Sean Parker อดีตแฮกเกอร์ ผู้เคยเป็นประธานบริษัท Facebook /โดย ลงทุนแมน
หากใครที่เคยรับชมภาพยนตร์ “The Social Network”
ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบริษัท Facebook
รวมถึงผู้ก่อตั้งวัยหนุ่มที่ชื่อว่า Mark Zuckerberg
คงไม่มีทางลืมตัวละครหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Sean Parker อย่างแน่นอน
ชายที่มีความยียวนกวนใจ แต่ก็แฝงไปด้วยความเฉลียวฉลาด
ซึ่งเขาคนนี้ เป็นคนที่ไม่ว่าจะพูดอะไร Mark Zuckerberg ก็เห็นดีเห็นงามไปหมด
ถึงขนาดที่ยกตำแหน่งประธานบริษัท Facebook ให้กับ Parker ไปเลย
แม้ว่าในช่วงเวลานั้นเขาจะมีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น
ซึ่งถ้าหากดูประวัติของ Sean Parker อย่างละเอียด
ก็คงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชายคนนี้ถึงสามารถจูงใจ
และมีอิทธิพลต่อ Mark Zuckerberg อย่างมาก
แล้วประวัติของ Sean Parker น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Sean Parker เกิดที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1979
เมื่ออายุได้ 7 ขวบ พ่อของเขาทำให้เขาได้รู้จักอีกโลกหนึ่งนั่นคือ โลกของคอมพิวเตอร์
โดยพ่อของเขาได้สอนวิธีเขียนโปรแกรมบนเจ้าคอมพิวเตอร์รุ่น Atari 800
ตั้งแต่นั้นมา Sean Parker ก็ได้หลงรักและสามารถเขียนโคดเป็นตั้งแต่เด็ก
จากทักษะและความชอบสิ่งนี้ ส่งผลให้ชีวิตของ Sean Parker เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
เริ่มตั้งแต่ในช่วง 15 ปี Sean Parker ได้สร้างวีรกรรมที่โด่งดัง จน FBI ต้องสืบและตามจับ
โดยสิ่งที่เขาทำคือการแฮกฐานระบบข้อมูลของมหาวิทยาลัยและบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก
จริง ๆ แล้ว เขามักจะแฮกข้อมูลเป็นงานอดิเรกเพราะไม่มีใครตามจับได้
แต่ในที่สุดเขาก็ถูก FBI จับได้ ขณะที่กำลังแฮกข้อมูลบริษัทอื่นอยู่
และเหตุผลที่เขาโดน FBI ตามตัวจนพบ
ก็เพราะว่าพ่อของเขาเข้ามายึดคีย์บอร์ดไว้ เนื่องจากเห็นว่าลูกของตนเล่นคอมพิวเตอร์มากจนเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถออกจากระบบได้ทันเวลา จึงส่งผลให้ FBI ตามสืบได้
แต่เนื่องจาก Sean Parker มีอายุเพียง 15 ปี
โทษที่เขาได้รับจึงเป็นเพียง การบำเพ็ญประโยชน์ให้กับชุมชนเท่านั้น
จากเรื่องนี้แม้สุดท้าย Sean Parker จะโดนจับได้
แต่ก็ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงในวงการนี้มากขึ้น
ทำให้เขาได้รู้จักกับชาวแฮกเกอร์วัยเดียวกันที่ชื่อว่า “Shawn Fanning”
ซึ่งคนนี้เองเป็นคนที่กำลังจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของเขา
ด้วยนิสัยใจคอและความชอบที่เหมือนกัน จึงทำให้ทั้งสองตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน
โดยไอเดียธุรกิจแรกที่พวกเขาคิดคือ Crosswalk ที่จะเข้ามาช่วยป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์
แต่เนื่องจากทั้งคู่ยังมีประสบการณ์ที่น้อย จึงยังไม่สามารถผลักดันให้กลายเป็นธุรกิจจริงได้
ทั้งสองจึงตกลงแยกย้ายกันไปฝึกทักษะและหาประสบการณ์เพิ่มเติม
เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้กลับมาร่วมทำธุรกิจกันอีก
ปีต่อมาเมื่อ Sean Parker อายุ 16 ปี เขาก็ได้ทำโปรแกรมที่รวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ในยุคแรก ๆ ขึ้นมาสำเร็จ ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลงานวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์แห่งรัฐเวอร์จิเนีย
และเป็นที่ถูกอกถูกใจของหน่วยงาน CIA เป็นอย่างมาก ถึงขนาดต้องการจ้างเขาเข้ามาทำงาน
แต่ Sean Parker ก็ได้ปฏิเสธเพราะตนสนใจเรื่องธุรกิจมากกว่า
จึงทำให้เขาเลือกทำงานกับเหล่าบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ
เช่น FreeLoader และ UUNet บริษัทผู้บุกเบิกการให้บริการทางอินเทอร์เน็ต
ในปีสุดท้ายของการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลาย เขาสามารถสร้างเงินได้ถึง 2.5 ล้านบาท
ซึ่งเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้พ่อแม่ของเขาปล่อยให้เขาเลือกที่จะไม่เรียนมหาวิทยาลัยต่อ
ช่วงเวลานี้เองที่ Shawn Fanning เพื่อนแฮกเกอร์คนสนิทของเขาก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
และเขาก็ได้เล่าถึงโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมา ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ไฟล์เพลงบนโลกอินเทอร์เน็ตได้
Sean Parker เห็นว่าโปรแกรมนี้สามารถต่อยอดไปได้อีกไกล
จึงเกลี้ยกล่อมเพื่อนของเขาให้นำมาสร้างเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง
ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ต่อยอดโปรแกรมดังกล่าวกลายมาเป็น “Napster”
แพลตฟอร์มที่ให้ผู้คนสามารถแชร์และดาวน์โหลดเพลงด้วยกัน
Napster ได้สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมวงการเพลงอย่างมาก
ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตเพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้คนส่วนใหญ่หันมาดาวน์โหลดเพลง
บนโลกอินเทอร์เน็ตแทนการซื้อเพลงแบบออฟไลน์ อย่างเช่น แผ่นเสียงและซีดี
เรื่องดังกล่าว เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนยุคหลังเปลี่ยนพฤติกรรมมาฟังเพลงบนโลกออนไลน์
และ Napster ยังสร้างสถิติผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มมากที่สุด มีจำนวนถึง 80 ล้านคนเลยทีเดียว
แต่ด้วยความที่ผู้คนนำเพลงมาแจกผ่านแพลตฟอร์มแบบนี้
ถือเป็นสิ่งที่ผิดลิขสิทธิ์และค่ายเพลงเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล
จึงทำให้สุดท้าย Napster ถูกฟ้องร้องและต้องปิดตัวลงไป
แต่รู้หรือไม่ว่า จากกระแสที่มาแรงของ Napster ทำให้เกิดบริการหนึ่งในเวลาต่อมา
นั่นก็คือ iTunes ของ Apple เพราะ Steve Jobs เห็นแล้วว่าพฤติกรรมของผู้คนกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ซื้อแบบแผ่นเสียง แต่ตอนนี้กลับมาดาวน์โหลดผ่านโลกออนไลน์
เขาจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ ในการเข้าไปผูกมิตรกับค่ายเพลง
เพื่อที่ตนจะสามารถนำเพลงมาวางขายบน iTunes ได้อย่างถูกต้อง
และอย่างที่รู้กัน iTunes ก็ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
เรื่องนี้เองทำให้ Sean Parker ไม่พอใจอย่างมาก
แต่ตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงตัดสินใจคิดหาธุรกิจตัวใหม่ขึ้นมา
โดยใช้ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากธุรกิจที่แล้ว
ทั้งเรื่องการเงิน กฎหมายธุรกิจต่าง ๆ และความเป็นผู้ประกอบการ
และแล้วก็ได้เกิดธุรกิจใหม่ที่มีชื่อว่า “Plaxo” ซึ่งเป็นบริการที่มาช่วยเหลือสำหรับขยายกลุ่มผู้ใช้งานบนเครือข่ายสังคมออนไลน์และบริการนี้เองมีส่วนช่วยให้ LinkedIn และ Facebook ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
เมื่อธุรกิจเริ่มดำเนินไปได้ดี Sean Parker กลับละเลยการทำงาน
ทำให้สุดท้ายเขาก็โดนเพื่อน ๆ ที่ร่วมก่อตั้งกันมาไล่ออกในที่สุด
และแล้วในช่วงหลังจากนี้เอง ที่เขาได้รู้จักกับเว็บไซต์
ที่ในช่วงนั้นกำลังเป็นกระแสที่ชื่อว่า “Facebook”
เขาทดลองเล่น พบว่าโซเชียลมีเดียตัวนี้ทำให้ตนเองติดมาก
จึงรีบหาช่องทางติดต่อกับ Mark Zuckerberg เพื่อมาพูดคุยสานความสัมพันธ์กัน
ซึ่ง Mark Zuckerberg ก็ตอบตกลงเพราะนับถือ Sean Parker เป็นดั่งไอดอลอยู่แล้ว
จากวีรกรรมแฮกฐานข้อมูล และการก่อตั้งบริษัทสุดเจ๋งอย่าง Napster
ในช่วงเวลานั้น Facebook ยังให้บริการเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น
แต่ Sean Parker คิดว่า Facebook มีศักยภาพมากกว่านั้น
จึงแนะนำให้ Mark Zuckerberg ขยายฐานผู้ใช้งาน
และเขาก็เป็นคนแนะแนวทางให้ด้วยว่า
Facebook ยังไม่ต้องเร่งรีบหารายได้ ให้เพิ่มจำนวนผู้ใช้งานก่อน
เพราะถ้าหากหารายได้จะเกิดข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน
เช่น โฆษณาอาจจะอยู่รกเต็มบนเว็บไซต์ จนผู้ใช้งานหนีไปใช้ของคู่แข่งรายอื่น
นอกจากคำแนะนำแล้ว Sean Parker ก็ได้เข้ามาช่วย Facebook ตั้งแต่เรื่องการเจรจาขอเงินทุน
ทั้งจาก Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และ Accel Partners บริษัทร่วมลงทุน
เพราะแม้ว่าช่วงนั้น Facebook จะไปได้ดี มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น
แต่ก็ไม่มีใครร่วมลงทุนด้วย เนื่องจากไม่เห็นโอกาสทางธุรกิจ
แต่ Sean Parker กลับสามารถดึงดูดนักลงทุน
ด้วยวิสัยทัศน์ที่วาดไว้ให้กับ Facebook
จึงทำให้บริษัทสามารถคงอยู่รอดต่อไปได้
เริ่มตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ของ Facebook ช่วงแรก
ที่เน้นตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานก่อนหารายได้
การผลักดันฟังก์ชันของ Facebook ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถลงรูปได้ นอกจากข้อความ
รวมถึงปุ่มแชร์ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้อัปโหลดบทความข่าว วิดีโอ และเนื้อหาของบุคคลที่สาม
แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ Sean Parker ทำให้กับ Facebook คือ
การวางโครงสร้างองค์กรที่ทำให้ Mark Zuckerberg สามารถควบคุมบริษัท
ได้อย่างสมบูรณ์และถาวร โดยเขาใช้ประสบการณ์อันเจ็บปวดที่เคยได้รับจาก Plaxo
ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ จึงทำให้ Mark Zuckerberg
แต่งตั้ง Sean Parker เป็นประธานของบริษัท
แต่สุดท้ายเขาก็ถูกไล่ออกจากบริษัทอีกครั้ง หลังถูกจับได้ว่าเสพโคเคนในงานปาร์ตี..
แม้ว่าจะออกจาก Facebook ไปแล้ว
แต่ Sean Parker ยังคงให้คำแนะนำ Mark Zuckerberg
เกี่ยวกับกลยุทธ์และสรรหาผู้บริหารระดับสูงอย่าง Chamath Palihapitiya
หลังจากออกจาก Facebook เขาก็ไปเป็นหุ้นส่วนของ Founders Fund
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในธุรกิจ Startup โดยมีผู้ก่อตั้งคือ Peter Thiel
เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายปี แต่ Sean Parker ก็ยังไม่หยุดคิดถึง Napster
แพลตฟอร์มสุดรักที่ตนสร้างขึ้น เขาจึงค้นหาบริษัทที่มีอุดมการณ์เช่นเดียวกัน
และแล้วก็ไปเจอกับสตรีมมิงที่ชื่อว่า Spotify
แม้ว่าเขาจะอยากลงทุนในบริษัทแห่งนี้มากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถลงทุนได้
เนื่องจาก Spotify ได้รับเงินเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Sean Parker จึงหาทางสนับสนุนทางอื่น หนึ่งในนั้นก็คือการโปรโมต Spotify ผ่าน Facebook
เพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มสตรีมมิงจากยุโรปตัวนี้ เข้ามาตีตลาดเพลงในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนั้นมี iTunes เป็นคู่แข่งหลัก รวมถึงเขาก็ยังได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง Spotify และค่ายเพลงอย่าง Warner และ Universal อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่ทำให้เขาชนะใจคณะกรรมการของบริษัท Spotify
จนได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนในที่สุด
ด้วยความที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและธุรกิจ รวมถึงหลงใหลในความท้าทายตลอดเวลา
ทำให้ชีวิตหลังจากนั้น Sean Parker ก็ยังเป็นทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนอยู่เรื่อยมา
โดยปัจจุบัน เขามีมูลค่าทรัพย์สินที่ 90,000 ล้านบาท
และนี่ก็คือเส้นทางชีวิตของ Sean Parker อดีตแฮกเกอร์ และเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังความสำเร็จของ Facebook ที่ตอนนี้เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่ 6 ของโลกไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/sean-parker-life-career-napster-facebook-billionaire-pictures-2020-3#parker-is-also-a-philanthropist-and-a-friend-described-him-to-vanity-fair-as-one-of-the-most-generous-people-i-know-in-2015-he-donated-600-million-to-launch-the-parker-foundation-which-focuses-on-funding-programs-in-life-sciences-global-public-health-and-civic-engagement-20
-https://www.forbes.com/sites/stevenbertoni/2019/12/23/best-stories-of-the-decade-sean-parker-agent-of-disruption/?sh=6aa467237a01
-https://www.biography.com/business-figure/sean-parker
-https://www.forbes.com/profile/sean-parker/?sh=5c3413014b73
-https://www.rollingstone.com/culture/culture-news/itunes-10th-anniversary-how-steve-jobs-turned-the-industry-upside-down-68985/
-https://startuptalky.com/sean-parker-story/
同時也有4部Youtube影片,追蹤數超過361萬的網紅Dan Lok,也在其Youtube影片中提到,The Coronavirus Is Affecting A Lot Of Businesses, But Did You Know Some Industries Are Still Doing Well? Pay Attention To The 10 Industries Booming Du...
「social disruption」的推薦目錄:
social disruption 在 蕭叔叔英式英文學會 Uncle Siu's British English Club Facebook 八卦
【#迷上英式英文】英國首相Boris Johnson宣布全英禁足演說:"In this fight each and every one of us is enlisted"
演說全文:
Good Evening,
The coronavirus is the biggest threat this country has faced for decades – and this country is not alone.
All over the world we are seeing the devastating impact of this invisible killer.
And so tonight I want to update you on the latest steps we are taking to fight the disease and what you can do to help.
And I want to begin by reminding you why the UK has been taking the approach that we have.
Without a huge national effort to halt the growth of this virus, there will come a moment when no health service in the world could possibly cope; because there won’t be enough ventilators, enough intensive care beds, enough doctors and nurses.
And as we have seen elsewhere, in other countries that also have fantastic health care systems, that is the moment of real danger.
To put it simply, if too many people become seriously unwell at one time, the NHS will be unable to handle it - meaning more people are likely to die, not just from Coronavirus but from other illnesses as well.
So it’s vital to slow the spread of the disease.
Because that is the way we reduce the number of people needing hospital treatment at any one time, so we can protect the NHS’s ability to cope - and save more lives.
And that’s why we have been asking people to stay at home during this pandemic.
And though huge numbers are complying - and I thank you all - the time has now come for us all to do more.
From this evening I must give the British people a very simple instruction - you must stay at home.
Because the critical thing we must do is stop the disease spreading between households.
That is why people will only be allowed to leave their home for the following very limited purposes:
shopping for basic necessities, as infrequently as possible
one form of exercise a day - for example a run, walk, or cycle - alone or with members of your household;
any medical need, to provide care or to help a vulnerable person; and
travelling to and from work, but only where this is absolutely necessary and cannot be done from home.
That’s all - these are the only reasons you should leave your home.
You should not be meeting friends. If your friends ask you to meet, you should say No.
You should not be meeting family members who do not live in your home.
You should not be going shopping except for essentials like food and medicine - and you should do this as little as you can. And use food delivery services where you can.
If you don’t follow the rules the police will have the powers to enforce them, including through fines and dispersing gatherings.
To ensure compliance with the Government’s instruction to stay at home, we will immediately:
close all shops selling non-essential goods, including clothing and electronic stores and other premises including libraries, playgrounds and outdoor gyms, and places of worship;
we will stop all gatherings of more than two people in public – excluding people you live with;
and we’ll stop all social events, including weddings, baptisms and other ceremonies, but excluding funerals.
Parks will remain open for exercise but gatherings will be dispersed.
No Prime Minister wants to enact measures like this.
I know the damage that this disruption is doing and will do to people’s lives, to their businesses and to their jobs.
And that’s why we have produced a huge and unprecedented programme of support both for workers and for business.
And I can assure you that we will keep these restrictions under constant review. We will look again in three weeks, and relax them if the evidence shows we are able to.
But at present there are just no easy options. The way ahead is hard, and it is still true that many lives will sadly be lost.
And yet it is also true that there is a clear way through.
Day by day we are strengthening our amazing NHS with 7500 former clinicians now coming back to the service.
With the time you buy - by simply staying at home - we are increasing our stocks of equipment.
We are accelerating our search for treatments.
We are pioneering work on a vaccine.
And we are buying millions of testing kits that will enable us to turn the tide on this invisible killer.
I want to thank everyone who is working flat out to beat the virus.
Everyone from the supermarket staff to the transport workers to the carers to the nurses and doctors on the frontline.
But in this fight we can be in no doubt that each and every one of us is directly enlisted.
Each and every one of us is now obliged to join together.
To halt the spread of this disease.
To protect our NHS and to save many many thousands of lives.
And I know that as they have in the past so many times.
The people of this country will rise to that challenge.
And we will come through it stronger than ever.
We will beat the coronavirus and we will beat it together.
And therefore I urge you at this moment of national emergency to stay at home, protect our NHS and save lives.
Thank you.
social disruption 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
กรณีศึกษา คุณจันทร์นภา หญิงแกร่ง ผู้บุกเบิก “ฟิล์มลามิน่า” ให้ดังไกลระดับโลก /โดย ลงทุนแมน
ผู้หญิงที่เริ่มจากฐานะทางบ้านยากจน
โอกาสในชีวิตน้อยกว่าคนทั่วไป แต่สามารถสร้างธุรกิจขึ้นมาด้วย 2 มือตัวเอง
และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ธุรกิจที่เธอสร้างขึ้นมาสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด
ไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่ดังไกลระดับโลก
ผู้หญิงที่ ลงทุนแมน กำลังพูดถึงคือคุณ จันทร์นภา สายสมร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสง ลามิน่า
ที่มียอดขายอันดับ 1 มานานถึง 20 ปีติดต่อกัน
ลงทุนแมน ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจ จนถึงความสำเร็จในวันนี้
ที่เธอฝ่าฟันสารพัดอุปสรรคกว่าจะเป็นผู้นำตลาดฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์
คุณ จันทร์นภา เล่าให้ฟังว่า เธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องจากพี่น้อง 8 คน
พ่อแม่มีอาชีพขายอาหารในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ส่งผลให้ชีวิตในวัยเด็กเธอมุ่งมั่นตั้งใจเรียนหนังสือ พร้อมกับตั้งเป้าว่าจะต้องเป็นแพทย์
เพื่อให้คุณภาพชีวิตตัวเองและครอบครัวตัวเองดีขึ้น
แต่...ความฝันกับความเป็นจริงได้เดินสวนทางกัน
เมื่อ คุณ จันทร์นภา ที่กำลังศึกษาในระดับม. 5 แต่สามารถสอบเทียบม.6 ได้ ไม่สามารถสอบติดคณะแพทยศาสตร์
เธอเลยหันไปเรียนคณะเทคนิคการแพทย์แทน หลังจากเรียนจบมาเธอก็เป็นเซลล์ขายเครื่องมือแพทย์
จนเวลาผ่านไปสักระยะ เธอเริ่มฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่กลับไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจเลยแม้แต่น้อย
ทำให้เธอตัดสินใจศึกษาต่อ ปริญญาโท คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาบริหารจัดการด้านการตลาด
ภาคภาษาอังกฤษ (MIM) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และที่นี่เองที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ คุณ จันทร์นภา ได้ค้นพบธุรกิจใหม่
เมื่อเธอและกลุ่มเพื่อนทำวิจัย ตลาดฟิล์มกรองแสงในเมืองไทย ส่งอาจารย์ พร้อมกับพบโอกาสทางการตลาดมากมาย
“เมืองไทยอากาศร้อนทั้งปี รถติดหนักมาก แต่เวลานั้นยังไม่มีใครขายฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง ที่นำเข้าจากอเมริกา”
เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ ทำให้เธอมีความตั้งใจว่าจะเป็นคน ปฏิวัติตลาดฟิล์มกรองแสง เมืองไทย
ด้วยการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายฟิล์ม ลามิน่า ของบริษัท CP Films Inc. ในเครืออีสต์แมน เคมิคัล
โรงงานผู้ผลิตฟิล์มกรองแสงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันบริษัทนี้มีอายุ 64 ปี
เพียงแต่ปัญหาของคุณ จันทร์นภา ณ เวลานั้น จะทำอย่างไรให้บริษัทฟิล์มกรองแสงระดับโลก ยอมรับในตัวเธอ ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายในประเทศไทย
“นอกจากการเป็นคนไทยคนแรกที่บินไปเสนอแผนธุรกิจถึงบริษัทที่อเมริกา เราก็ยังเป็นคนแรกอีกเช่นกันที่ในเวลานั้น
ขอซื้อแต่ฟิล์มกรองแสงเกรด A คุณภาพสูงขณะที่คนอื่นซื้อฟิล์มเกรดระดับล่างลงมา
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัท CP Films Inc. ยอมรับในตัวเรา”
ถึงจะได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสง ลามิน่า ที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 แต่เพียงผูู้เดียวในประเทศไทย
แต่ปัญหาที่เธอต้องคิดต่อมาก็คือเวลานั้น คนไทยยังไม่รู้จักฟิล์ม ลามิน่า
สิ่งที่เธอทำก็คือ ในขณะที่ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์รายอื่นๆ รับประกัน 5 ปี
แต่ ลามิน่า กล้าจะรับประกันนานถึง 7 ปี ตามมาตรฐานโรงงานเป็นเจ้าแรก
จนถึงการเปิดการฝึกอบรมช่างติดฟิล์มให้ตัวแทนร้านค้าต่างๆ ในการติดตั้งฟิล์มกรองแสง ลามิน่า
อีกทั้งเธอยังเน้นการให้บริการที่ดี ให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายลามิน่า
ด้วยความเชื่อที่ว่าการทำธุรกิจของบริษัทต้องเติบโตไปพร้อมๆ กับร้านค้านั่นเอง
แต่สิ่งที่ทำให้ลามิน่าโดดเด่นก็คือกลยุทธ์การ “ตั้งราคา”
เพราะแทนที่เป็นแบรนด์น้องใหม่จะตั้งราคาขายถูกกว่าคู่แข่งในตลาด
เพื่อดึงดูดให้คนมาทดลองใช้ กลับกลายเป็นว่า คุณ จันทร์นภา เลือกตั้งราคาขายแพงกว่า 10%
เมื่อเทียบกับแบรนด์ระดับ TOP ณ เวลานั้น
“การตั้งราคาที่แพงกว่าเพื่อยืนยันการบ่งบอกคุณภาพที่ดีกว่า และช่วยกระตุ้นการอยากรู้ของลูกค้าว่า ลามิน่า มีดีกว่าคนอื่นอย่างไร”
และด้วยการทำตลาดอย่างจริงจังของ ลามิน่า ภายในเวลาแค่ 5 ปีนับแต่ก่อตั้งบริษัท
ก็สามารถก้าวขึ้นมามียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์จนถึงปัจจุบัน
เหมือนทุกอย่างดูจะราบรื่น ไร้ซึ่งอุปสรรค แต่จริงๆ แล้วเวลานี้
ลามิน่า เองกำลังเจอความท้าทายครั้งใหม่ เมื่อโลกธุรกิจเข้าสู่ยุค Digital Disruption
เพราะในอดีตหากเราอยากจะโฆษณาฟิล์มกรองแสงใน TV หรือสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะ TV
เราจะต้องส่งเอกสารสารพัดข้อมูลต่างๆ จากสถาบันรับรอง พร้อมกับรอการตรวจสอบจากกองเซ็นเซอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าข้อมูลนี้ เชื่อถือได้หรือไม่ ถึงจะสามารถนำเสนอในรูปแบบโฆษณาได้
แต่ยุคนี้ ฟิล์มกรองแสง มีเพิ่มขึ้นมากมายและสามารถโฆษณาชวนเชื่อผ่าน social media โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบใดๆ
และนั่นจึงเป็นที่มาของ “สงครามตัวเลข” อย่างรุนแรงและบิดเบือนในปัจจุบัน
“ในอดีตฟิล์มกรองแสงมันคือศิลปะการตลาดที่สวยงามเพราะพอ ลามิน่า สร้างแบรนด์ได้แข็งแกร่ง
หลายๆ แบรนด์ก็มาแข่งกันที่ แบรนด์ดิ้ง แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว
เมื่อมีแบรนด์หนึ่งโฆษณาว่ากันความร้อนได้ 70%
เชื่อไหมวันต่อมาจะมีอีกแบรนด์ที่ไม่รู้จัก มาบอกว่าฟิล์มกรองแสงตัวเองกันได้ 80%”
พร้อมกับอ้างว่ามาจากสถาบันต่างๆ รับรองผลซึ่งมีทั้งจริงและไม่จริงผสมปนเปเพื่อชวนให้ดูน่าเชื่อถือ”
หลายคนอาจคิดวิธีแก้เกมด้วยการนำเสนอข่าวโจมตีบริษัทเหล่านี้ แต่คุณ จันทร์นภา กลับไม่คิดเช่นนั้น
เธอเลือกที่จะสร้างแคมเปญการตลาดใหม่ที่ชื่อว่า “ความห่วงใยใกล้ตัวคุณ” #ก็เค้าห่วง
“ลามิน่าขอส่งมอบความห่วงใยและจริงใจผ่านแคมเปญดังกล่าวไปถึงผู้ใช้รถทุกคนว่า กรุณาเลือกฟิล์มกรองแสงคุณภาพดีให้รถของท่านทุกครั้งที่ซื้อรถใหม่ อย่าเลือกแค่ฟิล์ม 40/60 แต่ยี่ห้ออะไรก็ได้ ขอให้เลือกแบรนด์ที่คุณมั่นใจ เพราะฟิล์มกรองแสงคุณภาพดีช่วยให้คุณขับขี่อย่างสบายใจ ไม่ร้อน ปลอดภัย ไม่รบกวน Easy pass และระบบนำทาง
ลามิน่าเราดำเนินธุรกิจมา 25 ปี ข้อมูลทุกอย่างคือข้อเท็จจริง และในแต่ละปีมีรถที่ติดฟิล์มกรองแสงเราเฉลี่ย 3 แสนคันต่อปี คุณสามารถไว้วางใจได้"
ที่น่าสนใจผู้หญิงคนนี้ เธอยังสอนพนักงานทุกคนด้วยปรัญญาที่น่าสนใจว่า
“ทุกวันนี้พี่ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินเดือนพวกเรานะ แต่คือลูกค้าที่ใช้ฟิล์มกรองแสง ลามิน่า ต่างหาก
ดังนั้น เราต้องส่งมอบคุณภาพและบริการที่ดีเยี่ยมให้ลูกค้าของเราทุกคน"
ปัจจุบัน ลามิน่า มีรายได้ก่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม 779 ล้านบาท กำไร 105 ล้านบาท
และมี Lamina Films Exclusive Shop ร้านติดฟิล์มในห้องแอร์ปลอดฝุ่น โดยช่างผู้ชำนาญผ่านการฝึกอบรม
และเป็นศูนย์ที่มีเครื่องมือคุณภาพสูงกว่า 57 สาขา ขณะที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการมี 703 ร้านค้า
เธอบอกว่าความสำเร็จในวันนี้ มันเดินทางมาไกลเกินความฝันจนน่าเหลือเชื่อ
ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ห่อหุ้มไปด้วย หยาดเหงื่อและความอดทนตั้งใจของเธอ
“เพราะโลกของธุรกิจมันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ นอกจากความตั้งใจอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องมีคือกล้าที่จะ “ต่าง”
ไม่ใช่เห็นคนอื่นทำ เราก็ทำตามเขาหมด
เพราะถ้าสินค้าเหมือนกันหมด สุดท้ายก็ต้องแข่งกันในเรื่องราคา”
ต้องบอกว่าเรื่องราวของเธอ เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจไม่น้อย
เพราะหลายคนอาจเฝ้าบอกกับตัวเองว่า “ต้นทุนชีวิต” เราต่ำกว่าคนอื่น
การจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเพียงคนเดียวมันเป็นเรื่องที่ “เป็นไปไม่ได้”
แต่ในคำว่า “เป็นไปไม่ได้” มันก็อาจมีคำว่า “เป็นไปได้” อยู่ในนั้น
ขอเพียงเราคว้าโอกาสนั้นไม่ให้หลุดมือ และอดทนตั้งใจทำ
ก็อาจจะประสบความสำเร็จเหมือนอย่างคุณ จันทร์นภา สายสมร..
social disruption 在 Dan Lok Youtube 的評價
The Coronavirus Is Affecting A Lot Of Businesses, But Did You Know Some Industries Are Still Doing Well? Pay Attention To The 10 Industries Booming Due To The Coronavirus. Learn More About Business In Your Free Copy Of The Unlock It Book: https://10boomingindustries.danlok.link
Do you know these 10 industries are booming due to the Coronavirus? Watch the video to find out what they are and what you can learn from them. Would you want to get into one of these 10 industries? Or find a way to serve them? Comment below.
? SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ?
https://www.youtube.com/danlok?sub_confirmation=1
Check out these Top Trending Playlists -
1.) Boss In The Bentley - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46OWsrbWGPnPW8mvDtjge_6-
2.) Sales Tips That Get People To Buy - https://www.youtube.com/watch?v=E6Csz_hvXzw&list=PLEmTTOfet46PvAsPpWByNgUWZ5dLJd_I4
3.) Dan Lok’s Best Secrets - https://www.youtube.com/watch?v=FZNmFJUuTRs&list=PLEmTTOfet46N3NIYsBQ9wku8UBNhtT9QQ
Dan Lok has been viewed more than 1.7+ billion times across social media for his expertise on how to achieve financial confidence. And is the author of over a dozen international bestselling books.
Dan has also been featured on FOX Business News, MSNBC, CBC, FORBES, Inc, Entrepreneur, and Business Insider.
In addition to his social media presence, Dan Lok is the founder of the Dan Lok Organization, which includes more than two dozen companies - and is a venture capitalist currently evaluating acquisitions in markets such as education, new media, and software.
Some of his companies include Closers.com, Copywriters.com, High Ticket Closers, High Income Copywriters and a dozen of other brands.
And as chairman of DRAGON 100, the world’s most exclusive advisory board, Dan Lok also seeks to provide capital to minority founders and budding entrepreneurs.
Dan Lok trains as hard in the Dojo as he negotiates in the boardroom. And thus has earned himself the name; The Asian Dragon.
If you want the no b.s. way to master your financial destiny, then learn from Dan. Subscribe to his channel now.
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
YouTube: http://youtube.danlok.link
Dan Lok Blog: http://blog.danlok.link
Dan Lok Shop: https://shop.danlok.link
Facebook: http://facebook.danlok.link
Instagram: http://instagram.danlok.link
Linkedin: http://mylinkedin.danlok.link
Podcast: http://thedanlokshow.danlok.link
#DanLok #BoomingIndustriesIn2020 #Coronavirus
Please understand that by watching Dan’s videos or enrolling in his programs does not mean you’ll get results close to what he’s been able to do (or do anything for that matter).
He’s been in business for over 20 years and his results are not typical.
Most people who watch his videos or enroll in his programs get the “how to” but never take action with the information. Dan is only sharing what has worked for him and his students.
Your results are dependent on many factors… including but not limited to your ability to work hard, commit yourself, and do whatever it takes.
Entering any business is going to involve a level of risk as well as massive commitment and action. If you're not willing to accept that, please DO NOT WATCH DAN’S VIDEOS OR SIGN UP FOR ONE OF HIS PROGRAMS.
This video is about 10 Industries Booming Due To The Coronavirus.
https://youtu.be/GIr5bKGxZU0
https://youtu.be/GIr5bKGxZU0
social disruption 在 Kim Property Live Youtube 的評價
ชอบมาก อยากเลี้ยงกาแฟผม : https://ko-fi.com/kimpropertylive
แจกคอร์สเรียนฟรี : http://line.me/ti/p/%40spc2852x
บทความอสังหา : http://www.properth.com/
สนใจสัมมนา : http://line.me/ti/p/%40spc2852x
สงครามเทคโนโลยี แย่งชิงเบอร์ 1โลก | ไวรัสเร่ง disruption ไทยไม่ปรับตัวมีหนาว | ท็อป จิรายุส
ดูเเล้วชอบ อยากดูต่อ ติดตามด้วยเน้อ
ตรงนี้ https://goo.gl/segwTS
รับความรู้ฟรี
LINE : http://line.me/ti/p/%40spc2852x
มีคำถาม / สอบถาม
LINE : http://line.me/ti/p/%40spc2852x
★☆★ เรียนรู้เพิ่มเติม ★☆★
บทความอสังหา : http://www.properth.com/
รับความรู้ผ่าน LINE : http://line.me/ti/p/%40spc2852x
สำหรับติดต่อ : kim.chatchawan[at]gmail.com
★☆★ SOCIAL MEDIA ★☆★
Facebook : https://www.facebook.com/kim.properth/
LINE : http://line.me/ti/p/%40spc2852x
Blog : http://www.properth.com/
Instagram : https://www.instagram.com/kimpropertylive
★☆★ สนใจสัมมนา ★☆★
LINE : http://line.me/ti/p/%40spc2852x
คอร์สทั้งหมด : https://goo.gl/gQyd4i
รายละเอียดสัมมนา : http://www.properth.com/property-investment
#วิกฤตเศรษฐกิจ #เทคโนโลยี
social disruption 在 Dan Lok Youtube 的評價
Ever Wondered How To Grow Your Sales & Business Faster? Discover Dan’s Insider Secrets He Usually Only Shares With His Advisory Board Dragon 100. Do You Qualify? Book Your Call Today: https://growsalesfaster.danlok.link
How do you create exponential growth in the age of disruption? Watch the video as Dan explains how to grow your sales & business faster and how to go from dreamer to industry leader and beyond. Which stage are you at on your Dragon 100 path? Comment below.
? SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ?
https://www.youtube.com/danlok?sub_confirmation=1
Check out these Top Trending Playlists -
1.) Boss In The Bentley - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46OWsrbWGPnPW8mvDtjge_6-
2.) Sales Tips That Get People To Buy - https://www.youtube.com/watch?v=E6Csz_hvXzw&list=PLEmTTOfet46PvAsPpWByNgUWZ5dLJd_I4
3.) Dan Lok’s Best Secrets - https://www.youtube.com/watch?v=FZNmFJUuTRs&list=PLEmTTOfet46N3NIYsBQ9wku8UBNhtT9QQ
Dan Lok has been viewed more than 1.7+ billion times across social media for his expertise on how to achieve financial confidence. And is the author of over a dozen international bestselling books.
Dan has also been featured on FOX Business News, MSNBC, CBC, FORBES, Inc, Entrepreneur, and Business Insider.
In addition to his social media presence, Dan Lok is the founder of the Dan Lok Organization, which includes more than two dozen companies - and is a venture capitalist currently evaluating acquisitions in markets such as education, new media, and software.
Some of his companies include Closers.com, Copywriters.com, High Ticket Closers, High Income Copywriters and a dozen of other brands.
And as chairman of DRAGON 100, the world’s most exclusive advisory board, Dan Lok also seeks to provide capital to minority founders and budding entrepreneurs.
Dan Lok trains as hard in the Dojo as he negotiates in the boardroom. And thus has earned himself the name; The Asian Dragon.
If you want the no b.s. way to master your financial destiny, then learn from Dan. Subscribe to his channel now.
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
YouTube: http://youtube.danlok.link
Dan Lok Blog: http://blog.danlok.link
Dan Lok Shop: https://shop.danlok.link
Facebook: http://facebook.danlok.link
Instagram: http://instagram.danlok.link
Linkedin: http://mylinkedin.danlok.link
Podcast: http://thedanlokshow.danlok.link
#DanLok #Busines #Sales
Please understand that by watching Dan’s videos or enrolling in his programs does not mean you’ll get results close to what he’s been able to do (or do anything for that matter).
He’s been in business for over 20 years and his results are not typical.
Most people who watch his videos or enroll in his programs get the “how to” but never take action with the information. Dan is only sharing what has worked for him and his students.
Your results are dependent on many factors… including but not limited to your ability to work hard, commit yourself, and do whatever it takes.
Entering any business is going to involve a level of risk as well as massive commitment and action. If you're not willing to accept that, please DO NOT WATCH DAN’S VIDEOS OR SIGN UP FOR ONE OF HIS PROGRAMS.
This video is about How To Grow Your Sales & Business Faster
https://youtu.be/vBG6J58NKrc
https://youtu.be/vBG6J58NKrc