน้าที่จะมาชันสูตรพลิกศพก็ค่ำมืดแล้ว จากนั้น อปพร.เขตบางบอน ช่วยเก็บร่างใส่โลง ไปฝากเก็บไว้ในเตาเผาศพวัดกำแพง (เขตบางขุนเทียน) เพื่อเผาวันนี้ (14 ก.ค.)
คำถามแรก 在 ดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์ Youtube 的評價
Introduced a girl for his brother first question was you have a car. พี่ชายแนะนำผู้หญิงให้น้องชาย คำถามแรก มีรถไหมมีบ้านไหม!