The Two Popes ทรงคุณค่ามาก หนังพาเราไปทำความเข้าใจกับศรัทธาได้อย่างมีเหตุผลมาก 9/10 (มีฉายใน Netflix แล้ว)
.
ผมเห็นโปรแกรมเรื่อง The Two Popes จะเอามาลงใน Netflix ครั้งแรกเมื่อสามเดือนก่อน บอกกับตัวเองว่าจะต้องดูให้ได้ ด้วยความเชื่อมั่นในตัวนักแสดงอย่างท่านเซอร์แอนโธนี ฮอปกินส์ คือแกจะแสดงเป็นใครเราก็เชื่อหมด และกับการมารับบทเป็นพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่16 นี่คือยอมรับว่ามันใช่ตั้งแต่ยังไม่ต้องเห็นหนังแล้ว และยิ่งมาเห็นภาพคู่กับ โจนาธาน ไพนซ์ นี่ยิ่งทำให้ผมอยากดูหนังเรื่องนี้มากก หนังพาเราไปพบกับเรื่องราวของความเชื่อในพระเจ้า ความศรัทธา ตลอดจนถึงศาสนาคริสต์ในยุคสมัยที่ต้องถึงเวลาปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อห้คำสอนเข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบัน ไปจนถึงการตีแผ่เรื่องราวของคริสต์จักรที่ถูกปิดบังอำพรางเอาไว้ หนังไม่ชี้นำ แต่หนังทำให้เราได้เปรียบเทียบและคิดเองได้อย่างแยบคายและหลักแหลม
.
The Two Popes เล่าถึงช่วงเปลี่ยนผ่านของคริสต์จักรหลังจากพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 สิ้นพระชนม์ ก็ได้มีการเลือกพระสันตปาปาพระองค์ใหม่ ซึ่งพระคาดินัลด์โยเซฟ รัทซิงเงอร์ ได้รับเลือกให้เป็นสมเด็จพระสันตปาปาองค์ใหม่ ท่านเลือกพระนามตัวเองว่า เบเนดิกต์ที่16 ท่านเป็นชาวเยอรมันที่ใช้ชีวิตอยู่กับการเรียนพระคัมภีมาตั้งแต่เด็กจนโต ท่านไม่เคยศึกษาอะไรที่เกี่ยวกับทางโลกเลย และที่สำคัญท่านเป็นเยอรมันฝ่ายอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจสละตำแหน่งพระสันตปาปา ท่านเองก็ได้มีโอกาสได้สนทนาคุยกับพระคาดินัล เบร์โกกลิโอ ชาวอาร์เจนติน่า ซึ่งท่านเป็นเหมือนพระนักพัฒนา ใจบุญ และเข้าถึงคนจนมาก และที่ท่านเบเนดิกต์ที่16เองก็คาดหมายว่า พระคาดินัลด์รูปนี้แหละจะได้ขึ้นมาเป็นพระสันตปาปาแทนท่าน ทั้งสองได้พูดคุยแลปเปลี่ยนทัศน และที่สำคัญทั้งสองได้สารภาพบาปกัน ก่อนที่ พระสันตปาปาเบเนดิกต์จะสละตำแหน่ง และ พระคาดินัลด์เบร์โกกลิโอ ก็ได้ขึ้นเป็นพระสันตปาปาฟรานซิส จนถึงปัจจุบัน
.
ขอสารภาพว่าตลอดเวลาที่ดูผมคาดเดาว่าหนังน่าจะเขียนขึ้นมาจากเค้าโครงเรื่องจริงแต่อาจจะไม่ทั้งหมด มันคงมีการแต่งบ้างอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ผมว่าหนังทำออกมาได้ดีมากกกก็คือ หนังไม่ชี้นำให้เราเชื่อไปทางข้างใดข้างหนึ่ง ถ้าเราติดตามจะทราบว่า เบเนดิกต์ที่16 จะไปทางสายอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง และฟรานซิส จะมาทางประมาณสายเสรีนิยม หนังบอกเหตุผลความคิดสุดโต่งของตัวละครทั้งสองได้เป็นอย่างดี บทหนังบอกเล่าผ่านการสนทนาของพระทั้งสองรูปออกมาได้อย่างละเอียดและฉลาด นำคนดูพาไปรู้จักพระทั้งสองรูปได้เป็นอย่างดี นอกจากผ่านบทสนทนาแล้ว ยังผ่านการเล่าเรื่องที่พูดถึงชีวิต สิ่งแวดล้อม ตลอดจนไลฟ์สไตล์ของพระทั้งสองรูปให้เราได้เห็นและได้รู้ทันทีว่าท่านทั้งสองต่างกันสุดขั้วขนาดไหน
.
คำหนึ่งในหนังที่ผมชอบมากคือ จงสร้างสะพานอย่าสร้างกำแพง พระเบเนดิกต์เหมือนจะพยายามขีดจำกัดการนับถือเอาไว้ในกรอบ แต่พระฟรานซิสท่านบอกว่า ภายใต้กำแพงนี่แหละมันอาจจะมีแต่ความเลวร้ายที่เราปกปิดมันเอาไว้และเรามองไม่เห็น ปมในใจของท่านฟรานซิสคือเหตุการณ์ในช่วงสงครามอาร์เจนติน่า ที่มีคนมองว่าท่านไปเข้าข้างรัฐบาลทหารจนเป็นที่มาที่ไปของการเข่นฆ่าประชาชนนับหมื่ นันจึงเหมือนเป็นรอยบาปในใจที่ท่านมองว่าท่านไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ ชีวิตที่เหลือของท่านจึงพยายามอุทิศเพื่อคนยากไร้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่ท่านเบเนดิกต์องก็มีรอยบาปที่มาจากการพยายามปกปิดเรื่องราวของพระที่ล่วงละเมิดทางเพศเด็กเอาไว้เพราะไม่อยากให้คริสต์จักรเสียหาย ทั้งสองสารภาพบาปต่อกัน ฉากนี้ทำเอาน้ำตาซึมเลย
.
สิ่งที่ได้เห็นคือ พระชั้นผู้ใหญ่ที่ขึ้นมาจนถึงจุดนี้ ความปรารถนาต่อตำแหน่งยศบรรดาศักดิ์จะแทบไม่มีเลย(รึเปล่าไม่แน่ใจ) คือเอาจริงๆ นักบวชนี่สิ่งที่สำคัญคือการละวางทั้งหมด โดยเฉพาะอัตตา ตัวตน มันเป็นกิเลสตัวที่ร้ายที่สุด แต่ยศถาบรรดาศักดิ์นี่แหละที่มันเสริมอัตตาตัวตนมากมาย ไม่ต้องดูไกล ดูพระราชาคณะ พระชั้นสมเด็จบ้านเรานี่แหละ ความเป็นอยู่โคตรจะดี ปีใหม่ที่ข้าวของดีๆ ผลไม้นอก ดอกไม้ กระเช้า มาเป็นลังๆ กินจนต้องทิ้ง รับกิจนิมนต์ที่ก็ญาติโยมนี่แหละภายปัจจัย คนที่ไปเยี่ยมถึงกุฏิก็มีแต่คนใหญ่คนโต สุดท้ายยศถาทั้งหมดก็ของสมมุติทั้งนั้น จะทำอะไรเพื่อศาสนาไม่ได้จำเป็นต้่องมีตำแหน่งอะไรใหญ่โตเลย และการพยายามปิดล้อมให้คนเข้าถึงยากมันยิ่งสร้างแต่อัตตาๆๆๆๆๆๆให้มันแรงขึ้นๆ สุดท้ายความถือตัวตนนี่แหละ คือศัตรูที่ร้ายที่สุดของมนุษย์เราโดยเฉพาะนักบวช
.
แอนโธนี ฮอปกินส์ ในบทพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่16 นี่ขนลุกมากกกก แกแสดงได้แก่และตาบอดข้างนึงกิริยาท่าทีการพูดจา นี่เอาจริงๆคือขนลุกมาก ไม่ได้ติดตามผลงานหรือคลิปท่านเบเนดิกต์แต่เอาจริงๆเชื่อว่าท่านเซอร์เป็นสันตปาปาจริงๆ นี่มีลุ้นชิงออสการ์แบบไม่ยากเลย
.
โจนาธาน ไพรซ์ กับบทสันตปาปาฟรานซิส นี่คือดีมากกกดูอบอุ่น จากที่เคยเห็นในเรื่อง The Wife มาเรื่องนี้ บอกเลย ไพรซ์แสดงได้ดีมากกกกกก แต่นำชายปีนี้หินเยอะมากแบบสายโหด ก็เอาใจช่วย แต่มีแฟคเตอร์ได้ชิงออสการ์สูงมาก
.
บทภาพยนตร์โดย Anthony McCarten เจ้าของผลงาน
The Theory of Everything , Darkest Hour และก็
Bohemian Rhapsody เป็นหนังชีวประวัติหมด นำดาราชายของเรื่องไปคว้าออสการ์หมด แต่ปีนี้โอกาสที่ โจนาธาน ไพรซ์ จะได้ออสการ์นี่บอกเลยหินพอสมควรเลย สำหรับ The Two Popes นี่ McCarten เขียนบทได้ฉลาดมาก ทำหนังสนทนาทาทางศาสนาออกมาเป็นหนังที่มีบทสนทนาที่แสนจะฉลาด คมคาย และไม่น่าเบื่อเลย ดูเพลินตลอดเวลา 125 นาที ดูรวดเดียวจบเลยไม่มีกดพัก
.
The Two Popes นี่น่าจะเป็นการประกาศศักดาอีกครั้งของ Netflix ที่ตอกย้ำว่าปีหน้ากูมีหนังระดับคุณภาพหลายเรื่องนะมึง กรรมการออสการ์จะเขี่ยกูทิ้งอีกไหม สำหรับ The Two Popes นี่เปิดดูเถอะครับ คุ้มค่าไม่เสียเวลาแน่นอน หนังไม่ได้น่าเบื่อเลยครับ ดูเพลินมากครับ 9/10 ครับ
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過62萬的網紅Bryan Wee,也在其Youtube影片中提到,...
「the darkest hour netflix」的推薦目錄:
- 關於the darkest hour netflix 在 อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก Facebook
- 關於the darkest hour netflix 在 อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก Facebook
- 關於the darkest hour netflix 在 JUST ดู IT. Facebook
- 關於the darkest hour netflix 在 Bryan Wee Youtube
- 關於the darkest hour netflix 在 Travel Thirsty Youtube
- 關於the darkest hour netflix 在 スキマスイッチ - 「全力少年」Music Video : SUKIMASWITCH / ZENRYOKU SHOUNEN Music Video Youtube
the darkest hour netflix 在 อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก Facebook 八卦
The Two Popes ทรงคุณค่ามาก หนังพาเราไปทำความเข้าใจกับศรัทธาได้อย่างมีเหตุผลมาก 9/10 (มีฉายใน Netflix แล้ว)
.
ผมเห็นโปรแกรมเรื่อง The Two Popes จะเอามาลงใน Netflix ครั้งแรกเมื่อสามเดือนก่อน บอกกับตัวเองว่าจะต้องดูให้ได้ ด้วยความเชื่อมั่นในตัวนักแสดงอย่างท่านเซอร์แอนโธนี ฮอปกินส์ คือแกจะแสดงเป็นใครเราก็เชื่อหมด และกับการมารับบทเป็นพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่16 นี่คือยอมรับว่ามันใช่ตั้งแต่ยังไม่ต้องเห็นหนังแล้ว และยิ่งมาเห็นภาพคู่กับ โจนาธาน ไพนซ์ นี่ยิ่งทำให้ผมอยากดูหนังเรื่องนี้มากก หนังพาเราไปพบกับเรื่องราวของความเชื่อในพระเจ้า ความศรัทธา ตลอดจนถึงศาสนาคริสต์ในยุคสมัยที่ต้องถึงเวลาปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อห้คำสอนเข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบัน ไปจนถึงการตีแผ่เรื่องราวของคริสต์จักรที่ถูกปิดบังอำพรางเอาไว้ หนังไม่ชี้นำ แต่หนังทำให้เราได้เปรียบเทียบและคิดเองได้อย่างแยบคายและหลักแหลม
.
The Two Popes เล่าถึงช่วงเปลี่ยนผ่านของคริสต์จักรหลังจากพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 สิ้นพระชนม์ ก็ได้มีการเลือกพระสันตปาปาพระองค์ใหม่ ซึ่งพระคาดินัลด์โยเซฟ รัทซิงเงอร์ ได้รับเลือกให้เป็นสมเด็จพระสันตปาปาองค์ใหม่ ท่านเลือกพระนามตัวเองว่า เบเนดิกต์ที่16 ท่านเป็นชาวเยอรมันที่ใช้ชีวิตอยู่กับการเรียนพระคัมภีมาตั้งแต่เด็กจนโต ท่านไม่เคยศึกษาอะไรที่เกี่ยวกับทางโลกเลย และที่สำคัญท่านเป็นเยอรมันฝ่ายอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจสละตำแหน่งพระสันตปาปา ท่านเองก็ได้มีโอกาสได้สนทนาคุยกับพระคาดินัล เบร์โกกลิโอ ชาวอาร์เจนติน่า ซึ่งท่านเป็นเหมือนพระนักพัฒนา ใจบุญ และเข้าถึงคนจนมาก และที่ท่านเบเนดิกต์ที่16เองก็คาดหมายว่า พระคาดินัลด์รูปนี้แหละจะได้ขึ้นมาเป็นพระสันตปาปาแทนท่าน ทั้งสองได้พูดคุยแลปเปลี่ยนทัศน และที่สำคัญทั้งสองได้สารภาพบาปกัน ก่อนที่ พระสันตปาปาเบเนดิกต์จะสละตำแหน่ง และ พระคาดินัลด์เบร์โกกลิโอ ก็ได้ขึ้นเป็นพระสันตปาปาฟรานซิส จนถึงปัจจุบัน
.
ขอสารภาพว่าตลอดเวลาที่ดูผมคาดเดาว่าหนังน่าจะเขียนขึ้นมาจากเค้าโครงเรื่องจริงแต่อาจจะไม่ทั้งหมด มันคงมีการแต่งบ้างอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ผมว่าหนังทำออกมาได้ดีมากกกก็คือ หนังไม่ชี้นำให้เราเชื่อไปทางข้างใดข้างหนึ่ง ถ้าเราติดตามจะทราบว่า เบเนดิกต์ที่16 จะไปทางสายอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง และฟรานซิส จะมาทางประมาณสายเสรีนิยม หนังบอกเหตุผลความคิดสุดโต่งของตัวละครทั้งสองได้เป็นอย่างดี บทหนังบอกเล่าผ่านการสนทนาของพระทั้งสองรูปออกมาได้อย่างละเอียดและฉลาด นำคนดูพาไปรู้จักพระทั้งสองรูปได้เป็นอย่างดี นอกจากผ่านบทสนทนาแล้ว ยังผ่านการเล่าเรื่องที่พูดถึงชีวิต สิ่งแวดล้อม ตลอดจนไลฟ์สไตล์ของพระทั้งสองรูปให้เราได้เห็นและได้รู้ทันทีว่าท่านทั้งสองต่างกันสุดขั้วขนาดไหน
.
คำหนึ่งในหนังที่ผมชอบมากคือ จงสร้างสะพานอย่าสร้างกำแพง พระเบเนดิกต์เหมือนจะพยายามขีดจำกัดการนับถือเอาไว้ในกรอบ แต่พระฟรานซิสท่านบอกว่า ภายใต้กำแพงนี่แหละมันอาจจะมีแต่ความเลวร้ายที่เราปกปิดมันเอาไว้และเรามองไม่เห็น ปมในใจของท่านฟรานซิสคือเหตุการณ์ในช่วงสงครามอาร์เจนติน่า ที่มีคนมองว่าท่านไปเข้าข้างรัฐบาลทหารจนเป็นที่มาที่ไปของการเข่นฆ่าประชาชนนับหมื่ นันจึงเหมือนเป็นรอยบาปในใจที่ท่านมองว่าท่านไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ ชีวิตที่เหลือของท่านจึงพยายามอุทิศเพื่อคนยากไร้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่ท่านเบเนดิกต์องก็มีรอยบาปที่มาจากการพยายามปกปิดเรื่องราวของพระที่ล่วงละเมิดทางเพศเด็กเอาไว้เพราะไม่อยากให้คริสต์จักรเสียหาย ทั้งสองสารภาพบาปต่อกัน ฉากนี้ทำเอาน้ำตาซึมเลย
.
สิ่งที่ได้เห็นคือ พระชั้นผู้ใหญ่ที่ขึ้นมาจนถึงจุดนี้ ความปรารถนาต่อตำแหน่งยศบรรดาศักดิ์จะแทบไม่มีเลย(รึเปล่าไม่แน่ใจ) คือเอาจริงๆ นักบวชนี่สิ่งที่สำคัญคือการละวางทั้งหมด โดยเฉพาะอัตตา ตัวตน มันเป็นกิเลสตัวที่ร้ายที่สุด แต่ยศถาบรรดาศักดิ์นี่แหละที่มันเสริมอัตตาตัวตนมากมาย ไม่ต้องดูไกล ดูพระราชาคณะ พระชั้นสมเด็จบ้านเรานี่แหละ ความเป็นอยู่โคตรจะดี ปีใหม่ที่ข้าวของดีๆ ผลไม้นอก ดอกไม้ กระเช้า มาเป็นลังๆ กินจนต้องทิ้ง รับกิจนิมนต์ที่ก็ญาติโยมนี่แหละภายปัจจัย คนที่ไปเยี่ยมถึงกุฏิก็มีแต่คนใหญ่คนโต สุดท้ายยศถาทั้งหมดก็ของสมมุติทั้งนั้น จะทำอะไรเพื่อศาสนาไม่ได้จำเป็นต้่องมีตำแหน่งอะไรใหญ่โตเลย และการพยายามปิดล้อมให้คนเข้าถึงยากมันยิ่งสร้างแต่อัตตาๆๆๆๆๆๆให้มันแรงขึ้นๆ สุดท้ายความถือตัวตนนี่แหละ คือศัตรูที่ร้ายที่สุดของมนุษย์เราโดยเฉพาะนักบวช
.
แอนโธนี ฮอปกินส์ ในบทพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่16 นี่ขนลุกมากกกก แกแสดงได้แก่และตาบอดข้างนึงกิริยาท่าทีการพูดจา นี่เอาจริงๆคือขนลุกมาก ไม่ได้ติดตามผลงานหรือคลิปท่านเบเนดิกต์แต่เอาจริงๆเชื่อว่าท่านเซอร์เป็นสันตปาปาจริงๆ นี่มีลุ้นชิงออสการ์แบบไม่ยากเลย
.
โจนาธาน ไพรซ์ กับบทสันตปาปาฟรานซิส นี่คือดีมากกกดูอบอุ่น จากที่เคยเห็นในเรื่อง The Wife มาเรื่องนี้ บอกเลย ไพรซ์แสดงได้ดีมากกกกกก แต่นำชายปีนี้หินเยอะมากแบบสายโหด ก็เอาใจช่วย แต่มีแฟคเตอร์ได้ชิงออสการ์สูงมาก
.
บทภาพยนตร์โดย Anthony McCarten เจ้าของผลงาน
The Theory of Everything , Darkest Hour และก็
Bohemian Rhapsody เป็นหนังชีวประวัติหมด นำดาราชายของเรื่องไปคว้าออสการ์หมด แต่ปีนี้โอกาสที่ โจนาธาน ไพรซ์ จะได้ออสการ์นี่บอกเลยหินพอสมควรเลย สำหรับ The Two Popes นี่ McCarten เขียนบทได้ฉลาดมาก ทำหนังสนทนาทาทางศาสนาออกมาเป็นหนังที่มีบทสนทนาที่แสนจะฉลาด คมคาย และไม่น่าเบื่อเลย ดูเพลินตลอดเวลา 125 นาที ดูรวดเดียวจบเลยไม่มีกดพัก
.
The Two Popes นี่น่าจะเป็นการประกาศศักดาอีกครั้งของ Netflix ที่ตอกย้ำว่าปีหน้ากูมีหนังระดับคุณภาพหลายเรื่องนะมึง กรรมการออสการ์จะเขี่ยกูทิ้งอีกไหม สำหรับ The Two Popes นี่เปิดดูเถอะครับ คุ้มค่าไม่เสียเวลาแน่นอน หนังไม่ได้น่าเบื่อเลยครับ ดูเพลินมากครับ 9/10 ครับ
the darkest hour netflix 在 JUST ดู IT. Facebook 八卦
จัดเต็ม! กองทัพหนังใหม่ 2021 บน NETFLIX
ตัวอย่าง(ซับไทย): https://youtu.be/1RAiMPsTveQ
NETFLIX ปล่อยตัวอย่าง หนังน่าดูที่กำลังจ่อคิวลงสตรีมมิ่งตลอดปี 2021 แบบจัดเต็มทั้งสายฮา สายบู๊ สายรางวัล สายสยองขวัญ แอนิเมชั่น ไปจนถึงหนังภาคต่อ ไม่ว่าจะเป็น
THE HARDER THEY FALL
ภาพยนตร์คาวบอย รวมนักแสดงจากหนังสายรางวัลไม่ว่าจะเป็น LaKeith Stanfield จาก KNIVES OUT และ UNCUT GEM,
Regina King จาก ซีรีส์ WATCHMEN และ IF BEALE STREET COULD TALK, Idris Elba จาก THE SUICIDE SQUAD, HOBBS & SHAW
THUNDER FORCE
ภาพยนตร์ฮีโร่สายฮาของสองสาว Melissa McCarthy จาก THE HAPPYTIME MURDERS และ SPY, Octavia Spencer จาก THE WITCHES และ DOLITTLE สมทบด้วย Pom Klementieff จาก GUARDIANS OF THE GALAXY VOL.2
BRUISED
ภาพยนตร์สังเวียนเดือดบนเวทีคาวเลือดของศิลปะการต่อสู้แบบ MMA (mixed martial arts) ที่จะเป็นผลงานการกำกับครั้งแรกของ Halle Berry และเธอรับบทนำด้วยตัวเอง
TICK, TICK... BOOM!
ภาพยนตร์มิวสิคคัลดัดแปลงจากละครมิวสิคัลกึ่งชีวประวัติในชื่อเดียวกันของ Jonathan Larson และจะเป็นผลงานการกำกับครั้งแรกของ Lin-Manuel Miranda นักแต่งเพลงผู้อยู่เบื้องหลังเพลง How Far I'll Go ใน MOANA และหลากหลายรายการดังมากมาย พร้อมได้ Andrew Garfield, Alexandra Shipp, Bradley Whitford และ Vanessa Hudgens มาร่วมแสดง
พบกับบทสรุปความรักของจากสองภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยายขายดี THE KISSING BOOTH 3 และ TO ALL THE BOYS: ALWAYS AND FOREVER
THE WOMAN IN THE WINDOW
ภาพยนตร์อาชญกรรม/ระทึกขวัญดัดแปลงจากนิยายปลายปากกา A. J. Finn จาก Joe Wright ผู้กำกับ DARKEST HOUR และ THE SOLOIST พร้อมได้ Amy Adams มารับบทนำและสมทบด้วย Anthony Mackie และ Gary Oldman
ESCAPE FROM SPIDERHEAD
ภาพยนตร์ดัดแปลงจากเรื่องสั้นในชื่อเดียวกัน จากผู้กำกับ TOP GUN: MAVERICK และ ONLY THE BRAVE ร่วมด้วยสองมือเขียนบทสุดกวน Rhett Reese และ Paul Wernick จาก DEADPOOL แสดงนำโดย Chris Hemsworth, Jurnee Smollett และ Miles Teller
SWEET GIRL
ภาพยนตร์แอ็กชั่นสุดเดือดจาก Jason Momoa, Marisa Tomei และ Isabela Merced จาก Dora and the Lost City of Gold
ARMY OF THE DEAD
การหวนคืนสู่โลกของคนตายเดินได้ในรอบ 17 ปี ของ ZACK SNYDER พร้อมได้ Dave Bautista มานำทีมปล้นฝ่าดงซอมบี้
OUTSIDE THE WIRE
ภาพยนตร์บู๊ไอเดียล้ำจากทีมเขียนบท CRYSIS 2 และสตูดิโอผู้สร้าง EXTRACTION และ THE OLD GUARD ที่ได้ Anthony Mackie มารับบทนำ
MALCOLM & MARIE
ภาพยนตร์สัมพันธ์รักร้าวผลงานล่าสุดของ Sam Levinson ผู้กำกับล้ำวิสัยทัศน์จากซีรีส์ Euphoria และ Assassination Nation พร้อมได้ John David Washington จาก Tenet และ Zendaya จาก Spider-Man: Far From Home และซีรีส์ Euphoria
RED NOTICE
มหึมาภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จาก Rawson Marshall Thurber ผู้กำกับ Skyscraper ที่เป็นข่าวโด่งดังที่สุดในปีที่ผ่านมาด้วยการเป็นโปรเจกต์ภาพยนตร์ทุนสร้างหนาคว้าสามนักแสดงมาแรงผลงานเยี่ยม Dwayne Johnson, Ryan Reynolds และ Gal Gadot
DON'T LOOK UP
อีกหนึ่งภาพยนตร์น่าจับตากับการโคจรมาพบกันของสองนักแสดงมากความสามารถแห่งโลกภาพยนตร์ Leonardo DiCaprio และ Jennifer Lawrence จากผู้กำกับสุดเฟี้ยว Adam McKay
และอีกหลากหลายคอนเทนท์หลากหลายรสชาติไม่ว่าจะเป็น
- FEAR STREET
- YES DAY
- BAD TRIP
- O2
- THE LAST MERCENARY
- KATE
- NIGHT TEETH
- MONSTER
- MOXIE
- THE WHITE TIGER
- DOUBLE DAD
- BACK TO THE OUTBACK
- BEAUTY
ใครรอเรื่องไหนอยู่เตรียมตัวให้พร้อม ปีนี้ Netflix จัดเต็มอีกแน่นอน!
#จดอ #JUSTดูIT