ยาคูลท์ หรือ บีทาเก้น ขายดีกว่ากัน? / โดย เพจลงทุนแมน
ในปี 2559 ที่ผ่านมาตลาดนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตมีมูลค่าตลาด 28,149 ล้านบาท
โดยมีเจ้าตลาดอย่าง บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด ครองตลาดเป็นอับดับหนึ่ง ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 26.1%
แต่จริงๆแล้วในตลาดนมเปรี้ยว ยังมีผู้แข่งขันที่ดูสมน้ำสมเนื้อกันอยู่คู่นึง
มีสินค้าที่คล้ายกันมาก ส่วนกันประกอบหลักของการผลิตสินค้าก็เหมือนกันมาก
ทั้งเนื้อสัมผัส รูปทรง ภาพลักษณ์ ก็สุดที่จะเหมือนกันอย่างมาก
คู่แข่งทั้งสองนี้คือ ยาคูลล์ กับ บีทาเก้น
มาดูยาคูลท์กันก่อน
ยาคูลท์ได้กำเนิดขึ้นเมื่อ ศาสตราจารย์ชิโระตะ มิโนะรุ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกียวโต ได้ทำการวิจัยแบคทีเรียจนค้นพบจุลินทรีย์ชิโรต้า หรือ แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ ชิโรต้า ขึ้นใน พ.ศ. 2473 (คำว่าชิโรต้ามาจากชื่อของศาสตราจารย์ชิโระตะ)
ต่อมาใน พ.ศ. 2478 เขาได้ก่อตั้งบริษัทยาคูลท์ (Yakult Honsha Co., Ltd.) ในเมืองมินะโตะ จังหวัดโตเกียว
และปี พ.ศ 2513 ยาคูลท์ได้เข้ามาในประเทศไทย ได้ก่อตั้ง บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด
ต่อมาในปี พ.ศ 2521 ได้ก่อตั้ง บริษัท ยาคูลท์เซลล์ (กรุงเทพฯ) จำกัด
บริษัทแรกเป็นบริษัทผลิต และ บริษัทที่สองเป็นบริษัทขายส่งให้สาวยาคูลท์
Business model ของยาคูลท์เป็นอย่างไร?
วิธีการดำเนินธุรกิจของยาคูลท์ ใช้ช่องทางการขายตรงเป็นเป็นกลยุทธ์หลัก โดยมีสาวยาคูลท์มากกว่า 5,000 คน เป็นหน่วยขาย ยอดขายมากกว่า 85% มาจากช่องทางนี้
ในปี 2557 ยาคูลท์ พลิกเกมส์เพิ่มช่องทางการค้าปลีกอื่นๆ โดยขายราคาสูงกว่าสาวยาคูลท์ 1 บาท
มาดูบีทาเก้นกันบ้าง
ในปี พ.ศ 2534 ได้ตั้งบริษัทไทยแอ็ดว้านซ์ฟูด (1991) จำกัด ต่อมาได้จับมือร่วมทุนกับ บริษัท คัมพานี ประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้ก่อตั้ง บริษัท บีทาเก้น จำกัด โดยใช้ส่วนประกอบหลักของสินค้า คือ แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธ์ดี
Business model ของบีทาเก้นเป็นอย่างไร?
วิธีการดำเนินธุรกิจของบีทาเก้น ใช้ช่องทางขายผ่านคอนวีเนียนสโตร์และโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก โดยใช้กลยุทธ์ขนาด รสชาติที่มีเยอะกว่า และราคาที่หลากหลาย
แล้วบริษัทไหนขายดีกว่ากัน?
ถ้าดูโครงสร้างธุรกิจของยาคูลท์แล้ว ควรจะนับรายได้เฉพาะของบริษัทขายส่งให้สาวยาคูลท์ (ถ้านับรายได้ของบริษัทที่ผลิตด้วย จะซ้ำซ้อนกัน)
จากงบการเงินปี 2559 ยาคูลท์มีรายได้ 4,796 ล้านบาท มากกว่าของบีทาเก้นที่มีรายได้ 3,768 ล้านบาท
ส่วนกำไร ยาคูลท์ทั้ง 2 บริษัทมีกำไร 1,056 ล้านบาท และบีทาเก้นมีกำไร 1,004 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ ทั้ง 2 บริษัทนี้มีกำไรมากกว่า บริษัทชาเขียวอย่าง โออิชิ และ อิชิตัน ที่เราน่าจะได้เห็นโฆษณากันมากกว่านมเปรี้ยว
เรื่องนี้ คงต้องสรุปว่า ขายนมเปรี้ยว ก็รวยไม่แพ้ ขายชาเขียวนะ..
yakult honsha 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
ยาคูลท์ นมเปรี้ยวขวดเล็กๆ รายได้แสนล้าน /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงแบรนด์นมเปรี้ยวที่คนไทยคุ้นเคย
แบรนด์แรกๆ ที่เราจะนึกถึง คงหนีไม่พ้น “ยาคูลท์”
รู้ไหมว่า นมเปรี้ยวยาคูลท์ขวดเล็กๆ ที่เราคุ้นเคยกันนี้
มีรายได้ ถึงหลักแสนล้านบาท
เรื่องราวของ ยาคูลท์ เป็นอย่างไร
แล้วคนไทย เริ่มรู้จักยาคูลท์กันตั้งแต่ตอนไหน
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของยาคูลท์ ต้องย้อนไปในปี 1900
ในตอนนั้น ดร.เอไล แมทชนิคอฟฟ์ นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย กำลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเคล็ดลับของการมีอายุยืนยาว ของคนบัลแกเรีย
ในการวิจัยของ ดร.เอไล เขาได้ตั้งข้อสังเกตขึ้นมา 2 เรื่อง คือ
1. การมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสารพิษต่างๆ และสิ่งเน่าเสีย ที่เกิดจากการกระทำของแบคทีเรียในลำไส้
2. การที่คนบัลแกเรียทานโยเกิร์ตเป็นประจำ น่าจะมีส่วนช่วยทำให้มีอายุยืนยาว เพราะแบคทีเรียในโยเกิร์ต จะไปช่วยทำลายหรือควบคุม แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิ่งเน่าเสียในลำไส้
บทสรุปในงานวิจัยของเขา ทำให้เกิดทฤษฎีการมีสุขภาพดี และอายุยืนยาว (The Prolongation of Life) ขึ้นในปี 1907
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ดร.เอไล แมทชนิคอฟฟ์ เสียชีวิตในปี 1916
ก็ไม่มีใครศึกษาทฤษฎีดังกล่าวต่อไปอย่างจริงจัง
จนในปี 1930 ดร.มิโนรุ ชิโรต้า นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น
ได้นำเอาทฤษฎีที่ถูกหลงลืม ของ ดร.เอไล แมทชนิคอฟฟ์ มาทำการค้นคว้าต่อยอดอีกครั้ง
สุดท้าย ดร.มิโนรุ ก็พบว่า
จุลินทรีย์กรดนม ที่สามารถมีชีวิตอยู่รอด และทำลายแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสารพิษในลำไส้ได้
คือ “แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ” สายพันธุ์ชิโรต้า
โดยชื่อสายพันธุ์ “ชิโรต้า” ถูกตั้งเพื่อให้เป็นเกียรติแก่ ดร.มิโนรุ ชิโรต้า ในฐานะเป็นผู้ค้นพบ
แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ชิโรต้า
เป็นตัวช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และช่วยยับยั้งการสร้างสารพิษ และสิ่งเน่าเสียที่ให้โทษแก่ร่างกาย
หลังจากนั้น ดร.มิโนรุ ชิโรต้า ก็ได้ก่อตั้งบริษัทชื่อ “Yakult Honsha” ขึ้นในปี 1935 เพื่อผลิตและจำหน่ายนมเปรี้ยว ที่มีส่วนประกอบของ แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ
ซึ่งคำว่า “ยาคูลท์” เป็นชื่อที่มาจากภาษาเอสเปรันโต
โดยมีความหมายคล้ายกับคำว่า "Yoghurt" ที่แปลว่า “การมีอายุยืนยาว”
ในช่วงแรก ยาคูลท์เริ่มขายในรูปแบบขวดแก้ว
ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นขวดพลาสติก เพื่อความสะดวกในการบริโภคและจัดจำหน่าย
ปัจจุบัน นมเปรี้ยว ยาคูลท์ มีจำหน่ายในมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
โดยช่องทางการขายที่คนไทยคุ้นเคย คือ การขายผ่าน “สาวยาคูลท์”
แต่รู้หรือไม่ว่า สาวยาคูลท์ จะมีแค่ในประเทศแถบเอเชียและลาตินอเมริกา
ส่วนประเทศในแถบยุโรป จะไม่มีสาวยาคูลท์ มาขายสินค้า
แล้วผลประกอบการของ Yakult Honsha เป็นอย่างไร?
รายได้และกำไรของบริษัท Yakult Honsha ผู้ผลิตและจำหน่ายยาคูลท์ของญี่ปุ่น
ปี 2018 รายได้ 122,105 ล้านบาท กำไร 10,480 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 121,800 ล้านบาท กำไร 12,000 ล้านบาท
โดยบริษัท Yakult Honsha จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นโตเกียว และมีมูลค่าบริษัทประมาณ 269,000 ล้านบาท
ซึ่งถ้า Yakult Honsha จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย ก็จะมีมูลค่าใกล้เคียงกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารกสิกรไทย ในตอนนี้เลยทีเดียว
แล้วคนไทย เริ่มรู้จัก ยาคูลท์ ตั้งแต่ตอนไหน?
สำหรับเรื่องราวของ ยาคูลท์ ในประเทศไทย
เกิดมาจากความบังเอิญของ คุณประพันธ์ เหตระกูล ทายาทเดลินิวส์
ปี 1953 คุณประพันธ์ เดินทางไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น
ช่วงนั้น คุณประพันธ์ มักมีอาการท้องเสียจากการรับประทานอาหาร
ต่อมามีคนแนะนำคุณประพันธ์ให้ลองดื่มยาคูลท์ เพื่อรักษาอาการดังกล่าว
ซึ่งผลปรากฏว่า การดื่มยาคูลท์ทำให้อาการท้องเสียของคุณประพันธ์ดีขึ้น
พอเรื่องเป็นแบบนี้ เมื่อคุณประพันธ์เดินทางกลับมาประเทศไทย
จึงได้ชักชวนนายทุนของญี่ปุ่น ให้มาร่วมก่อตั้งบริษัท ยาคูลท์ ในประเทศไทย
บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2513
ในปี พ.ศ. 2514 นมเปรี้ยวยาคูลท์ ก็เริ่มขายในไทยครั้งแรก
และสาวยาคูลท์ในไทยก็กำเนิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
ผลประกอบการของ บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด
ปี 2560 รายได้ 2,370 ล้านบาท กำไร 309 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 2,409 ล้านบาท กำไร 358 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 2,496 ล้านบาท กำไร 295 ล้านบาท
สิ่งที่น่าสนใจ ที่เราเห็นจากเรื่องนี้คือ
ธุรกิจนมเปรี้ยวของ ยาคูลท์ ดูแล้วไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมาย
ยาคูลท์ มีผลิตภัณฑ์หลักๆ แค่นมเปรี้ยวขวดเล็กๆ
และสร้างเอกลักษณ์ง่ายๆ ด้วยการขายผ่าน สาวยาคูลท์ ในหลายประเทศ
แต่เรื่องง่ายๆ ที่ว่า ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ “ยาคูลท์” นมเปรี้ยวขวดเล็กๆ
มีรายได้ ถึงหลักแสนล้านบาท..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Yakult_Honsha
-https://www.yakultthailand.com/company
-https://www.yakult.co.jp/english/ir/management/pdf/Financial_Report_for_the_Year_Ended_March_31.2020.pdf
-https://finance.yahoo.com/quote/YKLTY/
-https://en.wikipedia.org/wiki/%C3%89lie_Metchnikoff
-https://yakult.com.mt/1935-2/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Yakult_lady
yakult honsha 在 喜愛日本 Like Japan Facebook 八卦
【#LikeJapan生活】日本爆笑廣告 中學生各種方法 在班上偷吃
在班上偷吃這回事,想當年大家都應該做過吧?😆😆但是如此高科技般偷食你又見過?廣告中的中學生就親自為你視範甚麼是高科技。不過這玩意感覺好像很刺激,令人想回到中學生瘋狂地玩樂的日子呢!
by #Likejapan_SK2
©Yakult Honsha Co.,Ltd. All Rights Reserved.Produced by Yakult Honsha Co.,Ltd
==========
立即下載LikeJAPAN手機應用程式
iOS:
itunes.apple.com/hk/app/喜愛日本/id1434352623
Android:
play.google.com/store/apps/details?id=com.likejapan.app