สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านเมื่อเช้าครับ :)
1
ทันทีที่อ่านบทสัมภาษณ์พี่โน้ต-อุดม แต้พานิชใน The Cloud จบลง ผมก็ส่งข้อความไปหาพี่โน้ตทันทีว่าอ่านแล้วชอบมาก
ที่ชอบเพราะหลายคำตอบในนั้นทำให้เห็น "คำตอบ" ที่มาพร้อม "ความอาวุโส" ของชีวิต
พูดถึง "ความอาวุโส" นี้ผมไม่คิดว่าเกี่ยวกับ "อายุ" หากเกี่ยวกับความรู้สึก "อยู่มานาน" ซึ่งแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ตามทฤษฎีด้านเวลา-หากชีวิตใครผ่านเหตุการณ์หรือประสบการณ์มามากจะรู้สึกว่าตัวเอง "ผ่านเวลา" มานานกว่าคนที่มีเหตุการณ์ในชีวิตน้อยกว่า
ชีวิตที่ "eventful" จึง "อาวุโส"
นอกจากนั้นผมยังแอบคิดอีกว่าการแบกรับภาระของ "ความดัง" ไว้บนบ่าก็ทำให้คนเรา "อาวุโส" ได้เช่นกัน เชื่อว่าน้องๆ BNK48 ทั้งหลายเมื่อผ่านไปสามปีก็จะมีความ "อาวุโส" ในหัวใจมากกว่าคนวัยเดียวกันทั่วๆ ไป
"อาวุโส" จึงไม่เท่ากับ "ชรา"
แต่อาจนำมาซึ่งความเข้าใจชีวิต
...
2
“แต่ก่อนผมไม่ค่อยระวังตัว ถ้าเป็นช่วง 30 เราพรั่งพรูออกไปแล้วเดี๋ยวเกิดอะไรก็เรื่องของมึง ทั้งที่ผมไม่ต้องพูดประโยคนั้นก็ได้ ไม่ต้องมีใครเดือดร้อน ตอนนี้ผมพยายามเลือกคำ มีความใจเขาใจเราอยู่”
นี่เป็นหนึ่งคำตอบธรรมดาๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่าง "วัยห่าม" กับ "วัยนิ่ง"
"ศูนย์กลาง" เปลี่ยนไปจากตัวเองไปอยู่ที่คนอื่น การก่นด่าโลกเปลี่ยนไปเป็นการทำงานกับตัวเองภายใน
...
3
ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับไวชวนปวดหัว หลายอาชีพล้มหายตายจาก โอกาสเหมือนมีให้ไขว่คว้าเต็มไปหมด แต่คว้ามาแล้วไม่นานก็หลุดมือไปอีก เจอคู่แข่งใหม่ๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็น พี่โน้ตพบคำตอบของตัวเองว่า "ให้ทำเรื่องเล็กๆ อยู่ในที่เล็กๆ ของเราก็สามารถอยู่ได้"
เขายกตัวอย่าง "จิโร่" คุณลุงนักทำซูชิระดับเทพ ที่ทำซูชิเสียจนกลายเป็น "ศิลปะ" ผู้คนรอต่อคิวเป็นเดือนๆ ขายในราคาที่แพงกว่าซูชิทั่วไป
ส่วนตัวแล้วผมสนใจคำว่า "เล็กๆ" ที่ออกจากปากของคนระดับซูเปอร์สตาร์ ผมเดาว่าแต่ก่อนพี่โน้ตน่าจะเคยรู้สึกว่า "เดี่ยว" ของเขานั้นไม่ใช่งานเล็ก กระทั่งอาจมีบางช่วงวัยที่อยากขยายตัวเองให้ครอบคลุมพื้นที่ออกไปให้มากที่สุด
แต่ในโลกที่ขยายตัวออกทุกวินาที พี่โน้ตกลับเห็นสิ่งที่ตัวเองทำเป็นเพียง "เรื่องเล็กๆ" ซึ่งอยู่ใน "ที่เล็กๆ ของเรา"
...
4
คำว่า "ที่เล็กๆ ของเรา" ก็สำคัญ ในโลกทุกวันนี้เราต้องหา "ที่แห่งนั้น" ให้เจอ ซึ่งจะว่าไปอาจไม่ควรใช้คำว่า "หา" แต่ควรใช้คำว่า "สร้าง" ที่แห่งนั้นขึ้นมาเสียมากกว่า
ไม่ได้ "สร้าง" แบบเร่งรีบ ขอไปที แต่สร้างแบบพิถีพิถัน ค่อยเป็นค่อยไป ประณีตบรรจง ใส่ใจ ทุ่มเท แล้ว "ที่เล็กๆ ของเรา" จะค่อยๆ เกิดขึ้นมา และเปิดโอกาสให้เราได้หยัดยืนบนผืนโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง
พี่โน้ตตอบข้อความกลับมาว่า "ผมเพิ่งเข้าไปอ่านบทสัมภาษณ์ของพี่บอยโกซึ่งอยู่ถัดจากบทสัมภาษณ์ของผม สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือว่าคล้ายคลึงกันในความคิดความรู้สึกอย่างมาก มันน่าจะเป็นเช่นนี้ใช่ไหมสำหรับคนอายุ 50"
ผมคลิกตามเข้าไปอ่านบทสัมภาษณ์พี่บอยใน The Cloud ซึ่งพูดถึงการละวางจากชื่อเสียง ความไม่เที่ยงของมัน แต่สิ่งที่คล้ายกันกับคำตอบของพี่โน้ตมากก็คือความรู้สึกอยากทำงานไปจนตาย ถึงขั้นพูดว่า "ตอนตายต้องตายในห้องอัด หรือกำลังทำเพลงแล้วก็หัวใจวายตาย พีกดี ถ้าเป็นแบบนี้สำหรับเรามันเป็น Happy Ending"
ขณะที่พี่โน้ตพูดถึงการทำงานว่าไม่ได้ทำเพื่อให้คนมายกย่องว่าสุดยอด ไม่ได้เปรียบเทียบกับตัวเองในครั้งที่ผ่านๆ มา แต่ทำเพื่อ "ดำเนินต่อไป" ทำเพราะรักที่จะทำ และกระบวนการที่เอาใจใส่ในการพูดการซ้อมเพื่อให้ได้ "ซูชิ" ที่ดีที่สุดนี่เองที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย
อีกจุดที่น่าสนใจคือ เนื้อแท้ของการทำงานนั้นไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแบบเดิมแล้ว แต่ทำเพื่อคนอื่น ตั้งใจทำเพื่อให้คนอื่นมีความสุข คล้ายกับพี่บอยโกที่อยากเขียนเพลงเพื่อชโลมหัวใจคน เมื่อทำงานด้วยทัศนคติแบบนี้ "ความเจ๋ง" ก็เป็นเรื่องเล็ก และ "น้ำหนัก" ของการเปรียบเทียบทั้งกับตัวเองและคนอื่นที่แบกไว้บนบ่าก็เบาลงทันที
เรา "คราฟต์" ผลงานของเราเพื่อรอยยิ้มของคนที่ได้สัมผัสผลงานนั้น
...
5
เมื่อคราฟต์ผลงาน ชีวิตเราจะคราฟต์ตามไปด้วย ประณีตตามไปด้วย เราไม่ได้ทำทุกสิ่งที่ทำได้ แต่เราจะทำเฉพาะสิ่งที่รักและตั้งใจทำให้ดีที่สุด
ชีวิตเช่นนี้ย่อม "คัดสรร" สิ่งที่เห็นแล้วว่ามีคุณค่าของตัวเองและคนอื่น มิใช่ทำทุกอย่างที่โอกาสเปิดกว้างให้ทำ
ไม่พยายามยืดแขนขาออกไปครอบครองอาณาจักรใหญ่โต แต่เข้มข้นที่สุด บรรจงที่สุดกับ "ที่เล็กๆ ของเรา" และตั้งใจทำ "สิ่งเล็กๆ" นั้นให้ดีที่สุด แล้ววันหนึ่ง "สิ่งเล็กๆ" นั้นจะผลิดอกออกผลทำให้เราอยู่ได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การตั้งใจทำ "หนึ่งสิ่ง" ให้ดีสุดฝีมือนั้นทำให้ทุกวันมีความหมายมากกว่าการทำ "ทุกสิ่ง" แล้วความสนใจ พลังงาน ความสามารถกระจัดกระจายเสียจนสัมผัสไม่ได้ถึงคุณค่าของสิ่งนั้นและคุณค่าของตัวเอง
เมื่อตั้งใจทำงาน เราจะรู้สึกทันทีว่าตัวเรามีคุณค่า
เมื่อทำแบบผ่านๆ ไป ขอไปที เราจะรู้สึกว่าชีวิตช่างไร้ความหมาย
...
6
ในหนังสือ "ฮารูกิ มูราคามิ ไปพบ ฮายาโอะ คาวาอิ" มีประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ นั่นคือเรื่อง "คอมมิตเมนต์" หรือการทุ่มเทตน
คุณคาวาอิบอกว่า คนหนุ่มสาวเดี๋ยวนี้จะรู้สึกว่าสภาพ "ดีแทชเมนต์" (การไม่ยึดโยงเข้ากับอะไร/อิสรภาพ) เป็นเรื่องที่คูลและเท่ ส่วนมูราคามิบอกว่า เขาให้ความสำคัญกับคอมมิตเมนต์มากขึ้นเรื่อยๆ
ผมตั้งข้อสังเกตเอาเองว่า ด้วยความเร็วของเทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสารล้นทะลักเช่นนี้ ผู้คน "จ่มตัวเอง" ลงไปในสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เราหลงใหลคลั่งไคล้และให้เวลาด่ำดิ่งลงไปในสิ่งที่รัก สิ่งที่มุ่งมาดปรารถนากันอย่างยาวนานน้อยลงเรื่อยๆ ทำสิ่งหนึ่งได้แป๊บหนึ่งเดี๋ยวก็เปลี่ยนไปทำอีกอย่างหนึ่งแล้ว หรือไม่ก็ทำงานชิ้นเล็กๆ แบบรวดเร็วให้จบไปในแต่ละวัน จึงยากมากที่จะมีโอกาสได้สร้างสรรค์งานที่ประณีตบรรจงซึ่งต้องอาศัยการ "คอมมิต" ตัวเองกับสิ่งนั้นอย่างจ่มจ่อเนิ่นนาน
การที่เราทำงานแบบ "ผ่านไปวันๆ" นี่เองที่ทำให้เรารู้สึกว่างเปล่ากับชีวิต ความคิดอยาก "ดีแทช" ตัวเองจากทุกอย่างนี่เองที่ทำให้เรา "เหงา"
ชีวิตที่มีความหมายคือชีวิตที่ปักหลัก จมจ่อ ใส่ใจ ขัดเกลา ทำเกินร้อย สร้างงานที่ทำอยู่ให้เป็น "งานคราฟต์" ไม่ว่างานนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม
แทนที่จะใฝ่หา "อิสระ" ทางการงานหรือการเงิน สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายกลับกลายเป็นการ "ผูกมัด" ตัวเองเข้ากับสิ่งที่เราเห็นว่ามีคุณค่าต่างหาก
แทนที่จะคิดถึงการ "ลาออก" สิ่งที่ทำให้ชีวิตเบิกบานอาจเป็นการ "ทุ่มเท" ให้งานที่ทำอยู่กลายเป็นสิ่งที่มีความหมายในชีวิตให้จงได้
...
7
กระนั้นคุณคาวาอิก็แนะนำว่า "คนเราควรใช้ชีวิตไปกับสิ่งที่สำคัญที่สุดของตน...อัตลักษณ์จะปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างมีชีวิตไป"
สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วยทางเลือกเช่นทุกวันนี้คือการตัด คัดทิ้ง และคอมมิตเฉพาะสิ่งที่สำคัญ
บังเอิญเหลือเกินที่หนังสือ "อิคิไก" ของเคน โมงิ ก็ยกตัวอย่างเรื่องซูชิของคุณลุงจิโร่ เริ่มเล็กๆ จดจ่อกับสิ่งนั้น ปั้นมันให้เป็นคราฟต์ ไปให้ไกลกว่าที่ตลาดต้องการ ทำให้มีคุณภาพยิ่งกว่าที่จำเป็น แล้วงานนั้นจะค่อยๆ พาเราเข้าไปอยู่ในภาวะลื่นไหล แล้วเราจะอยากตื่นขึ้นมาทำงานนั้น
"งานเล็กๆ" ใน "ที่เล็กๆ ของเรา"
คุณลุงจิโร่ก็พูดคล้ายพี่บอยโกว่า จะขอตายตอนปั้นซูชินี่แหละ
...
8
ชีวิตของผมเองตอนนี้ตัดเหลือสามสิ่งสำคัญ หนึ่งคือร่างกาย สองคือการงาน สามคือความสัมพันธ์
ร่างกาย-ผมคอมมิตกับตัวเองว่าจะวิ่งมาราธอนเป็นระยะ ทำให้ต้องซ้อมอย่างต่อเนื่อง อยากวิ่งให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และพยายามจะ "คราฟต์" การวิ่งให้ค่อยๆ สวยงามขึ้นในแง่สถิติทั้งหลาย
การงาน-หลังจากเปลี่ยนวิธีการ ตัดการงานเล็กน้อยออกไป ใช้เวลาเขียนหนังสือเล่มหนาๆ ผมพบว่าตัวเองมีพลัง มีภาวะลื่นไหล และมีสมาธิกับงานแบบนี้อย่างมาก ที่สำคัญกว่านั้นผมรู้สึกมีความสุขกับงานที่ทำ และชอบผลงานที่สำเร็จออกมามากกว่าตอนทำงานชิ้นเล็กๆ ที่มีปริมาณมากแต่คุณภาพอาจไม่เข้มข้น
ความสัมพันธ์-เมื่อคัดสรรงานและกิจกรรมให้เหลือแต่สิ่งสำคัญ เวลาที่มากขึ้นจึงมอบให้คนใกล้ชิดและมิตรสหายได้มากขึ้น ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีย่อมทำให้ชีวิตมีพลังไปดูแลร่างกายและสร้างสรรค์ผลงานต่อไป
ช่วงสองปีที่ผ่านมา ผมได้เรียนรู้ว่า ชีวิตที่ดีนั้นไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร กระทั่งเปรียบเทียบกับตัวเองในอดีต งานที่ดีคืองานที่เราพร้อมทุ่มเท จดจ่อ และอยากพัฒนาให้มันดีที่สุด จะทำแบบนั้นได้ต้องปล่อยมือจากงานที่ "อยากทำ" แต่ไม่ "อยากที่สุด" เสียบ้าง การทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่องจะทำให้เรารู้สึกอยากตื่นขึ้นมาเพื่อ "ขัดเกลา" สิ่งนั้นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ใช่แหละ, เราอาจยังทำได้ไม่ดีที่สุดในตอนต้น เหมือนการวิ่งที่ยังไม่ดีนัก แต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ เราจะค่อยๆ เห็นผลในการงานที่ทำ ขอเพียงแค่อย่ารีบปล่อยมือจากมัน
"งานเล็กๆ" ในสายตาคนอื่น อาจมีคุณค่ามากสำหรับชีวิตเรา เพราะมันจะค่อยๆ ถางทางให้เกิด "ที่เล็กๆ ของเรา" ขึ้นมาได้
เราไม่ได้ต้องการคนทั้งโลกหรือทั้งประเทศ หรือมากมายอะไรเพื่อทำให้การงานที่เรารักนั้นดำเนินต่อไปได้ เราต้องการแค่ "จำนวนหนึ่ง" ซึ่งมากพอ
"จำนวนหนึ่ง" ที่ต่อแถวรอเข้าร้านซูชิร้านเล็กๆ ของเรา
แต่สิ่งนั้นมิได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน มันอาศัยการยืนระยะ กัดไม่ปล่อย และทำสุดหัวใจและฝีมือ จนกว่าจะได้ "ซูชิ" ที่อร่อยที่สุด
แต่มันคุ้มที่จะ "คอมมิต" กับอะไรสักอย่าง เพราะชีวิตที่ไม่คอมมิตกับอะไรอย่างจริงจังนั้นช่างว่างเปล่าและไร้ความหมาย
หาสิ่งที่จะประณีตกับมัน ทำสุดหัวใจ
แล้วชีวิตเราจะมีความหมาย
แล้วชีวิตจะกลายเป็น "ศิลปะ" ในตัวมันเอง
1
As soon as I read the interview, brother note-udomtae panich in the cloud ended, I sent a message to brother note that I like it very much.
I like it because many answers in it makes me see the " answer " that comes with " Seniority " of life.
Speaking of this " Seniority " I don't think it's about " age " if it's about feeling " for a long time " that each person has not equal in theory - if someone's life has been through many events or experiences, you will feel like they are " through time " With less life events
" eventful " life is " Senior "
Besides, I secretly think that carrying the burden of " famous " on my shoulder can also make people " Senior " too. I believe that bnk48 sisters, there will be more " Senior " in the heart than the same age.
" Senior " is not equal to " old age "
But may bring understanding life
...
2
"before I wasn't careful. If it's 30, we were out. Whatever happens, it's your business. Even if I don't have to say that sentence. No one needs to be in trouble. Now I'm trying to choose a word to have his heart."
This is one normal answer that shows the change between " age " and " young age
"Center" has changed from yourself to other people. Cursing the world has changed to work with yourself within.
...
3
In the midst of a world that changes quickly, many careers fall away from opportunities. It seems like there are plenty of them. But I have snatched it. Soon, I found a new rival. I see brother note found his answer, " to do small things in Our small place can live "
For example, " Jiro " Uncle, a great sushi maker who made sushi to become " Art people have been waiting for months to sell at more expensive than normal sushi.
Personally, I am interested in the word " small " that comes out of superstar's mouth. I guess brother note should have felt that his " solo " is not a small job, even some ages that I want to extend himself to cover. Space out as much as possible
But in a world that expands every second, brother note sees what he does is just " small things " that are in our " small place "
...
4
The Word " our small place " is important in the world. Nowadays, we need to find " that place " that we should not use the word " find " but we should use the word " build " place to lose.
I don't " build " in a hustle, but it's a meticulously, gradually, delicately. We are dedicated. " our little place " will slowly happen and open the opportunity for us to stand on a world full of change.
Brother note replied, " I just read brother boy ko's interview next to my interview. The surprise thing is that it's very similar in my thoughts. It should be like this for a 50 year old
I clicked to read the interview of brother boy in the cloud, which talks about his reputation, but the similar thing with brother note's answer is that I want to work until he said " when I die, I die in the room. Recording or making music and having a heart attack. If it's like this for me, it's happy ending "
While brother note talks about working that he didn't do it to make people say that it's awesome. It doesn't compare to himself in the past time, but he does it to " continue " do it because he loves to do it and the best " process of speaking rehearsal to get the best " Sushi " that makes it Life has meaning
Another interesting point is that the real texture of work is not doing it for yourself, but do it for others. Focus on doing it to make others happy. Similar to brother boy who wants to write a song to help people's heart when working with this kind of attitude " cool " it's a small thing and the " weight " of comparing both myself and others who carry on the shoulder is lighter immediately.
We "Craft" our work for the smile of those who have touched that work.
...
5
When craft our life will craft followed by exquisite. We do not do everything we can, but we will do only what we love and focus on doing our best.
Life like this will "choose" what you see that you have value for yourself and others, not doing everything that you have an open opportunity to do.
Not trying to stretch out limbs to possess the biggest kingdom, but the most intense with " our little place " and focus on doing our best " small things " and one day " small things " will be bloomed to make us live.
More importantly, it is to do your best " one thing " makes every day more meaningful than doing " everything " and attention, energy, ability is scattered that you can't feel the value of that and your own value.
When we focus on working, we will immediately feel that we are valuable.
When I do it through, please ask for it. I will feel that life is meaningless.
...
6
In the book " Haruki Murami to meet hayao kawai there is one point about it. is " commissioned " or dedication.
Mr. Kawaii said that young people will now feel "Dtachmentum" (Non-connected to anything / freedom) is cool and cool. Murami says he values the commissions. More and more and more.
I have noticed that with the speed of technology and information overflow like this, people "dipping themselves" into something. We are passionate, crazy and give time to go down to what they love what you are focused. Let's wish for less and less. Do one thing. You will change. Do another thing or work quickly. Each day. It's very difficult to have a chance to create exquisite work that requires " commit. " myself with that for a long time.
The way we work like " through day " makes us feel empty with our life. I want to " Dtash " from everything that makes us " lonely "
A meaningful life is a life that settles down, purify, do more than a hundred. Create a "Craft" whatever the work is.
Instead of seeking " freedom " in work or finance, what makes life meaningful becomes " binding " to what we see valuable.
Instead of thinking about " quitting " what makes life cheerful, it may be " dedicated " to the work that you do become meaningful in life.
...
7
Mr. Kawaii also suggested that " people should live with their most important things... identity will become clearer while living...
What is absolutely necessary in a world full of choices such as these days is to cut off and commissions only what matters.
It's a coincidence that keni's "Ikikai" book. For example, Uncle Jiro's sushi started small. Focus on it into a craft further than the market wants to make it even more quality than necessary. And that job will slowly take us into slippery and we will want to wake up to that job
" small job " in our " little place "
Uncle Jiro said it's like brother boy ko that he would want to die when she made sushi.
...
8
My life is now cut down to three important things. One is the body. Two is work. Three is relationship.
My body - I commissioned myself that I would run a marathon periodically. I have to practice continuously. I want to run better and try to "Craft" running slowly getting more beautiful in terms of statistics.
Work - after changing the way to cut off a little work out to write a thick book, I found myself powerful, fluidity and focused on this kind of work. More importantly, I feel happy with the work and prefer the work done more than working. Small pieces with large quantities but quality may not be intense.
Relationships - when selecting jobs and activities are important, more time gives more people closer and friends. Good relationships make life powerful to take care of your body and create the work.
In the past two years, I have learned that a good life doesn't have to compare to anyone. Even compare to myself in the past. Good work is a job that we are ready to focus on and want to develop the best. We can do that. We have to let go of the work that I want to do " but I don't want to do the most doing this continuously will make us feel like waking up to " purify " that thing better.
Yes, we may not do our best at the beginning. It's like a bad run. But if we keep doing it, we will gradually see the result in the work that we do. Just don't rush to let go of it.
" small work " in other people's eyes may be very valuable for our lives because it will slowly squatter the way to " our small place "
We don't need the whole world or the whole country or anything to make our loved work continue. We only need "a number" which is enough.
"a number" in line waiting to enter our little sushi shop
But that doesn't happen overnight. It lives standing, biting, not letting go and doing all my heart and skill until the most delicious "Sushi"
But it's worth "commissioned" with something because life that doesn't commissioned with anything seriously is empty and meaningless.
Find something to be exquisite with it. Do with all my heart.
And our lives will have meaning.
Then life will become "Art" in itself.Translated
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過361萬的網紅Dan Lok,也在其Youtube影片中提到,What is Pak Sao in Bruce Lee's JKD? Translated, pak sao means "slapping hand". However, pak doesn't really slap, at all. In reality, the technique of ...
「center of life meaning」的推薦目錄:
center of life meaning 在 Firdaus Wong Wai Hung Facebook 八卦
PENDEDAHAN: Bukti Usaha Dakyah Untuk Memurtadkan Pelajar Kita [Siri 3]
Dr Yoo Chong Young adalah penggerak utama ajaran Unification Church di Malaysia. Beliau sudah bertapak lebih 11 tahun di Malaysia semata-mata untuk menyebarluaskan ajaran ketuanya Sun Myung Moon atau dikenali Father Moon.
Di dalam pendedahan siri ini akan mengetegahkan apa yang berlaku sebenarnya disebalik penglibatan mereka di dalam badan-badan kerajaan dan NGO di Malaysia. Ada dua situasi, pertama adalah mendedahkan apa yang berlaku di Korea Selatan bersama dengan pelajar Malaysia dan kedua adalah pendedahan ucapan misionari Unification Church di Malaysia.
Apa Yang Berlaku Di Korea Selatan?
Seperti disebut di dalam siri yang lepas, terdapat satu program yang telah berlansung di Universiti-Universiti tempatan iaitu program Students for Peace Leadership Conference. Program ini digerakkan oleh sebuah badan besar di bawah agama Unification Church iaitu Women’s Federation for World Peace (WFWP). Antara Universiti yang telah menjadi sasaran program ini adalah Universiti Malaysia Terengganu pada 30 April 2018, Universiti Putra Malaysia pada 10 Mac 2018, Universiti Sains Malaysia pada 6 Oktober 2018. Dan mungkin akan ada lagi susulannya memandangkan mereka mensasarkan 13 Universiti di Malaysia.
Salah satu carannya adalah di dalam program tersebut, Women’s Federation for World Peace (WFWP) akan memberi anugerah ‘Youth Ambassadors for Peace’ kepada mana-mana pimpinan mahasiswa atau mahasiswi dari lain-lain Universiti di Malaysia dan pelajar yang mendapat anugerah itu, dia boleh mengajak beberapa orang rakan yang lain untuk menghadiri program “Student Leadership Conference & Exploring Korean Development and Culture Tour”. Yang mana program tersebut akan diadakan di Korea Selatan (dan akan dibuat juga di Hawaii). Peserta hanya perlu menyediakan pembelanjaan tiket penerbangan sahaja manakala yang lain-lain akan ditanggung oleh Women’s Federation for World Peace (WFWP).
Antara pelajar Universiti yang terlibat di dalam program ke Korea Selatan adalah dari Universiti Malaysia Terengganu (UMT), Universiti Islam Antarabangsa Malaysia (UIAM), Universiti Sains Islam Malaysia (USIM), Universiti Malaya (UM), Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM), Universiti Teknologi Mara (UiTM) dan Universiti Selangor (UNISEL).
Program itu berlangsung selama seminggu bermula 30 Julai sehingga 5 Ogos 2018 bertempat di YongPyeong Ski Resort, Korea Selatan. Apa yang berlaku selama seminggu itu adalah:
1) Pelajar-pelajar didedahkan tentang ideologi Father Moon dan Unification Church.
2) Pelajar-pelajar dipaparkan video dan testimoni pimpinan seluruh dunia mengenai Father Moon.
3) Pelajar diberikan buku pendakyahan Unification Church tulisan Dr Yoo Chong Young sendiri bertajuk True Parents and World Peace.
4) Pelajar didedahkan tentang Mass Weeding dan idealogi Unification Church berkenaan perkahwinan dan juga kekeluargaan.
5) Pelajar didoktrinkan supaya “mengagungkan” Father Moon sehingga ketika saat sebelum makan juga pelajar diajar untuk menyebut “Father Moon” bagi menggantikan “Cheers”.
6) Pelajar disuruh mengangkat ikrar dan bersumpah untuk mengiktiraf Father Moon dan Mother Moon sebagai Heavenly Parent dan menunaikan 3 Great Blessing. Pada waktu itu berlaku ketegangan kerana ramai yang protes untuk melakukannya.
7) Pelajar Malaysia dibawa ke Istana Unification Church bernama Cheon Jeong Gung Peace Museum and Meeting Center yang berada di pendalam di atas bukit. Istana berwarna putih itu digelarkan sebagai “Vatican of the East”. Pelajar dilarang membawa sebarang kamera atau telifon pintar ke dalam istana tersebut. Di dalam istana tersebut terdapat barang peninggalan Father Moon seperti baju, kasut, paparan legasi sepanjang hidupnya dan sebagainya.
8) Semasa berada di Istana tersebut pelajar disuruh untuk melakukan upacara tunduk hormat pada sebuah tempat yang dianggap suci oleh Unification Church dan ada pelajar muslim juga terlibat.
9) Pelajar juga ditawarkan untuk membawa balik kitab suci Unification Church itu “Divine Principle”.
Semua pendedahan ini kami memiliki bukti berbentuk gambar, video dan juga saksi dari peserta yang telah menghadiri program tersebut. Perkara ini jelas menunjukkan bahawa agenda mereka adalah untuk merekrut keahlian dari pelajar-pelajar Malaysia untuk menerima agama Unification Church. Memandangkan mereka tahu jika hal ini dilakukan di Malaysia maka mereka melanggar Perlembagaan Malaysia perkara 11 (4) iaitu:
“Perlembagaan Persekutuan memperuntukkan undang-undang negeri dan berkenaan dengan Wilayah-Wilayah Persekutuan Kuala Lumpur, Labuan dan Putrajaya, undang-undang persekutuan boleh mengawal atau menyekat pengembangan apa-apa doktrin atau kepercayaan agama dalam kalangan orang yang menganuti agama Islam”
Oleh itu, mereka memilih untuk menghantar pelajar Malaysia ke Korea Selatan untuk mengelak dari terikat dengan peraturan tersebut untuk mendoktrin agama mereka kepada pelajar-pelajar Malaysia.
Apa Dakyah Unification Church Di Malaysia?
Di bahagian ini pula akan mendedahkan teks dan juga program yang telah diusahakan oleh agama Unification Church di Malaysia. Hal ini jelas bercanggah dengan Perlembagaan Malaysia dan juga enakmen Ugama Bukan Islam (Kawalan Pengembangan Di Kalangan Orang Islam) Negeri.
1) Ucapan Dr Yoo Chong Young di program Students for Peace Leadership Conference yang diadakan di Universiti Putra Malaysia, pada 10 Mac 2018, yang dihadiri oleh majoriti pelajar Muslim. Ucapan ini diambil daripada buku tulisan beliau sendiri di dalam buku True Parents And World Peace:[1]
a) Beliau membawa cerita berkenaan petanda bahawa Father Moon adalah Sang Penyelamat di zaman sekarang berdasarkan kisah Sir Anthony Brooke yang sanggup ke Korea Selatan untuk mencari Sun Myung Moon:
“Fifty-three years ago, Anthony Brooke received a revelation from above when he was half awake and half asleep. God told him in the vision of the night: A living saint, the Peace Messiah has appeared in the land of the Rising Sun in a Far-Eastern country. Then, on 24 March 1964, he went to Korea”
Sebelum Anthony Brooke tiba di Korea, dikatakan beliau beranggapan kehadiran sang penyelamat di “land of the rising sun in a far eastern country” di dalam mimpi itu adalah Jepun lalu beliau ke Jepun. Selama di Jepun dikatakan beliau tidak menemukan seorang pun pendeta yang dimaksudkan itu sehinggalah seorang Professor di Eh Hwa Women University menulis surat kepada Anthony Brooke bahawa tanah matahari terbit itu bukan Jepun tetapi Korea. Lalu Dr Yoo memetik ayat Bible:
“May I refer to Revelation 7:2 “I saw another angel ascending from the east, having the seal of the living God”
Berdasarkan ayat ini, seolah-oleh menunjukkan bahawa Father Moon itu merupakan ‘malaikat’ dari timur itu. Walhal sambungan kepada ayat itu berbicara konteks yang sangat berbeza.
Mimpi tersebut menjadi tanda aras kepada Dr Yoo bahawa ia sedang merujuk kepada Father Moon di Korea. Dan beliau menyambung:
“Finally, after meeting Father Moon in Seoul in a shabby humble house at Chung Pa Dong, Anthony Brooke testified Father Moon as the Peace Saint, Peace Messiah and King of Peace. Anthony Brooke said: “I had seen Father Moon’s face in my vision”. Fortunately, I (Dr. Yoo) also heard his testimony at that time.”
Setelah itu Dr Yoo menekankan dengan ingin melogikkan bahawa benar mimpi itu adalah dari Tuhan sehingga membawa Anthony Brooke sampai ke Korea untuk bertemu dengan sang penyelamat baru.
b) Dr Yoo juga menjelaskan bahawa salah satu misi Father Moon (Unification Church) adalah untuk membangkitkan tamadun baru yang aman dikenali sebagai Pacific Rim Era. Yang mana ia adalah tamadun yang dikuasai oleh lingkaran Pacific bermula Santiago (Chile) ke Las Vegas (US) ke Anchorage (Alaska) ke Jepun ke Korea ke Malaysia dan ke Wellington (New Zealand). Beliau berucap:
“Long ago, Father Moon foresaw the pattern of how human culture will be developing during the different eras. Therefore, he declared, “With the rise of the Pasific Rim Era, a new civilization of peace is beginning!” It is Father Moon’s ferevent desire that all of us living around the Pasific Rim can unite and play a more active role in bringing about peace and harmony to our world.”
“I would like to encourage all of you, Ambassadors for Peace here in Malaysia to work together to bring about peace and true family culture in our world!”
“I believe UPM will be another volcano and starting point of Peace for Malaysia and the World. Could you please wake up from the deep sleep? Open your spiritual eyes and then you will see the new world.”
Sememangnya antara kawasan lingkaran Pasific ini menjadi fokus bertapak kukuhnya gerakkan keagamaan ini. Di tengah-tengah pula terletakknya kepulauan Hawaii dan disitu juga merupakan kawasan yang sangat aktif mereka melakukan dakyah. Malah ahli parlimen Malaysia juga pernah dihantar oleh Universal Peace Federation untuk menghadiri persidangan di sana.[2] Selain itu, ada ura-ura mereka juga merancang akan membuat program Leadership Conference bersama dengan Mahasiswa Malaysia di Hawaii yang akan digunakan pelajar Malaysia yang telah menghadiri di Korea pada awal Ogos lalu untuk menguruskan program di Hawaii.
Dr Yoo melabelkan sesiapa yang melibatkan diri ke dalam misi Unification ini dengan gelaran Ambassadors of Peace agar dilihat lebih harmoni.
2) Ucapan dari anak Sun Myung Moon iaitu Dr. Hyun Jin Preston Moon dalam program Global Peace Convention pada 5-8 Disember, 2013, di Hotel Shangri-la, Kuala Lumpur. Beliau merupakan pengasas kepada Global Peace Foundation dan di Malaysia juga memiliki cawangannya di Petaling Jaya. Ucapan beliau bertema “Unity in Diversity: Building Social Cohesion for Sustainable Peace through Universal Aspirations, Principles, and Values”. Program ini dihadiri oleh ahli perniagaan, pimpinan negara, dan ahli akedemik dalam dan luar negara.[3] Ada beberapa perkara yang beliau sebut:
“We all aspire to establish peace on earth, to recognize the value of human life, to recognize the importance of individual responsibility in living according to the laws of nature and heaven and of the individual conscience in guiding us to do so, and to realize that we are truly ONE FAMILY UNDER GOD”
“I believe that vision is the simple yet profound idea that all people, regardless of race, nationality, religion, or culture, are members of ONE FAMILY UNDER GOD.”
“You have all gathered here because you share the hope of a peaceful world rooted in the vision of ONE FAMILY UNDER GOD.”
“Let us determine that it is not they who will determine the future, but it is us that share this common vision to build ONE FAMILY UNDER GOD, to put our mark in this very crucial moment in human history, and shape the future of humanity.”
“This is a solemn moment. But I cannot leave without giving a challenge. This is a big, big challenge that I am proposing here today: Will you become owners of the dream of ONE FAMILY UNDER GOD and make it a living reality for future generations? If you do, please stand up.”
“I want to share with you a Korean word: “Aju”. My father (Sun Myung Moon) explained that this word has tremendous meaning to it, because it means that “I will take ownership over it,” not somebody else. “Peace will start with me. I will be the peacemaker.” So could we say together, “Aju!”? [Aju!] Louder, could we say, together, “Aju!”? [Aju!]
“Will you be owners of the dream of ONE FAMILY UNDER GOD and carry this message and the large mantle that is present before us to the world as the true peacemakers of this century? Will you do that? Yes or no? [Aju!]”
Konsep One Family Under God ini merupakan konsep di dalam Unification Church. Ia dikenali sebagai legasi terakhir Sun Myung Moon. Ia dibahaskan di dalam laman sesawang mereka di bawah tajuk “One Family Under God Is Dr. Sun Myung Moon’s Lasting Legacy” ada menyebut bahawa Father Moon itu adalah bapa rohani bagi semua, semua adalah anak-anaknya, dan semua adalah satu keluarga.[4]
Ini kerana menurut akidah Unification Church, Father Moon dan Mother Moon adalah Ibubapa Syurgawi (Heavenly Parent) dan mereka itu Ibubapa sejati (True Parent) jelmaan Adam dan Hawa yang ketiga di dunia. Oleh itu mereka mengajak untuk menerima konsep fahaman mereka supaya berada di dalam satu keluarga yang dinaungi oleh Father Moon dan Mother Moon di bawah ‘tuhan Father Moon’. Malah pengikut Unification Church ada menulis buku bertajuk One Family Under God: The Life of Sun Myung Moon.
Agenda yang dibawa oleh Dr Hyun Jin Moon ini secara terang mempromosi idea ini kepada rakyat Malaysia. Malah di sebuah halaman di Facebook bernama Dr. Hyun Jin Preston Moon terdapat posting pada 29 Mac 2012 sekeping gambar Dr Hyun Jin Moon bersama dengan pelajar-pelajar Malaysia dari pelbagai bangsa termasuk Melayu, Cina dan India dan dipercayai program tersebut diadakan di Kuala Lumpur. Status tersebut menulis “Dr. Hyun Jin Moon speaking to 2,000 students from 10 universities and colleges in Malaysia.” Dan semua pelajar memakai baju bertulis “One Family Under God Aju!”[5]
Kebanyakkan aktiviti yang dilakukan mereka ini sememangnya menuju kepada pendakyahan kepada agama Unification Church. Sebenarnya masih banyak lagi program mereka yang berjalan setiap bulan.
Jika dilihat kepada hasil daripada kesemua kes di atas ini, ternyata mereka telah melanggar Undang-Undang Malaysia iaitu Perlembagaan Malaysia Perkara 11 (4) dan juga Enakmen Ugama Bukan Islam (Kawalan Pengembangan Di Kalangan Orang Islam) Negeri Selangor (1988) di bawah:
Seksyen 5. Kesalahan mendedahkan orang belum dewasa berugama Islam kepada pengaruh ugama bukan Islam.
Seksyen 6. Kesalahan mendekati orang Islam untuk mendedahkannya kepada apa-apa ucapan atau pertunjukan sesuatu mengenai ugama bukan Islam.
Seksyen 7. Kesalahan menghantar atau menyerahkan terbitan-terbitan mengenai apa-apa ugama bukan Islam kepada orang berugama Islam.
Selain itu masih banyak lagi program yang melibatkan agama Unification Church yang ada maklumat bersama kami. Ramai pihak yang tidak sedar tentang kehadiran mereka dan juga usaha mereka untuk melebarkan sayap di Malaysia. Faktor-faktor itu sudah kami bincangkan di dalam artikel sebelum ini (Siri 2).
Kesimpulan
Masyarakat Malaysia hendaklah sedar dan peka akan kehadiran agama baru yang makin halus melebarkan dakyahnya di Malaysia. Unification Church ini jelas adalah sebuah agama baru yang membina ketaksuban kepada pengikut mereka sebagai nabi baru. Mereka memiliki dana yang sangat besar dalam mengerakkan program dan usaha pendakyahan di seluruh dunia.
Untuk mengetahui apa ajaran yang dibawa dan bagaimana ia tiba di Malaysia baca di:
Siri 1:https://bit.ly/2IbN5KJ
Siri 2: https://www.facebook.com/FirdausWongMRM/posts/1899256933518617?__tn__=K-R
Nota akhir:
____________________________
[1] http://familyfedihq.org/2018/03/malaysia-students-for-peace-leadership-conference/
[2] http://www.upf.org/peace-education-and-human-development/peace-education-reports/6140-malaysian-parliamentarians-attend-conference-in-hawaii
[3] https://www.hyunjinmoon.com/dr-moon-calls-cooperation-among-faiths-secure-lasting-peace-2/?fbclid=IwAR2WDN5poXoavTHkxBukKq4VcfEXx0_sPN-nnVTKg-WrAz5OERod07dBBZM
[4] http://www.upf.org/peace-education-and-human-development/peace-education-reports/4696-one-family-under-god-is-dr-sun-myung-moons-lasting-legacy
[5] https://www.facebook.com/hyunjinpmoon/photos/a.375720979117850/375720982451183/?type=3&theater
R&D Team Multiracial Reverted Muslims
center of life meaning 在 蔡正元 Facebook 八卦
川普總統就職演說全文
(英文+中譯對照)
編譯宋凌蘭∕綜合20日電
世界日報
川普總統就職演說的全文如下:
Chief Justice Roberts, President Carter, President Clinton, President Bush, President Obama, fellow Americans and people of the world, thank you.
羅伯茲首席大法官、卡特總統、柯林頓總統、布希總統、歐巴馬總統、美國同胞和世界人民,謝謝。
We, the citizens of America, are now joined in a great national effort to rebuild our country and restore its promise for all of our people.
我們,美國人民,現在加入重建我國,恢復對所有人承諾的一項偉大全國努力。
Together, we will determine the course of America and the world for many, many years to come. We will face challenges, we will confront hardships, but we will get the job done.
團結一致,我們將決定美國和世界未來多年的路線。我們將面臨挑戰,我們將面對困難,但是我們將完成任務。
Every four years, we gather on these steps to carry out the orderly and peaceful transfer of power, and we are grateful to President Obama and First Lady Michelle Obama for their gracious aid throughout this transition. They have been magnificent. Thank you.
每隔四年,我們聚集在此進行井然有序、平和的政權轉移,我們感謝歐巴馬總統和第一夫人米雪兒在過度期間的親切協助。他們太棒了,謝謝。
Today's ceremony, however, has very special meaning because today, we are not merely transferring power from one administration to another or from one party to another, but we are transferring power from Washington, D.C. and giving it back to you, the people.
但是,今天的儀式有特別的意義,因為今天我們不僅只是政府把權力交給下一任政府,或是一個政黨交給另一政黨,而是從華府把權力交回給你們,就是人民。
For too long, a small group in our nation's capital has reaped the rewards of government while the people have borne the cost. Washington flourished, but the people did not share in its wealth. Politicians prospered, but the jobs left and the factories closed. The establishment protected itself, but not the citizens of our country. Their victories have not been your victories. Their triumphs have not been your triumphs. And while they celebrated in our nation's capital, there was little to celebrate for struggling families all across our land.
有太久的時間,一小群人在國家首都獲得政府獎勵,人民卻承受代價。華府欣欣向榮,但是人民卻未共享財富。政客平步青雲,但是工作離開,工廠關閉。既有體制自我保護,卻不保護我國的人民。他們的勝利不是你們的勝利。他們在國家首都慶祝時,全國各地陷入困境的家庭,沒什麼好慶祝。
That all changes starting right here and right now because this moment is your moment, it belongs to you.
所有這些情況,從現在開始改變,因為這個時刻是你們的時刻,屬於你們。
It belongs to everyone gathered here today and everyone watching all across America. This is your day. This is your celebration. And this, the United States of America,is your country.
這個時刻屬於今天在此聚集的每個人,以及美國各地的所有觀眾。這是你們的日子,這是你們的慶祝,美利堅合眾國是你們的國家。
What truly matters is not which party controls our government, but whether our government is controlled by the people.
真正重要的不是哪個政黨控制政府,而是我們政府是否由人民控制。
January 20th, 2017 will be remembered as the day the people became the rulers of this nation again. The forgotten men and women of our country will be forgotten no longer.
2017年1月20日,將被紀念為人民再度成為這個國家統治者的一天。我國被遺忘的男女,將不再被遺忘。
Everyone is listening to you now. You came by the tens of millions to become part of a historic movement, the likes of which the world has never seen before.
每個人都在聽你們,幾百萬人來此以成為歷史性運動的一部分,這個運動將是世界從未見過的。
At the center of this movement is a crucial conviction, that a nation exists to serve its citizens.Americans want great schools for their children, safe neighborhoods for their families, and good jobs for themselves. These are just and reasonable demands of righteous people and a righteous public.
這個運動的中心,是一項關鍵確信,那就是一個國家存在是為了服務人民。美國人想要子女上好學校,家庭住在安全社區,自己有好工作。這些是人民理所當然的合理要求。
But for too many of our citizens, a different reality exists: mothers and children trapped in poverty in our inner cities; rusted out factories scattered like tombstones across the landscape of our nation; an education system flush with cash, but which leaves our young and beautiful students deprived of all knowledge; and the crime and the gangs and the drugs that have stolen too many lives and robbed our country of so much unrealized potential.
但是對我們太多人而言,卻存在一個不同現實:母親和孩子被困在城市貧民區的貧窮,荒廢的工廠像墓碑一樣散布在全國各地,教育系統現金多多,卻讓我們年輕可愛的學生學不到知識,犯罪、幫派和毒品奪走太多人的生命,也搶走我國未能發揮的潛力。
This American carnage stops right here and stops right now.
這場美國大屠殺現在就停止。
We are one nation and their pain is our pain.Their dreams are our dreams. And their success will be our success. We share one heart, one home, and one glorious destiny. The oath of office I take today is an oath of allegiance to all Americans.
我們是同一國,他們的痛苦是我們的痛苦,他們的夢想是的夢想,他們的成功將是我們的成功。我們有同一個心,同一個家,同一個光榮的命運。我今天宣誓的就職誓詞,是效忠所有美國人的誓詞。
For many decades, we've enriched foreign industry at the expense of American industry; subsidized the armies of other countries, while allowing for the very sad depletion of our military. We've defended other nations' borders while refusing to defend our own.
數十年來,我們犧牲美國工業,讓外國工業致富,補助他國的軍隊,卻讓我國軍隊令人難過的耗減,我們捍衛別國的邊界,卻拒絕捍衛我們自己的邊界。
And spent trillions and trillions of dollars overseas while America's infrastructure has fallen into disrepair and decay. We've made other countries rich, while the wealth, strength and confidence of our country has dissipated over the horizon.
在海外不斷花巨款,卻讓美國的基礎設施衰退凋零。我們幫助其他國家變富有,但是美國的財富、力量和信心卻逐漸消散。
One by one, the factories shuttered and left our shores, with not even a thought about the millions and millions of American workers that were left behind. The wealth of our middle class has been ripped from their homes and then redistributed all across the world.
工廠一個接一個關,離開美國,根本未考慮成千上萬的美國工人失業。中產階級的財富從他們家中被奪走,然後重新在全世界分配。
But that is the past. And now, we are looking only to the future.
但這是過去。現在,我們只瞻望未來。
We assembled here today are issuing a new decree to be heard in every city, in every foreign capital, and in every hall of power。
我們今天聚集在此發出一條新法令,要讓每個都市、每個外國首都和每個權力殿堂都聽見。
From this day forward, a new vision will govern our land. From this day forward, it's going to be only America first, America first.
從今天開始,新的願景將會治理我們的土地。從此刻開始,將只是美國優先,美國優先。
Every decision on trade, on taxes, on immigration, on foreign affairs will be made to benefit American workers and American families. We must protect our borders from the ravages of other countries making our products, stealing our companies and destroying our jobs.
在貿易、稅制、移民、外交事務的每項決定,將以惠及美國勞工和美國家庭為目的。我們必須保護我們的邊界,以免其他國家破壞,製造我們產品、竊取我們的公司、以及消滅我們的工作。
Protection will lead to great prosperity and strength. I will fight for you with every breath in my body and I will never ever let you down. America will start winning again, winning like never before. We will bring back our jobs. We will bring back our borders. We will bring back our wealth. And we will bring back our dreams.
保護將會帶來偉大的繁榮和力量。我將會竭力為你們奮戰,我永遠不會讓你們失望。美國將會開始再度勝利,且是以前從未曾有過的勝利。我們將會拿回我們的工作,我們將會恢復我們的邊界,我們將會拿回我們的財富,我們將找回我們的夢想。
We will build new roads and highways and bridges and airports and tunnels and railways all across our wonderful nation. We will get our people off of welfare and back to work, rebuilding our country with American hands and American labor.
我們將會建設新的道路、高速公路、橋樑、機場、隧道,以及遍及我們這個美好國家的鐵路。我們要我們的人民脫離福利,重新工作,用美國人的雙手和勞力,重建我們的國家。
We will follow two simple rules; buy American and hire American.We will seek friendship and goodwill with the nations of the world, but we do so with the understanding that it is the right of all nations to put their own interests first. We do not seek to impose our way of life on anyone,but rather to let it shine as an example. We will shine for everyone to follow.
我們將會遵循兩個簡單的法則:購買美國貨和僱用美國人。我們將會尋求世界各國的友誼和善意,但我們此舉,是基於理解把本身利益置於優先,是所有國家的權利。我們不尋求把我們的生活方式加諸於每個人身上,而是要讓此作為典範發揚光大,以讓所有人效法。
We will reinforce old alliances and form new ones and unite the civilized world against radical Islamic terrorism, which we will eradicate from the face of the Earth. At the bedrock of our politics will be a total allegiance to the United States of America, and through our loyalty to our country, we will rediscover our loyalty to each other. When you open your heart to patriotism, there is no room for prejudice.
我們將加強原有的聯盟,並組成新的聯盟,同時團結文明世界以對抗激進伊斯蘭恐怖主義,我們將會把他們從地球完全消滅。我們政治的基本原則將是完全效忠美國,以及透過我們對國家的忠誠,重新發現我們對彼此的忠誠。在你們開啟愛國之心後,偏見將無地自容。
The bible tells us how good and pleasant it is when God's people live together in unity. We must speak our minds openly, debate our disagreements honestly,but always pursue solidarity. When America is united, America is totally unstoppable.
聖經告訴我們,當上帝的子民和睦同居,是何等的善、何等的美。我們必須坦誠發言,誠實地辯論歧見,但永遠追求團結,當美國團結一致,無人能擋。
There should be no fear. We are protected and we will always be protected.We will be protected by the great men and women of our military and law enforcement. And most importantly, we will be protected by God.
我們應當無所懼怕。我們受到保護,而且我們一直將受到保護。我們得到我們國家偉大的男女軍人及執法界的保護,更重要的是,我們受到上帝的保護。
Finally, we must think big and dream even bigger. In America, we understand that a nation is only living as long as it is striving. We will no longer accept politicians who are all talk and no action, constantly complaining, but never doing anything about it. The time for empty talk is over. Now arrives the hour of action.
最後,我們應思考做大事,有更大的夢想。在美國,我們瞭解一個國家只有生氣蓬勃的成長,才能生存。我們不再接受只有空談而不做事的政治人物,他們不斷地抱怨,卻從未見到他們拿出行動來。空談的時代已經過去了,現在是拿出行動的時候了。
Do not allow anyone to tell you that it cannot be done. No challenge can match the heart and fight and spirit of America. We will not fail. Our country will thrive and prosper again.
別讓任何人告訴那是辦不到的事。對有熱情,肯奮戰與有鬥志的美國人來說,沒有任何挑戰是太困難的。我們不會失敗,我們國家將再度蓬勃繁榮。
We stand at the birth of a new millennium, ready to unlock the mysteries of space, to free the earth from the miseries of disease, and to harness the energies, industries and technologies of tomorrow. A new national pride will stir ourselves, lift our sights and heal our divisions.
我們站在一個千禧世代興起之初,準備解開太空神祕的時代,解放地球受到疾病之苦的時代,並且將運用未來能源、工業與技術的時代。新的國家榮譽將激勵我們,提高我們的眼界,治癒我們的分裂
It's time to remember that old wisdom our soldiers will never forget, that whether we are black or brown or white,we all bleed the same red blood of patriots.We all enjoy the same glorious freedoms and we all salute the same great American flag.
我們應該記取我們士兵永誌不忘的座右銘,那就是不論我們是黑色、是棕色或白色皮膚,我們所流的都是相同的愛國熱血,我們享有的是相同的崇高自由,我們致敬的是相同的偉大美國國旗。
And whether a child is born in the urban sprawl of Detroit or the wind-swept plains of Nebraska, they look up at the same night sky, they will their heart with the same dreams, and they are infused with the breath of life by the same almighty Creator.
不論兒童是在底特律郊區或內布拉斯加平原出生,他們仰望的是相同的夜空,他們內心所有的是相同的夢想,他們被同一個偉大造物主的生命氣息充滿。
So to all Americans in every city near and far, small and large, from mountain to mountain, from ocean to ocean, hear these words. You will never be ignored again.
對不論遠近、不論大小的每個城市的美國人,從此山到彼山,從此海到彼海,我要對你們說:你們不會再被漠視。
Your voice, your hopes, and your dreams will define our American destiny. And your courage and goodness and love will forever guide us along the way.
你們聲音,你們的希望,你們的夢想,將決定美國的命運。你們的勇氣、善良和愛心,將永遠引導我們。
Together, we will make America strong again. We will make America wealthy again. We will make America proud again. We will make America safe again.And yes, together we will make America great again. Thank you. God bless you. And God bless America.
團結一致,我們將讓美國再度強大,我們將讓美國再度富裕,我們將讓美國再度驕傲,我們將讓美國再度安全。是的,團結一致,我們會讓美國再度偉大。謝謝,天佑你們,天佑美國。
center of life meaning 在 Dan Lok Youtube 的評價
What is Pak Sao in Bruce Lee's JKD? Translated, pak sao means "slapping hand". However, pak doesn't really slap, at all. In reality, the technique of pak sao involves a great deal of information learned by close attention to details. Be sure, pak and slap do not share the same energies, nor even the same results. You may execute a slap, but not Bruce.
His was pak! Nevertheless, pak sao has still another meaning in wing chun. It's in the nature of the meaning whereby Bruce spoke when he defined Jeet Kune Do as, "pak sao and hip". Pak sao's nature is to intercept.
Thus, the name Jeet Kune Do, The Way of the Intercepting Fist. Actually, there are only three ways to intercept. Ahead of the opponent's beat, at the same time as his beat, or behind his beat. We call this a half-beat ahead, same beat, or half- beat behind.
Subscribe to Dan's Channel to learn more Wing Chun or Jeet Kune Do: http://bit.ly/DanLokSubscribe
With Pak Sao, the hand comes directly out of the center of the body to slap away an attacker's strike to one's head. Effective application of Pak Sao involves creating an angle of deflection through which the opponent's blow can be slapped away with minimal effort.
Trapping is not exclusive to JKD, but it certainly isn’t very common in most martial arts.
In case you aren’t familiar with what I’m talking about, trapping is the art of using your arms to nullify one of your opponent’s limbs so that he can’t use it to hit or to block. This allows you to then strike into that open line (that’s a general definition). It’s also called Hand Immobilization Attack (although you can also immobilize other parts of the body, too, using the same concept).
In short, trapping basically means “grabbing to hit”.
One of Dan Lok’s passions in life is martial arts. Like many young kids, after watching a Bruce Lee movie, it changed his life forever. At 17 years old, Dan started training in martial arts seriously because he was being bullied in school. It wasn’t long for Dan to learn the techniques he needed, and gain the confidence necessary to defend himself.
Dan has studied with legendary martial artist such as Bruce Lee’s original student Ted Wong (http://tedwongjkd.net) and Joe Lewis “The Worlds Greatest Fighter” (http://joelewisassociation.com), making him a second generation student of Bruce Lee - in Bruce Lee's authentic art of Jeet Kune Do (JKD). He's also a third generation student of Ip Man (Wing Chun Kung Fu).
Dan has also trained with other great instructors like Sifu Adam Chan (https://www.pragmaticmartialarts.com), Canadian lightweight boxing champion Tony "Fire Kid" Pep (https://www.facebook.com/pepboxing), and Octavio Quintero (https://www.theartofjkd.com)
For Dan, martial arts training permeates every area of life. It’s not a hobby, it’s a way of life, and it influences how he does business.
Martial arts gave him the confidence, focus, and patience to push through these obstacles and to keep fighting when he felt like giving up.
IMPORTANT NOTE: Dan is NOT a full-time martial artist and he doesn't even claim to be that good of a fighter.
He's simply a successful businessman who enjoys the art and philosophy of Bruce Lee, just like you.
He doesn't have any online martial art videos, seminars or expensive "private training" to sell you. Quite frankly, he doesn't need the money.
He simply wants to share his passion for the art of JKD (his own version of Jeet Kune Do) through his YouTube channel.
Check out the other Jeet Kune Do (JKD) Fighting Tactics and Training Videos: https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46Ocn3bqnUIaAB-cTUzsAXOG
This Video: Bruce Lee's Jeet Kune Do Trapping Techniques - Pak Sao Drill
https://youtu.be/oot0ZpuF9RQ
https://youtu.be/oot0ZpuF9RQ
center of life meaning 在 Dan Lok Youtube 的評價
★☆★BONUS FOR A LIMITED TIME★☆★
You can download Dan Lok's best-selling book F.U. Money for FREE: http://jutsaojkd.danlok.link
Dan Lok Demonstrates a Jut Sao Drill. Jut Sao is a short sharp deflecting technique used in Jeet Kune Do to deal with punches. The elbow must be kept lower than the wrist in order for Jut Sao to work.
Subscribe to Dan's Channel to learn more Wing Chun or Jeet Kune Do Secrets: http://bit.ly/DanLokSubscribe
Watch the Previous Video that demonstrates the Lap Sao Techniques: https://youtu.be/ad17nEj_TBg
Jut Sao can be used to deflect punches off of the center line. It is useful for mid level to head high straight punches like a boxing jab. It can also through an opponent off balance if they are tense during or after punching. A common mistake when using Jut Sau is to lift the elbow meaning the attack slides under the practitioner's defense
Trapping is not exclusive to JKD, but it certainly isn’t very common in most martial arts.
In case you aren’t familiar with what I’m talking about, trapping is the art of using your arms to nullify one of your opponent’s limbs so that he can’t use it to hit or to block. This allows you to then strike into that open line (that’s a general definition). It’s also called Hand Immobilization Attack (although you can also immobilize other parts of the body, too, using the same concept).
In short, trapping basically means “grabbing to hit”.
One of Dan Lok’s passions in life is martial arts. Like many young kids, after watching a Bruce Lee movie, it changed his life forever. At 17 years old, Dan started training in martial arts seriously because he was being bullied in school. It wasn’t long for Dan to learn the techniques he needed, and gain the confidence necessary to defend himself.
Dan has studied with legendary martial artist such as Bruce Lee’s original student Ted Wong (http://tedwongjkd.net) and Joe Lewis “The Worlds Greatest Fighter” (http://joelewisassociation.com), making him a second generation student of Bruce Lee - in Bruce Lee's authentic art of Jeet Kune Do (JKD). He's also a third generation student of Ip Man (Wing Chun Kung Fu).
Dan has also trained with other great instructors like Sifu Adam Chan (https://www.pragmaticmartialarts.com), Canadian lightweight boxing champion Tony "Fire Kid" Pep (https://www.facebook.com/pepboxing), and Octavio Quintero (https://www.theartofjkd.com)
For Dan, martial arts training permeates every area of life. It’s not a hobby, it’s a way of life, and it influences how he does business.
Martial arts gave him the confidence, focus, and patience to push through these obstacles and to keep fighting when he felt like giving up.
IMPORTANT NOTE: Dan is NOT a full-time martial artist and he doesn't even claim to be that good of a fighter.
He's simply a successful businessman who enjoys the art and philosophy of Bruce Lee, just like you.
He doesn't have any online martial art videos, seminars or expensive "private training" to sell you. Quite frankly, he doesn't need the money.
He simply wants to share his passion for the art of JKD (his own version of Jeet Kune Do) through his YouTube channel.
Check out the other Jeet Kune Do (JKD) Fighting Tactics and Training Videos: https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46Ocn3bqnUIaAB-cTUzsAXOG
More Bruce Lee Trapping Techniques in this Playlist: https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46PuW-CM4gmmMnebKMq3WFMp
This Video: Bruce Lee's Trapping Techniques - Jut Sao Drill & Bonus
https://youtu.be/lYNV5kmqLUA
https://youtu.be/lYNV5kmqLUA
center of life meaning 在 一二三渡辺 Youtube 的評價
ヴェクスター125の3ヵ月後に、150cc版が発売。こういったミドルクラススクーターは、ヨーロッパではポピュラーだが、日本ではあまりパッとしないカテゴリー。実際、日本ではスズキしか発売していない。
外観はスタンダードなスクータースタイルながら、未来的なデザイン。車体サイズは原付より1まわり大きい程度で、取り回しは良い。しかし、これで高速道路を走るのは辛いかも。街乗りがメインで、たまに高速を乗りたい、という人向け?
ヴェクスター(VECSTAR) It is the motorcycle of the motor scooter type that は, Suzuki produce it, and it sold.
ヴェクスター was released as a medium-sized motor scooter in 1994. By displacement volume, as for ヴェクスター 150, 125 is sorted to two kinds of mopeds by light two of them.
The engine is small in comparison with the big motor scooter of the 250cc class which is 4 cycles 152cc (124cc). By it, I get the good point of the sumo wrestler's loincloth which is near to 50cc moped motor scooter (radius of gyration 1.9m at the minimum). It is said with the practical use car which turned though parking expands, and easiness of, the good point of the mileage do town riding as a substitute for foot of the everyday life an implication. Because 150 is light 2, as well as it, the run of the highway is possible.
125 became the production end by release of address V125, and 150 became the production end with emission control reinforcement in August, 2007.
The equipment
The headlight of unique shape is equipped with two 30W /30W krypton valve lights and, in comparison with the other vehicles of the class, secures enough light quantity. In addition, there is a position lamp centrally the front, but the meaning in the practical use is light for regular lighting a headlight.
I am equipped with both center stands and side stands.
The storing has seat bottom trunk, steering wheel bottom storage space, convenience store hook, rear carrier.
The seat bottom trunk can put a full-faced helmet helmet to the side. The steering wheel bottom box is limited to the storing of the accessory for complicated shape substantially. The footwear uses a convenience store hook sticking to the seat side widely in a flat floor and can load it with some load.
[Editing] A turn of speed
It is controlled greatly by the environment such as the degree of the vehicle, the use, but, in the case of 125, as for the cruising speed, 50-70km/h, the maximum speed are around 85-100km/h. This is 150, but there is not the big difference. The general course that the main line included is enough for these performance.
In addition, 150 can run a highway, but, as for the run for the long time, a rider and a burden to the vehicle are big because the state that is almost engine fully opening continues to cruise on a highway.
In addition, as for the initial model, the badness of the acceleration of the start was pointed out, but this was improved by a throttle position sensor and the improvement of the carburetor equipped with by a minor change of 1999.
[Editing] The mileage
It is acted on environment about the mileage, but it is often that I record the high mileage of around 30km/l. Because the fuel tank is 8 liters, in the calculation top, fuel is filled up, and runs more than 200km are possible.
Oil capacity is 0.8 liter. The maker recommends first time one month or 1,000km, 以降 1 or exchange every 6,000km.
[Editing] Ride comfort
The 50cc moped motor scooter is higher in the amount of seat than the part of the big motor scooter from the start, and I am with legs, and attention is necessary. It is a slightly bigger seat and considers the uniformity for for two people for this class, but, as a matter of course, is inferior to a big motor scooter. When the engine sound is quiet and runs in the downtown, it is rare that I give the noise damage to the outskirts unless I do extreme driving.
[Editing] An origin of the car name
The coined word that combined a vector (the German language, course, direction) with a star (a star, popularity, the future). It was named a bright image by a good point of the nuance of a word.