กรณีศึกษา บัตรเครดิต AMERICAN EXPRESS / โดย ลงทุนแมน
เคยสงสัยไหมว่าเมื่อก่อน ทำไมกระเป๋าสตางค์ที่วางขาย ในช่องเสียบนามบัตร ต้องมีกระดาษบัตรเครดิตตัวอย่างสีเขียวๆ ในบัตรนั้นจะมีรูปนักรบโรมันหันข้าง
บัตรที่ว่านี้เป็นยี่ห้ออะไร แล้วทำไมไม่ค่อยเห็นในเมืองไทย
ในโลกของเรา มีผู้ให้บริการบัตรเครดิตอยู่ไม่กี่ราย
นอกจาก VISA, Mastercard และ UnionPay ที่มีจำนวนผู้ใช้มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว
ในสหรัฐอเมริกาจะมีอยู่อีกบัตรหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
นั่นก็คือ AMERICAN EXPRESS
บัตรเครดิตนี้มีอายุกว่า 60 ปี และเป็นบัตรเครดิตที่เกิดขึ้นเป็นบัตรแรกๆ ของโลก
นอกจากนั้น AMERICAN EXPRESS ยังถือเป็นหนึ่งในบัตรเครดิตที่ขอทำบัตรยากที่สุดอีกด้วย
แล้ว AMERICAN EXPRESS เหมือน หรือต่างจาก VISA, Mastercard อย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
น่าจะมีผู้อ่านหลายท่านรู้จัก AMERICAN EXPRESS
แต่ก็น่าจะมีอีกหลายท่านที่ไม่รู้จักว่ามันคืออะไร
AMERICAN EXPRESS บางคนอาจจะคิดว่าเป็นบริษัทขนส่งอะไรสักอย่าง
ซึ่งก็ถูกครึ่งหนึ่งเพราะ AMERICAN EXPRESS เดิมเคยเป็นบริษัทขนส่งไปรษณีย์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาอยู่ช่วงหนึ่งนั่นเอง
พอพูดเรื่องไปรษณีย์ ก็จะมีอีกคำหนึ่งชื่อว่า “ธนาณัติ”
เช่นเดียวกัน คำนี้หลายท่านอาจรู้จักเพราะเคยใช้ในสมัยก่อน แต่เด็กรุ่นใหม่ไม่น่าจะรู้จักกันแล้ว
ธนาณัติ ก็คือ บริการส่งเงินให้กับผู้รับปลายทาง ซึ่งแทนที่ไปรษณีย์จะส่งพัสดุ แต่เปลี่ยนมาเป็นส่งเงินนั่นเอง
ยกตัวอย่างในสมัยก่อน คนต่างจังหวัดมาทำงานที่ กทม. ทำงานแล้วได้เงินเดือนอยากส่งเงินกลับบ้านที่ต่างจังหวัดให้ครอบครัว คนนั้นก็ไปที่ไปรษณีย์ส่งธนาณัติระบุที่อยู่ต่างจังหวัด
หลังจากนั้นครอบครัวก็จะได้รับแจ้งทางจดหมายว่ามีธนาณัติส่งมา ให้ไปรับเงินจากไปรษณีย์ได้ โดยทางไปรษณีย์ก็เก็บค่าธรรมเนียมการส่งเพื่อเป็นค่าบริการ
เรื่องนี้ถ้ามาพูดให้เด็กสมัยนี้ฟังคงหัวเราะ เพราะตอนนี้ทุกคนสามารถกดโอนเงินหากันได้ภายในเสี้ยววินาที
แต่สำหรับสมัยก่อนแล้วไปรษณีย์จะมีบทบาทมากต่อธุรกรรมการเงิน
และสำหรับ AMERICAN EXPRESS ก็เช่นกัน
จากธุรกิจขนส่งไปรษณีย์ AMERICAN EXPRESS ได้เริ่มเข้าสู่วงการการเงินในปี ค.ศ. 1857 โดยเริ่มจากการทำเช็คสำหรับการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผู้ออกเช็คเพียงไม่กี่บริษัทที่ได้รับความไว้วางใจในยุโรป
เมื่อคนอเมริกันจะเดินทางก็ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก เพียงแค่ถือเช็คแล้วไปขึ้นเงินกับธนาคารที่ปลายทาง แล้วธนาคารปลายทางจึงค่อยเรียกเก็บเงินจาก AMERICAN EXPRESS
และวิวัฒนาการของเช็คสำหรับเดินทางก็ได้กลายมาเป็นบัตรเครดิตในเวลาต่อมา
AMERICAN EXPRESS เริ่มธุรกิจบัตรเครดิตในปี ค.ศ. 1957 ตามหลัง Diners Club บัตรเครดิตแรกของโลก 7 ปี
อย่างไรก็ตาม AMERICAN EXPRESS ที่มาทีหลังกลายเป็นบัตรที่ได้รับความนิยมมากกว่าและครองตลาดบัตรเครดิตในช่วงนั้น ก่อนที่ VISA และ Mastercard จะเริ่มธุรกิจตามมาในภายหลัง
แต่ในช่วงที่ AMERICAN EXPRESS ครองตลาดอยู่นั้น ได้ประสบปัญหาใหญ่
ในปี ค.ศ. 1963 ลูกหนี้รายใหญ่ของ AMERICAN EXPRESS ที่ชื่อว่า Allied Crude Vegetable Oil ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันพืช ได้ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักจนไม่สามารถชำระหนี้ได้
โดยประเด็นในตอนนั้นก็คือ บริษัทนี้ได้มากู้เงินกับ AMERICAN EXPRESS โดยใช้น้ำมันสลัดเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน อย่างไรก็ตามในความเป็นจริง เรือที่เก็บน้ำมันสลัด มีแต่น้ำเปล่า โดยมีแค่น้ำมันสลัดอยู่ด้านบนเท่านั้น
เรื่องนี้ส่งผลให้ AMERICAN EXPRESS ต้องเสียเงินกว่า 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ราคาหุ้นของ AMERICAN EXPRESS นั้นตกลงมากกว่า 50%
แต่ในเวลานั้นมีอยู่คนหนึ่งที่เห็นถึงศักยภาพของ AMERICAN EXPRESS และเชื่อว่า AMERICAN EXPRESS นั้นจะสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้
และเขาคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของโลกที่มองเห็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นของ AMERICAN EXPRESS ในเวลานั้น
แล้วบริษัทนี้มีดีอะไร ทำไม วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล้าที่จะเข้าลงทุนในช่วงที่กิจการมีแต่ข่าวร้าย?
หลังจากที่เปิดตัวบัตรเครดิตไปไม่นาน AMERICAN EXPRESS ก็กลายเป็นบัตรที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกาอย่างมาก
ในช่วงที่บริษัทเกิดปัญหาในปี ค.ศ. 1963
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เข้าไปสังเกตที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งว่า ลูกค้าแต่ละคนชำระเงินด้วยวิธีใด
และแน่นอนคำตอบก็คือ เขาสังเกตเห็นหลายคนชำระด้วยบัตร AMERICAN EXPRESS
ทำให้เขามั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแค่ชั่วคราว ในที่สุดบริษัทจะกลับมาทำกำไรได้เหมือนเดิม
และก็เป็นอย่างนั้นจริง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ทำกำไรได้มหาศาลจากการลงทุน AMERICAN EXPRESS ในครั้งนั้น
จุดเด่นของ AMERICAN EXPRESS ก็คือ การดูแลลูกค้าอย่างดี มีความน่าเชื่อถือ
และมีข้อเสนอที่น่าจูงใจทั้งรางวัล และสิทธิประโยชน์ต่างๆ
และแน่นอนว่าหลังจากได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา
AMERICAN EXPRESS ก็เริ่มเป็นที่ยอมรับในระดับสากลทั่วโลกในเวลาต่อมา
ซึ่งเรื่องนี้ได้กลายเป็นต้นแบบการบริการให้กับผู้ออกบัตรเครดิตหลายรายในปัจจุบัน
หากถามว่า คู่แข่งของ AMERICAN EXPRESS คือใคร หลายคนคิดว่าเป็น VISA และ Mastercard แต่ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะโมเดลธุรกิจของ AMERICAN EXPRESS ไม่เหมือน VISA และ Mastercard ซึ่งทั้ง 2 รายนี้เป็นเพียงตัวกลางในการชำระเงินระหว่างธนาคารเท่านั้น
ทั้ง 2 บริษัทนี้ ไม่ใช่คนที่ออกบัตรเครดิต ไม่ใช่คนที่เสนอรางวัลหรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ลูกค้า
คนที่จะใช้ VISA หรือ Mastercard ต้องออกบัตรเครดิตผ่าน Third Party เช่น ธนาคาร
แต่สำหรับ AMERICAN EXPRESS นั้น รับบทเป็นทั้ง ผู้ออกบัตรเอง เสนอสิทธิประโยชน์เอง และยังมีระบบการชำระเงินเป็นของตัวเองด้วย ซึ่งระยะหลัง AMERICAN EXPRESS เริ่มร่วมมือกับบางธนาคารแต่ก็ยังน้อยอยู่เมื่อเทียบกับ VISA หรือ Mastercard
แล้วปัจจุบัน มีคนใช้งาน AMERICAN EXPRESS มากแค่ไหน?
ในปี 2018
AMERICAN EXPRESS มีผู้ใช้งาน 110 ล้านคนทั่วโลก
VISA มีผู้ใช้งาน 788 ล้านคน
Mastercard มีผู้ใช้งาน 668 ล้านคน
ซึ่งแน่นอนว่าผู้ใช้งาน AMERICAN EXPRESS ยังตามหลัง VISA และ Mastercard อยู่พอสมควร สาเหตุหลักก็เพราะใช้คนละโมเดลธุรกิจกัน
VISA และ Mastercard ไม่ต้องหาลูกค้าเอง แต่มีพันธมิตรเป็นธนาคารท้องถิ่นทุกแห่งทั่วโลกที่ช่วยหาลูกค้า
สำหรับ AMERICAN EXPRESS โดยส่วนใหญ่ต้องหาลูกค้าเอง และเน้นลูกค้าในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ซึ่งก็ส่งผลให้มีจุดรับชำระเงินในต่างประเทศน้อย รวมถึง AMERICAN EXPRESS ยังค่อนข้างเข้มงวดในการออกบัตรอีกด้วย
แล้วบัตร AMERICAN EXPRESS นั้นขอยากแค่ไหน?
สำหรับในปัจจุบัน การที่จะได้ครอบครองบัตร AMERICAN EXPRESS นั้นไม่ง่ายเหมือนบัตรเครดิตทั่วไป เพราะ AMERICAN EXPRESS มีเกณฑ์ในการพิจารณาค่อนข้างสูง และยังมีค่าธรรมเนียมรายปีที่สูงอีกด้วย
เริ่มจาก Green Card ซึ่งเป็นแบบที่ของ่ายที่สุดของ AMERICAN EXPRESS จะมีค่าธรรมเนียมปีละ 4,500 บาท
แต่สำหรับ Centurion Card หรือ Black Card ที่เป็นบัตรสูงสุดของ AMERICAN EXPRESS มีค่าธรรมเนียมต่อปีอยู่ที่ประมาณ 75,525 บาท
โดยผู้สมัครจะต้องได้รับเชิญเท่านั้น และมีคุณสมบัติคือ ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต AMERICAN EXPRESS มากกว่า 8 ล้านบาทต่อปี และมีรายได้มากกว่า 30 ล้านบาทต่อปี..
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่า รายได้หลักของ AMERICAN EXPRESS นั้น ต้องมาจากค่าธรรมเนียมรายปี แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เรามาดูรายได้ของ AMERICAN EXPRESS กัน
ปี 2016 รายได้ 1.07 ล้านล้านบาท กำไร 0.16 ล้านล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 1.11 ล้านล้านบาท กำไร 0.83 ล้านล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 1.22 ล้านล้านบาท กำไร 0.21 ล้านล้านบาท
โดยในปี 2018 นั้น AMERICAN EXPRESS มีรายได้สูงสุดมาจาก ค่าธรรมเนียมที่หักจากการรูดบัตรตามร้านค้าพันธมิตร หรือพูดง่ายๆ ว่าคือ ส่วนแบ่งที่ AMERICAN EXPRESS ได้จากร้านค้าในทุกครั้งที่รูดบัตรนั่นเอง
ซึ่งค่าธรรมเนียมจากการรูดบัตร คิดเป็น 61% ของรายได้ทั้งหมด
ในขณะที่ค่าธรรมเนียมรายปีและค่าบริการอื่นๆ นั้นอยู่ที่ 20%
และรายได้จากดอกเบี้ยนั้นคิดเป็น 19%
ดังนั้นจุดประสงค์หลักของ AMERICAN EXPRESS อาจไม่ได้ต้องการเน้นเพิ่มสมาชิกเหมือนบัตรรายอื่นๆแต่ต้องการเน้นที่ยอดการชำระเงิน.. โดยในปี 2018 AMERICAN EXPRESS เป็นบัตรที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดในสหรัฐอเมริกา ถึงกว่า 23 ล้านล้านบาท
สำหรับคนไทย บัตร AMERICAN EXPRESS น่าจะตอบโจทย์คนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เพราะ AMERICAN EXPRESS นั้นให้สิทธิประโยชน์มากมาย ตัวอย่างเช่น สิทธิ์ในการใช้ Lounge ของสายการบินต่างๆ ซึ่งอาจจะมีมูลค่ามากกว่าค่าธรรมเนียมรายปี เสียอีก..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
เลขตัวแรกของบัตรเครดิต หมายถึงระบบในการชำระเงิน
โดย AMERICAN EXPRESS เป็นเลข 3
ส่วน VISA เป็นเลข 4
และ Mastercard เป็นเลข 5
ลองเปิดบัตรเครดิตในกระเป๋าของเราดูสิว่าจริงหรือไม่?
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.forbes.com/sites/johnnyjet/2017/07/28/american-express-centurion-black-card-review/#627f71367055
-https://www.investopedia.com/articles/markets/012715/how-american-express-makes-its-money.asp
-https://money.howstuffworks.com/personal-finance/debt-management/credit-card1.htm
-https://nilsonreport.com/publication_chart_and_graphs_archive.php?1=1&year=2018
-https://ir.americanexpress.com/Cache/1001249812.PDF?O=PDF&T=&Y=&D=&FID=1001249812&iid=102700
-http://www.snl.com/Cache/c396734150.html
-https://theconservativeincomeinvestor.com/what-if-warren-buffett-held-onto-the-american-express-stock-he-bought-in-1963/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Salad_Oil_scandal
-https://www.discover.com/credit-cards/resources/what-is-a-credit-card-number/
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過331萬的網紅Khoa Pug,也在其Youtube影片中提到,Giả nghèo cầm 500 triệu vào mua đồng hồ Rolex tại Thượng Hải và cái kết quá nhục nhã. - Mình ăn mặc khá bình thường, vì thời tiết lạnh, vào mua đồng h...
「visa stock」的推薦目錄:
visa stock 在 粘拔的幸福碎碎念 Facebook 八卦
整理得很好
【**川普做了哪些40年來其他總統沒做的事?**】中共就是這幾任包括柯林頓,小布希,歐巴馬給搞到為所欲為,不管川普是否連任,這4年能夠把中共搞到崩潰邊緣,他真的不簡單!
**這裡整理幾點,他做了那些前任總統沒做的事?**
**1. 讓反共成為美國共識:**
* 正式公開承認過去幾十年對中政策的錯誤,並將中國與中共分開,認定中共所領導的中國為「有別於民主」的獨裁國家,視其為「新威權主義」
**2. 讓反共成為民主自由國家共識:**
* 呼籲並整合西方國家,在民主自由與極權暴政之間只能選邊站,價值觀勝過經濟誘因
* 在這次疫情,願意第一個出來講真話,讓我們不用活在指鹿為馬的世界,指出就是因為中共隱匿疫情,造成全球染疫超過千萬,死亡超過50萬人,經濟停擺,損失無可計算,四億多全職工作消失不復返,生活模式改變
* 甚至,他點出了 [#宗教自由](https://www.facebook.com/…/%E5%AE%97%E6%95%99%E8%87%AA%E7%9…),喚醒我們與中共的差別,西方民主國家不要忘記我們的價值觀,行善止惡的重要性
**3. 斷絕中共資金來源:**
* 進行貿易戰,提高關稅,迫使各國紛出走中國
* 提供優惠措施,輔導美企出走中國
* 嚴審中概股,逼迫中企會計公開透明,被迫在自由市場滅頂
* 限制經由香港的資金流動
* 對中國敏感科高科技出口禁令擴展到香港
* 下令美聯邦退休基金撤出中國,禁止用美國公務及老兵的退休基金去投資中國,使其製造武器來威脅美國人/士兵生命,過去幾任總統都是這樣做
* 美國八成假貨來自中港,不但危害智慧產權,消費者安全,更打擊市場公平性,川普對這些產品進行關稅制裁
* 進行《香港自治法》的簽署: 潛在制裁對象還首度包括國際金融機構,可導致中港銀行無法與美國銀行交易、不能使用美元結算,以打擊中港方資金鏈
**4. 斷絕中共技術來源,消滅「中國製造2025」:**
* 抵制中興、華為及與中共及解放軍有關係的中企
* 阻斷中國晶片來源,沒了心臟,所有設備根本出不了中國
* 對美國涉及千人計劃的學者、科學家開鍘,並對源頭中國駐美使館進行公開譴責
* 反制習近平「軍民融合戰略」竊取高科技,針對中國公民和學生進行簽證禁令,禁止具任何解放軍背景公民、學生與研究人員的再入境,撤銷簽證,甚至逮捕,一解放軍軍官以學術研究到美,在機場被捕,面臨最高10年刑期
* 正在進行「年度國防授權法案 (NDAA)」的簽署: 公布竊取美商業機密、威脅國家安全或經濟健康的個人或公司名單,[#向竊取技術的企業實施懲罰](https://www.facebook.com/…/%E5%90%91%E7%AB%8A%E5%8F%96%E6%8…),包括凍結他們在美國的資產,及禁止美國公民與這些公司和個人進行交易的制裁,還包括加強美國供應鏈的措施,以及擴大與中國導彈防禦系統整合的限制
**5. 5G:**
* 正式宣布華為國安威脅,目前世界已有多國正式宣布不用華為進行5G基礎建設,這對全世界各國國家安全極為重要,菲律賓即因電網用華為設備,中共可遠端停電菲律賓48小時
* 美憂中國監視及竊盜資料,海纜准通台灣,不准通香港
**6. 印太戰略**
* 美國對中國擴張問題,不再只是內容空泛的抱怨,反而是堅強的執行意志。從新加坡李顯龍公開表示,希望華府不要逼新加坡與東協在美、中兩國選邊,很明顯就是針對美國印太戰略在發言
* 美國正在亞太地區部署前所未見的軍力,目前美軍部署在亞太地區的兵力為37.5萬人,占美軍總兵力的28%,其中包括60%的海軍艦艇、55%的陸軍部隊,以及2/3的陸戰隊兵力
* 美國前總統歐巴馬8年任期中,在南海只執行4次航行自由行動,然而川普上任迄今四年已執行22次,是歐巴馬的11倍
**7. 台灣**
* 稱蔡英文為台灣總統,國務卿蓬佩奧公開稱讚台灣在民主自由的貢獻,並支持台灣加入WHO等國際組織
* 台灣被確認是美國印太戰略核心夥伴,公開邀請參加八月南海軍演
* 2016年共和黨首度將《六項保證》納入黨綱
* 《台北法案》: 內容涵蓋台灣對外關係、美台經貿關係和台灣參與國際組織,增強美台雙邊經貿關係,並要求美政府促進台灣國際參與
* 《2018年亞洲再保證倡議法》其中第209條款「對台灣之承諾」重申支持美國與台灣在政治、經濟及安全的合作,規定「美國總統應依來自中國之威脅而定期對台軍售」
* 《台灣旅行法》: 促進兩國高層交流
* 重啟台美FTA談判
* 美方加強參與台灣國艦國造
* 軍售台灣: 18枚MK-48 AT重型魚雷,66架F-16戰機,派里級巡防艦、AAV7兩棲突擊車、人攜刺針飛彈250枚、拖式2B型飛彈769枚、標槍飛彈及迅安系統後續支援,HARM反輻射飛彈50枚、聯合距外武器(JSOW)空對地飛彈56枚、MK48魚雷46枚、標準二型(SM-2)飛彈16枚、MK54輕型魚雷168枚、4艘紀德級驅逐艦AN /SLQ-32(V)3電戰系統性能提升、SRP偵蒐雷達後續維持、MK41垂直發射系統,C-130 運輸機、F-5 戰鬥機、經國號戰鬥機,M1A2T戰車、M88A2裝甲救濟車、M1070A1 重裝備運輸車、M1000 重裝備運輸板車、FIM-92刺針便攜式防空飛彈、122把M2重機槍、216把M240通用機槍
* 進行《台灣防衛法》的簽署: 確保美軍有能力保護台灣安全,包括評估採取有限核武來嚇阻中國
**8. 香港**
* 制裁傷害香港自治的中港官員,包括: 中共政治局常委,負責港澳事務的韓正,加速中共高層內部的分裂
* 通過《香港人權與民主法》,撤銷香港特別待遇,包括禁止出口軍民兩用技術到香港
* 著手撤銷香港在引渡條例、出口管制、旅遊及獨立關稅區地位等領域所享有的特殊待遇
* 進行《香港自治法》的簽署: 對破壞香港自治的中港官員,凍結其在美資產,禁止入境美國;潛在制裁對象還首度包括國際金融機構,可導致中港銀行無法與美國銀行交易、不能使用美元結算,以打擊中港方資金鏈
**9. 新疆**
* 2019年10月,美國宣布將28個打壓新疆穆斯林的中企列入黑名單
* 2020年5月,美國宣布將中國公安部法醫研究所和8家中企列入經濟黑名單,並將33個協助中國政府監控維族,或與中國解放軍及大規模殺傷性武器有關聯的企業、機構、個人列入黑名單
* 通過《2020 年維吾爾人權政策法案》,呼籲禁止在中國境內外對這些族群的任意拘留、酷刑和騷擾,將制裁監禁超過百萬穆斯林的中國官員,制裁手段包括:凍結中國有關官員的在美財產、拒絶他們入境、拒發或取消簽證
**10. 媒體:**
* 今年2月,美國已將新華社、中國環球電視網(CGTN)、中國國際廣播電台(CRI)、《中國日報》發行公司,以及《人民日報》發行商美國海天發展公司列為外國使團
* 今年3月,美國要求削減60位中國籍記者
* 今年4月,白宮史無前例地批評美國之音為中國政府做宣傳。新任執行長在6月初通過國會核准,原本貝內特(Amanda Bennet)在內多名美國之音高管宣佈辭職
* 今年5月,美國限制中國籍記者簽證90天
* 今年5月,川普與推特等社群媒體槓上,怒斥打壓言論自由
* 今年7月,新增4家中共官媒為外國使團,包括: 中央電視台(CCTV)、中國新聞社(中新社)、《人民日報》和《環球時報》,從此需向美國國務院提供在美員工的名單及他們在美租賃或持有的房地產清單
**11. 疫情前,2019年底的美國經濟表現**
* 失業率維持在 3.5%,創 1969 年以來新低
* 執政 3 年美股飆逾 50%,高居歷屆總統第一
* 招聘人數的增加和工資的上漲推動了消費者支出,消費者支出占美國經濟的三分之二以上
* 美國是2019年G7唯一經濟增速將超過2%的國家
* 至2019年12月,美國經濟已連續第126個月持續增長,是有記錄以來最長的經濟增長期
* 美國股市的總市值攀升至創紀錄,1.5倍於其GDP
* 強勁的美國經濟在2019年繼續吸引來自世界各地的投資,使美元匯率升至歷史新高
**12. 國際組織**
* 川普大聲譴責目前「過於以中國為中心」的國際機構,包括WHO等
* 以行動退出世衛及拒絕提供資金後,世衛終於在6月30日承認中國並非第一個告知疫情,也就是中共違反世界衛生條例,並沒有在24小時內告知世衛,也代表全球都有法源依據跟中共求償
* 川普政府的國家安全小組甚至在考慮建立一個全新的國際衛生組織,以使美國能擁有更大影響
* WTO秘書長突然在今年5月辭職
* 川普表示: 聯合國是一個過時的組織。暗示應成立一個以民主自由國家,有共同價值觀為前提的組織,並開始邀請各國參加G11
What did Trump do that the former presidents did not do?
1. Making Anti-CCP a consensus in the United States:
* Formally and publicly acknowledged the mistakes of the China policy over the past few decades, separated China from CCP, and regarded China led by CCP as a dictatorship, different from democracy countries
2. Making Anti-CCP a consensus in the democratic and free nations:
* Appealed the democratic and free nations to stand together against CCP. Western countries is forced by CCP to choose side between persistence in freedom and acceptance of Beijing’s bully tactics, between value and economic incentives.
* In this epidemic, told us the fact that it’s because of the CCP’s deliberate concealment, more than 10 million people have been infected, more than 500,000 people have died, more than 400 million full-time jobs have disappeared, and our lifestyle is forced to be changed.
* Pointed out the importance of religious freedom and awakened us the differences between us and the CCP. CCP is a regime that oppresses her people’s religious freedom. Western democracies should not forget our insistence on freedom and beliefs
3. Cut off the sources of CCP funds:
* Carried out trade wars, raised tariffs, forced the companies and the investment to move out of China
* Provided preferential measures to assist US companies to move out of China
* Passed a bill that would prevent companies that refuse to open their books from listing on Wall Street. This move is aimed to "kick deceitful Chinese companies off US exchanges."
* Restrict the flow of funds through Hong Kong
* Directed federal pension fund to halt investments in Chinese stocks
* Imposed tariff sanctions on Chinese fake products
* Passed the Hong Kong Autonomy Act to require the imposition of sanctions on foreign individuals and banks that participate in China’s oppression of Hong Kong
4. Cut off the sources of high-tech technology and knowledge acquired by CCP, and eliminate the possibility of Made in China 2025:
* Boycotted ZTE, Huawei, and the Chinese companies which are related to the CCP and the PLA
* Block CCP's access to acquire the high-end chips
* Arrested the scholars and scientists involved in the Thousand Talents Program, and publicly condemned the Chinese Embassy accused to lead this program in the US
* Ordered a ban on issuing visas to the Chinese people, students and researchers with PLA background, in order to prevent Xi Jinping's "military-civilian integration strategy" from stealing US high technology
* Signed "National Defense Authorization Act (NDAA)": published a list of individuals or companies that steal US trade secrets, threaten national security or economic health; Penalize the companies that steal technology, including freezing their US assets; Prohibit U.S. citizens from trading with these companies and individuals...and so on.
5. 5G:
* Barred American firms from selling tech and supplies to huawei without first obtaining a license to do so and restricted companies like TSMC, a Taiwan-based firm, from exporting computer chipsets and other key components to Huawei.
* At the same time, warned the world that Huawei products will pose a risk to their national securities. Now, the tide is turning against Huawei, many countries have given up using Huawei equipments on their 5G instructure.
* According to CNN, because of using huawei equipments, the Philippines' power grid is under the full control of the Chinese government and could be shut off in time of conflict
* Denied Google to use a direct connection between the US and Hong Kong, due to a significant risk to security
6. Indo-Pacific Strategy
* The United States is no longer just complaining about the content of China's expansion, but rather a strong will to execute. Li Xianlong from Singapore stated publicly that he hopes that Washington will not force Singapore and ASEAN to choose sides in the United States and China.
* The United States is deploying unprecedented military power in the Asia-Pacific region. Currently, the US military has 375,000 troops deployed in the Asia-Pacific region, accounting for 28% of the total US military strength, including 60% of naval ships, 55% of the army, and around 66% Marine Forces
* During the eight-year term of the former President Obama, only carried out four freedom of navigation operations in the South China Sea. However, Trump has carried out 22 times in the four years so far, which is 11 times that of Obama.
7. Taiwan
* Ignoring CCP’s intimidation, the secretary of State Pompeo publically and officially called Tsai Ing-wen the President of Taiwan. Also, praised Taiwan’s contribution to democracy and freedom, and supported Taiwan’s accession to WHO and other international organizations
* Publicly announced Taiwan is the core partner of the US-Indo-Pacific Plan, and openly invited Taiwan to participate in August Joint Navy Exercise in South China Sea
* Reiterated the "Six Guarantees" for Taiwan in 2016
* Signed "Taipei Act": It aims to increase the scope of US relations with Taiwan and encourage other nations and international organizations to strengthen their official and unofficial ties with this nation
* Signed "Asian Reassurance Initiative Act 2018" : It aims to support the close economic, political, and security relationship between Taiwan and the United States, to faithfully enforce all existing United States Government commitments to Taiwan, to counter efforts to change the status quo and to support peaceful resolution acceptable to both sides of the Taiwan Strait, to conduct regular arms sales To Taiwan
* Signed "Taiwan Travel Law": It aims to encourage the travel of high level United States officials to Taiwan
8. Hong Kong
* In May 27, 2020, announced by the Secretary of State under the Hong Kong Human Rights and Democracy Act that Hong Kong no longer enjoys sufficient autonomy in order to justify special treatment by the US
* In May 28, 2020, announced that the United States would initiate the process of revoking Hong Kong’s favorable treatment under US law
* In July 1st, 2020, passed the Hong Kong Autonomy Act. It’s aimed to provide for mandatory sanctions against individuals, entities and financial institutions in response to China’s National Security Law for Hong Kong.
9. Xinjiang
* China has rounded up at least a million Uighurs in Xinjiang and imprisoned them in what it calls "re-education camps." An investigation found that most of the detainees were imprisoned due to their religious practices and culture, rather than extremist behavior.
* In October 2019, banned the import of products made by a firm in Xinjiang over its use of forced labor, also, blacklisted 28 Chinese entities for their role in the repression of Uighurs and issued visa restrictions on key Chinese officials
* In May 2020, added 33 companies to the United States’ economic blacklist of Chinese companies with ties to China’s military. The Commerce Department explained the banning of these companies, claiming that they are “complicit in human rights violations and abuses committed in China’s campaign of repression, mass arbitrary detention, forced labor and high-technology surveillance against Uighurs, ethnic Kazakhs, and other members of Muslim minority groups in the Xinjiang Uighur Autonomous Region.”
* In signed into a law an act authorizing sanctions against Chinese officials over the mass detention and surveillance of Uighur Muslims in China's western Xinjiang province. The new legislation is the most significant action by any country to punish China over its treatment of ethnic minorities.
10. Media:
* In February, require five Chinese state-run media organizations to register their personnel and property with the U.S. government, granting them a designation akin to diplomatic entities.The five organizations affected are Xinhua News Agency; China Global Television Network, previously known as CCTV; China Radio International; the parent company of China Daily newspaper; and the parent company of The People’s Daily newspaper. All five meet the definitions of "foreign missions" under the Foreign Missions Act, according to the State Department.
* In March, ordered several Chinese media organizations to dismiss 60 U.S.-based Chinese nationals
* In May, reduced the length of work visas for journalists from China employed by non-U.S. media will be to a maximum of 90 days. Chinese reporters can apply for extensions, each one also limited to 90 days
* In the end of May, after Trump's complained reminding, Twitter has flagged a tweet written in March by a Chinese government spokesman that the US military brought the novel Coronavirus to China, as the social media platform ramps up fact-checking of posts.
* In July, announced that four more Chinese media organizations will be treated as foreign diplomatic missions, including: China Central Television (CCTV), China News Service (China News Service), People’s Daily, and Global Times.
11. Before the epidemic, the US economic performance at the end of 2019
* Unemployment rate remains at 3.5%, a new low since 1969
* During Trump’s three years in power, U.S. stocks soared by more than 50%, ranking first among successive presidents
* Increased recruitment and rising wages have driven consumer spending, which accounts for more than two-thirds of U.S. economic output, and its health has helped the economy maintain a stretch of growth that is now in its 11th year.
* In G7 in 2019, the United States is the only country with an economic growth rate of more than 2%
* As of December 2019, the U.S. economy has expanded for a record 126 straight months, the longest time period in the country’s history according to the National Bureau of Economic Research.
* The total market value of the US stock market climbed to a record, 1.5 times GDP
* In 2019, the strong American economy attracts investment from all over the world,bringing the dollar exchange rate to a record high
12. International organizations
* Loudly accused WHO of being very "China-centric" and withdrawn from the WHO by action and refusing to provide funds, the WHO finally admitted on June 30 that it was alerted by its own office in China, and not by China itself, to the first pneumonia cases in Wuhan.
* Trump is even considering to establish a new international health organization to allow the United States to have greater influence
* WTO Secretary-General suddenly resigned in May this year
* Trump even called for reform of outdated United Nations, implying that an new UN organization should based on the common value as democracy and freedom. Hence, he is starting to invite more democratic countries into G7
visa stock 在 ติดโปร - PRO addict Facebook 八卦
😱 ถูกมากกก!!! ไอแพด จากศูนย์ ส่งตรงถึงบ้าน ราคาไม่ถึงหมื่น
😍 Apple iPad 10.2 Wi-Fi Gen 7 จัดโปรถูกกว่าหน้าร้าน ซื้อได้เฉพาะวันนี้ ลดไปเลย 1,500 บาท ส่งถึงบ้าน มีให้เลือก 3 สี และ 2 ความจุ ชอบแบบไหน รีบกดสั่งซื้อเลย สินค้าและโค้ดส่วนลดมีจำนวนจำกัด
.
😄 วิธีง่ายๆ ก่อนสั่งซื้อ ต้องกดรับโค้ดส่วนลด Shopee mall vouchers สำหรับ ALL USER ลดเลย 1,500 บาท เมื่อซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท ที่ลิงก์นี้ https://ttid.pro/2Y7ulS9
😍 จากนั้นคลิกสั่งซื้อสินค้าที่ต้องการจากลิงก์ด้านล่าง แล้วอย่าลืมกดใช้โค้ดส่วนลดที่หน้ารถเข็นก่อนทำการจ่ายเงิน
▪️ ขนาด 32 GB
ราคาปกติ 10,900 บาท
เมื่อใช้โค้ดส่วนลด 1,500 ลดเหลือ 9,400 บาท
👨🏻💻 สั่งซื้อได้ที่ https://ttid.pro/3iIXWJq
▪️ ขนาด 128 GB
ราคาปกติ 13,900 บาท
เมื่อใช้โค้ดส่วนลด 1,500 ลดเหลือ 12,400 บาท
👨🏻💻 สั่งซื้อได้ที่ https://ttid.pro/3iIXWJq
.
📅 สั่งซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ - 16 สิงหาคม 2563
😄 โค้ดส่วนลด 1,500 บาท มีจำนวนจำกัด ซื้อก่อนได้ลดก่อน
.
😍 นอกจากไอแพดแล้ว ยังมี Apple Pencil ลดราคาเช่นกัน เหลือแค่ 3,100 บาท
• กดรับโค้ดส่วนลด 10% และลดสูงสุด 300 บาท ได้ที่ https://ttid.pro/3kN3Hru
• จากนั้นกดสั่งซื้อ ในราคา 3,400 บาท แล้วกดใช้โค้ดส่วนลด 300 บาท จ่ายจริง 3,100 บาท คลิกสั่งซื้อที่ https://ttid.pro/3i7LdzH
.
***************************************
ช้อปออนไลน์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ Gadget จ่ายผ่านบัตร VISA รับฟรี ประกันสินค้า นาน 90 วัน จะตกหล่น โดนน้ำ ไฟไหม้ หรือถูกขโมย ก็คุ้มครอง
ช้อปแล้วลงทะเบียนผ่านลิงก์นี้เลย https://bit.ly/2RJt6Fz
.
***************************************
ติดตามโปรช่องทางอื่น ไม่ให้ตกโปร
กลับไปดูโปรเก่าๆ ทุกโปร : http://www.tidpro.net
Twitter : http://www.twitter.com/tidpromo
Instagram : https://www.instagram.com/tidpromo
#Apple #AppleTH #iPad #ApplePencil #Pencil #ลดราคา #ติดโปร #TidPro
😱 Very cheap!!! iPad from the center. Deliver directly to the house. Price is less than ten thousand.
😍 Apple iPad 10.2 Wi-Fi Gen 7 Promotion cheaper than the shop. Buy only 1,500 baht. Home delivery. There are 3 colors to choose from and 2 capacity. Hurry up. Order now. Limited stock and discount code.
.
😄 Easy way before ordering. You need to get discount code Shopee mall vouchers for ALL USER. Discount for 1,500 baht when you buy minimum 10,000 baht at this link. https://ttid.pro/2Y7ulS9
😍 Then click to order your preferred products from the link below and don't forget to use the discount code in front of the cart before paying.
▪️ Size 32 GB
Normal price 10,900 baht
When you use the discount code 1,500, discount to 9,400 baht.
👨🏻 💻 Order at https://ttid.pro/3iIXWJq
▪️ Size 128 GB
Normal price 13,900 baht
When you use the discount code 1,500, discount to 12,400 baht.
👨🏻 💻 Order at https://ttid.pro/3iIXWJq
.
📅 Order from today-16 August 2563
😄 Discount code 1,500 baht. Limited quantity. Buy first, get discount first.
.
😍 Apart from iPad, Apple Pencil is also reduced to 3,100 baht.
• Click to receive discount code 10 % and discount up to 300 baht at https://ttid.pro/3kN3Hru
• Then click to order for 3,400 baht and then use the discount code 300 baht. Real pay 3,100 baht. Click to order at https://ttid.pro/3i7LdzH
.
***************************************
Online shopping, mobile phone, electronics or Gadget. Pay via VISA card. Get free insurance for 90 days. If you are missing, water, fire or stolen, you can protect.
Shop and register via this link https://bit.ly/2RJt6Fz
.
***************************************
Follow the promotion of other channels. Not to fall in promotion.
Go back to see all the old promotions: http://www.tidpro.net
Twitter : http://www.twitter.com/tidpromo
Instagram: https://www.instagram.com/tidpromo
#Apple #AppleTH #iPad #ApplePencil #Pencil #ลดราคา #ติดโปร #TidProTranslated
visa stock 在 Khoa Pug Youtube 的評價
Giả nghèo cầm 500 triệu vào mua đồng hồ Rolex tại Thượng Hải và cái kết quá nhục nhã.
- Mình ăn mặc khá bình thường, vì thời tiết lạnh, vào mua đồng hồ Rolex thì được các anh bán hàng tiếp đón khá nhiệt tình, các anh tưởng mình người Thái Lan :P
- Bất đồng ngôn ngữ nhưng nhờ có phần mềm phiên dịch nên việc thỏa thuận giá khá thuận tiện. Các anh nói mua Rolex ở đây sẽ được hoàn thuế là 9% sau khi ra sân bay.
- Nhưng theo mình được biết thì chính phủ Trung Quốc không hoàn thuế cho mặt hàng đồng hồ cũng như các mặt hàng khác chứa vàng từ 18K trở lên. Và chiếc đồng hồ Rolex Datejust 126233 size 36 của mình là dạng semi gold, nghĩa là những phần bạn thấy trên rolex màu vàng thì nó là vàng, và là vàng nguyên khối, trên mặt đính 10 viên kim cương tự nhiên. phần mày trắng là thép 904L, đây là loại thép cao cấp đặc biệt do Rolex tự chế tạo.
- Mình khá thích mẫu này, nên quyết định mua, dù việc hoàn thuế 9% tại Trung Quốc là hên xui, tại thấy các anh khá nhiệt tình nên mua ủng hộ để các anh có hoa hồng.
- Nhưng không các bạn, việc thanh toán không phải tại cửa hàng Rolex, mà ra chỗ thanh toán chung của tòa nhà, bạn nào hay mua hàng ở trung tâm thương mại sẽ hay gặp trường hợp này. Mình nghĩ hàng rẻ tiền mới thanh toán ở đây, chứ hãng luxury ít khi thanh toán ở thu ngân chung lắm.
- Và mọi chuyện bắt đầu từ đây. Mình thanh toán bằng thẻ Vietcomband Visa Debit, nghĩa là mình nạp 500 triệu vào thẻ này. Vì khi bạn ra khỏi Việt Nam theo quy định chỉ được mang tối đa 5000$ tiền mặt thôi, số tiền 500 triệu quá lớn nên mình chuyển vào Vietcombank để thanh toán ở Trung Quốc cho tiện.
- Các bạn lưu ý VCB Visa Debit có hạn mức 200 triệu/ngày khi thanh toán nhé, nếu bạn muốn sài hơn thì phải làm giấy nâng hạn mức nhé, khi đó bạn nạp 1 tỷ thì sài 1 tỷ, chứ nạp 1 tỷ mà không làm giấy nâng hạn mức là sài cũng được có 200 triệu thôi, không mua được Rolex 500 triệu đâu :P
- Quay trở lại câu chuyện trên, bạn nhân viên thu ngân nữ, sau khi cầm thẻ VCB Visa Debit và hộ chiếu việt nam của mình thì không chịu cà thẻ qua máy pos, bạn ấy nói số tiền là quá lớn và thẻ của mình lại quá lạ, tên ngân hàng quá kì, và vì mình đến từ Viêt Nam nên bạn ấy nghĩ mình không có khả năng mua đồng hồ Rolex các bạn ạ.
- Thế là bạn ấy gọi lên tổng đài hay bộ phần check thẻ ngân hàng nào đó mình không rõ, để hỏi các mã số in trên thẻ của mình là của ngân hàng nào. Thì bên phía tổng đài trả lời số thẻ in trên thẻ thuộc ngân hàng: Joint Stock Commercial Bank for Foreign Trade of Vietnam.
- Và các bạn biết không, bạn nhân viên này không biết tiếng anh, nên chữ cái latinh là điều gì đó khá là phức tạp với bạn ấy, thế là bạn ấy nói phía check thẻ nói thẻ của mình bắt đầu bằng chữ J chứ không phải chữ V là vietcombank là tên in trên thẻ @@, WTF mình muốn chữi thề khúc này lắm rồi.
- Nhưng mình kiềm chế, search google để cho bạn ấy biết là tên Vietcombank chỉ là tên viết tắt in trên thẻ thôi, chứ tên giao dịch đúng là Joint Stock Commercial Bank for Foreign Trade of Vietnam như phía tổng đài nói. Chứ in hết đống chữ đó lên trên thẻ sao đủ.
- Và bạn ấy cứ khăng khăng là không phải, và không chịu cà qua máy pos, mình nói cứ cà qua máy pos đi, tiền mất mình chịu, vì mình chưa lấy đồng hồ Rolex mà, thanh toán xong mình mới lấy. Thế mà bạn ấy vẫn không cà. Mình tức quá nói mày không biết Vietcombank là ngân hàng lớn nhất nước tao à, nó tương đương với China Bank của mày đó. Và các bạn biết không, bạn ấy trề môi khinh thường các bạn, rồi lướt weibo tiếp, không thèm nói chuyện với mình nữa @@, nói có HSBC thì nói chuyện tiếp. WTF, mình bực mình móc HSBC ra nói thẻ này của mày tao có đó, nhưng tao không thích nạp vào, tao thích sài thẻ của ngân hàng nước tao, mắc gì tao phải sài thẻ của nước mày, VISA là quốc tế, có giá trị như nhau mà. Bạn đó không quan tâm và lướt Weibo tiếp, thử hỏi các bạn có tức không.
visa stock 在 SHIN LI Youtube 的評價
#理財APP #省錢APP #小資族
Instaram | http://pse.ee/SHINLII-IG
FaceBook | http://pse.ee/SHINLI-FB
部落格| https://pse.is/PBLOG
愛奇藝 | https://pse.is/SHIN-QIY
合作信箱✉️ : xshinxli@gmail.com
—————————————————————
Youtube創作者推薦
#柴鼠兄弟
-股票各類資訊 / 開箱 / 生活
#SHINLI
-小資理財 / 信用卡 / 旅遊
Facebook粉絲專頁推薦
#不敗教主陳重銘
-存股與其他股市資訊
#符碼記憶
-信用卡懶人包 / 生活優惠
#寶可孟省錢記事本
-信用卡即時詳細資訊
PTT個版推薦
#Creditcard
-卡板,各種信用卡第一手資訊與網友肉身實測
#Mobilepay
-行動支付板,行動支付的各種疑難雜症都可以獲得解決
#Stock
-股板,各種股市的解說與意見
#CFP
-理財規劃板,資金規劃在這邊都能獲得解答
Dcard個版推薦
#理財板
-股票、信用卡、投資都找得到
APP推薦
#喜馬拉雅
-用聽的增加財商
🔺介紹各個創作者沒有要蹭人氣的意思!
—————————————————————
辦卡/帳戶這邊請
#玉山Ubear |https://pse.is/KXJWW
#玉山Pi錢包|https://pse.is/J49JE (享首刷禮300點)
#玉山only|https://pse.is/J668L (加贈3,000點)
#聯邦賴點卡|https://pse.is/DTNEM (享首刷禮300點)
#RichartGOGO|https://pse.is/F4HP5
#遠銀Bankee|https://pse.is/FDDA4(享400點)
#匯豐現金回饋卡|https://bit.ly/2HF9Rbi
#匯豐華航白金卡|https://bit.ly/32t7EaV
#匯豐華航聯名卡|https://bit.ly/32oIwlG
#王道銀行|https://pse.is/KGYJB (享100現金回饋)
#iLeo|https://pse.is/H4H8E
—————————————————————
#Youtube #Facebook #ptt #Dcard
#高活存 #小資族 #大學生 #簽帳金融卡 #金融卡 #回饋
#玉山Only #玉山銀行 #廉價航空 #機票打折 #里程 #累積里程
#里程信用卡 #哩程 #廉價航空打折 #機票優惠 #便宜機票
#2019信用卡 #2019金融卡 #辦卡推薦 #玉山商務御璽卡
#遠銀 #遠銀Bankee #FlyGo #中國信託 #秀泰聯名卡 #電影
#兆豐銀行 #悠遊聯名卡 #出國信用卡 #永豐大戶 #聯邦賴點
#玉山銀行 #UBEAR #Pi錢包 #Richart #GOGO #聯邦銀行 #賴點卡
#華南銀行 #I網購生活卡 #玉山iCash聯名卡 #遠東商銀 #Bankee
#王道銀行 #聯邦 #KOKO #Richart #現金回饋 #點數回饋
#Linepay #Linepay一卡通 #一卡通 #行動支付 #街口支付
#電子錢包 #第三方支付 #電子票證 #Googlepay #台灣Pay #Samsungpay #全聯
#小資族 #微信 #支付寶 #歐付寶 #指定消費 #GOGO卡 #玉山Pi錢包信用卡
#手機錢包 #不帶錢包 #手機消費 #手機掃碼 #掃碼消費 #省錢 #賺錢
#點數回饋 #Visa #Mastercard #悠遊卡 #信用卡 #信用卡推薦
#金融卡推薦 #icash #一卡通 #網路購物 #數位通路 #網購神卡
—————————————————————
▌更多信用卡評比
🔺海外刷卡信用卡評比,10張卡片任你選! https://shinli.pse.is/G7ZCN
🔺悠遊卡自動加值信用卡推薦!最高10%現金回饋! http://shinli.piee.pw/DJQKA
🔺加油信用卡大評比,最高回饋20%! http://shinli.piee.pw/EZ5ZY
🔺量販店聯名卡大評比,真的比較划算嗎? http://shinli.piee.pw/EMYFR
🔺4加高活存網路銀行大評比,1.2%活存太猛! http://shinli.piee.pw/E5YU7
🔺2019必辦信用卡評比!5張卡一目了然!http://shinli.piee.pw/DZHQB
▌更多存錢方法
🔺錢包整理術,正確使用能便有錢?無痛存錢法! http://shinli.piee.pw/FJ44A
🔺告別月光族!簡單幾個小方法就可以解決! http://shinli.piee.pw/EA4D2
🔺小資推薦存錢法!22K也能無痛存到第一桶金 http://shinli.piee.pw/F47QW
🚩不用錢也能支持SHINLI的方法
➡️ http://user22896.piee.pw/C45C7
visa stock 在 もふもふ不動産 Youtube 的評價
絶好調な米国株式で気になっている銘柄3つを紹介させていただきました!
米国株投資でおすすめの証券会社
楽天証券 https://h.accesstrade.net/sp/cc?rk=0100oh1h00i16f
SBI証券 https://mofmof-investor.com/how-to-start-stock-investment-3274.html?youtube01/#SBI
マネックス証 https://h.accesstrade.net/sp/cc?rk=010072vk00i16f
⑳米国株投資のはじめ方
https://youtu.be/Jv5y-lq3fHI
㉑米国ETFで安定した資産形成する方法
https://youtu.be/0_ZaYyUrioo
本を出版しました!
Amazon
https://amzn.to/37Lg5DM
楽天
https://a.r10.to/hluPP6
0:00 気になっている米国銘柄3つの紹介
0:45 直近のダウ兵器の状況
1:30 VISAの紹介
3:48 ディズニーの紹介
6:48 JPモルガン
9:26 気になる米国株銘柄まとめ
◆Line@
Line@で表に出せない不動産投資の裏情報を配信中!
不動産投資どうぶつ診断や、物件購入チェックツールプレゼント!
hthttps://landing.lineml.jp/r/1654902595-7vwpExmg?lp=3JxIAg
◆おすすめの再生リスト
(再生リスト)株式投資の基礎~初心者にわかりやすく
https://www.youtube.com/playlist?list=PLFtR1Tmakwn9MuQtXw_lqoLpKaf-R4KxY
(再生リスト)不動産投資講座の入門
https://www.youtube.com/playlist?list=PLFtR1Tmakwn-vNgSjMlEz8Fdf8JA0mE83
(再生リスト)【講座】お金の授業
https://www.youtube.com/playlist?list=PLFtR1Tmakwn-MJ_zu3vhxu4tDgORqTQS9
副業で資産を築くためのロードマップ
https://mofmof-investor.com/side-job-3793.html
---SNSなど----------------------------------
◆YouTubeコンサルティングを行っています
https://white-sun.co.jp/
◆YouTube攻略メディア
https://mofmof-investor.com/business/
◆Twitter。
https://twitter.com/mofmof_investor
◆TikTokはじめました(笑)
https://www.tiktok.com/@mof_mof
◆Instagram
https://www.instagram.com/mofmofinvestor/
◆Facebookページ
https://ja-jp.facebook.com/pages/category/Personal-Blog/551400195260427/
◆サブチャンネル~もふぼっち
https://www.youtube.com/channel/UC5PZGnAtalMFGT2SQrLT4uQ
◆もふもふ不動産のブログ
https://mofmof-investor.com
◆YouTubeをビジネスに応用するメディア
https://mofmof-investor.com/business/
◆もふもふFXのブログ
https://mofmof-investor.com/fx/
◆もふもふ株式投資のサイト
https://mofmof-investor.com/kabu/
◆不動産投資講座のメルマガ
https://mofmof-toushi.com/p/r/JAyoEfxq
---自己紹介など------------------------------------
もふもふ不動産とは何者なのか?自己紹介動画
https://youtu.be/9dBNcjUCgx0
もふもふ不動産 もふのプロフィール
1980年生まれ。東京都出身。研究開発の仕事を2003年から続けるなか、自分でも稼げるようになりたい、会社を経営したいという思いから2014年に不動産投資を開始。これまでに5棟と戸建て2つを購入。2017年からブログで不動産投資の情報を発信し、2018年にYoutube開始。2019年にサラリーマンを退職。自分の法人で、不動産投資、ブログ、Youtubeで収益を得ている。
#もふもふ不動産 #経済ニュース #米国株投資 #株式投資
visa stock 在 Visa beats on top and bottom line, increases dividend by 17% 的八卦
Visa earned $1.62 per share excluding items compared to the $1.54 ... Turn to CNBC TV for the latest stock market news and analysis. ... <看更多>