สวัสดีครับเพื่อนๆ..นี่คือเรื่องจริงซึ่งยิ่ง
กว่านิยาย..เมื่อวานนี้ผมได้เข้าไปช่วย
เหลือคุณพี่ มยุรี นิมะลา อายุ57ปี ทำงาน
รับจ้างเย็บเสื้อผ้า อยู่แถวพระราม2ซอย
44 ผมเรียกพี่ยุนะครับ พี่ยุเล่าให้ผมฟัง...
Continue ReadingHello friends.. this is true which is more
Than fiction.. yesterday I went in to help.
Sister Mayuri Nimala left. 57 years old. Working.
Hiring for sewing around Rama 2 SOI
Haha. I'm calling you. You tell me about it.
I thought I was born. No one told me that I was born.
Korat people. I was born. Mother died when I was here.
I gave birth to my face. I have scars on the eyes to the cheek. So dad sold him to other people for the price.
300 baht because I think that I am a time.
Let mother die. I stay with other people. They give it to me.
Study to the po. 4 live unhappy because
I'm just being sold to be my servant.
Decided to come out of the house my dad sold.
I'm traveling to Bangkok with money with you.
30 baht. Only 11 years old. Come in to ask.
He is at the ashes factory. I feel pity.
Still young so let me do a little work in
My factory has been there until I was 16 years old.
Asking for permission to ashes to go to work again.
Because income is better. Besides, I live.
I have been here for a long time. I want to have some money to
I have to go out to work somewhere else. I have a lot of love
Many people who work together because of me.
Diligent to help everyone.. I still say that
No one is flirting with and no one
I know how I am. Parents don't have you.
I don't have a sister. No relatives anywhere. Documents.
I don't have anything. One day, I'm very sick.
No one is crying in my room until people.
Next door, I heard it so I called the people in the factory
Going to the hospital. This person is like a foreman.
I'm the one who took me to the hospital, but the doctor gave me medicine.
Come to eat at the room and give me a shot for someone who takes me
The doctor also came to send me to the room, but he did it.
Raping me while I'm sick.
I'm trying to fight and I will call someone to help.
But I don't have a voice and I'm weak. So I'm right.
The Well-wishers raped me and he still says.
That I took you to the doctor. I only have merit with you.
Can't you give this to me.. Don't tell me this.
Who can't be here.. from that day, I'm here.
Always keep bitterness in mind when
Time has passed for 2 months. I still have pain.
Very pregnant and running into the bathroom. I'm looking down.
Look at the toilet because it looks like something flows
Coming from the vagina. The image is the blood.
It's coming out in a lot. I'm shocked.
So much but I didn't tell anyone from that day.
Today is over 20 years. I have pain in my back. I feel pain.
Some waist, but I didn't tell anyone. I'm working for you.
Hiring to sew clothes in a house. Do it.
Family now but 2 months ago
I have a lot of bad condition. I can't walk.
Okay. Walk 3-4 steps and I will faint. Go to the hospital.
I was yelled at because I didn't have a card, so I told
I thought I could use cash so I could take medicine for 2 months.
And I don't work. I have to sleep in my room.
Room Rent is stuck in him for 4 months friends
Come to see the symptoms and feel pity because I have blood.
Flowing out of vagina all the time
Some days come out half of the freckle because of me.
Sit and cry like water..
So my friends asked for help.
I didn't expect to be this heavy while talking.
Each other with you. I think you are here. Why do you have to make noise?
Where can I shake? I walk down from the 3th floor.
4 Storey Building to come down to me. Scared me coming.
I can't find a voice that I'm still busy.. I'm not available.
I was shocked. I heard what's wrong with you?
Help stay with a woman's voice and you say
Tell Mr. Brazilian that he is here.
So I listen all the time. So I said you stay.
Deep breath. No need to talk until my car is parked.
I see you sleeping on the floor of the plaster. I look pale.
So much so I put you in the chair and you are.
Tell me what I wrote.
Yes.. But I told you that there was nong flowing yesterday.
I have been bleeding a lot but I don't tell anyone.
I only told the owner of the building to buy tampons.
Please. The owner of the building is good. I have rent.
I still take care of you in months.. I look at your condition.
The only way is to send the hospital urgently.
So I called the ambulance of the foundation.
Grateful. Come to pick me up immediately while waiting for my friends.
I know that the news is coming out to hug me and cry.
Big brothers and sisters. I'm not dead. Brother Brazilian is here.
I'm crying. I'm crying. I'm crying. I still cry.
Flowing without knowing. The crew who went with me, I cried.
Flowing out.. Now I'm sleeping at the hospital.
The Navy has a doctor to take care closely.
I don't have id card so i have no right to love.
I keep my rights, but I take the owner of the patient.
My cost is out of all. Feel comfortable.
In conclusion, I have cancer in the uterus phase 4
I only encourage a woman who
Your life has to fight yourself alone on your own..
Thank you for reading until the end. I will build it.
Next picture of me. Sorry if not.
Who do you like..Translated
同時也有96部Youtube影片,追蹤數超過92萬的網紅ochikeron,也在其Youtube影片中提到,♥PLEASE SUBSCRIBE♥ new recipe every week 😋👍 http://www.youtube.com/user/ochikeron?sub_confirmation=1 For those who have requested me the Japanese Che...
sit down here. 在 Drama-addict Facebook 八卦
อันนี้เขียนโคตรดี
[ ชนะคนบ้า ด้วยความบ้ากว่า?]
"หนุ่มแว่นหัวร้อน" ที่สื่อมวลชนเรียกกัน มีชื่อจริงว่า รชฏ (อ่านว่า ระ-ชะ-ตะ) ถึงตรงนี้เขาเละไม่เหลือซากแล้ว
ประโยคที่เขาพูดออกมาในคลิป เป็นการกระทำในสิ่งที่คนไทยไม่ชอบครบทุกอย่าง มันเป็นการสร้างความเกลียดชังได้อย่างดีที่สุด
- อวดร่ำอวดรวย
- พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
- ดูหมิ่นนายกฯ (แม้หลายคนจะไม่ชอบนายกฯ แต่อย่าลืมแฟนคลับนายกฯก็มีเยอะเช่นกันนะ)
- ด่าคนไทยด้อยพัฒนา การศึกษาต่ำ
- ด่าคนอื่นเป็นขยะสังคม
- ด่าคนไทยชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน
- กล่าวอ้างว่ามีตำรวจคอยช่วย ไม่เกรงกลัวกฎหมาย (แต่ความจริงไม่มีนะ อ้างเฉยๆ)
ยิ่งไปไล่ดูประวัติเก่าๆแล้ว เคยมีประเด็นกับผู้คนบนท้องถนนมานับไม่ถ้วน ขับรถปาดหน้า ชูนิ้วกลางใส่รถคันอื่น คือจัดว่าเป็นตัวจี๊ดเลยทีเดียว
ดังนั้น มันก็ไม่แปลกเลยที่จะมีฟีดแบ็กความเกลียดชังถึงตัวเขาหนักขนาดนี้
แล้วในทางกฎหมายล่ะ? ในคดีเรื่องการเฉี่ยวชนกับคู่กรณีคนอัดคลิป ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ โดยไม่ได้เรียกประกัน มีการชดเชยค่าเสียหายให้กันเรียบร้อย
ขณะที่คดีในทางอาญา ก็มีเพียงหมิ่นประมาทซึ่งหน้า โทษปรับ หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ซึ่งเป็นคดีไม่ได้ใหญ่เลย ในแง่ของตัวบทกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รุนแรงกว่าคือกระแสสังคม ต้นสังกัด บริษัท Kasa Development แน่นอน ย่อมไม่อยากติดร่างแหไปด้วย ใช้เหตุผลเรื่องที่ นายรชฏ อ้างถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการไล่ออก
เท่ากับว่าเพียงพริบตา นายรชฏ มีคดีอาญา โดนไล่ออกจากงาน และ กลายเป็น Public Enemy ศัตรูเบอร์หนึ่งของประเทศไทย
คือก็เข้าใจได้ เพราะสิ่งที่ นายรชฏพูด มันไปกระทบใจของคนส่วนใหญ่ในสังคม จึงนำมาสู่กระแสความเกลียดชังรุนแรงเพียงนี้
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
คลิปของนายรชฏ เป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว ยอดคนแชร์เกือบล้าน ซึ่งเป็นคลิปที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2019 เลย
เหตุการณ์ยิ่งบอกปากต่อปาก ยิ่งทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกกระแสก็ไปทางเดียวนั่นแหละ คือด่า หนุ่มแว่นยับเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา ตี 1 ของเมื่อคืน เพจ Phuri's News ได้ปล่อยคลิปวีดีโอในอีกมุมหนึ่ง ที่หลายคนน่าจะรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก
คือคลิปที่สถานีตำรวจพุทธมณฑล มีชาวบ้านประมาณ 4-5 ร้อย ไปดักรอ นายรชฏ และครอบครัว ที่มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในโรงพัก
ทันทีที่คุณแม่ของ นายรชฏ เดินออกมาจากโรงพัก มีเสียงตะโกนด่า แม่ของเขา ว่า "เลี้ยงลูกแบบไหนหรอ" ตะคอกกันอย่างหนัก
ภาพที่น่าเศร้าคือสะใภ้ของบ้านนี้ แฟนสาวของนายรชฏ จับมือคุณแม่แน่น และพาไปขึ้นรถที่ตำรวจคุ้มกันอยู่
คำถามที่คนคงคิดตรงกันคือ จะไปด่าแม่กับเมียเขาทำไม?
คือด่าผู้ก่อเหตุก็ว่ากันไป คนทำผิดก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำ แต่คนอื่นที่ไม่ใช่บุคคลนั้นล่ะ เขาสมควรรับหางเลขไปด้วยหรือ?
ในคลิปแรกสุดที่รถเฉี่ยวชน เราเห็นภาพภรรยาของนายรชฏ ห้ามปรามสามีของตัวเองอยู่ตลอด และพูดจากับคู่กรณีอย่างดีมากๆ ถามว่าเธอผิดอะไรล่ะ ถึงจะต้องโดนด่าไปด้วย
ความผิดของเธอมีเพียงอย่างเดียวคือนั่งอยู่ในรถคันนั้น ณ เวลานั้นแค่นั้นเอง เธอก็พยายามจัดการแก้ปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้ว
แล้วพ่อแม่ของเขาล่ะ ควรโดนลากมาด่าด้วยไหม ในเมื่อมนุษย์เราเป็นปัจเจก ต่างคนต่างมีความคิดของตัวเอง คือมีพ่อแม่คนไหนอยากสั่งสอนให้ลูกเป็นคนไม่ดี เที่ยวด่ากราดคนอื่นแบบที่หนุ่มแว่นทำ มันไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกเป็นแบบนี้หรอก
ในอดีต กฎมณเทียรบาลสมัยอยุธยา มีโทษประหาร 7 ชั่วโคตรอยู่ คือคนทำผิด ต้องฆ่าให้ตายทั้งตระกูล นักโทษ เมีย ลูก หลาน เหลน พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ทวด ต้องฆ่าให้หมดทั้งวงศ์ตระกูล
แล้วทำไมโทษประหาร 7 ชั่วโคตรถึงถูกยกเลิกไป ไม่มีในปัจจุบันล่ะ?
นั่นเพราะสังคมเรารู้ดีว่า เรื่องความผิด มันเป็นเรื่องของตัวบุคคลนั้น และมันไม่ยุติธรรมแม้แต่นิด ที่จะลากคนรอบตัวของผู้กระทำผิด มาลงโทษด้วย
ในแง่กฎหมาย พ่อแม่ และแฟนสาว ของนายรชฏ ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เช่นเดียวกับในแง่ของสังคม พวกเขาก็ไม่ควรจับแขวนมาด่าแบบนี้ด้วย
ถ้าเห็นว่าใครทำผิดอะไร ใช้กฎหมายเป็นตัวตัดสิน ถ้ายังไม่พอใจกับบทลงโทษทางกฎหมาย จะด่าคนทำผิดก็ด่าเจ้าตัวไป แต่คนไม่เกี่ยวข้องนี่ ไม่แฟร์กับเขาถ้าโดนลากมายำด้วย
คนที่โกรธเขา เกลียดเขา แต่ไปด่าแม่ด่าเมียเขา เอาแต่สะใจตัวเอง
มันจะต่างอะไรกับที่ หนุ่มแว่นทำในตอนแรกล่ะ มันก็ด่ากราดเหมือนกันล่ะนะ
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
การที่ไปรุมเตรียมจะประชาทัณฑ์จากเหตุผลเพียงเพราะเรื่องในคลิป แสดงให้เห็นถึงความอารมณ์ร้อนของคนไทย ที่พอได้ฟังสิ่งที่นายรชฏพูด ก็ฟิวส์ขาด แล้วเตรียมเอาคืนด้วยกำลัง
ใช่ คำพูดมันไม่น่าฟัง แต่กฎหมายบ้านเมืองก็มี ให้กฎหมายทำหน้าที่ของมันไป ผิดเท่าไหร่ บทลงโทษทางกฎหมายก็แรงเท่านั้น
ถ้าใครไม่พอใจอยากด่า ก็ด่าในออนไลน์ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าหาตัวไปใช้ Physical ใช้กำลังทำร้ายร่างกายเขาเลย
ความรู้สึกเหมือนเจอคนเหยียดผิว เราเอาคืนด้วยการเหยียดอีกฝ่ายให้หนักกว่า หรือไปไล่กระทืบอีกคนให้ตาย มันคือการแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรือ?
วิธีที่หน่วยงานที่อังกฤษแนะนำคนโดนเหยียดผิว คือเอาสิ่งที่โดนเหยียดเก็บหลักฐาน แล้วมาแจ้งที่เจ้าหน้าที่ โดยบทลงโทษน่ะมันมีอยู่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องไปเอาคืนด้วยการด่าคืน หรือไปต่อยตีอีกฝ่าย คือมันไม่ได้แก้ปัญหากันแบบนั้น
เราเห็นนายรชฏด่ากราดไปทั่วแบบนั้น เราก็ได้แต่คิดในใจไอ้เวรนี่มันบ้าหรือเปล่า
เพราะมีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่ด่าไปทุกหย่อมหญ้าขนาดนั้น คนสติดีที่ไหนจะทำ
แล้วเมื่อเจอคนบ้า เราจะไปบ้าเหมือนเขาทำไม ทั้งๆที่เราสามารถแสดงความเป็นอารยชนได้
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
ท้ายที่สุดแล้ว เราต้องมองเรื่องนี้ให้ลึกเกินกว่าแค่ ไอ้แว่นคลั่งด่ากราด มองลึกลงไปเลยว่าเราจะได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง
สำนักข่าว ก็ไม่ควรจะเฮโล ไปเล่นประเด็นซ้ำเดิมๆว่าใครทำอะไรที่ไหนยังไง หรือเล่นข่าวว่า มีเซเล็บคนไหนอยากจะกระทืบไอ้แว่นบ้าง แต่มันน่าจะดีกว่า ถ้าเราลองวิเคราะห์ดูถึงปรากฏการณ์นี้อย่างจริงจัง
1) ตั้งคำถามว่า นายรชฏ ทั้งๆที่เป็นคนไทย มีพ่อแม่เป็นไทย 100% ทำไมถึงเกลียดประเทศไทยขนาดนั้น ทำไมถึงคิดว่าคนไทยเป็นพวกชั้นต่ำ อะไรที่ทำให้คิดแบบนั้น
คำว่าชั้นต่ำของเขาคืออะไร และในมุมของเขาคนประเทศไหนคือชั้นสูง คือมีอะไรในสังคมไทย ที่เขาไม่ชอบ ต้องมานั่งถกกันเลย
2) พิจารณาสภาพอาการป่วยของ นายรชฏ ว่าเป็นโรคอะไรหรือเปล่า พ่อบอกว่าปกติดี ส่วนแม่บอกว่ากินยาอยู่ ความชัดเจนคืออะไรกันแน่ สิ่งสำคัญคือเราควรจะรู้ว่า นายรชฏนี่สติดี 100% ใช่ไหม ตอนที่ออกสตาร์ตด่ากราดขนาดนั้น ทำไมถึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย
พ่อแม่ผู้ปกครองที่เห็นแนวโน้ม ว่าบุตรหลานของตัวเอง จะออกอาการบ้าคลั่ง จะได้นำตัวลูกหลานไปปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นมาแบบนี้
3) เป็นข้อเตือนใจให้เราได้เห็นว่า ในสังคมไทย เวลาคนเขาด่า เขาไม่เคยด่าเราแค่คนเดียว แต่คนรอบข้างทั้งหมด จะโดนด่าไปด้วย ดังนั้นจงชั่งใจให้ดี ก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป ถ้าหากยังรัก ยังแคร์คนรอบข้าง ก็อย่าทำให้เขาได้รับผลกระทบและต้องเสียใจไปด้วย
4) ได้เห็นการแก้ปัญหาขององค์กรที่เกี่ยวข้อง อย่างบริษัทต้นสังกัดของนายรชฏ ที่ประกาศไล่ออกทันที คือเป็นการตัดปัญหา แสดงจุดยืนขององค์กรว่าไม่สนับสนุนคนทำผิด คือถ้ากระแสมันแรงแล้ว คุณต้องรีบ Take Action ก่อนองค์กรจะโดนหางเลขตามไปด้วย
5) ชี้ให้เห็นว่ายุคนี้ พลังของโซเชียล เน็ตเวิร์คไปเร็วมาก ทำผิดอย่าคิดว่าหลบซ่อนได้ แค่พริบตาเดียวคนรู้กันทั่วประเทศ หากเราโดนใครกระทำไม่ดี มือถือเรามี อัดคลิป อัดหลักฐานเอาไว้ ถ้าสุดท้ายเราเป็นฝ่ายถูก สังคมจะช่วยเราเอง
6) เราได้เห็นความใจเย็นของหนุ่มคู่กรณี ที่โดนด่าขนาดนั้น แถมยังถูกบังคับให้กราบเท้า แต่ยังไม่น็อตหลุดใช้กำลังในการจบปัญหา ซึ่งนำมาสู่ความชื่นชมอย่างมาก เพราะการใช้กำลังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องอยู่แล้ว เขาคือผู้ชนะตัวจริงของเหตุการณ์นี้
7) เวลารถยนต์เฉี่ยวชนบนท้องถนน ควรรู้ไว้เลยว่าถ้าหากมีประกัน ก็โทรเรียกให้ประกันมาจัดการ ไม่ต้องลงมาด่าทอกันเอง เหตุการณ์มันเกิดไปแล้ว มันคืออุบัติเหตุ และหน้าที่ของประกันรถยนต์ก็เพื่อเคลียร์ปัญหาในลักษณะนี้ล่ะ ไม่ต้องโมโหขนาดนั้น ให้ประกันได้ทำหน้าที่ของเขาไป
8) สื่อมวลชนควรไปทำการเจาะชีวิตของคนที่จะไปประชาทัณฑ์นายรชฏ ที่สถานีตำรวจ ว่าอะไรที่ทำให้เขาไม่พอใจขนาดนั้น ถึงขนาดต้องการลงไม้ลงมือ คำพูดไหน ที่เป็นการกระตุ้นความรู้สึก ให้ถึงขนาดต้องขับรถหลายกิโลมาที่สถานี เพื่อรอดักกระทืบผู้ก่อเหตุ
และ 9) การได้คนรักดี คือลาภอันประเสริฐ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คนที่พอจะช่วยให้สถานการณ์ของพี่แว่นนั้นเบาลงไปหนึ่งสเต็ป คือคุณภรรยาที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกอย่าง
เธอทั้งช่วยเจรจากับเรื่องอุบัติเหตุ ในตอนแรกก็เป็นเธอนี่ล่ะที่ยกมือไหว้คู่ก่อเหตุ และคอยห้ามปรามสามีตัวเอง นอกจากนั้นยังคอยอยู่กับพ่อแม่สามี ตลอดเรื่องราวที่เกิดเหตุขึ้น เชื่อได้เลยว่า 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นวันที่หนักหน่วงที่สุดในชีวิตของเธอ
ถ้าได้คนรักดี ที่มีความฉลาด และพร้อมอยู่เคียงข้างเราเสมอแม้ในวันที่เจอปัญหา ไม่ว่ายังไงก็อย่าปล่อยมือเขาไปเด็ดขาด
เห็นไหม มีหลายมุมตั้งเยอะ ที่เราจะหยิบยกมาคุยกันได้จากเหตุการณ์นี้ นอกเหนือจากกูหมั่นไส้ไอ้แว่น อยากกระทืบมันจังเลยว่ะ จริงไหม
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
จากนี้ไปเรื่องของพี่แว่น ก็จะอยู่ในกระบวนการของตำรวจ ถ้าหากทำผิดจริงตามข้อหาหมิ่นประมาทซึ่งหน้า ก็จะโดนลงโทษปรับ หรือจำคุก ก็ว่ากันไป
นอกเหนือจากโทษทัณฑ์จากตำรวจ พี่แว่น ก็ต้องรับบทลงโทษทางสังคมไปตลอดชีวิต เขาจะโดนตีตราเอาไว้จากคลิปนี้ ซึ่งจะส่งผลให้การเข้าสังคม การใช้ชีวิตต่างๆในประเทศไทย ก็จะทำได้ยากมาก เพราะคนจะย้อนไปนึกถึงเรื่องนี้เสมอ
ขณะที่เรื่องการใช้ชีวิต ณ เวลานี้ เขาตกงานแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะหางานใหม่ได้หรือไม่ จะมีองค์กรไหนกล้ารับเผือกร้อนชิ้นนี้มาร่วมงานด้วย ชีวิตของเขาจะอยู่ยากมากๆ
บทลงโทษของเขานั้นแรงมหาศาล และคลิปสั้นๆแค่ 5 นาทีนี้ ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาล
แต่แน่นอน มันเป็นสิ่งที่เขาก่อขึ้นเอง ก็ต้องรับมันไว้เอง
ขณะที่คนนอกที่คอยดูเหตุการณ์ ก็วิจารณ์กันได้ จะด่าพี่แว่นก็ด่าไปเถอะ จากความห้าวขนาดนั้น บอกตรงๆก็สมควรโดนนะ
แต่อย่าลืมนะครับ ว่าทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องของเขาเอง พ่อแม่เขาไม่เกี่ยวอย่าลากมาด่าด้วย คนรักเขาก็ไม่เกี่ยว อย่าลากมาด้วยเช่นกัน
สุดท้าย พี่แว่นบอกในคลิปว่า "กูดูถูกคนไทยทั้งประเทศ" ดังนั้นมันก็น่าจะดี ถ้าเราทำให้เขาเห็นว่า คนไทยไม่เห็นมีอะไรน่าดูถูกตรงไหน
ทำให้พี่แว่นได้เห็นว่าเนื้อแท้ของคนไทยเรานั้น จิตใจดี มีเหตุผล มีอารยะ
และที่สำคัญคนไทยเรา จะไม่ชนะคนบ้า ด้วยความบ้ากว่าอย่างแน่นอน
#หนุ่มแว่นหัวร้อน
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
รูปถ่ายขออนุญาตแคปมาจากคลิปของ Phuri's News นะครับ ถ่ายได้ดีมากๆ และสะเทือนอารมณ์จริงๆ
[win a crazy man with more craziness?]
"Hot-headed glasses guy" that the press is called rachatat (read that ra-Cha-ta). He is messy here. There is nothing left.
The sentence that he says in the clip is an action of what Thai people don't like. Everything is the best hate.
- show off to be rich
- refer to the king's Institute.
- Disrespect The Prime Minister (even though many people don't like the Prime Minister, don't forget the Prime Minister's fans too)
- Scold Thai people, undeveloped, low education.
- cursing other people is social trash.
- Scold Thai people. I like to be nosy about other people
- I claim that there is a police to help. Not afraid of the law (but there is no truth. Just claim)
The more I went to see old history, there was an issue with people on the road for cuddle baht. Driving to cut my front and put my middle finger in other cars. It was a hot.
So it's not strange to have a feed back to him this heavy.
What about legal? In the case of crashing against the party, the 2 people who recorded the clip. Both parties agreed without calling insurance. Damages have been compensated.
While criminal cases are only defamation, penalty or imprisonment under 1 years, which is not big in terms of law.
However, what is more severe is the social trend. Kasa development company certainly does not want to be stuck. Use the reason why Mr. Racht referred to the king's institute for expulsion.
It's equal to a blink of an eye. Mr. Racht has a criminal case fired from the job and became public enemy number one of Thailand.
Well, I can understand because what Mr. Racht says hits the heart of most people in society, so it brings to this severe hate trend.
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
The clip of Mr. Rachatat is fast cuddle fast. The total of almost a million people share, which is the hottest clip of 2019
The incident, the more you tell the mouth to mouth, the more it makes the situation increase more violence. At First, the trend went the only way. That
However, at 1 am of last night, phuri's news page released a video clip on the other end that many people should feel very heartbreaking.
It's a clip at phutthamonthon police station. There are about 4-5 hundred villagers to wait for Mr. Rachatat and family who came to talk to police officers in the police station.
As soon as Mr. Racht's mother walked out of the police station, there was a shout out to his mother, " what kind of child is this yelling hard.
Sad picture is the in-laws of this house. Mr. Racht's girlfriend held her mother's hand and took him to the car where police guarded.
The question that people may think the same thing is why do you scold his mother and wife?
If you scold the perpetrator, let's talk about it. The wrong person is responsible for what they do. But other people who is not the person. Do they deserve the number?
In the first clip that the car crashed, we saw the wife of Mr. Racht forbid his husband all the time and spoke to the party very well. Ask what was wrong with her to be scolded.
Your only fault is sitting in that car at that time. That's all. She's all the best solution.
What about their parents? Should they be scolded? When human beings are the cuddle th grade. Everyone has their own idea. is that any parents want to teach their children to be bad people to scold other people like the way the glasses guy does. No parent wants a child to be like this
In the past, the law of Ayutthaya, there was a death penalty for 7 EVIL. The wrong person must kill them. The whole family, wife, children, grandchildren, great-Great-Great-Great-Great-Great-Great-Great-Great-Great - All of them all family
So why is the death penalty for 7 evil being terminated, no present?
That's because our society knows the fault is about the person and it's not even fair to drag the perpetrators to punish.
In terms of law, the parents and gf of Mr. Racht did nothing wrong, as well as in terms of society, they should not have hung like this.
If you see that someone does wrong, use the law as a judge. If you are not satisfied with legal punishment, you will scold the wrong person, scold him. But the irrelevant person is not fair to him if they are dra
Those who are angry with him hate him, but scold the mother and scold his wife. He is satisfied with himself.
What's different than the glasses guy did in the first place? He was angry too.
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
The way to fight is preparing to lynching for the reason. Just because the story in the clip shows the temper of Thai people who hear what Mr. Racht said, he is torn. Prepare to take it back with power.
Yes, words are not nice to listen to, but the law of the city has the law to do its duty. No matter how wrong, the legal punishment is strong
If anyone is not satisfied, you want to scold, you can scold online. There is no need to go to use physical to use physical to hurt him.
Feeling like we meet a racist. Do we take it back by racism harder or beat the other person to death. is it the right solution?
The way the British agency recommends racist is to take what is to collect evidence and inform the authorities by punishment. You don't have to take it back by cursing back or hit the other. It doesn't solve the problem. That's it.
I see Mr. Racht all over the place. I just think in my heart. is this motherfucker crazy?
Because only crazy people scold every grass patches like that. Where will the sane person do it?
Why do we go crazy when I meet crazy like him when we can show my mood?
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
In the end, we need to look at this deeper than just the crazy glasses. Look deeper what we can get from this.
News Agency shouldn't be halo to replay the same point of who did what, where, or play news that any of the nail wants to beat the glasses, but it would be better if we analyze this phenomenon seriously.
1) ask if Mr. Racht, even though they are Thai people have 100 % Thai parents. Why do you hate Thailand so much. Why do you think that Thai people are low class?
What is his low class and in his corner. which country is the high class? What is there is in Thai society that they don't like? We have to sit and discuss.
2) consider the condition of Mr. Racht's illness. Dad said it's normal. Mom said that she was taking medicine. What is the important thing is that we should know that Mr. Racht is 100 % conscious, right? I'm so angry when I'm so angry. Why can't I control my emotions?
Parents who see the tendency that their children are going to get crazy so they can bring their children to consult with doctors before this bad things happen.
3) it's a reminder for us to see that in Thai society, when people scold, they never scold me alone. But all people around you will be scolded. So weigh your heart before you decide to do something if you still love, still care. People around you don't affect them and regret it.
4) seeing the solution of relevant organizations like Mr. Racht's precincts that announced that immediately is to cut off the problem. Show the organization's stand that they don't support the wrong person. If the trend is strong, then you need to take action before the organization gets hit. Tail number. Follow me.
5) indicates that the power of social networks very fast. Don't think that you can hide just a blink of an eye. People know all over the country. If we are bad, our mobile phone has a clip to record evidence if we are. The right society will help us.
6) we have seen the composure of a guy who was scolded and forced to pay respect to the feet, but still didn't get rid of the power to end the problem which brought to much appreciation because using force is not the right answer. He is the real winner. Of this event
7) when a car crashes on the road, you should know that if you have insurance, call insurance to deal with it. Don't come down to scold each other. The incident has happened. It's an accident and the duty of car insurance to clear the problem in Look like this. Don't be that angry. Let insurance do his duty.
8) The Press should go to penetrate the life of someone who is going to lynching at the police station. What offends him that he wants to get into the wood. Which words that stimulates the feeling that he has to drive many kilos to the station. To survive cuddle kg. Beat the perpetrator.
And 9) having a good lover is a good fortune. I can't deny that the person who can help the situation of brother glasses is one step lighter is the wife who is in all events.
She helped negotiate with the accident. At First, it was you who raised your hand to pay respect to the crime and forbidden her husband. Besides, she stayed with her parents-in-in-law all the scene story. Believe that the last 24 hours were the worst day of my life. Yours.
If you have a good lover who is smart and always ready to be there for us. Even when you encounter problems, don't let go of his hand.
See, there are so many angles that we can talk from this incident. Besides I'm irritating. I want to beat them. is it true?
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
From now on, brother glasses will be in police process. If you do wrong, according to defamation, the face will be punished or imprisonment, let's say.
In addition to the police penalty, brother glasses has to take social punishment for the rest of his life. He will be beaten by this clip which will result in social. Living in Thailand will be very difficult because people will always think about this.
While living at this time, he lost his job, which doesn't know whether to find a new job. Which organization dares to get this hot taro to attend. His life will be very difficult to live.
His punishment is so strong and this short 5 minute clip has changed his life forever.
But of course it's what he made himself. Take it himself.
While outsiders who watch the incident can criticize each other. If you want to scold brother glasses, just scold. from that bad. Honestly, I deserve it deserves it.
But don't forget that this is all about him. Parents are not involved. Don't drag me to scold. Love is not related. Don't drag them either.
Finally, brother glasses said in the clip that "I insult Thai people in the whole country" so it would be good if we show them that Thai people don't see anything right.
Make Brother Glasses see that the real texture of Thai people is good, reasonable, civilized.
And most importantly, Thai people will not win crazy people with craziness.
#หนุ่มแว่นหัวร้อน
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
Photo shoot. I would like to capture from @[174157096462442:274:Phuri's NEWS]'s clip. Very good shot and I feel really emotional.Translated
sit down here. 在 晚安詩 Facebook 八卦
成長的藝術 ◎露琵‧考爾(Rupi Kaur)著;張家綺 譯
⠀
十二歲我第一次覺得自己美
身體猶如一顆初熟水果
突然間
男人淌著口水瞅著我的初生臀
下課時間男生不想玩捉鬼
只想觸摸我的身體
那嶄新又陌生的部位
我不曉得如何駕馭
也不知怎麼坦然面對
努力想將它藏在胸腔裡
咪咪,他們說
我厭惡這兩個字
厭惡我說出這兩個字的尷尬
即使這兩個字指的是我身體
卻不屬於我
而是屬於他們
他們重複這兩個字
好像深思它的含意
咪咪,它說
讓我看看妳的吧
除了罪惡羞恥沒什麼好看
我試著腐爛陷入腳底泥巴
卻依舊杵在距離他那
勾起指頭的一尺之外
他俯衝上來啃噬我的半月
我咬了他前臂,好恨這副軀體
一定是我做錯事才會有它
回家後我告訴媽媽
外面的男人飢腸轆轆
她告訴我
我不能穿袒露胸部的洋裝
又說,男孩看見蜜果會飢餓
她說,我應該兩腿交叉坐正
這是女人該有的姿態
不然男人會氣憤動粗
又說,我可以避免這一切
只要我學習當淑女
問題是
這根本說不過去
我想不通為什麼
我得說服全世界一半人口
我的身體不是他們的睡床
明明我該學的是科學和數學
卻得學習身為女人該承受的下場
我喜歡翻筋斗和體育課,無法
想像兩腿夾緊走路
似欲窩藏某個祕密
彷彿接受我自己的身體部位
就等於邀請他們腦海起邪念
我不打算迎合他們的思想
因為蕩婦羞辱是性侵文化
處女情結是性侵文化
我不是你最愛商店的
櫥窗模特兒
不能任你隨意更衣,或
一旦被用過就丟棄
你不是食人族
你的行為不是我的責任
你有自制能力
下一次我去上學
男孩朝我後背吹口哨
我推倒他們
一腳踩上他們的頸子
挑釁地說
咪咪
那個眼神簡直太好笑
⠀
⠀
i felt beautiful until the age of 12
when my body began to ripen like new fruit
and suddenly the men,
looked at my newborn hips with salivating lips
the boys didn't want to play tag at recess
they wanted to touch all the new and unfamiliar parts of me
the parts i didn't know how to carry
didn't know how to wear
tried to bury in my ribcage
⠀
boobs,
they said and
i hated that word
hated that i was embarrassed to say it
that even though it was referring to my body
it didn't belong to me
it belonged to them
and they repeated it like they were meditating upon it
boobs
they said
let me see yours
there is nothing worth seeing here
but guilt and shame
i try to rot into the earth below my feet
but i am still standing 1 foot across from his hooked fingers
and when he charges to feast on my half moons
i bite into his forearm
and decide that i hate this body
that i must have done something terrible
to deserve it
⠀
when i go home i tell my mother
that the men outside were starving
she tells me i must
not dress with my
breasts hanging
said the boys will get hungry
if they see fruit
she tells me to sit with my legs closed
like a woman oughtta
or the men will get angry and fight
said i can avoid all of this trouble
if i just learn to act like a lady
but the problem is
that doesn't even make sense
i can't wrap my head around the fact that
i have to convince half the worlds population
that my body is not their bed
i am busy learning the consequences of womanhood
when i should be learning science and math instead
i like cartwheels and gymnastics
so i can't imagine walking around with my thighs pressed together
like they're hiding a secret
as if the acceptance of my own body parts
will invite thoughts of lust in their heads
i will not subject myself to their ideology
because
slut shaming is rape culture
virgin praising is rape culture
i am not a mannequin in the window of your favourite shop
you can't dress me up or
throw me out
you are not a cannibal
your actions are not my responsibility
you will control yourself
⠀
so the next time i go to school
and the boys hoot at my backside
i push them down
foot over their necks
and defiantly say
boobs
the look in their eyes
is priceless
⠀
—'the art of growing', "the sun and her flowers" by by Rupi Kaur
sit down here. 在 ochikeron Youtube 的評價
♥PLEASE SUBSCRIBE♥
new recipe every week 😋👍
http://www.youtube.com/user/ochikeron?sub_confirmation=1
For those who have requested me the Japanese Cheesecake, this is the easiest recipe! Worth to try it out!!!
FYI: How to Make 2-Ingredient Chocolate Cake (Gâteau au Chocolat Recipe) 材料2つでガトーショコラの作り方
http://www.youtube.com/watch?v=-XG3RU9bCE8
---------------------------------
3-Ingredient Soufflé Cheesecake
Difficulty: VERY EASY
Time: 1hr
Number of Servings: 6
Calories per Serving: 230Kcal
Necessary Equipment:
15cm (6inch) round cake pan
electric mixer
Ingredients:
3 eggs
120g (4.3oz.) white chocolate
120g (4.3oz.) cream cheese *softened
Directions:
1. Preheat the oven to 170C (338F). Separate the eggs and place the whites in a large bowl. Let your egg whites sit in the refrigerator to keep them cold until you are ready to use them (which makes the meringue more stable).
2. Place the chocolate (broken into pieces) in a large bowl. Melt the chocolate in a double boiler over hot water (60C/140F). Then add the cream cheese and melt them together. Remove the bowl from the double boiler, add the egg yolks, and mix well.
3. In a large bowl, whip egg whites with an electric mixer until firm peaks form. *If it's thick enough, you can turn the bowl upside down without it sliding out.
4. Add 1/3 Meringue into the cream cheese batter and blend well with a spatula. Then add the rest of the Meringue 1/2 at a time and mix well.
5. Rub some oil/butter on parchment paper (in this way, the cake can slide down when it shrinks, so you can prevent the cake from cracking). Line the round cake pan with the parchment paper. Pour the batter into the pan and drop the pan lightly on the counter to raise the air bubbles out of the batter.
6. Place the cake pan on a baking sheet. Pour some hot water into the baking sheet. Bake at 170C (338F) for 15 minutes, 160C (320F) for 15 minutes, then stop the heat and bake with the remaining heat for 15 minutes.
7. When it is done, place the cake pan on a wire rack to cool completely.
You can either serve immediately or chill in the fridge before serving! It will slightly get hard in the fridge, so leave at room temperature for a few minutes before you serve.
You can brush the cake with some apricot jam syrup and/or dust with powdered sugar (confectioner's sugar) to finish. You can serve it with whipped cream if desired.
↓レシピ(日本語)
http://www.cooklabo.blogspot.jp/2013/05/3.html
---------------------------------
Baked cheesecake recipe is here, btw.
http://www.youtube.com/watch?v=9eUYa4fz3h4
Music by
Josh Woodward
This Is Everything (Instrumental)
http://www.joshwoodward.com/
http://www.youtube.com/joshwoodward
Follow me on social media. If you have recreated any of my food, you can share some pictures #ochikeron. I am always happy to see them.
♥FOLLOW ME HERE♥
http://instagram.com/ochikeron/
https://www.facebook.com/ochikeron
https://plus.google.com/+ochikeron
http://twitter.com/ochikeron
♥My COOKBOOK available on Amazon Kindle♥
http://amzn.to/2EwR3ah
NO MORE hard copies... those who got one are lucky!
♥More Written Recipes are on my BLOG♥
http://createeathappy.blogspot.com/
♥My Recipe Posts in Japanese♥
http://cooklabo.blogspot.jp/
http://cookpad.com/ami
http://twitter.com/alohaforever
♥and of course PLEASE SUBSCRIBE♥
http://www.youtube.com/user/ochikeron?sub_confirmation=1
sit down here. 在 bubzbeauty Youtube 的評價
Hey everyone,
This is a very different type of video. I recently took up painting again and some of you requested a Speed Painting video so here it is. Sit back, enjoy the music and paint with little Bubz.
This is my 3rd painting lesson with Tim Gagnon. He is a fellow Youtuber and amazing artist. I found him a week ago and have been OBSESSED with his painting techniques. His passion inspires me so much and I'm learning so much from him right now.
I'm currently taking the Misty Forests lessons from his website http://www.timgagnonstudio.com/lessons
You guys can check out his Youtube Channel: http://www.youtube.com/Gagnonstudio
I'm sharing his channel and website because I'm learning so much from him and sharing the joy. I'm not paid by this or anything. I just think he's great and deserves to be known more. I know a lot of you guys are aspiring artists out there and I know Tim would teach amazing things to you all like I did.
For 2012, I decided to take up painting for one of my resolutions. I loved painting as a child. I was obsessed with art because I can go anywhere through my drawings. It freed me because it allowed me to escape from the busy World.
As I get older, I really realize that the simplest things make me happiest. Sometimes, I feel like the World moves too fast for me. Almost 8 years after High School, I plucked up courage to paint again. Painting somehow slows down time for me because it allows me to be 100% focused on the painting.
You guys can read my diary post
http://bubzbeauty.com/diary/235-painting-with-passion-again.html
for my painting story. I hope it also inspires you guys to go back to your passions. I know we can become occupied with life but really, this has given me back lots of meaning in my life again. I don't think people realize how short life really is so do all the things you want to do that inspires you while you can. Make the most out of it.
I'm still learning from Tim right now (You guys should see his original painting of the one I did lol, it's like...breathtaking!!!). It will be a while for me to be as skillful (or if not, half as skillful) as he is. But one day, I would love to give away one of my paintings to you guys as a gesture. If I ever hit 1 million subscribers- that would be such a special thing to do.
Some of you mentioned I can auction a painting and put the money to charity. That's a great idea but it makes me nervous. It'll be a fun and good cause and I'll work hard practicing for that day.
Ps. Music "Path of Wind" orchestra version from my fav Studio Ghibli anime "Totoro". Nostalgic!! and also "From the Inside out" instrumental from Hillsong.
Have a great day,
Much love, Bubz xx
Check out the Bubzbeauty Official Website. I update tons of beauty, fashion and hair related articles almost daily.
http://www.bubzbeauty.com
_____________________________
Follow me on Twitter:
http://www.twitter.com/bubzbeauty
Subscribe to my Vlog channel:
http://www.youtube.com/bubzvlogz
Shop the Bubbi Makeup Brushes & Clothing Line:
http://www.shopbubbi.com
Connect with me at the Bubzbeauty Fanpage where I chill n catch up with you guys ^^
http://www.facebook.com/ItsBubz
sit down here. 在 ochikeron Youtube 的評價
The other day, I was looking for a cake pan on the Net and ended up finding many 2 ingredients chocolate cake posts! This idea must be popular in Japan!!!
I modified the recipe in the way I think is good and it came out amazingly delicious :)
This is optional, but I coated the cake with some homemade fruit brandy for an extra aroma and moistness.
↓甘夏みかんの自家製フルーツブランデーレシピはこちら
http://cooklabo.blogspot.jp/2013/04/blog-post_23.html
---------------------------------
2-Ingredient Chocolate Cake
Difficulty: VERY EASY
Time: 1hr
Number of Servings: 6
Calories per Serving: 200Kcal
Necessary Equipment:
15cm (6inch) round cake pan
electric mixer
Ingredients:
3 eggs
3 bars of chocolate (total of 165g = 5.8oz.)
Directions:
1. Preheat the oven to 170C (338F). Separate the eggs and place the whites in a large bowl. Let your egg whites sit in the refrigerator to keep them cold until you are ready to use them (which makes the meringue more stable).
2. Place the chocolate (broken into pieces) in a large bowl. Melt the chocolate in a double boiler over hot water (60C/140F). When the chocolate has cooled, add the yolks and mix with a whisk.
3. In a large bowl, whip egg whites with an electric mixer until firm peaks form. *If it's thick enough, you can turn the bowl upside down without it sliding out.
4. Add 1/3 Meringue into the chocolate batter and blend well with a whisk. Then add the rest of the Meringue 1/2 at a time and mix well with a spatula.
5. Line the round cake pan with parchment paper. Pour the batter into the pan and drop the pan lightly on the counter to raise the air bubbles out of the batter.
6. Bake at 170C (338F) for 30-40 minutes.
7. When they are done, cool in the pan until you can touch it. Then place it on a wire rack to cool completely.
You can brush the cake with syrup (rum, kirsch, brandy, or any kind of liquor you like) and/or dust with powdered sugar (confectioner's sugar) to finish. You can serve it with whipped cream if desired.
You can either serve immediately or chill in the fridge before serving! You can also keep in the freezer for a week :D
↓レシピ(日本語)
http://cooklabo.blogspot.jp/2013/04/blog-post_25.html
---------------------------------
Follow me on social media. If you have recreated any of my food, you can share some pictures #ochikeron. I am always happy to see them.
♥FOLLOW ME HERE♥
http://instagram.com/ochikeron/
https://www.facebook.com/ochikeron
https://plus.google.com/+ochikeron
http://twitter.com/ochikeron
♥My COOKBOOK available on Amazon Kindle♥
http://amzn.to/2EwR3ah
NO MORE hard copies... those who got one are lucky!
♥More Written Recipes are on my BLOG♥
http://createeathappy.blogspot.com/
♥My Recipe Posts in Japanese♥
http://cooklabo.blogspot.jp/
http://cookpad.com/ami
http://twitter.com/alohaforever
♥and of course PLEASE SUBSCRIBE♥
http://www.youtube.com/user/ochikeron?sub_confirmation=1
#JapaneseCooking #ChocolateCake