กรณีศึกษา XIAOMI จับปลาหลายมือ /โดย ลงทุนแมน
“ขายสินค้าตั้งแต่ สากกะเบือ ยันเรือรบ”
คำพูดนี้คงจะใช้ได้สำหรับ แบรนด์ Xiaomi ที่ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ออกมามากมาย
ทั้งเครื่องฟอกอากาศ, เครื่องกรองน้ำ, กล้องวงจรปิด, นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ, เครื่องชั่งน้ำหนัก หรือแม้แต่ ไม้แคะหูอัจฉริยะ..
ไม่ว่า Xiaomi จะจับสินค้าชนิดไหน
สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นจุดขายสำคัญของแบรนด์ Xiaomi ก็คือ
“คุณภาพดี ในราคาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้”
ซึ่งก็ถือเป็นแม่เหล็กคอยดึงดูดลูกค้า
และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทนี้โตระเบิด
แล้วตอนนี้ Xiaomi เป็นอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
————
Blockdit แอปติดตามข่าวอันดับ 1 สำหรับคนไทย
Blockdit.com/download
————
จากผลประกอบการล่าสุด 9 เดือนแรก ปี 2019
บริษัท Xiaomi
รายได้ 660,000 ล้านบาท กำไร 33,900 ล้านบาท
เรื่องที่น่าสนใจก็คือ อัตรากำไรสุทธิของ Xiaomi..
Xiaomi ผลิตสินค้าและบริการทางเทคโนโลยีแต่กลับมีอัตรากำไรสุทธิเพียง 5%
ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับ
Apple 21%
Samsung 16%
แต่ที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าบริษัทตั้งใจ..
คุณ Lei Jun ประธานบริษัท Xiaomi เคยระบุไว้ในงบการเงินประจำปี 2018 ว่า
“เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ที่ผลประกอบการธุรกิจฮาร์ดแวร์
มีอัตรากำไรสุทธิต่ำกว่า 1%”
สรุปง่ายๆ ว่า Xiaomi ตั้งใจจะไม่เอากำไรกับอุปกรณ์เทคโนโลยี นั่นเอง..
แล้ว Xiaomi จะเอากำไรจากไหน?
จริงๆ แล้ว โมเดลธุรกิจของ Xiaomi ก็คือการเก็บกินระยะยาวกับธุรกิจ “บริการอินเทอร์เน็ต”
ที่บริษัทพัฒนาขึ้นสำหรับอุปกรณ์ Xiaomi โดยเฉพาะ
โดยส่วนใหญ่อยู่บนระบบปฏิบัติการ MIUI บนสมาร์ตโฟนที่ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งาน 292 ล้านราย
โมเดลธุรกิจแบบนี้มีลักษณะคล้ายๆ กับ Facebook, Spotify หรือ Netflix
ที่มีรายได้จากการโฆษณา และค่าบริการสมาชิกรายเดือน
อธิบายง่ายๆ ก็คือ Xiaomi ขายสินค้าที่พ่วงบริการของตนเองเข้าไปด้วย
และคาดการณ์ว่ารายได้จากบริการจะเป็นอนาคตของบริษัท
แล้วตอนนี้ Xiaomi เติบโตได้ดีขนาดไหน
แล้วมีรายได้มาจากอะไรบ้าง?
จากผลประกอบการล่าสุด
รายได้ทุกๆ 100 บาทของบริษัทจะมาจาก
สมาร์ตโฟน 61 บาท
อุปกรณ์เทคโนโลยี 29 บาท
บริการอินเทอร์เน็ต 10 บาท
ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่เติบโตมากสุดก็คือ
อุปกรณ์เทคโนโลยี เติบโต 44.4%
บริการอินเทอร์เน็ต เติบโต 12.3%
ในขณะที่สมาร์ตโฟนตกลง 7.8% ทั้งนี้มาจากการชะลอตัว
ของกลุ่มลูกค้าที่รอซื้อสมาร์ตโฟนที่รองรับเทคโนโลยี 5G
อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ
ตอนนี้ Xiaomi กลายมาเป็นผู้นำ Smart TV อันดับ 1 ในประเทศจีน
และเป็นอันดับ 5 ของแบรนด์ทีวีทั่วโลกที่มีคู่แข่งเป็นถึง Sony และ Samsung
มากไปกว่านั้น Xiaomi ยังเป็นหนึ่งในแบรนด์จีน
ที่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลก
ทั้งๆ ที่ Huawei ถูกกีดกันจากสงครามการค้าในช่วงที่ผ่านมา..
มือถือ Xiaomi ที่ยุโรปตะวันตก เติบโตเป็นเท่าตัว
ที่ประเทศสเปน Xiaomi กลายมาเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ขายดีที่สุด
ดูเหมือนว่า Xiaomi จะมีสินค้าหลายประเภทเต็มไปหมด
ซึ่งหลายคนกังวลว่าบริษัทอาจมีความเสี่ยงต่อสินค้าคงเหลือ
เรามาดูอัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือของ Xiaomi ปีที่ผ่านมา..
ไตรมาสที่ 1 ปี 2019 อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ 65 วัน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2019 อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ 53 วัน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2019 อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ 52 วัน
สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทสามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้
ขายสินค้าได้ไวขึ้นแม้จะมีประเภทสินค้าจำนวนมาก
ปัจจุบัน Xiaomi มีมูลค่าบริษัท 1.3 ล้านล้านบาท
ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 68% จากจุดต่ำสุดในรอบปีที่ผ่านมา
และมีขนาดเทียบเท่ากับ ปตท. บริษัทที่มีมูลค่ามากสุดในไทย
เราคงคุ้นเคยกับสุภาษิตที่ว่าอย่าจับปลาสองมือ
แต่ในโลกธุรกิจ
การจับปลาหลายมือ แล้วจัดการให้เหมาะสม
มันก็อาจจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ
และลดความเสี่ยงในการพึ่งพาธุรกิจเดิม
เหมือนอย่าง Xiaomi ในเวลานี้
เพราะขนาดตอนนี้ Xiaomi จับปลาเป็นพันมือ
ก็ยังประสบความสำเร็จ นั่นเอง..
————
Blockdit แอปติดตามข่าวอันดับ 1 สำหรับคนไทย
Blockdit.com/download
————
References
-https://i01.appmifile.com/…/announcement_…/RANME2019Q3_e.pdf
-http://i01.appmifile.com/…/co…/ir/announcement_us/2019Q3.pdf
-https://finance.yahoo.com/quote/1810.HK/
