ทำไม สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศแห่ง เทคโนโลยีทางการแพทย์ ? / โดย ลงทุนแมน
ปี 2020 เรามีวัคซีนป้องกันโรคระบาดที่ใช้เวลาคิดค้นรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
ด้วยเทคโนโลยี mRNA ที่ไม่เคยใช้กับวัคซีนที่วางจำหน่ายตัวไหนมาก่อน
และด้วยเทคโนโลยีเดียวกันนี้เอง กำลังได้รับการพัฒนาให้สามารถนำไปรักษาโรคเรื้อรังอื่นๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ
เวลานี้ ความหวังแห่งอนาคตถูกจับจ้องไปยังสิ่งที่เรียกว่า “ไบโอเทคโนโลยี”..
ไบโอเทคโนโลยี หรือ เทคโนโลยีชีวภาพ
คือ เทคโนโลยีที่นำเอาสิ่งมีชีวิต, ชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิต, ผลผลิตของสิ่งมีชีวิต มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร อาหาร เครื่องสำอาง
โดยเฉพาะในทางการแพทย์ ไบโอเทคโนโลยีคือพื้นฐานของการผลิตวัคซีนป้องกันโรค
การใช้ฮอร์โมนในการรักษาโรคเรื้อรัง ไปจนถึงการใช้ยีนในการรักษาโรคทางพันธุกรรม
และสำหรับประเทศที่เป็นผู้นำในด้านนี้ ไม่มีประเทศไหนที่จะโดดเด่นไปกว่า
“สหรัฐอเมริกา” อีกแล้ว
จากประเทศที่เพิ่งก่อตั้งในช่วงปลายศตวรรษที่ 18
สหรัฐอเมริกา ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกแห่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้อย่างไร?
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศแห่ง เทคโนโลยีทางการแพทย์ ?
╔═══════════╗
ชอบบทความแบบนี้ ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
คนทั้งโลกรู้ว่าศูนย์กลางของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่ซิลิคอนแวลลีย์
ศูนย์กลางธุรกรรมการเงิน ตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก
ส่วนศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และสื่อบันเทิง ตั้งอยู่ที่ลอสแอนเจลิส
แล้วศูนย์กลางของอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่ไหน ?
ถึงแม้สหรัฐอเมริกาจะมีบริษัทยา และบริษัทไบโอเทคตั้งอยู่ในเมืองน้อยใหญ่กระจายทั่วประเทศ แต่สำหรับศูนย์กลางที่น่าสนใจที่สุด เวลานี้คงไม่มีที่ไหนจะโดดเด่นไปกว่า
“รัฐแมสซาชูเซตส์” ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ อีกแล้ว
หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อรัฐนี้ แต่หากบอกว่ารัฐแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเมืองบอสตัน
และเคมบริดจ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาชั้นนำของโลก อย่าง MIT และ Harvard University
ก็คงพอจะเข้าใจได้ไม่ยาก
แต่ก่อนที่จะกล่าวถึงรัฐแมสซาชูเซตส์ ลงทุนแมนขอพาทุกท่านย้อนไปยังจุดเริ่มต้น
ของอุตสาหกรรมยาในสหรัฐอเมริกากันสักนิด
ในปลายศตวรรษที่ 19 สหรัฐอเมริกาเริ่มปฏิวัติอุตสาหกรรมช้ากว่าหลายประเทศในยุโรป แต่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในโลกอุตสาหกรรมได้ ด้วยคุณสมบัติสำคัญ คือ การผลิตในปริมาณมาก หรือ Mass Production
ความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต ค่อยๆ ถูกต่อยอดมาสู่อุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์
แต่สำหรับอุตสาหกรรมยา สหรัฐอเมริกายังตามหลังประเทศในยุโรปพอสมควร
โดยเฉพาะอังกฤษ และเยอรมนี
จุดเปลี่ยนสำคัญก็คือ ปี ค.ศ. 1941 ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่สอง
ในขณะที่ประเทศในยุโรปต่างบอบช้ำจากสงคราม สหรัฐอเมริกาที่อุตสาหกรรมก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ กลับแทบไม่ได้รับความเสียหาย ทั้งยังได้ประโยชน์จากการขายสินค้าให้กับประเทศในยุโรป ที่มัวแต่วุ่นวายอยู่กับสงคราม
และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ นักวิทยาศาสตร์เก่งๆ โดยเฉพาะชาวยิวจากทั่วยุโรป
ที่อพยพหนีการสังหารล้างเผ่าพันธุ์ของนาซี ได้อพยพเข้าไปอาศัยในสหรัฐอเมริกา
และช่วยพัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์ เคมี และยาของสหรัฐฯให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
สหรัฐอเมริกายังมีมูลนิธิที่ให้การสนับสนุนการวิจัยด้านการแพทย์
ซึ่งหนึ่งในมูลนิธิที่ใหญ่ที่สุดก็คือ Rockefeller Foundation
ซึ่งก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีน้ำมัน John D. Rockefeller
มูลนิธินี้ได้ให้การช่วยเหลืองานวิจัยด้านการแพทย์มากมาย หนึ่งในงานวิจัยที่สำคัญคือ
การพัฒนายา Penicillin ให้สามารถผลิตได้ในระดับอุตสาหกรรม
Penicillin เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียตัวแรกของโลกที่ค้นพบโดยคุณหมอชาวอังกฤษ
แต่ถูกนำมาผลิตในระดับอุตสาหกรรมที่สหรัฐอเมริกา
จากยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ถูกต่อยอดมาเป็นการพัฒนายารักษาโรคต่างๆ
และทำให้อุตสาหกรรมยาของสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของงานวิจัยด้านไบโอเทคโนโลยีทางการแพทย์
คือ การค้นพบโครงสร้างของ DNA โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ
DNA คือ สารพันธุกรรม ที่มีหน้าที่เก็บยีน หรือข้อมูลทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต
การศึกษาด้าน DNA สามารถต่อยอดไปสู่การวินิจฉัยโรค การรักษาโรค
การผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ
งานวิจัยด้าน DNA ได้รับความสนใจไปทั่วโลก และก็เป็นสหรัฐอเมริกาอีกเช่นกัน
ที่เป็นประเทศแรกๆ ที่ให้การสนับสนุนการวิจัยด้าน DNA และอนุญาตให้มีการทดลองด้าน DNA อย่างจริงจัง ในช่วงทศวรรษ 1970s
โดยหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนที่สำคัญของการทดลองด้าน DNA
คือสภาของเมืองเคมบริดจ์ ในรัฐแมสซาชูเซตส์
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เขตเมืองบอสตัน-เคมบริดส์ ในรัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นเขตที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษากว่า 122 แห่ง โดยมีมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ทั้ง Harvard University, MIT หรือ Massachusetts Institute of Technology, Boston University, Tufts University และมหาวิทยาลัยระดับโลกอีกมากมาย
การสนับสนุนของสภาเมืองเคมบริดจ์ จึงเป็นเหมือนประตูที่เปิดโอกาสสู่โลกของการวิจัยด้านไบโอเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างจริงจัง
ทำให้เกิดการจัดตั้งบริษัทไบโอเทคที่ต่อยอดจากงานวิจัยในห้องทดลอง มาสู่ภาคธุรกิจจริง
Biogen ก่อตั้งในปี 1978
เป็นบริษัทที่เน้นการวิจัยด้านพันธุวิศวกรรม ต่อยอดมาสู่ยาชีวภาพที่ใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์หลายชาติ หนึ่งในนั้นคือศาสตราจารย์จาก MIT
Genzyme ก่อตั้งในปี 1985
บริษัทที่เน้นการวิจัยด้านเอนไซม์ ก่อตั้งโดยศาสตราจารย์ด้านเคมีจาก Harvard University และต่อยอดจากงานวิจัยสู่การดัดแปลงเอนไซม์ที่ใช้ในการรักษาโรคผิดปกติทางพันธุกรรม
จากจุดเริ่มต้นในห้องทดลอง พัฒนามาสู่การก่อตั้งเป็นธุรกิจ
เขตเมืองบอสตัน-เคมบริดจ์ ที่หนาแน่นไปด้วยนักวิจัยอยู่แล้ว ก็ยิ่งดึงดูดทั้งนักวิทยาศาสตร์ และนักลงทุน ให้เข้ามามีส่วนร่วมให้การพัฒนางานวิจัยมากขึ้นไปอีก
แต่เนื่องจากการวิจัยและพัฒนาด้านไบโอเทคโนโลยี เป็นงานวิจัยที่ต้องใช้เงินทุนสูงมาก และมีความเสี่ยงมากที่จะขาดทุน ทำให้มีภาคเอกชนน้อยมากที่จะกล้าเสี่ยง
การสนับสนุนจากภาครัฐจึงเป็นกุญแจที่สำคัญ
โดยสหรัฐอเมริกา มีสถาบันสุขภาพแห่งชาติ หรือ National Institute of Health (NIH)
ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการวิจัยทางการแพทย์
ความโดดเด่นของรัฐแมสซาชูเซตส์ ในด้านบุคลากร สถาบันการศึกษา และบริษัทเอกชน
จึงทำให้เป็นรัฐที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก NIH มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 โดยในปี 2018 รัฐแห่งนี้ ก็ได้รับงบประมาณสนับสนุนกว่า 60,000 ล้านบาท
ในขณะที่รัฐบาลของรัฐแมสซาชูเซตส์เอง ก็ได้สนับสนุนให้มีการลงทุนในธุรกิจไบโอเทคโนโลยีอย่างจริงจัง โดยให้งบประมาณสนับสนุนมากถึง 30,000 ล้านบาท ในช่วงตลอดระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2008
และเป็นผู้นำในการจัดตั้งองค์กรเพื่อช่วยเหลือด้านการวิจัยเทคโนโลยีการแพทย์
หรือ Massachusetts Life Sciences Center (MLSC) ที่ทำหน้าที่ให้เงินทุนสนับสนุน ให้เงินทุนกู้ยืม
อบรมบุคลากร ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และช่วยวางแผนพัฒนาธุรกิจ ให้กับเหล่าบริษัทไบโอเทคที่เพิ่งก่อตั้งใหม่
การที่มีภาครัฐเข้ามาเป็นส่วนร่วมในภาคธุรกิจ เป็นแรงผลักดันสำคัญมากที่ทำให้งานวิจัยด้านไบโอเทคโนโลยีของสถาบันการศึกษา สามารถนำมาต่อยอดเป็นธุรกิจได้ในเวลาอันรวดเร็ว
นำมาสู่การจัดตั้งบริษัทด้านไบโอเทคถึง 430 แห่งในช่วงทศวรรษ 2000s - 2010s
ซึ่งก็ล้วนมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตเมืองบอสตัน และปริมณฑล
และหนึ่งในบริษัทที่น่าสนใจ ก็คือ..
Moderna ที่ก่อตั้งในปี 2013
บริษัทที่ก่อตั้งโดยศาสตราจารย์จาก Harvard University เน้นการวิจัยด้าน RNA ซึ่งเป็นเหมือนแบบแปลนของ DNA ที่สามารถถูกนำมาใช้ในการสร้างโปรตีน
งานวิจัยเรื่อง RNA ได้ถูกต่อยอดมาเป็นการใช้ mRNA หรือ messenger RNA ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างโปรตีนที่มีโครงสร้างเหมือนกับโปรตีนของโคโรนาไวรัส ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตรวจพบ และสามารถผลิต Antibody มาป้องกันโรคได้
นำมาสู่การเป็นผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด 19 จาก mRNA เป็นรายแรกๆ ของโลก
ซึ่งไม่เคยมีวัคซีนตัวไหนในท้องตลาดที่ใช้เทคโนโลยีนี้มาก่อน
นอกจากบริษัทใหม่ๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นแล้ว
เขตเมืองบอสตัน-เคมบริดจ์ ยังดึงดูดบริษัทยายักษ์ใหญ่ทั่วโลก ทั้งบริษัทสัญชาติอเมริกันอย่าง Pfizer, Bristol Myers Squibb และบริษัทสัญชาติสวิสอย่าง Novartis
ให้มาตั้งสำนักงานวิจัย และพัฒนาด้านไบโอเทคโนโลยีในเขตนี้
จากจุดเริ่มต้นในทศวรรษ 1970s
ในวันนี้ รัฐแมสซาชูเซตส์คึกคักไปด้วยงานวิจัยด้านไบโอเทคโนโลยีทางการแพทย์
ต่อยอดจากงานวิจัยสู่บริษัทที่ผลิตทั้งวัคซีน ยารักษาโรค
ผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่เปิดความเป็นไปได้ในการวินิจฉัย การเยียวยารักษาโรคอีกมากมาย
และเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้สหรัฐอเมริกา กลายเป็นเบอร์หนึ่งในวงการเทคโนโลยีทางการแพทย์ของโลก
หากไบโอเทคโนโลยีคือความหวังของการแพทย์แห่งโลกอนาคต
หนึ่งในที่ผู้กุมชะตาสำหรับโลกอนาคต ก็คงจะหนีไม่พ้น “สหรัฐอเมริกา”..
อ่านซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ในตอนก่อนหน้าทั้งหมดได้ที่แอป Blockdit blockdit.com/download
╔═══════════╗
ชอบบทความแบบนี้ ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References:
-http://www.bio-nica.info/biblioteca/Paugh1997BiotechnologyIndustry.pdf
-https://fivethirtyeight.com/sponsored/massachusetts-biotech/
-https://www.epmscientific.com/blog/2018/05/move-over-california-boston-is-now-the-worlds-no-dot-1-biotech-hub
-https://www.masslifesciences.com/why-ma/
-https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/different-vaccines/mrna.html
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過37萬的網紅Ray Mak,也在其Youtube影片中提到,Back in the days, before YouTube was founded, before most of you were born, I used to Vlog a lot. I was a little ahead of my time because video sharin...
「university of massachusetts boston」的推薦目錄:
university of massachusetts boston 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
รู้จัก Boston University มหาวิทยาลัย ที่ปั้นคนเก่งระดับโลก / โดย ลงทุนแมน
นักประดิษฐ์โทรศัพท์เครื่องแรกของโลก
ผู้ร่วมก่อตั้ง Burger King เชนร้านฟาสต์ฟูดชื่อดัง
ผู้บริหารด้านการเงินคนปัจจุบันของ Apple
ทั้ง 3 คนที่ว่ามา เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยเดียวกัน
นั่นก็คือ “Boston University”
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจบ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Boston University เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ที่ตั้งอยู่ในเมืองบอสตัน
ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐอเมริกา
Boston University ก่อตั้งขึ้นในปี 1839 โดยคณะเมธอดิสท์ ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลในศาสนาคริสต์กลุ่มหนึ่ง
ในช่วงแรกๆ ที่แห่งนี้เป็นเพียงสถาบันที่สอนเกี่ยวกับศาสนาเท่านั้น ก่อนที่จะยกระดับเป็นมหาวิทยาลัยในปี 1869
กว่า 181 ปีจนถึงวันนี้ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา
ในปีการศึกษา 2018-2019 Boston University มีนักศึกษาทั้งหมด 34,657 คน
ซึ่งแบ่งเป็น
- นักศึกษาในระดับปริญญาตรี 57%
- นักศึกษาในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรี 43%
ส่วนถ้าแบ่งนักศึกษาตามสัญชาติ
จะเป็นนักศึกษาต่างชาติประมาณ 32%
และนักคึกษาชาวอเมริกันประมาณ 68%
โดยนักศึกษาต่างชาติที่มหาวิทยาลัย Boston นั้นมาจาก 130 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน การเรียนการสอนที่ Boston University แบ่งเป็น 17 วิทยาลัย
โดยสาขาที่มีชื่อเสียง เช่น บริหารธุรกิจ กฎหมาย และการแพทย์
เรื่องราวสำคัญของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยกตัวอย่างเช่น
คณะแพทยศาสตร์ (School of Medicine) ของ Boston University เป็นสถาบันวิจัยและสอนปฏิบัติการด้านโรคมะเร็งแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นคณะแพทยศาสตร์แห่งแรกของโลกที่สอนวิชาการแพทย์ให้แก่นักศึกษาที่เป็นผู้หญิง
นอกจากนี้ Boston University ยังเป็นสถานที่แห่งแรกที่ใช้ในการทดลอง และประดิษฐ์โทรศัพท์เครื่องแรกของโลกในปี 1876 อีกด้วย
ปัจจุบัน ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรีที่ Boston University อยู่ประมาณปีละ 1.6 ล้านบาท ส่วนสาขายอดนิยมอย่าง MBA มีค่าเล่าเรียนอยู่ที่ ปีละประมาณ 1.7 ล้านบาท
โดยหลังจากจบการศึกษา ค่าเฉลี่ยเงินเดือนของศิษย์เก่าของที่นี่ จะอยู่ที่ปีละประมาณ 2.3 ล้านบาท
ซึ่งศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงของ Boston University ก็อย่างเช่น
- Dr. Martin Luther King Jr. นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนผู้โด่งดัง
- Alexander Graham Bell นักประดิษฐ์โทรศัพท์เครื่องแรกของโลก
- David Edgerton Jr. ผู้ร่วมก่อตั้ง Burger King เชนร้านฟาสต์ฟูดชื่อดังระดับโลก
- Luca Maestri ผู้บริหารและ CFO ของ Apple คนปัจจุบัน
นอกจากนั้นแล้ว Boston University ยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีศิษย์เก่าได้รับรางวัลโนเบลจำนวน 8 คน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในสาขาฟิสิกส์ และเคมี
ปัจจุบัน นอกจากในสหรัฐอเมริกาแล้ว Boston University ยังมีวิทยาเขต (Campus) ตั้งอยู่ในประเทศอื่นด้วย เช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย
แล้ว Boston University มีรายได้เท่าไร?
ปี 2018 รายได้ 60,500 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 65,100 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 64,400 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวความเป็นมา
และเรื่องราวที่น่าสนใจของ Boston University
มหาวิทยาลัยที่ปั้นคนเก่งระดับโลกมาแล้ว นับไม่ถ้วนเลยทีเดียว..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐอเมริกาที่ Boston University ตั้งอยู่นั้น ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากรัฐแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกหลายแห่ง เช่น Harvard University, Massachusetts Institute of Technology (MIT) และ Northeastern University
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.univstats.com/colleges/boston-university/student-population/#:~:text=There%20are%2034%2C657%20students%20including,for%20academic%20year%202018%2D2019.
-https://en.wikipedia.org/wiki/Boston_University#Notable_alumni_and_academics
-http://www.bu.edu/cfo/files/2020/09/Boston-University-Audited-Financial-Statements-6-30-20.pdf
-https://www.payscale.com/research/US/School=Boston_University/Salary
-https://www.bu.edu/admissions/tuition-aid/tuition/
-https://www.topuniversities.com/university-rankings/mba-rankings/us/2019
- http://www.bu.edu/about/#:~:text=Boston%20University%20is%20no%20small,humming%2C%20always%20in%20high%20gear.
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Boston_University_people
-https://www.topuniversities.com/university-rankings/usa-rankings/2020
-Boston University School of Medicine - Wikipedia.org/wiki/Boston_University_School_of_Medicine
university of massachusetts boston 在 石怡潔。一姊的小日子 Facebook 八卦
#快閃美東加🇺🇸🇨🇦
#Boston
#大學篇
波士頓是美國最古老的城市之一
因此也成為歷史悠久頂尖大學的聚落
光光沿著查爾斯河
就有
Harvard University 哈佛
University of Cambridge 劍橋
Massachusetts Institute of Technology (MIT)麻省理工學院
⋯⋯⋯⋯多到數不清
怡潔來到這
當然得要沾染頂尖人文氣質
至少
裝扮很文青吧?!🤣😁😌
🔔服裝提供:#蔡佳瑾+#Aofashley
#喜歡小香混搭 #有路人說喜歡外套 #校園好大呀 #很多政治人物是校友 #豪小子也是
university of massachusetts boston 在 Ray Mak Youtube 的評價
Back in the days, before YouTube was founded, before most of you were born, I used to Vlog a lot. I was a little ahead of my time because video sharing platforms were premature back then. I Vlogged so that I can remember my experiences back then. You'll get to know me better if you actually spend the time to watch this. If you do have the patience.
By the way, during this time, even Facebook was only available for selected University Students in US with emails ending .edu
I spoke mostly Cantonese in this video (My Mother Tongue), be sure to turn on captions.
Year : 2005
Location : Cambridge, Massachusetts
Fan-Made Intro by Nitro77
https://www.youtube.com/channel/UCJd9-C_iZGriWwrRKPYODyQ
(Make me a nice short intro using the same audio and I'll feature you next)
?SHEET MUSIC & Mp3 ▸ http://www.makhonkit.com
?LEARN MY SONGS ▸ https://tinyurl.com/RayMak-flowkey
?Listen on Spotify ▸ https://sptfy.com/raymak
?Listen on Apple Music ▸ https://music.apple.com/sg/artist/ray-mak/1498802526
?Full Song List ▸ http://www.redefiningpiano.com
Talk to me :
? Instagram ▸ http://instagram.com/makhonkit
? Facebook ▸ http://facebook.com/raymakpiano
? Twitter ▸ http://twitter.com/makhonkit
#vlog #cambridge #USA
university of massachusetts boston 在 UMass Boston - YouTube 的八卦
Videos about the University of Massachusetts Boston, metropolitan Boston's only public university. UMass Boston's 10 colleges and graduate schools serve more ... ... <看更多>