ตั้งแต่ดูหนังมา. หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ผมกล้าแนะนำทุกคนแบบสุดเสียง
“2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”
ไม่ใช่แค่”น่าดู”
“แต่..ต้องดู”
หนังเรื่องนี้สร้างจากโครงการ”ก้าวคนละก้าว”ของ”ตูน บอดี้สแลม”เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งกลายเป็น”ปรากฏการณ์”ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย
เมื่อคนๆหนึ่งวิ่งจากใต้สุดไปเหนือสุดของเมืองไทย
ก่อนที่”ตูน”จะเริ่มโครงการนี้. เขาเข้าไปคุยกับ”พี่เก้ง”จิระ มะลิกุล.
ตอนแรก เขาอยากให้ GDH ช่วยตัดฟุตเทจจากการ LIVE ของการวิ่งไปบางสะพานเป็นหนังหรือบันทึกความทรงจำ
แต่”พี่เก้ง”และ”วรรณ”วรรณฤดี. พงษ์สิทธิศักดิ์ โปรดิวเซอร์มือทองของ GDH บอกว่าการทำหนังกับการบันทึก LIVE นั้นแตกต่างกัน
ขอเป็นโครงการใหม่ที่”ตูน”กำลังจะทำดีกว่า
“พี่เก้ง”ชอบวิ่งอยู่แล้ว.
เขาเคยไปวิ่งกับ”ตูน”มาแล้วในโครงการบางสะพาน
ได้เห็นความงดงามและพลังดีๆตลอดข้างทางที่”ตูน”วิ่ง
GDH ดึง”ไก่”ณฐพล บุญประกอบ คนเขียนบทภาพยนตร์มือดี และผู้กำกับหนังสารคดีหลายเรื่องมาเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้
“ไก่”กำลังเรียนต่อที่นิวยอร์ค เรื่องสารคดี
เขาบินกลับมาทันทีเมื่อรู้ว่าได้ทำโครงการนี้
”ไก่”และน้องๆอีก 5 คน ติดตามบันทึกภาพการวิ่ง 2,215 กิโลเมตรของ”ตูน”
สารคดีแบบนี้ไม่มี”บทภาพยนตร์”ล่วงหน้า
เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตลอดเวลา 55 วันนี้
จากวันนั้นจนถึงวันนี้
7 เดือนกว่า
ฟุตเทจทั้่งหมดก็กลายมาเป็นหนังสารคดีที่ยิ่งใหญ่
“2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”
..............
ผมดูหนังเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขอ”พี่เก้ง”เหมารอบให้นักเรียน ABC ทุกรุ่นได้ดูกัน
หวังจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการร่วมบริจาคเงินตามเป้าหมายของ”ตูน”
ตอนแรก"ตูน"ตั้งใจที่จะให้ทุกคนได้ดูฟรี
"ตูน"ขอเปลี่ยน"ค่าตั๋ว"เป็นเงินบริจาคเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
"ราคาตั๋ว"ขึ้นอยู่กับเราจะให้ค่ากับหนังเรื่องนี้แค่ไหน
"คิงเพาเวอร์"ให้การสนับสนุนโครงการนี้เต็มที่
เหมาโรงทั้งในเครือเมเจอร์และเอสเอฟให้คนดูฟรี 700,000 กว่าที่นั่ง
แต่ตอนหลังมีคนบอกว่าถ้าเปิดให้ดูฟรีอย่างเดียว. คนที่อยากดูแต่ขี้เกียจไปลุ้นหน้าโรงว่ามีที่นั่งว่างหรือเปล่าจะไม่ไปดู
เขาก็เลยเปิดขายบัตรตามปกติแต่ราคาถูกเป็นพิเศษ
และเพิ่มช่องทางให้คนที่อยากส่งต่อแรงบันดาลใจบริจาคเงินก้อนหนึ่งเข้ามูลนิธิและเหมาโรงให้นักเรียนหรือคนในบริษัทมาดู
"2,125 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว"เป็นหนังที่น่ารักมากๆครับ
หนังเรื่องนี้พาเราให้ย้อนอดีตกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขอีกครั้งหนึ่ง
เรื่องราวของผู้ชายรูปร่างผอมบางคนหนึ่ง.
บนเวที เขาเป็น"ร็อคสตาร์"อันดับหนึ่งของเมืองไทย
แต่ช่วงเวลานั้น "ตูน"คือ คนที่ทั้ง"บ้า"และ"ดื้อ"กับเกมที่เขากำหนดขึ้นมาเอง
55 วันกับระยะทาง 2,215 กิโลเมตร
ไม่มีการผ่อนปรนอะไรทั้งสิ้น
มีฉากหนึ่งที่ทีมงานบอกให้"ตูน"เลิกแวะถ่ายรูปหรือทักทายกับคนที่ยืนรอตามทาง
แต่"ตูน"บอกว่าเขาทำไม่ได้
ทุกคนอยากเจอเขา
ถ้าเขาวิ่งผ่านไป. ภาพนั้นก็จะยังติดตาเขาอยู่
แล้วจะ"คาใจ"ว่าทำไมไม่ทักทายคนที่รอเจอเขา
นั่นคือ "ตูน"
......
สิ่งที่ผมชอบมากในหนังเรื่องนี้ คือ บทภาพยนตร์
"ไก่"เก่งมาก
เขาเขียนบทจาก"ความจริง"ที่เกิดขึ้น
แต่เสริมแต่งอย่างเหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์พ่อ-แม่ของ"ตูน"ถึงวัยเด็ก
หรือการใช้เส้นเรื่องจากการสัมภาษณ์"กบ"บิ๊กแอส
คนที่แต่งเพลงให้"ตูน"
และเข้าใจ"ตูน"มากที่สุดคนหนึ่ง
เพราะ"ตูน"เป็นคนขี้อายที่จะพูดถึงตัวเองในมุมดีๆ
คำพูดของ"กบ"จึงช่วยทำให้เรารู้จัก"ตูน"มากขึ้น
ในมุมที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
บอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้คมคายขึ้นเพราะคำพูดของ”กบ”
แต่ละประโยคของ"กบ"คมมากครับ
ในหนังเราจะเห็นว่าแท้จริง”ตูน”ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง
ไม่ใช่”ซูเปอร์ฮีโร่”
มีทั้งอารมณ์เกรี้ยวกราด ขว้างของ บนรถบ้าน
ดื้อกับแม่
หรือมุขแป๊กในบางเวลา
แต่”ความยิ่งใหญ่”ของ”ตูน”คือ ขนาดของ”หัวใจ”
คุณเคยดูหนังที่ไม่อยากให้จบไหมครับ
ตอนที่หนังเดินเรื่องมาถึงเชียงราย
เรารู้แล้วว่าหนังกำลังจะจบ
เพราะอีกนิดเดียวก็ถึง”แม่สาย”
ปลายทางของการวิ่งครั้งนี้
แต่เรายังอยากดูต่อ
ไม่อยากให้จบ
แต่ไม่ว่า”ความปรารถนา”ของเราจะเป็นอย่างไร
“ความจริง”ก็คือ”ความจริง”
หนังเรื่องนี้ต้องจบ
เหมือนกับ”ชีวิต”ที่ต้องมีการแยกจาก
ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรกับเรา
ตอบได้เลยครับว่าให้แรงบันดาลใจที่ท่วมท้น
ได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราได้ทำอะไรเพื่อผู้อื่นบ้างหรือยัง
ไม่ต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ระดับชาติเหมือน”ตูน”
เพราะทุกคนมี”ขนาด”ที่เหมาะสมของตัวเอง
ไม่ต้องทำใหญ่เท่าเขา
แต่ให้ทำแบบเขา
ทำเพื่อคนอื่น
มีคนถามผมว่าเขามีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง
จะบริจาคเข้ามูลนิธิทั้งหมดหรือเหมาโรงให้คนในบริษัทหรือนักเรียนได้ดูหนังเรื่องดี
คำแนะนำของผมก็คือ...
“เหมาโรงเถอะครับ”
เพราะผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้เหมือน”น้ำ”และ”ปุ๋ย”ที่จะช่วยให้ต้นไม้”ความดี”ในใจที่ทุกคนมีอยู่เติบโตขึ้น
ถ้าแค่ครึ่งหนึ่งของคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้คิดจะทำเพื่อคนอื่นแบบ"ตูน"
สังคมไทยคงงดงาม
..........
วันที่ดูหนังฝนตกหนักทำให้มีที่นั่งเหลือพอประมาณ
ผมติดนิสัยชอบดูหนังคนเดียวแบบโล่งๆก็เลยเลือกที่นั่งแถวหน้าๆ
เป็นแถวที่ไม่มีคนนั่งเลย
ช่างเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก
เพราะหนังเริ่มไปแค่ 5 นาที.
นัยน์ตาเริ่มมีความเปียกชื้นมาปกคลุม
ถ้ามีคนนั่งติดกัน. ผมจะรักษาฟอร์ม นั่งนิ่งๆ ปล่อยให้น้ำตาเอ่อไปเรื่อยๆ.
ความมืดในโรงหนังมีประโยชน์ตรงนี้
ถ้าเราไม่แสดงอาการ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเรากำลังร้องไห้
ถ้ารำคาญมากก็แกล้งคันตาหลังจากซีนนั้นผ่านไป
แล้วก็พยายามดึงอารมณ์ไม่ให้คล้อยตามหนัง
จะไม่ยอมเสียฟอร์มควักผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเด็ดขาด
แต่วันนี้สบายมากครับ
ทั้งแถวที่นั่ง ไม่มีใครเห็น
ผมควักผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ากางเกงอย่างสง่าผ่าเผยเลย
ถอดแว่น แล้วซับน้ำตา
ก่อนเก็บผ้าเช็ดหน้าเข้ากระเป๋า
ผ่านไปอีกพักหนึ่ง. เฮ้ย...คลออีกแล้ว
เหมือนเดิม
ควักผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา เสร็จแล้วเก็บเข้ากระเป๋า
พอถึงกลางเรื่องเอาอีกแล้ว
ครั้งนี้ผมควักผ้าเช็ดหน้าวางไว้บนตักเลย
ท้า”ไก่”ณัฐพล. ผู้กำกับฯในใจ
รู้แล้วว่าเขาไม่หยุดแน่
เอาเลย”ไก่”... ตามสบาย
"ผ้าเช็ดหน้า"พร้อม
"2,125 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว"ไม่ใช่หนังเศร้า
แต่เป็นหนังที่น่ารักมากๆ
คุณเคยเจอหนังที่น่ารักจนจนน้ำตาคลอเพราะความประทับใจไหมครับ
หนังเรื่องนี้เป็นแบบนั้น
..........
ตอนใกล้จบของ”2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”
มีฉาก”ตูน”บอกกับทีมงานก่อนลงไปวิ่งครั้งสุดท้าย
“จบแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว”
เหมือนจะบอกทีมงานที่เหน็ดเหนื่อยทุกคนว่า”อาทิวราห์ คงมาลัย”จะไม่ทำอะไรบ้าๆแบบนี้อีก
ผมเชื่อว่าฉากนี้”ไก่”คงไม่ได้คิดเอง
แต่ทีมงาน”ก้าว”กดดันผู้กำกับ
ขอให้มีฉากนี้ในหนัง
เพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน
เวลา”ตูน”คิดอะไรบ้าๆขึ้นมาอีก
ทุกคนจะเอาฉากนี้ให้”ตูน”ดู
“สัญญาว่าไง”
เพราะทุกคนรู้ดีว่า”ตูน”คงไม่จบแค่นี้แน่นอน
“เส้นชัย”สำหรับ”ตูน”
มันคือ “การสิ้นสุด”ของสิ่งหนึ่ง
เพื่อจะ”เริ่มต้น”สิ่งใหม่เท่านั้นเอง
เพราะนี่คือ”ความสุข”แท้จริงที่เขาได้ค้นพบแล้ว
Since I watched the movie. This movie is a movie that I dare to recommend everyone.
" Haha. I believe that I'm crazy. I dare to
Not just "nice to watch"
"But.. must watch"
This movie is made from the " One Step " project of " Toon Bodyslam " at the end of the year.
Which became the greatest "phenomenon" of Thailand.
When someone runs from south to the north of Thailand
Before "Toon" starts this project. He went in to talk to "Brother Keng" Jira Mali KUl.
At first he wanted GDH to help cut the foot from the live of running to bang saphan or a movie.
But " Brother Predatory " and " Wan " Wan Rit Dee. Pongsak, GDH's golden producer said that the movie making and live recording is different.
Let's be a new project that "Toon" is about to do.
"Brother Predatory" likes to run anyway.
He has been running with "Toon" in Bang Saphan project.
I have seen the beauty and good power on the side of the road that "Toon" runs.
GDH Pull "Kai" Nathaphon Bunprakkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkk
"Chicken" is studying in New York about documentaries.
He flew right back when he found out this project.
" Kai " and 5 other sisters follow the 2,215 km run of " Toon "
Documentaries like this don't have " screenplay
Because no one knows what will happen all the time 55 today
From that day till today
Over 7 months
All the footage became a great documentary.
" Haha. I believe that I'm crazy. I dare to
..............
I watched this movie last week
Asking for "Brother Predatory" to buy round for all models of ABC students to watch.
Hope to be a good start of donating money according to "Toon" goal.
First episode "Toon" intended to let everyone watch for free.
" Toon " would like to change " ticket " to buy medical equipment for Akaranwamin 8 4 Buddhist Lent of Medicine Siriraj.
"Ticket price" depends on how much we value this movie.
"King Power" supports this project.
Buying both major and SF group for more than 700,000 seats to watch.
But later, someone told me that if I open it for free only. Those who want to watch but lazy to see if there is an empty seat. I won't go to see.
So they are open for sale as usual, but it's cheap.
And add a way to those who want to pass on inspiration to donate money to the foundation and buy a school for students or company.
"Haha. I believe that I dare to step" is a very cute movie.
This movie takes us back to the happy times.
The story of some skinny man.
On stage he is the number one "rock star" in Thailand.
But that moment " Toon " is the one who is " crazy " and " stubborn " with his own game.
55 days and 2,215 km distance
No respite at all
There is a scene where the team told "Toon" to stop by to take photos or say hi to those who are waiting along the way.
But "Toon" says he can't.
Everyone wants to see him
If he runs through. That picture will still be stuck in his eyes
Why don't you say hi to those who wait to see him?
That's "Toon"
......
My favorite thing in this movie is the movie.
"Chicken" is very good
He wrote a script from "truth"
But enhance the proper decoration.
Whether it's an interview for "Toon" to childhood.
Or using the line from the "Kop" interview.
The one who wrote the song for "Toon"
And understand one of the most "Toon"
Because "Toon" is shy to talk about himself in a good corner.
The words of " Kop " help us know more about " Toon "
In a corner we never knew.
I can tell that this movie is sharp because of the words of " frog
Each sentence of "Kop" is very sharp.
In the movie, we will see that "Toon" is an ordinary person.
Not a " superhero
There is a temper, angry, throwing stuff on the car.
Stubborn with mom
Or a joke some time
But the " greatness " of " Toon " is the size of " heart "
Have you ever finished watching a movie that you don't want to finish?
When the movie came to Chiang Rai
We knew the movie was about to end.
Because just a little bit more to "Mae Sai"
Destination of this run
But we still want to continue watching
Don't want to finish
But no matter what our "desire" is.
" Truth " is " truth "
This movie must end
Just like "life" to be separated from
If you ask what this movie gave us
I can answer that it gives overwhelming inspiration.
Have you asked myself what have we done for others?
No need to be a national big thing like "Toon"
Because everyone has their own "size"
No need to do it as big as him
But let's do it like him
Do it for others.
Someone asked me if he had a bar of money
Do you want to donate to all the foundation or buy theaters for people in the company or students to watch movies?
My advice is...
"Let's buy the shed"
Because I believe that this movie is like " water " and " fertilizer " that will help the " goodness " in mind that everyone has growing up.
If only half of the people watched this movie think about doing it for other people like "Toon"
Thai society would be beautiful
..........
Movie day. Heavy rain makes a lot of seats left.
I'm addicted to watching movies alone, so I choose front row seats.
It's a row where there is no one to sit.
What a right decision
Because the movie started for 5 minutes.
Eyes are getting wet.
If someone sits in a row. I will keep the form, sit still, let the tears, uh, go.
Darkness in the theater is useful here.
If we don't show symptoms, nobody knows we're crying.
If you are very annoyed, pretending to be itchy after that scene has passed
Then try to pull the mood from the movie
I won't lose the form to take a handkerchief.
But today is very comfortable.
The whole row of seats, no one can see.
I took the handkerchief out of my pants gracefully.
Taking off my glasses and tears
Before packing handkerchief in the bag
It's been a while. Hey... again
Same same same same as usual
Finished taking the handkerchief and packed it in the bag.
When it comes to the middle of the story again
This time I put my handkerchief on my lap
Challenge "chicken" at cuddle thaphon. Director in mind
I know he won't stop
Go ahead "chicken"... at ease.
"Handkerchief" ready
"Haha. I believe that I dare to step" not a sad movie.
But what a lovely movie
Have you ever met a movie that is so cute that you cry because of the impression?
This movie is like that
..........
Near the end of "Haha. I believe that I dare to step"
There is a scene "Toon" to tell the team before going down to run for the last
"It's done. I won't do it again"
It seems to tell all the tired team that " Sunday, I will never do anything crazy like this.
I believe this scene "chicken" doesn't think about it.
But the team "step" pressures the director.
Let's have this scene in the movie
For proof of confirmation.
When "Toon" thinks more crazy
Everyone will show this scene to "Toon"
" What do you promise
Because everyone knows that "Toon" won't end this for sure.
" finish line " for " Toon "
It's the "ending" of one thing.
To "start" something new
Because this is the true "happiness" he has discovered.Translated
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過247萬的網紅Buron Kanzaki,也在其Youtube影片中提到,►Hi, xin chào mọi người mình là Buron đây! và hôm nay mình sẽ tiếp tục tập tiếp theo của seri FarCry 3. Tập này mình sẽ cùng Sam đi quẫy hết các căn c...
「new team 7 picture」的推薦目錄:
- 關於new team 7 picture 在 Bodyslam Facebook
- 關於new team 7 picture 在 Atichart Chumnanont Facebook
- 關於new team 7 picture 在 中央研究院 Academia Sinica Facebook
- 關於new team 7 picture 在 Buron Kanzaki Youtube
- 關於new team 7 picture 在 20 New team 7 ideas | boruto, anime naruto, boruto and sarada 的評價
- 關於new team 7 picture 在 名人八卦社群討論站- team 7 picture boruto的八卦,PINTEREST 的評價
- 關於new team 7 picture 在 Team7 Picture - YouTube 的評價
new team 7 picture 在 Atichart Chumnanont Facebook 八卦
ทุกอย่างมี 2 ด้านให้เราคิดเสมอ ..ลองอ่านดูนะ เค้าเขียนดี
การช่วยเหลือที่ถ้ำหลวงในครั้งนี้ จริงอยู่เราสูญเสียทรัพยากรมากมาย เพื่อกอบกู้ 13 ชีวิต
แต่ทำไมนะ ผมคิดว่าทุกอย่างที่เราเสียไป มันไม่ใช่เสียเปล่า แต่เราได้อะไรกลับคืนมา มากมายเหลือเกินจากเหตุการณ์นี้
1) ท่ามกลางปัญหา เราได้เห็นว่า ประเทศไทยมีคนที่ความสามารถในการจัดการได้ดี และมีความเป็นผู้นำสูงมาก อย่างท่านผู้ว่าฯเชียงราย เมื่อเกิดเหตุ ท่านวางแผน และจัดการปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นว่า คนที่จะมาถึงตำแหน่งนี้ได้ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
2) เราได้เห็น ความเด็ดขาดของผู้ว่า โดยเฉพาะที่บอกว่า คนที่อยากมาช่วย ใครอยากมาก็มาได้ แต่ต้องมาถกหลักการกันก่อน ว่าสิ่งที่นำเสนอมันทำได้หรือไม่ หรือว่าเป็นไอเดียที่จะถ่วงทีมให้ช้าลง ไม่ใช่ว่าคนที่อยากช่วยจะมีประโยชน์ทั้งหมด ซึ่งผู้มีอำนาจเด็ดขาด ต้องเลือกใช้คนให้ถูก ไม่ใช่รับความช่วยเหลือไปเสียทุกอย่าง
3) แน่นอน ใครๆก็รู้ว่าการค้นหาเด็กให้พบคือสิ่งสำคัญ แต่ ผู้ว่าฉลาดมาก ที่ให้ความสำคัญก่อนกับ "คนที่เข้าไปช่วย" อะไรที่เสี่ยงภัย เช่น ดำน้ำในสภาวะเสี่ยงเกินไป หรือ การเสี่ยงว่ายน้ำโดยมีโอกาสเสี่ยงไฟดูดไฟช็อต ผู้ว่าจะไม่ยอมให้หน่วยซีลลงน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว การช่วยหนึ่งคน ไม่ได้แปลว่าต้องเอาชีวิตของอีกคนเข้าไปแลก
4) เราได้เห็นว่า กลยุทธ์อะไรก็ตาม ต้องมีแผนสำรองอยู่เสมอ ในตอนแรกแผนดั้งเดิม คือให้หน่วยซีล เข้าถ้ำไปเรื่อยๆ เพื่อไปหาทั้ง 13 คนที่ติดถ้ำ แต่สุดท้าย เราก็มีแผนสอง คือตรวจเช็กปล่องด้านบนภูเขา ว่าจะสามารถหย่อนตัว ทะลุถึงถ้ำได้เลยหรือไม่ และแผนสามคือไอเดียการเจาะภูเขา การไปถึงจุดหมาย ไม่จำเป็นต้องมีแผนเดียว แต่การเปิดรับทุกหนทางที่เป็นไปได้ ก็ยิ่งมีโอกาสไปถึงเป้าหมายเร็วขึ้น
5) เราได้รู้จักหน่วยซีล ว่าคืออะไร บางคนไม่รู้เลยว่าที่ไทยก็มีด้วย ได้รู้ว่า SEAL ย่อจาก (SEa - Air - Land) คือหน่วยรบที่ปฏิบัติงานได้ทั้งในทะเล บนอากาศ และภาคพื้นดิน เป็นหน่วยทหารที่มีสภาพร่างกายแข็งแกร่ง ผ่านการฝึกหฤโหด และในยามคับขัน ความยอดเยี่ยมของหน่วยซีล ก็สามารถเป็นประโยชน์กับภารกิจได้
6) เราได้รู้จักภูมิศาสตร์ของประเทศไทยมากขึ้น หลายคนรู้จักถ้ำหลวงเป็นครั้งแรก ได้รู้ว่าขุนน้ำนางนอนอยู่ตรงไหน ได้รู้ว่าเชียงรายก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแบบนี้ด้วย ได้รู้จักคำว่า "ถ้ำ" ในความหมายใหม่ บางถ้ำมันยาวเป็นกิโล และคดเคี้ยวเหมือนเขาวงกต
7) เราได้ความรู้เรื่องการเอาชีวิตรอดมากขึ้น ได้รู้จัก "กฎ 333" ว่าในภาวะใดบ้างที่คุณจะมีชีวิตรอดได้ คือ ขาดอากาศหายใจได้ 3 นาที , ขาดน้ำดื่มได้ 3 วัน , ขาดอาหารได้ 3 สัปดาห์ ถ้ามากกว่านี้ก็จะตาย (แต่แน่นอนนี่เป็นแค่กฎคร่าวๆไม่ได้ใช้ได้กับทุกคน) ได้ความรู้ว่า แม้จะไม่มีอาหาร แต่ร่างกายมนุษย์ สามารถดึงพลังงานสำรองที่สะสมในรูปไขมันมาใช้ได้
8) เราได้เห็นความเสียสละของคนในพื้นที่ ยอมให้สูบน้ำเข้าเทือกสวนไร่นา ทั้งๆที่พวกเขาเริ่มทำกสิกรรมกันแล้ว ไม่มีใครอยากทำให้ตัวเองวุ่นวาย และเสียผลประโยชน์ แต่สุดท้าย เมื่อมันเป็นเรื่องความเป็นความตาย ทุกคนเข้าใจดี ซึ่งนี่คือการเสียสละอย่างแท้จริง
9) เราได้เห็นความสามารถของสื่อมวลชน ในเงื่อนไขที่จำกัด ไม่มีอะไรพร้อมสักอย่าง คุณสามารถนำเสนอให้ สื่อของตัวเองมีความน่าสนใจได้ หรือไม่ คุณมีมุมมองที่เฉียบขาดมากกว่าที่อื่นหรือเปล่า และที่สำคัญ คุณจะเคารพกติกาที่เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ หรือจะกล้าแหกกฎเพื่อได้ข่าวที่เหนือกว่าช่องอื่น
10) เราได้เห็น ทักษะการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีประสิทธิภาพ อย่างทวิตเตอร์ของ Mthai การนำเสนอข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา รวดเร็วฉับไว ไม่ต้องสร้างดราม่า ก็สร้างความนิยมได้เช่นเดียวกัน
11) เราได้รู้ว่า สิ่งที่เราหวัง สิ่งที่เราคิด กับสิ่งที่เกิดขึ้นหน้างาน มันไม่เหมือนกันเลย หลายๆอย่างเราคิดได้ แต่ในสถานการณ์จริงมันทำไม่ได้ มีคนบอกว่า ทำไมเราไม่ห้อยอาหารลอยน้ำไปให้ถึงมือเด็ก มีคนอธิบายว่า เพราะในถ้ำน้ำมันไม่ได้ไหลตรงๆเหมือนแม่น้ำ เอาของลอยน้ำ ก็ไปติดโขดหิน เด็กไม่ได้รับแน่นอน หรือ มีบางคนถามว่าทำไมไม่ระเบิดถ้ำ ก็มีคนอธิบายว่า ระเบิดแล้วถ้าหินถล่มลงมาจนปิดทางเข้าออกทั้งหมดล่ะ แบบนี้เด็กตายเลยไหม เราได้เข้าใจว่า สิ่งที่จินตนาการ มันอาจทำไม่ได้ในชีวิตจริง
12) เราได้รู้ว่า ในสังคมนี้ มีคนอยากเอาหน้ามากมาย บางคน รู้ว่าตัวเองไม่มีทักษะอะไรที่จะช่วยได้ (คือจะบอกว่า มาเป็นกำลังใจ อยู่ตรงไหนก็ส่งใจไปได้จริงไหม) แต่ก็อยากเอาตัวไปให้สื่อได้เห็นว่ามาลงพื้นที่แล้ว ในทางตรงกันข้าม มีคนจำนวนมากยอมทำงานหนักเป็นมดงาน เพื่อให้ภารกิจได้เดินหน้าต่อ แต่คนเหล่านี้ ไม่ได้ต้องการป่าวประกาศใดๆ เขาต้องการผลสำเร็จ ไม่ใช่ชื่อเสียงของตัวเอง
13) เราได้เห็นว่าในประเทศไทย ความเชื่อ กับ วิทยาศาสตร์มันสามารถไปด้วยกันได้อย่างประหลาด ในขณะที่ทีมงานกำลังจะเจาะถ้ำ ก็ยังต้องขออนุญาตจากเจ้าป่าเจ้าเขา หรือขณะที่ เราใช้เทคโนโลยีโดรนที่ล้ำยุคในการช่วยค้นหา แต่อีกด้านเราก็เห็นภาพชาวบ้านกราบไหว้ ครูบาบุญชุ่ม ที่เข้าไปทำพิธีเปิดตา มันเป็นส่วนผสมที่ไม่น่าเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นกับประเทศไทยจริงๆ
14) เราได้เห็นว่า ในยามที่ทุกคนกำลังสับสน ย่อมมีคนหาโอกาสฉวยผลประโยชน์เสมอ คนที่อ้างให้โอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง อ้างขอเงินไปช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำ แบบนี้มีเยอะ คนเสพข่าวสารต้องระวังให้ดี อย่าใจดี จนขาดสติ ต้องเช็กให้รอบคอบ เพราะคนชั่วโลกนี้มันมีเยอะ คนแบบนี้ต้องไม่ตายดีแน่
15) เราได้เห็นว่า ทุกความสามารถมีประโยชน์ ช่างไฟฟ้า นักขุดเจาะน้ำบาดาล ช่างต่อท่อ แพทย์ นักปีนเขา ทหาร นักข่าว พ่อครัว ช่างภาพ ล่าม นักวิทยาศาสตร์ ทีมกู้ภัย นักดำน้ำ นักดนตรี นักธรณีวิทยา ฯลฯ ในยามจำเป็น ทุกคนสามารถใช้ทักษะของตัวเอง เพื่อเป้าหมายสูงสุดร่วมกัน มันแสดงให้เห็นว่า ไม่มีอาชีพไหน เหนือกว่าอาชีพไหน ทุกคนสามารถสร้างสรรค์สังคมได้ในทางของตัวเอง
16) เราได้เห็นคนจินตนาการเยอะเหลือเกิน บางคนบอกว่าเด็กไปพัวพันกับคดียาเสพติด บางคนคิดไปขนาดว่า จริงๆเจอตัวเด็กตั้งนานแล้ว แต่ปล่อยออกมาไม่ได้ เพราะกำลังเคลียร์เรื่องยาเสพติดอยู่ มีทฤษฎีสมคบคิดมากมาย แต่สุดท้ายก็เหมือนอย่างที่ผู้ว่าบอกนั่นแหละ "ขอให้งดใช้จินตนาการ" และอย่างที่ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 บอก "ถ้ำหลวงไม่ใช่พื้นที่สีแดง" คือ การคิดเรื่อยเปื่อย มีโทษมากกว่าประโยชน์นะ
17) เราได้เห็นว่า ในช่วง 3-4 วันแรกของเหตุการณ์ทุกคนยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ทุกอย่างชุลมุนไปหมด แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เริ่มมีระบบระเบียบมากขึ้น รถราที่ใครจะขึ้นไปบนเขาก็ได้ โดนกันไว้ด้านล่าง เจ้าหน้าที่จัดรถโดยสาร รับส่งคนขึ้นลง ทำให้การจราจรไม่ติดขัด ขณะที่ ทีมงานก็มีการซักซ้อมอย่างดี ถ้าหากพบเด็กแล้วจะทำอย่างไร ทุกอย่างมีแบบแผนเป็นระบบ ไม่มั่วซั่ว อย่าดูถูกความสามารถของเจ้าหน้าที่เลย เขาก็พยายามทำทุกอย่างให้ง่ายที่สุดต่อการจัดการล่ะ
18) เราได้เห็น น้ำใจของชาวต่างชาติ บางคนมาช่วยผ่านทางรัฐบาลส่งมา บางคนเดินทางมาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน การที่ท่านแสดงถึงน้ำใจที่มี เราขอคารวะทุกท่าน มา ณ ที่นี้ มันทำให้เห็นอีกด้วยว่า ในยามวิกฤติ ไม่มีกำแพงของเชื้อชาติ
19) เราได้รู้ว่าข่าวสารสมัยนี้ไปเร็วมาก เรื่องเกิดแค่ 1 วัน ทั้งโลกรู้แล้วว่ามีเหตุคนติดถ้ำที่ไทย ซึ่งทำให้คนทั้งโลกจับตาดูอยู่ ทุกๆการกระทำ ทุกๆการตัดสินใจ จะเป็นบทพิสูจน์ให้โลกเห็นเลยว่า ประเทศไทย มีฝีมือแค่ไหน ในการรับมือกับปัญหา
20) หลายคนไปด่าเด็ก ว่าเด็กพวกนี้ไม่ควรได้รับการสรรเสริญอะไรทั้งนั้น เป็นเด็กซน แล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน คือทำไมใจร้อนรีบด่าจัง ยังไม่รู้ที่มาที่ไปอะไรเลยไม่ใช่หรอ ยังไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องเอาตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์นั้น น้ำขึ้นอย่างไร ต้องเอาตัวรอดแบบไหน ไม่มีใครรู้เหตุการณ์จริงๆเลย ได้แต่คาดเดาไปเรื่อย แล้วการที่ไปต่อว่าเด็กๆแบบนั้น มันยุติธรรมหรือ
21) และสมมติว่า เด็กๆผิดจริง ผมอยากให้คิดแบบนี้ครับ ว่าใน 13 คน (แม้จะมีโค้ชอยู่ก็เถอะ) แต่เด็กๆโดยรวม ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 13-16 ปี พวกเขาก็ยังเด็ก ยังไม่มีประสบการณ์ชีวิต ยังทำอะไรไม่ทันคิด ตอนเราเป็นเด็ก เราไม่เคยทำผิดพลาดกันหรอ? เราก็เคยกันทั้งนั้น ผมเชื่อว่าเด็กพวกนี้ เขาเองไม่อยากให้คนอื่นลำบากหรอก เขาแค่ประเมินสถานการณ์ผิดไป ไม่รู้ว่าน้ำมันจะท่วมถ้ำได้ขนาดนั้น ชนิดที่ร้อยวันพันปี ไม่เคยท่วมแบบนี้ ไปมาหลายครั้งก็ไม่เคยเจอท่วม มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้น มันเป็นแจ๊กพ็อตพอดี คือไม่ต้องชมน่ะใช่ ตักเตือนได้ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปด่าเขาเหมือนกัน
22) สิ่งที่แต่ละองค์กรพยายามมอบให้เด็ก อย่างสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ อยากให้ทีมหมูป่า มาดูบอลที่สโมสร และได้โอกาสฝึกกับทีมเยาวชน หรือ สโมสรเชียงราย เตรียมให้ตั๋วดูบอลฟรีตลอดชีวิต มันไม่ใช่การมอบรางวัลให้คนทำผิด แต่มันเป็นการส่งกำลังใจให้ครอบครัวของเด็กต่างหาก ให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนมีแรงใจสู้ต่อว่า เจ้าจงรอดกลับมาเถอะนะ มีสิ่งดีๆรออยู่มากมาย อย่าเพิ่งมาจบชีวิตตอนนี้เลย
23) ใครอยากเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงตาย คุณเอาตั๋วดูบอล มาแลกกับชีวิตทั้งชีวิต เป็นคุณ คุณเอาหรอ มีคนบอกว่า จากนี้ถ้าเด็กคนไหนอยากได้อะไร ก็คงวิ่งไปติดถ้ำ เพื่อให้คนช่วยออกมา แล้วจะได้มีผู้ใหญ่มาให้ของรางวัลมากมาย คือ ก็อยากเห็นเหมือนกัน ว่าใครจะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับของตอบแทนแบบนี้
24) อีกอย่าง ถ้าเด็ก "รอดชีวิต" จริงๆ การที่พวกเขาติดอยู่ในสถานการณ์ลำบากขนาดนี้ แล้วยังประคับประคองสติ จนรอดชีวิตได้ไม่คลุ้มคลั่งไปก่อน มันก็เป็นเรื่องน่าทึ่งนะ น่านั่งพูดคุยกับเขา ว่าในสถานการณ์บีบคั้น เขาคิดอะไร ถึงรอดตายมาได้ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆคนได้เลย
25) รวมถึงเรื่องสภาพร่างกายด้วย ว่าในสภาพที่มีอาหารน้อย น้ำน้อย ทุกอย่างจำกัดหมด พวกเขามีอาการอย่างไรบ้าง และทำอย่างไรถึงรอดชีวิตมาได้ เป็นประสบการณ์ใหม่ ที่อนาคตถ้ามีคนโชคร้ายเจอเรื่องแบบนี้อีก จะได้พอมีแนวทางว่าต้องทำอย่างไร
26) ในครั้งนี้ ประเทศไทยแลกอะไรไปหลายอย่าง เงินทอง กำลังกาย ทรัพยากร แม้แต่ธรรมชาติ ป่าเขาอยู่ของมันดีๆ ก็จำเป็นต้องถูกตัดไม้ ระเบิดหิน เพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยเหลือทุกคนให้รอดปลอดภัย เราเสียอะไรไปเยอะมากจริงๆ
27) แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ก็มากมายเช่นกัน กับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นครั้งแรก ได้ประสบการณ์ ได้ความรู้ ได้อุทาหรณ์ ได้เห็นมุมมองจากคนทุกสาขาอาชีพ และได้เห็นคนทั้งประเทศรวมใจกันเป็นหนึ่ง
28) และเด็กๆ ถ้ารอดมาได้ พวกเขาจะได้รับรู้แน่นอนว่า คนทั้งชาติต้องแลกกับอะไรมาบ้าง เพื่อให้เขามีชีวิตต่อไป เขาจะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทอีกเลยต่อจากนี้ และทั้ง 13 คน ก็จะกลายเป็นอนาคตของประเทศชาติเราต่อไปในทางใดทางหนึ่ง
29) ที่สำคัญที่สุดอีกข้อคือ เรื่องนี้จะเป็นข้อเตือนใจให้วัยรุ่น และเยาวชนของชาติคนอื่นๆ ให้คิดอ่านอะไรให้รอบคอบมากขึ้น และต้องตระหนักเลยว่า ต้องมีสติให้มาก เพราะเวลาเกิดเรื่องขึ้นมา ไม่ใช่แค่ตัวเองที่ลำบาก พ่อแม่ก็เป็นห่วง แถมคนอีกมากมาย ต้องมาลำบากเพื่อตัวเอง
30) แน่นอน ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แทนที่จะหัวเสีย ไปโมโหว่า "มันไม่ควรเกิดขึ้นแต่แรก" หรือ "ทำไมเด็กไม่อ่านป้ายคำเตือน" ก็ยอมรับความจริงตรงๆไหมว่ามันเกิดขึ้นแล้ว และ ย้อนคิดดีกว่า ว่าเราจะเก็บเกี่ยวอะไรได้บ้างจากเหตุการณ์นี้
จริงไหม?
ขอให้ผู้ช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ และผู้ประสบภัยทุกคนปลอดภัย
#ถ้ำหลวง #ทีมหมูป่า #HOPE
The help at tham luang is true. We lost a lot of resources to save 13 lives.
But why? I think everything we lost is not a waste, but we get so much back from this incident.
1) in the midst of problems, we have seen that Thailand has a very high leadership ability to manage and leadership like governor of Chiang Rai. When he quickly planned and manage the problem quickly, it shows that the person who will arrive at this position did not come because Lucky help
2) we have seen the truth of the governor, especially saying that those who want to help. Whoever wants to come, but we have to discuss the principle whether the presentation can do or is the idea to slow down the team, not that the one. If you want to help, it will be useful. All the authority must choose to use the right person, not receive all help.
3) of course, everyone knows that finding children is important, but the governor is very smart to focus on "people who help" something that is dangerous, such as diving in too risky or swimming with a chance to risk of sucking fire. Lot Gov won't let navy seal get into the water, which is right. Helping one doesn't mean taking another person's life in exchange.
4) we have seen that whatever strategy must always have a backup plan. The Original plan is to let navy seals keep going to go to the cave to the cave. But in the end, we have a second plan is to check the crater on top. Whether it can be able to go through the cave. And plan three is the idea of drilling mountains. Reaching the destination doesn't have to have one plan, but opening every possible way, the faster the chance to reach the goal.
5) we have known navy seal what it is. Some people don't know that Thailand also know that seal squat from (Sea-Air-land) is a force that works both in the sea, on air and ground as a military unit. Strong body condition through brutal training and in trouble, the superb of navy seal can benefit the mission.
6) we have known the geography of Thailand more. Many people know tham luang for the first time. We know where the nobleman is sleeping. Know that Chiang Rai also has interesting attractions like this. Know the word "Cave" in some new meaning. The Cave is a kilo long and crooked like a labyrinth.
7) we know more about survival. Know "Rule 333" what condition you can survive is lack of air for 3 minutes, lack of drinking water for 3 days, lack of food. 3 weeks. If more, I will die (but of course, this is just a sketchy rule. It doesn't work for everyone). I have knowledge that even without food, the human body can pull back up energy accumulated in fat.
8) We have seen the sacrifice of local people who allow to smoke water into the field. Even when they start doing karma, no one wants to mess themselves and lose benefit. But in the end, when it's death, everyone understands. Is truly a sacrifice.
9) we have seen the ability of the press in limited terms. Nothing is ready. Can you present to your media interesting? Do you have more sharp views than other places and most importantly, will you respect the rules that the authorities set? I will dare to break the rules to hear above other channels.
10) we have seen effective social networks skills like mthai twitter. Presenting facts, fast, fast, no need to create drama, it can create popularity as well.
11) we know that what we hope, what we think about what happens in front of the event is different. Many things we can think of. But in real situations, we can't do it. Someone says why we don't hang food to float water. A child's hand, someone explained that because in the cave, the oil doesn't flow straight like a river, put the floating stuff, then the water is stuck in the rock. The kid didn't get it for sure. Someone asked why they didn't explode the cave, someone explained that it exploded if All like this. Do kids die? We understand that what I imagine may not be done in real life.
12) we know that there are many people who want to face in this society. Some people know that they don't have any skills to help. (well, I want to say that I'm rooting for you can send my heart. is it true) but I want to give myself to I see that I have come to the area. On the contrary, there are many people who are willing to work hard as an ant to keep the mission to move on. But these people don't want any announcement. They want success,
13) we have seen that in Thailand, faith and science can go together freak together. While the team is about to penetrate the cave, we still need to ask permission from the forest or while we use great drone technology to help find our other side. I saw a picture of villagers paying respect to teacher ba bunchum who went to do an eye opening ceremony. It was an unbelievable combination, but it really happened
14) we have seen that when everyone is confused, there are always a chance to take advantage of those who claim to transfer money to their account claim to help 13 lives in the cave like this. There are many people who use news. Be careful. Don't be kind. I have to check it carefully because there are many people in this world. There are many people like this will not die.
15) we have seen that every ability is useful, electrician, groundwater driller, pipeline, doctor, hiker, soldier, journalist, photographer, photographer, rescue team, rescue team, musician, musician, geologists, etc. Everyone can use their own skills. For a common goal, it shows that no career surpasses any career. Everyone can create society in their own way.
16) we have seen a lot of imaginary people. Some people say that kids are involved in drug cases. Some people think that they have found the kid for a long time, but they can't let it out because they are clearing drugs. There are many conspiracy theories, but What the governor said, " Let's stop using imagination " and as the deputy commander of Phu Thon Police, part 5 says, " Tham Luang is not red area " is to think random. There is more punishable than
17) we saw that during the first 3-4 days of the incident, everyone still couldn't catch the beginning. Everything was commotion. But after that everything started to have more organized system. The car that anyone could go up on the hill got hit below the staff. Bus shuttle people up and down makes traffic from getting stuck while the team has a good practice. If they meet the kid, what to do? Everything has a pattern. Don't underestimate the ability of the officer. He tries to do everything as easy to manage.
18) we have seen the kindness of some foreigners to help through the government. Some people come by themselves. No matter what you show the kindness that we salute everyone here, it makes you see that in crisis, there is no wall of race.
19) we have known that news nowadays is going fast. It's happened for only 1 days. The whole world knows that there is a reason for people in the cave in Thailand which makes the whole world to watch every action, every decision will prove to the world. How skillful is Thailand to deal with problems
20) many people say that these kids should not be praised. They are naughty kids and hurt others. Why are they are you so impatient? Don't know what dobt. Don't they don't know why they have to put himself down. In that situation, how to survive. No one knows the real incident. But keep guessing. is it fair to blame kids like that?
21) and assuming that kids are wrong, I want you to think that in 13 people (even with coaches) but most kids are between 13-16 years old. They are young and have no life experience yet. I couldn't do anything when we were kids. Didn't we ever make mistakes? We used to each other. I believe these kids don't want other people to be difficult. They just underestimate the wrong situation. I didn't know that the oil could flood that much. The kind of a hundred days and a thousand years. I have never been flooded like this many times The mistake that no one knew would happen is jackpot. It's not to watch. Yes, I can warn, but there is no need to scold him either.
22) what each organization is trying to give to kids like scg muangthong club. Want the wild boar team to watch football at the club and get a chance to train with youth team or Chiang Rai Club. Prepare for free football tickets for the rest of their life. It's not to reward the wrong person, but it is sending encouragement to the family of children. Let all parents have energy. Keep fighting. Come back. There are many good things waiting. Don't end your life now.
23) who wants to risk your life? You take tickets to watch football for your whole life. Do you want it? Someone said that if any kid wants anything, they will run into the cave so that people can help out so that there will be adults. Come to give many rewards. I want to see who will risk their lives with this kind of return.
24) by the way, if kids really "survive" they are stuck in this difficult situation and still hold their mind until they survive. It's amazing. It's amazing to sit and talk to him that in the situation. Squeezed him. What did he think to survive? It should be an inspiration to many others.
25) including physical condition, in a condition with less food, everything is limited. How do they have symptoms and how to survive. It's a new experience in the future. If someone is unlucky, there will be a way to have a way to be a way. How to do it?
26) in this time, Thailand exchanged many things, money, body, resources, resources, even nature, the forest is good things need to be cut, stone exploded to increase the chances of helping everyone safe. We have lost a lot.
27) but there are many things we have learned from this. with the first disaster, experience, knowledge, see the perspective from every career field and see the whole country together as one.
28) and children, if they survive, they will surely know what the whole nation has to exchange for him to live. He will live careless. from now on, and all 13 of them will become the future of our nation. Next in some way
29) the most important thing is that this will be a reminder for teenagers and youth of other nations to think. Read more carefully and you need to realize that you need to be very conscious because when things happen, not just yourself that are difficult, parents are worried. Plus many people have to be tough for themselves.
30) of course no one wants this incident. But when it happens, instead of being angry that " it shouldn't happen in the beginning " or " why don't kids read the warning signs " accept the truth that it happened and Better think about what we can reap from this event
Is it true?
May all helpers, staff and victims be safe.
#ถ้ำหลวง #ทีมหมูป่า #HOPETranslated
new team 7 picture 在 中央研究院 Academia Sinica Facebook 八卦
🚭不抽菸怎還會得肺癌?
肺癌是全球癌症死亡的主因,即使藥物治療近年有長足的進展,5年存活率仍低於20%,目前仍是國人癌症死亡頭號殺手😱
‼本院最新研究:臺灣有一半以上的肺癌病患並不吸菸,超過 9 成得肺癌的女性也都不抽菸,與 #體內酵素突變 大有關係,而且近十年有年輕化的趨勢,研究成果發表在🌏國際期刊《細胞》《Cell》上,並榮登本期封面‼
_______________________________
本院化學所陳玉如特聘研究員、臺大醫學院內科教授楊泮池(本院院士)與跨單位研究團隊以 #蛋白基因體技術 建立東亞第一套結合深度多體學大數據及完整臨床資料,深度解析 #不吸菸肺癌患者 可能的致病機制,研究有三個重要發現⭐⭐⭐
#發現一
✅肺癌與人體內酵素APOBEC 突變特徵的高低有關
罹肺癌患者中,74%從未吸菸年輕女性(小於60歲)和所有無肺癌表皮生長因子受體(EGFR) 突變的女性患者的APOBEC突變特徵程度較高,可能為女性早期肺癌的驅動因素,可能成為早期診斷和免疫治療的潛在生物標誌物。
#發現二
✅與生活中致癌物有關
暴露於致癌物(吸菸、毒化物、油煙、防腐劑、空汙、金屬化合物等)也會引起基因突變,其中年長女性(大於70歲)突變程度較高。化學致癌物代謝和解毒過程及特定途徑的活化可能影響腫瘤癌化、惡化和免疫調節異常。不過確切致癌物分子有待未來進一步研究鑑定。
#發現三
✅發現新亞型肺癌,透過惡性特徵發現早期罹癌患者
臺灣肺癌患者在EGFR基因上會發生Del19和L858R二種突變,若發生L858R突變,存活率較低。此次將肺腺癌分為五個亞型,其中有一個從未被發現的「類晚期」亞型的早期肺癌。此亞型可區分二種突變的的 #惡性特徵 差異。因此,臨床醫師未來有機會可藉判斷有無此類惡性特徵,發現早期肺癌患者,提供密集觀察和選擇適合佐劑加以治療。
此次成果為臺美合作「癌症登月計畫」的重要里程碑,是美國臨床蛋白基因體學腫瘤分析聯盟(CPTAC)#首次 和國際聯盟團隊(臺灣)攜手合作發表研究成果。透過跨國族群癌症病人的大數據分享及比較,可更精確探討亞洲非抽菸族群致癌機制、檢測及治療的線索,加速癌症精準醫療的實現。除中研院之外,由臺灣大學、臺北醫學大學、臺中榮總提供病人檢體、臨床數據及檢測技術等。研究經費主要來自科技部、中研院及臺灣大學。
#中研院 #化學所 #陳玉如 #癌症登月計畫
#東亞第一套解析不抽菸肺腺癌之多體學大數據
#肺癌 #蛋白基因體 #APOBEC #Cell #封面
🔺論文全文:https://reurl.cc/626v1y
🔺更多細節:https://www.sinica.edu.tw/ch/news/6591
____________________________________
Two new studies released July 9th, 2020 in Cell unravel the biology of lung adenocarcinoma (LUAD) using a suite of molecular techniques that, combined, provide a more complete picture of the disease than ever before. Using a diverse cohort of smokers and non-smokers, male and female, from around the world, researchers from the Clinical Proteomic Tumor Analysis Consortium (CPTAC) and the International Cancer Proteogenome Consortium (ICPC) draw out a clearer understanding of LUAD tumor progression, identify biomarkers, and propose alternative therapeutic targets.
Although strongly associated with smoking, significant populations of never-smokers also develop lung cancer. While never-smokers account for approximately 20% of lung cancer patients in the United States, in Taiwan more than 50% of patients are never-smokers, and many with early onset of the disease. The high number of East Asian LUAD never-smokers presented an opportunity for the ICPC-Taiwan team, led by Drs. Yu-Ju Chen and Pan-Chyr Yang with colleagues from Academia Sinica, National Taiwan University, Taipei Medical University, Taiwan and The Institute of Cancer Research, UK, to take a closer look at the mechanisms of this disease in 103 East Asian patients with a focus on early stage.
🔺More: https://reurl.cc/0o3aAA
#lungadenocarcinoma #LUAD #CPTAC #ICPC #AcademiaSinica #AS #Lungcancer
new team 7 picture 在 Buron Kanzaki Youtube 的評價
►Hi, xin chào mọi người mình là Buron đây! và hôm nay mình sẽ tiếp tục tập tiếp theo của seri FarCry 3. Tập này mình sẽ cùng Sam đi quẫy hết các căn cứ của tên Hoyt và điều đặc biệt là đã sắp đến hồi kết của Far Cry 3 rồi đó các bạn ơi ! Chúc các bạn xem video vui vẻ !
Subscribe ủng hộ các thành viên team Oops Club khác:
► Oops Banana: http://bit.ly/OB-Subscribe
► Nấm Gumball: http://bit.ly/OB-NamGumBall
► Oops Zeroes: http://bit.ly/OB-GBGamez
► Oops OverHeat: http://bit.ly/OB-OopsOverHeat
► Oops Hades: http://bit.ly/OB-PlayMCQui
► Mua Game giá rẻ tại: https://www.g2a.com/r/buronkanzaki
Danh sách những Playlist!
---------------------------------------------------------
► Minecraft Hardcore Survival BuronCraft: http://bit.ly/2dnxp2g
► Minecraft Stranded Survival: http://bit.ly/2dXcJRu
► Minecraft Review maps: http://bit.ly/2djrzDS
►Tham gia group Minecraft Oops Banana Server - IP: mc.oopsbanana.com
►Theo dõi những mạng xã hội của mình.
---------------------------------------------------------
► Facebook: https://www.facebook.com/buronfanpage
Cám ơn các bạn đã theo dõi! Đừng quên xếp hạng cho video này.
Nếu các bạn thấy thích thì nhớ like và subscribe cho chanel của mình, tốt hơn nữa thì hãy share và đó cũng là nguồn động lực để mình tiếp tục ra video mới !
new team 7 picture 在 Team7 Picture - YouTube 的八卦
This Is the official channel of Team7 Picture.Team7 Picture believes in bringing world close together through its music, so all the music lovers who believe ... ... <看更多>
new team 7 picture 在 20 New team 7 ideas | boruto, anime naruto, boruto and sarada 的八卦
Sep 7, 2020 - Explore Kaitlyn Myers's board "New team 7" on Pinterest. ... Mitsusara shippers with pictures - Pic16. More information. Naruto Sasuke Sakura. ... <看更多>