ไม่เคยติดเชื้อไวรัส! นักข่าวลงพื้นที่กว่า 30 ครั้ง
ต้องทำยังไง THE CURATOR ขอกันชวนอ่าน
---
ท่ามกลางภาวะ COVID-19 ระบาดไปทั่วเช่นนี้ เราน่าจะได้ยินคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนถึงวิธีการปฏิบัติตัวไม่ให้สุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อ และนี่คือคำแนะนำจาก ลอรี การ์เร็ตต์ (Laurie Garrett) ผู้สื่อข่าวด้านสาธารณสุข เคยคว้ารางวัล Pulitzer จากงานเขียนด้านวิทยาศาสตร์ เคยใช้ชีวิตอยู่ในประเทศจีนและฮ่องกงนานหลายเดือนในช่วงที่โรคซาร์ส (โคโรนาไวรัส SARS-CoV) ระบาดเมื่อปี 2003
การ์เร็ตต์เดินทางมายังจีนและฮ่องกงเพื่อสัมภาษณ์ผู้คนที่ติดเชื้อ หมอและพยาบาล ตลอดจนรัฐบาลหรือตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไวรัสนี้ การ์เร็ตต์ใช้เวลาอยู่ในประเทศจีนนานหลายเดือนเพื่อเก็บข้อมูล และไม่ติดเชื้อไวรัสซาร์สเลย แม้กระทั่งเมื่องานเสร็จและเธอเดินทางกลับตะวันตก
“ฉันไม่กังวลแม้สักนิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะมีโอกาสติดเชื้อหรือเปล่า ทั้งที่ใช้เวลาอยู่กับผู้ป่วยแบบตัวต่อตัวเยอะมาก” เธอว่า “นั่นเพราะฉันรู้ว่าควรป้องกันอย่างไร และนี่คือสิ่งที่ฉันอยากแนะนำค่ะ”
นี่คือ ’10 ข้อควรทำ’ ที่ช่วยให้การ์เร็ตต์รอดพ้นจากการติดโรคซาร์สเมื่อปี 2003 มาได้
1. สวมถุงมือทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน – อาจจะเป็นทั้งถุงมือยางหรือถุงมือสำหรับใส่ในฤดูหนาวก็ได้ สวมทุกที่ทั้งเมื่อใช้บริการรถไฟสาธารณะ รถเมล์และในสถานที่ต่างๆ
2. ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องถอดถุงมือออก – เช่น ต้องจับมือหรือกินอาหารในร้าน จำไว้ว่าห้ามยกมือขึ้นมาจับใบหน้าหรือดวงตาเด็ดขาด ไม่ว่าจะเกิดการคันหรือระคายเคืองแค่ไหน จงเอามือให้ห่างจากใบหน้ามากที่สุด และก่อนจะสวมถุงมือก็อย่าลืมล้างมือด้วยสบู่และน้ำอุ่นเสมอ ถูระหว่างนิ้ว แล้วจึงสวมถุงมือกลับไปใหม่ได้
3. เปลี่ยนถุงมือทุกวัน – ระหว่างนี้ก็ซักถุงมือไว้ได้ หลีกเลี่ยงการใช้ถุงมือที่ยังไม่แห้งด้วย
4. หน้ากากไม่ค่อยมีประโยชน์เมื่ออยู่นอกอาคาร และก็ไม่ค่อยช่วยอะไรเหมือนกันเมื่ออยู่ในตัวอาคาร – หน้ากากส่วนใหญ่เสื่อมสภาพลงหลังจากใช้แล้วหนึ่งหรือสองครั้ง การใช้หน้ากากซ้ำๆ กันจึงให้ผลลบยิ่งกว่าไม่ใช้เลยเสียอีกเพราะมันสกปรกไปแล้วทั้งยังเต็มไปด้วยแบคทีเรียที่อยู่แถวๆ จมูกและปากคุณ โดยส่วนตัวแล้วฉันแทบไม่ได้ใช้หน้ากากเลยในช่วงที่ซาร์สระบาด แถมฉันยังเคยผ่านการระบาดของโรคต่างๆ มาแล้วกว่า 30 ครั้งด้วย
อันที่จริง ฉันพบว่าวิธีที่ดีกว่าคืออยู่ให้ห่างจากฝูงชน และรักษาระยะหางกับทุกคนที่เข้ามาเสมออย่างน้อยก็ครึ่งเมตรหรือ 1.5 ฟุต เป็นมาตรฐานเลย แล้วก็ถ้ามีใครไอหรือจาม ฉันก็จะให้หน้ากากเขาไปสวมเพื่อป้องกันตัวเองจากละอองเสมหะที่หลุดออกมา แล้วจึงจากไป และอย่าไปจับมือหรือกอดคนเด็ดขาด ความสุภาพเป็นเรื่องรอง บอกเขาไปว่าการไม่จับมือหรือกอดน่าจะเป็นการดีสำหรับทั้งคุณและอีกฝ่ายมากกว่าในช่วงที่มีการระบาดแบบนี้
5. สำหรับเครื่องใช้ในบ้าน เอาผ้าเช็ดตัวหรือผ้าขนหนูใช้แล้วออกมาจากห้องน้ำและห้องครัวทันทีเมื่อใช้เสร็จ – และค่อยเอาผืนใหม่ที่สะอาดแล้วไปแทน ระบุชื่อของสมาชิกในครอบครัวลงไปแต่ละผืนด้วย ให้ทุกคนในบ้านใช้ผ้าของใครของมัน อย่าไปจับผ้าของคนอื่นๆ ในบ้านเด็ดขาด ซักผ้าเช็ดตัวเหล่านี้สัปดาห์ละสองครั้ง ผ้าเช็ดตัวชื้นๆ นี่แหละที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์อันดีของเหล่าไวรัส ทั้งหวัด ไข้หวัดใหญ่ รวมถึงโคโรน่าไวรัสด้วย
6. ระวังการใช้ลูกบิดอยู่เสมอ – เป็นไปได้ให้ปิดหรือเปิดประตูด้วยข้อศอกหรือไหล่เสมอ หากไม่ได้ก็ให้สวมถึงมือก่อนจับประตูหรือไม่ก็ล้างมือให้สะอาดหลังจับลูกบิด ถ้าใครในบ้านมีอาการป่วยขึ้นมา ก็ต้องเช็ดลูกบิดประตูอย่างสม่ำเสมอ อย่าลืมแถวๆ ราวบันได หน้าต่าง โทรศัพท์ ของเล่น คอมพิวเตอร์ หรืออะไรก็ตามที่มือคนเราจับได้ ตราบใดก็ตามที่คุณเป็นคนใช้อุปกรณ์ชิ้นนั้นคนเดียวก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ถ้าต้องไปใช้โทรศัพท์ เครื่องครัว หรือคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ของคนอื่น ก็ระวังอย่าเอามือมาแตะหน้า และอย่าลืมล้างมือในทันทีด้วยนะ
7. หากต้องกินอาหารร่วมกัน ใช้ตะเกียบและอุปกรณ์การครัวทุกอย่างแบบของใครของมันในการตักอาหารจากจานเสิร์ฟ – บอกเด็กๆ ว่าห้ามดื่มน้ำหรือนมจากภาชนะของคนอื่นเด็ดขาด แล้วโดยทั่วไปแล้ว ชาวจีนนิยมใช้ตะเกียบดึงกับข้าวจากจานกลางมาตักใส่จานของตัวเอง จำไว้ว่าห้ามทำเช่นนี้เด็ดขาดจนกว่าโรคระบาดจะหมดไป ให้ใช้ช้อนตักเสิร์ฟอาหารแต่ละชนิดลงในจานของใครของมัน อย่าใช้ตะเกียบหรืออุปกรณ์การครัวที่ต้องเข้าปากร่วมกับคนอื่น จากนั้นอย่าลืมทำความสะอาดห้องครัวทันที หลีกเลี่ยงการไปกินอาหารในร้านที่ดูไม่ถูกสุขลักษณะ
8. ไม่บริโภคเนื้อสัตว์แบบดิบๆ – รวมถึงเนื้อปลาด้วย จนกว่าจะรู้ว่ามันเป็นแหล่งกำเนิดของไวรัสหรือเปล่า
9. หากสภาพอากาศเป็นใจ อย่าลืมเปิดหน้าต่าง – ไม่ว่าจะในที่ทำงานหรือในบ้าน ให้อากาศได้ถ่ายเทบ้างเพราะไวรัสมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนักที่สถานที่โปร่ง แต่ถ้าวันนั้นอากาศหนาวหรือไม่ดีนัก ก็จงอยู่ในที่อบอุ่นและปิดหน้าต่างไว้ดีกว่า
10. หากมีสมาชิกในบ้านหรือเพื่อนที่เป็นไข้ – อย่าลืมสวมหน้ากากที่ป้องกันได้ดีเมื่อต้องอยู่ใกล้พวกเขา และถ้าต้องเอาหน้ากากใช้แล้วของผู้ป่วยไปทิ้งก็ต้องระมัดระวังให้มากๆ เพื่อผลประโยชน์ของคุณเอง อย่าลืมว่าหน้ากากนั้นเต็มไปด้วยเชื้อไวรัส หากต้องจับมันอย่าลืมสวมถุงมือยาง ทิ้งลงในถุงแล้วจึงปิดปากถุงให้สนิทแล้วค่อยทิ้งลงถังขยะ
หากต้องดูแลผู้ป่วย ให้สวมถุงมือยางระหว่างเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พวกเขาด้วยน้ำอุ่นและสบู่ ใช้ผ้าเช็ดตัวแบบใช้แล้วทิ้ง (อย่าลืมทิ้งในถุงแล้วปิดปากให้สนิท) สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวระหว่างดูแลผู้ป่วย ทำความสะอาดทุกอย่างที่ผู้ป่วยสวมหรือใช้ด้วยน้ำร้อนและสบู่ หากมีพื้นที่ก็ให้แยกผู้ป่วยออกไปอยู่ในห้องหนึ่งเป็นพิเศษหรืออยู่ตรงมุมห้องที่พวกเขาไม่อึดอัดเพื่อกันไม่ให้สมาชิกคนอื่นๆ ของบ้านติดไวรัสไปด้วย หากอากาศดีก็เปิดหน้าต่างจากอีกฝั่งหนึ่งของห้อง เพื่อที่ลมจะได้พัดผ่านผู้ป่วย แต่ถ้าอากาศไม่ดีก็ปิดหน้าต่างดีกว่าเพื่อไม่ให้พวกเขาป่วยหนักยิ่งกว่าเดิม
อ้างอิงข้อมูลจาก:
foreignpolicy.com
-----
👍 กดติดตามเพจ THE CURATOR ไม่พลาดข่าวสารและความรู้ดีๆ ที่เรา curate มาเพื่อคุณ ช่วงนี้มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ COVID-19 ที่เป็นประโยชน์มาให้อ่านจุใจแน่นอน ✌
#TheCurator
#BecauseTimeMatters
#LifelongLearningCommunity
Never been infected with the virus! More than 30 reporters on the ground.
What should I do? THE CURATOR. Let's ask me to read.
---
In the midst of this COVID-19 epidemic, we've heard several expert advice on how to take action from randomly taking leavening. Here's a recommendation from Lori Garrett (Laurie Garrett), a public health reporter. Used to win Pulitzer from Science Writing, living in China and Hong Kong for months during the SARS (Coronavirus SARS-CoV) epidemic in 2003
Garrett traveled to China and Hong Kong to interview people infected with doctors and nurses, government or police involved with this virus. Garrett has spent months in China to collect information and not infected with the SARS virus. Even when work is done and she travels back west
′′ I don't even worry if I have a chance to get infected, even I spend a lot of time with my own face-to-face patients She says That's because I know how to protect and this is what I want to recommend
Here are ' 10 Should Do s' that helped Garrett get rid of SARS in 2003
1. Wear gloves every time when you leave home - it may be rubber gloves or winter gloves. Wear anywhere when public rail service, buses and places.
2. If you are in a situation where you have to take your glove off - such as holding hands or eating food in a store. Remember, you can't put your hands on your face or eyes. No matter how itchy or irritating you are, take your hands off your face as long as you want. Don't forget to wash your hands with soap and warm water. Rub between your fingers and fingers and wear gloves back.
3. Change gloves every day - while washing gloves. Avoid using gloves that are not dry.
4. Masks are not useful when you are indoors and don't help anything. When you are in the building - most of the masks deteriorate after one or two uses. Repeatedly using the mask, it gives you more negative results than not using it. Because it's dirty, it's full of them. The bacteria around your nose and mouth. I personally don't have a mask during the SARS epidemic. And I've been through 30 of these diseases.
Infact, I found a better way to stay away from the crowd and keep the tail between everyone who comes in, at least half a meter or 1.5 ft. And if anyone coughs or sneezes, I'll put their mask on to protect themselves. From a mucus drizzle, go away and don't hold hands or hug a person. Courteousness is a second. Tell him that no handshake or hug would be better for you and the other than during this outbreak.
5. For home appliances, take a towel or towel immediately out of your bathroom and kitchen when you're done - and take a clean new one instead. Identify your family member's name. Let everyone in their home use their clothes. Don't go. Catching other people's clothes in the house. Washing clothes. Twice a week. Humid towel. This is a good breeding source of viruses. Influenza and coronavirus.
6. Always be careful of using knobs - it's possible to close or open the door with elbows or shoulders. If you don't get it, you should wear it before you hold the door or wash your hands. If anyone in the house has an illness, you need to be Always wipe your door knobs. Don't forget around the row, stairs, windows, phones, toys, computer, or whatever your hand can handle. As long as you're the only one using that device, it's okay. But if you have to use your phone, cookware or computer keyboard, please be careful. Don't touch your face and don't forget to wash your hands immediately.
7. If you have to eat together, use chopsticks and kitchen supplies. Anyone else's type to scoop food from a serving plate - tell kids that you don't drink water or milk from other people's containers. Chinese people generally use chopsticks to pull rice. From medium to medium plate, let's take it on your own plate. Remember, don't do this until the plague is gone. Use a spoon to serve each food in its own plate. Don't use chopsticks or kitchen equipment to join other people. Don't forget to clean your kitchen immediately. Avoid eating in a restaurant that doesn't look hyg
8. not consuming raw meat - including fish meat, until you know if it's a viral source.
9. If the weather is a heart, don't forget to open the window - either at work or in the home, let the weather be temporarily because the virus is not alive at all. But if it's cold or bad, stay warm and close the window. It's better to keep it.
10. If you have a home member or friend who has a fever - don't forget to wear a mask that protects well when you are near them. If you have to put away your patients, you need to be very careful for your own benefit. Don't forget that the mask is full of virus. Don't forget to put rubber gloves in your bag and close your mouth to the bag and then throw it in the garbage.
To take care of patients, wear rubber gloves between wiping them with warm water and disposable towel soap. (Don't forget to leave them in the bag and close your mouth). Wear long sleeve shirts and trousers while taking care of their patients. Wear or use with hot water and soap. If you have space, separate patients in one room or in a corner of a room where they are uncomfortable. Other members of the house are infected with virus. If the weather is good, open the window from the other side. One of the rooms so that the wind can blow through the patients. But if the weather is bad, better close the windows so they won't be sick even more.
Reference from:
foreignpolicy.com
-----
👍 Follow THE CURATOR page. Don't miss the good news and knowledge that we curate for you. There are some useful COVID-19 content that you can read. ✌
#TheCurator
#BecauseTimeMatters
#LifelongLearningCommunityTranslated
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
「what is computer virus」的推薦目錄:
- 關於what is computer virus 在 Orn BNK48 Facebook
- 關於what is computer virus 在 Hapa Eikaiwa Facebook
- 關於what is computer virus 在 Hapa Eikaiwa Facebook
- 關於what is computer virus 在 Bryan Wee Youtube
- 關於what is computer virus 在 Travel Thirsty Youtube
- 關於what is computer virus 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube
- 關於what is computer virus 在 What is a Computer Virus? - YouTube 的評價
what is computer virus 在 Hapa Eikaiwa Facebook 八卦
=================================
パソコンやネットで問題発生!そんな時は英語でこう言おう
=================================
パソコンやスマートフォンを使うのがあたり前の現代、ネット接続が遅かったり、ホームページの表示がおかしくなったり、パソコンが急に動作しなくなったりした経験は誰もがあるかと思います。 今日はそのようなトラブルにまつわる英語をご紹介します。
--------------------------------------------------
1) Lag
→「〜が遅い」
--------------------------------------------------
Lagは「遅れる」を意味する単語で、パソコンやスマートフォンの動作が遅いことを表します。例えば、パソコンの起動が遅かったり、ホームページが中々表示されなかったり、スカイプの会話中にネット接続が悪くなって会話に時間差がでるといった状況で使われます。特に古いパソコンやウィルスに感染されたパソコンがよくLagします。
<例文>
My computer is lagging.
(私のパソコンは遅いです。)
Is your internet lagging?
(ネット遅くないですか?)
This YouTube video is lagging. It's so annoying.
(このYouTubeの動画遅い。イライラする。)
--------------------------------------------------
2) Glitch
→「(一瞬)バグる」
--------------------------------------------------
Glitchはパソコンやフマートフォンの突然の誤動作(バグ)を表します。基本的に変な動作が“一瞬だけ”起こることを意味します。例えば、ホームページを開いたら全体のレイアウトがおかしくなっていたり、プログラムが誤動作を起こしたときに、リフレッシュをしたら正常に機能する場合で使われます。
<例文>
I think it was a glitch.
(一瞬バグったと思います。)
It looks like a glitch in the system. Let's restart it.
(システムの一時的な誤動作だと思います。再起動しましょう。)
We fixed the small glitch in the program.
(プログラムのバグを直しました。)
--------------------------------------------------
3) Freeze
→「フリーズする」
--------------------------------------------------
Freezeは本来「凍る」を意味することから、パソコンやスマートフォンが動かなくなる(機能しなくなる)ことを表します。メモリーが少ないパソコン、ウェイルスに感染されたパソコン、または様々なソフトやアプリを同時に開き過ぎた場合によくFreezeします。
<例文>
My computer froze. I need to restart it.
(パソコンがフリーズしました。再起動しないといけません。)
My laptop keeps freezing. I might have a virus.
(パソコンが常にフリーズします。ウィルスに感染されたかもしれません。)
My phone froze. What should I do?
(携帯がフリーズした。どうしよう?)
--------------------------------------------------
4) No reception
→「圏外」
--------------------------------------------------
Receptionは携帯電話の電波の「受信状態」を意味し、電波が届かない場所にいることを英語で「I have no reception」と表します。但し、Receptionは携帯電話の電波のことを指し、ネットに繋がらないときは「My internet is not working.」のように表します。
✔「圏外」 → 「I have no reception / I don't have reception」
✔「電波が悪くなってきた」 → 「I'm losing reception.」
<例文>
I have no reception. What about you?
(私は圏外です。あなたは?)
I'm going to lose reception soon. I'll call you back.
(圏外になるので、また後で折り返します。)
Is your internet working?
(ネット使えますか?)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
無料メルマガ『1日1フレーズ!生英語』配信中!
通勤・通学などのちょとした合間を利用して英語が学べるメルマガ『1日1フレーズ!生英語』を平日の毎朝6時に配信中!ただ単にフレーズを紹介しているだけではなく、音声を使った学習プロセスが組み込まれているので、メルマガを読むこと自体が学習方法!
https://hapaeikaiwa.com/mailmagazine/
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
what is computer virus 在 Hapa Eikaiwa Facebook 八卦
=================================
パソコンやネットで問題発生!そんな時は英語でこう言おう
=================================
パソコンやスマートフォンを使うのがあたり前の現代、ネット接続が遅かったり、ホームページの表示がおかしくなったり、パソコンが急に動作しなくなったりした経験は誰もがあるかと思います。 今日はそのようなトラブルにまつわる英語をご紹介します。
--------------------------------------------------
1) Lag
→「〜が遅い」
--------------------------------------------------
Lagは「遅れる」を意味する単語で、パソコンやスマートフォンの動作が遅いことを表します。例えば、パソコンの起動が遅かったり、ホームページが中々表示されなかったり、スカイプの会話中にネット接続が悪くなって会話に時間差がでるといった状況で使われます。特に古いパソコンやウィルスに感染されたパソコンがよくLagします。
<例文>
My computer is lagging.
(私のパソコンは遅いです。)
Is your internet lagging?
(ネット遅くないですか?)
This YouTube video is lagging. It's so annoying.
(このYouTubeの動画遅い。イライラする。)
--------------------------------------------------
2) Glitch
→「(一瞬)バグる」
--------------------------------------------------
Glitchはパソコンやフマートフォンの突然の誤動作(バグ)を表します。基本的に変な動作が“一瞬だけ”起こることを意味します。例えば、ホームページを開いたら全体のレイアウトがおかしくなっていたり、プログラムが誤動作を起こしたときに、リフレッシュをしたら正常に機能する場合で使われます。
<例文>
I think it was a glitch.
(一瞬バグったと思います。)
It looks like a glitch in the system. Let's restart it.
(システムの一時的な誤動作だと思います。再起動しましょう。)
We fixed the small glitch in the program.
(プログラムのバグを直しました。)
--------------------------------------------------
3) Freeze
→「フリーズする」
--------------------------------------------------
Freezeは本来「凍る」を意味することから、パソコンやスマートフォンが動かなくなる(機能しなくなる)ことを表します。メモリーが少ないパソコン、ウェイルスに感染されたパソコン、または様々なソフトやアプリを同時に開き過ぎた場合によくFreezeします。
<例文>
My computer froze. I need to restart it.
(パソコンがフリーズしました。再起動しないといけません。)
My laptop keeps freezing. I might have a virus.
(パソコンが常にフリーズします。ウィルスに感染されたかもしれません。)
My phone froze. What should I do?
(携帯がフリーズした。どうしよう?)
--------------------------------------------------
4) No reception
→「圏外」
--------------------------------------------------
Receptionは携帯電話の電波の「受信状態」を意味し、電波が届かない場所にいることを英語で「I have no reception」と表します。但し、Receptionは携帯電話の電波のことを指し、ネットに繋がらないときは「My internet is not working.」のように表します。
✔「圏外」 → 「I have no reception / I don't have reception」
✔「電波が悪くなってきた」 → 「I'm losing reception.」
<例文>
I have no reception. What about you?
(私は圏外です。あなたは?)
I'm going to lose reception soon. I'll call you back.
(圏外になるので、また後で折り返します。)
Is your internet working?
(ネット使えますか?)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
無料メルマガ『1日1フレーズ!生英語』配信中!
通勤・通学などのちょとした合間を利用して英語が学べるメルマガ『1日1フレーズ!生英語』を平日の毎朝6時に配信中!ただ単にフレーズを紹介しているだけではなく、音声を使った学習プロセスが組み込まれているので、メルマガを読むこと自体が学習方法!
https://hapaeikaiwa.com/mailmagazine/
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
what is computer virus 在 What is a Computer Virus? - YouTube 的八卦
0:25 What is a virus? " Computer virus " is usually the term most people use when referring to malware or malicious software. · 1:13 What are the ... ... <看更多>