เรื่องราวของ คนรวยสุดในเอเชีย / โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามถึงคนรวยสุดในเอเชีย
ทุกคนคงนึกถึงคนจีน
ไม่ว่าจะเป็น แจ็ก หม่า เจ้าของ Alibaba
หรือ โพนี่ หม่า เจ้าของ Tencent
คนรวยสุดในเอเชียตอนนี้ไม่ได้เป็นคนจีน
แต่เป็นคนอินเดีย
และไม่ได้ทำธุรกิจเทคโนโลยี
แต่เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมัน บริษัทโทรคมนาคม และบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในอินเดีย
หากเทียบกับธุรกิจในไทย เขาคนนี้จะเป็นเจ้าของบริษัท ปตท. เอไอเอส และเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งหมดรวมกัน
คนคนนี้ชื่อว่า Mukesh Ambani อ่านว่า มูเกช อัมบานี
อภิมหาเศรษฐีชาวอินเดียที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.8 ล้านล้านบาท
รวยกว่าเสี่ยธนินท์ บุคคลรวยสุดในประเทศไทย 3.4 เท่า
แถมเป็นชาวเอเชียคนเดียวที่รวยติด 1 ใน 10 ของโลก
แล้วเขาเป็นใคร มาจากไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ความมั่งคั่งของมูเกช อัมบานี เริ่มต้นมาจากรุ่นคุณพ่อของเขา
ธีรุไภย อัมบานี พ่อของมูเกช อพยพจากอินเดียไปทำงานเป็นเสมียนตั้งแต่อายุ 17 ปี
ที่บริษัทค้าขาย A. Besse & Co. ในประเทศเยเมนตั้งแต่สมัยที่ยังถูกอังกฤษยึดครองเป็นอาณานิคม
แม้ว่าเรื่องนี้ดูเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นที่ยากลำบาก
แต่มันกลับเป็นโอกาสของธีรุไภย อัมบานี ที่ซึ่งเขาได้รู้จักกับเครือข่ายธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศ
ทำให้ได้ดีลงานกับบริษัทมากมายที่ทำธุรกิจค้าขายสินค้าตั้งแต่น้ำตาล, เครื่องเทศ, สิ่งทอ รวมไปถึงน้ำมัน ในประเทศทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง รวมถึงเอเชีย
หลังจากสะสมประสบการณ์อยู่ 9 ปี
ธีรุไภย อัมบานี ตัดสินใจกลับมายังประเทศอินเดียเพื่อก่อตั้งกิจการของตัวเอง
ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียงปีเดียว เขาก็ได้ให้กำเนิดลูกชาย มูเกช อัมบานี
63 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครคิดว่ามูเกช อัมบานี
ลูกชายเสมียนที่กำลังจะอพยพกลับประเทศบ้านเกิด
กำลังจะสร้างอาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ และจะกลายมาเป็นคนรวยสุดในเอเชีย
คำถามคือ เขาเริ่มสร้างธุรกิจอะไรขึ้นมา?
ธีรุไภย อัมบานี เริ่มต้นทำธุรกิจจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์ และ ส่งออกเครื่องเทศ
โดยออฟฟิศแรกมีขนาด 33 ตารางเมตร มีโต๊ะกับเก้าอี้ 3 ตัว พร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่อง
จากประสบการณ์ที่เยเมน รวมกับคู่ค้าทางธุรกิจที่รู้จักกันดีจากต่างประเทศ
ทำให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกของธีรุไภย เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อรวมกับรัฐบาลประเทศอินเดียสมัยนั้นประกาศแผนพัฒนาอุตสาหกรรมระยะยาว
ทำให้ ธีรุไภย อัมบานี ปรับโครงสร้างธุรกิจกลายมาเป็นผู้ผลิตสิ่งทอ
ระหว่างที่พ่อกำลังวางรากฐาน
ด้านมูเกช อัมบานี คนลูก หลังจากเรียนจบปริญญาตรี
สาขาวิศวกรรมเคมีที่ University of Mumbai
ก็ได้สมัครเรียนต่อ MBA ที่ Stanford University ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องลาออกเพื่อมาช่วยธุรกิจคุณพ่อพร้อมๆ กับน้องชาย
เพราะธุรกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
แต่แล้วพ่อของมูเกช ก็ได้เสียชีวิตลงกะทันหันแบบไม่มีพินัยกรรม
เรื่องนี้ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไรแต่กลับทำให้พี่น้อง อัมบานี
ที่เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจพร้อมๆ กันกลับทะเลาะกันร้ายแรงถึงขนาดต้องขึ้นศาล
สุดท้ายจบลงด้วยการที่แม่ต้องมาระงับศึก และผลก็คือ มูเกช อัมบานี คนพี่ได้เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ของครอบครัว Reliance Industries
หลังจากนั้น มูเกช อัมบานี ก็ได้นำบริษัทแห่งนี้ ต่อยอดอุตสาหกรรมสิ่งทอไปยังอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นธุรกิจหลัก
นอกจากนี้ เขาก็ยังก่อตั้งธุรกิจเข้าไปแข่งขันในธุรกิจกลุ่มอื่น เช่น
Reliance Retail ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจค้าปลีกใหญ่สุดในอินเดีย
ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 10,901 สาขา และเปิดให้บริการกว่า 6,700 เมืองทั่วประเทศ
รวมถึง Reliance Jio Infocomm
ทำธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอินเดีย
ซึ่งปัจจุบันรองรับสมาชิกรายเดือนกว่า 307 ล้านคน
คิดเป็น 23% ของประชากรประเทศอินเดีย
แล้วปัจจุบัน Reliance Industries Limited ใหญ่ขนาดไหน?
ปี 2017 รายได้ 1.3 ล้านล้านบาท กำไร 1.3 แสนล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 1.7 ล้านล้านบาท กำไร 1.5 แสนล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 2.4 ล้านล้านบาท กำไร 1.7 แสนล้านบาท
โดยรายได้ทุกๆ 100 บาทของบริษัทมาจาก
ธุรกิจปิโตรเคมี 43 บาท
ธุรกิจโรงกลั่น 26 บาท
ธุรกิจเทเลคอม 18 บาท
ธุรกิจค้าปลีก 7 บาท
และอื่นๆ อีก 6 บาท
ปัจจุบัน Reliance Industries Limited มีบริษัทย่อย 269 บริษัท
พร้อมพนักงาน 194,056 คน และมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 4 ล้านล้านบาท
มูลค่าระดับนี้ถือเป็นบริษัทใหญ่สุดในประเทศอินเดีย
แซงหน้าบริษัท Tata Consultancy Services บริษัทที่ปรึกษาในเครือ Tata Group
มูเกช อัมบานี ถือหุ้นอยู่ในบริษัทแห่งนี้กว่า 42%
และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอื่นๆ ทำให้เขามีทรัพย์สินกว่า 1.8 ล้านล้านบาท
ซึ่งมากสุดในเอเชีย และมากเป็นอันดับ 10 ของโลก
ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีขนาดใหญ่โตขนาดนี้
แต่ Reliance Industries กลับยังมีมุมมองต่อธุรกิจดิจิทัลที่น่าสนใจ
ล่าสุดก็เพิ่งประกาศว่ากำลังจะก่อตั้งบริษัทเข้าสู่สมรภูมิ E-Commerce ในประเทศอินเดีย
ที่มีคู่แข่งคนสำคัญเป็นบริษัทค้าปลีกและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Walmart และ Amazon จากประเทศสหรัฐอเมริกา..
ด้วยทุนเดิมที่ครอบครองร้านค้าปลีกมหาศาลรวมกับจำนวนผู้ใช้งานบนธุรกิจเครือข่ายที่คิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรประเทศอินเดีย ก็น่าจะสร้างความกังวลให้กับบริษัทอเมริกันได้ไม่น้อย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า.. มูเกช อัมบานีและครอบครัวอาศัยอยู่ในที่พักชื่อว่า แอนทีเลีย ซึ่งเป็นตึกสูงระฟ้ากว่า 27 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 398,000 ตารางเมตร
ประกอบไปด้วยห้องบอลรูมสำหรับจัดเลี้ยง ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ โรงภาพยนตร์ 50 ที่นั่ง สวนแนวตั้ง สวนลอยฟ้า จุดจอดเฮลิคอปเตอร์ 3 จุด และที่จอดรถ 6 ชั้น
พร้อมกับพนักงานที่คอยดูแลบ้านอีก 600 คน
ตึกแห่งนี้ถูกออกแบบให้แต่ละชั้นมีความกว้างแตกต่างกันออกไป แถมยังสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ 8 แมกนิจูด และรองรับแรงระเบิดได้เป็นอย่างดี
รวมๆ แล้ว ที่พักแห่งนี้มีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่นับพระราชวังบักกิงแฮมของราชวงศ์อังกฤษ
ตึกแอนทีเลียของครอบครัวอัมบานี จะเป็นที่อยู่อาศัยที่แพงสุดในโลก เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
References
-https://www.dhirubhai.net/off-to-aden
-https://www.nytimes.com/…/busi…/worldbusiness/15ambani.html…
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/…
-https://www.ril.com/Financial-Statement-2018-19.aspx
-https://www.ril.com/…/Financial%20Presentation%20-%20Q4%20R…
-https://www.ril.com/ar2018-19/ril-annual-report-2019.pdf
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/…
-https://sudsapda.com/top-lists/135391.html
-https://www.indiatoday.in/…/ambani-antilia-inside-pics-1317…
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過69的網紅TheHowardChen,也在其Youtube影片中提到,週六晚上好!美國行的最後一集,#HowVlog EP.8 終於剪好了!(加州的好天氣依舊令人著迷🤘) 這次的SF下半部的Vlog,和朋友很輕鬆地去吃了很道地的美式早餐,喝了很好喝的PEET's,再去PIER 39吹風看海景,這絕對是最優質的週日行程,特別是太陽普照搭配藍天,果真是令人心情大好!哈哈...
stanford mba 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
เรื่องราวของ คนรวยสุดในเอเชีย / โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามถึงคนรวยสุดในเอเชีย
ทุกคนคงนึกถึงคนจีน
ไม่ว่าจะเป็น แจ็ก หม่า เจ้าของ Alibaba
หรือ โพนี่ หม่า เจ้าของ Tencent
คนรวยสุดในเอเชียตอนนี้ไม่ได้เป็นคนจีน
แต่เป็นคนอินเดีย
และไม่ได้ทำธุรกิจเทคโนโลยี
แต่เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมัน บริษัทโทรคมนาคม และบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในอินเดีย
หากเทียบกับธุรกิจในไทย เขาคนนี้จะเป็นเจ้าของบริษัท ปตท. เอไอเอส และเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งหมดรวมกัน
คนคนนี้ชื่อว่า Mukesh Ambani อ่านว่า มูเกช อัมบานี
อภิมหาเศรษฐีชาวอินเดียที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.8 ล้านล้านบาท
รวยกว่าเสี่ยธนินท์ บุคคลรวยสุดในประเทศไทย 3.4 เท่า
แถมเป็นชาวเอเชียคนเดียวที่รวยติด 1 ใน 10 ของโลก
แล้วเขาเป็นใคร มาจากไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ความมั่งคั่งของมูเกช อัมบานี เริ่มต้นมาจากรุ่นคุณพ่อของเขา
ธีรุไภย อัมบานี พ่อของมูเกช อพยพจากอินเดียไปทำงานเป็นเสมียนตั้งแต่อายุ 17 ปี
ที่บริษัทค้าขาย A. Besse & Co. ในประเทศเยเมนตั้งแต่สมัยที่ยังถูกอังกฤษยึดครองเป็นอาณานิคม
แม้ว่าเรื่องนี้ดูเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นที่ยากลำบาก
แต่มันกลับเป็นโอกาสของธีรุไภย อัมบานี ที่ซึ่งเขาได้รู้จักกับเครือข่ายธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศ
ทำให้ได้ดีลงานกับบริษัทมากมายที่ทำธุรกิจค้าขายสินค้าตั้งแต่น้ำตาล, เครื่องเทศ, สิ่งทอ รวมไปถึงน้ำมัน ในประเทศทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง รวมถึงเอเชีย
หลังจากสะสมประสบการณ์อยู่ 9 ปี
ธีรุไภย อัมบานี ตัดสินใจกลับมายังประเทศอินเดียเพื่อก่อตั้งกิจการของตัวเอง
ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียงปีเดียว เขาก็ได้ให้กำเนิดลูกชาย มูเกช อัมบานี
63 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครคิดว่ามูเกช อัมบานี
ลูกชายเสมียนที่กำลังจะอพยพกลับประเทศบ้านเกิด
กำลังจะสร้างอาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ และจะกลายมาเป็นคนรวยสุดในเอเชีย
คำถามคือ เขาเริ่มสร้างธุรกิจอะไรขึ้นมา?
ธีรุไภย อัมบานี เริ่มต้นทำธุรกิจจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์ และ ส่งออกเครื่องเทศ
โดยออฟฟิศแรกมีขนาด 33 ตารางเมตร มีโต๊ะกับเก้าอี้ 3 ตัว พร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่อง
จากประสบการณ์ที่เยเมน รวมกับคู่ค้าทางธุรกิจที่รู้จักกันดีจากต่างประเทศ
ทำให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกของธีรุไภย เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อรวมกับรัฐบาลประเทศอินเดียสมัยนั้นประกาศแผนพัฒนาอุตสาหกรรมระยะยาว
ทำให้ ธีรุไภย อัมบานี ปรับโครงสร้างธุรกิจกลายมาเป็นผู้ผลิตสิ่งทอ
ระหว่างที่พ่อกำลังวางรากฐาน
ด้านมูเกช อัมบานี คนลูก หลังจากเรียนจบปริญญาตรี
สาขาวิศวกรรมเคมีที่ University of Mumbai
ก็ได้สมัครเรียนต่อ MBA ที่ Stanford University ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องลาออกเพื่อมาช่วยธุรกิจคุณพ่อพร้อมๆ กับน้องชาย
เพราะธุรกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
แต่แล้วพ่อของมูเกช ก็ได้เสียชีวิตลงกะทันหันแบบไม่มีพินัยกรรม
เรื่องนี้ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไรแต่กลับทำให้พี่น้อง อัมบานี
ที่เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจพร้อมๆ กันกลับทะเลาะกันร้ายแรงถึงขนาดต้องขึ้นศาล
สุดท้ายจบลงด้วยการที่แม่ต้องมาระงับศึก และผลก็คือ มูเกช อัมบานี คนพี่ได้เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ของครอบครัว Reliance Industries
หลังจากนั้น มูเกช อัมบานี ก็ได้นำบริษัทแห่งนี้ ต่อยอดอุตสาหกรรมสิ่งทอไปยังอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นธุรกิจหลัก
นอกจากนี้ เขาก็ยังก่อตั้งธุรกิจเข้าไปแข่งขันในธุรกิจกลุ่มอื่น เช่น
Reliance Retail ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจค้าปลีกใหญ่สุดในอินเดีย
ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 10,901 สาขา และเปิดให้บริการกว่า 6,700 เมืองทั่วประเทศ
รวมถึง Reliance Jio Infocomm
ทำธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอินเดีย
ซึ่งปัจจุบันรองรับสมาชิกรายเดือนกว่า 307 ล้านคน
คิดเป็น 23% ของประชากรประเทศอินเดีย
แล้วปัจจุบัน Reliance Industries Limited ใหญ่ขนาดไหน?
ปี 2017 รายได้ 1.3 ล้านล้านบาท กำไร 1.3 แสนล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 1.7 ล้านล้านบาท กำไร 1.5 แสนล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 2.4 ล้านล้านบาท กำไร 1.7 แสนล้านบาท
โดยรายได้ทุกๆ 100 บาทของบริษัทมาจาก
ธุรกิจปิโตรเคมี 43 บาท
ธุรกิจโรงกลั่น 26 บาท
ธุรกิจเทเลคอม 18 บาท
ธุรกิจค้าปลีก 7 บาท
และอื่นๆ อีก 6 บาท
ปัจจุบัน Reliance Industries Limited มีบริษัทย่อย 269 บริษัท
พร้อมพนักงาน 194,056 คน และมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 4 ล้านล้านบาท
มูลค่าระดับนี้ถือเป็นบริษัทใหญ่สุดในประเทศอินเดีย
แซงหน้าบริษัท Tata Consultancy Services บริษัทที่ปรึกษาในเครือ Tata Group
มูเกช อัมบานี ถือหุ้นอยู่ในบริษัทแห่งนี้กว่า 42%
และเมื่อรวมกับทรัพย์สินอื่นๆ ทำให้เขามีทรัพย์สินกว่า 1.8 ล้านล้านบาท
ซึ่งมากสุดในเอเชีย และมากเป็นอันดับ 10 ของโลก
ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีขนาดใหญ่โตขนาดนี้
แต่ Reliance Industries กลับยังมีมุมมองต่อธุรกิจดิจิทัลที่น่าสนใจ
ล่าสุดก็เพิ่งประกาศว่ากำลังจะก่อตั้งบริษัทเข้าสู่สมรภูมิ E-Commerce ในประเทศอินเดีย
ที่มีคู่แข่งคนสำคัญเป็นบริษัทค้าปลีกและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Walmart และ Amazon จากประเทศสหรัฐอเมริกา..
ด้วยทุนเดิมที่ครอบครองร้านค้าปลีกมหาศาลรวมกับจำนวนผู้ใช้งานบนธุรกิจเครือข่ายที่คิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรประเทศอินเดีย ก็น่าจะสร้างความกังวลให้กับบริษัทอเมริกันได้ไม่น้อย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า.. มูเกช อัมบานีและครอบครัวอาศัยอยู่ในที่พักชื่อว่า แอนทีเลีย ซึ่งเป็นตึกสูงระฟ้ากว่า 27 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 398,000 ตารางเมตร
ประกอบไปด้วยห้องบอลรูมสำหรับจัดเลี้ยง ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ โรงภาพยนตร์ 50 ที่นั่ง สวนแนวตั้ง สวนลอยฟ้า จุดจอดเฮลิคอปเตอร์ 3 จุด และที่จอดรถ 6 ชั้น
พร้อมกับพนักงานที่คอยดูแลบ้านอีก 600 คน
ตึกแห่งนี้ถูกออกแบบให้แต่ละชั้นมีความกว้างแตกต่างกันออกไป แถมยังสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ 8 แมกนิจูด และรองรับแรงระเบิดได้เป็นอย่างดี
รวมๆ แล้ว ที่พักแห่งนี้มีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่นับพระราชวังบักกิงแฮมของราชวงศ์อังกฤษ
ตึกแอนทีเลียของครอบครัวอัมบานี จะเป็นที่อยู่อาศัยที่แพงสุดในโลก เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
References
-https://www.dhirubhai.net/off-to-aden
-https://www.nytimes.com/2008/06/15/business/worldbusiness/15ambani.html?pagewanted=all
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/?list=rtb#4c1b8382214c
-https://www.ril.com/Financial-Statement-2018-19.aspx
-https://www.ril.com/getattachment/b9a51ff7-41b4-421c-bf35-c589cbc66eb6/Financial%20Presentation%20-%20Q4%20Results.aspx
-https://www.ril.com/ar2018-19/ril-annual-report-2019.pdf
-https://www.forbes.com/profile/mukesh-ambani/?list=rtb#28053369214c
-https://sudsapda.com/top-lists/135391.html
-https://www.indiatoday.in/lifestyle/photo/ambani-antilia-inside-pics-1317117-2018-08-17
stanford mba 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 八卦
'Forest Li' จากเด็กติดเกม สู่เจ้าของอาณาจักร Shopee, AirPay และ Garena
.
Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมของเหล่านักช้อป, Garena ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ของเหล่าเกมเมอร์ เช่น ROV, FIFA และ AirPay ผู้ให้บริการทางการเงินออนไลน์ ทั้งการชำระเงิน, สินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ และอื่นๆ รู้หรือไม่? ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้การก่อตั้งของคน ๆ เดียว นั่นก็คือ “Forrest Li” หรือชื่อเดิม “Li Xiaodong”
.
Forrest Li คือผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea Group ซึ่งเขาใช้เวลาเพียง 11 ปีเท่านั้นในการไต่เต้าจากคนธรรมดา มาเป็นเศรษฐีแนวหน้าของสิงคโปร์ ปัจจุบันเขาขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 7 ของสิงคโปร์ โดยมีทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.9 หมื่นล้านบาท
.
เขาเกิดที่ประเทศจีน ในครอบครัวข้าราชการ และจบการศึกษาด้านวิศวกรรมจาก Shanghai Jiao Tong University ส่วนตัวเขาเป็นคนที่หลงใหลในเกมมาก โดยเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเกมตามร้านอินเทอร์เน็ต ซึ่งหลังจากที่เรียนจบ ก็ได้ไปทำงานที่บริษัท Motorola ประเทศจีน แต่เมื่อทำไปได้สักพัก เขารู้สึกว่าการทำงานประจำ ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ประกอบกับช่วงนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ผู้คนก็เริ่มหันมาทำธุรกิจและลงทุนกันมากขึ้นเช่นกัน
.
เขาจึงลาออก และเปลี่ยนเส้นทางสู่สายธุรกิจ จึงไปเรียนต่อที่ MBA ที่ Stanford University ประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีโอกาสได้ฟังสุนทรพจน์ของ “สตีฟ จอบส์” ซึ่งยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เขากล้าทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่เขาไม่เคยทำมาก่อน นั่นก็คือ การเดินทางมาปักหลักชีวิตที่สิงคโปร์ และเริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเกมออนไลน์ ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก อย่าง Garena โดยปัจจุบันเขาได้ขยายธุรกิจจากเกมออนไลน์ มาสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจการบริการด้านการเงินแบบออนไลน์ และได้เปลี่ยนชื่อจาก Garena เป็น “Sea Group”
.
ซึ่งเมื่อเราลองมาดูภาพรวมผลประกอบการของ Sea Group จะพบว่า ขาดทุนต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่าง
ปี 2017 มีรายได้ 13,493 ล้านบาท ขาดทุน 18,259 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 26,941 ล้านบาท ขาดทุน 31,315 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 70,868 ล้านบาท ขาดทุน 47,654 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นสัดส่วนของสื่อบันเทิงดิจิทัล 52%, อีคอมเมิร์ซและบริการอื่นๆ 38% และการขายสินค้าอีก 10%
.
ซึ่งเมื่อลองกลับมามองแบบแยกประเภทธุรกิจนั้น จะพบว่า มีธุรกิจหนึ่งที่แม้จะมาทีหลัง แต่การทำการตลาดโดยเน้นที่ความเหมาะสมในแต่ละท้องถิ่น และมีการปรับตัวตลอดเวลา ทำให้มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนสามารถขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นก็คือ “Shopee” โดยเมื่อไตรมาส 1 ของปี 2563 ที่ผ่านมา พบว่ามีผลประกอบการเพิ่มขึ้นกว่า 74.3% โดยมียอดขายถึง 6,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.97 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันยอดออร์เดอร์สินค้าก็เพิ่มขึ้น 111.2% จากปีก่อน คิดเป็น 428.9 ล้านออร์เดอร์ ทำให้รายได้ของ Shopee เพิ่มขึ้น 110.5% คิดเป็น 314 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10,000 ล้านบาท
.
อย่างไรก็ตาม รายได้ส่วนใหญ่ของ Sea Group กลับมาจากธุรกิจด้านบันเทิงและเกมออนไลน์ อย่าง Garena ที่มีรายได้ถึง 512 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือ Shopee และ AirPay
ต้องยอมรับว่า “Forrest Li” คือหนึ่งในมหาเศรษฐี และเจ้าของธุรกิจที่เป็นแบบอย่างของความพยายาม และกล้าที่จะเริ่มต้นทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่และไกลตัว เพราะทั้ง 3 ธุรกิจที่เขาเป็นผู้ก่อตั้ง ประสบความสำเร็จและกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในหลายๆประเทศทั่วโลก
.
ที่มา : https://www.seagroup.com/products/garena
https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-03-01/a-billionaire-forged-in-free-fire-the-fortnite-of-singapore
https://brandinside.asia/shopee-no1-in-sea-ecommerce/
https://www.atcreative.co.th/forrest-li-%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87-sea-%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%82/
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#ForrestLi #SeaGroup #Shopee #Garena #AirPay
stanford mba 在 TheHowardChen Youtube 的評價
週六晚上好!美國行的最後一集,#HowVlog EP.8 終於剪好了!(加州的好天氣依舊令人著迷🤘)
這次的SF下半部的Vlog,和朋友很輕鬆地去吃了很道地的美式早餐,喝了很好喝的PEET's,再去PIER 39吹風看海景,這絕對是最優質的週日行程,特別是太陽普照搭配藍天,果真是令人心情大好!哈哈哈
另外,很幸運地,這次也能到Stanford Business School上了一堂很棒的課,覺得收獲滿滿,也讓我反思了不少工作上的事情。最後的最後,還是有把該吃到的IN-N-OUT、海鮮湯以及BOBA GUYS都踩到點,完全沒有浪費任何時間,也讓這趟美國行有了很多美好的記憶!
最後,如果你們有去 #SanFrancisco 絕對不要錯過那個Seafood Stew,湯底鮮甜、料多實在,真心推薦一波😂(我真的餓了XD)
Hope you guys enjoy today's video and have a great weekend 🤩
#StanfordBusinessSchool #IN-N-OUT #BOBAGUYS #舊金山 #TravelVlog
----------------------------
🎵 MUSIC
00:00 Melody by Tellow
02:47 Burning by Tellow
----------------------------
【HowVlog Selection】
HowVlog EP.1 慢活的沖繩 (https://youtu.be/JNvYXYXNXXA)
HowVlog EP.2 台南鮮奶茶之旅 (https://youtu.be/yMCaWnQhURY)
HowVlog EP.3 跟我去福岡出差 (https://youtu.be/WMmmKp7RhVU)
HowVlog EP.4 差點趕不上飛機? (https://youtu.be/fhhbpdYfp3Q)
HowVlog EP.5 我在哈佛的一天(https://youtu.be/eTQkNBGOvIY)
HowVlog EP.6 一日MBA學生生活體驗
(https://youtu.be/Hfc1k73zA_8)
HowVlog EP.7 SF(上) (https://youtu.be/Bu089uZ7fKY)
記得訂閱霍華喔 ▶ https://www.youtube.com/c/HowardC霍華
更多霍華:
臉書請搜尋:Howard C. (http://bit.ly/2KsxSRv )
IG請搜尋:__howardc__ (http://bit.ly/2NqpPcZ )
For any inquiry:[email protected]
stanford mba 在 TheHowardChen Youtube 的評價
大家晚安!終於在七月的最後一天,趕上 #HowVlog EP.7,迫不及待想和你們分享舊金山的好天氣☀️😎
這次的SF上半部的Vlog,身為果粉的我一定不能錯過在Cupertino的Apple Park,實在是非常有設計感,有咖啡、有展示區也有最新的技術體驗,真的很值得一訪。
另外,也去逛了當地的Outlet,可說是各個品牌的大集合,如果要幫家人買東西的話,很推薦去Stanford Shopping Center!
最後,如果你們有去 #SanFrancisco 絕對不要錯過Super Duper,真的非常好吃,吃完之後可以慢慢去散個步,看看舊金山的夜景!
Hope you guys enjoy today's video and have a great start of your August 🤩
#ApplePark #舊金山 #TravelVlog
----------------------------
🎵 MUSIC
00:00 Pretty Awkward by Blaker
03:51 Home Alone by Mindme
----------------------------
【HowVlog Selection】
HowVlog EP.1 慢活的沖繩 (https://youtu.be/JNvYXYXNXXA)
HowVlog EP.2 台南鮮奶茶之旅 (https://youtu.be/yMCaWnQhURY)
HowVlog EP.3 跟我去福岡出差 (https://youtu.be/WMmmKp7RhVU)
HowVlog EP.4 差點趕不上飛機? (https://youtu.be/fhhbpdYfp3Q)
HowVlog EP.5 我在哈佛的一天(https://youtu.be/eTQkNBGOvIY)
HowVlog EP.6 一日MBA學生生活體驗
(https://youtu.be/Hfc1k73zA_8)
記得訂閱霍華喔 ▶ https://www.youtube.com/c/HowardC霍華
更多霍華:
臉書請搜尋:Howard C. (http://bit.ly/2KsxSRv )
IG請搜尋:howard9306 (http://bit.ly/2MoSwUt )
商業合作:[email protected]