รู้จัก Cree ผู้ปฏิวัติหลอดไฟ LED แต่ตอนนี้จะเลิกทำ LED /โดย ลงทุนแมน
ปี 1989 หรือเมื่อ 32 ปีที่แล้ว บริษัทอเมริกันรายหนึ่ง
ได้ทำการเปิดตัวเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blue-LED หรือหลอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน
ที่ทำให้หลอดไฟ LED ส่องสว่างมากขึ้นและใช้พลังงานน้อยลงมาก
นอกจากนั้น Blue-LED ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เทคโนโลยี LED ถูกต่อยอดมาเป็นหน้าจอแสดงผลของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่เราใช้กันในทุกวันนี้
บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ว่านี้ มีชื่อว่า “Cree”
แต่รู้ไหมว่า วันนี้ Cree กำลังเลิกทำธุรกิจที่เกี่ยวกับจอแสดงผล
เพื่อไปโฟกัสกับ ธุรกิจที่พวกเขามองว่ามีอนาคตกว่าอย่างเต็มที่
Cree กำลังเลิกทำสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองในอดีต เพื่อไปโฟกัสกับธุรกิจอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บริษัท Cree ก่อตั้งในปี 1987 ในเมืองเดอแรม รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา
โดยทำธุรกิจวิจัยคิดค้น ผลิตชิปไฟ LED และชิปควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุ
ซึ่งเรื่องราวที่ทำให้ Cree มีชื่อเสียงขึ้นมา
ก็คือการเปิดตัว เทคโนโลยี Blue-LED หรือหลอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน สำหรับการผลิตเพื่อค้าขายเชิงพาณิชย์ได้เป็นบริษัทแรกของโลก ในปี 1989
แล้วการผลิตหลอดเปล่งแสงสีน้ำเงินได้ มันปฏิวัติวงการไฟส่องสว่างอย่างไร ?
อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ
หลอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน เมื่อนำไปส่องแสงร่วมกันกับหลอดเปล่งแสงอีก 2 สี คือ สีแดงและสีเขียว จะทำให้เกิดแสงสีขาวที่สว่างมาก และการเปล่งแสงของหลอดทั้ง 3 สีนี้ ยังก่อให้เกิดสีสันอื่นที่สวยงามเมื่อเปล่งแสงร่วมกัน และได้ถูกนำมาต่อยอดเป็นเทคโนโลยีจอแสดงผล LED ในวันนี้นั่นเอง
หลังจากนั้นมา Cree ก็กลายเป็นซัปพลายเออร์คนสำคัญของโลก ในอุตสาหกรรมจอแสดงผล
ทั้งจอโทรทัศน์, จอมือถือ และจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่อาศัยเทคโนโลยี LED
นอกจากนั้นแล้ว ส่วนธุรกิจผลิตชิปควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุของ Cree ก็เติบโตขึ้น ตามอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
Cree จึงสามารถเติบโตและจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ได้สำเร็จ ตั้งแต่ปี 1993
ทีนี้ ถ้าลองมาเจาะดูผลิตภัณฑ์ของ Cree
ส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทั้งชิปสำหรับหลอด LED และชิปสำหรับรับส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ ล้วนมีวัสดุตั้งต้นที่ชื่อว่า ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) และ แกลเลียมไนไตรด์ (GaN)
คำถามคือ ซิลิคอนคาร์ไบด์ และ แกลเลียมไนไตรด์ มันคืออะไร ?
เพื่อให้เห็นภาพตรงนี้ชัด เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ผลิตชิปในปัจจุบันกันสักเล็กน้อย ว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ๆ คือ
1. ซิลิคอน (Si)
ซึ่งนิยมนำมาใช้ทำชิปประมวลผลต่าง ๆ เช่น หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
2. แกลเลียมอาร์เซไนด์ (GaAs)
ปัจจุบันใช้เป็นวัสดุของชิปควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุและชิปเปล่งแสงไฟ LED
ซึ่งวัสดุประเภทนี้ สามารถทนความร้อนได้ดีกว่า และมีประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณได้ดีกว่า ชิปที่ผลิตจากซิลิคอน
3. ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) และ แกลเลียมไนไตรด์ (GaN)
ชิปที่ผลิตจากวัสดุสองตัวนี้จะมีความสามารถที่ทนความร้อน รับส่งสัญญาณ และรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ดีกว่าชิปที่ผลิตจากวัสดุ 2 ข้อแรกข้างต้น
ประเด็นสำคัญก็คือ หลาย ๆ ธุรกิจที่ถูกมองว่าเป็นธุรกิจแห่งอนาคตในวันนี้ กำลังมีความต้องการชิป ที่ผลิตจากซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์
ด้วยคุณสมบัติรองรับแรงดันไฟฟ้าและความร้อนได้มาก
ซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์ จึงได้ถูกนำไปใช้ในเครื่องแปลงกระแสจากแผงโซลาร์เซลล์ และเป็นวัสดุตั้งต้นของชิปควบคุมการทำงานแท่นชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ชิปควบคุมระบบจ่ายไฟของรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Model 3 ของ Tesla ก็เลือกใช้ชิปที่ทำจากซิลิคอนคาร์ไบด์ของบริษัท Cree
ซิลิคอนคาร์ไบด์ ยังถูกนำไปใช้ในเครื่องส่งสัญญาณคลื่น 5G อีกด้วย
ส่วน แกลเลียมไนไตรด์ ก็ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการผลิตชิปสำหรับเครื่องชาร์จไฟความเร็วสูง ที่กำลังเติบโตตามเมกะเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน
นอกจากนั้น ซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์
ยังเป็นวัสดุที่สำคัญในการผลิตชิปควบคุมการรับส่งสัญญาณในระบบ LiDAR หรือก็คือ เทคโนโลยีที่ประยุกต์ใช้แสงเลเซอร์ในการวัดระยะทางของวัตถุโดยรอบ และสะท้อนกลับมาเพื่อประมวลผลเป็นแผนที่สามมิติได้
ซึ่ง LiDAR ก็ถูกคาดการณ์ว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยการใช้งานระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
ในปี 2018 ผู้บริหาร Cree ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการในส่วนของการผลิตชิปสำหรับควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุ จาก Infineon Technologies บริษัทผลิตชิปสำหรับยานยนต์รายสำคัญของโลก
ขณะที่ธุรกิจผลิตชิปไฟ LED ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทในอดีตนั้น ในวันนี้กลับกำลังสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้น้อยลงเรื่อย ๆ
จนบริษัทเริ่มทยอยปิดกิจการในส่วนของการผลิตชิปไฟ LED
และขายธุรกิจชิปไฟ LED บางส่วน ให้กับทางบริษัทอื่น ในปี 2020
และล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2021 ที่ผ่านมา
Cree ก็ได้ประกาศรีแบรนด์ Cree ให้กลายเป็นชื่อ “Wolfspeed”
ซึ่ง Wolfspeed ก็คือชื่อเรียกส่วนธุรกิจผลิตชิปจากซิลิคอนคาร์ไบด์ใน Cree ก่อนหน้านี้
ซึ่งก็เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่า บริษัทจะมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำในด้านการผลิตชิปจากซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์ อย่างเต็มตัว
นอกจากนี้ บริษัทยังคิดค้นวัสดุที่ชื่อ GaN-on-SiC เป็นส่วนผสมของทั้งสองวัสดุตั้งต้น ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของคุณสมบัติที่ทนความร้อนขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง
ซึ่งก็คาดว่าวัสดุชนิดนี้ จะยังนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตได้อีกมาก
ปัจจุบัน Cree หรือ Wolfspeed ในตอนนี้ เป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาด SiC ซิลิคอนคาร์ไบด์ทั่วโลกกว่า 60%
แล้วผลประกอบการของ Cree หรือ Wolfspeed ในตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้าง ?
ปี 2018 รายได้ 28,644 ล้านบาท ขาดทุน 8,680 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 33,480 ล้านบาท ขาดทุน 11,625 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 27,993 ล้านบาท ขาดทุน 5,952 ล้านบาท
ผลประกอบการในช่วงหลายปีหลังยังคงขาดทุน
แต่ด้วยปัจจัยบวกหลายอย่าง ทั้งการปรับตัวออกจากอุตสาหกรรมผลิตชิปไฟ LED ที่มีการแข่งขันสูงและตัวสินค้าเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว และการมุ่งสู่การผลิตชิปเพื่ออุตสาหกรรมที่ดูมีอนาคต
บวกกับ ข้อมูลคาดการณ์ว่าความต้องการของตลาดชิปที่ผลิตจาก ซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์ ที่ Cree นั้นมีความเชี่ยวชาญในการผลิต
ทำให้มูลค่าของบริษัท Cree, Inc. ในตอนนี้ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 360,000 ล้านบาท
ซึ่งคิดเป็นเกือบ 2 เท่า ของมูลค่าบริษัทในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
เรื่องราวการปรับตัวของ Cree หรือที่พวกเขาเรียกตัวเองว่า Wolfspeed ในวันนี้
ก็เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า การปรับตัวในการทำธุรกิจนั้นเป็นเรื่องสำคัญ และสิ่งที่เคยรุ่งเรือง เคยสร้างชื่อเสียงให้กับเรา มันอาจไม่รุ่งเรืองเหมือนในอดีตได้ตลอดไป
และเมื่อถึงเวลาที่สิ่งนั้น หรือธุรกิจนั้น ถึงจุดอิ่มตัว
เราก็อาจจะต้องยอมตัดใจปล่อยสิ่งนั้นทิ้งไป เหมือนที่ Cree ตัดสินใจปล่อยมือจากธุรกิจผลิตชิปหลอดไฟ LED ที่เคยสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้บริษัทในอดีต
เพื่อจะได้มาโฟกัสเต็มที่ กับสิ่งที่ทำแล้วจะสามารถเติบโตได้ดี ในอนาคต..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://th.regionkosice.com/wiki/Cree_Inc.
-https://www.hermes.com.tw/en/third-generation-semiconductor-material/
-https://finance.yahoo.com/quote/CREE?p=CREE
-https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%8C
-https://www.moneydj.com/kmdj/wiki/wikiviewer.aspx?keyid=f34bcd8d-d823-4bc3-83c2-9d7f56d8e011
-https://kknews.cc/news/e5g3zbr.html
-https://finance.technews.tw/2021/03/27/third-generation-semiconductor-material-business-in-taiwan/
-https://www.moneydj.com/kmdj/news/newsviewer.aspx?a=%7Bf9efd171-279d-4e35-8e23-fcb167db4832%7D
-https://news.sina.com.tw/article/20210111/37360360.html
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
「wolfspeed」的推薦目錄:
- 關於wolfspeed 在 ลงทุนแมน Facebook
- 關於wolfspeed 在 科技產業資訊室 Facebook
- 關於wolfspeed 在 科技產業資訊室 Facebook
- 關於wolfspeed 在 Bryan Wee Youtube
- 關於wolfspeed 在 Travel Thirsty Youtube
- 關於wolfspeed 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube
- 關於wolfspeed 在 [新聞] SiC競賽正在加速,領導大廠Wolfspeed(前- 看板Stock 的評價
wolfspeed 在 科技產業資訊室 Facebook 八卦
電動車電子元件材料GaN和SiC相互競逐
保時捷(Porsche)新發表首款純電動跑車Taycan Turbo,其800V逆變器就是採用CREE旗下Wolfspeed生產的SiC MOSFET半導體,以改善能耗及快速充電。未來,氮化鎵(GaN)及碳化矽(SiC)等新世代半導體材料技術,內裝電子元件應用使用三五族化合物半導體在未來的科技應用具舉足輕重之地位。.....
wolfspeed 在 科技產業資訊室 Facebook 八卦
電動車電子元件材料GaN和SiC誰將勝出?
最近,保時捷(Porsche)新發表首款純電動跑車Taycan Turbo,其800V逆變器就是採用CREE旗下Wolfspeed生產的SiC MOSFET半導體,以改善能耗及快速充電。未來,氮化鎵(GaN)及碳化矽(SiC)等新世代半導體材料技術,內裝電子元件應用使用三五族化合物半導體在未來的科技應用具舉足輕重之地位。
但由於SiC晶體材料量產速度仍慢,目前仍限制在4吋與6吋,而在8吋上還無法量產,再加上成本仍遠高於傳統矽基材料。所以,預期在短期內導入SiC功率元件仍以高階電動車種為主,市場預估未來三~五年功率半導體市場仍將以傳統矽基材料元件為主流。....
http://iknow.stpi.narl.org.tw/Post/Read.aspx?PostID=16308
wolfspeed 在 [新聞] SiC競賽正在加速,領導大廠Wolfspeed(前- 看板Stock 的八卦
原文標題:
SiC競賽正在加速,領導大廠Wolfspeed(前身為Cree)棄LED而擁抱SiC
(請勿刪減原文標題)
原文連結:
https://bit.ly/2YLM4Sz
(請善用縮網址工具)
發布時間:
2021年10月12日
(請以原文網頁/報紙之發布時間為準)
原文內容:
SiC取代矽成為半導體基板材料的趨勢,在功率半導體的性能和節能化上取得更多廠商採
用的共識。尤其,SiC在純電動汽車和太陽能發電系統的變壓器等領域,應用範圍不斷擴
大。
為了在SiC產業創出一片天地,原本專注於LED業務的Cree於2021年10月4日正式改名為
Wolfspeed,並將其股票市場從那斯達克轉移到紐約證券交易所。
具有諷刺意味,2016年Cree試圖將專注於SiC和GaN功率和射頻晶片技術的Wolfspeed出售
給英飛凌公司,但卻被美國監管機構阻止。在過去一年間,Cree決定放棄其LED業務,並
專注於SiC的半導體公司,且投資超過10億美元用於SiC晶片的晶圓和代工產能。
根據Wolfspeed的規劃,其8吋Mohawk Valley晶圓廠預計於2022年上半年推出,以增加SiC
的產能,並可望在2024財務年度實現15億美元的營收目標。 總體來說,Wolfspeed以2017
財務年度為基準,計劃在2024財務年度將SiC晶圓製造量增加30倍。
目前市場上,除了Wolfspeed(前身為Cree)積極進軍SiC之外,其他公司也在做相同的事
情。例如:II-VI公司正在擴大其SiC基板產能,期望在五年內將生產能力提高十倍。
ROHM計劃於2022年在新的Apollo築後工廠投產,預計將其SiC產能提高五倍的目標。韓國
SK公司於2021年9月宣布,到2025年將在高科技材料上投資5.1兆韓圜。其中,7000億韓圜
將投資於SiC晶片,3000億韓圜用於GaN功率半導體。
為了強化在SiC的領導地位,意法半導體於2021年9月同意與Wolfspeed簽訂新的SiC晶圓供
應合同。不過,意法半導體為了減少對Wolfspeed依賴,正在擴大自己的SiC生產,甚至進
入8吋晶圓製造領域。
在鞏固客戶上,通用汽車於2021年10月初宣布與Wolfspeed就SiC功率器件解決方案的長期
供應,達成戰略供應商協議。通用汽車打算在其基於Ultium Drive的下一代電動車中轉向
更節能的SiC電力電子設備。
與通用汽車之SiC功率器件解決方案,將在Wolfspeed位於紐約Marcy的8吋晶圓的Mohawk
Valley工廠生產。隨著該工廠將於2022年初啟動,將顯著提升擴大Wolfspeed公司在SiC技
術的產能,也能夠協助美國建立更完善的電動車供應鏈。
總之,SiC晶圓是電動車、5G網路設備和太陽能發電機的功率半導體,不可或缺的一部分
。它們比矽晶片更耐高壓和耐熱,且有助於使半導體晶片更小。因此,SiC產業的競賽正
在加速到來。
心得/評論: ※必需填寫滿20字
投資第三代半導體,Cree改名為Wolfspeed,積極增加SiC晶圓產能,向電動車廠商供應功
率器件。
--
※ 發信站: 批踢踢實業坊(ptt.cc), 來自: 203.145.192.245 (臺灣)
※ 文章網址: https://www.ptt.cc/bbs/Stock/M.1634021607.A.162.html
... <看更多>