วิธีเรียนรู้สู่ความสำเร็จ
เห็นคนรุ่นใหม่หลายคนขยันหาคอร์สเรียน หาหนังสือแนว How to อ่าน เพื่อสร้างความสำเร็จกันเยอะ แล้วก็มีหลายคนมาบ่นให้ฟังว่า อ่านเยอะ เรียนแยะ แต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง จนหลายครั้งเหมือนเรียนไปเรื่อยๆ หยิบจับนำมาใช้ประโยชน์ไม่ได้
บทความวันนี้เลยอยากแลกเปลี่ยนวิธีเรียนรู้ของตัวผมเอง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เริ่มต้น ที่กำลังมุ่งหน้าหาความสำเร็จทั้งในเรื่องของการทำงาน การบริหารจัดการเงิน และการเปลี่ยนแปลงทางบวกในด้านต่างๆ กันครับ
1) ต้องแปลงสิ่งที่เรียนหรืออ่าน ให้เป็นองค์ความรู้ของตัวเอง
การเรียนเยอะรู้แยะจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย หากเราไม่สามารถ "คิด" หรือ “สร้าง” อะไรขึ้นมาจากองค์ความรู้ที่เราจดจำมาได้เลย เช่น เราเรียนรู้วิธีการลงทุนจากกูรูต่างๆมากมาย แต่ละคนก็มีทริค มีเคล็ดลับ หรือแม้กระทั่งวิธีการที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็นั่นแหละ! สิ่งที่ได้รู้มาทั้งหมดจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากคุณไม่สามารถ "คิด" สร้างแนวทางสร้างลงทุนในแบบของ "ตัวเอง" ขึ้นมาได้
อยากจะลงทุนเก่ง สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจเหมือนๆ กัน คือ “แก่น” และ “หลักการ” ของการลงทุนในทรัพย์สินแต่ละอย่าง แต่สุดท้ายแล้ว เราต้องสังเคราะห์แก่นหรือหลักการดังกล่าว เป็น “กระบวนการ” การลงทุน เป็นขั้นตอน 1-2-3-4 ในแบบของตัวเองได้
ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนเพื่อทำกำไรในหุ้น หลักการก็รู้กันหมด นั่นคือ ซื้อหุ้นดี (บริษัทมีความสามารถในการแข่งขัน) ในราคาที่เหมาะสม (ไม่แพงเกินไป) แต่พอลงทุนจริง นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จแต่ละคน ก็จะมีวิธีการปลีกย่อย หลักเกณฑ์การตัดสินใจที่แตกต่างกันออกไปแบบเฉพาะตัว ไม่เหมือนกัน และนั่นคือสิ่งที่คุณต้องย่อยความรู้และทำให้เป็นกระบวนการในแบบฉบับของคุณเอง
สำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จ ... กระบวนการเรียนรู้ เริ่มต้นที่การ "คิด" ไม่ใช่ "จำ"
2) กระบวนการสังเคราะห์ความรู้จะยังไม่เกิด หากเรายังไม่สามารถ "ตั้งคำถาม" หรือ "ตั้งโจทย์" ด้วยตัวเองได้
วิธีการเรียนรู้แบบนี้ค่อนข้างขัดแย้งกับระบบการศึกษาที่คอยป้อนคำถามให้เราหาคำตอบ แต่ถ้าอยากสำเร็จ เราเองนั่นแหละที่ต้องตั้งโจทย์ให้กับตัวเองได้
เราเรียนวิธีสร้างความมั่งคั่งมากมายหลายวิธี แต่เราต้องหัดตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงอยากประสบความสำเร็จ เป้าหมายของเรา คือ อะไร ทำไมเราถึงอยากได้ความสำเร็จนั้น
วิธีไหน เส้นทางใด ที่ตรงกับ "จริต" ของเรา ทำแบบไหน ลงทุนแบบไหน แล้วไม่รู้สึกว่าชีวิตมี "แรงเสียดทาน" มากเกินไป "แผนการของเราควรเป็นแบบไหน" "เริ่มต้นจากอะไร" ฯลฯ
ถ้าอยากประสบความสำเร็จในเครื่องมือการลงทุนนั้น เราต้องรู้อะไรบ้าง และจะหาความรู้ที่แท้จริง (เดี๋ยวนี้พวกของปลอมเยอะ) ได้จากที่ไหน
"คำถาม" จะเป็นคบเพลิงนำทาง ... ดังนั้นอย่าปล่อยให้สมองดูดซับแต่ "ข้อมูล" จนลืมฝึกมันคิดตั้งคำถาม และหาคำตอบจากการสังเคราะห์ข้อมูลที่เสพมาทั้งหมด
และข้อ 3) ถือว่าสำคัญที่สุด นั่นก็คือ
ความรู้ที่เราได้จากเรียนในห้องเรียน ในคอร์สสัมมนา หรือในตำรา จะยังคงเป็นเพียงความรู้มือสอง จนกว่าเราจะ "ตัดสินใจ" เริ่มต้น "ลงมือทำ" แล้วนำสิ่งที่ได้เรียนมาไปใช้ประโยชน์ และสร้างเป็น "ความรู้มือหนึ่ง" ของตัวเองได้เอง
ในช่วงเริ่มต้น ลองฝึกหัด ลองทำทีละนิดทีละน้อย อย่ากลัว อย่ารอ จำเอาไว้ว่า ไม่ต้องรอให้รู้ 100% แล้วค่อยทำ แต่ให้ทำ 100% เท่าที่รู้ แค่นี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงไปได้มากแล้ว
ทุกสิ่งที่เราตั้งใจนั้น พอเริ่มทำ ก็จะเริ่มพบปัญหา เมื่อพบปัญหา แล้วหัดตั้งคำถาม หัดคิด หัดดึงความรู้ที่มีมาใช้งาน ก็จะยิ่งรู้ลึกซึ้งมากขึ้น เก่งขึ้น พัฒนาขึ้น
เหมือนเล่นเกมแล้วผ่านด่านไปเรื่อยๆ ก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ รับมือปัญหาและโอกาสที่ใหญ่มากขึ้นได้เรื่อยๆ
"คิด" "ตั้งโจทย์" และ "ลงมือทำ" เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มุ่งมั่นอยากประสบความสำเร็จนะครับ
#TheMoneyCoachTH
กระบวนการเรียนรู้ 在 Money Coach Facebook 八卦
วิธีเรียนรู้สู่ความสำเร็จ
เห็นหลายคนขยันหาคอร์สเรียน หาหนังสืออ่าน เพื่อความสำเร็จกัน จึงอยากแบ่งปันวิธีเรียนรู้ของตัวเอง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆที่กำลังมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จกันครับ
1) การเรียนเยอะรู้แยะจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย หากเราไม่สามารถ "คิด" หรือสร้างอะไรขึ้นมาจากองค์ความรู้ที่เราจดจำมาได้เลย
เช่น เราเรียนรู้วิธีการลงทุนจากกูรูต่างๆมากมาย แต่ละคนก็มีทริค มีเคล็ดลับ และวิธีการที่แตกต่างกันออกไป
แต่ก็นั่นแหละ ความรู้ทั้งหมดที่รู้มาจะไม่มีประโยชน์อันใด
หากคุณไม่สามารถ "คิด" และ “ประยุกต์” เพื่อกำหนด “วิธีการของตัวเอง” ขึ้นมาได้ (ฉันจะทำแบบนี้)
จำไว้ว่า! ... กระบวนการเรียนรู้ เริ่มต้นที่การ "คิด" ไม่ใช่ "จำ"
2) กระบวนการสังเคราะห์ความรู้จะยังไม่เกิด หากเรายังไม่สามารถ "ตั้งคำถาม" หรือ "ตั้งโจทย์" ในสิ่งที่เรียนด้วยตัวเอง
วิธีการเรียนรู้แบบนี้ค่อนข้างขัดแย้งกับระบบการศึกษาที่คอยป้อนคำถามให้เราหาคำตอบ หรือคอยบอกให้เราเชื่อ วิธีการเรียนรู้แบบนี้จะทำให้เราเป็นคนช่างสงสัย ช่างสังเกต และหัดตั้งคำถามในสิ่งที่เรียนรู้
ทำไม? ต้องทำวิธีนี้ มีวิธีอื่นๆ ที่ดีกว่าหรือเปล่า
วิธีที่เรารู้ มีข้อจำกัดอะไรในการใช้บ้าง
เราจะพัฒนาวิธีที่เรารู้ ให้เกิดผลดีมากกว่าเดิมได้อย่างไร
ฯลฯ
ยิ่งตั้งคำถาม แล้วเพียรหาคำตอบ ความรู้ก็ยิ่งแตกแขนง ไปทั้งลึกและกว้าง
และข้อ 3) ถือว่าสำคัญที่สุด
ความรู้ที่เราได้จากเรียนในห้องเรียน ในคอร์สสัมมนา หรือในตำรา จะยังคงเป็นเพียงความรู้มือสอง จนกว่าเราจะ "ตัดสินใจ" เริ่มต้น "ลงมือทำ" แล้วนำสิ่งที่ได้เรียนมาไปใช้ประโยชน์ และสร้างเป็น "ความรู้มือหนึ่ง" ของตัวเองได้เอง
เพราะท้ายที่สุด สิ่งที่ช่วยพาเราไปสู่ความสำเร็จในแบบที่มุ่งหวัง มันไม่ใช่เพียงแค่ “ความรู้” แต่ต้องผนวกด้วย “ประสบการณ์” ของการลองผิดลองถูกในสิ่งที่รู้ด้วย
แต่ ... ไม่ต้องรอให้รู้ 100% แล้วค่อยทำ แต่ให้ทำ 100% เท่าที่รู้ ...
ทุกสิ่งที่เราตั้งใจนั้น พอเริ่มทำ ก็จะเริ่มพบปัญหา เมื่อพบปัญหา แล้วหัดคิด หัดตั้งคำถาม หัดดึงความรู้ที่มีมาใช้งาน ก็จะยิ่งรู้ลึกซึ้งมากขึ้น เก่งขึ้น พัฒนาขึ้น
เหมือนเล่นเกมแล้วผ่านด่านไปเรื่อยๆ ก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ
"คิด" "ตั้งคำถาม" และ "ลงมือทำ" เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มุ่งมั่นอยากประสบความสำเร็จนะครับ
#TheMoneyCoachTH
กระบวนการเรียนรู้ 在 Money Coach Facebook 八卦
วิธีเรียนรู้สู่ความสำเร็จ
เห็นหลายคนขยันหาคอร์สเรียน หาหนังสืออ่าน เพื่อความสำเร็จกัน จึงอยากแบ่งปันวิธีเรียนรู้ของตัวเอง เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆที่กำลังมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จกันครับ
1) การเรียนเยอะรู้แยะจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย หากเราไม่สามารถ "คิด" หรือสร้างอะไรขึ้นมาจากองค์ความรู้ที่เราจดจำมาได้เลย
เช่น เราเรียนรู้วิธีการลงทุนจากกูรูต่างๆมากมาย แต่ละคนก็มีทริค มีเคล็ดลับ และวิธีการที่แตกต่างกันออกไป
แต่ก็นั่นแหละ ความรู้ทั้งหมดที่รู้มาจะไม่มีประโยชน์อันใด
หากคุณไม่สามารถ "คิด" และ “ประยุกต์” เพื่อกำหนด “วิธีการของตัวเอง” ขึ้นมาได้ (ฉันจะทำแบบนี้)
จำไว้ว่า! ... กระบวนการเรียนรู้ เริ่มต้นที่การ "คิด" ไม่ใช่ "จำ"
2) กระบวนการสังเคราะห์ความรู้จะยังไม่เกิด หากเรายังไม่สามารถ "ตั้งคำถาม" หรือ "ตั้งโจทย์" ในสิ่งที่เรียนด้วยตัวเอง
วิธีการเรียนรู้แบบนี้ค่อนข้างขัดแย้งกับระบบการศึกษาที่คอยป้อนคำถามให้เราหาคำตอบ หรือคอยบอกให้เราเชื่อ วิธีการเรียนรู้แบบนี้จะทำให้เราเป็นคนช่างสงสัย ช่างสังเกต และหัดตั้งคำถามในสิ่งที่เรียนรู้
ทำไม? ต้องทำวิธีนี้ มีวิธีอื่นๆ ที่ดีกว่าหรือเปล่า
วิธีที่เรารู้ มีข้อจำกัดอะไรในการใช้บ้าง
เราจะพัฒนาวิธีที่เรารู้ ให้เกิดผลดีมากกว่าเดิมได้อย่างไร
ฯลฯ
ยิ่งตั้งคำถาม แล้วเพียรหาคำตอบ ความรู้ก็ยิ่งแตกแขนง ไปทั้งลึกและกว้าง
และข้อ 3) ถือว่าสำคัญที่สุด
ความรู้ที่เราได้จากเรียนในห้องเรียน ในคอร์สสัมมนา หรือในตำรา จะยังคงเป็นเพียงความรู้มือสอง จนกว่าเราจะ "ตัดสินใจ" เริ่มต้น "ลงมือทำ" แล้วนำสิ่งที่ได้เรียนมาไปใช้ประโยชน์ และสร้างเป็น "ความรู้มือหนึ่ง" ของตัวเองได้เอง
เพราะท้ายที่สุด สิ่งที่ช่วยพาเราไปสู่ความสำเร็จในแบบที่มุ่งหวัง มันไม่ใช่เพียงแค่ “ความรู้” แต่ต้องผนวกด้วย “ประสบการณ์” ของการลองผิดลองถูกในสิ่งที่รู้ด้วย
แต่ ... ไม่ต้องรอให้รู้ 100% แล้วค่อยทำ แต่ให้ทำ 100% เท่าที่รู้ ...
ทุกสิ่งที่เราตั้งใจนั้น พอเริ่มทำ ก็จะเริ่มพบปัญหา เมื่อพบปัญหา แล้วหัดคิด หัดตั้งคำถาม หัดดึงความรู้ที่มีมาใช้งาน ก็จะยิ่งรู้ลึกซึ้งมากขึ้น เก่งขึ้น พัฒนาขึ้น
เหมือนเล่นเกมแล้วผ่านด่านไปเรื่อยๆ ก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ
"คิด" "ตั้งคำถาม" และ "ลงมือทำ" เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มุ่งมั่นอยากประสบความสำเร็จนะครับ
#TheMoneyCoachTH
กระบวนการเรียนรู้ 在 The Learning Cone: กระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ (และวิธีประยุกต์ใช้ ... 的八卦
หนึ่งในสิ่งที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ คือเราจะจดจำเรื่องราวจาก กระบวนการเรียนรู้ แต่ละแบบได้ไม่เท่ากัน มันเป็นทฤษฏีจากอะไร? สำคัญอย่างไร? ... <看更多>