คนคุณภาพอยู่ที่ไหนก็คุณภาพ เข้าใจและเคารพการตัดสินใจของพี่แบงนะงับ พวกเราจะติดตามพี่เสมอ .. ผมมันพวกดื้อพวกฝังใจ ขอสู้กับมันให้พังไปข้างก่อน ไม่ไหวจริงๆจะทำใจและเดินไปข้างหน้าต่อนะ
#น้องจง
พบกันใหม่... เขียนทีไร น้ำตาซึม เมื่อนั้น...
ถ้าหากพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกขออภัยด้วย พิมพ์ไปน้ำตาไหลไป T_T
ขอบคุณครับ
....
หลายปีที่ผ่านมา 2011-2015...
เวลาผมมองการแข่งขัน หรือ แม้กระทั่ง น้องคนรู้จักเล่น DotA แม้แต่เด็กที่เล่นในร้านเกมก็ตาม... ผมน้ำตาซึมทุกครั้ง และ ใจหวิว
ได้แต่บอกกับตัวเองว่า เราจากสิ่งที่เราชอบมาได้ยังไงถึงเพียงนี้นะ แล้วเราจะกลับมันไปได้ยังไงดี?
เราจะกล้าทิ้งงานประจำเหรอ เราจะทำมันได้ไหม มันจะเลี้ยงดูคนที่บ้านได้รึเปล่า? แล้วมันจะได้อะไรกลับคืนมาบ้าง? จากการทำสิ่งนี้ เราทำให้คนดูมีความสุขได้ แต่ถ้าเราทุกข์ เราจะหันหน้าไปพึ่งใครดีหล่ะ?
คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวผม หลายต่อหลายปี จนปี 2016 ผมได้ตัดสินใจ หักแข้ง หักขา ตัวเอง เพื่อที่จะก้าวสู่ในที่ใหม่ๆ ที่ที่เรารัก และ ทำให้มันให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้
ในปี 2016 ที่ผมได้ลาออกจากงาน แล้วกลับมาพากย์ DotA2 อย่างเต็มรูปแบบ ตะบี้ ตะบันพากย์มานักต่อนัก จนทำให้มีคนดูอยู่ในระดับหนึ่ง และ ไม่เคยหยุด อาจจะมีป่วย มีท้อบ้าง บ่นได้แต่ก็ไม่เคยหยุด
เพราะอะไรหน่ะเหรอ เพราะผมชอบนะ DotA แต่ไม่ได้หมายความว่าผมเกลียดเกมอื่นๆ ผมรักในงานเกม ในวงการเกม มันมีอะไรให้ค้นหาเยอะ ในบทบาทของเรา
....
ในปี 2017 ยุคที่ก้าวกระโดด ผมได้เข้าร่วมกับ Platform Twitch ที่ถือว่า เริ่มต้นสายอาชีพ Streamer ที่ Support นักพากย์สาย Entertainment ในแบบผมอย่างเต็มตัว
มันทำให้ผมพออยู่ได้ และ หาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างเป็นสุข ถึงแม้ว่าการ Donations หรือ การ Subs จะได้มากมาย ผกผัน กับยอดวิว ที่มีอยู่ แต่ผมกล่าวออก Stream เสมอว่า
"แค่มาดูผมก็พอ ก็ถือว่าเป็นการ Support ผมแล้ว"
ซึ่งปี 2017 ผมได้มีโอกาสที่ดี ในหลายๆ งาน เช่น Manila Masters และ ความฝันสูงสุด ที่มันมาถึงเร็วมาก นั่น คือ การที่ได้ไปพากย์ ขอบสนาม ในเวที The Internationals นั่นเอง
ผมไม่ได้คิดว่า ผมจะไปในฐานะตัวเองแม้แต่น้อย ผมไปในฐานะ คนไทยคนนึง ซึ่งได้ไปอยู่ในจุด จุดนั้น มันสนุกมาก มันเป็นประสบการณ์ที่ดีและเป็นความสุขที่สุดครั้งนึงในชีวิตผมเลยก็ว่าได้
แม้จะมีผิดพลาดบ้าง ทำแย่บ้าง เพราะร่างกายไม่ไหว แต่เราก็ทำต่อไป เราแค่พูดกับตัวเองว่า เราจะตั้งใจกว่านี้ และ ขอโทษคนดูอยู่เป็นประจำที่เราทำไม่ได้ออกมาที่เราต้องการ หรือ คนอื่นๆ ต้องการนั่นเอง
"แต่ต้องบอกว่าปีนี้ ผมยิ้ม มากกว่า ร้องไห้จริงๆ"
....
ในปี 2018 เป็นยุคมืดของผมเลยก็ว่าได้ มันเป็นเหมือน ความสว่างที่เด่นชัดในปี 2017 แล้วมาดับวูป ในครึ่งปีหลัง 2018
ถ้าใครติดตามก็แน่นอนว่า ที่บ้านผมก็มีปัญหาอยู่ไม่น้อย แน่นอนมันจะมีคำ คำนึง ออกมาว่า "เราต้องการใช้เงินหว่ะ? แต่เราต้องหาเงินด้วยตัวเอง โดยไม่ได้หยิบยืมใครคนอื่น"
ในปี 2018 มันเป็นยุคที่ดีมากๆ ในครึ่งปีแรก ทุกอย่างดีหมด ดีมากจริงๆ ผมมีแนวโน้มว่าจะ มีเงินเก็บซักก้อนเอาไว้ ซื้อบ้านที่จะขยับขยาย ฐานการพากย์ หรือ Studio เล็กๆ
แต่แล้วมันก็พังทลาย เพราะ ... 1.โดนโกงจาก GESC 2.โดนโกงจาก Bitcoin ซึ่งคดีความยังดำเนินอยู่ และ จะจัดการถึงที่สุด
มันเป็นอะไรที่ Fail มาก มีพี่คนนึงเคยบอกว่า นี่หล่ะ "มันเป็นผลพลอย ของคนใช้เงินไม่เป็น และอยากได้เยอะเกินไป ให้คนอื่นเยอะไป"
คำนี้มันวนเวียนอยู่ในหัวผมหลายต่อหลายเดือน
แน่นอนว่า สิ่งๆ นี้มันกระทบการพากย์ของผมหนักมาก ถึงมากที่สุด มันทำให้ไม่มีสมาธิ เหมือนผม ต้องหักอารมณ์เศร้า แล้วผมต้องมาทำให้มันดีที่สุดใน เวลานั้น ในชั่วโมงนั้น เพื่อที่ส่งความสนุกให้กับคนดูมากที่สุด และ เก็บงำความทุกข์ไว้เพียงลำพังนั่นเอง
"ถามว่าเป็นซึมเศร้าไหม? ก็เกือบเป็นนะจากผล ทดสอบ"
ต่อมาในปลายปี 2018 ผมได้ก้าวข้ามในสิ่งที่เศร้า ปลดเปลื้องสิ่งที่ทำให้โง่เขลา แน่นอนมันตามหลอกหลอนผมในทุกๆ วินาที ที่ผมว่าง หรือแม้กระทั่ง ใครพูดเรื่องนี้ขึ้นมาต่อหน้าเรา เราก็จะรู้สึกแย่ ภาพเก่าๆ มันหวนมาทำร้ายเราตลอด
พวกคุณจะสังเกตุได้ว่าทำไม ผมพากย์ไม่ไปไหน ทำไมผมแย่ลง ทำไมผมดูไม่ดุดันแบบแต่ก่อน นั่นคือสาเหตุข้างต้น เรื่องโดนโกงเงินทั้งนั้นครับ
หลายคนอาจจะพูด "เงินไม่ตายหาใหม่ได้"
แต่แล้วต้องคิดกลับกันว่า "นั่นมันคือเงินเก็บทั้งชีวิตของผมนะ"
....
เริ่มต้นในปี 2019
ผมได้พยายามทำทุกวิถีทางให้ลืมๆ มันไป และ พยายามแก้ไขในหลายๆ สิ่ง ผมใช้เงินส่วนตัวทั้งหมดที่มีอยู่ ไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อที่จะลบล้างมันซะ ในบางส่วน ออกไปใช้ชีวิตบ้าง
เพราะที่ผ่านๆ มาที่ผมไป มีพี่ๆ เสือร้องไห้ เลี้ยงทั้่งนั้น นั่นคือ พวกพี่ๆ ที่เป็นไอดอล ของผม (รวมถึงผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ ด้วย) แน่นอน ปัจจุบันก็มี Hashtag คอยช่วยเหลือผมอยู่เสมอมา
ฟังดูอาจจะย้อนแย้งเนอะ?
"เงินไม่มียังจะไปเที่ยวอีกเหรอวะ?"
แต่ขอเถอะ ซักครั้ง ให้มันพังกันไป ให้ความเครียดมัน มลายหายไป แล้วเริ่มใหม่แบบกล้าแกร่งในปีนี้
ซึ่งผมกลับมาดีขึ้นนะ แต่ก็ยังพากย์แย่เหมือนเดิม ผมได้กลับมาดูตัวเองพากย์ในทุกๆ วัน ทุกๆ ครั้งที่ว่าง มันแย่ มันแย่ถึงที่สุด
ความสนุกเราหายไป แต่หลังจากนี้เราจะแก้ไข ฝากทุกคนติดตามด้วยนะครับ ใน TI9 ผมจะทำให้เต็มที่ครับ
....
กลับมาเรื่องทำไม ถึงย้าย Platform จาก Twitch มา Facebook
ข้อแรก - ผมต้องการก้าวไปสู่ในยุคใหม่ๆ ที่ต้องการอะไรใหม่ๆ จากเดิมที่มีอยู่ ผมรู้สึกว่าครั้งนี้ ก็เหมือน ครั้งที่ลาออกจากงานประจำ ไปค้นหาอะไรใหม่ๆ ในโลกใหม่นั่นเอง
ข้อสอง - เมื่อบางอย่างถึงทางตัน เราต้องย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ ในที่ใหม่ ... เพราะผมไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่ผมอยู่ ผมจะมีอะไรในอนาคตไหม? ทั้งนี้ไม่ได้ Platform ที่จากไม่ดี ผมเห็นน้องๆ หน้าใหม่ หลายคนเติบโตในนั้น เยอะมาก ผมดีใจกับเค้านะ ... ซึ่งการพากย์ของผมมันเก่าแล้ว ผมอยากทำอะไรใหม่ๆ ในที่ใหม่ๆ เหมือนกับน้องๆ กลุ่มนั้นบ้างเหมือนกันหล่ะ
ข้อสาม - เพื่ออนาคต เพื่อทางบ้าน และ ตัวเอง คำนี้อาจจะเห็นแก่ตัวกับคนที่ประกาศ กับคนดูมาตลอดว่า "ทำเพื่อ Community" แน่นอนผมแคร์ Community มากๆ ถามว่าเห็นแก่ตัวเองไหม ก็ส่วนนึง แต่ถ้าเห็น แก่ตัวเองมากๆ ผมคงไปอยู่อีกที่นึงแล้ว ในค่ายทะเล ต้องบอกอย่างนึงว่า ... ถ้าผมทำงานบางที่ แค่ 6 เดือน แล้วได้เวลาในอนาคต มาประมาณ 4 ปีที่ทำอยู่ทุกวันนี้เลยทีเดียวครับ
ข้อสี่ - ผมปวดใจทุกครั้งที่ต้องทิ้งคน Subs มาร่วมเกือบ 3 ปี หรือจะ 2 ปี หรือ จะ 1 ปี แม้กระทั้ง 1 เดือนแรกก็ตาม แต่ผมขอฝากไว้ตรงนี้ ผมจะพยายามตอบแทนที่คุณ support ผมมาตลอด ผมจะดึงเข้ากลุ่ม Discord (ซึ่งจะ Update ในเร็วๆ นี้) และ พูดคุย จัดมิตติ้ง ในทุกๆ 3 เดือน มาพบปะกันบ่อยๆ ให้เรารักกันมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาผมทำได้แค่เพียงพูดขอบคุณ คุณเท่านั้น ย้ำอีกครั้ง ผมไม่ทิ้งคุณ ผมสัญญา
ข้อห้า - ผมจะไม่พูดถึงเรื่อง ม่วงดียังไง ฟ้าดียังไง แต่ผมจะพูดแค่ว่า ผมเคารพ ทุกคำติชม และ ขอโอกาสอีกซักครั้งในการทำงานในที่ใหม่ และ หวังว่าคนดูจะเข้าใจผม หรือถ้าไม่เข้าใจ ผมพร้อมคุย และ กราบขอโทษในสิ่งที่ผมให้ไม่ได้จริงๆ ผมเสียใจจริงๆ ผมคิดมากทุกครั้งที่มีเรื่องนี้มาในหัว แต่ผมจะรับฟัง และ ขอโทษ ทำมันให้ดี จนกว่าทุกคนจะเข้าใจ ผมสัญญา
จริงๆ มีอีกหลายเรื่องที่ผมอยากพิมพ์เพิ่มเติม แต่ขอเป็นประเด็นๆ สำคัญแค่เพียงเท่านี้ก็พอ
....
ทุกวันนี้ความสุขผมคืออะไร ผมได้ผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายมาแล้ว มาเริ่มต้นใหม่ ทำอะไรใหม่ๆ และ ขอโอกาสคนดูทุกคนอีกซักครั้ง ให้ผมได้ พิสูจน์ ว่าผมเป็นคนเดิม และ คนที่ดีกว่าเดิม
อะไรที่เละเทะ หรือทำไม่ดีกับใคร ผมก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
อย่างที่บอก เพื่อนผมสมัยประถม ล้อผมว่า "ไอ้บ้าเกม" มาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ผมก็ไม่เคยจะหยุดรักมันเลย เอาจริงๆ นะ และวันนี้ผมทำให้ใครต่อใคร หลายคนเค้าเห็นจริงๆ ว่า
"ไอ้บ้าเกม คนนี้ ได้ทำตามความฝันของเค้าได้สำเร็จแล้วนะ!!"
"แล้วพวกนายทำบ้าอะไรอยู่หล่ะ ตอนที่ล้อฉันอยู่?"
เอาความโกรธเป็นแรงผลักดัน มากกว่าที่จะแสดงออก นี่หล่ะ คือ ทางของผม
...
สุดท้ายนี้
อาจจะตลกร้ายสำหรับการ ย้ายค่าย เบอร์เดิม
แต่ผมก็รักคนดู รัก DotA2 สุดหัวใจเหมือนเดิมครับ
รักทุกคน และ ขอทำมันให้ดีที่สุด ในวันใหม่ วันต่อๆ ไป
เพราะ "ฉันจะพากย์ต่อไป จนฉันหมดแรง"
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ดินแดนใหม่ Facebook Gaming
ขอบพระคุณ Youtube และ Twitch บ้านหลังเก่า
ขอบพระคุณคนดูทุกคน และ ผู้ใหญ่ในวงการทุกคน
ที่ช่วยเหลือผมให้เป็นผมทุกวันนี้
ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านหลังใหม่ของผมครับ
>> Cyberclasher Caster <<
แล้วมามันส์กันให้สุดขั้วใน TI9 ครับ
รักและขอบคุณ
แบงก์ - ไซเบอร์แคลซเชอร์
กิติภัทร กาญจนาพิพัชร์
Let's meet again... Every time I write it, I cry...
If a typo is right, sorry. Type to cry. T _ T
Thank you.
....
Years ago 2011-2015...
When I look at a match or even a brother who knows how to play Dota, even kids who play in the game shop... I cry every time and I feel like it.
I can only tell myself that I am from what I like. How can we go back?
Will we dare to leave a full time job? Can we do it? Can it raise someone at home? So what will it get back? From doing this, we can make people happy. But if we are suffering, who should we turn to?
This question has been around in my head for many years until 2016, I decided to break my leg to step into a new place where we love and make it the best I can.
In 2016, I quit my job and came back to dub Dota2 in full time. I have a lot of dub. It makes someone to watch at a certain level and never stop. There may be sick. I can complain but I never stop.
Why? Because I like Dota, but it doesn't mean I hate other games. I love gaming. There is a lot to find in our role.
....
In 2017, the leap era, I joined Platform Twitch that is considered starting the Streamer at support, a full-time Entertainment commentator like me.
It makes me happy to live and feed my family. Even though Donations or subs have a lot of inversions with the views, I always say that I always say that
"Just come to see me, it's my support"
In 2017 I have had a great opportunity in many jobs such as Manila Masters and the highest dream that came fast. That's how to dub the sidelines in the internationals.
I didn't think I would go as myself. I went as a Thai person who was at that point. It was so fun. It was the best experience and the happiest once in my life.
Even if there are some mistakes, I can't do some bad things because my body, but I keep doing it. I just say to myself that I will be more focused and apologize to the audience regularly. We can't do. Come out what we want or others want.
" But I have to say that I smile more than crying this year
....
In 2018, it was my dark age. It was like a clear brightness in 2017 and then it was out in half a year after 2018
If anyone follows, of course I have a few problems at home. There will be a word " We want to spend money? But we have to make money by ourselves without borrowing someone else "
In 2018, it was a very good era in the first half of the year. Everything was good. I tend to have money to buy a house that would expand the dub or small studio.
But then it fell apart because... 1. got cheated by GESC 2. got cheated by Bitcoin which is still going on and will handle it to the max.
It's a lot of Fail. A brother once said this is a result of people who don't know how to spend money and I want too much for other people "
This word has been around in my head for months.
Of course this hits my dub. It makes me not concentrate like I have to be sad. I have to make my best at that hour to send the most fun to the audience and keep it. Suffering alone
" Ask me if it's depression? Almost from the test results "
Later in the end of 2018, I have come across the sad things that make me foolish. It haunts me every second I'm free or even if anyone says this in front of us, we will feel bad. Old photos. Come to hurt us all the time
You guys will notice why I don't go anywhere. Why I'm getting worse. Why I don't look wild like before. That's why I got cheated. All money.
Many people may say "Money doesn't die, find a new one"
But then I have to think, " That's my whole life money
....
Started in 2019
I have tried to do everything to forget it and try to fix many things. I spent all my personal money to go to Japan to remove it in some of them.
Because in the past, there are tiger brothers and sisters who cry. That's my idols (including other adults). Now there is always hashtag to help me.
Sounds controversial, right?
" I don't have money. Are you going to travel?"
But please, let it be broken. Let the stress go away and start over strong this year.
Which I come back better, but still bad dub. I come back to see myself every day. Every day. It's bad. It's the worst.
Our fun is gone. But after this, we will fix it. Please follow. In TI9 I will do my best.
....
Why did you move platform from Twitch to Facebook?
First - I want to move on to a new era where I want something new. I feel like this time I quit my full time to find something new in the new world.
Second - When something comes to a dead end, we have to start again... because I don't know what I am, I will have anything in the future? I didn't get a bad platform. I saw many new sisters growing up in there. I'm happy for them... My dub is old. I want to do something new places like that group too.
Number three - for the future, for my family and myself, it may be selfish to those who have announced that "do it for community" of course, I care very much. Ask me if it's a part of myself. But if I see myself, I see myself, I would be very much. I have been in another place in the sea camp. I have to say... If I work somewhere for only 6 months, it's time for about 4 years that I have been doing these days.
Number four - I feel heartache every time I have to leave Subs for almost 3 years or 2 years or 1 years. Even the first 1 months, but I would like to leave it here. I will try to pay back for you. Support me all the time. I will pull into discord group (which will update soon) and talk to meet each other often. Let us love each other more because I can only say thank you. I repeat, I don't leave you. I promise.
Number five - I won't talk about purple, but I will only say that I respect all feedback and give me one more chance to work in a new place and hope that people understand me or if I'm ready to talk. And I apologize for what I can't give. I'm really sorry. I think too much every time I have something in my head. But I will listen and apologize. Do it well until everyone understands. I promise.
In fact, there are many more things I want to type, but I want to be an important point. Just like this.
....
What is my happiness nowadays? I have gone through bad times. Let's start again and give me another chance to watch. Let me prove that I am the same person and better person.
Anything that is messed up or bad to anyone, I'm sorry for here.
As I told my friend in elementary school, I was "crazy" since then, but I never stopped loving it. Seriously, and today I really made many people see that
" This asshole has successfully followed his dream!!"
" So what the hell are you doing while you're kidding me?"
Taking anger as a motivation than to express. This is my way.
...
Finally.
Might be funny for moving the same number of camp
But I love the audience. I love Dota2 with all my heart as always.
Love you all and do your best in the next day.
Because "I will continue to dub until I am exhausted"
Welcome to the new land Facebook Gaming
Thank you Youtube and Twitch. Old house.
Thank you to all the audience and all adults in the industry.
For helping me be me nowadays
Welcome to my new home.
>> @[653384451397698:274:Cyberclasher Caster] <<
Let's have fun to the extreme in TI9
Love and thank you
Bank - cyber clasher
Kitiphat cuddle, Kanchanaburi Pip cuddle charTranslated
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
「world games 2017 results」的推薦目錄:
- 關於world games 2017 results 在 NSZ Channel Facebook
- 關於world games 2017 results 在 Dr Sheikh Muszaphar FanClub Facebook
- 關於world games 2017 results 在 Bryan Wee Youtube
- 關於world games 2017 results 在 Travel Thirsty Youtube
- 關於world games 2017 results 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube
world games 2017 results 在 Dr Sheikh Muszaphar FanClub Facebook 八卦
Just sharing....
https://www.facebook.com/OrchanAsia/posts/1556391971115806
Kuala Lumpur, 18 November 2017: Appeton, one of Malaysia’s top pharmaceutical brands, launched its repackaged ‘A-Z Vitamin C’ range today, alongside Deputy Minister of Science, Technology and Innovation, YB Datuk Wira Dr. Abu Bakar Mohamad Diah, and its brand ambassador, Datuk Dr. Sheikh Muszaphar, at 1 Utama Shopping Centre amidst a throng of Saturday morning shoppers.
Having been around for more 30 years, Appeton has always championed kids. It understands that kids truly are the future; however, they first need to be protected to stay healthy, to unleash their true potential. It also believes that kids need to be encouraged, inspired and nurtured from a young age – to think outside of the proverbial box.
When the brand decided that it was time for its ‘A-Z Vitamin C’ range to undergo a facelift, they naturally did what most brands do – conduct an in-depth research. Not surprisingly, it found that most parents – their core demographics – still want their kids to be doctors or lawyers despite the multitude of options offered by tertiary institutes locally, or around the world. In their opinion, these two professions are the pinnacle of pride, professionalism and prestige.
Based on the results, the brand decided to incorporate caricatures of these two noble professions, alongside that of an astronaut to highlight to kids that they can, and should always, dream bigger. ‘Being a doctor or lawyer is a great achievement – but why stop there? Kids can aspire to be doctors or lawyers who are also astronauts. They just need to be encouraged to not confine themselves to the status quo,’ says Cheah Ming Loong, Chief Operating Officer of Kotra Pharma.
It is this ‘big idea’ that led Appeton to collaborate with Malaysia’s first astronaut, Datuk Dr. Sheikh Muszaphar. As the first, and as of now, only Malaysian astronaut to fly into space, Datuk Dr. Sheikh Muszaphar is the perfect spokesperson for Appeton’s A-Z Vitamin C Dream Big Campaign – he’s worked hard to become a doctor, without giving up on his dream of becoming an astronaut.
As an orthopaedic surgeon, Datuk Dr. Sheikh Muszaphar understands the importance between being healthy and staying protected, to achieve goals that one sets for oneself. As a young kid, he was always fascinated with space travel. He was lucky that his parents were encouraging of his dream from the get-go; they nurtured and supported him along the way, and made sure that he was healthy, and stayed protected throughout his childhood.
‘Datuk Dr. Sheikh Muszaphar is a trailblazer who has inspired many with his drive, determination and constant innovation, without alienating his core beliefs. We wanted to tap into his backstory, as much as his achievements, to drive the message through to our core customers, which is how the collaboration came about,’ added Cheah.
As part of Appeton’s Dream Big Campaign, Datuk Dr. Sheikh Muszaphar and his two daughters, are featured in Appeton’s ‘Dream Big’ television commercials and billboards along selected highways around Malaysia. A cut-out of him in spacesuit, will also greet consumers at major pharmacies around the country.
The launch event saw parents and children participate in stage games, numerous quizzes, sand art, arts and craft, and alphabet puzzles. They even managed to have their photos taken with the intrepid astronaut-turned-businessman, alongside his lovely daughters, Sophea Isabella (6 years old) and Sophea Natasha (4 years old).
Speaking to reporters at the event, Datuk Dr. Sheikh Muszaphar said, ‘I have been aware of the Appeton brand for as long as I could remember. They’re known for championing kid’s health; and as a doctor, health is the core of my profession, and is therefore, close to my heart.
As kids, we always think we are invincible – that nothing can happen to us. But we do fall sick sometimes and catch colds, flu, and other common ailments. What I realised, from a very young age, was that when we take care of ourselves, be it through exercise, food, or other things, we allow ourselves to have a lot more fun. Our energy levels are up, and we can keep striving to do the things we enjoy.
As a father to two young daughters, and now, twin boys, I try my best to make sure that my kids stay healthy and protected, so that they can go out and discover what the world has to offer. Therefore, when Appeton approached me about this campaign, I saw the synergy right away and said yes. Let’s face it, all parents want the best for their children – I hope that my involvement in in Appeton’s Dream Big Campaign will inspire children to ‘Dream Big’, and remind parents to keep them healthy and protected, so that they can reach for the stars.’
In today’s healthcare business environment, with continuous increase in competition and accelerating change, Appeton remains firm in its quest of fulfilling demands for quality healthcare products at competitive cost. Applying a unique combination of industry expertise and solutions with the right concept, Appeton strives to bring the best in quality to all those it comes in contact with.
Appeton’s ‘A-Z Vitamin C’ range can be found at major pharmacies and Chinese medical halls around the country. For more information about Appeton, please visit www.appeton.com
-END-