Oh~
สรุปการดีเบต แจ็ก หม่า vs อีลอน มัสก์ ในงานประชุม World AI / โดย ลงทุนแมน
ลงทุนแมนรับรองว่าเป็นเรื่องน่าสนใจที่สุดในช่วงนี้
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
มีการคุยกันระหว่างแจ็ก หม่า กับ อีลอน มัสก์
โดยหัวข้อเรื่องคือความคิดเห็นต่อ AI ในด้านต่างๆ
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
เริ่มจาก อีลอน มัสก์ กล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนกำลังประเมิน AI ต่ำไป
ให้นึกถึงว่าตอนนี้ลิงชิมแปนซีเข้าใจมนุษย์ไหม (ทำไมมนุษย์ต้องมีรถยนต์ ทำไมมนุษย์ต้องสร้างตึก)
เรากำลังเป็นอย่างนั้น ในอนาคตเราอาจไม่เข้าใจเหตุผลที่ AI ทำในเรื่องต่างๆ
แล้วเราจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้
คำตอบคือ ถ้าเราไม่สามารถชนะมันได้ ก็ร่วมมือกับมัน ซึ่ง Neuralink (โครงการของ อีลอน มัสก์) ตอบโจทย์นี้ได้
สิ่งที่ Neuralink ทำก็คือ การสร้างช่องทางการสื่อสารขนาดใหญ่ (High Bandwidth) เชื่อมต่อเข้าสมอง
สิ่งนี้เหมือนกับเป็นไซบอร์ก แต่จริงๆ ตอนนี้เราก็เป็นไซบอร์กไปแล้ว
ทุกวันนี้เราใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เป็นเครื่องมือขยายความสามารถ จากร่างกายของเรา
ถ้าเราขาดโทรศัพท์ ความสามารถของเราจะลดลง
แต่ bandwidth ที่เราใช้กันอยู่นั้นต่ำมาก
โดยเฉพาะ การส่งข้อมูลเข้าเครื่อง (input)
จริงๆ แล้ว input ต่ำลงจากคอมพิวเตอร์สมัยก่อนด้วยซ้ำ
เพราะเราต้องพิมพ์ด้วยนิ้วโป้งสองนิ้ว แทนที่จะเป็นสิบนิ้ว
เมื่ออีลอน มัสก์ พูดจบ
แจ็ก หม่า ก็กล่าวว่า เขาไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
สิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับชีวิต (Life)
AI กำลังเปิดศักราชใหม่ของสังคม ให้เราเข้าใจตัวเราเองดีขึ้น
และเขาคิดว่า AI เป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้เป็นสิ่งที่มาคุกคาม หรือเป็นสิ่งที่เลวร้าย
อีลอน มัสก์ แย้งว่า AI น่ากลัวกว่าที่ทุกคนคิด
ยกตัวอย่างเช่น วิดีโอเกม เมื่อก่อน มีแค่บล็อกๆ ไว้เล่น ตอนนี้วิดีโอเกมทำภาพให้สมจริงได้
โลกนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 4,000 ล้านปี
อารยธรรมมนุษย์เพิ่งเกิดขึ้น 70,000 ปี
มีเหตุการณ์ผันผวนมากมายในช่วง 70,000 ปีนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ที่มีเทคโนโลยีมากมายเป็นแค่จุดเล็กๆ ของทั้งหมด
มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ให้เรากลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
แจ็ก หม่า เปลี่ยนเรื่องบอกว่า เรามาคุยเรื่องสนุกกันดีกว่า
คุณต้องการไปดาวอังคาร
อะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตบนดาวอังคาร
แต่ผมสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนโลกมากกว่า
อีลอน มัสก์ ตอบว่า
ผมคิดว่าดาวอังคาร สามารถทำให้ความนึกคิด (consciousness) ของเรายังคงอยู่ต่อไปในอนาคตได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ยืดเวลาให้เราสามารถเข้าใจจักรวาลนี้ได้ดีขึ้น
การมีชีวิตอยู่บนดาวหลายดวง (Multi planet species) จะทำให้อารยธรรมของเราไม่ถูกทำลาย
และนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 4,000 ล้านปี ที่มีหน้าต่างเปิดให้เราพอที่จะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้
คำถามคือหน้าต่างบานนี้จะเปิดไปอีกนานแค่ไหน ก่อนที่มันจะปิดอีกครั้ง ถ้าเราไม่รีบทำอะไรตั้งแต่วันนี้
แจ็ก หม่า แย้งว่า
เราไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องพวกนั้น
การทำให้โลกของเราที่มีคนอยู่ 7,000 ล้านคน ดีขึ้น ยั่งยืนขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า
ไม่เกี่ยวอะไรกับว่า อารยธรรมเราจะผ่านมานานแค่ไหน
แต่พวกเรามีชีวิตได้อย่างมากก็ 100 ปี
เราไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาทั้งหมดในอนาคตด้วยตัวเราเองคนเดียว
สิ่งที่เราควรทำคือ การรับผิดชอบต่อโลกในตอนนี้
ถ้าเรารู้ตัวเราเองดีขึ้น เราสามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้
มันดีที่มีฮีโร่แบบคุณ อีลอน มัสก์ ที่จะพามนุษย์ไปนอกโลก
แต่เราต้องการฮีโร่แบบพวกเรามากกว่า
ฮีโร่ที่ทำงานหนักบนโลก และพัฒนาเรื่องต่างๆ ทุกวันให้โลกนี้ดีขึ้น
อีลอน มัสก์ แย้งว่า
การไปนอกโลก ใช้ทรัพยากรน้อยมาก น้อยกว่า 1% ของการใช้ทั้งหมดในเรื่องต่างๆ บนโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเครื่องสำอาง การผลิตของอื่นๆ ที่จำเป็นน้อยกว่า
สำหรับหัวข้อต่อไปที่คุยก็คือ AI จะเข้ามาแย่งงานหรือไม่?
แจ็ก หม่าตอบ
ทุกครั้งที่มีปฏิวัติทางเทคโนโลยี ทุกคนจะกังวล
เมื่อ 200 ปีก่อนที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทุกคนกังวล แต่สุดท้ายมีงานเกิดใหม่มากมาย
และจริงๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องมีงานเยอะ เราอาจจะทำงาน 3 วันหยุด 4 วันก็ได้
มนุษย์ในอนาคตจะมีเวลาสนุกกับการใช้ชีวิตความเป็นมนุษย์มากขึ้น
ปู่ของผมมีโอกาสได้ไป 3 เมืองในโลกนี้
พ่อของผมมีโอกาสได้ไป 30 เมือง
ส่วนตัวผมได้ไปมาแล้ว 300 เมือง
สิ่งที่สำคัญคือเราต้องเตรียมพร้อมกับยุคที่เราใช้ชีวิตได้นานขึ้น ซึ่งอาจจะนานถึง 120 ปี เราจะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าเราอยู่ได้นานขนาดนั้น
สำหรับหัวข้อนี้ อีลอน มัสก์ ตอบสั้นๆ ว่า ในอนาคต AI อาจจะมาแทนที่มนุษย์ทั้งหมด มนุษย์เป็นเพียงแค่คนเขียนโปรแกรมให้ AI
หัวข้อต่อไปคือ การศึกษาในยุคนี้ควรสอนเด็กอย่างไร?
แจ็ก หม่า ตอบว่าหลักสูตรการศึกษาในปัจจุบัน เหมาะสมสำหรับเด็กในยุคอุตสาหกรรม
สอนให้ท่องจำ
แต่ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องจำ เพราะหุ่นยนต์จำได้ดีกว่า
สิ่งที่เราควรสอนคือ จะทำอย่างไรให้เด็ก สนุกกับชีวิตของเขา
อีลอน มัสก์ ตอบเรื่องการศึกษาว่า ควรให้เด็กเรียนรู้ให้มากที่สุด มากพอที่จะสามารถคาดการณ์อนาคตได้ โดยผิดพลาดน้อยที่สุด นอกจากคาดการณ์แล้วก็ต้องสร้างอนาคตด้วย
ต่อไป Neuralink จะทำให้มนุษย์สามารถอัปโหลดทักษะเข้าไปในสมองโดยตรง
การศึกษาในปัจจุบันยังถือว่ามีประสิทธิภาพต่ำมาก (Low Bandwidth)
แจ็ก หม่า ตอบว่าเขาไม่กลัวความผิดพลาด เกิดความผิดพลาดแล้วต้องแก้ไขเป็นเรื่องปกติ
มนุษย์ลองผิดลองถูกเสมอมา
และเขาคิดว่า หายนะทางด้าน AI ในอนาคตก็ไม่ได้เกิดจาก AI แต่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์เอง
ซึ่งเขาก็เชื่อว่ามนุษย์จะมีกระบวนการที่สามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นได้เอง
สิ่งสำคัญคือ เราจะสอนเด็กอย่างไรให้สมองสามารถสร้างสรรค์ได้มากกว่าเดิม
มนุษย์ไม่สามารถสร้างสัตว์หรือสิ่งอื่นที่ฉลาดว่ามนุษย์ได้
อีลอน มัสก์ แย้งเรื่องนี้ว่า เราสามารถสร้างสิ่งที่ฉลาดกว่าเราได้
ยกตัวอย่างมนุษย์ในยุคเริ่มต้นเราแค่กินอยู่ในป่า
แต่ตอนนี้เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย
เราฉลาดกว่าเมื่อก่อนมาก
และตอนนี้เราก็ไม่ได้ฉลาดที่สุด
อนาคตมนุษย์จะฉลาดกว่านี้อีก
แจ็ก หม่า ท้าให้ อีลอน มัสก์ ยกตัวอย่างสัตว์ที่ฉลาดกว่ามนุษย์บนโลกนี้ที่มนุษย์เคยสร้างมา
อีลอน มัสก์ ตอบว่า ตอนนี้หุ่นยนต์ได้ฉลาดกว่ามนุษย์ในบางเรื่องไปแล้ว
ทั้งหมากรุก ทั้งการแข่งโกะ มนุษย์แพ้การแข่งโกะให้ Alpha Go และ Alpha Go ก็แพ้ให้ Alpha Zero ในที่สุดแล้วหุ่นยนต์จะนำเราไปไกลมาก
แจ็ก หม่า แย้งว่า คำว่า หุ่นยนต์สามารถฉลาดกว่าได้ (Clever)
แต่มนุษย์จะยัง Smart กว่า เพราะมนุษย์มีประสบการณ์
เราสร้างคอมพิวเตอร์ได้ แต่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถสร้างคนได้
เรื่องการแข่งโกะ
โกะสร้างเพื่อที่ มนุษย์จะเล่นกับมนุษย์
มนุษย์โง่เองที่จะแข่งกับคอมพิวเตอร์ในเรื่องโกะ
ไม่ต่างอะไรที่มนุษย์จะไปวิ่งแข่งกับรถยนต์
มีบางเรื่องที่มันออกแบบมาให้หุ่นยนต์ทำได้ดีกว่ามนุษย์
มนุษย์ไม่จำเป็นต้องแข่งกับหุ่นยนต์ในเรื่องเฉพาะเหล่านั้น
มนุษย์มีหน้าที่สร้างเครื่องมือต่างๆ ที่จะทำให้ฉลาดขึ้น
แต่ AI ไม่สามารถสร้างเครื่องมือเหล่านั้นได้ด้วยตนเอง
อีลอน มัสก์ กล่าวตอบว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับ ระดับความเป็นอิสระ (Degree of freedom)
เริ่มจาก หมากรุก ต่อไปเป็น โกะ ที่ซับซ้อนขึ้น และอนาคตหุ่นยนต์จะทำอะไรที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
และอีลอน มัสก์ ยังกังวลว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ ก็คือ “อัตราการเกิด”
อีก 20 ปี ประชากรเราจะหายไปอย่างที่ทุกคนคิดไม่ถึง
แจ็ก หม่า เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และเสริมว่า ในอีก 20 ปี ประชากรจะเจอปัญหานี้
และอัตราการเกิดจะลดลงเป็นอัตราเร่ง (Accelerate)
สิ่งสำคัญคือ ประชากรจีนที่เกิดมา 18 ล้านคนในแต่ละปี เราต้องใช้เวลากับเด็กพวกนี้ให้ดีที่สุด
ถ้าเป็นเรื่องการทำตามขั้นตอน แบบซ้ำๆ ที่เป็นตรรกะ AI จะทำได้ดีกว่า
แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ตรรกะ เช่นความรัก คนจะทำได้ดีกว่า เพราะมันไม่มีเหตุผล
ในอนาคต มนุษย์จะไม่จำเป็นต้องมี IQ หรือ EQ แต่เป็น LQ หรือ Q of Love
หัวข้อคำถามสุดท้ายก็คือ มนุษย์จะมีชีวิตยืนยาวในโลก แบบยั่งยืนได้อย่างไร
อีลอน มัสก์ กล่าวว่าถ้า Neuralink สำเร็จ ก็จะทำให้เราสามารถบันทึกสถานะของสมองได้ (save state) เหมือนเซฟวิดีโอเกม
หรือสิ่งที่จะยืดอายุได้ก็คือการเปลี่ยนแปลง DNA เหมือน หยุดนาฬิกาของ DNA แต่คำถามก็คือมนุษย์จะยินยอมไหมในการทำเรื่องนี้
สำหรับแจ็ก หม่า ตอบเรื่องความยั่งยืนว่า
ในอนาคต AI จะทำให้เราเข้าใจตัวเราเองดีขึ้น
คนฉลาด รู้ว่าเราต้องการอะไร
คนฉลาดกว่า จะรู้ว่าเขาไม่ต้องการอะไร
และจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นในที่สุด
แจ็ก หม่า กล่าวปิดท้ายว่า
เขาอยากให้โฟกัสที่โลก
การที่เราจะเอาขยะออกจากมหาสมุทร ยังยากกว่าการไปดาวอังคาร
ไม่ใช่แค่อายุยืน แต่ใช้ชีวิตอยู่อย่างไรให้มีสุขภาพดี
ไม่ใช่แค่ใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี แต่ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
สุดท้าย มนุษย์ต้องโฟกัสที่คุณค่า มนุษย์ต้องมีความฝัน
ไม่ใช่เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก แต่เป็นความฝันที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก
เราต้องเชื่อในตัวเราเอง เราต้องเชื่อในความเป็นมนุษย์ เราต้องเชื่อในมนุษย์รุ่นต่อไป
เราควรรับผิดชอบสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มากกว่าการอยากแก้ปัญหาทั้งหมดของโลกในวันพรุ่งนี้
มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะผิดพลาด
มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะเรียนรู้จากความผิดพลาด
และ มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะตาย
ปิดท้ายด้วยคำพูดของ อีลอน มัสก์ ที่กล่าวปิด หลังแจ็ก หม่า พูดจบ
“Fight for the life of consciousness”
จงต่อสู้เพื่อให้ความนึกคิด มีชีวิตอยู่ในจักรวาลนี้ต่อไป..
╔═════════════════╗
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่
อ่านฟรี โหลดเลย Blockdit.com/download
╚═════════════════╝
Summary of Debet Jack Ma vs Elon Musk in World AI / By Investing Man
Investing man is the most interesting thing these days.
A few hours ago.
There was a conversation between Jack Ma and Elon Musk.
The topic is opinion of AI in various aspects.
How interesting is this story?
Investing man will summarize it.
Starting with Elon Musk said now everyone is underestimating AI
I think that Chimpanzee monkey understands humans. (Why do humans have cars, why do humans have buildings?)
We are being like that in the future. We may not understand the reason AI does things.
So what do we do with this situation
The answer is, if we can't win it, cooperate with it. Neuralink (ELON Musk's project) meets this problem.
What Neuralink does is create a large communication channel (High Bandwidth) connecting to the brain.
This is like a cyborg, but we're actually a cyborg now.
Nowadays, we use computer, phone as a tool to expand our body's ability.
If we lack a phone, our ability will decrease.
But the bandwidth we are using is low.
Specifically, sending information to the engine (input)
Input was actually low from computer in the past.
Because we have to type with two thumbs instead of ten fingers.
When Elon Musk finishes talking
Jack Ma also said he's not tech-savvy.
What he thinks about life (Life)
AI is opening a new era of society for us to understand ourselves better.
And he thinks AI is good. Not a threat or a bad thing.
Elon Musk argues that AI is scarier than anyone thinks.
For example, video games were just blogged to play. Now video games can make realistic images.
This world has happened for 4,000 million years.
Human civilization just happened 70,000 years
Lots of volatile events during these 70,000 years.
What's happening now with so much technology is just a small point of all.
What can happen? Let us start again.
Jack Ma changed the story. Let's talk about fun.
You want to go to Mars
What will happen to life on Mars
But I'm more interested in what happens on earth.
Elon Musk replied
I think Mars can make our thoughts (consciousness) continue in the future, so that we can understand the universe better.
Living on many stars (Multi planet species) will unbroken our civilization.
And this is the first time in 4,000 million years that there is a window open for us to be able to do something like this.
The question is how long will this window open before it closes again if we don't do anything from today
Jack Ma argues that
We don't need to think about them.
Making our world 7,000 million people better, standing up would be a better one.
Nothing to do with how long our civilization has passed.
But we have lived so much 100 years
We don't have to solve all the future problems by ourselves alone.
All we should do is take responsibility for the world now.
If we know ourselves better, we can make this world better.
It's good to have a hero like Mr. Elon Musk to take humans outside the world.
But we need more heroes like us
A hero who works hard on earth and develops everyday things to make the world better.
Elon Musk argues that
Going out of the world uses less resources than 1 % of the total use of things on this planet, cosmetic production, production of other things that are less necessary.
For the next topic discussed, will AI come to steal the job?
Jack Ma answered.
Every time there is a technological revolution, everyone worries.
200 years ago there was an industrial revolution, everyone worried, but at the end there were many emerging events.
And we actually don't need a lot of work. We might work 3 days off 4 days.
Future humans will have time to enjoy living more humanity.
My grandfather had a chance to go to 3 cities in the world.
My dad had a chance to go to 30 cities.
Personally, I have visited 300 cities.
What matters is that we must be prepared for the age we live longer, which may be 120 years. How can we live if we live that long?
For this topic, Elon Musk briefly said that in the future, AI might replace all human beings. Human beings are just programmers for AI.
The next topic is how should education in this generation teach kids?
Jack Ma answered that current education course is suitable for children in industrial age.
Teaching you to memorize.
But now we don't have to remember because robots remember better.
What we should teach is how to make a child enjoy his life.
Elon Musk answers education that children should learn as much as possible to predict the future at least. In addition to prediction, we have to build a future.
Next Neuralink will allow humans to upload skills directly into the brain.
Current studies are still considered very low performance (Low Bandwidth)
Jack Ma said he wasn't afraid of mistakes, mistakes, mistakes, then fixing is normal.
Human beings have been wrong, always been right.
And he thinks the future AI disaster is not due to AI, but by human error.
He also believes that humans have a process that can fix that situation.
The important thing is how we teach kids to be more creative.
Humans can't create animals or other things that are smart as humans.
Elon Musk argues that we can create something smarter than us.
For example, humans in the beginning of the era. We just eat in the forest.
But now we have many amenities.
We are much smarter than before
And now we ain't the smartest
Human future will be smarter than this.
Jack Ma challenged Elon Musk for an example of an animal that is smarter than human beings on this planet ever created.
Elon Musk replied that robots are now smarter than humans in some things.
Both chess and human race lost. Alpha Go and Alpha Go and Alpha Go lose to Alpha Zero. Finally, robots will take us very far.
Jack Ma argues that the word robot can be smarter (Clever)
But humans are more smart because humans experience it.
We can build computers but computers can't build people.
About the racing.
Ko made for humans to play with humans.
Stupid human to compete with a computer in Ko.
It's no different that a human would run a car race.
There's something designed for robots to do better than humans.
Humans don't need to compete with robots in those specific things.
Human beings have a duty to create tools to make smarter.
But AI can't build those tools by itself.
Elon Musk says this is about level of freedom (Degree of freedom)
Starting from chess, next to a more complex and future robots will do more complicated things.
And Elon Musk is concerned that one thing that harms humanity is ′′ birth rate
In another 20 years, our population will be gone as everyone cannot think about it.
Jack Ma agrees with this and reinforces that in 20 years, the population will face this problem.
And the birth rate is reduced to accelerate (Accelerate)
The important thing is that the Chinese population born is 18 million each year. We need to spend the best time with these kids.
If it's a logical recurring process, AI will do better.
But if it's not logical, like love, people will do better because it doesn't make sense
In the future, humans will not need cảpĕn t̂xng or EQ but LQ or Q of Love.
The topic of the last question is how can humans live in a sustainable world?
Elon Musk said if Neuralink succeeded, it would allow us to record the state of brain (save state) like a video game save.
Or what it takes to age is DNA change like DNA stop a DNA clock. But the question is, will humans agree to this?
For Jack Ma to answer about sustainability
In the future, AI will make us understand ourselves better.
Wise people know what we want
A wise man knows what he doesn't want.
And will make this world a better place eventually
Jack Ma said the end
He wants to focus on the world.
It's harder to take garbage out of the ocean than going to Mars.
It's not just a longevity, but how to live healthy.
Not just living a healthy life but how to live a happy life
Finally, humans must focus on values. Human must have dreams.
It's not technology that will change the world, but it's the dream behind technology that will
We must believe in ourselves. We must believe in humanity. We must believe in the next generation of humans.
We should be responsible for what is present, rather than wanting to solve all the problems of the world tomorrow.
It's a good thing humans can go wrong.
It's good that humans learn from mistakes.
And it's a good thing that humans will die.
Ending with the words of Elon Musk that shuts down after Jack Ma's finish.
“Fight for the life of consciousness”
Fight to keep your thoughts alive in this universe..
╔═════════════════╗
Blockdit an app that is like a huge inventory of knowledge.
Read it for free. Load it Blockdit.com/download
╚═════════════════╝Translated
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過2萬的網紅Rachell Tan,也在其Youtube影片中提到,Rachell received this robot vacuum cleaner from her family on her 30th birthday and we were really excited on some of its unique functions. This new ...
smarter technology 在 ลงทุนแมน Facebook 八卦
กรณีศึกษา Lenovo ทำอย่างไร ให้เป็นผู้นำตลาด PC ของไทย และของโลก
Lenovo Thailand x ลงทุนแมน
ผู้ที่ครองส่วนแบ่งตลาด จำนวนการส่งมอบ PC อันดับ 1 ของโลก ในปี 2020 ที่ผ่านมา
คือ Lenovo ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 23.8%
และสำหรับในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา
Lenovo ก็สามารถครองส่วนแบ่งตลาด PC อันดับ 1 ได้ด้วยเช่นกัน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลงทุนแมนมีโอกาสได้พูดคุยกับ6
คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ ผู้จัดการทั่วไป Lenovo ประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ของ Lenovo ในไทย ถึงเคล็ดลับและกลยุทธ์การทำธุรกิจของ Lenovo
Lenovo ทำอย่างไร ให้เป็น ผู้นำตลาด PC ของไทยและของโลก ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ถ้าลองไปเปิดดูผลประกอบการปีที่ผ่านมาของ Lenovo
จะเห็นว่าบริษัททำรายได้รวมเติบโต 20% กำไรสุทธิเติบโต 77%
และถ้าหากมาโฟกัสที่ไตรมาสล่าสุด
Lenovo ทำรายได้เติบโต 48% และกำไรสุทธิเติบโตถึง 512%
ลงทุนแมนถามคุณวรพจน์ด้วยคำถามแรกว่า
การเติบโตของตลาดคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กส่วนบุคคลในไทย รวมไปถึงในพม่า ลาว กัมพูชา ที่คุณวรพจน์ เป็นผู้ดูแล เติบโตดีแค่ไหน เมื่อเทียบกับผลประกอบการภาพรวมของ Lenovo ?
คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ ตอบด้วยตัวเลขที่บอกเราว่า “เติบโตได้ดีมาก ๆ สอดคล้องกับภาพรวม”
ในส่วน พม่า ลาว กัมพูชา ในส่วน Personal Computer และ Smart Devices (PCSD) ที่คุณวรพจน์ ดูแลนั้น รายได้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก
ส่วนการเติบโตในประเทศไทยในส่วนของคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานส่วนบุคคลในปีที่ผ่านมานั้นก็สอดคล้องกับการเติบโตของ Lenovo ทั่วโลก
กล่าวสรุปคือ เป็นปีที่ Lenovo มีการเติบโตทั่วโลกรวมถึงในไทย
จากสถิติของ IDC สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2021 Lenovo ยังครองส่วนแบ่งตลาด จำนวนส่งมอบ PC อันดับ 1 ของโลกที่ 24.3%
คำถามต่อมาคือ กลยุทธ์อะไรที่ทำให้สินค้าของ Lenovo เหนือกว่าแบรนด์อื่น ?
คุณวรพจน์อธิบายว่า Lenovo ใช้กลยุทธ์ที่เข้าใจได้ง่ายแต่ลึกซึ้งนั่นคือ เรารับฟังความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา และเรานำความต้องการของลูกค้ามาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์
ซึ่งหากจะพูดในภาษาของการตลาดก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นแบบ “Inclusive Marketing” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดยุคใหม่ล่าสุด หรือ Marketing 5.0
คำว่า Inclusive คือต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงแล้ว ต้องเน้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วม อย่างเช่น ลูกค้าฟีดแบ็กมาว่าอยากให้มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาในสินค้า เราก็นำโจทย์ตรงนั้น มาพัฒนาให้เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ใช้งานได้จริง เพื่อให้มาตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้น
และคำว่า Inclusive ที่ว่านี้ ไม่ได้เจาะจงแค่สนใจใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
แต่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ตามวิสัยทัศน์ที่ Lenovo ตั้งไว้ว่า “Smarter Technology for All”
เรามีทีมที่ดูแลในแต่ละประเทศ ที่คอยรับฟังฟีดแบ็ก และทำความเข้าใจตลาดของแต่ละประเทศอย่างลึกซึ้ง
อีกทั้งยังเน้นการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ในแต่ละประเทศอย่างเข้มแข็ง ซึ่งทำให้ Lenovo สามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ กลุยุทธ์อีกอย่างที่สำคัญคือการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง คือ Lenovo ทุ่มเทและให้ความสำคัญอย่างมาก กับเรื่องการวิจัยพัฒนา (R&D)
ในปีงบประมาณ 2019/2020 Lenovo ลงงบประมาณในส่วน R&D สูงถึง 42,000 ล้านบาท โดยทางบริษัทมี 15 ศูนย์วิจัยพัฒนาทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 3,200 คน ดูแลในส่วนนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์ในภาพรวม ที่ทำให้ Lenovo ยืนหนึ่งในตลาดนี้ได้
ลงทุนแมนถามต่อว่า ผู้บริโภคยุคนี้มีความต้องการหลากหลายมาก
บางคนต้องการ PC ไปทำงาน บางคนต้องการไปดูหนัง ฟังเพลง บางคนเอาไปเล่นเกม ตรงนี้ Lenovo มีกลยุทธ์ไปจับความต้องการที่แตกต่างเหล่านั้นอย่างไรบ้าง ?
คุณวรพจน์บอกว่า Lenovo นำเทคโนโลยีที่พัฒนา มานำเสนอเป็นสินค้าและบริการที่หลากหลายออกสู่ตลาด ซึ่งก็เพื่อมาจับความต้องการของลูกค้าที่มีหลากหลายในยุคปัจจุบัน
ยกตัวอย่างเช่น
- ซีรีส์ “IdeaPad” ที่นำเสนอออกมาเพื่อเจาะตลาดกลุ่มเริ่มต้น ที่ทั้งใช้ทำงานและใช้งานทั่วไป อย่างเช่น ดูหนัง ฟังเพลง ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุด
- ซีรีส์ “Yoga” ที่ถูกนำเสนอเป็นโน้ตบุ๊กกลุ่มพรีเมียม มีนวัตกรรมล้ำ ๆ เช่น จอที่พับได้องศากว้าง ตอบโจทย์กลุ่มทำงานและกลุ่มใช้งานทั่วไประดับสูง ที่ต้องการความยืดหยุ่น รูปลักษณ์ดีไซน์ที่แสดงออกถึงความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล มีลูกเล่นเยอะ และมีเทคโนโลยีล้ำ ๆ
- โน้ตบุ๊กเกมมิง อย่างซีรีส์ “Legion” ที่เน้นให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมสูงสุด มีสเปกการใช้งานที่คุ้มราคา และมีเทคโนโลยีที่ซัปพอร์ตการเล่นเกมให้ลื่นไหลอย่างเต็มที่
- Desktop ตั้งโต๊ะ IdeaCentre สำหรับผู้ที่ต้องการคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ที่สามารถใช้งานได้ร่วมกันทั้งครอบครัว มีดีไซน์ที่สวยงาม ไม่เทอะทะ
โดยนอกจากไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมความต้องการที่แตกต่างแล้ว Lenovo ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใส่ไว้ในผลิตภัณฑ์เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภค
ยกตัวอย่างเช่น
- เทคโนโลยี Presence Detection with Zero touch Login หรือการสแกนใบหน้าผ่าน Web Camera เพื่อปลดล็อกเครื่อง และล็อกเครื่องอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เดินออกไปจากบริเวณหน้าจอ
- เทคโนโลยี Lenovo Q-Control ซึ่งใช้ AI มาช่วยเรื่องการจัดการพลังงานให้เหมาะสมกับการใช้งาน
- เทคโนโลยี Privacy Shutter ที่เป็นฝาครอบเพื่อเปิดปิด Web Camera ป้องกันการถูกแอบถ่าย ให้ความเป็นส่วนตัว
และยังมีเทคโนโลยีที่เน้นเรื่องสุขภาพของผู้ใช้ อาทิ
เทคโนโลยี Lenovo Aware ที่ช่วยมอนิเตอร์ท่านั่งให้ถูกตามหลักสรีระ และแจ้งเตือนถ้าเรานั่งผิดท่า หรือนั่งใกล้หน้าจอเกินไป
นอกจากนี้ยังมอนิเตอร์เวลาใช้เครื่อง มอนิเตอร์ความสนใจ
มีเทคโนโลยี Eye Care ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าจากหน้าจอ, Noise Cancellation ช่วยลดเสียงรบกวน ซึ่งชัดเจนว่าเทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ในปัจจุบัน ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่ที่ลูก ๆ ต้องเรียนออนไลน์
คำถามต่อมาคือ ตลาด PC ในอนาคตต่อจากนี้ จะยังเติบโตได้ดีอีกไหม ?
คุณวรพจน์มองว่า Lenovo จะยังคงเติบโตได้ดีต่อไปเนื่องจาก PC ได้กลายเป็น Commodity product ซึ่งทุกคนต้องใช้ในชีวิตประจำวันไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นทางศูนย์วิจัยของ Lenovo มีการวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมของผู้คนในอีก 3-5 ปีข้างหน้าแล้ว ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วนำผลที่ได้ มาออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่จะนำเสนอในอนาคต
อย่างเช่น เทรนด์การใช้งาน 5G และ Wi-Fi 6 ที่จะมาพร้อมกันกับพฤติกรรมคนที่จะยิ่งใจร้อนขึ้น ต้องการการบริการที่ปัจจุบันทันด่วนมากขึ้นกว่าเดิม
เพราะฉะนั้นวิธีการนำเสนอสินค้าก็ต้องตอบโจทย์กลุ่มนี้ในอนาคต และต้องมีการพัฒนาบริการหลังการขายให้ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ไม่ให้ผู้บริโภคต้องรอนานหากเกิดปัญหา
คุณวรพจน์เชื่อว่า Lenovo เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการอะไรอยู่ตลอดเวลา และพัฒนาสินค้า บริการใหม่ ๆ มานำเสนอให้ตรงจุด ซึ่งก็จะทำให้ Lenovo สามารถเติบโตได้ดีต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคต
คำถามต่อมาคือ Lenovo มีการออกแบบและจัดการบริการหลังการขาย รวมถึงเรื่องรับประกันคุณภาพสินค้าอย่างไรให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ?
ประการแรก: Lenovo ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานทั่วไป หรือที่เราเรียกว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ นั้นมีการรับประกันที่เราเรียกว่า Premium Care
ซึ่ง Premium Care เป็นบริการหลังการขาย เช่น รับประกันสินค้าอย่างต่ำ 3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจในคุณภาพของสินค้า และใช้งานสินค้าได้อย่างอุ่นใจเป็นเวลานาน ๆ โดยเราจะมีช่างเทคนิคผู้มีความรู้คอยเป็นผู้ตอบคำถามถ้าลูกค้าต้องการโทรปรึกษาข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง และตลอด 7 วัน
ประการที่สอง: Lenovo มีการรับประกันอุบัติเหตุ หรือ Accidental Damage Protection (ADP) ให้ตั้งแต่เครื่องที่ราคาหมื่นต้น ๆ ขึ้นไป
ประการที่สาม: บางรุ่นจะมีบริการ Next Business Day เช่น โทรเข้ามาแจ้งความผิดปกติของเครื่องในเช้าวันจันทร์ จะมีทีมงานเข้าไปดูแลถึงที่อย่างเร็วที่สุดภายในเย็นวันอังคาร
ประการที่สี่: มีซอฟต์แวร์ “Lenovo Vantage” ที่เอาไว้ช่วยประเมินอาการเสียหายเบื้องต้น ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้ ช่วยยกระดับการบริการหลังการขายให้ดีขึ้น เพราะจะทำให้ทีมบริการหลังการขายหรือผู้ใช้งานเอง ทราบอาการเบื้องต้นได้ทันทีเมื่อเช็กผ่านซอฟต์แวร์
นอกจากนั้น สำหรับโน้ตบุ๊กเกมมิงอย่างซีรีส์ Legion
Lenovo ก็มีบริการหลังการขาย Legion Ultimate Support
ที่มีคอลเซนเตอร์ที่เป็น Gamer Engineer คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สามารถช่วยแก้ปัญหาการใช้งานเบื้องต้นสำหรับโน้ตบุ๊กเกมมิงได้ทันที ไม่ต้องรับเรื่องไว้แล้วไปประสานงานต่อ
คำถามสุดท้ายคือ Lenovo มีแผนจะทำอะไรใหม่ ๆ ในอนาคตอีกบ้าง ?
ทางคุณวรพจน์และ Lenovo เชื่อว่า อีกไม่เกิน 5 ปี ทุกอย่างจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ ซึ่งจะทำให้ Smart Home กลายเป็นเรื่องพื้นฐานของแต่ละครัวเรือนมากขึ้น และจะเป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต
เรากำลังเข้าสู่ยุค Data Driven Society ซึ่งเมื่อรวมกับพฤติกรรมผู้บริโภคแบบปัจจุบันทันด่วนขึ้น เทคโนโลยีก็ต้องรวดเร็วทันใจ
ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ 5G หรือ Wi-Fi 6 ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่บ้าน
หรือคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก ที่ใช้ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก เพื่อเสริมศักยภาพให้การใช้งานของผู้ใช้ เพราะสังคมทุกวันนี้ข้อมูลมันเยอะกว่าสมัยก่อนมาก และแน่นอนว่าจะมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
นั่นจึงเป็นที่มาให้ Lenovo กำลังจะนำเสนอดีไวซ์และโซลูชันเหล่านี้มากขึ้น ในอนาคต
ขณะที่คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก ก็จะเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน
ซึ่งคนจะเลือกจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ มีเทคโนโลยีที่ครบ และบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์
ในอนาคต Lenovo ตั้งใจจะมีพื้นที่รับฟังลูกค้าที่มากขึ้น
เพื่อฟังความเห็น รับฟีดแบ็กและข้อแนะนำให้เต็มที่
เพราะฟีดแบ็ก ข้อแนะนำ และคำติชม คือสิ่งมีค่าที่สุด ที่บริษัทสามารถนำไปพัฒนาแล้วต่อยอดออกมาเป็นสินค้าและบริการที่ตอบความต้องการของผู้ใช้งานต่อไปได้
เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ข้อมูลขับเคลื่อนโลกและสังคม
ยุคที่คนต้องการคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก ที่มีประสิทธิภาพที่สุดมาใช้
ยุคที่คนต้องการการบริการที่รวดเร็ว ไม่เชื่องช้า
ยุคที่ข้อมูลและทุกสิ่งทุกอย่าง จะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ
ยุคที่ต่อไปเราจะคุ้นชินกับ Smart Home และ Smart Devices
ซึ่งแน่นอนว่า Lenovo ก็มีความพร้อมเต็มที่
ที่จะเดินหน้าพัฒนา และนำเสนอสินค้าและบริการ
ให้มาตอบโจทย์ความต้องการต่าง ๆ เหล่านั้น ในอนาคต..
References
- https://investor.lenovo.com/en/publications/reports.php
- https://www.statista.com/statistics/255283/lenovos-rundd-expenditure/
- https://www.idc.com/getdoc.jsp?containerId=prUS47601721
- บทสัมภาษณ์ คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ ผู้จัดการทั่วไป Lenovo ประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ของ Lenovo ไทย โดยเพจลงทุนแมน
smarter technology 在 Firdaus Wong Wai Hung Facebook 八卦
I still remember she said during a talk in KGPA early this year co-organized by MRM & Darul Fitrah,
"The more you study about science, the more you realize the greatness of the Creator."
Prof Jackie Ying embraced Islam at her 30s. Smart people choose Islam after extensive research on religion but in the meantime some people who just read some online articles rejected Islam & claim Muslim are backward.
Also in the same time, some self-claimed smart & modern Muslim reject Hijab in the name of liberal whereas Prof Jackie Ying who I believed smarter than them choose the opposite. :)
smarter technology 在 Rachell Tan Youtube 的評價
Rachell received this robot vacuum cleaner from her family on her 30th birthday and we were really excited on some of its unique functions.
This new addition definitely made our home smarter!
You can buy it here: https://shopee.prf.hn/l/6qVvzwE
Watch till the end to find out more!
#robotvacuum #roborock
________________________
Some of the links above are affiliate links, where we earn a small commission if you click it and purchase them. You are not obliged to do so, but it does help fund these videos which we hope helps bring value to you!
Feel free to leave us any questions at the comment section.
Thank you for watching!
For sponsorship, product reviews, and collaboration, you can email me here:
pxdkitty@gmail.com
Follow us on Instagram: https://instagram.com/pxdkitty
Our online store: https://www.pixiepax.sg/
________________________

smarter technology 在 Smarter Technology For All - YouTube 的八卦
This is a revolution. Intelligent transformation is changing the way we live, work and play. Learn more about smarter technology for all: ... ... <看更多>