The Irishman ไม่มีอะไรจะทดแทนบุญคุณลุงมาตี้ของผมได้เท่ากับการขอกราบตีนแล้ว 10/10
Netflix แม่งคือผู้มีคุณูปการกับวงการภาพยนตร์จริงๆ ถ้าเป็นระบบโรงปกติ หนังมาเฟียชราความยาว 3 ชั่วโมง 29 นาที เราแทบจะไม่มีโอกาสได้ดูในโรงเลย มันยากมาก แถมทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญ นี่ได้ดูแบบชิวๆในห้องนอนสวยๆ ดูลากยาวจนถึงตีสี่ มีความสุขมากกับการได้ดื่มด่ำงานศิลปชั้นดี รักลุงมาร์ตี้มากกกก แกทำหนังได้แบบไม่รู้จักคำว่าแก่จริงๆ
.
ลุงมาตี้แกอายุ 77 แล้ว เรื่องล่าสุดที่ผมดูหนังของลุงคือเรื่อง Silence และก่อนนั้นก็เรื่อง The Wolf of Wall Street คือเอาจริงๆ ผมดูหนังของมาร์ตินกำกับเยอะมากหลายเรื่อง ดูมาเป็นสิบปีแล้ว สิ่งหนึ่งที่รู้สึกคือหนังของลุงมาร์ตี้เต็มไปด้วยไฟ เต็มไปด้วยพลังทุกเรื่อง ถ้าเปรียบก็เหมือนคนหนุ่มร่างกายกำยำแต่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน มีความแตกฉาน และมีวุฒิภาว มีความคมคายในการสื่อสาร เปี่ยมไปด้วยชั้นเชิง ทุกเรื่องที่ดูคือมีความรู้สึกว่าอยากจะลุกขึ้นยืนปรบมือ Standing ให้ตลอดเลย แต่สำหรับ The Irishman นี่ปรบมือเฉยไม่ได้ ต้องกราบเลย ด้วยความยาวของหนัง 3 ชั่วโมง 29 นาที ผมดูจนถึงตีสี่ยิงยาวเลยรวดเดียว บอกเลย ตะลึงอ้าปากค้าง หนังยาว หนังพูด แต่ไม่น่าเบื่อเลย
.
The Irishman หมายถึง แฟรงค์ เชียรัน (โรเบิร์ต เดอนีโร) ผู้ที่เริ่มมาจากการเป็นเพียงแค่คนขับรถบรรทุกขนขาวัวก้าวเข้าสู่การเป็นมาเฟียภายใต้การชักชวนของ รัสเซล บัฟฟาลิโน (โจ เปสซี่) ด้วยผลงานการทาสีบ้าน(ศัพย์ในวงการมาเฟียหมายถึงการเป็นมือปืนสังหารคน) ที่เข้าตา เค้าจึงได้เข้าไปเป็นคนใกล้ชิดของ จิมมี่ ฮอฟฟ(อัล ปาชิโน) ประธานสหภาพแรงงานแห่งชาติ ผู้กำผลประโยชน์มหาศาลนับพันล้านของสหภาพแรงงานแห่งสหรัฐอเมริกา ฮอฟฟา คือผู้ทรงอิทธิพลนยุคปลาย60-70 ที่ภายหลังเค้าหายสาบสูญไปจนถึงปัจจุบัน ทุกคนสรุปว่า ฮอฟฟาน่าจะโดนอุ้มฆ่า
เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มตั้งแต่วัยหนุ่มจนวัยชราของเชียรัน โดยหนังเล่าเรื่องผ่านมุมมองของเชียรัน ผู้ซึ่งออกมาสารภาพว่าเค้าคือผู้ที่มีส่วนในการหายสาบสูญของฮอฟฟา ที่เป็นปริศนามาจนทุกวันนี้ มาร์ตินเล่าเรื่องตัดสลับไปมาผ่านเสียงเล่าของ แฟรงค์ และเหตุการณ์ตัดสลับไปมาในช่วงที่ แฟรงค์กับรัสเซล เดินทางไปร่วมงานแต่งงาน และเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วงการของตัวเค้าจนถึงวัยชรา กินเวลายาวนานร่วม 50 ปี
.
ต้องบอกก่อนเลยว่าด้วยความที่ว่าหนังมันยาวถึง 3 ชั่วโมง 29 นาที และในช่วงเกือบสองชั่วโมงแรกของหนังจะอัดแน่นไปด้วยดีเทลต่างๆนาๆ และความเป็นหนังมาเฟียคนชราด้วย ผมบอกเลยว่าถ้าผู้กำกับ คนเขียนบทมือไม่ถึงก็เอาคนดูไม่อยู่ แต่ด้วยบทสนทนา ไดอะล็อกที่แน่น คม ชัดเจน และชวนติดตาม ผมจะบอกว่าหนึ่งชั่วโมงแรกผ่านไปแบบเร็วมาก จนงงว่าเฮ้ยลุงมาร์ตี้ทำหนังได้ชวนติดตามอะไรขนาดนี้จนเข้าชั่วโมงที่สอง ต้องสารภาพว่าเริ่มมึนบ้าง เพราะรายละเอียดเยอะมาก ตัวละครเริ่มเข้ามามากขึ้น และบทพูดเยอะมากแบบยาวเหยียด แต่ผมว่ามันก็ยังชวนติดตามอยู่ดี ด้วยภาษาหนังที่ต้องบอกเลยว่าลุงมาร์ตี้แกทำออกมาเหมือนไม่มีอะไร น้อยแต่มาก ไม่มีการโชว์พาวด้วยเทคนิคอะไรรวมถึงลองเทคที่มันคมและไม่พยายาม แต่มันเปี่ยมไปด้วยชั้นเชิง ศิลป และที่สำคัญงานด้านภาพ การสื่อความหมาย ไปจนถึงการตัดต่อที่บอกเลยว่ามันเป็นซิกเนเจอร์ของทีมลุงมาร์ตี้ไปแล้ว หนังลุงมาร์ตี้ใช้บริการของคุณป้า Thelma Schoonmaker เจ้าของสามรางวัลออสการ์สาขาตัดต่อมาทำงานให้ออกมาเป็นหนังที่ดุดันจนไม่อยากจะเชื่อว่าคนตัดต่อเป็นผู้หญิง แถมอายุปาเข้าไปจะ 80 แล้ว มายก็อด
.
โรเบิร์ต เดอ นีโร นี่ไม่ต้องพูดถึงเลย กับบทแฟรงค์ เชียรัน ที่เดินเรื่องตลอดทั้งเรื่องแบบเอาอยู่ คือเราติดตามและชวนให้เราใคร่รู้เรื่องราวของเค้า สีหน้าแววตา ได้หมดเลย ขนลุกมาก แกจะได้ชิงออสการ์อีกไหมเนี่ย
อัล ปาชิโน กับบท จิมมี่ ฮอฟฟา นี่ก็เริ่ดมาก คือผมไม่เคยเห็นฮอฟฟาจริงๆว่าเป็นแบบนี้ไหม แต่อาการดื้อ รั้น หัวชนฝา ทิฐิแรง และใครก็เอาไม่อยู่นี่แบบว่าดูแล้วพลังส่งมาถึงคนดูมาก
โจ เปสซี่ ปังฉิบหาย ให้อารมณ์เดียวกับตอนที่เค้าแสดงเป็น Tommy DeVito ในเรื่อง Goodfellas เมื่อเกือบสามสิบปีก่อนเลย ราศี ออร่า ออสการ์จับมากกกกก สมทบชายนี่เปสชี่ได้เข้าขิงแน่นอน
เดอนีโร กับ เปสซี่ แสดงเป็นคนแก่ได้โคตรสะพรึงเลย
งานโปรดักชั่นทำออกมาได้เนี๊ยบกริ๊บมาก แบบไม่มีความสงสัยเลยว่างบประมาณ 150 ล้านดอลล่าหรือเกือบห้าพันล้านมันคงหมดไปกับงานดีเทลยิบย่อยที่ดูออกว่าผู้กำกับทำงานโคตรละเอียด งานรีเสริ์ช งานหาข้อมูลมาแน่นมากกก ทุกอย่างดูเป้ะไปหมด
พลังของภาพยนตร์กับสิ่งทีจะสื่อ อยู่ในบทสรุปของเรื่อง ที่ดูแล้วบอกเลยว่าโคตรอิน เพราะหนังพาเราไปถึงระดับอภิปรัชญา เรื่องของชีวิต เรื่องของความเป็นมนุษย์ว่า สุดท้ายชีวิตคนเราแม่ก็เท่านี้ ดิ้นรนกันไปสุดท้ายก็แค่โลงใบเดียว ทำชั่วมาทั้งชีวิต จะมาสารภาพบาปอะไรกับพระองค์เดียววะ ช่วยอะไรได้ ความรู้สึกผิด ความรู้สึกบาปที่จมปรักในใจนั่นแหละ นรกทั้งเป็น วงการนี้ใครอยู่จนแก่ตายบ้าง นับคนได้เลย แนะนำตัวละครยังบอกเลยว่าคนนี้จายปีหน ตอนไหน ส่วนใหญ่โดนยิงตายห่าหมด
.
ที่สุดของ Netflix แล้วครับ กับทุนสร้าง 150 ล้าน และหนังที่ออกมายอดเยี่ยมขนาดนี้ บอกเลยว่าสมัคร Netflix จ่ายค่าดูรายเดือน 420 บาท เพียงได้ดูเรื่องนี้เรื่องเดียวก็โคตรจะคุ้มแล้ว ปีนี้ผมว่า The Irishman น่าจะได้เข้าขิงออสการ์เยอะมากกกกแน่ๆ แต่จะไปถึง Best Picture ไหม ต้องลุ้นแล้วล่ะว่ากรรมการคนโหวตจะเปิดใจให้หนังสตีมมิ่งไหม
