เมืองอู่ฮั่น มีความสำคัญอย่างไร? /โดย ลงทุนแมน
ล่าสุดมีการประกาศปิดการเดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่นทุกรูปแบบ
เนื่องจากการระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
โดยมีผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อกว่า 800 ราย
และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 ราย
ซึ่งผู้ป่วยกระจายตัวอยู่ในหลายมณฑลของจีน พื้นที่อื่นในโลก รวมถึงในประเทศไทย
อะไรเป็นสาเหตุที่ไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว?
และการปิดเมืองอู่ฮั่นจะส่งผลกระทบอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
ติดตามข่าวสารอัปเดตแบบนี้ได้ที่
ทวิตเตอร์ ลงทุนแมน twitter.com/longtunman
┗━━━━━━━━━━━━┛
อู่ฮั่น (Wuhan) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในมณฑลหูเป่ย์ มีประชากร 11 ล้านคน ถือเป็นศูนย์กลางทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน การค้า และวัฒนธรรม ของภูมิภาคจีนตอนกลาง
โดยชื่อ “อู่ฮั่น” มาจากการรวมกันของ 3 เมือง ได้แก่ อู่ชาง ฮั่นโข่ว และฮั่นหยาง เพื่อตั้งเป็นเมืองหลวงของจีนในช่วงปี ค.ศ. 1927
สำหรับในด้านภูมิศาสตร์
ลองนึกถึงเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศจีน 4 เมือง คือ
กรุงปักกิ่งทางตอนเหนือ นครกว่างโจวทางตอนใต้
นครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออก และนครฉงชิ่งทางตะวันตก
ถ้าลากเส้น 2 เส้น จากปักกิ่งมากว่างโจว และเซี่ยงไฮ้มาฉงชิ่ง
เส้นทั้ง 2 จะตัดกันแถบเมืองอู่ฮั่นพอดี
ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางของเมืองใหญ่ อู่ฮั่นจึงกลายเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญมากของประเทศจีน ทั้งการขนส่งทางน้ำ ทางบก ทางรถไฟ และทางอากาศ
การขนส่งทางน้ำ
อู่ฮั่นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซี แม่น้ำสายที่ยาวที่สุดของประเทศจีน
แม่น้ำนี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญ ไหลผ่านเขตอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่นครฉงชิ่ง ออกสู่ทะเลใกล้กับนครเซี่ยงไฮ้
ท่าเรืออู่ฮั่นซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางจึงกลายเป็นท่าเรือที่สำคัญของแม่น้ำแยงซี
การขนส่งทางรถไฟ
สถานีรถไฟอู่ฮั่น เป็นจุดตัดของรถไฟความเร็วสูงสายปักกิ่ง-กว่างโจว และรถไฟความเร็วสูงสายเซี่ยงไฮ้-เฉิงตู รวมถึงรถไฟทั่วไปอีกหลายเส้นทาง
ทำให้การเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นไปยังเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศจีนสะดวกและรวดเร็ว
แต่ประเด็นมันอยู่ที่..
การเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง
ทำให้การระบาดของไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายไปทั่วประเทศ..
แล้วอู่ฮั่นยังมีเป็นศูนย์กลางของอะไรอีก?
การขนส่งทางอากาศ
สนามบินนานาชาติอู่ฮั่นเทียนเหอ รองรับผู้โดยสารกว่า 24.5 ล้านคนในปี 2018 มีเส้นทางการบินเชื่อมต่อสู่หลายเมืองหลักทั่วโลก ทั้งโตเกียว ปารีส สิงคโปร์
สำหรับประเทศไทย มีเส้นทางบินเชื่อมระหว่างอู่ฮั่น กับกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต
นอกจากการเป็นศูนย์กลางคมนาคมและขนส่งแล้ว
อู่ฮั่นยังเป็นฐานการผลิตยานยนต์ และอุตสาหกรรมเหล็กที่สำคัญของประเทศจีน
โดยเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ ตงฟงมอเตอร์ (Dongfeng Motor Group) บริษัทยานยนต์ที่มีรายได้มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน ผู้ผลิตรถบรรทุก และรถบัสที่สำคัญของตลาดจีน
ในปี 2018 ตงฟงมอเตอร์ มีรายได้ 2.8 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทที่มีรายได้อันดับ 82 ของโลก จากการจัดอันดับของ Global Fortune 500
นอกจากนั้น อู่ฮั่นยังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยจัดเป็นโซนอุตสาหกรรมพิเศษหลายแห่ง เน้นตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีชีวภาพ ยา ไปจนถึงเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคม
ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้ ทำให้ในปี 2018 อู่ฮั่นเมืองเดียวมีขนาด GDP สูงถึง 6.5 ล้านล้านบาท
ใกล้เคียงกับ GDP ของเวียดนามทั้งประเทศ และคิดเป็น GDP สูงถึงเดือนละเกือบ 50,000 บาทต่อหัว
สำหรับด้านการศึกษา อู่ฮั่นก็ถือว่าเป็นเมืองที่โดดเด่น เป็นรองเพียงเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง
โดยมีมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น หรือ Wuhan University เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับ Top 10 ของประเทศจีน และ Huazhong University of Science and Technology ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งที่เป็นผู้จัดการสถาบันวิจัยระดับชาติ
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ในแต่ละวันจะมีทั้งนักเดินทาง นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ เดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่นวันละหลายแสนคน
เมื่อมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเกือบเท่าเวียดนามทั้งประเทศ
การปิดเมืองอู่ฮั่น ปิดเส้นทางคมนาคมทุกเส้นทาง
ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้
ก็คือการยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสนี้ให้เร็วที่สุด
ก่อนที่จะเกิดการแพร่กระจายอย่างกรณีของโรคซาร์ส ในปี 2002 ซึ่งพบในมณฑลกวางตุ้งของจีนเป็นที่แรก จนมีผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 ราย และคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปกว่า 800 ราย
เรื่องนี้ก็ทำให้เราคิดได้ว่า
ทุกวันนี้ยิ่งโลกเชื่อมต่อกันอย่างไร้เขตแดนมากขึ้น
เราสามารถเดินทางไปอีกฟากโลกได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
แม้ว่าเรื่องนี้จะส่งผลดีอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์เราในด้านต่างๆ
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แปลว่าถ้าเกิดโรคติดต่ออย่างในกรณีนี้
การแพร่กระจายก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
โดยเฉพาะเมืองที่เป็นจุดศูนย์กลางด้านการคมนาคมอย่างเมืองอู่ฮั่น
และถ้าถามว่าเมืองไหนที่มีความเสี่ยง เพราะเป็นจุดศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวคมนาคมที่สำคัญของภูมิภาคที่คล้ายกับอู่ฮั่น
รู้ไหมว่า หนึ่งในเมืองนั้นก็คือ กรุงเทพมหานคร นั่นเอง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
ติดตามข่าวสารอัปเดตแบบนี้ได้ที่
ทวิตเตอร์ ลงทุนแมน twitter.com/longtunman
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.bbc.com/news/world-asia-china-51202254
-http://www.caac.gov.cn/…/TJSJ/2…/P020190305338562571372.xls…&
-https://www.studyinchina.com.my/…/qs-university-rankings-a…/
-https://www.ceicdata.com/…/gross-domesti…/cn-gdp-hubei-wuhan
-https://fortune.com/global500/2019/dongfeng-motor/
-https://www.who.int/ith/diseases/sars/en/
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅GreatKidsLearning,也在其Youtube影片中提到,Top 100 QS World University Rankings in 2020. (2020年世界大學前100排名)...
「qs world university rankings」的推薦目錄:
- 關於qs world university rankings 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於qs world university rankings 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於qs world university rankings 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於qs world university rankings 在 GreatKidsLearning Youtube
- 關於qs world university rankings 在 GreatKidsLearning Youtube
- 關於qs world university rankings 在 Out Now: QS World University Rankings by Subject 2019 的評價
qs world university rankings 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
เมืองอู่ฮั่น มีความสำคัญอย่างไร? /โดย ลงทุนแมน
ล่าสุดมีการประกาศปิดการเดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่นทุกรูปแบบ
เนื่องจากการระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
โดยมีผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อกว่า 800 ราย
และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 ราย
ซึ่งผู้ป่วยกระจายตัวอยู่ในหลายมณฑลของจีน พื้นที่อื่นในโลก รวมถึงในประเทศไทย
อะไรเป็นสาเหตุที่ไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว?
และการปิดเมืองอู่ฮั่นจะส่งผลกระทบอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
ติดตามข่าวสารอัปเดตแบบนี้ได้ที่
ทวิตเตอร์ ลงทุนแมน twitter.com/longtunman
┗━━━━━━━━━━━━┛
อู่ฮั่น (Wuhan) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในมณฑลหูเป่ย์ มีประชากร 11 ล้านคน ถือเป็นศูนย์กลางทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน การค้า และวัฒนธรรม ของภูมิภาคจีนตอนกลาง
โดยชื่อ “อู่ฮั่น” มาจากการรวมกันของ 3 เมือง ได้แก่ อู่ชาง ฮั่นโข่ว และฮั่นหยาง เพื่อตั้งเป็นเมืองหลวงของจีนในช่วงปี ค.ศ. 1927
สำหรับในด้านภูมิศาสตร์
ลองนึกถึงเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศจีน 4 เมือง คือ
กรุงปักกิ่งทางตอนเหนือ นครกว่างโจวทางตอนใต้
นครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออก และนครฉงชิ่งทางตะวันตก
ถ้าลากเส้น 2 เส้น จากปักกิ่งมากว่างโจว และเซี่ยงไฮ้มาฉงชิ่ง
เส้นทั้ง 2 จะตัดกันแถบเมืองอู่ฮั่นพอดี
ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางของเมืองใหญ่ อู่ฮั่นจึงกลายเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญมากของประเทศจีน ทั้งการขนส่งทางน้ำ ทางบก ทางรถไฟ และทางอากาศ
การขนส่งทางน้ำ
อู่ฮั่นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซี แม่น้ำสายที่ยาวที่สุดของประเทศจีน
แม่น้ำนี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญ ไหลผ่านเขตอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่นครฉงชิ่ง ออกสู่ทะเลใกล้กับนครเซี่ยงไฮ้
ท่าเรืออู่ฮั่นซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางจึงกลายเป็นท่าเรือที่สำคัญของแม่น้ำแยงซี
การขนส่งทางรถไฟ
สถานีรถไฟอู่ฮั่น เป็นจุดตัดของรถไฟความเร็วสูงสายปักกิ่ง-กว่างโจว และรถไฟความเร็วสูงสายเซี่ยงไฮ้-เฉิงตู รวมถึงรถไฟทั่วไปอีกหลายเส้นทาง
ทำให้การเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นไปยังเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศจีนสะดวกและรวดเร็ว
แต่ประเด็นมันอยู่ที่..
การเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง
ทำให้การระบาดของไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายไปทั่วประเทศ..
แล้วอู่ฮั่นยังมีเป็นศูนย์กลางของอะไรอีก?
การขนส่งทางอากาศ
สนามบินนานาชาติอู่ฮั่นเทียนเหอ รองรับผู้โดยสารกว่า 24.5 ล้านคนในปี 2018 มีเส้นทางการบินเชื่อมต่อสู่หลายเมืองหลักทั่วโลก ทั้งโตเกียว ปารีส สิงคโปร์
สำหรับประเทศไทย มีเส้นทางบินเชื่อมระหว่างอู่ฮั่น กับกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต
นอกจากการเป็นศูนย์กลางคมนาคมและขนส่งแล้ว
อู่ฮั่นยังเป็นฐานการผลิตยานยนต์ และอุตสาหกรรมเหล็กที่สำคัญของประเทศจีน
โดยเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ ตงฟงมอเตอร์ (Dongfeng Motor Group) บริษัทยานยนต์ที่มีรายได้มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน ผู้ผลิตรถบรรทุก และรถบัสที่สำคัญของตลาดจีน
ในปี 2018 ตงฟงมอเตอร์ มีรายได้ 2.8 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทที่มีรายได้อันดับ 82 ของโลก จากการจัดอันดับของ Global Fortune 500
นอกจากนั้น อู่ฮั่นยังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยจัดเป็นโซนอุตสาหกรรมพิเศษหลายแห่ง เน้นตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีชีวภาพ ยา ไปจนถึงเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคม
ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้ ทำให้ในปี 2018 อู่ฮั่นเมืองเดียวมีขนาด GDP สูงถึง 6.5 ล้านล้านบาท
ใกล้เคียงกับ GDP ของเวียดนามทั้งประเทศ และคิดเป็น GDP สูงถึงเดือนละเกือบ 50,000 บาทต่อหัว
สำหรับด้านการศึกษา อู่ฮั่นก็ถือว่าเป็นเมืองที่โดดเด่น เป็นรองเพียงเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง
โดยมีมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น หรือ Wuhan University เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับ Top 10 ของประเทศจีน และ Huazhong University of Science and Technology ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งที่เป็นผู้จัดการสถาบันวิจัยระดับชาติ
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ในแต่ละวันจะมีทั้งนักเดินทาง นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ เดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่นวันละหลายแสนคน
เมื่อมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเกือบเท่าเวียดนามทั้งประเทศ
การปิดเมืองอู่ฮั่น ปิดเส้นทางคมนาคมทุกเส้นทาง
ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้
ก็คือการยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสนี้ให้เร็วที่สุด
ก่อนที่จะเกิดการแพร่กระจายอย่างกรณีของโรคซาร์ส ในปี 2002 ซึ่งพบในมณฑลกวางตุ้งของจีนเป็นที่แรก จนมีผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 ราย และคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปกว่า 800 ราย
เรื่องนี้ก็ทำให้เราคิดได้ว่า
ทุกวันนี้ยิ่งโลกเชื่อมต่อกันอย่างไร้เขตแดนมากขึ้น
เราสามารถเดินทางไปอีกฟากโลกได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
แม้ว่าเรื่องนี้จะส่งผลดีอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์เราในด้านต่างๆ
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แปลว่าถ้าเกิดโรคติดต่ออย่างในกรณีนี้
การแพร่กระจายก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
โดยเฉพาะเมืองที่เป็นจุดศูนย์กลางด้านการคมนาคมอย่างเมืองอู่ฮั่น
และถ้าถามว่าเมืองไหนที่มีความเสี่ยง เพราะเป็นจุดศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวคมนาคมที่สำคัญของภูมิภาคที่คล้ายกับอู่ฮั่น
รู้ไหมว่า หนึ่งในเมืองนั้นก็คือ กรุงเทพมหานคร นั่นเอง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
ติดตามข่าวสารอัปเดตแบบนี้ได้ที่
ทวิตเตอร์ ลงทุนแมน twitter.com/longtunman
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.bbc.com/news/world-asia-china-51202254
-http://www.caac.gov.cn/XXGK/XXGK/TJSJ/201903/P020190305338562571372.xls?COLLCC=3782305670&
-https://www.studyinchina.com.my/web/page/qs-university-rankings-asia-2016/
-https://www.ceicdata.com/en/china/gross-domestic-product-prefecture-level-city/cn-gdp-hubei-wuhan
-https://fortune.com/global500/2019/dongfeng-motor/
-https://www.who.int/ith/diseases/sars/en/
qs world university rankings 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
รู้จักกับ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ /โดย ลงทุนแมน
เวลานึกถึงมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก หลายคนมักคิดว่าจะมีแต่ในสหรัฐอเมริกา หรืออังกฤษเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วในเอเชียยังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วย นั่นคือ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ หรือ National University of Singapore (NUS)
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีความเป็นมาอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
NUS ก่อตั้งขึ้นในปี 1905 หรือเมื่อ 114 ปีที่แล้ว ในสมัยที่สิงคโปร์ยังเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมอังกฤษ
โดยในช่วงแรกของการก่อตั้งนั้น NUS มีฐานะเป็นเพียงวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ก่อนที่จะเริ่มขยายไปสอนสาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และสาขาอื่นๆ ในเวลาต่อมา
NUS ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสิงคโปร์ มีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาล ปัจจุบันเปิดสอนทั้งสิ้น 17 คณะ
ในปี 2018
NUS มีจำนวนนักศึกษาทั้งหมด 35,908 คน
แบ่งเป็นระดับปริญญาตรี 27,604 คน
ระดับปริญญาโท 8,304 คน
โดยเป็นนักศึกษาที่มาจาก 100 ประเทศทั่วโลก
ค่าเล่าเรียนในระดับปริญญาตรี 392,000 ถึง 1,400,000 บาทต่อปี ซึ่งขึ้นกับสาขาวิชาที่เรียน
โดยสาขาวิชาที่ค่าเรียนสูงคือ คณะแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ มีค่าเรียนอยู่ที่ปีละประมาณ 1,400,000 บาท
อัตราการจ้างงานสำหรับนักศึกษาที่จบจาก NUS อยู่ที่ 90% ขณะที่เงินเดือนเริ่มต้นของนักศึกษาจากที่นี่เฉลี่ยอยู่ที่ 114,000 บาท
นอกจากนี้ จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของโลกโดย QS World University Rankings ในปี 2019 นั้น NUS เป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 1 ของเอเชียและอันดับที่ 11 ของโลก
ข้อมูลด้านการเงินของ NUS
ปี 2018 รายได้ 18,800 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 19,600 ล้านบาท
และการที่ NUS เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาลสิงคโปร์
จึงทำให้มีเงินสนับสนุนจากภาครัฐบาลของสิงคโปร์อีกด้วย
ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงของ NUS มีใครบ้าง?
ดร.มหาธีร์ มูฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียคนปัจจุบัน
โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของสิงคโปร์
โฮ ชิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทมาเส็กโฮลดิ้งส์ และภรรยาของ ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของสิงคโปร์
รัฐบาลสิงคโปร์นั้นให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะประชาชนถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญ
ดังนั้น การพัฒนาประเทศที่สำคัญที่สุด ต้องเริ่มจากการพัฒนาประชาชนของประเทศ รัฐบาลจึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการ เพื่อศึกษาระบบบริหารและการจัดสรรงบประมาณให้แก่กระทรวงศึกษาธิการอย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐบาลมีการสนับสนุนด้านการศึกษา และต้องการให้ประชากรของประเทศได้รับการศึกษาที่ทั่วถึง โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้ให้การอุดหนุนด้านการศึกษาแก่โรงเรียนในระดับประถม และมัธยมที่เป็นโรงเรียนของรัฐบาลหรือกึ่งรัฐบาล และมีหน่วยงานของรัฐที่ให้เงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวที่มีรายได้น้อย เพื่อให้สามารถส่งเสริมบุตรเข้าเรียนได้ โดยไม่ต้องกังวลภาระด้านการเงิน
ในปี 2018 ประชากรของสิงคโปร์ทุกๆ 100 คน จะอ่านออกเขียนได้ 97คน
เทียบกับปี 1980 ที่อยู่ที่ประมาณ 83 คน
ในปี 2019 งบประมาณรายจ่ายทั้งหมดของประเทศเท่ากับ 1.8 ล้านล้านบาท ประมาณ 16% ของ GDP ทั้งประเทศที่ 11 ล้านล้านบาท
ซึ่งงบประมาณที่ให้แก่หน่วยงานด้านการศึกษานั้นอยู่ที่ 294,000 ล้านบาท ประมาณ 16% ของงบประมาณรายจ่ายทั้งหมด และเพิ่มขึ้นจากปี 2018 ที่เท่ากับ 292,000 ล้านบาท แม้จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ยังดีกว่าบางหน่วยงาน เช่น หน่วยงานด้านคมนาคม และหน่วยงานด้านการค้าและอุตสาหกรรมที่ถูกตัดลดงบประมาณ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากผลของสงครามการค้า
เรื่องนี้อาจบอกเราได้ว่า แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว รัฐบาลอาจมีรายได้น้อยลง แต่เรื่องการศึกษานั้นสิงคโปร์ยังให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลสิงคโปร์เชื่อว่า การที่จะสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพขึ้นมาในสังคมได้นั้น รากฐานที่สำคัญก็คือ การพัฒนาการศึกษา
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปี 2019 งบประมาณกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย มีจำนวนเงินทั้งหมด 369,047 ล้านบาท เมื่อเทียบงบด้านการศึกษาต่อประชากรจะได้ 5,400 บาทต่อคนต่อปี ในขณะสิงคโปร์มีงบด้านการศึกษาสูงถึง 52,000 บาทต่อคนต่อปี..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://en.wikipedia.org/w…/National_University_of_Singapore
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mahathir_Mohamad
-Undergraduate Tuition Fees
-http://news.nus.edu.sg/…/NUS-Graduate-Employment-Survey-2018
-https://www.topuniversities.com/…/asian-university-ran…/2019
-https://www.topuniversities.com/…/national-university-singa…
-NUS Financial Report 2019
-https://www.bic.moe.go.th/…/item/4232-singapore-education-s…
-https://www.singaporebudget.gov.sg/…/FY2019_Analysis_of_Rev…
-https://www.singstat.gov.sg/…/education-languag…/latest-data
qs world university rankings 在 GreatKidsLearning Youtube 的評價
Top 100 QS World University Rankings in 2020. (2020年世界大學前100排名)

qs world university rankings 在 GreatKidsLearning Youtube 的評價
看一看你心目中的大學有沒有在排名100名內,注意: 若是排名的名次一樣,表示評比的分數是一樣的。亞洲的學校似乎比去年的排名又有進步。

qs world university rankings 在 Out Now: QS World University Rankings by Subject 2019 的八卦
QS World University Rankings by Subject 2019 is out now. Get the full results: http://bit.ly/QSWURBS19Y #QSWURFor many students, ... ... <看更多>