Epic Games ธุรกิจทำแพลตฟอร์มให้ นักพัฒนาเกม มูลค่าแสนล้าน /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงเกมประเภทหนีเอาตัวรอด หรือ Battle Royale ที่เป็นที่นิยมในช่วงที่ผ่านมา หลายคนก็น่าจะนึกถึง PlayerUnknown's Battlegrounds หรือ PUBG และ Fortnite
ซึ่งแน่นอนว่าทั้งคู่ นับเป็นคู่แข่งกัน แต่เรื่องที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือทั้ง 2 บริษัทต่างถูกพัฒนาขึ้นบน Game Engine หรือ ซอฟต์แวร์ในการสร้างเกมตัวเดียวกัน ที่มีชื่อว่า “Unreal Engine”
ซอฟต์แวร์ดังกล่าว ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Epic Games ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสตาร์ตอัปยูนิคอร์น
ปัจจุบัน ถูกประเมินมูลค่าไว้มากถึง 9.5 แสนล้านบาท
ใครกันที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทแห่งนี้
แล้วธุรกิจ Game Engine น่าสนใจขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
สำหรับผู้ก่อตั้ง Epic Games นั่นก็คือ “Tim Sweeney”
Sweeney เกิดในปี ค.ศ. 1970 ที่เมือง Potomac รัฐ Maryland
ในวัยเด็ก เขามีความสนใจในการซ่อมแซมอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ไม่ว่าจะเป็นการแยกส่วนเครื่องตัดหญ้า หรือลองประกอบรถโกคาร์ตด้วยตัวเอง
และอีกสิ่งหนึ่งที่ Sweeney สนใจไม่แพ้กันคือการเล่นเกมและการเขียนโปรแกรม
โดยเกมที่เขาชื่นชอบมากที่สุดคือเกม Adventure จากบริษัท “Atari” ผู้พัฒนาเกมชื่อดังในยุคนั้น
จนเมื่อเขาอายุได้ 11 ปี เขาได้รับ Apple II คอมพิวเตอร์ส่วนตัวจากพี่ชาย
ด้วยความที่หลงใหลในการเล่นเกม ทำให้เขาเริ่มศึกษาการเขียนโปรแกรมอย่างจริงจัง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โดยเป้าหมายของ Sweeney ในตอนนั้นคือ เขาต้องการสร้างเกม Adventure ภาค 2 ขึ้นมาเอง
Sweeney บอกว่าเขาใช้เวลาเกินกว่า 10,000 ชั่วโมง ในการศึกษาขั้นตอนการเขียนโปรแกรม โดยใช้ข้อมูลจากกระดานข่าวออนไลน์
และแม้จะไม่สามารถสร้าง Adventure 2 สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
แต่การศึกษาหาข้อมูลครั้งนั้นก็ได้กลายเป็นทุน
ที่ทำให้เขามีความสามารถในการเขียนโปรแกรมติดตัว
ปี ค.ศ. 1989 Sweeney ได้เข้าเรียนที่ University of Maryland ในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล
โดยในระหว่างที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย เขามีความคิดที่จะสร้างเกมขึ้นมาเพื่อขาย
เขาจึงได้ก่อตั้งบริษัท “Potomac Computer Systems” ขึ้นมา
หลังจากใช้เวลาอยู่ร่วม 9 เดือน เขาก็สามารถสร้างเกมแรกของเขาเองได้สำเร็จ โดยใช้ชื่อว่า “ZZT”
Sweeney เลือกใช้โมเดลในการขายเกมแบบ Shareware หรือการให้ทดลองเล่นก่อน
โดยเขาได้รับความช่วยเหลือจากคุณ Scott Miller ผู้ก่อตั้งบริษัท Apogee Software
ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการใช้โมเดลแบบ Shareware ในการทำการตลาด
มาถึงจุดนี้ Sweeney สามารถสร้างรายได้วันละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ จากการขายเกม
พอเริ่มเห็นว่าธุรกิจเกมที่เขาหลงใหลมาตั้งแต่เด็กไปได้สวย
เขาจึงตัดสินใจหยุดเรียนและเลือกเส้นทางนี้แบบจริงจัง
และได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Epic MegaGames” เพื่อให้ดูเป็นทางการมากขึ้น
หลังจากก่อตั้งบริษัท และดำเนินการมาได้ระยะหนึ่ง เขาพบว่าตัวเขาเองยังคงขาดทักษะบางอย่างในการสร้างเกม รวมทั้งยังขาดความสามารถในการบริหารบริษัท
ซึ่งจุดนี้ ทำให้เขารู้ว่าด้วยตัวเพียงคนเดียว ไม่สามารถทำให้บริษัทเติบโตได้
ส่งผลให้ในเวลาต่อมา Sweeney จึงรวบรวมคนเพื่อมาช่วยให้บริษัทเติบโตได้
และในปี ค.ศ. 1992 เขาก็ได้พบกับเพื่อนร่วมงานอีกคน นั่นก็คือ “Mark Rein”
การเข้ามาของ Rein ทำให้บริษัทเติบโตได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากการบริหารจัดการในบริษัทมีความเป็นระเบียบมากขึ้น
โดยที่ Rein จะคอยรับผิดชอบด้านการบริหารจัดการองค์กร
ซึ่งก็ทำให้ Sweeney สามารถโฟกัสการพัฒนาเกมได้อย่างเต็มที่
และหลังจากนั้นไม่นาน ไอเดียของ Sweeney ที่ต้องการพัฒนาซอฟต์แวร์
สำหรับผู้พัฒนาเกมก็ได้เกิดขึ้น ซึ่งซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีชื่อว่า “Unreal Engine”
แล้วซอฟต์แวร์สำหรับพัฒนาเกม มันคืออะไร ?
Game Engine เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการสร้างและพัฒนาเกม
โดยทุก ๆ เกม จะต้องถูกสร้างผ่าน Game Engine ต่าง ๆ ที่มีอยู่
หากเปรียบเทียบ เกมเป็นเหมือนกับรถยนต์คันหนึ่ง
Game Engine ก็เปรียบเสมือน “เครื่องยนต์” ที่ทำให้รถคันนั้นขับเคลื่อนได้
โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งประเภทของ Game Engine ออกได้เป็น 2 กลุ่มด้วยกัน
1. In-house Engine
คือ Game Engine ที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับเกมในค่ายตัวเองเท่านั้น
ไม่มีการเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ใช้ เช่น Rage Engine ที่ใช้ในเกม Rockstar GTA
2. Game Engine ที่เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ใช้
โดยมีทั้งรูปแบบฟรี เสียค่าบริการรายเดือน หรือคิดค่าบริการ
ตามรายได้ที่เกมนั้น ๆ สามารถทำได้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ประเภทนี้ในตลาด ก็เช่น
- Unity ที่ใช้ในการสร้างเกม Among Us
- Source 2 ที่ใช้สร้างเกม Dota 2
- Unreal Engine ของทาง Epic Games
โดยเกมแรกที่ได้นำซอฟต์แวร์ของ Sweeney ไปใช้มีชื่อว่าเกม “Unreal” เป็นเกมแนว FPS หรือเกมยิงปืนที่เรารู้จักกัน เช่น Counter-Strike
โดยเกม Unreal ถือว่าเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากสะท้อนให้เห็นจากยอดขาย 1.5 ล้านแผ่นในปี 2002
หลังจากประสบความสำเร็จจากเกม Unreal
Sweeney ก็ได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทอีกครั้ง
จาก Epic MegaGames มาเป็น “Epic Games” ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนี้
อีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จของทาง Epic Games คือการสร้างเกม Gears of War หลังจากเปิดตัวภาคแรกไปในปี ค.ศ. 2006 ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
ทางบริษัทพัฒนาเกมมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีด้วยกันมากถึง 5 ภาคและมีภาคเสริมอีก 3 ภาค
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2017 ทาง Epic Games เองได้ทำการเปิดตัว Fortnite
เกมนี้เอง ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
เพราะหลังจากเปิดตัวได้เพียง 2 ปี Fortnite ได้กวาดรายได้ไปกว่า 56,000 ล้านบาท
ซึ่งนับเป็นรายได้จากเกม ที่มากที่สุดในโลก
สำหรับจิกซอว์ตัวสำคัญ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเกมเหล่านี้
แน่นอนว่าก็คือซอฟต์แวร์สำหรับพัฒนาเกมอย่าง Unreal Engine
เรามาดูกันว่าผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้คนอื่นนำไปผลิตเกม หาเงินอย่างไร ?
โดย Unreal Engine มีลักษณะแบบเปิดให้ใช้งานได้ฟรี
แต่มีเงื่อนไขคือ หากเกมที่ใช้ Unreal Engine สามารถสร้างรายได้
เกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32 ล้านบาท
ผู้พัฒนาจะต้องเสียค่าบริหาร 5% ของรายได้ ให้กับทาง Epic Games
ปัจจุบัน Unreal Engine ได้พัฒนามาถึงเวอร์ชันที่ 5 หรือเรียกว่า Unreal Engine 5
และถือเป็น Game Engine อันดับต้น ๆ โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 13%
ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้ได้กลายมาเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของเกมทั่วโลก
ยกตัวอย่างเช่น Final FANTASY VII Remake ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีก่อน
หรือแม้แต่เกม PUBG ซึ่งถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Fortnite ก็ใช้ Unreal Engine เช่นเดียวกัน
แล้วเรื่องราวของ Epic Games สะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง ?
Sweeney สะท้อนให้เห็นว่าไม่ว่าเราจะหลงใหลในอะไรก็ตาม
เราสามารถใช้มันเป็นจุดตั้งต้นของการก่อตั้งธุรกิจได้ทั้งนั้น
อย่างตัวเขาเอง ที่ชื่นชอบในการเล่นเกม
แทนที่เขาจะเป็นผู้เล่นเพียงอย่างเดียว
เขากลับมองว่าสักวันจะต้องพัฒนาเกมของตัวเองให้คนอื่น
และในปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา Epic Games มีรายได้อยู่ที่ 166,700 ล้านบาท
และถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ 948,300 ล้านบาท
นั่นจึงทำให้ตัวผู้ก่อตั้งอย่าง Tim Sweeney ได้กลายมาเป็นมหาเศรษฐี
ที่มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 240,000 ล้านบาท นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://marketeeronline.co/archives/184107
-https://en.wikipedia.org/wiki/Epic_Games
-https://www.valuecoders.com/blog/technology-and-apps/unreal-engine-vs-unity-3d-games-development/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Tim_Sweeney_(game_developer)
-https://en.wikipedia.org/wiki/Fortnite_Battle_Royale
-https://kotaku.com/the-quiet-tinkerer-who-makes-games-beautiful-finally-ge-5865951
-https://www.gamedeveloper.com/design/from-the-past-to-the-future-tim-sweeney-talks
-https://www.unrealengine.com/en-US/faq
-https://www.businessofapps.com/data/fortnite-statistics/
-https://www.longtunman.com/23889
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gears_of_War
-https://www.cnbc.com/2021/04/13/fortnite-creator-epic-games-valuation-jumps-to-29-billion.html
Search
unity vs unreal 在 Unity VS Unreal Architectural Visualization - Pinterest 的八卦
Jan 9, 2017 - Side by side comparison of Unity 3D 4.5 Free Version and Unreal Engine 4.7 Free Version. Model originally from 3DMax, Ported to Maya for UV ... ... <看更多>